Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) |
๕. อวิชฺชาปจฺจยสุตฺตวณฺณนา
5. Avijjāpaccayasuttavaṇṇanā
๓๕. ปญฺจเม สมุทโย โหตีติ สตฺถา อิเธว เทสนํ โอสาเปสิฯ กิํการณาติ? ทิฎฺฐิคติกสฺส โอกาสทานตฺถํฯ ตสฺสญฺหิ ปริสติ อุปารมฺภจิโตฺต ทิฎฺฐิคติโก อตฺถิ, โส ปญฺหํ ปุจฺฉิสฺสติ, อถสฺสาหํ วิสฺสเชฺชสฺสามีติ ตสฺส โอกาสทานตฺถํ เทสนํ โอสาเปสิฯ โน กโลฺล ปโญฺหติ อยุโตฺต ปโญฺหฯ ทุปฺปโญฺห เอโสติ อโตฺถฯ นนุ จ ‘‘กตมํ นุ โข, ภเนฺต, ชรามรณ’’นฺติ? อิทํ สุปุจฺฉิตนฺติฯ กิญฺจาปิ สุปุจฺฉิตํ, ยถา ปน สตสหสฺสคฺฆนิเก สุวณฺณถาเล วฑฺฒิตสฺส สุโภชนสฺส มตฺถเก อามลกมเตฺตปิ คูถปิเณฺฑ ฐปิเต สพฺพํ โภชนํ ทุโพฺภชนํ โหติ ฉเฑฺฑตพฺพํ, เอวเมว ‘‘กสฺส จ ปนิทํ ชรามรณ’’นฺติ? อิมินา สตฺตูปลทฺธิวาทปเทน คูถปิเณฺฑน ตํ โภชนํ ทุโพฺภชนํ วิย อยมฺปิ สโพฺพ ทุปฺปโญฺหว ชาโตติฯ
35. Pañcame samudayo hotīti satthā idheva desanaṃ osāpesi. Kiṃkāraṇāti? Diṭṭhigatikassa okāsadānatthaṃ. Tassañhi parisati upārambhacitto diṭṭhigatiko atthi, so pañhaṃ pucchissati, athassāhaṃ vissajjessāmīti tassa okāsadānatthaṃ desanaṃ osāpesi. No kallo pañhoti ayutto pañho. Duppañho esoti attho. Nanu ca ‘‘katamaṃ nu kho, bhante, jarāmaraṇa’’nti? Idaṃ supucchitanti. Kiñcāpi supucchitaṃ, yathā pana satasahassagghanike suvaṇṇathāle vaḍḍhitassa subhojanassa matthake āmalakamattepi gūthapiṇḍe ṭhapite sabbaṃ bhojanaṃ dubbhojanaṃ hoti chaḍḍetabbaṃ, evameva ‘‘kassa ca panidaṃ jarāmaraṇa’’nti? Iminā sattūpaladdhivādapadena gūthapiṇḍena taṃ bhojanaṃ dubbhojanaṃ viya ayampi sabbo duppañhova jātoti.
พฺรหฺมจริยวาโสติ อริยมคฺควาโสฯ ตํ ชีวํ ตํ สรีรนฺติ ยสฺส หิ อยํ ทิฎฺฐิ, โส ‘‘ชีเว อุจฺฉิชฺชมาเน สรีรํ อุจฺฉิชฺชติ, สรีเร อุจฺฉิชฺชเนฺต ชีวิตํ อุจฺฉิชฺชตี’’ติ คณฺหาติฯ เอวํ คณฺหโต สา ทิฎฺฐิ ‘‘สโตฺต อุจฺฉิชฺชตี’’ติ คหิตตฺตา อุเจฺฉททิฎฺฐิ นาม โหติ ฯ สเจ ปน สงฺขาราว อุปฺปชฺชนฺติ เจว นิรุชฺฌนฺติ จาติ คเณฺหยฺย, สาสนาวจรา สมฺมาทิฎฺฐิ นาม ภเวยฺยฯ อริยมโคฺค จ นาเมโส วฎฺฎํ นิโรเธโนฺต วฎฺฎํ สมุจฺฉินฺทโนฺต อุปฺปชฺชติ , ตเทว ตํ วฎฺฎํ อุเจฺฉททิฎฺฐิยา คหิตาการสฺส สมฺภเว สติ วินาว มคฺคภาวนาย นิรุชฺฌตีติ มคฺคภาวนา นิรตฺถกา โหติฯ เตน วุตฺตํ ‘‘พฺรหฺมจริยวาโส น โหตี’’ติฯ
Brahmacariyavāsoti ariyamaggavāso. Taṃ jīvaṃ taṃ sarīranti yassa hi ayaṃ diṭṭhi, so ‘‘jīve ucchijjamāne sarīraṃ ucchijjati, sarīre ucchijjante jīvitaṃ ucchijjatī’’ti gaṇhāti. Evaṃ gaṇhato sā diṭṭhi ‘‘satto ucchijjatī’’ti gahitattā ucchedadiṭṭhi nāma hoti . Sace pana saṅkhārāva uppajjanti ceva nirujjhanti cāti gaṇheyya, sāsanāvacarā sammādiṭṭhi nāma bhaveyya. Ariyamaggo ca nāmeso vaṭṭaṃ nirodhento vaṭṭaṃ samucchindanto uppajjati , tadeva taṃ vaṭṭaṃ ucchedadiṭṭhiyā gahitākārassa sambhave sati vināva maggabhāvanāya nirujjhatīti maggabhāvanā niratthakā hoti. Tena vuttaṃ ‘‘brahmacariyavāso na hotī’’ti.
ทุติยนเย อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีรนฺติ ยสฺส อยํ ทิฎฺฐิ, โส ‘‘สรีรํ อิเธว อุจฺฉิชฺชติ, น ชีวิตํ, ชีวิตํ ปน ปญฺชรโต สกุโณ วิย ยถาสุขํ คจฺฉตี’’ติ คณฺหาติฯ เอวํ คณฺหโต สา ทิฎฺฐิ ‘‘อิมสฺมา โลกา ชีวิตํ ปรโลกํ คต’’นฺติ คหิตตฺตา สสฺสตทิฎฺฐิ นาม โหติฯ อยญฺจ อริยมโคฺค เตภูมกวฎฺฎํ วิวเฎฺฎโนฺต อุปฺปชฺชติ, โส เอกสงฺขาเรปิ นิเจฺจ ธุเว สสฺสเต สติ อุปฺปโนฺนปิ วฎฺฎํ วิวเฎฺฎตุํ น สโกฺกตีติ มคฺคภาวนา นิรตฺถกา โหติฯ เตน วุตฺตํ ‘‘อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีรนฺติ วา ภิกฺขุ ทิฎฺฐิยา สติ พฺรหฺมจริยวาโส น โหตี’’ติฯ
Dutiyanaye aññaṃ jīvaṃ aññaṃ sarīranti yassa ayaṃ diṭṭhi, so ‘‘sarīraṃ idheva ucchijjati, na jīvitaṃ, jīvitaṃ pana pañjarato sakuṇo viya yathāsukhaṃ gacchatī’’ti gaṇhāti. Evaṃ gaṇhato sā diṭṭhi ‘‘imasmā lokā jīvitaṃ paralokaṃ gata’’nti gahitattā sassatadiṭṭhi nāma hoti. Ayañca ariyamaggo tebhūmakavaṭṭaṃ vivaṭṭento uppajjati, so ekasaṅkhārepi nicce dhuve sassate sati uppannopi vaṭṭaṃ vivaṭṭetuṃ na sakkotīti maggabhāvanā niratthakā hoti. Tena vuttaṃ ‘‘aññaṃ jīvaṃ aññaṃ sarīranti vā bhikkhu diṭṭhiyā sati brahmacariyavāso na hotī’’ti.
วิสูกายิกานีติอาทิ สพฺพํ มิจฺฉาทิฎฺฐิเววจนเมวฯ สา หิ สมฺมาทิฎฺฐิยา วินิวิชฺฌนเฎฺฐน วิสูกมิว อตฺตานํ อาวรณโต วิสูกายิกํ, สมฺมาทิฎฺฐิํ อนนุวตฺติตฺวา ตสฺสา วิโรเธน ปวตฺตนโต วิเสวิตํ, กทาจิ อุเจฺฉทสฺส กทาจิ สสฺสตสฺส คหณโต วิรูปํ ผนฺทิตํ วิปฺผนฺทิตนฺติ วุจฺจติฯ ตาลาวตฺถุกตานีติ ตาลวตฺถุ วิย กตานิ, ปุน อวิรุหณเฎฺฐน มตฺถกจฺฉินฺนตาโล วิย สมูลํ ตาลํ อุทฺธริตฺวา ตสฺส ปติฎฺฐิตฎฺฐานํ วิย จ กตานีติ อโตฺถฯ อนภาวํกตานีติ อนุอภาวํ กตานีติฯ ปญฺจมํฯ
Visūkāyikānītiādi sabbaṃ micchādiṭṭhivevacanameva. Sā hi sammādiṭṭhiyā vinivijjhanaṭṭhena visūkamiva attānaṃ āvaraṇato visūkāyikaṃ, sammādiṭṭhiṃ ananuvattitvā tassā virodhena pavattanato visevitaṃ, kadāci ucchedassa kadāci sassatassa gahaṇato virūpaṃ phanditaṃ vipphanditanti vuccati. Tālāvatthukatānīti tālavatthu viya katāni, puna aviruhaṇaṭṭhena matthakacchinnatālo viya samūlaṃ tālaṃ uddharitvā tassa patiṭṭhitaṭṭhānaṃ viya ca katānīti attho. Anabhāvaṃkatānīti anuabhāvaṃ katānīti. Pañcamaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๕. อวิชฺชาปจฺจยสุตฺตํ • 5. Avijjāpaccayasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๕. อวิชฺชาปจฺจยสุตฺตวณฺณนา • 5. Avijjāpaccayasuttavaṇṇanā