Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya |
๕. อวิชฺชาปจฺจยสุตฺตํ
5. Avijjāpaccayasuttaṃ
๓๕. สาวตฺถิยํ วิหรติ…เป.… ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา, ภิกฺขเว, สงฺขารา; สงฺขารปจฺจยา วิญฺญาณํ…เป.… เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหตี’’ติฯ เอวํ วุเตฺต, อญฺญตโร ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘‘กตมํ นุ โข, ภเนฺต, ชรามรณํ, กสฺส จ ปนิทํ ชรามรณ’นฺติ? ‘โน กโลฺล ปโญฺห’ติ ภควา อโวจ, ‘กตมํ ชรามรณํ , กสฺส จ ปนิทํ ชรามรณ’นฺติ อิติ วา, ภิกฺขุ, โย วเทยฺย, ‘อญฺญํ ชรามรณํ อญฺญสฺส จ ปนิทํ ชรามรณ’นฺติ, อิติ วา, ภิกฺขุ, โย วเทยฺย, อุภยเมตํ เอกตฺถํ พฺยญฺชนเมว นานํฯ ตํ ชีวํ ตํ สรีรนฺติ วา, ภิกฺขุ, ทิฎฺฐิยา สติ พฺรหฺมจริยวาโส น โหติฯ อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีรนฺติ วา, ภิกฺขุ , ทิฎฺฐิยา สติ พฺรหฺมจริยวาโส น โหติฯ เอเต เต, ภิกฺขุ, อุโภ อเนฺต อนุปคมฺม มเชฺฌน ตถาคโต ธมฺมํ เทเสติ – ‘ชาติปจฺจยา ชรามรณ’’’นฺติฯ
35. Sāvatthiyaṃ viharati…pe… ‘‘avijjāpaccayā, bhikkhave, saṅkhārā; saṅkhārapaccayā viññāṇaṃ…pe… evametassa kevalassa dukkhakkhandhassa samudayo hotī’’ti. Evaṃ vutte, aññataro bhikkhu bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘‘katamaṃ nu kho, bhante, jarāmaraṇaṃ, kassa ca panidaṃ jarāmaraṇa’nti? ‘No kallo pañho’ti bhagavā avoca, ‘katamaṃ jarāmaraṇaṃ , kassa ca panidaṃ jarāmaraṇa’nti iti vā, bhikkhu, yo vadeyya, ‘aññaṃ jarāmaraṇaṃ aññassa ca panidaṃ jarāmaraṇa’nti, iti vā, bhikkhu, yo vadeyya, ubhayametaṃ ekatthaṃ byañjanameva nānaṃ. Taṃ jīvaṃ taṃ sarīranti vā, bhikkhu, diṭṭhiyā sati brahmacariyavāso na hoti. Aññaṃ jīvaṃ aññaṃ sarīranti vā, bhikkhu , diṭṭhiyā sati brahmacariyavāso na hoti. Ete te, bhikkhu, ubho ante anupagamma majjhena tathāgato dhammaṃ deseti – ‘jātipaccayā jarāmaraṇa’’’nti.
‘‘กตมา นุ โข, ภเนฺต, ชาติ, กสฺส จ ปนายํ ชาตี’’ติ? ‘‘โน กโลฺล ปโญฺห’’ติ ภควา อโวจ, ‘‘‘กตมา ชาติ, กสฺส จ ปนายํ ชาตี’ติ อิติ วา, ภิกฺขุ, โย วเทยฺย, ‘อญฺญา ชาติ อญฺญสฺส จ ปนายํ ชาตี’ติ อิติ วา, ภิกฺขุ, โย วเทยฺย, อุภยเมตํ เอกตฺถํ พฺยญฺชนเมว นานํฯ ตํ ชีวํ ตํ สรีรนฺติ วา, ภิกฺขุ, ทิฎฺฐิยา สติ พฺรหฺมจริยวาโส น โหติฯ อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีรนฺติ วา, ภิกฺขุ, ทิฎฺฐิยา สติ พฺรหฺมจริยวาโส น โหติฯ เอเต เต, ภิกฺขุ, อุโภ อเนฺต อนุปคมฺม มเชฺฌน ตถาคโต ธมฺมํ เทเสติ – ‘ภวปจฺจยา ชาตี’’’ติฯ
‘‘Katamā nu kho, bhante, jāti, kassa ca panāyaṃ jātī’’ti? ‘‘No kallo pañho’’ti bhagavā avoca, ‘‘‘katamā jāti, kassa ca panāyaṃ jātī’ti iti vā, bhikkhu, yo vadeyya, ‘aññā jāti aññassa ca panāyaṃ jātī’ti iti vā, bhikkhu, yo vadeyya, ubhayametaṃ ekatthaṃ byañjanameva nānaṃ. Taṃ jīvaṃ taṃ sarīranti vā, bhikkhu, diṭṭhiyā sati brahmacariyavāso na hoti. Aññaṃ jīvaṃ aññaṃ sarīranti vā, bhikkhu, diṭṭhiyā sati brahmacariyavāso na hoti. Ete te, bhikkhu, ubho ante anupagamma majjhena tathāgato dhammaṃ deseti – ‘bhavapaccayā jātī’’’ti.
‘‘กตโม นุ โข, ภเนฺต, ภโว, กสฺส จ ปนายํ ภโว’’ติ? ‘‘โน กโลฺล ปโญฺห’’ติ ภควา อโวจ, ‘‘‘กตโม ภโว, กสฺส จ ปนายํ ภโว’ติ อิติ วา, ภิกฺขุ, โย วเทยฺย, ‘อโญฺญ ภโว อญฺญสฺส จ ปนายํ ภโว’ติ อิติ วา, ภิกฺขุ, โย วเทยฺย, อุภยเมตํ เอกตฺถํ พฺยญฺชนเมว นานํฯ ตํ ชีวํ ตํ สรีรนฺติ วา, ภิกฺขุ, ทิฎฺฐิยา สติ พฺรหฺมจริยวาโส น โหติ; อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีรนฺติ วา, ภิกฺขุ, ทิฎฺฐิยา สติ พฺรหฺมจริยวาโส น โหติฯ เอเต เต, ภิกฺขุ, อุโภ อเนฺต อนุปคมฺม มเชฺฌน ตถาคโต ธมฺมํ เทเสติ – ‘อุปาทานปจฺจยา ภโว’ติ…เป.… ‘ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานนฺติ… เวทนาปจฺจยา ตณฺหาติ… ผสฺสปจฺจยา เวทนาติ… สฬายตนปจฺจยา ผโสฺสติ… นามรูปปจฺจยา สฬายตนนฺติ… วิญฺญาณปจฺจยา นามรูปนฺติ… สงฺขารปจฺจยา วิญฺญาณ’’’นฺติฯ
‘‘Katamo nu kho, bhante, bhavo, kassa ca panāyaṃ bhavo’’ti? ‘‘No kallo pañho’’ti bhagavā avoca, ‘‘‘katamo bhavo, kassa ca panāyaṃ bhavo’ti iti vā, bhikkhu, yo vadeyya, ‘añño bhavo aññassa ca panāyaṃ bhavo’ti iti vā, bhikkhu, yo vadeyya, ubhayametaṃ ekatthaṃ byañjanameva nānaṃ. Taṃ jīvaṃ taṃ sarīranti vā, bhikkhu, diṭṭhiyā sati brahmacariyavāso na hoti; aññaṃ jīvaṃ aññaṃ sarīranti vā, bhikkhu, diṭṭhiyā sati brahmacariyavāso na hoti. Ete te, bhikkhu, ubho ante anupagamma majjhena tathāgato dhammaṃ deseti – ‘upādānapaccayā bhavo’ti…pe… ‘taṇhāpaccayā upādānanti… vedanāpaccayā taṇhāti… phassapaccayā vedanāti… saḷāyatanapaccayā phassoti… nāmarūpapaccayā saḷāyatananti… viññāṇapaccayā nāmarūpanti… saṅkhārapaccayā viññāṇa’’’nti.
‘‘กตเม นุ โข, ภเนฺต, สงฺขารา, กสฺส จ ปนิเม สงฺขารา’’ติ? ‘‘โน กโลฺล ปโญฺห’’ติ ภควา อโวจ, ‘‘‘กตเม สงฺขารา กสฺส จ ปนิเม สงฺขารา’ติ อิติ วา, ภิกฺขุ, โย วเทยฺย, ‘อเญฺญ สงฺขารา อญฺญสฺส จ ปนิเม สงฺขารา’ติ อิติ วา, ภิกฺขุ, โย วเทยฺย, อุภยเมตํ เอกตฺถํ พฺยญฺชนเมว นานํฯ ตํ ชีวํ ตํ สรีรนฺติ วา, ภิกฺขุ, ทิฎฺฐิยา สติ พฺรหฺมจริยวาโส น โหติ; อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีรนฺติ วา, ภิกฺขุ, ทิฎฺฐิยา สติ พฺรหฺมจริยวาโส น โหติฯ เอเต เต, ภิกฺขุ, อุโภ อเนฺต อนุปคมฺม มเชฺฌน ตถาคโต ธมฺมํ เทเสติ – ‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’’ติฯ
‘‘Katame nu kho, bhante, saṅkhārā, kassa ca panime saṅkhārā’’ti? ‘‘No kallo pañho’’ti bhagavā avoca, ‘‘‘katame saṅkhārā kassa ca panime saṅkhārā’ti iti vā, bhikkhu, yo vadeyya, ‘aññe saṅkhārā aññassa ca panime saṅkhārā’ti iti vā, bhikkhu, yo vadeyya, ubhayametaṃ ekatthaṃ byañjanameva nānaṃ. Taṃ jīvaṃ taṃ sarīranti vā, bhikkhu, diṭṭhiyā sati brahmacariyavāso na hoti; aññaṃ jīvaṃ aññaṃ sarīranti vā, bhikkhu, diṭṭhiyā sati brahmacariyavāso na hoti. Ete te, bhikkhu, ubho ante anupagamma majjhena tathāgato dhammaṃ deseti – ‘avijjāpaccayā saṅkhārā’’’ti.
‘‘อวิชฺชาย เตฺวว, ภิกฺขุ, อเสสวิราคนิโรธา ยานิสฺส ตานิ วิสูกายิกานิ วิเสวิตานิ วิปฺผนฺทิตานิ กานิจิ กานิจิฯ ‘กตมํ ชรามรณํ, กสฺส จ ปนิทํ ชรามรณํ’ อิติ วา, ‘อญฺญํ ชรามรณํ, อญฺญสฺส จ ปนิทํ ชรามรณํ’ อิติ วา, ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ’ อิติ วา, ‘อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีรํ’ อิติ วาฯ สพฺพานิสฺส ตานิ ปหีนานิ ภวนฺติ อุจฺฉินฺนมูลานิ ตาลาวตฺถุกตานิ อนภาวงฺกตานิ อายติํ อนุปฺปาทธมฺมานิฯ
‘‘Avijjāya tveva, bhikkhu, asesavirāganirodhā yānissa tāni visūkāyikāni visevitāni vipphanditāni kānici kānici. ‘Katamaṃ jarāmaraṇaṃ, kassa ca panidaṃ jarāmaraṇaṃ’ iti vā, ‘aññaṃ jarāmaraṇaṃ, aññassa ca panidaṃ jarāmaraṇaṃ’ iti vā, ‘taṃ jīvaṃ taṃ sarīraṃ’ iti vā, ‘aññaṃ jīvaṃ aññaṃ sarīraṃ’ iti vā. Sabbānissa tāni pahīnāni bhavanti ucchinnamūlāni tālāvatthukatāni anabhāvaṅkatāni āyatiṃ anuppādadhammāni.
‘‘อวิชฺชาย เตฺวว, ภิกฺขุ, อเสสวิราคนิโรธา ยานิสฺส ตานิ วิสูกายิกานิ วิเสวิตานิ วิปฺผนฺทิตานิ กานิจิ กานิจิฯ ‘กตมา ชาติ, กสฺส จ ปนายํ ชาติ’ อิติ วา, ‘อญฺญา ชาติ, อญฺญสฺส จ ปนายํ ชาติ’ อิติ วา, ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ’ อิติ วา, ‘อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีรํ’ อิติ วาฯ สพฺพานิสฺส ตานิ ปหีนานิ ภวนฺติ อุจฺฉินฺนมูลานิ ตาลาวตฺถุกตานิ อนภาวงฺกตานิ อายติํ อนุปฺปาทธมฺมานิฯ
‘‘Avijjāya tveva, bhikkhu, asesavirāganirodhā yānissa tāni visūkāyikāni visevitāni vipphanditāni kānici kānici. ‘Katamā jāti, kassa ca panāyaṃ jāti’ iti vā, ‘aññā jāti, aññassa ca panāyaṃ jāti’ iti vā, ‘taṃ jīvaṃ taṃ sarīraṃ’ iti vā, ‘aññaṃ jīvaṃ aññaṃ sarīraṃ’ iti vā. Sabbānissa tāni pahīnāni bhavanti ucchinnamūlāni tālāvatthukatāni anabhāvaṅkatāni āyatiṃ anuppādadhammāni.
‘‘อวิชฺชาย เตฺวว, ภิกฺขุ, อเสสวิราคนิโรธา ยานิสฺส ตานิ วิสูกายิกานิ วิเสวิตานิ วิปฺผนฺทิตานิ กานิจิ กานิจิฯ กตโม ภโว…เป.… กตมํ อุปาทานํ… กตมา ตณฺหา… กตมา เวทนา… กตโม ผโสฺส… กตมํ สฬายตนํ… กตมํ นามรูปํ… กตมํ วิญฺญาณํ…เป.…ฯ
‘‘Avijjāya tveva, bhikkhu, asesavirāganirodhā yānissa tāni visūkāyikāni visevitāni vipphanditāni kānici kānici. Katamo bhavo…pe… katamaṃ upādānaṃ… katamā taṇhā… katamā vedanā… katamo phasso… katamaṃ saḷāyatanaṃ… katamaṃ nāmarūpaṃ… katamaṃ viññāṇaṃ…pe….
‘‘อวิชฺชาย เตฺวว, ภิกฺขุ, อเสสวิราคนิโรธา ยานิสฺส ตานิ วิสูกายิกานิ วิเสวิตานิ วิปฺผนฺทิตานิ กานิจิ กานิจิฯ ‘กตเม สงฺขารา, กสฺส จ ปนิเม สงฺขารา’ อิติ วา, ‘อเญฺญ สงฺขารา, อญฺญสฺส จ ปนิเม สงฺขารา’ อิติ วา, ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ’ อิติ วา, ‘อญฺญํ ชีวํ, อญฺญํ สรีรํ’ อิติ วาฯ สพฺพานิสฺส ตานิ ปหีนานิ ภวนฺติ อุจฺฉินฺนมูลานิ ตาลาวตฺถุกตานิ อนภาวงฺกตานิ อายติํ อนุปฺปาทธมฺมานี’’ติฯ ปญฺจมํฯ
‘‘Avijjāya tveva, bhikkhu, asesavirāganirodhā yānissa tāni visūkāyikāni visevitāni vipphanditāni kānici kānici. ‘Katame saṅkhārā, kassa ca panime saṅkhārā’ iti vā, ‘aññe saṅkhārā, aññassa ca panime saṅkhārā’ iti vā, ‘taṃ jīvaṃ taṃ sarīraṃ’ iti vā, ‘aññaṃ jīvaṃ, aññaṃ sarīraṃ’ iti vā. Sabbānissa tāni pahīnāni bhavanti ucchinnamūlāni tālāvatthukatāni anabhāvaṅkatāni āyatiṃ anuppādadhammānī’’ti. Pañcamaṃ.
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๕. อวิชฺชาปจฺจยสุตฺตวณฺณนา • 5. Avijjāpaccayasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๕. อวิชฺชาปจฺจยสุตฺตวณฺณนา • 5. Avijjāpaccayasuttavaṇṇanā