Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปริวารปาฬิ • Parivārapāḷi

    ๑๓. อาวาสิกวโคฺค

    13. Āvāsikavaggo

    ๔๖๑. ‘‘กติหิ นุ โข, ภเนฺต, อเงฺคหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ ยถาภตํ นิกฺขิโตฺต เอวํ นิรเย’’ติ? ‘‘ปญฺจหุปาลิ, อเงฺคหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ ยถาภตํ นิกฺขิโตฺต เอวํ นิรเย ฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? ฉนฺทาคติํ คจฺฉติ, โทสาคติํ คจฺฉติ, โมหาคติํ คจฺฉติ, ภยาคติํ คจฺฉติ, สงฺฆิกํ ปุคฺคลิกปริโภเคน ปริภุญฺชติ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ ยถาภตํ นิกฺขิโตฺต เอวํ นิรเยฯ

    461. ‘‘Katihi nu kho, bhante, aṅgehi samannāgato āvāsiko bhikkhu yathābhataṃ nikkhitto evaṃ niraye’’ti? ‘‘Pañcahupāli, aṅgehi samannāgato āvāsiko bhikkhu yathābhataṃ nikkhitto evaṃ niraye . Katamehi pañcahi? Chandāgatiṃ gacchati, dosāgatiṃ gacchati, mohāgatiṃ gacchati, bhayāgatiṃ gacchati, saṅghikaṃ puggalikaparibhogena paribhuñjati – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato āvāsiko bhikkhu yathābhataṃ nikkhitto evaṃ niraye.

    ‘‘ปญฺจหุปาลิ, อเงฺคหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ ยถาภตํ นิกฺขิโตฺต เอวํ สเคฺคฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? น ฉนฺทาคติํ คจฺฉติ, น โทสาคติํ คจฺฉติ, น โมหาคติํ คจฺฉติ, น ภยาคติํ คจฺฉติ, สงฺฆิกํ น ปุคฺคลิกปริโภเคน ปริภุญฺชติ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ ยถาภตํ นิกฺขิโตฺต เอวํ สเคฺค’’ติฯ

    ‘‘Pañcahupāli, aṅgehi samannāgato āvāsiko bhikkhu yathābhataṃ nikkhitto evaṃ sagge. Katamehi pañcahi? Na chandāgatiṃ gacchati, na dosāgatiṃ gacchati, na mohāgatiṃ gacchati, na bhayāgatiṃ gacchati, saṅghikaṃ na puggalikaparibhogena paribhuñjati – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato āvāsiko bhikkhu yathābhataṃ nikkhitto evaṃ sagge’’ti.

    ๔๖๒. ‘‘กติ นุ โข, ภเนฺต, อธมฺมิกา วินยพฺยากรณา’’ติ? ‘‘ปญฺจิเม, อุปาลิ, อธมฺมิกา วินยพฺยากรณาฯ กตเม ปญฺจ? อิธุปาลิ, ภิกฺขุ อธมฺมํ ธโมฺมติ ปริณาเมติ, ธมฺมํ อธโมฺมติ ปริณาเมติ, อวินยํ วินโยติ ปริณาเมติ, วินยํ อวินโยติ ปริณาเมติ , อปญฺญตฺตํ ปญฺญาเปติ, ปญฺญตฺตํ สมุจฺฉินฺทติ – อิเม โข, อุปาลิ, ปญฺจ อธมฺมิกา วินยพฺยากรณาฯ ปญฺจิเม, อุปาลิ, ธมฺมิกา วินยพฺยากรณาฯ กตเม ปญฺจ? อิธุปาลิ, ภิกฺขุ อธมฺมํ อธโมฺมติ ปริณาเมติ, ธมฺมํ ธโมฺมติ ปริณาเมติ, อวินยํ อวินโยติ ปริณาเมติ, วินยํ วินโยติ ปริณาเมติ, อปญฺญตฺตํ น ปญฺญเปติ, ปญฺญตฺตํ น สมุจฺฉินฺทติ – อิเม โข, อุปาลิ, ปญฺจ ธมฺมิกา วินยพฺยากรณา’’ติฯ

    462. ‘‘Kati nu kho, bhante, adhammikā vinayabyākaraṇā’’ti? ‘‘Pañcime, upāli, adhammikā vinayabyākaraṇā. Katame pañca? Idhupāli, bhikkhu adhammaṃ dhammoti pariṇāmeti, dhammaṃ adhammoti pariṇāmeti, avinayaṃ vinayoti pariṇāmeti, vinayaṃ avinayoti pariṇāmeti , apaññattaṃ paññāpeti, paññattaṃ samucchindati – ime kho, upāli, pañca adhammikā vinayabyākaraṇā. Pañcime, upāli, dhammikā vinayabyākaraṇā. Katame pañca? Idhupāli, bhikkhu adhammaṃ adhammoti pariṇāmeti, dhammaṃ dhammoti pariṇāmeti, avinayaṃ avinayoti pariṇāmeti, vinayaṃ vinayoti pariṇāmeti, apaññattaṃ na paññapeti, paññattaṃ na samucchindati – ime kho, upāli, pañca dhammikā vinayabyākaraṇā’’ti.

    ๔๖๓. 1 ‘‘กติหิ นุ โข, ภเนฺต, อเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภตฺตุเทฺทสโก ยถาภตํ นิกฺขิโตฺต เอวํ นิรเย’’ติ? ‘‘ปญฺจหุปาลิ, อเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภตฺตุเทฺทสโก ยถาภตํ นิกฺขิโตฺต เอวํ นิรเยฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? ฉนฺทาคติํ คจฺฉติ, โทสาคติํ คจฺฉติ, โมหาคติํ คจฺฉติ, ภยาคติํ คจฺฉติ, อุทฺทิฎฺฐานุทฺทิฎฺฐํ น ชานาติ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภตฺตุเทฺทสโก ยถาภตํ นิกฺขิโตฺต เอวํ นิรเยฯ

    463.2 ‘‘Katihi nu kho, bhante, aṅgehi samannāgato bhattuddesako yathābhataṃ nikkhitto evaṃ niraye’’ti? ‘‘Pañcahupāli, aṅgehi samannāgato bhattuddesako yathābhataṃ nikkhitto evaṃ niraye. Katamehi pañcahi? Chandāgatiṃ gacchati, dosāgatiṃ gacchati, mohāgatiṃ gacchati, bhayāgatiṃ gacchati, uddiṭṭhānuddiṭṭhaṃ na jānāti – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato bhattuddesako yathābhataṃ nikkhitto evaṃ niraye.

    3 ‘‘ปญฺจหุปาลิ, อเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภตฺตุเทฺทสโก ยถาภตํ นิกฺขิโตฺต เอวํ สเคฺคฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? น ฉนฺทาคติํ คจฺฉติ, น โทสาคติํ คจฺฉติ, น โมหาคติํ คจฺฉติ, น ภยาคติํ คจฺฉติ, อุทฺทิฎฺฐานุทฺทิฎฺฐํ ชานาติ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต ภตฺตุเทฺทสโก ยถาภตํ นิกฺขิโตฺต เอวํ สเคฺค’’ติฯ

    4 ‘‘Pañcahupāli, aṅgehi samannāgato bhattuddesako yathābhataṃ nikkhitto evaṃ sagge. Katamehi pañcahi? Na chandāgatiṃ gacchati, na dosāgatiṃ gacchati, na mohāgatiṃ gacchati, na bhayāgatiṃ gacchati, uddiṭṭhānuddiṭṭhaṃ jānāti – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato bhattuddesako yathābhataṃ nikkhitto evaṃ sagge’’ti.

    ๔๖๔. ‘‘กติหิ นุ โข, ภเนฺต, อเงฺคหิ สมนฺนาคโต เสนาสนปญฺญาปโก…เป.… ภณฺฑาคาริโก…เป.… จีวรปฎิคฺคาหโก…เป.… จีวรภาชโก…เป.… ยาคุภาชโก…เป.… ผลภาชโก…เป.… ขชฺชภาชโก…เป.… อปฺปมตฺตกวิสฺสชฺชโก…เป.… สาฎิยคฺคาหาปโก…เป.… ปตฺตคฺคาหาปโก…เป.… อารามิกเปสโก…เป.… สามเณรเปสโก ยถาภตํ นิกฺขิโตฺต เอวํ นิรเย’’ติ? ‘‘ปญฺจหุปาลิ, อเงฺคหิ สมนฺนาคโต สามเณรเปสโก ยถาภตํ นิกฺขิโตฺต เอวํ นิรเยฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? ฉนฺทาคติํ คจฺฉติ, โทสาคติํ คจฺฉติ, โมหาคติํ คจฺฉติ, ภยาคติํ คจฺฉติ, เปสิตาเปสิตํ น ชานาติ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต สามเณรเปสโก ยถาภตํ นิกฺขิโตฺต เอวํ นิรเยฯ ปญฺจหุปาลิ, อเงฺคหิ สมนฺนาคโต สามเณรเปสโก ยถาภตํ นิกฺขิโตฺต เอวํ สเคฺคฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? น ฉนฺทาคติํ คจฺฉติ, น โทสาคติํ คจฺฉติ, น โมหาคติํ คจฺฉติ, น ภยาคติํ คจฺฉติ, เปสิตาเปสิตํ ชานาติ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคโต สามเณรเปสโก ยถาภตํ นิกฺขิโตฺต เอวํ สเคฺค’’ติฯ

    464. ‘‘Katihi nu kho, bhante, aṅgehi samannāgato senāsanapaññāpako…pe… bhaṇḍāgāriko…pe… cīvarapaṭiggāhako…pe… cīvarabhājako…pe… yāgubhājako…pe… phalabhājako…pe… khajjabhājako…pe… appamattakavissajjako…pe… sāṭiyaggāhāpako…pe… pattaggāhāpako…pe… ārāmikapesako…pe… sāmaṇerapesako yathābhataṃ nikkhitto evaṃ niraye’’ti? ‘‘Pañcahupāli, aṅgehi samannāgato sāmaṇerapesako yathābhataṃ nikkhitto evaṃ niraye. Katamehi pañcahi? Chandāgatiṃ gacchati, dosāgatiṃ gacchati, mohāgatiṃ gacchati, bhayāgatiṃ gacchati, pesitāpesitaṃ na jānāti – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato sāmaṇerapesako yathābhataṃ nikkhitto evaṃ niraye. Pañcahupāli, aṅgehi samannāgato sāmaṇerapesako yathābhataṃ nikkhitto evaṃ sagge. Katamehi pañcahi? Na chandāgatiṃ gacchati, na dosāgatiṃ gacchati, na mohāgatiṃ gacchati, na bhayāgatiṃ gacchati, pesitāpesitaṃ jānāti – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgato sāmaṇerapesako yathābhataṃ nikkhitto evaṃ sagge’’ti.

    อาวาสิกวโคฺค นิฎฺฐิโต เตรสโมฯ

    Āvāsikavaggo niṭṭhito terasamo.

    ตสฺสุทฺทานํ –

    Tassuddānaṃ –

    อาวาสิกพฺยากรณา , ภตฺตุเสนาสนานิ จ;

    Āvāsikabyākaraṇā , bhattusenāsanāni ca;

    ภณฺฑจีวรคฺคาโห จ, จีวรสฺส จ ภาชโกฯ

    Bhaṇḍacīvaraggāho ca, cīvarassa ca bhājako.

    ยาคุ ผลํ ขชฺชกญฺจ, อปฺปสาฎิยคาหโก;

    Yāgu phalaṃ khajjakañca, appasāṭiyagāhako;

    ปโตฺต อารามิโก เจว, สามเณเรน เปสโกติฯ

    Patto ārāmiko ceva, sāmaṇerena pesakoti.







    Footnotes:
    1. อ. นิ. ๕.๒๗๒-๒๘๕
    2. a. ni. 5.272-285
    3. อ. นิ. ๕.๒๗๒-๒๘๕
    4. a. ni. 5.272-285



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / ปริวาร-อฎฺฐกถา • Parivāra-aṭṭhakathā / อาวาสิกวคฺควณฺณนา • Āvāsikavaggavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / อาวาสิกวคฺควณฺณนา • Āvāsikavaggavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact