Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā |
[๓๔๗] ๗. อยกูฎชาตกวณฺณนา
[347] 7. Ayakūṭajātakavaṇṇanā
สพฺพายสนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต โลกตฺถจริยํ อารพฺภ กเถสิฯ วตฺถุ มหากณฺหชาตเก (ชา. ๑.๑๒.๖๑ อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติฯ
Sabbāyasanti idaṃ satthā jetavane viharanto lokatthacariyaṃ ārabbha kathesi. Vatthu mahākaṇhajātake (jā. 1.12.61 ādayo) āvi bhavissati.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต ตสฺส อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปโตฺต อุคฺคหิตสพฺพสิโปฺป ปิตุ อจฺจเยน รเชฺช ปติฎฺฐาย ธเมฺมน รชฺชํ กาเรสิฯ ตทา มนุสฺสา เทวมงฺคลิกา หุตฺวา พหู อเชฬกาทโย มาเรตฺวา เทวตานํ พลิกมฺมํ กโรนฺติฯ โพธิสโตฺต ‘‘ปาโณ น หนฺตโพฺพ’’ติ เภริํ จราเปสิฯ ยกฺขา พลิกมฺมํ อลภมานา โพธิสตฺตสฺส กุชฺฌิตฺวา หิมวเนฺต ยกฺขสมาคมํ คนฺตฺวา โพธิสตฺตสฺส มารณตฺถาย เอกํ กกฺขฬํ ยกฺขํ เปเสสุํฯ โส กณฺณิกมตฺตํ มหนฺตํ อาทิตฺตํ อยกูฎํ คเหตฺวา ‘‘อิมินา นํ ปหริตฺวา มาเรสฺสามี’’ติ อาคนฺตฺวา มชฺฌิมยามสมนนฺตเร โพธิสตฺตสฺส สยนมตฺถเก อฎฺฐาสิฯ ตสฺมิํ ขเณ สกฺกสฺส อาสนํ อุณฺหาการํ ทเสฺสสิฯ โส อาวชฺชมาโน ตํ การณํ ญตฺวา อินฺทวชิรํ อาทาย คนฺตฺวา ยกฺขสฺส อุปริ อฎฺฐาสิฯ โพธิสโตฺต ยกฺขํ ทิสฺวา ‘‘กิํ นุ โข เอส มํ รกฺขมาโน ฐิโต, อุทาหุ มาเรตุกาโม’’ติ เตน สทฺธิํ สลฺลปโนฺต ปฐมํ คาถมาห –
Atīte bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bodhisatto tassa aggamahesiyā kucchimhi nibbattitvā vayappatto uggahitasabbasippo pitu accayena rajje patiṭṭhāya dhammena rajjaṃ kāresi. Tadā manussā devamaṅgalikā hutvā bahū ajeḷakādayo māretvā devatānaṃ balikammaṃ karonti. Bodhisatto ‘‘pāṇo na hantabbo’’ti bheriṃ carāpesi. Yakkhā balikammaṃ alabhamānā bodhisattassa kujjhitvā himavante yakkhasamāgamaṃ gantvā bodhisattassa māraṇatthāya ekaṃ kakkhaḷaṃ yakkhaṃ pesesuṃ. So kaṇṇikamattaṃ mahantaṃ ādittaṃ ayakūṭaṃ gahetvā ‘‘iminā naṃ paharitvā māressāmī’’ti āgantvā majjhimayāmasamanantare bodhisattassa sayanamatthake aṭṭhāsi. Tasmiṃ khaṇe sakkassa āsanaṃ uṇhākāraṃ dassesi. So āvajjamāno taṃ kāraṇaṃ ñatvā indavajiraṃ ādāya gantvā yakkhassa upari aṭṭhāsi. Bodhisatto yakkhaṃ disvā ‘‘kiṃ nu kho esa maṃ rakkhamāno ṭhito, udāhu māretukāmo’’ti tena saddhiṃ sallapanto paṭhamaṃ gāthamāha –
๑๘๑.
181.
‘‘สพฺพายสํ กูฎมติปฺปมาณํ, ปคฺคยฺห โย ติฎฺฐสิ อนฺตลิเกฺข;
‘‘Sabbāyasaṃ kūṭamatippamāṇaṃ, paggayha yo tiṭṭhasi antalikkhe;
รกฺขาย เม ตฺวํ วิหิโต นุสชฺช, อุทาหุ เม เจตยเส วธายา’’ติฯ
Rakkhāya me tvaṃ vihito nusajja, udāhu me cetayase vadhāyā’’ti.
ตตฺถ วิหิโต นุสชฺชาติ วิหิโต นุ อสิ อชฺชฯ
Tattha vihito nusajjāti vihito nu asi ajja.
โพธิสโตฺต ปน ยกฺขเมว ปสฺสติ, น สกฺกํฯ ยโกฺข สกฺกสฺส ภเยน โพธิสตฺตํ ปหริตุํ น สโกฺกติฯ โส โพธิสตฺตสฺส กถํ สุตฺวา ‘‘มหาราช, นาหํ ตว รกฺขณตฺถาย ฐิโต, อิมินา ปน ชลิเตน อยกูเฎน ปหริตฺวา ตํ มาเรสฺสามีติ อาคโตมฺหิ, สกฺกสฺส ภเยน ตํ ปหริตุํ น สโกฺกมี’’ติ เอตมตฺถํ ทีเปโนฺต ทุติยํ คาถมาห –
Bodhisatto pana yakkhameva passati, na sakkaṃ. Yakkho sakkassa bhayena bodhisattaṃ paharituṃ na sakkoti. So bodhisattassa kathaṃ sutvā ‘‘mahārāja, nāhaṃ tava rakkhaṇatthāya ṭhito, iminā pana jalitena ayakūṭena paharitvā taṃ māressāmīti āgatomhi, sakkassa bhayena taṃ paharituṃ na sakkomī’’ti etamatthaṃ dīpento dutiyaṃ gāthamāha –
๑๘๒.
182.
‘‘ทูโต อหํ ราชิธ รกฺขสานํ, วธาย ตุยฺหํ ปหิโตหมสฺมิ;
‘‘Dūto ahaṃ rājidha rakkhasānaṃ, vadhāya tuyhaṃ pahitohamasmi;
อิโนฺท จ ตํ รกฺขติ เทวราชา, เตนุตฺตมงฺคํ น เต ผาลยามี’’ติฯ
Indo ca taṃ rakkhati devarājā, tenuttamaṅgaṃ na te phālayāmī’’ti.
ตํ สุตฺวา โพธิสโตฺต อิตรา เทฺว คาถา อภาสิ –
Taṃ sutvā bodhisatto itarā dve gāthā abhāsi –
๑๘๓.
183.
‘‘สเจ จ มํ รกฺขติ เทวราชา, เทวานมิโนฺท มฆวา สุชมฺปติ;
‘‘Sace ca maṃ rakkhati devarājā, devānamindo maghavā sujampati;
กามํ ปิสาจา วินทนฺตุ สเพฺพ, น สนฺตเส รกฺขสิยา ปชายฯ
Kāmaṃ pisācā vinadantu sabbe, na santase rakkhasiyā pajāya.
๑๘๔.
184.
‘‘กามํ กนฺทนฺตุ กุมฺภณฺฑา, สเพฺพ ปํสุปิสาจกา;
‘‘Kāmaṃ kandantu kumbhaṇḍā, sabbe paṃsupisācakā;
นาลํ ปิสาจา ยุทฺธาย, มหตี สา วิภิํสิกา’’ติฯ
Nālaṃ pisācā yuddhāya, mahatī sā vibhiṃsikā’’ti.
ตตฺถ รกฺขสิยา ปชายาติ รกฺขสิสงฺขาตาย ปชาย, รกฺขสสตฺตานนฺติ อโตฺถฯ กุมฺภณฺฑาติ กุมฺภมตฺตรหสฺสงฺคา มโหทรา ยกฺขาฯ ปํสุปิสาจกาติ สงฺการฎฺฐาเน ปิสาจาฯ นาลนฺติ ปิสาจา นาม มยา สทฺธิํ ยุทฺธาย น สมตฺถาฯ มหตี สา วิภิํสิกาติ ยํ ปเนเต ยกฺขา สนฺนิปติตฺวา วิภิํสิกํ ทเสฺสนฺติ, สา มหตี วิภิํสิกา ภยการณทสฺสนมตฺตเมว มยฺหํ, น ปนาหํ ภายามีติ อโตฺถฯ
Tattha rakkhasiyā pajāyāti rakkhasisaṅkhātāya pajāya, rakkhasasattānanti attho. Kumbhaṇḍāti kumbhamattarahassaṅgā mahodarā yakkhā. Paṃsupisācakāti saṅkāraṭṭhāne pisācā. Nālanti pisācā nāma mayā saddhiṃ yuddhāya na samatthā. Mahatī sā vibhiṃsikāti yaṃ panete yakkhā sannipatitvā vibhiṃsikaṃ dassenti, sā mahatī vibhiṃsikā bhayakāraṇadassanamattameva mayhaṃ, na panāhaṃ bhāyāmīti attho.
สโกฺก ยกฺขํ ปลาเปตฺวา มหาสตฺตํ โอวทิตฺวา ‘‘มา ภายิ, มหาราช, อิโต ปฎฺฐาย ตว รกฺขา มมายตฺตา’’ติ วตฺวา สกฎฺฐานเมว คโตฯ
Sakko yakkhaṃ palāpetvā mahāsattaṃ ovaditvā ‘‘mā bhāyi, mahārāja, ito paṭṭhāya tava rakkhā mamāyattā’’ti vatvā sakaṭṭhānameva gato.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา สโกฺก อนุรุโทฺธ อโหสิ, พาราณสิราชา อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ
Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā jātakaṃ samodhānesi – ‘‘tadā sakko anuruddho ahosi, bārāṇasirājā ahameva ahosi’’nti.
อยกูฎชาตกวณฺณนา สตฺตมาฯ
Ayakūṭajātakavaṇṇanā sattamā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๓๔๗. อยกูฎชาตกํ • 347. Ayakūṭajātakaṃ