Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / จูฬวคฺคปาฬิ • Cūḷavaggapāḷi |
อเวภงฺคิยวตฺถุ
Avebhaṅgiyavatthu
๓๒๒. อถ โข ภควา สาวตฺถิยํ ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน กีฎาคิริ เตน จาริกํ ปกฺกามิ มหตา ภิกฺขุสเงฺฆน สทฺธิํ ปญฺจมเตฺตหิ ภิกฺขุสเตหิ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนหิ จฯ อโสฺสสุํ โข อสฺสชิปุนพฺพสุกา ภิกฺขู – ‘‘ภควา กิร กีฎาคิริํ อาคจฺฉติ มหตา ภิกฺขุสเงฺฆน สทฺธิํ ปญฺจมเตฺตหิ ภิกฺขุสเตหิ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนหิ จ’’ฯ ‘‘หนฺท มยํ, อาวุโส, สพฺพํ สงฺฆิกํ เสนาสนํ ภาเชมฯ ปาปิจฺฉา สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา, ปาปิกานํ อิจฺฉานํ วสํ คตา; น มยํ เตสํ เสนาสนํ ปญฺญเปสฺสามา’’ติ, เต สพฺพํ สงฺฆิกํ เสนาสนํ ภาเชสุํฯ อถ โข ภควา อนุปุเพฺพน จาริกํ จรมาโน เยน กีฎาคิริ ตทวสริฯ อถ โข ภควา สมฺพหุเล ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘คจฺฉถ ตุเมฺห, ภิกฺขเว; อสฺสชิปุนพฺพสุเก ภิกฺขู อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วเทถ – ‘ภควา, อาวุโส, อาคจฺฉติ มหตา ภิกฺขุสเงฺฆน สทฺธิํ ปญฺจมเตฺตหิ ภิกฺขุสเตหิ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนหิ จฯ ภควโต จ, อาวุโส, เสนาสนํ ปญฺญเปถ, ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ, สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานานญฺจา’’’ติฯ ‘‘เอวํ ภเนฺต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปฎิสฺสุตฺวา เยน อสฺสชิปุนพฺพสุกา ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิํสุ, อุปสงฺกมิตฺวา อสฺสชิปุนพฺพสุเก ภิกฺขู เอตทโวจุํ – ‘‘ภควา, อาวุโส, อาคจฺฉติ มหตา ภิกฺขุสเงฺฆน สทฺธิํ ปญฺจมเตฺตหิ ภิกฺขุสเตหิ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนหิ จ ฯ ภควโต จ, อาวุโส, เสนาสนํ ปญฺญเปถ, ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ, สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานานญฺจา’’ติฯ ‘‘นตฺถาวุโส, สงฺฆิกํ เสนาสนํฯ สพฺพํ อเมฺหหิ ภาชิตํฯ สฺวาคตํ, อาวุโส, ภควโตฯ ยสฺมิํ วิหาเร ภควา อิจฺฉิสฺสติ ตสฺมิํ วิหาเร วสิสฺสติฯ ปาปิจฺฉา สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา, ปาปิกานํ อิจฺฉานํ วสํ คตาฯ น มยํ เตสํ เสนาสนํ ปญฺญเปสฺสามา’’ติฯ ‘‘กิํ ปน ตุเมฺห, อาวุโส, สงฺฆิกํ เสนาสนํ ภาชิตฺถา’’ติ? ‘‘เอวมาวุโส’’ติฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม อสฺสชิปุนพฺพสุกา ภิกฺขู สงฺฆิกํ เสนาสนํ ภาเชสฺสนฺตี’’ติ! อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… สจฺจํ กิร, ภิกฺขเว…เป.… ‘‘สจฺจํ ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… ‘‘กถญฺหิ นาม เต, ภิกฺขเว, โมฆปุริสา สงฺฆิกํ เสนาสนํ ภาเชสฺสนฺติ? เนตํ, ภิกฺขเว, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… วิครหิตฺวา…เป.… ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ –
322. Atha kho bhagavā sāvatthiyaṃ yathābhirantaṃ viharitvā yena kīṭāgiri tena cārikaṃ pakkāmi mahatā bhikkhusaṅghena saddhiṃ pañcamattehi bhikkhusatehi sāriputtamoggallānehi ca. Assosuṃ kho assajipunabbasukā bhikkhū – ‘‘bhagavā kira kīṭāgiriṃ āgacchati mahatā bhikkhusaṅghena saddhiṃ pañcamattehi bhikkhusatehi sāriputtamoggallānehi ca’’. ‘‘Handa mayaṃ, āvuso, sabbaṃ saṅghikaṃ senāsanaṃ bhājema. Pāpicchā sāriputtamoggallānā, pāpikānaṃ icchānaṃ vasaṃ gatā; na mayaṃ tesaṃ senāsanaṃ paññapessāmā’’ti, te sabbaṃ saṅghikaṃ senāsanaṃ bhājesuṃ. Atha kho bhagavā anupubbena cārikaṃ caramāno yena kīṭāgiri tadavasari. Atha kho bhagavā sambahule bhikkhū āmantesi – ‘‘gacchatha tumhe, bhikkhave; assajipunabbasuke bhikkhū upasaṅkamitvā evaṃ vadetha – ‘bhagavā, āvuso, āgacchati mahatā bhikkhusaṅghena saddhiṃ pañcamattehi bhikkhusatehi sāriputtamoggallānehi ca. Bhagavato ca, āvuso, senāsanaṃ paññapetha, bhikkhusaṅghassa ca, sāriputtamoggallānānañcā’’’ti. ‘‘Evaṃ bhante’’ti kho te bhikkhū bhagavato paṭissutvā yena assajipunabbasukā bhikkhū tenupasaṅkamiṃsu, upasaṅkamitvā assajipunabbasuke bhikkhū etadavocuṃ – ‘‘bhagavā, āvuso, āgacchati mahatā bhikkhusaṅghena saddhiṃ pañcamattehi bhikkhusatehi sāriputtamoggallānehi ca . Bhagavato ca, āvuso, senāsanaṃ paññapetha, bhikkhusaṅghassa ca, sāriputtamoggallānānañcā’’ti. ‘‘Natthāvuso, saṅghikaṃ senāsanaṃ. Sabbaṃ amhehi bhājitaṃ. Svāgataṃ, āvuso, bhagavato. Yasmiṃ vihāre bhagavā icchissati tasmiṃ vihāre vasissati. Pāpicchā sāriputtamoggallānā, pāpikānaṃ icchānaṃ vasaṃ gatā. Na mayaṃ tesaṃ senāsanaṃ paññapessāmā’’ti. ‘‘Kiṃ pana tumhe, āvuso, saṅghikaṃ senāsanaṃ bhājitthā’’ti? ‘‘Evamāvuso’’ti. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma assajipunabbasukā bhikkhū saṅghikaṃ senāsanaṃ bhājessantī’’ti! Atha kho te bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… saccaṃ kira, bhikkhave…pe… ‘‘saccaṃ bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… ‘‘kathañhi nāma te, bhikkhave, moghapurisā saṅghikaṃ senāsanaṃ bhājessanti? Netaṃ, bhikkhave, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… vigarahitvā…pe… dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi –
‘‘ปญฺจิมานิ, ภิกฺขเว, อเวภงฺคิยานิ 1, น วิภชิตพฺพานิ, สเงฺฆน วา คเณน วา ปุคฺคเลน วาฯ วิภตฺตานิปิ อวิภตฺตานิ โหนฺติฯ โย วิภเชยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ กตมานิ ปญฺจ? อาราโม, อารามวตฺถุ – อิทํ ปฐมํ อเวภงฺคิยํ, น วิภชิตพฺพํ, สเงฺฆน วา คเณน วา ปุคฺคเลน วาฯ วิภตฺตมฺปิ อวิภตฺตํ โหติฯ โย วิภเชยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ
‘‘Pañcimāni, bhikkhave, avebhaṅgiyāni 2, na vibhajitabbāni, saṅghena vā gaṇena vā puggalena vā. Vibhattānipi avibhattāni honti. Yo vibhajeyya, āpatti thullaccayassa. Katamāni pañca? Ārāmo, ārāmavatthu – idaṃ paṭhamaṃ avebhaṅgiyaṃ, na vibhajitabbaṃ, saṅghena vā gaṇena vā puggalena vā. Vibhattampi avibhattaṃ hoti. Yo vibhajeyya, āpatti thullaccayassa.
‘‘วิหาโร, วิหารวตฺถุ – อิทํ ทุติยํ อเวภงฺคิยํ, น วิภชิตพฺพํ, สเงฺฆน วา คเณน วา ปุคฺคเลน วาฯ วิภตฺตมฺปิ อวิภตฺตํ โหติฯ โย วิภเชยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ
‘‘Vihāro, vihāravatthu – idaṃ dutiyaṃ avebhaṅgiyaṃ, na vibhajitabbaṃ, saṅghena vā gaṇena vā puggalena vā. Vibhattampi avibhattaṃ hoti. Yo vibhajeyya, āpatti thullaccayassa.
‘‘มโญฺจ, ปีฐํ, ภิสิ, พิโพฺพหนํ – อิทํ ตติยํ อเวภงฺคิยํ, น วิภชิตพฺพํ, สเงฺฆน วา คเณน วา ปุคฺคเลน วาฯ วิภตฺตมฺปิ อวิภตฺตํ โหติฯ โย วิภเชยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ
‘‘Mañco, pīṭhaṃ, bhisi, bibbohanaṃ – idaṃ tatiyaṃ avebhaṅgiyaṃ, na vibhajitabbaṃ, saṅghena vā gaṇena vā puggalena vā. Vibhattampi avibhattaṃ hoti. Yo vibhajeyya, āpatti thullaccayassa.
‘‘โลหกุมฺภี, โลหภาณกํ, โลหวารโก, โลหกฎาหํ, วาสี, ปรสุ, กุฐารี, กุทาโล, นิขาทนํ – อิทํ จตุตฺถํ อเวภงฺคิยํ, น วิภชิตพฺพํ, สเงฺฆน วา คเณน วา ปุคฺคเลน วาฯ วิภตฺตมฺปิ อวิภตฺตํ โหติฯ โย วิภเชยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ
‘‘Lohakumbhī, lohabhāṇakaṃ, lohavārako, lohakaṭāhaṃ, vāsī, parasu, kuṭhārī, kudālo, nikhādanaṃ – idaṃ catutthaṃ avebhaṅgiyaṃ, na vibhajitabbaṃ, saṅghena vā gaṇena vā puggalena vā. Vibhattampi avibhattaṃ hoti. Yo vibhajeyya, āpatti thullaccayassa.
‘‘วลฺลี, เวฬุ, มุญฺชํ, ปพฺพชํ, ติณํ, มตฺติกา, ทารุภณฺฑํ, มตฺติกาภณฺฑํ – อิทํ ปญฺจมํ อเวภงฺคิยํ, น วิภชิตพฺพํ, สเงฺฆน วา คเณน วา ปุคฺคเลน วาฯ วิภตฺตมฺปิ อวิภตฺตํ โหติฯ โย วิภเชยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสฯ อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจ อเวภงฺคิยานิ, น วิภชิตพฺพานิ, สเงฺฆน วา คเณน วา ปุคฺคเลน วาฯ วิภตฺตานิปิ อวิภตฺตานิ โหนฺติฯ โย วิภเชยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติฯ
‘‘Vallī, veḷu, muñjaṃ, pabbajaṃ, tiṇaṃ, mattikā, dārubhaṇḍaṃ, mattikābhaṇḍaṃ – idaṃ pañcamaṃ avebhaṅgiyaṃ, na vibhajitabbaṃ, saṅghena vā gaṇena vā puggalena vā. Vibhattampi avibhattaṃ hoti. Yo vibhajeyya, āpatti thullaccayassa. Imāni kho, bhikkhave, pañca avebhaṅgiyāni, na vibhajitabbāni, saṅghena vā gaṇena vā puggalena vā. Vibhattānipi avibhattāni honti. Yo vibhajeyya, āpatti thullaccayassā’’ti.
Footnotes: