Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya

    ๖. อวสฺสุตปริยายสุตฺตํ

    6. Avassutapariyāyasuttaṃ

    ๒๔๓. เอกํ สมยํ ภควา สเกฺกสุ วิหรติ กปิลวตฺถุสฺมิํ นิโคฺรธาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน กาปิลวตฺถวานํ สกฺยานํ นวํ สนฺถาคารํ 1 อจิรการิตํ โหติ อนชฺฌาวุฎฺฐํ 2 สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เกนจิ วา มนุสฺสภูเตนฯ อถ โข กาปิลวตฺถวา สกฺยา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข กาปิลวตฺถวา สกฺยา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อิธ, ภเนฺต, กาปิลวตฺถวานํ สกฺยานํ นวํ สนฺถาคารํ อจิรการิตํ 3 อนชฺฌาวุฎฺฐํ สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เกนจิ วา มนุสฺสภูเตน ฯ ตํ, ภเนฺต, ภควา ปฐมํ ปริภุญฺชตุฯ ภควตา ปฐมํ ปริภุตฺตํ ปจฺฉา กาปิลวตฺถวา สกฺยา ปริภุญฺชิสฺสนฺติฯ ตทสฺส กาปิลวตฺถวานํ สกฺยานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติฯ อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวนฯ

    243. Ekaṃ samayaṃ bhagavā sakkesu viharati kapilavatthusmiṃ nigrodhārāme. Tena kho pana samayena kāpilavatthavānaṃ sakyānaṃ navaṃ santhāgāraṃ 4 acirakāritaṃ hoti anajjhāvuṭṭhaṃ 5 samaṇena vā brāhmaṇena vā kenaci vā manussabhūtena. Atha kho kāpilavatthavā sakyā yena bhagavā tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdiṃsu. Ekamantaṃ nisinnā kho kāpilavatthavā sakyā bhagavantaṃ etadavocuṃ – ‘‘idha, bhante, kāpilavatthavānaṃ sakyānaṃ navaṃ santhāgāraṃ acirakāritaṃ 6 anajjhāvuṭṭhaṃ samaṇena vā brāhmaṇena vā kenaci vā manussabhūtena . Taṃ, bhante, bhagavā paṭhamaṃ paribhuñjatu. Bhagavatā paṭhamaṃ paribhuttaṃ pacchā kāpilavatthavā sakyā paribhuñjissanti. Tadassa kāpilavatthavānaṃ sakyānaṃ dīgharattaṃ hitāya sukhāyā’’ti. Adhivāsesi bhagavā tuṇhībhāvena.

    อถ โข กาปิลวตฺถวา สกฺยา ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฎฺฐายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เยน นวํ สนฺถาคารํ เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา สพฺพสนฺถริํ 7 สนฺถาคารํ สนฺถริตฺวา อาสนานิ ปญฺญาเปตฺวา อุทกมณิกํ ปติฎฺฐาเปตฺวา เตลปฺปทีปํ อาโรเปตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘สพฺพสนฺถริสนฺถตํ 8, ภเนฺต, สนฺถาคารํ, อาสนานิ ปญฺญตฺตานิ, อุทกมณิโก ปติฎฺฐาปิโต, เตลปฺปทีโป อาโรปิโตฯ ยสฺส ทานิ , ภเนฺต, ภควา กาลํ มญฺญตี’’ติฯ อถ โข ภควา นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สทฺธิํ ภิกฺขุสเงฺฆน เยน นวํ สนฺถาคารํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปาเท ปกฺขาเลตฺวา สนฺถาคารํ ปวิสิตฺวา มชฺฌิมํ ถมฺภํ นิสฺสาย ปุรตฺถาภิมุโข นิสีทิฯ ภิกฺขุสโงฺฆปิ โข ปาเท ปกฺขาเลตฺวา สนฺถาคารํ ปวิสิตฺวา ปจฺฉิมํ ภิตฺติํ นิสฺสาย ปุรตฺถาภิมุโข นิสีทิ ภควนฺตํเยว ปุรกฺขตฺวาฯ กาปิลวตฺถวา สกฺยา ปาเท ปกฺขาเลตฺวา สนฺถาคารํ ปวิสิตฺวา ปุรตฺถิมํ ภิตฺติํ นิสฺสาย ปจฺฉิมาภิมุขา นิสีทิํสุ ภควนฺตํเยว ปุรกฺขตฺวาฯ อถ โข ภควา กาปิลวตฺถเว สเกฺย พหุเทว รตฺติํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุเตฺตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุโยฺยเชสิ – ‘‘อภิกฺกนฺตา โข, โคตมา, รตฺติฯ ยสฺส ทานิ กาลํ มญฺญถา’’ติ ฯ ‘‘เอวํ , ภเนฺต’’ติ โข กาปิลวตฺถวา สกฺยา ภควโต ปฎิสฺสุตฺวา อุฎฺฐายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกมิํสุฯ

    Atha kho kāpilavatthavā sakyā bhagavato adhivāsanaṃ viditvā uṭṭhāyāsanā bhagavantaṃ abhivādetvā padakkhiṇaṃ katvā yena navaṃ santhāgāraṃ tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā sabbasanthariṃ 9 santhāgāraṃ santharitvā āsanāni paññāpetvā udakamaṇikaṃ patiṭṭhāpetvā telappadīpaṃ āropetvā yena bhagavā tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ etadavocuṃ – ‘‘sabbasantharisanthataṃ 10, bhante, santhāgāraṃ, āsanāni paññattāni, udakamaṇiko patiṭṭhāpito, telappadīpo āropito. Yassa dāni , bhante, bhagavā kālaṃ maññatī’’ti. Atha kho bhagavā nivāsetvā pattacīvaramādāya saddhiṃ bhikkhusaṅghena yena navaṃ santhāgāraṃ tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā pāde pakkhāletvā santhāgāraṃ pavisitvā majjhimaṃ thambhaṃ nissāya puratthābhimukho nisīdi. Bhikkhusaṅghopi kho pāde pakkhāletvā santhāgāraṃ pavisitvā pacchimaṃ bhittiṃ nissāya puratthābhimukho nisīdi bhagavantaṃyeva purakkhatvā. Kāpilavatthavā sakyā pāde pakkhāletvā santhāgāraṃ pavisitvā puratthimaṃ bhittiṃ nissāya pacchimābhimukhā nisīdiṃsu bhagavantaṃyeva purakkhatvā. Atha kho bhagavā kāpilavatthave sakye bahudeva rattiṃ dhammiyā kathāya sandassetvā samādapetvā samuttejetvā sampahaṃsetvā uyyojesi – ‘‘abhikkantā kho, gotamā, ratti. Yassa dāni kālaṃ maññathā’’ti . ‘‘Evaṃ , bhante’’ti kho kāpilavatthavā sakyā bhagavato paṭissutvā uṭṭhāyāsanā bhagavantaṃ abhivādetvā padakkhiṇaṃ katvā pakkamiṃsu.

    อถ โข ภควา อจิรปกฺกเนฺตสุ กาปิลวตฺถเวสุ สเกฺยสุ อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ อามเนฺตสิ – ‘‘วิคตถินมิโทฺธ โข, โมคฺคลฺลาน, ภิกฺขุสโงฺฆฯ ปฎิภาตุ ตํ, โมคฺคลฺลาน, ภิกฺขูนํ ธมฺมี กถาฯ ปิฎฺฐิ เม อาคิลายติ; ตมหํ อายมิสฺสามี’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ติ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ภควโต ปจฺจโสฺสสิฯ อถ โข ภควา จตุคฺคุณํ สงฺฆาฎิํ ปญฺญเปตฺวา ทกฺขิเณน ปเสฺสน สีหเสยฺยํ กเปฺปสิ , ปาเท ปาทํ อจฺจาธาย, สโต สมฺปชาโน อุฎฺฐานสญฺญํ มนสิ กริตฺวาฯ ตตฺร โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อาวุโส ภิกฺขเว’’ติฯ ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส ปจฺจโสฺสสุํฯ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เอตทโวจ – ‘‘อวสฺสุตปริยายญฺจ โว, อาวุโส, เทเสสฺสามิ, อนวสฺสุตปริยายญฺจฯ ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติฯ ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส ปจฺจโสฺสสุํฯ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เอตทโวจ –

    Atha kho bhagavā acirapakkantesu kāpilavatthavesu sakyesu āyasmantaṃ mahāmoggallānaṃ āmantesi – ‘‘vigatathinamiddho kho, moggallāna, bhikkhusaṅgho. Paṭibhātu taṃ, moggallāna, bhikkhūnaṃ dhammī kathā. Piṭṭhi me āgilāyati; tamahaṃ āyamissāmī’’ti. ‘‘Evaṃ, bhante’’ti kho āyasmā mahāmoggallāno bhagavato paccassosi. Atha kho bhagavā catugguṇaṃ saṅghāṭiṃ paññapetvā dakkhiṇena passena sīhaseyyaṃ kappesi , pāde pādaṃ accādhāya, sato sampajāno uṭṭhānasaññaṃ manasi karitvā. Tatra kho āyasmā mahāmoggallāno bhikkhū āmantesi – ‘‘āvuso bhikkhave’’ti. ‘‘Āvuso’’ti kho te bhikkhū āyasmato mahāmoggallānassa paccassosuṃ. Āyasmā mahāmoggallāno etadavoca – ‘‘avassutapariyāyañca vo, āvuso, desessāmi, anavassutapariyāyañca. Taṃ suṇātha, sādhukaṃ manasi karotha; bhāsissāmī’’ti. ‘‘Evamāvuso’’ti kho te bhikkhū āyasmato mahāmoggallānassa paccassosuṃ. Āyasmā mahāmoggallāno etadavoca –

    ‘‘กถํ, อาวุโส, อวสฺสุโต โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา ปิยรูเป รูเป อธิมุจฺจติ, อปฺปิยรูเป รูเป พฺยาปชฺชติ, อนุปฎฺฐิตกายสฺสติ วิหรติ ปริตฺตเจตโส, ตญฺจ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ ยตฺถสฺส เต อุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ …เป.… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา…เป.… มนสา ธมฺมํ วิญฺญาย ปิยรูเป ธเมฺม อธิมุจฺจติ, อปฺปิยรูเป ธเมฺม พฺยาปชฺชติ, อนุปฎฺฐิตกายสฺสติ จ วิหรติ ปริตฺตเจตโส, ตญฺจ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ ยตฺถสฺส เต อุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติฯ อยํ วุจฺจติ, อาวุโส, ภิกฺขุ อวสฺสุโต จกฺขุวิเญฺญเยฺยสุ รูเปสุ…เป.… อวสฺสุโต ชิวฺหาวิเญฺญเยฺยสุ รเสสุ…เป.… อวสฺสุโต มโนวิเญฺญเยฺยสุ ธเมฺมสุฯ เอวํวิหาริญฺจาวุโส, ภิกฺขุํ จกฺขุโต เจปิ นํ มาโร อุปสงฺกมติ ลภเตว มาโร โอตารํ, ลภติ มาโร อารมฺมณํ…เป.… ชิวฺหาโต เจปิ นํ มาโร อุปสงฺกมติ, ลภเตว 11 มาโร โอตารํ , ลภติ 12 มาโร อารมฺมณํ…เป.… มนโต เจปิ นํ มาโร อุปสงฺกมติ, ลภเตว มาโร โอตารํ, ลภติ มาโร อารมฺมณํฯ

    ‘‘Kathaṃ, āvuso, avassuto hoti? Idhāvuso, bhikkhu cakkhunā rūpaṃ disvā piyarūpe rūpe adhimuccati, appiyarūpe rūpe byāpajjati, anupaṭṭhitakāyassati viharati parittacetaso, tañca cetovimuttiṃ paññāvimuttiṃ yathābhūtaṃ nappajānāti yatthassa te uppannā pāpakā akusalā dhammā aparisesā nirujjhanti …pe… jivhāya rasaṃ sāyitvā…pe… manasā dhammaṃ viññāya piyarūpe dhamme adhimuccati, appiyarūpe dhamme byāpajjati, anupaṭṭhitakāyassati ca viharati parittacetaso, tañca cetovimuttiṃ paññāvimuttiṃ yathābhūtaṃ nappajānāti yatthassa te uppannā pāpakā akusalā dhammā aparisesā nirujjhanti. Ayaṃ vuccati, āvuso, bhikkhu avassuto cakkhuviññeyyesu rūpesu…pe… avassuto jivhāviññeyyesu rasesu…pe… avassuto manoviññeyyesu dhammesu. Evaṃvihāriñcāvuso, bhikkhuṃ cakkhuto cepi naṃ māro upasaṅkamati labhateva māro otāraṃ, labhati māro ārammaṇaṃ…pe… jivhāto cepi naṃ māro upasaṅkamati, labhateva 13 māro otāraṃ , labhati 14 māro ārammaṇaṃ…pe… manato cepi naṃ māro upasaṅkamati, labhateva māro otāraṃ, labhati māro ārammaṇaṃ.

    ‘‘เสยฺยถาปิ, อาวุโส, นฬาคารํ วา ติณาคารํ วา สุกฺขํ โกลาปํ เตโรวสฺสิกํฯ ปุรตฺถิมาย เจปิ นํ ทิสาย ปุริโส อาทิตฺตาย ติณุกฺกาย อุปสงฺกเมยฺย, ลเภเถว 15 อคฺคิ โอตารํ, ลเภถ อคฺคิ อารมฺมณํ; ปจฺฉิมาย เจปิ นํ ทิสาย ปุริโส อาทิตฺตาย ติณุกฺกาย อุปสงฺกเมยฺย…เป.… อุตฺตราย เจปิ นํ ทิสาย…เป.… ทกฺขิณาย เจปิ นํ ทิสาย…เป.… เหฎฺฐิมโต เจปิ นํ…เป.… อุปริมโต เจปิ นํ… ยโต กุโตจิ เจปิ นํ ปุริโส อาทิตฺตาย ติณุกฺกาย อุปสงฺกเมยฺย, ลเภเถว อคฺคิ โอตารํ ลเภถ อคฺคิ อารมฺมณํฯ เอวเมว โข, อาวุโส, เอวํวิหาริํ ภิกฺขุํ จกฺขุโต เจปิ นํ มาโร อุปสงฺกมติ, ลภเตว มาโร โอตารํ, ลภติ มาโร อารมฺมณํ…เป.… ชิวฺหาโต เจปิ นํ มาโร อุปสงฺกมติ…เป.… มนโต เจปิ นํ มาโร อุปสงฺกมติ, ลภเตว มาโร โอตารํ, ลภติ มาโร อารมฺมณํฯ เอวํวิหาริญฺจาวุโส, ภิกฺขุํ รูปา อธิภํสุ, น ภิกฺขุ รูเป อธิโภสิ; สทฺทา ภิกฺขุํ อธิภํสุ, น ภิกฺขุ สเทฺท อธิโภสิ; คนฺธา ภิกฺขุํ อธิภํสุ, น ภิกฺขุ คเนฺธ อธิโภสิ; รสา ภิกฺขุํ อธิภํสุ, น ภิกฺขุ รเส อธิโภสิ; โผฎฺฐพฺพา ภิกฺขุํ อธิภํสุ, น ภิกฺขุ โผฎฺฐเพฺพ อธิโภสิ ; ธมฺมา ภิกฺขุํ อธิภํสุ, น ภิกฺขุ ธเมฺม อธิโภสิฯ อยํ วุจฺจตาวุโส, ภิกฺขุ รูปาธิภูโต, สทฺทาธิภูโต, คนฺธาธิภูโต, รสาธิภูโต, โผฎฺฐพฺพาธิภูโต, ธมฺมาธิภูโต, อธิภูโต, อนธิภู, 16 อธิภํสุ นํ ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สํกิเลสิกา โปโนพฺภวิกา สทรา ทุกฺขวิปากา อายติํ ชาติชรามรณิยาฯ เอวํ โข, อาวุโส, อวสฺสุโต โหติฯ

    ‘‘Seyyathāpi, āvuso, naḷāgāraṃ vā tiṇāgāraṃ vā sukkhaṃ kolāpaṃ terovassikaṃ. Puratthimāya cepi naṃ disāya puriso ādittāya tiṇukkāya upasaṅkameyya, labhetheva 17 aggi otāraṃ, labhetha aggi ārammaṇaṃ; pacchimāya cepi naṃ disāya puriso ādittāya tiṇukkāya upasaṅkameyya…pe… uttarāya cepi naṃ disāya…pe… dakkhiṇāya cepi naṃ disāya…pe… heṭṭhimato cepi naṃ…pe… uparimato cepi naṃ… yato kutoci cepi naṃ puriso ādittāya tiṇukkāya upasaṅkameyya, labhetheva aggi otāraṃ labhetha aggi ārammaṇaṃ. Evameva kho, āvuso, evaṃvihāriṃ bhikkhuṃ cakkhuto cepi naṃ māro upasaṅkamati, labhateva māro otāraṃ, labhati māro ārammaṇaṃ…pe… jivhāto cepi naṃ māro upasaṅkamati…pe… manato cepi naṃ māro upasaṅkamati, labhateva māro otāraṃ, labhati māro ārammaṇaṃ. Evaṃvihāriñcāvuso, bhikkhuṃ rūpā adhibhaṃsu, na bhikkhu rūpe adhibhosi; saddā bhikkhuṃ adhibhaṃsu, na bhikkhu sadde adhibhosi; gandhā bhikkhuṃ adhibhaṃsu, na bhikkhu gandhe adhibhosi; rasā bhikkhuṃ adhibhaṃsu, na bhikkhu rase adhibhosi; phoṭṭhabbā bhikkhuṃ adhibhaṃsu, na bhikkhu phoṭṭhabbe adhibhosi ; dhammā bhikkhuṃ adhibhaṃsu, na bhikkhu dhamme adhibhosi. Ayaṃ vuccatāvuso, bhikkhu rūpādhibhūto, saddādhibhūto, gandhādhibhūto, rasādhibhūto, phoṭṭhabbādhibhūto, dhammādhibhūto, adhibhūto, anadhibhū, 18 adhibhaṃsu naṃ pāpakā akusalā dhammā saṃkilesikā ponobbhavikā sadarā dukkhavipākā āyatiṃ jātijarāmaraṇiyā. Evaṃ kho, āvuso, avassuto hoti.

    ‘‘กถญฺจาวุโส, อนวสฺสุโต โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา ปิยรูเป รูเป นาธิมุจฺจติ, อปฺปิยรูเป รูเป น พฺยาปชฺชติ, อุปฎฺฐิตกายสฺสติ จ วิหรติ อปฺปมาณเจตโส , ตญฺจ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ยถาภูตํ ปชานาติ ยตฺถสฺส เต อุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ…เป.… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา…เป.… มนสา ธมฺมํ วิญฺญาย ปิยรูเป ธเมฺม นาธิมุจฺจติ, อปฺปิยรูเป ธเมฺม น พฺยาปชฺชติ, อุปฎฺฐิตกายสฺสติ จ วิหรติ อปฺปมาณเจตโส, ตญฺจ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ยถาภูตํ ปชานาติ ยตฺถสฺส เต อุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติฯ อยํ วุจฺจตาวุโส, ภิกฺขุ อนวสฺสุโต จกฺขุวิเญฺญเยฺยสุ รูเปสุ…เป.… อนวสฺสุโต มโนวิเญฺญเยฺยสุ ธเมฺมสุฯ เอวํวิหาริญฺจาวุโส, ภิกฺขุํ จกฺขุโต เจปิ นํ มาโร อุปสงฺกมติ, เนว ลภติ มาโร โอตารํ, น ลภติ มาโร อารมฺมณํ…เป.… ชิวฺหาโต เจปิ นํ มาโร อุปสงฺกมติ…เป.… มนโต เจปิ นํ มาโร อุปสงฺกมติ, เนว ลภติ มาโร โอตารํ, น ลภติ มาโร อารมฺมณํฯ

    ‘‘Kathañcāvuso, anavassuto hoti? Idhāvuso, bhikkhu cakkhunā rūpaṃ disvā piyarūpe rūpe nādhimuccati, appiyarūpe rūpe na byāpajjati, upaṭṭhitakāyassati ca viharati appamāṇacetaso , tañca cetovimuttiṃ paññāvimuttiṃ yathābhūtaṃ pajānāti yatthassa te uppannā pāpakā akusalā dhammā aparisesā nirujjhanti…pe… jivhāya rasaṃ sāyitvā…pe… manasā dhammaṃ viññāya piyarūpe dhamme nādhimuccati, appiyarūpe dhamme na byāpajjati, upaṭṭhitakāyassati ca viharati appamāṇacetaso, tañca cetovimuttiṃ paññāvimuttiṃ yathābhūtaṃ pajānāti yatthassa te uppannā pāpakā akusalā dhammā aparisesā nirujjhanti. Ayaṃ vuccatāvuso, bhikkhu anavassuto cakkhuviññeyyesu rūpesu…pe… anavassuto manoviññeyyesu dhammesu. Evaṃvihāriñcāvuso, bhikkhuṃ cakkhuto cepi naṃ māro upasaṅkamati, neva labhati māro otāraṃ, na labhati māro ārammaṇaṃ…pe… jivhāto cepi naṃ māro upasaṅkamati…pe… manato cepi naṃ māro upasaṅkamati, neva labhati māro otāraṃ, na labhati māro ārammaṇaṃ.

    ‘‘เสยฺยถาปิ, อาวุโส, กูฎาคารํ วา สาลา วา พหลมตฺติกา อทฺทาวเลปนาฯ ปุรตฺถิมาย เจปิ นํ ทิสาย ปุริโส อาทิตฺตาย ติณุกฺกาย อุปสงฺกเมยฺย, เนว ลเภถ อคฺคิ โอตารํ, น ลเภถ อคฺคิ อารมฺมณํ…เป.… ปจฺฉิมาย เจปิ นํ… อุตฺตราย เจปิ นํ… ทกฺขิณาย เจปิ นํ… เหฎฺฐิมโต เจปิ นํ… อุปริมโต เจปิ นํ… ยโต กุโตจิ เจปิ นํ ปุริโส อาทิตฺตาย ติณุกฺกาย อุปสงฺกเมยฺย, เนว ลเภถ อคฺคิ โอตารํ, น ลเภถ อคฺคิ อารมฺมณํฯ เอวเมว โข, อาวุโส, เอวํวิหาริํ ภิกฺขุํ จกฺขุโต เจปิ นํ มาโร อุปสงฺกมติ, เนว ลภติ มาโร โอตารํ, น ลภติ มาโร อารมฺมณํ…เป.… มนโต เจปิ นํ มาโร อุปสงฺกมติ, เนว ลภติ มาโร โอตารํ, น ลภติ มาโร อารมฺมณํฯ เอวํวิหารี จาวุโส, ภิกฺขุ รูเป อธิโภสิ, น รูปา ภิกฺขุํ อธิภํสุ; สเทฺท ภิกฺขุ อธิโภสิ, น สทฺทา ภิกฺขุํ อธิภํสุ; คเนฺธ ภิกฺขุ อธิโภสิ, น คนฺธา ภิกฺขุํ อธิภํสุ; รเส ภิกฺขุ อธิโภสิ, น รสา ภิกฺขุํ อธิภํสุ; โผฎฺฐเพฺพ ภิกฺขุ อธิโภสิ, น โผฎฺฐพฺพา ภิกฺขุํ อธิภํสุ; ธเมฺม ภิกฺขุ อธิโภสิ, น ธมฺมา ภิกฺขุํ อธิภํสุฯ อยํ วุจฺจตาวุโส, ภิกฺขุ รูปาธิภู, สทฺทาธิภู, คนฺธาธิภู, รสาธิภู, โผฎฺฐพฺพาธิภู, ธมฺมาธิภู, อธิภู, อนธิภูโต 19, อธิโภสิ เต ปาปเก อกุสเล ธเมฺม สํกิเลสิเก โปโนพฺภวิเก สทเร ทุกฺขวิปาเก อายติํ ชาติชรามรณิเยฯ เอวํ โข, อาวุโส, อนวสฺสุโต โหตี’’ติฯ

    ‘‘Seyyathāpi, āvuso, kūṭāgāraṃ vā sālā vā bahalamattikā addāvalepanā. Puratthimāya cepi naṃ disāya puriso ādittāya tiṇukkāya upasaṅkameyya, neva labhetha aggi otāraṃ, na labhetha aggi ārammaṇaṃ…pe… pacchimāya cepi naṃ… uttarāya cepi naṃ… dakkhiṇāya cepi naṃ… heṭṭhimato cepi naṃ… uparimato cepi naṃ… yato kutoci cepi naṃ puriso ādittāya tiṇukkāya upasaṅkameyya, neva labhetha aggi otāraṃ, na labhetha aggi ārammaṇaṃ. Evameva kho, āvuso, evaṃvihāriṃ bhikkhuṃ cakkhuto cepi naṃ māro upasaṅkamati, neva labhati māro otāraṃ, na labhati māro ārammaṇaṃ…pe… manato cepi naṃ māro upasaṅkamati, neva labhati māro otāraṃ, na labhati māro ārammaṇaṃ. Evaṃvihārī cāvuso, bhikkhu rūpe adhibhosi, na rūpā bhikkhuṃ adhibhaṃsu; sadde bhikkhu adhibhosi, na saddā bhikkhuṃ adhibhaṃsu; gandhe bhikkhu adhibhosi, na gandhā bhikkhuṃ adhibhaṃsu; rase bhikkhu adhibhosi, na rasā bhikkhuṃ adhibhaṃsu; phoṭṭhabbe bhikkhu adhibhosi, na phoṭṭhabbā bhikkhuṃ adhibhaṃsu; dhamme bhikkhu adhibhosi, na dhammā bhikkhuṃ adhibhaṃsu. Ayaṃ vuccatāvuso, bhikkhu rūpādhibhū, saddādhibhū, gandhādhibhū, rasādhibhū, phoṭṭhabbādhibhū, dhammādhibhū, adhibhū, anadhibhūto 20, adhibhosi te pāpake akusale dhamme saṃkilesike ponobbhavike sadare dukkhavipāke āyatiṃ jātijarāmaraṇiye. Evaṃ kho, āvuso, anavassuto hotī’’ti.

    อถ โข ภควา วุฎฺฐหิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ อามเนฺตสิ – ‘‘สาธุ สาธุ, โมคฺคลฺลาน! สาธุ โข ตฺวํ, โมคฺคลฺลาน, ภิกฺขูนํ อวสฺสุตปริยายญฺจ อนวสฺสุตปริยายญฺจ อภาสี’’ติฯ

    Atha kho bhagavā vuṭṭhahitvā āyasmantaṃ mahāmoggallānaṃ āmantesi – ‘‘sādhu sādhu, moggallāna! Sādhu kho tvaṃ, moggallāna, bhikkhūnaṃ avassutapariyāyañca anavassutapariyāyañca abhāsī’’ti.

    อิทมโวจ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโนฯ สมนุโญฺญ สตฺถา อโหสิฯ อตฺตมนา เต ภิกฺขู อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติฯ ฉฎฺฐํฯ

    Idamavoca āyasmā mahāmoggallāno. Samanuñño satthā ahosi. Attamanā te bhikkhū āyasmato mahāmoggallānassa bhāsitaṃ abhinandunti. Chaṭṭhaṃ.







    Footnotes:
    1. สนฺธาคารํ (ก.)
    2. อนชฺฌาวุตฺถํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)
    3. อจิรการิตํ โหติ (ก.)
    4. sandhāgāraṃ (ka.)
    5. anajjhāvutthaṃ (sī. syā. kaṃ. pī.)
    6. acirakāritaṃ hoti (ka.)
    7. สพฺพสนฺถริํ สนฺถตํ (ก.)
    8. สพฺพสนฺถริํ สนฺถตํ (สี. ปี. ก.)
    9. sabbasanthariṃ santhataṃ (ka.)
    10. sabbasanthariṃ santhataṃ (sī. pī. ka.)
    11. ลเภถ (ก.)
    12. ลเภถ (ก.)
    13. labhetha (ka.)
    14. labhetha (ka.)
    15. ลเภถ (ก.)
    16. อนธิภูโต (สี. สฺยา. กํ. ก.)
    17. labhetha (ka.)
    18. anadhibhūto (sī. syā. kaṃ. ka.)
    19. อนธิภูโต เกหิจิ กิเลเสหิ (ก.)
    20. anadhibhūto kehici kilesehi (ka.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๖. อวสฺสุตปริยายสุตฺตวณฺณนา • 6. Avassutapariyāyasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๖. อวสฺสุตปริยายสุตฺตวณฺณนา • 6. Avassutapariyāyasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact