Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā

    ๒. อาตุมเตฺถรคาถาวณฺณนา

    2. Ātumattheragāthāvaṇṇanā

    ยถา กฬีโร สุสุ วฑฺฒิตโคฺคติ อายสฺมโต อาตุมเตฺถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? โสปิ ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฎฺฎูปนิสฺสยํ ปุญฺญํ อาจินโนฺต อิโต เอกนวุเต กเปฺป กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิญฺญุตํ ปโตฺต วิปสฺสิํ ภควนฺตํ อนฺตรวีถิยํ คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส คโนฺธทเกน คนฺธจุเณฺณน จ ปูชํ อกาสิฯ โส เตน ปุญฺญกเมฺมน เทวโลเก นิพฺพโตฺต อปราปรํ สุคตีสุเยว สํสรโนฺต กสฺสปสฺส ภควโต สาสเน ปพฺพชิตฺวา สมณธมฺมํ อกาสิ, ญาณสฺส ปน อปริปกฺกตฺตา วิเสสํ นิพฺพเตฺตตุํ นาสกฺขิฯ อถ อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถิยํ เสฎฺฐิปุโตฺต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, อาตุโมติสฺส นามํ อโหสิฯ ตสฺส วยปฺปตฺตสฺส มาตา ‘‘ปุตฺตสฺส เม ภริยํ อาเนสฺสามา’’ติ ญาตเกหิ สมฺมเนฺตสิฯ โส ตํ อุปธาเรตฺวา เหตุสมฺปตฺติยา โจทิยมาโน ‘‘กิํ มยฺหํ ฆราวาเสน, อิทาเนว ปพฺพชิสฺสามี’’ติ ภิกฺขูนํ สนฺติกํ คนฺตฺวา ปพฺพชิฯ ปพฺพชิตมฺปิ นํ มาตา อุปฺปพฺพาเชตุกามา นานานเยหิ ปโลเภติฯ โส ตสฺสา อวสรํ อทตฺวา อตฺตโน อชฺฌาสยํ ปกาเสโนฺต –

    Yathākaḷīro susu vaḍḍhitaggoti āyasmato ātumattherassa gāthā. Kā uppatti? Sopi purimabuddhesu katādhikāro tattha tattha bhave vivaṭṭūpanissayaṃ puññaṃ ācinanto ito ekanavute kappe kulagehe nibbattitvā viññutaṃ patto vipassiṃ bhagavantaṃ antaravīthiyaṃ gacchantaṃ disvā pasannamānaso gandhodakena gandhacuṇṇena ca pūjaṃ akāsi. So tena puññakammena devaloke nibbatto aparāparaṃ sugatīsuyeva saṃsaranto kassapassa bhagavato sāsane pabbajitvā samaṇadhammaṃ akāsi, ñāṇassa pana aparipakkattā visesaṃ nibbattetuṃ nāsakkhi. Atha imasmiṃ buddhuppāde sāvatthiyaṃ seṭṭhiputto hutvā nibbatti, ātumotissa nāmaṃ ahosi. Tassa vayappattassa mātā ‘‘puttassa me bhariyaṃ ānessāmā’’ti ñātakehi sammantesi. So taṃ upadhāretvā hetusampattiyā codiyamāno ‘‘kiṃ mayhaṃ gharāvāsena, idāneva pabbajissāmī’’ti bhikkhūnaṃ santikaṃ gantvā pabbaji. Pabbajitampi naṃ mātā uppabbājetukāmā nānānayehi palobheti. So tassā avasaraṃ adatvā attano ajjhāsayaṃ pakāsento –

    ๗๒.

    72.

    ‘‘ยถา กฬีโร สุสุ วฑฺฒิตโคฺค, ทุนฺนิกฺขโม โหติ ปสาขชาโต;

    ‘‘Yathā kaḷīro susu vaḍḍhitaggo, dunnikkhamo hoti pasākhajāto;

    เอวํ อหํ ภริยายานีตาย, อนุมญฺญ มํ ปพฺพชิโตมฺหิ ทานี’’ติฯ –

    Evaṃ ahaṃ bhariyāyānītāya, anumañña maṃ pabbajitomhi dānī’’ti. –

    คาถํ อภาสิฯ

    Gāthaṃ abhāsi.

    ตตฺถ กฬีโรติ องฺกุโร, อิธ ปน วํสงฺกุโร อธิเปฺปโตฯ สุสูติ ตรุโณฯ วฑฺฒิตโคฺคติ ปวฑฺฒิตสาโขฯ สุสุวฑฺฒิตโคฺคติ วา สุฎฺฐุ วฑฺฒิตสาโข สญฺชาตปตฺตสาโขฯ ทุนฺนิกฺขโมติ เวฬุคุมฺพโต นิกฺขาเมตุํ นีหริตุํ อสกฺกุเณโยฺยฯ ปสาขชาโตติ ชาตปสาโข, สาขานมฺปิ ปเพฺพ ปเพฺพ อุปฺปนฺนอนุสาโขฯ เอวํ อหํ ภริยายานีตายาติ ยถา วํโส วฑฺฒิตโคฺค วํสนฺตเรสุ สํสฎฺฐ สาขาปสาโข เวฬุคุมฺพโต ทุนฺนีหรณีโย โหติ, เอวํ อหมฺปิ ภริยาย มยฺหํ อานีตาย ปุตฺตธีตาทิวเสน วฑฺฒิตโคฺค อาสตฺติวเสน ฆราวาสโต ทุนฺนีหรณีโย ภเวยฺยํฯ ยถา ปน วํสกฬีโร อสญฺชาตสาขพโนฺธ เวฬุคุมฺพโต สุนีหรณีโยว โหติ, เอวํ อหมฺปิ อสญฺชาตปุตฺตทาราทิพโนฺธ สุนีหรณีโย โหมิ, ตสฺมา อนานีตาย เอว ภริยาย อนุมญฺญ มํ อตฺตนาว มํ อนุชานาเปตฺวาฯ ปพฺพชิโตมฺหิ ทานีติ, ‘‘อิทานิ ปน ปพฺพชิโต อมฺหิ, สาธุ สุฎฺฐู’’ติ อตฺตโน เนกฺขมฺมาภิรติํ ปกาเสสิ, อถ วา ‘‘อนุมญฺญ มํ ปพฺพชิโตมฺหิ ทานี’’ติ มาตุ กเถติฯ อยเญฺหตฺถ อโตฺถ – ยทิปิ ตาย ปุเพฺพ นานุมตํ, อิทานิ ปน ปพฺพชิโต อมฺหิ, ตสฺมา อนุมญฺญ อนุชานาหิ มํ สมณภาเวเยว ฐาตุํ, นาหํ ตยา นิวตฺตนีโยติ ฯ เอวํ ปน กเถโนฺต ยถาฐิโตว วิปสฺสนํ วเฑฺฒตฺวา มคฺคปฎิปาฎิยา กิเลเส เขเปตฺวา ฉฬภิโญฺญ อโหสิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๑๓.๓๕-๔๐) –

    Tattha kaḷīroti aṅkuro, idha pana vaṃsaṅkuro adhippeto. Susūti taruṇo. Vaḍḍhitaggoti pavaḍḍhitasākho. Susuvaḍḍhitaggoti vā suṭṭhu vaḍḍhitasākho sañjātapattasākho. Dunnikkhamoti veḷugumbato nikkhāmetuṃ nīharituṃ asakkuṇeyyo. Pasākhajātoti jātapasākho, sākhānampi pabbe pabbe uppannaanusākho. Evaṃ ahaṃ bhariyāyānītāyāti yathā vaṃso vaḍḍhitaggo vaṃsantaresu saṃsaṭṭha sākhāpasākho veḷugumbato dunnīharaṇīyo hoti, evaṃ ahampi bhariyāya mayhaṃ ānītāya puttadhītādivasena vaḍḍhitaggo āsattivasena gharāvāsato dunnīharaṇīyo bhaveyyaṃ. Yathā pana vaṃsakaḷīro asañjātasākhabandho veḷugumbato sunīharaṇīyova hoti, evaṃ ahampi asañjātaputtadārādibandho sunīharaṇīyo homi, tasmā anānītāya eva bhariyāya anumañña maṃ attanāva maṃ anujānāpetvā. Pabbajitomhi dānīti, ‘‘idāni pana pabbajito amhi, sādhu suṭṭhū’’ti attano nekkhammābhiratiṃ pakāsesi, atha vā ‘‘anumañña maṃ pabbajitomhi dānī’’ti mātu katheti. Ayañhettha attho – yadipi tāya pubbe nānumataṃ, idāni pana pabbajito amhi, tasmā anumañña anujānāhi maṃ samaṇabhāveyeva ṭhātuṃ, nāhaṃ tayā nivattanīyoti . Evaṃ pana kathento yathāṭhitova vipassanaṃ vaḍḍhetvā maggapaṭipāṭiyā kilese khepetvā chaḷabhiñño ahosi. Tena vuttaṃ apadāne (apa. thera 1.13.35-40) –

    ‘‘นิสชฺช ปาสาทวเร, วิปสฺสิํ อทฺทสํ ชินํ;

    ‘‘Nisajja pāsādavare, vipassiṃ addasaṃ jinaṃ;

    กกุธํ วิลสนฺตํว, สพฺพญฺญุํ ตมนาสกํฯ

    Kakudhaṃ vilasantaṃva, sabbaññuṃ tamanāsakaṃ.

    ‘‘ปาสาทสฺสาวิทูเร จ, คจฺฉติ โลกนายโก;

    ‘‘Pāsādassāvidūre ca, gacchati lokanāyako;

    ปภา นิทฺธาวเต ตสฺส, ยถา จ สตรํสิโนฯ

    Pabhā niddhāvate tassa, yathā ca sataraṃsino.

    ‘‘คโนฺธทกญฺจ ปคฺคยฺห, พุทฺธเสฎฺฐํ สโมกิริํ;

    ‘‘Gandhodakañca paggayha, buddhaseṭṭhaṃ samokiriṃ;

    เตน จิตฺตปฺปสาเทน, ตตฺถ กาลงฺกโต อหํฯ

    Tena cittappasādena, tattha kālaṅkato ahaṃ.

    ‘‘เอกนวุติโต กเปฺป, ยํ คโนฺธทกมากิริํ;

    ‘‘Ekanavutito kappe, yaṃ gandhodakamākiriṃ;

    ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, พุทฺธปูชายิทํ ผลํฯ

    Duggatiṃ nābhijānāmi, buddhapūjāyidaṃ phalaṃ.

    ‘‘เอกติํเส อิโต กเปฺป, สุคโนฺธ นาม ขตฺติโย;

    ‘‘Ekatiṃse ito kappe, sugandho nāma khattiyo;

    สตฺตรตนสมฺปโนฺน, จกฺกวตฺตี มหพฺพโลฯ

    Sattaratanasampanno, cakkavattī mahabbalo.

    ‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ

    ‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… kataṃ buddhassa sāsana’’nti.

    ฉฬภิโญฺญ ปน หุตฺวา มาตรํ อาปุจฺฉิตฺวา ตสฺสา เปกฺขนฺติยาเยว อากาเสน ปกฺกามิฯ โส อรหตฺตปฺปตฺติยา อุตฺตริกาลมฺปิ อนฺตรนฺตรา ตเมว คาถํ ปจฺจุทาหาสิฯ

    Chaḷabhiñño pana hutvā mātaraṃ āpucchitvā tassā pekkhantiyāyeva ākāsena pakkāmi. So arahattappattiyā uttarikālampi antarantarā tameva gāthaṃ paccudāhāsi.

    ตตฺถ ‘‘ปพฺพชิโตมฺหี’’ติ อิมินาปเทเสน อยมฺปิ เถรสฺส อญฺญาพฺยากรณคาถา อโหสิ อตฺตโน สนฺตาเน ราคาทิมลสฺส ปพฺพาชิตภาวทีปนโตฯ เตนาห ภควา – ‘‘ปพฺพาชยมตฺตโน มลํ, ตสฺมา ‘ปพฺพชิโต’ติ วุจฺจตี’’ติ (ธ. ป. ๓๘๘)ฯ

    Tattha ‘‘pabbajitomhī’’ti imināpadesena ayampi therassa aññābyākaraṇagāthā ahosi attano santāne rāgādimalassa pabbājitabhāvadīpanato. Tenāha bhagavā – ‘‘pabbājayamattano malaṃ, tasmā ‘pabbajito’ti vuccatī’’ti (dha. pa. 388).

    อาตุมเตฺถรคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Ātumattheragāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi / ๒. อาตุมเตฺถรคาถา • 2. Ātumattheragāthā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact