Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เนตฺติปฺปกรณ-ฎีกา • Nettippakaraṇa-ṭīkā

    ๗. อาวฎฺฎหารวิภงฺควณฺณนา

    7. Āvaṭṭahāravibhaṅgavaṇṇanā

    ๒๙. อกุสลานํ ธมฺมานํ วิทฺธํสนสภาวตฺตา, อกุสลานํ วา ปชหเน กุสลานํ สมฺปาทเน ปฎฺฐปนสภาวตฺตา อารมฺภธาตุฯ ตถาภูตาติ สีลาทีหิ สมงฺคีภูตาฯ กามธาตุอาทิกา ติธาตุโยว เตธาตุฯ ตสฺส อภิภวนโต เตธาตุอิสฺสโร มจฺจุราชาฯ อนาทิมติสํสาเร จิรกาลํ ลทฺธปติฎฺฐาปิ อจิรกาลํ ภาวิเตหิ กุสเลหิ ธเมฺมหิ สมุจฺฉินฺทนียตฺตา อพลา กิเลสาติ วุตฺตํ ‘‘อพลํ ทุพฺพล’’นฺติฯ เตนาห ‘‘อพลา นํ พลียนฺตี’’ติฯ

    29. Akusalānaṃ dhammānaṃ viddhaṃsanasabhāvattā, akusalānaṃ vā pajahane kusalānaṃ sampādane paṭṭhapanasabhāvattā ārambhadhātu. Tathābhūtāti sīlādīhi samaṅgībhūtā. Kāmadhātuādikā tidhātuyova tedhātu. Tassa abhibhavanato tedhātuissaro maccurājā. Anādimatisaṃsāre cirakālaṃ laddhapatiṭṭhāpi acirakālaṃ bhāvitehi kusalehi dhammehi samucchindanīyattā abalā kilesāti vuttaṃ ‘‘abalaṃ dubbala’’nti. Tenāha ‘‘abalā naṃ balīyantī’’ti.

    อิทํ วจนํ อยํ คาถาปาโทฯ สมาธิสฺส ปทฎฺฐานนฺติ เอตฺถ สมาธิสฺส การณํ สมตานุโยเค นิโยชนโตติ โยเชตพฺพํฯ เอส นโย เสเสสุปิฯ ปปญฺจาติ ราคาทโยวฯ ตถา เจว สํวณฺณิตนฺติ เทสนาย ปทฎฺฐานภาเวเนว อตฺถสํวณฺณนา กตาติ อโตฺถฯ

    Idaṃ vacanaṃ ayaṃ gāthāpādo. Samādhissa padaṭṭhānanti ettha samādhissa kāraṇaṃ samatānuyoge niyojanatoti yojetabbaṃ. Esa nayo sesesupi. Papañcāti rāgādayova. Tathā ceva saṃvaṇṇitanti desanāya padaṭṭhānabhāveneva atthasaṃvaṇṇanā katāti attho.

    นฺติ ตํ เทสนํฯ ตสฺสาติ สภาคาทิวเสน อาวฎฺฎนสฺสฯ ปริปกฺกญาณานํ วิเสสาธิคมายฯ ลาภวินิจฺฉยปริคฺคหมจฺฉริยานีติอาทีสุ ลาโภติ รูปาทิอารมฺมณปฺปฎิลาโภฯ โส ปริเยสนาย สติ โหตีติ ปริเยสนาคฺคหเณน คหิโตฯ วินิจฺฉโยติ ‘‘เอตฺตกํ เม รูปารมฺมณตฺถาย ภวิสฺสติ, เอตฺตกํ สทฺทาทิอารมฺมณตฺถาย, เอตฺตกํ มยฺหํ, เอตฺตกํ ปรสฺส, เอตฺตกํ ปริภุญฺชิสฺสามิ, เอตฺตกํ นิทหิสฺสามี’’ติ เอวํ ปวโตฺต วิตโกฺก วินิจฺฉโยฯ โส ลาปิตเหตุกตฺตา ปริเยสนมูลกตาย ปริเยสนาคฺคหเณเนว คหิโต, ตถา ปริคฺคหมจฺฉริยานิฯ ตตฺถ ปริคฺคโห ‘‘มม อิท’’นฺติ ปริคฺคณฺหนํฯ มจฺฉริยํ ‘‘มเยฺหว โหตู’’ติ ปเรหิ สาธารณภาวาสหนํฯ เตเนวสฺส โปราณา เอวํ วจนตฺถํ วทนฺติ ‘‘มเยฺหวิทมจฺฉริยํ โหตุ, มา อเญฺญสํ อจฺฉริยํ โหตูติ ปวตฺตตฺตา มจฺฉริยนฺติ วุจฺจตี’’ติ (ที. นิ. อฎฺฐ. ๒.๑๐๓; อ. นิ. อฎฺฐ. ๓.๙.๒๓)ฯ ปริโภคตฺถานํ ปน วินิจฺฉยาทีนํ ปริโภคโนฺตคธตา เวทิตพฺพาฯ ฉนฺทราโค ทุพฺพลราโคฯ อโชฺฌสานํ ‘‘มม อิท’’นฺติ ตณฺหาวเสน พลวสนฺนิฎฺฐานนฺติ อาห ‘‘ฉนฺทราคอโชฺฌสานา ตณฺหา เอวา’’ติฯ อารกฺขนิมิตฺตํ ทฺวารปิทหนมญฺชูสาโคปนาทินา สุฎฺฐุ รกฺขณนิมิตฺตํฯ ปาปานิ กโรโนฺต ปริโภคนิมิตฺตํ รโตฺต คิโทฺธ คธิโต มุจฺฉิโต หุตฺวา มิโคว ปริภุญฺชนนิมิตฺตํ ปมาทํ อาปชฺชตีติ เอวํ ปริเยนารกฺขา ปริโภคนิมิตฺตํฯ ปมาโท ติวิโธ ตณฺหาย วเสน กถิโตติ ทเสฺสโนฺต ‘‘ติวิโธ ตณฺหายาติ วุตฺต’’นฺติ อาหฯ

    Nti taṃ desanaṃ. Tassāti sabhāgādivasena āvaṭṭanassa. Paripakkañāṇānaṃ visesādhigamāya. Lābhavinicchayapariggahamacchariyānītiādīsu lābhoti rūpādiārammaṇappaṭilābho. So pariyesanāya sati hotīti pariyesanāggahaṇena gahito. Vinicchayoti ‘‘ettakaṃ me rūpārammaṇatthāya bhavissati, ettakaṃ saddādiārammaṇatthāya, ettakaṃ mayhaṃ, ettakaṃ parassa, ettakaṃ paribhuñjissāmi, ettakaṃ nidahissāmī’’ti evaṃ pavatto vitakko vinicchayo. So lāpitahetukattā pariyesanamūlakatāya pariyesanāggahaṇeneva gahito, tathā pariggahamacchariyāni. Tattha pariggaho ‘‘mama ida’’nti pariggaṇhanaṃ. Macchariyaṃ ‘‘mayheva hotū’’ti parehi sādhāraṇabhāvāsahanaṃ. Tenevassa porāṇā evaṃ vacanatthaṃ vadanti ‘‘mayhevidamacchariyaṃ hotu, mā aññesaṃ acchariyaṃ hotūti pavattattā macchariyanti vuccatī’’ti (dī. ni. aṭṭha. 2.103; a. ni. aṭṭha. 3.9.23). Paribhogatthānaṃ pana vinicchayādīnaṃ paribhogantogadhatā veditabbā. Chandarāgo dubbalarāgo. Ajjhosānaṃ ‘‘mama ida’’nti taṇhāvasena balavasanniṭṭhānanti āha ‘‘chandarāgaajjhosānā taṇhā evā’’ti. Ārakkhanimittaṃ dvārapidahanamañjūsāgopanādinā suṭṭhu rakkhaṇanimittaṃ. Pāpāni karonto paribhoganimittaṃ ratto giddho gadhito mucchito hutvā migova paribhuñjananimittaṃ pamādaṃ āpajjatīti evaṃ pariyenārakkhā paribhoganimittaṃ. Pamādo tividho taṇhāya vasena kathitoti dassento ‘‘tividho taṇhāyāti vutta’’nti āha.

    อวิเสเสน วุตฺตนฺติ ‘‘กตเมน อุปาทาเนน สอุปาทานา’’ติ วิภาเคน ปุจฺฉิตฺวาปิ ‘‘อวิชฺชาย จ ตณฺหาย จา’’ติ อวินิพฺภุชิตฺวา วุตฺตํฯ ตณฺหญฺจ อวิชฺชญฺจ จตุรุปาทานํ วเสนาติ กามุปาทานาทีนํ จตุนฺนํ อุปาทานานํ วเสน วิภชิตฺวา ขนฺธานํ ทุกฺขภาเวน ทุกฺขสจฺจภาเวน สห ปริเญฺญยฺยภาวํ, อุปาทานานํ สมุทยภาเวน สมุทยสจฺจภาเวน สห ปหาตพฺพภาวํ ทเสฺสตีติ โยชนาฯ

    Avisesena vuttanti ‘‘katamena upādānena saupādānā’’ti vibhāgena pucchitvāpi ‘‘avijjāya ca taṇhāya cā’’ti avinibbhujitvā vuttaṃ. Taṇhañca avijjañca caturupādānaṃvasenāti kāmupādānādīnaṃ catunnaṃ upādānānaṃ vasena vibhajitvā khandhānaṃ dukkhabhāvena dukkhasaccabhāvena saha pariññeyyabhāvaṃ, upādānānaṃ samudayabhāvena samudayasaccabhāvena saha pahātabbabhāvaṃ dassetīti yojanā.

    ๓๐. ‘‘โย’’ติอาทินา วุโตฺต ติวิโธ ปมาโท ปริเยสติ, อารกฺขณญฺจ กโรติ, ปริโภคนิมิตฺตญฺจาติ สมฺพโนฺธฯ ปมาโท หิ ปมชฺชนฺตสฺส ปุคฺคลสฺส โภคานํ ปริเยสนาย, อารกฺขณาย จ เหตุภูโต กตฺตุภาเวน อุปจริโต, ปริโภคสฺส ปน นิมิตฺตํฯ ‘‘ตปฺปฎิปเกฺขนา’’ติ ปทสฺส อตฺถํ วิวรติ ‘‘อปฺปมาทานุโยเคนา’’ติ, เตน สมถภาวํ ทเสฺสติ ฯ เขปนาติ ขยปาปนาฯ โวทานปกฺขวิสภาคธมฺมวเสนาติ โวทานปโกฺข จ โส ปมาทสฺส วิสภาคธโมฺม จาติ โวทาน…เป.… ธโมฺม, สมโถ, ตสฺส วเสนฯ

    30.‘‘Yo’’tiādinā vutto tividho pamādo pariyesati, ārakkhaṇañca karoti, paribhoganimittañcāti sambandho. Pamādo hi pamajjantassa puggalassa bhogānaṃ pariyesanāya, ārakkhaṇāya ca hetubhūto kattubhāvena upacarito, paribhogassa pana nimittaṃ. ‘‘Tappaṭipakkhenā’’ti padassa atthaṃ vivarati ‘‘appamādānuyogenā’’ti, tena samathabhāvaṃ dasseti . Khepanāti khayapāpanā. Vodānapakkhavisabhāgadhammavasenāti vodānapakkho ca so pamādassa visabhāgadhammo cāti vodāna…pe… dhammo, samatho, tassa vasena.

    สมเถ สตีติ อธิฎฺฐานภูเต ฌาเน สติ, ตํ ปาทกํ กตฺวาติ อโตฺถฯ ยา ปญฺญาติ นามรูปปริเจฺฉทาทิวเสน ปวตฺตปญฺญาฯ เตนาห ‘‘อยํ วิปสฺสนา’’ติฯ ปหีเนสูติ ปหียมาเนสุฯ

    Samathe satīti adhiṭṭhānabhūte jhāne sati, taṃ pādakaṃ katvāti attho. Yā paññāti nāmarūpaparicchedādivasena pavattapaññā. Tenāha ‘‘ayaṃ vipassanā’’ti. Pahīnesūti pahīyamānesu.

    โวทานปกฺขนฺติ อารมฺภธาตุอาทิโวทานปกฺขํ นิกฺขิปิตฺวาฯ วิสภาคธมฺมวเสนาติ ปมาทวเสเนวฯ สภาคธมฺมวเสนาติ ปุเพฺพ นิกฺขิตฺตสฺส อารมฺภธาตุอาทิโวทานธมฺมสฺส สมถาทิสภาคธมฺมวเสนฯ

    Vodānapakkhanti ārambhadhātuādivodānapakkhaṃ nikkhipitvā. Visabhāgadhammavasenāti pamādavaseneva. Sabhāgadhammavasenāti pubbe nikkhittassa ārambhadhātuādivodānadhammassa samathādisabhāgadhammavasena.

    ปุน อปริโยทาปนิยํ สิขาปฺปตฺตปริโยทาปนํ อิธาธิเปฺปตนฺติ อาห ‘‘ตํ ปน อรหเตฺตน โหตี’’ติฯ

    Puna apariyodāpaniyaṃ sikhāppattapariyodāpanaṃ idhādhippetanti āha ‘‘taṃ pana arahattena hotī’’ti.

    โมหสมุฎฺฐานตา วุตฺตา ‘‘โมโห เอว สมุฎฺฐาน’’นฺติ กตฺวาฯ อญฺญถา ปิสุณาวาจาย โทสสมุฎฺฐานตา มุสาวาทสฺส วิย โมหสมุฎฺฐานภาวา วตฺตพฺพา สิยาฯ

    Mohasamuṭṭhānatā vuttā ‘‘moho eva samuṭṭhāna’’nti katvā. Aññathā pisuṇāvācāya dosasamuṭṭhānatā musāvādassa viya mohasamuṭṭhānabhāvā vattabbā siyā.

    กมฺมปถภาวํ ปตฺตานํ, อปฺปตฺตานญฺจ อกุสลธมฺมานํ ‘‘สพฺพปาป’’นฺติ ปเทน ปริคฺคหิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘กมฺมปถกมฺมวิภาเคนา’’ติฯ

    Kammapathabhāvaṃ pattānaṃ, appattānañca akusaladhammānaṃ ‘‘sabbapāpa’’nti padena pariggahitattā vuttaṃ ‘‘kammapathakammavibhāgenā’’ti.

    ๓๑. เสสปทานนฺติ ‘‘กุสลสฺส อุปสมฺปทา’’ติอาทีนํ (ที. นิ. ๒.๙๐; ธ. ป. ๑๘๓; เนตฺติ. ๓๐, ๕๐, ๑๑๖, ๑๒๔; เปฎโก. ๒๙) คาถาย อวสิฎฺฐปทานํฯ ยถาธิคตนฺติ อตฺตนา อธิคตปฺปการํ, ปจฺฉา ภูมิทิสาฯ

    31.Sesapadānanti ‘‘kusalassa upasampadā’’tiādīnaṃ (dī. ni. 2.90; dha. pa. 183; netti. 30, 50, 116, 124; peṭako. 29) gāthāya avasiṭṭhapadānaṃ. Yathādhigatanti attanā adhigatappakāraṃ, pacchā bhūmidisā.

    อุปริ ยาเปนฺตีติ มนุสฺสโลกโต อุปริฎฺฐิมํ เทวโลกํ คเมนฺติฯ

    Upariyāpentīti manussalokato upariṭṭhimaṃ devalokaṃ gamenti.

    ๓๒. ยถาวุตฺตสฺส ธมฺมสฺสาติ สีลสฺส จ มคฺคสฺส จฯ ตณฺหาวิชฺชาทีนนฺติ อาทิสเทฺทน ตเทกฎฺฐกิเลสา คยฺหนฺติ, เตสํ ปทฎฺฐานธมฺมา จฯ สมถวิปสฺสนาทีนนฺติ อาทิสเทฺทน สามญฺญผลานํ สงฺคโหฯ ยทเคฺคน เจตฺถ ‘‘นิโรโธ รกฺขตี’’ติ วุโตฺต, ตทเคฺคน มโคฺค รกฺขณกิริยาย กรณํ วุตฺตํ ‘‘เยน รกฺขตี’’ติฯ วิสภาคธมฺมวเสน ปุริมานิ สภาคธมฺมาวฎฺฎนวเสน ปจฺฉิมานิ สจฺจานิ นิทฺธาริตานีติ โยเชตพฺพํฯ

    32.Yathāvuttassa dhammassāti sīlassa ca maggassa ca. Taṇhāvijjādīnanti ādisaddena tadekaṭṭhakilesā gayhanti, tesaṃ padaṭṭhānadhammā ca. Samathavipassanādīnanti ādisaddena sāmaññaphalānaṃ saṅgaho. Yadaggena cettha ‘‘nirodho rakkhatī’’ti vutto, tadaggena maggo rakkhaṇakiriyāya karaṇaṃ vuttaṃ ‘‘yena rakkhatī’’ti. Visabhāgadhammavasena purimāni sabhāgadhammāvaṭṭanavasena pacchimāni saccāni niddhāritānīti yojetabbaṃ.

    อาวฎฺฎหารวิภงฺควณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Āvaṭṭahāravibhaṅgavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เนตฺติปฺปกรณปาฬิ • Nettippakaraṇapāḷi / ๗. อาวฎฺฎหารวิภโงฺค • 7. Āvaṭṭahāravibhaṅgo

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / เนตฺติปฺปกรณ-อฎฺฐกถา • Nettippakaraṇa-aṭṭhakathā / ๗. อาวฎฺฎหารวิภงฺควณฺณนา • 7. Āvaṭṭahāravibhaṅgavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / ขุทฺทกนิกาย (ฎีกา) • Khuddakanikāya (ṭīkā) / เนตฺติวิภาวินี • Nettivibhāvinī / ๗. อาวฎฺฎหารวิภงฺควิภาวนา • 7. Āvaṭṭahāravibhaṅgavibhāvanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact