Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā |
อวิปฺปวาสสีมานุชานนกถาวณฺณนา
Avippavāsasīmānujānanakathāvaṇṇanā
๑๔๓-๔. ‘‘มนมฺหิ วูโฬฺห’’ติ วา ปาโฐฯ ตตฺถ มนมฺหิ วูโฬฺหติ มนํ วูโฬฺห อมฺหีติ อโตฺถฯ ฐเปตฺวา คามญฺจ คามูปจารญฺจาติ อนฺตรฆรสงฺขาตํ คามญฺจ คามูปจารญฺจ ฐเปตฺวาฯ เกจิ ‘‘ปริกฺขิตฺตํ คามํ สนฺธาย ‘คาม’นฺติ วุตฺตํ, อปริกฺขิตฺตํ สนฺธาย ‘คามูปจาร’’นฺติ วทนฺติ, ตํ ปน อฎฺฐกถาย วิรุชฺฌติฯ ตสฺมา นิเวสนรจฺฉาทโย สนฺธาย คามํ, ปริเกฺขปารหฎฺฐานานิ สนฺธาย ‘‘คามูปจาร’’นฺติ จ วุตฺตํฯ เอตฺถ ปน อเนกธา ปฐนฺติฯ กิํ เตน, ปาฬิญฺจ อฎฺฐกถญฺจ สุฎฺฐุ อุปปริกฺขิตฺวา ยถา สเมนฺติ, ตถา คเหตพฺพํฯ ภิกฺขูนํ ปุริมกมฺมวาจา น วฎฺฎตีติ คามคามูปจาเร อโนฺตกตฺวา สมานสํวาสกสีมาย สมฺมตาย อุปริ อวิปฺปวาสสีมาสมฺมุติยํ ยุชฺชติฯ ยตฺถ ปน เกวลํ อรญฺญํเยว สมฺมตํ, ตตฺถ กถํ น วฎฺฎตีติฯ ตตฺถ ‘‘ฐเปตฺวา คามญฺจ คามูปจารญฺจา’’ติ วจนํ น สาตฺถกนฺติ เจ? วุจฺจเต – เอวเมตํ, กินฺตุ อนุสฺสาวนหานิปฺปสงฺคโต ตํ วจนํ วตฺตพฺพเมวาติ อิมินาว อธิปฺปาเยน ‘‘ปุริมกมฺมวาจา น วฎฺฎตี’’ติ วุตฺตํ สิยาฯ เอกสฺมิํ วา อเตฺถ กมฺมวาจาทฺวยอาภาวโตติ วุตฺตํฯ ‘‘น หิ เต อญฺญมญฺญสฺส กเมฺม คณปูรกา โหนฺตี’’ติ วุตฺตตฺตา อุภินฺนํ นานาสํวาสกสงฺฆานมฺปิ อยเมว วิธิ อาปเชฺชยฺยาติ เจ? นาปชฺชติ ปฎิคฺคหสนฺนิธีนํ อนุญฺญาตตฺตา, โอมสนาทิปจฺจยา อวิเสสโต, กมฺมปฎิปฺปสฺสทฺธิมตฺตาเปกฺขตาย จฯ ตสฺสาติ ภิกฺขุนิสงฺฆสฺสฯ น กมฺมวาจํ วคฺคํ กโรนฺตีติ กมฺมํ น โกเปนฺตีติ อโตฺถฯ เอตฺถาติ ฐเปตฺวา คามนฺติ เอตฺถฯ ‘‘ยทิ ภิกฺขูนํ อวิปฺปวาสสีมา คามญฺจ คามูปจารญฺจ น โอตรติ, อถ กสฺมา คาเม สีมาพนฺธนกาเล อวิปฺปวาสํ สมฺมนฺนนฺตีติ เจ? อาจิณฺณกเปฺปน, น ตโต อญฺญํ กญฺจิ อตฺถํ อเปกฺขิตฺวา’’ติ ลิขิตํฯ ‘‘อตฺถโต หิ สา พหิทฺธาปิ อพทฺธา เอว โหตี’’ติ วุตฺตํฯ อนฺตรคาเม พทฺธา สมานสํวาสสีมา ยสฺมา คามสงฺขฺยํ น คจฺฉติ, ตสฺมาติ เอเกฯ โสปิ สีมาสงฺขฺยเมว คจฺฉตีติ อวิปฺปวาสสีมาสงฺขฺยํ คจฺฉตีติ อโตฺถฯ อิทํ ปเนตฺถ วิจาเรตพฺพํ – คามํ อโนฺตกตฺวา พทฺธาย สีมาย ปุน อวิปฺปวาสสมฺมุติยํ อรญฺญปเทเส ฐตฺวา อวิปฺปวาสกมฺมวาจา กาตพฺพา, อุทาหุ คาเม ฐตฺวาติ? คาเม ฐตฺวา กตายปิ กปฺปิยภูมิยา ผรตีติฯ พหิสีเม ฐิตสมฺมตโทสานุโลมตฺตา อกปฺปิยภูมิยํ ฐตฺวา น กาตพฺพาติ โน ตโกฺก, เอส นโย สมูหนเนปีติ อาจริโยฯ ขณฺฑสีมายํ ฐตฺวา อวิปฺปวาสสีมาติอาทีสุ มหาสีมา กิร ‘‘อวิปฺปวาสสีมา’’ติ วุตฺตาฯ
143-4. ‘‘Manamhi vūḷho’’ti vā pāṭho. Tattha manamhi vūḷhoti manaṃ vūḷho amhīti attho. Ṭhapetvā gāmañca gāmūpacārañcāti antaragharasaṅkhātaṃ gāmañca gāmūpacārañca ṭhapetvā. Keci ‘‘parikkhittaṃ gāmaṃ sandhāya ‘gāma’nti vuttaṃ, aparikkhittaṃ sandhāya ‘gāmūpacāra’’nti vadanti, taṃ pana aṭṭhakathāya virujjhati. Tasmā nivesanaracchādayo sandhāya gāmaṃ, parikkhepārahaṭṭhānāni sandhāya ‘‘gāmūpacāra’’nti ca vuttaṃ. Ettha pana anekadhā paṭhanti. Kiṃ tena, pāḷiñca aṭṭhakathañca suṭṭhu upaparikkhitvā yathā samenti, tathā gahetabbaṃ. Bhikkhūnaṃ purimakammavācā na vaṭṭatīti gāmagāmūpacāre antokatvā samānasaṃvāsakasīmāya sammatāya upari avippavāsasīmāsammutiyaṃ yujjati. Yattha pana kevalaṃ araññaṃyeva sammataṃ, tattha kathaṃ na vaṭṭatīti. Tattha ‘‘ṭhapetvā gāmañca gāmūpacārañcā’’ti vacanaṃ na sātthakanti ce? Vuccate – evametaṃ, kintu anussāvanahānippasaṅgato taṃ vacanaṃ vattabbamevāti imināva adhippāyena ‘‘purimakammavācā na vaṭṭatī’’ti vuttaṃ siyā. Ekasmiṃ vā atthe kammavācādvayaābhāvatoti vuttaṃ. ‘‘Na hi te aññamaññassa kamme gaṇapūrakā hontī’’ti vuttattā ubhinnaṃ nānāsaṃvāsakasaṅghānampi ayameva vidhi āpajjeyyāti ce? Nāpajjati paṭiggahasannidhīnaṃ anuññātattā, omasanādipaccayā avisesato, kammapaṭippassaddhimattāpekkhatāya ca. Tassāti bhikkhunisaṅghassa. Na kammavācaṃ vaggaṃ karontīti kammaṃ na kopentīti attho. Etthāti ṭhapetvā gāmanti ettha. ‘‘Yadi bhikkhūnaṃ avippavāsasīmā gāmañca gāmūpacārañca na otarati, atha kasmā gāme sīmābandhanakāle avippavāsaṃ sammannantīti ce? Āciṇṇakappena, na tato aññaṃ kañci atthaṃ apekkhitvā’’ti likhitaṃ. ‘‘Atthato hi sā bahiddhāpi abaddhā eva hotī’’ti vuttaṃ. Antaragāme baddhā samānasaṃvāsasīmā yasmā gāmasaṅkhyaṃ na gacchati, tasmāti eke. Sopi sīmāsaṅkhyameva gacchatīti avippavāsasīmāsaṅkhyaṃ gacchatīti attho. Idaṃ panettha vicāretabbaṃ – gāmaṃ antokatvā baddhāya sīmāya puna avippavāsasammutiyaṃ araññapadese ṭhatvā avippavāsakammavācā kātabbā, udāhu gāme ṭhatvāti? Gāme ṭhatvā katāyapi kappiyabhūmiyā pharatīti. Bahisīme ṭhitasammatadosānulomattā akappiyabhūmiyaṃ ṭhatvā na kātabbāti no takko, esa nayo samūhananepīti ācariyo. Khaṇḍasīmāyaṃ ṭhatvā avippavāsasīmātiādīsu mahāsīmā kira ‘‘avippavāsasīmā’’ti vuttā.
๑๔๖. ‘‘ยสฺสายสฺมโต ขมติ เอติสฺสา สีมาย สมานสํวาสาย เอกูโปสถาย สมุคฺฆาโต, โส ตุณฺหสฺสา’’ติ อนฺธกโปตฺถเก, สีหฬโปตฺถเกสุ จ เกสุจิ ปาโฐ อตฺถิฯ เกสุจิ ‘‘สมุคฺฆาโต เอติสฺสา สีมายา’’ติ ปฐมํ ลิขนฺติ, เกสุจิ ‘‘เอติสฺสา สีมาย สมุคฺฆาโต’’ติ จฯ
146. ‘‘Yassāyasmato khamati etissā sīmāya samānasaṃvāsāya ekūposathāya samugghāto, so tuṇhassā’’ti andhakapotthake, sīhaḷapotthakesu ca kesuci pāṭho atthi. Kesuci ‘‘samugghāto etissā sīmāyā’’ti paṭhamaṃ likhanti, kesuci ‘‘etissā sīmāya samugghāto’’ti ca.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi
๗๔. อวิปฺปวาสสีมานุชานนา • 74. Avippavāsasīmānujānanā
๗๕. สีมาสมูหนน • 75. Sīmāsamūhanana
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā / อวิปฺปวาสสีมานุชานนกถา • Avippavāsasīmānujānanakathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / อวิปฺปวาสสีมานุชานนกถาวณฺณนา • Avippavāsasīmānujānanakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / อวิปฺปวาสสีมานุชานนกถาวณฺณนา • Avippavāsasīmānujānanakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๗๔. อวิปฺปวาสสีมานุชานนกถา • 74. Avippavāsasīmānujānanakathā