Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปญฺจปกรณ-อนุฎีกา • Pañcapakaraṇa-anuṭīkā |
๓. อายตนยมกํ
3. Āyatanayamakaṃ
๑. ปณฺณตฺติวาโร
1. Paṇṇattivāro
อุเทฺทสวารวณฺณนา
Uddesavāravaṇṇanā
๑-๙. วุตฺตนเยนาติ ‘‘อวยวปเทหิ วุโตฺต เอกเทโส สกโล วา สมุทายปทานํ อโตฺถ, สมุทายปเทหิ ปน วุโตฺต เอกเนฺตน อวยวปทานํ อโตฺถ’’ติอาทินา วุเตฺตน นเยนฯ เอเตน ยถาวุตฺตอตฺถวณฺณนานยทสฺสนตาย สพฺพปณฺณตฺติวาราทีสุ ยถารหํ อโตฺถ เนตโพฺพติ ทเสฺสติฯ
1-9. Vuttanayenāti ‘‘avayavapadehi vutto ekadeso sakalo vā samudāyapadānaṃ attho, samudāyapadehi pana vutto ekantena avayavapadānaṃ attho’’tiādinā vuttena nayena. Etena yathāvuttaatthavaṇṇanānayadassanatāya sabbapaṇṇattivārādīsu yathārahaṃ attho netabboti dasseti.
อุเทฺทสวารวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Uddesavāravaṇṇanā niṭṭhitā.
นิเทฺทสวารวณฺณนา
Niddesavāravaṇṇanā
๑๐-๑๗. วายนํ สวิสยํ พฺยาเปตฺวา ปวตฺตนํ, ตยิทํ ยถา คนฺธายตเน ลพฺภติ, เอวํ สีลาทีสุปีติ ปาฬิยํ ‘‘สีลคโนฺธ’’ติอาทิ วุตฺตํ ‘‘สีลาทิเยว คโนฺธ’’ติ กตฺวาฯ เตนาห อฎฺฐกถายํ ‘‘สีลคโนฺธ…เป.… นามานี’’ติฯ ยสฺมา ปน สวิสยพฺยาปนํ ตตฺถ ปสฎภาโว ปากฎภาโว วา โหติ, ตสฺมา ‘‘ปสารณเฎฺฐน ปากฎภาวเฎฺฐน วา’’ติ วุตฺตํฯ อตฺตโน วตฺถุสฺส สูจนํ วา วายนํฯ ‘‘เทวกายา สมาคตา (ที. นิ. ๒.๓๓๒; สํ. นิ. ๑.๓๗), ปณฺณตฺติธมฺมา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ทุกมาติกา ๑๐๘) สมูหปญฺญตฺตีสุปิ กายธมฺมสทฺทา อาคตาติ ‘‘สสภาว’’นฺติ วิเสเสติฯ กายวจเนน…เป.… นตฺถีติ อิทํ ‘‘น ธโมฺม นายตน’’นฺติ เอตฺถ ธมฺมสทฺทสฺส วินิวตฺตวิเสสสพฺพสภาวธมฺมวาจกตํ สนฺธาย วุตฺตํ, น ธมฺมายตนสงฺขาตธมฺมวิเสสวาจกตนฺติ ทฎฺฐพฺพํฯ
10-17. Vāyanaṃ savisayaṃ byāpetvā pavattanaṃ, tayidaṃ yathā gandhāyatane labbhati, evaṃ sīlādīsupīti pāḷiyaṃ ‘‘sīlagandho’’tiādi vuttaṃ ‘‘sīlādiyeva gandho’’ti katvā. Tenāha aṭṭhakathāyaṃ ‘‘sīlagandho…pe… nāmānī’’ti. Yasmā pana savisayabyāpanaṃ tattha pasaṭabhāvo pākaṭabhāvo vā hoti, tasmā ‘‘pasāraṇaṭṭhena pākaṭabhāvaṭṭhena vā’’ti vuttaṃ. Attano vatthussa sūcanaṃ vā vāyanaṃ. ‘‘Devakāyā samāgatā (dī. ni. 2.332; saṃ. ni. 1.37), paṇṇattidhammā’’tiādīsu (dha. sa. dukamātikā 108) samūhapaññattīsupi kāyadhammasaddā āgatāti ‘‘sasabhāva’’nti viseseti. Kāyavacanena…pe… natthīti idaṃ ‘‘na dhammo nāyatana’’nti ettha dhammasaddassa vinivattavisesasabbasabhāvadhammavācakataṃ sandhāya vuttaṃ, na dhammāyatanasaṅkhātadhammavisesavācakatanti daṭṭhabbaṃ.
นิเทฺทสวารวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Niddesavāravaṇṇanā niṭṭhitā.
๒. ปวตฺติวารวณฺณนา
2. Pavattivāravaṇṇanā
๑๘-๒๑. เอตสฺมินฺติ ปวตฺติวาเรฯ ปุจฺฉามตฺตลาเภนาติ โมฆปุจฺฉาภาวมาหฯ เอเกกนฺติ ‘‘ยสฺส จกฺขายตนํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส สทฺทายตนํ อุปฺปชฺชตี’’ติอาทิกํ เอเกกํฯ ปญฺจาติ ‘‘ยสฺส สทฺทายตนํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส คนฺธายตนํ อุปฺปชฺชตี’’ติอาทีนิ ปญฺจฯ ปุจฺฉามตฺตลาเภน สงฺคหํ อนุชานโนฺต ‘‘วิสฺสชฺชนวเสน หาเปตพฺพานี’’ติ อาหฯ ‘‘วกฺขติ หี’’ติอาทินา ยถาวุตฺตมตฺถํ อฎฺฐกถาย สมเตฺถติฯ
18-21. Etasminti pavattivāre. Pucchāmattalābhenāti moghapucchābhāvamāha. Ekekanti ‘‘yassa cakkhāyatanaṃ uppajjati, tassa saddāyatanaṃ uppajjatī’’tiādikaṃ ekekaṃ. Pañcāti ‘‘yassa saddāyatanaṃ uppajjati, tassa gandhāyatanaṃ uppajjatī’’tiādīni pañca. Pucchāmattalābhena saṅgahaṃ anujānanto ‘‘vissajjanavasena hāpetabbānī’’ti āha. ‘‘Vakkhati hī’’tiādinā yathāvuttamatthaṃ aṭṭhakathāya samattheti.
สทิสวิสฺสชฺชนนฺติ สามญฺญวจนํ วิเสสนิวิฎฺฐเมว โหตีติ ตํ วิเสสํ ทเสฺสโนฺต ‘‘ปุคฺคลวารเมว สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ วตฺวา ตสฺสา ปน สทิสวิสฺสชฺชนตาย อพฺยาปิตตฺตา ยตฺถ สทิสํ, ตตฺถาปิ วิสฺสชฺชิตนฺติ ทเสฺสโนฺต ‘‘โอกาสวาเร ปน…เป.… วิสฺสชฺชิต’’นฺติ อาหฯ ตตฺถ ตนฺติ ทุติยํฯ ปุคฺคลวาเรปีติ ยตฺถ สทิสํ วิสฺสชฺชนํ, ตตฺถ ปุคฺคลวาเรปิ วิสฺสชฺชิตํ, ปเคว โอกาสวาเรติ อธิปฺปาโยฯ วิรตฺตกามกมฺมนิพฺพตฺตสฺสาติ ภาวนาพเลน วิรโตฺต กาโม เอเตนาติ วิรตฺตกามํ, รูปาวจรกมฺมํ, ตโต นิพฺพตฺตสฺสฯ ปฎิสนฺธิ เอว พีชํ ปฎิสนฺธิพีชํ, ตสฺสฯ ‘‘เอวํสภาวตฺตา’’ติ เอเตน เอกนฺตโต กามตณฺหานิทานกมฺมเหตุกานิ ฆานาทีนีติ ทเสฺสติฯ คนฺธาทโย จ น สนฺตีติ สเพฺพน สพฺพํ เตสมฺปิ อภาวํ สนฺธาย วทติฯ ตตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฎฺฐา วุตฺตเมวฯ
Sadisavissajjananti sāmaññavacanaṃ visesaniviṭṭhameva hotīti taṃ visesaṃ dassento ‘‘puggalavārameva sandhāya vutta’’nti vatvā tassā pana sadisavissajjanatāya abyāpitattā yattha sadisaṃ, tatthāpi vissajjitanti dassento ‘‘okāsavāre pana…pe… vissajjita’’nti āha. Tattha tanti dutiyaṃ. Puggalavārepīti yattha sadisaṃ vissajjanaṃ, tattha puggalavārepi vissajjitaṃ, pageva okāsavāreti adhippāyo. Virattakāmakammanibbattassāti bhāvanābalena viratto kāmo etenāti virattakāmaṃ, rūpāvacarakammaṃ, tato nibbattassa. Paṭisandhi eva bījaṃ paṭisandhibījaṃ, tassa. ‘‘Evaṃsabhāvattā’’ti etena ekantato kāmataṇhānidānakammahetukāni ghānādīnīti dasseti. Gandhādayo ca na santīti sabbena sabbaṃ tesampi abhāvaṃ sandhāya vadati. Tattha yaṃ vattabbaṃ, taṃ heṭṭhā vuttameva.
‘‘สจฺจ’’นฺติ ยถาวุตฺตวเสน คเหตพฺพํ โจทเกน วุตฺตมตฺถํ สมฺปฎิจฺฉิตฺวา ปุน เยนาธิปฺปาเยน ตานิ ยมกานิ สทิสวิสฺสชฺชนานิ, ตํ ทเสฺสตุํ ‘‘ยถา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺรายํ สเงฺขปโตฺถ – ตตฺถ จกฺขายตนมูลเกสุ ฆานายตนยมเกน ‘‘สจกฺขุกานํ อฆานกานํ อุปปชฺชนฺตาน’’นฺติอาทินา นเยน ชิวฺหากายายตนยมกานิ ยถา สทิสวิสฺสชฺชนานิ, ตถา อิธ ฆานายตนมูลเกสุ ฆานายตนยมเกน ตานิ ชิวฺหากายายตนยมกานิ ‘‘ยสฺส ฆานายตนํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส ชิวฺหายตนํ อุปฺปชฺชตีติ? อามนฺตา’’ติอาทินา นเยน สทิสวิสฺสชฺชนานีติฯ เอวเมตฺถ อุภเยสํ วิสุํ อญฺญมญฺญํ สทิสวิสฺสชฺชนตาย อิทํ วุตฺตํ, น เอกชฺฌํ อญฺญมญฺญํ สทิสวิสฺสชฺชนตายฯ เตนาห ‘‘ตสฺมา ตตฺถ ตเตฺถว สทิสวิสฺสชฺชนตา ปาฬิอนารุฬฺหตาย การณ’’นฺติฯ เอวญฺจ สติ จกฺขายตนมูลคฺคหณํ กิมตฺถิยนฺติ อาห ‘‘นิทสฺสนภาเวนา’’ติอาทิฯ ตตฺถ นิทสฺสนภาเวนาติ นิทสฺสนภูตานํ อญฺญมญฺญสทิสวิสฺสชฺชนตาสงฺขาเตน นิทสฺสนภาเวเนว, น ปน เตสํ นิทสฺสิตเพฺพหิ สพฺพถา สทิสวิสฺสชฺชนตายาติ อธิปฺปาโยฯ ‘‘เยภุยฺยตายา’’ติ วุตฺตํ เยภุยฺยตํ ทเสฺสตุํ ‘‘เตสุ หี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ
‘‘Sacca’’nti yathāvuttavasena gahetabbaṃ codakena vuttamatthaṃ sampaṭicchitvā puna yenādhippāyena tāni yamakāni sadisavissajjanāni, taṃ dassetuṃ ‘‘yathā panā’’tiādi vuttaṃ. Tatrāyaṃ saṅkhepattho – tattha cakkhāyatanamūlakesu ghānāyatanayamakena ‘‘sacakkhukānaṃ aghānakānaṃ upapajjantāna’’ntiādinā nayena jivhākāyāyatanayamakāni yathā sadisavissajjanāni, tathā idha ghānāyatanamūlakesu ghānāyatanayamakena tāni jivhākāyāyatanayamakāni ‘‘yassa ghānāyatanaṃ uppajjati, tassa jivhāyatanaṃ uppajjatīti? Āmantā’’tiādinā nayena sadisavissajjanānīti. Evamettha ubhayesaṃ visuṃ aññamaññaṃ sadisavissajjanatāya idaṃ vuttaṃ, na ekajjhaṃ aññamaññaṃ sadisavissajjanatāya. Tenāha ‘‘tasmā tattha tattheva sadisavissajjanatā pāḷianāruḷhatāya kāraṇa’’nti. Evañca sati cakkhāyatanamūlaggahaṇaṃ kimatthiyanti āha ‘‘nidassanabhāvenā’’tiādi. Tattha nidassanabhāvenāti nidassanabhūtānaṃ aññamaññasadisavissajjanatāsaṅkhātena nidassanabhāveneva, na pana tesaṃ nidassitabbehi sabbathā sadisavissajjanatāyāti adhippāyo. ‘‘Yebhuyyatāyā’’ti vuttaṃ yebhuyyataṃ dassetuṃ ‘‘tesu hī’’tiādi vuttaṃ.
เอวนฺติ อิมินา ‘‘อามนฺตา’’ติ ปฎิวจนวิสฺสชฺชเนน ยถาวุตฺตวจนเสฺสว วิสฺสชฺชนภาวานุชานนํ กตฺตพฺพนฺติ อิมมตฺถํ อากฑฺฒติฯ สาติ ทุติยปุจฺฉาฯ ฆานายตนยมเกนาติ จกฺขายตนมูลเกสุ ฆานายตนยมเกเนวฯ ตํเสสานีติ เตน ฆานายตนมูลกกายายตนยมเกน สทฺธิํ เสสานิฯ สทิสวิสฺสชฺชนตฺตา อนารุฬฺหานีติ เอตฺถ ‘‘อนารุฬฺหานี’’ติ เอตฺตกเมว ตถา-สเทฺทน อนุกฑฺฒียติ, น ‘‘สทิสวิสฺสชฺชนตฺตา’’ติ ทเสฺสโนฺต ‘‘ตถาติ…เป.… สมเญฺญนา’’ติ วตฺวา อิทานิ ‘‘การณสามเญฺญนา’’ติ วุตฺตสฺส สทิสวิสฺสชฺชนตฺตสฺส ตตฺถ อภาวํ ทเสฺสตุํ ‘‘ฆานชิวฺหากายายตนานํ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ อคพฺภเสยฺยเกสุ ปวตฺตมานานนฺติ เอตฺถาปิ ‘‘สหจาริตายา’’ติ ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ, ตถา ‘‘คพฺภเสยฺยเกสุ จ ปวตฺตมานาน’’นฺติฯ อิตรานิ ฆานายตนมูลกานิ ชิวฺหากายายตนยมกานิ เทฺว น วิสฺสชฺชียนฺติ, ฆานายตนมูลเกสุ จ ยมเกสุ วิสฺสชฺชิเตสุ อิตรทฺวยมูลกานิ ชิวฺหากายายตนมูลกานิ น วิสฺสชฺชียนฺติ อวิเสสตฺตา อปฺปวิเสสตฺตา จาติ โยเชตพฺพํฯ ตตฺถ กายายตนยมเก ทุติยปุจฺฉาวเสน อปฺปวิเสโส, อิตรวเสน อวิเสโส เวทิตโพฺพฯ รูปายตนมนายตเนหิ สทฺธินฺติ อิทํ รูปายตนมูลกมนายตนวเสน วุตฺตนฺติ อาห ‘‘รูปายตน…เป.… อธิปฺปาโย’’ติฯ เตเนวาห ‘‘รูปายตนมูลเกสุ หี’’ติอาทิฯ ยมกานนฺติ รูปายตนมูลกคนฺธรสโผฎฺฐพฺพายตนยมกานํฯ ทุติยปุจฺฉานนฺติ ยถาวุตฺตยมกานํเยว ทุติยปุจฺฉานํฯ วุตฺตนเยนาติ ‘‘สรูปกานํ อจิตฺตกาน’’นฺติอาทินา วุเตฺตน นเยนฯ อาทิปุจฺฉานนฺติ เตสํเยว ยมกานํ ปฐมปุจฺฉานํฯ
Evanti iminā ‘‘āmantā’’ti paṭivacanavissajjanena yathāvuttavacanasseva vissajjanabhāvānujānanaṃ kattabbanti imamatthaṃ ākaḍḍhati. Sāti dutiyapucchā. Ghānāyatanayamakenāti cakkhāyatanamūlakesu ghānāyatanayamakeneva. Taṃsesānīti tena ghānāyatanamūlakakāyāyatanayamakena saddhiṃ sesāni. Sadisavissajjanattā anāruḷhānīti ettha ‘‘anāruḷhānī’’ti ettakameva tathā-saddena anukaḍḍhīyati, na ‘‘sadisavissajjanattā’’ti dassento ‘‘tathāti…pe… samaññenā’’ti vatvā idāni ‘‘kāraṇasāmaññenā’’ti vuttassa sadisavissajjanattassa tattha abhāvaṃ dassetuṃ ‘‘ghānajivhākāyāyatanānaṃ panā’’tiādi vuttaṃ. Tattha agabbhaseyyakesu pavattamānānanti etthāpi ‘‘sahacāritāyā’’ti padaṃ ānetvā sambandhitabbaṃ, tathā ‘‘gabbhaseyyakesu ca pavattamānāna’’nti. Itarāni ghānāyatanamūlakāni jivhākāyāyatanayamakāni dve na vissajjīyanti, ghānāyatanamūlakesu ca yamakesu vissajjitesu itaradvayamūlakāni jivhākāyāyatanamūlakāni na vissajjīyanti avisesattā appavisesattā cāti yojetabbaṃ. Tattha kāyāyatanayamake dutiyapucchāvasena appaviseso, itaravasena aviseso veditabbo. Rūpāyatanamanāyatanehi saddhinti idaṃ rūpāyatanamūlakamanāyatanavasena vuttanti āha ‘‘rūpāyatana…pe… adhippāyo’’ti. Tenevāha ‘‘rūpāyatanamūlakesu hī’’tiādi. Yamakānanti rūpāyatanamūlakagandharasaphoṭṭhabbāyatanayamakānaṃ. Dutiyapucchānanti yathāvuttayamakānaṃyeva dutiyapucchānaṃ. Vuttanayenāti ‘‘sarūpakānaṃ acittakāna’’ntiādinā vuttena nayena. Ādipucchānanti tesaṃyeva yamakānaṃ paṭhamapucchānaṃ.
เหฎฺฐิเมหีติ อิทํ อวิเสสวจนมฺปิ เยสุ สทิสวิสฺสชฺชนตา สมฺภวติ, ตทเปกฺขนฺติ อาห ‘‘คนฺธรส…เป.… อโตฺถ’’ติฯ อุทฺทิฎฺฐธเมฺมสุ อุเทฺทสานุรูปํ ลพฺภมานวิเสสกถนํ วิสฺสชฺชนํ, โย ตตฺถ น สเพฺพน สพฺพํ อุเทฺทสานุรูปคุเณน อุปลพฺภติ, ตสฺส อกถนมฺปิ อตฺถโต วิสฺสชฺชนเมว นาม โหตีติ อาห ‘‘อวิสฺสชฺชเนเนว อลพฺภมานตาทสฺสเนน วิสฺสชฺชิตานิ นาม โหนฺตี’’ติฯ
Heṭṭhimehīti idaṃ avisesavacanampi yesu sadisavissajjanatā sambhavati, tadapekkhanti āha ‘‘gandharasa…pe… attho’’ti. Uddiṭṭhadhammesu uddesānurūpaṃ labbhamānavisesakathanaṃ vissajjanaṃ, yo tattha na sabbena sabbaṃ uddesānurūpaguṇena upalabbhati, tassa akathanampi atthato vissajjanameva nāma hotīti āha ‘‘avissajjaneneva alabbhamānatādassanena vissajjitāni nāma hontī’’ti.
จกฺขุวิกลโสตวิกลา วิย จกฺขุโสตวิกโลปิ ลพฺภตีติ โส ปน อฎฺฐกถายํ ปิ-สเทฺทน สงฺคหิโตติ ทเสฺสโนฺต ‘‘ชจฺจนฺธมฺปิ…เป.… เวทิตโพฺพ’’ติ อาหฯ ปริปุณฺณายตนเมว โอปปาติกํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เอตฺถ อฎฺฐานปฺปยุโตฺต เอว-สโทฺทติ ตสฺส ฐานํ ทเสฺสโนฺต ‘‘วุตฺตเมวาติ อโตฺถ’’ติ วตฺวา เตน ปริปุณฺณายตนสฺส ตตฺถ อนิยตตฺตา อปริปุณฺณายตนสฺสปิ สงฺคโห สิโทฺธติ ทเสฺสโนฺต ‘‘เตน ชจฺจนฺธพธิรมฺปิ สนฺธาย วุตฺตตา น นิวาริตา โหตี’’ติ อาหฯ
Cakkhuvikalasotavikalā viya cakkhusotavikalopi labbhatīti so pana aṭṭhakathāyaṃ pi-saddena saṅgahitoti dassento ‘‘jaccandhampi…pe… veditabbo’’ti āha. Paripuṇṇāyatanameva opapātikaṃ sandhāya vuttanti ettha aṭṭhānappayutto eva-saddoti tassa ṭhānaṃ dassento ‘‘vuttamevāti attho’’ti vatvā tena paripuṇṇāyatanassa tattha aniyatattā aparipuṇṇāyatanassapi saṅgaho siddhoti dassento ‘‘tena jaccandhabadhirampi sandhāya vuttatā na nivāritā hotī’’ti āha.
๒๒-๒๕๔. ตสฺมิํ ปุคฺคลสฺส อนามฎฺฐตฺตาติ กสฺมา วุตฺตํ, ยาวตา ‘‘รูปีพฺรหฺมโลกํ ปุจฺฉตี’’ติ อิมินาปิ โอกาโสเยว อามโฎฺฐติฯ ‘‘อามนฺตา’’ติ ปฎิญฺญาย การณวิภาวนาธิปฺปาเยเนว ‘‘กสฺมา ปฎิญฺญาต’’นฺติ โจทนํ สมุฎฺฐาเปตฺวา ตํ การณํ ทเสฺสตุกาโม ‘‘นนู’’ติอาทิมาห ฯ คพฺภเสยฺยกภาวํ คนฺตฺวา ปรินิพฺพายิสฺสตีติ ปจฺฉิมภวิกํ สนฺธายาหฯ ตทวตฺถสฺสาติ ปจฺฉิมภวาวตฺถสฺสฯ ภวิสฺสนฺตสฺสาติ ภาวิโนฯ ปฎิญฺญาตพฺพตฺตาติ ‘‘อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ ปฎิญฺญาตพฺพตฺตาฯ
22-254. Tasmiṃ puggalassa anāmaṭṭhattāti kasmā vuttaṃ, yāvatā ‘‘rūpībrahmalokaṃ pucchatī’’ti imināpi okāsoyeva āmaṭṭhoti. ‘‘Āmantā’’ti paṭiññāya kāraṇavibhāvanādhippāyeneva ‘‘kasmā paṭiññāta’’nti codanaṃ samuṭṭhāpetvā taṃ kāraṇaṃ dassetukāmo ‘‘nanū’’tiādimāha . Gabbhaseyyakabhāvaṃ gantvā parinibbāyissatīti pacchimabhavikaṃ sandhāyāha. Tadavatthassāti pacchimabhavāvatthassa. Bhavissantassāti bhāvino. Paṭiññātabbattāti ‘‘uppajjissatī’’ti paṭiññātabbattā.
อถ กสฺมาติ เอตฺถายํ สเงฺขปโตฺถ – ยทิ ‘‘ยสฺส รูปายตนํ อุปฺปชฺชิสฺสติ, ตสฺส จกฺขายตนํ อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ ปุจฺฉายํ วุเตฺตน วิธินา ปฎิญฺญาตพฺพํ, อถ กสฺมา อถ เกน การเณน ปฎิโลเม ‘‘ยสฺส วา ปน รูปายตนํ นุปฺปชฺชิสฺสติ, ตสฺส จกฺขายตนํ นุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ ปุจฺฉาย ‘‘อามนฺตา’’ติ ปฎิญฺญาตํ, นนุ อิทํ อญฺญมญฺญํ วิรุทฺธนฺติ? นนูติอาทินาปิ โจทโก ตเมว วิโรธํ วิภาเวติฯ โน จ นุปฺปชฺชิสฺสติ อุปฺปชฺชิสฺสติ เอวาติ อโตฺถฯ ‘‘ตสฺมิํ ภเว’’ติอาทิ ตสฺส ปริหาโรฯ ตตฺถ ตสฺมิํ ภเวติ ยสฺมิํ ภเว ‘‘รูปายตนํ นุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ วุตฺตํ ปวตฺตมานตฺตา, ตสฺมิํ ภเวฯ อนาคตภาเวน อวจนโตติ ภาวีภาเวน อวตฺตพฺพโต อารทฺธุปฺปาทภาเวน ปวตฺตมานตฺตาติ อธิปฺปาโยฯ เตเนวาห ‘‘ภวนฺตเร หี’’ติอาทิฯ น ปน วุจฺจตีติ สมฺพโนฺธฯ เอวญฺจ กตฺวาติอาทินา ปาฐนฺตเรน ยถาวุตฺตมตฺถํ สมเตฺถติฯ
Atha kasmāti etthāyaṃ saṅkhepattho – yadi ‘‘yassa rūpāyatanaṃ uppajjissati, tassa cakkhāyatanaṃ uppajjissatī’’ti pucchāyaṃ vuttena vidhinā paṭiññātabbaṃ, atha kasmā atha kena kāraṇena paṭilome ‘‘yassa vā pana rūpāyatanaṃ nuppajjissati, tassa cakkhāyatanaṃ nuppajjissatī’’ti pucchāya ‘‘āmantā’’ti paṭiññātaṃ, nanu idaṃ aññamaññaṃ viruddhanti? Nanūtiādināpi codako tameva virodhaṃ vibhāveti. No ca nuppajjissati uppajjissati evāti attho. ‘‘Tasmiṃ bhave’’tiādi tassa parihāro. Tattha tasmiṃ bhaveti yasmiṃ bhave ‘‘rūpāyatanaṃ nuppajjissatī’’ti vuttaṃ pavattamānattā, tasmiṃ bhave. Anāgatabhāvena avacanatoti bhāvībhāvena avattabbato āraddhuppādabhāvena pavattamānattāti adhippāyo. Tenevāha ‘‘bhavantare hī’’tiādi. Na pana vuccatīti sambandho. Evañca katvātiādinā pāṭhantarena yathāvuttamatthaṃ samattheti.
ยสฺมิํ อตฺตภาเว เยหิ อายตเนหิ ภวิตพฺพํ, ตํตํอายตนนิพฺพตฺตกกเมฺมน อวสฺสํภาวีอายตนสฺส สตฺตสฺส, สนฺตานสฺส วา, ‘‘ยสฺส วา ปน รูปายตนํ อุปฺปชฺชิสฺสติ, ตสฺส จกฺขายตนํ อุปฺปชฺชิสฺสตีติ? อามนฺตา, ยสฺส วา ปน รูปายตนํ นุปฺปชฺชิสฺสติ, ตสฺส จกฺขายตนํ นุปฺปชฺชิสฺสตีติ? อามนฺตา’’ติ จ เอวํ ปวตฺตํ ปุจฺฉาทฺวยวิสฺสชฺชนํ อายตนปฎิลาภสฺส ชาติภาวโต สุฎฺฐุ อุปปนฺนํ ภวติฯ ปจฺฉิมภวิกาทโยติ เอตฺถ อาทิ-สเทฺทน อรูเป อุปฺปชฺชิตฺวา ปรินิพฺพายนกา สงฺคยฺหนฺติฯ อิทมฺปิ วิสฺสชฺชนํฯ อภินนฺทิตพฺพตฺตาติ ‘‘อามนฺตา’’ติ สมฺปฎิจฺฉิตพฺพตฺตาฯ
Yasmiṃ attabhāve yehi āyatanehi bhavitabbaṃ, taṃtaṃāyatananibbattakakammena avassaṃbhāvīāyatanassa sattassa, santānassa vā, ‘‘yassa vā pana rūpāyatanaṃ uppajjissati, tassa cakkhāyatanaṃ uppajjissatīti? Āmantā, yassa vā pana rūpāyatanaṃ nuppajjissati, tassa cakkhāyatanaṃ nuppajjissatīti? Āmantā’’ti ca evaṃ pavattaṃ pucchādvayavissajjanaṃ āyatanapaṭilābhassa jātibhāvato suṭṭhu upapannaṃ bhavati. Pacchimabhavikādayoti ettha ādi-saddena arūpe uppajjitvā parinibbāyanakā saṅgayhanti. Idampi vissajjanaṃ. Abhinanditabbattāti ‘‘āmantā’’ti sampaṭicchitabbattā.
ยํ ปน อฆานกานํ กามาวจรํ อุปปชฺชนฺตานนฺติ วุตฺตนฺติ สมฺพโนฺธฯ ยสฺส วิปาโก ฆานายตนุปฺปตฺติโต ปุเรตรเมว อุปจฺฉิชฺชิสฺสติ, ตํ ฆานายตนานิพฺพตฺตกกมฺมนฺติ วุตฺตํฯ กถํ ปนีทิสํ กมฺมํ อตฺถีติ วิญฺญายตีติ อาห ‘‘ยสฺส ยตฺถา’’ติอาทิฯ เอวมฺปิ คพฺภเสยฺยโก เอว อิธ อฆานโกติ อธิเปฺปโตติ กถมิทํ วิญฺญายตีติ โจทนาย ‘‘น หี’’ติอาทิํ วตฺวา ตมตฺถํ สาเธตุํ ‘‘ธมฺมหทยวิภเงฺค’’ติอาทิ วุตฺตํฯ อวจนตฺตมฺปิ หิ ยถาธมฺมสาสเน อภิธเมฺม ปฎิเกฺขโปเยวาติ ฯ อิธาติ อิมสฺมิํ อายตนยมเกฯ ยถาทสฺสิตาสูติ ‘‘ยสฺส วา ปน โสตายตนํ นุปฺปชฺชิสฺสติ, ตสฺส จกฺขายตนํ นุปฺปชฺชติ, ยสฺส ยตฺถ ฆานายตนํ น นิรุชฺฌติ, ตสฺส ตตฺถ รูปายตนํ น นิรุชฺฌิสฺสตี’’ติ จ ทสฺสิตปฺปการาสุ ปุจฺฉาสุฯ อามนฺตาติ วุตฺตนฺติ อถ กสฺมา น วิญฺญายตีติ โยชนาฯ เอตาสุ ปุจฺฉาสุ กสฺมา ปฎิวจเนน วิสฺสชฺชนํ น กตนฺติ อธิปฺปาโยฯ สนฺนิฎฺฐาเนน คหิตตฺถสฺสาติ ‘‘ยสฺส วา ปน โสตายตนํ นุปฺปชฺชิสฺสติ, ยสฺส ยตฺถ ฆานายตนํ น นิรุชฺฌิสฺสตี’’ติ จ เอวมาทิเกน สนฺนิฎฺฐานปเทน คหิตสฺส อตฺถสฺสฯ เอกเทเส สํสยตฺถสฺส สมฺภเวนาติ เอกเทเส สํสยิตพฺพสฺส อตฺถสฺส สมฺภเวน สนฺนิฎฺฐานตฺถปฎิโยคภูตสํสยตฺถสฺส ปฎิวจนสฺส อกรณโต ‘‘อามนฺตา’’ติ ปฎิวจนวิสฺสชฺชนสฺส อกตฺตพฺพโต อตฺถสฺส อภินฺทิตฺวา เอกชฺฌํ กตฺวา อวตฺตพฺพโตฯ เตนาห ‘‘ภินฺทิตเพฺพหิ น ปฎิวจนวิสฺสชฺชนํ โหตี’’ติฯ
Yaṃ pana aghānakānaṃ kāmāvacaraṃ upapajjantānanti vuttanti sambandho. Yassa vipāko ghānāyatanuppattito puretarameva upacchijjissati, taṃ ghānāyatanānibbattakakammanti vuttaṃ. Kathaṃ panīdisaṃ kammaṃ atthīti viññāyatīti āha ‘‘yassa yatthā’’tiādi. Evampi gabbhaseyyako eva idha aghānakoti adhippetoti kathamidaṃ viññāyatīti codanāya ‘‘na hī’’tiādiṃ vatvā tamatthaṃ sādhetuṃ ‘‘dhammahadayavibhaṅge’’tiādi vuttaṃ. Avacanattampi hi yathādhammasāsane abhidhamme paṭikkhepoyevāti . Idhāti imasmiṃ āyatanayamake. Yathādassitāsūti ‘‘yassa vā pana sotāyatanaṃ nuppajjissati, tassa cakkhāyatanaṃ nuppajjati, yassa yattha ghānāyatanaṃ na nirujjhati, tassa tattha rūpāyatanaṃ na nirujjhissatī’’ti ca dassitappakārāsu pucchāsu. Āmantāti vuttanti atha kasmā na viññāyatīti yojanā. Etāsu pucchāsu kasmā paṭivacanena vissajjanaṃ na katanti adhippāyo. Sanniṭṭhānena gahitatthassāti ‘‘yassa vā pana sotāyatanaṃ nuppajjissati, yassa yattha ghānāyatanaṃ na nirujjhissatī’’ti ca evamādikena sanniṭṭhānapadena gahitassa atthassa. Ekadese saṃsayatthassa sambhavenāti ekadese saṃsayitabbassa atthassa sambhavena sanniṭṭhānatthapaṭiyogabhūtasaṃsayatthassa paṭivacanassa akaraṇato ‘‘āmantā’’ti paṭivacanavissajjanassa akattabbato atthassa abhinditvā ekajjhaṃ katvā avattabbato. Tenāha ‘‘bhinditabbehi na paṭivacanavissajjanaṃ hotī’’ti.
ยทิ สิยาติ ภินฺทิตฺวา วตฺตเพฺพปิ อเตฺถ ยทิ ปฎิวจนวิสฺสชฺชนํ สิยา, ปริปุณฺณวิสฺสชฺชนเมว น สิยา อโนกาสภาวโต ภินฺทิตพฺพโต จาติ อโตฺถฯ ตถา หิ ‘‘ปญฺจโวกาเร ปรินิพฺพนฺตานํ, อรูเป ปจฺฉิมภวิกานํ, เย จ อรูปํ อุปปชฺชิตฺวา ปรินิพฺพายิสฺสนฺติ, เตสํ จวนฺตานํ เตสํ โสตายตนญฺจ นุปฺปชฺชิสฺสติ, จกฺขายตนญฺจ นุปฺปชฺชตี’’ติ จ, ตถา ‘‘รูปาวจเร ปรินิพฺพนฺตานํ, อรูปานํ เตสํ ตตฺถ ฆานายตนญฺจ น นิรุชฺฌติ, รูปายตนญฺจ น นิรุชฺฌิสฺสตี’’ติ จ ตตฺถ วิภาควเสน ปวโตฺต ปาฐเสโสฯ อถ กสฺมาติ ยทิ อภินฺทิตเพฺพ ปฎิวจนวิสฺสชฺชนํ, น ภินฺทิตเพฺพ, เอวํ สเนฺต ‘‘ยสฺส วา ปน โสมนสฺสินฺทฺริยํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส จกฺขุนฺทฺริยํ อุปฺปชฺชตีติ? อามนฺตา’’ติ อิมินา ปฎิวจนวิสฺสชฺชเนน คพฺภเสยฺยกานํ โสมนสฺสปฎิสนฺธิ นตฺถีติ กสฺมา น วิญฺญายติ, ภินฺทิตเพฺพ น ปฎิวจนวิสฺสชฺชนํ โหตีติ สมฺปฎิจฺฉิตพฺพนฺติ? ตํ น, อญฺญาย ปาฬิยา ตทตฺถสฺส วิญฺญายมานตฺตาติ ทเสฺสโนฺต ‘‘กามธาตุยา’’ติอาทิมาหฯ
Yadi siyāti bhinditvā vattabbepi atthe yadi paṭivacanavissajjanaṃ siyā, paripuṇṇavissajjanameva na siyā anokāsabhāvato bhinditabbato cāti attho. Tathā hi ‘‘pañcavokāre parinibbantānaṃ, arūpe pacchimabhavikānaṃ, ye ca arūpaṃ upapajjitvā parinibbāyissanti, tesaṃ cavantānaṃ tesaṃ sotāyatanañca nuppajjissati, cakkhāyatanañca nuppajjatī’’ti ca, tathā ‘‘rūpāvacare parinibbantānaṃ, arūpānaṃ tesaṃ tattha ghānāyatanañca na nirujjhati, rūpāyatanañca na nirujjhissatī’’ti ca tattha vibhāgavasena pavatto pāṭhaseso. Atha kasmāti yadi abhinditabbe paṭivacanavissajjanaṃ, na bhinditabbe, evaṃ sante ‘‘yassa vā pana somanassindriyaṃ uppajjati, tassa cakkhundriyaṃ uppajjatīti? Āmantā’’ti iminā paṭivacanavissajjanena gabbhaseyyakānaṃ somanassapaṭisandhi natthīti kasmā na viññāyati, bhinditabbe na paṭivacanavissajjanaṃ hotīti sampaṭicchitabbanti? Taṃ na, aññāya pāḷiyā tadatthassa viññāyamānattāti dassento ‘‘kāmadhātuyā’’tiādimāha.
‘‘ยํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, น นิรุชฺฌติ, ตํ จิตฺตํ นิรุชฺฌิสฺสติ, นุปฺปชฺชิสฺสตีติ? อามนฺตา’’ติ ตเสฺสว จิตฺตสฺส นิโรโธ อนาคตภาเวน ตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ ยถา วุโตฺต, เอวํ ตเสฺสว กมฺมชสนฺตานสฺส นิโรโธ ตสฺส อุปฺปาเท อนาคตภาเวน วตฺตโพฺพฯ เตเนตํ ทเสฺสติ ‘‘เอกจิตฺตสฺส นาม อุปฺปาทกฺขเณ นิโรโธ อนาคตภาเวน วุจฺจติ, กิมงฺคํ ปน เอกสนฺตานสฺสา’’ติ ฯ สพฺพตฺถ สพฺพสฺมิํ อนาคตวาเรฯ อุปปชฺชนฺตานํ เอว วเสน โส นิโรโธ ตถา อนาคตภาเวน วุโตฺต, กสฺมา ปเนตฺถ นิโรโธ อุปปนฺนานํ วเสน น วุโตฺตติ อาห ‘‘อุปฺปนฺนานํ ปนา’’ติอาทิฯ ตเสฺสว ยถาปวตฺตสฺส กมฺมชสนฺตานสฺส เอวฯ ตสฺมาติ ยสฺมา อุปฺปาทกฺขณโต อุทฺธํ นิโรโธ อารโทฺธ นาม โหติ, ตสฺมาฯ เภเท สติปิ กาลเภทามสนสฺส การเณ สติปิฯ อนาคตกาลามสนวเสเนว นิโรธเสฺสว วเสน วิสฺสชฺชนทฺวยํ อุปปนฺนเมว ยุตฺตเมว โหตีติฯ อเญฺญสํ วเสน นิโรธเสฺสว วตฺตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา ‘‘อรหต’’นฺติ วุตฺตํฯ
‘‘Yaṃ cittaṃ uppajjati, na nirujjhati, taṃ cittaṃ nirujjhissati, nuppajjissatīti? Āmantā’’ti tasseva cittassa nirodho anāgatabhāvena tassa uppādakkhaṇe yathā vutto, evaṃ tasseva kammajasantānassa nirodho tassa uppāde anāgatabhāvena vattabbo. Tenetaṃ dasseti ‘‘ekacittassa nāma uppādakkhaṇe nirodho anāgatabhāvena vuccati, kimaṅgaṃ pana ekasantānassā’’ti . Sabbattha sabbasmiṃ anāgatavāre. Upapajjantānaṃ eva vasena so nirodho tathā anāgatabhāvena vutto, kasmā panettha nirodho upapannānaṃ vasena na vuttoti āha ‘‘uppannānaṃ panā’’tiādi. Tasseva yathāpavattassa kammajasantānassa eva. Tasmāti yasmā uppādakkhaṇato uddhaṃ nirodho āraddho nāma hoti, tasmā. Bhede satipi kālabhedāmasanassa kāraṇe satipi. Anāgatakālāmasanavaseneva nirodhasseva vasena vissajjanadvayaṃ upapannameva yuttameva hotīti. Aññesaṃ vasena nirodhasseva vattuṃ asakkuṇeyyattā ‘‘arahata’’nti vuttaṃ.
ยทิ อุปปตฺติอนนฺตรํ นิโรโธ อารโทฺธ นาม โหติ, อถ กสฺมา จุติยา นิโรธวจนนฺติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ตนฺนิฎฺฐานภาวโต ปน จุติยา นิโรธวจน’’นฺติฯ ตนฺนิฎฺฐานภาวโตติ ตสฺส สนฺตานสฺส นิฎฺฐานภาวโตฯ ปวเตฺตติอาทิ วุตฺตเสฺสวตฺถสฺส ปากฎกรณํฯ ตตฺถ ตสฺสาติ สนฺตานสฺสฯ วกฺขตีติอาทิปิ ปวเตฺต นิโรธํ อนาทิยิตฺวา จุตินิโรธเสฺสว คหิตตาย การณวจนํฯ เตนาติ เตน ยถาวุเตฺตน ปาฐนฺตรวจเนนฯ เอตฺถาติ เอตสฺมิํ ‘‘ยสฺส จกฺขายตนํ นิรุชฺฌิสฺสตี’’ติอาทิเก อายตนยมเกฯ ยทิ ปวเตฺต นิรุทฺธสฺสปิ จุติยา เอว นิโรโธ อิจฺฉิโต, ‘‘สจกฺขุกาน’’นฺติอาทิ กถนฺติ อาห ‘‘สจกฺขุกานนฺติอาทีสุ จ ปฎิลทฺธจกฺขุกานนฺติอาทินา อโตฺถ วิญฺญายตี’’ติฯ เตติ อรูเป ปจฺฉิมภวิกาฯ อจกฺขุกวจนญฺจ สาวเสสนฺติ โยชนาฯ
Yadi upapattianantaraṃ nirodho āraddho nāma hoti, atha kasmā cutiyā nirodhavacananti codanaṃ sandhāyāha ‘‘tanniṭṭhānabhāvato pana cutiyā nirodhavacana’’nti. Tanniṭṭhānabhāvatoti tassa santānassa niṭṭhānabhāvato. Pavattetiādi vuttassevatthassa pākaṭakaraṇaṃ. Tattha tassāti santānassa. Vakkhatītiādipi pavatte nirodhaṃ anādiyitvā cutinirodhasseva gahitatāya kāraṇavacanaṃ. Tenāti tena yathāvuttena pāṭhantaravacanena. Etthāti etasmiṃ ‘‘yassa cakkhāyatanaṃ nirujjhissatī’’tiādike āyatanayamake. Yadi pavatte niruddhassapi cutiyā eva nirodho icchito, ‘‘sacakkhukāna’’ntiādi kathanti āha ‘‘sacakkhukānantiādīsu ca paṭiladdhacakkhukānantiādinā attho viññāyatī’’ti. Teti arūpe pacchimabhavikā. Acakkhukavacanañca sāvasesanti yojanā.
ปวตฺติวารวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Pavattivāravaṇṇanā niṭṭhitā.
อายตนยมกวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Āyatanayamakavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / ยมกปาฬิ • Yamakapāḷi / ๓. อายตนยมกํ • 3. Āyatanayamakaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / อภิธมฺมปิฎก (อฎฺฐกถา) • Abhidhammapiṭaka (aṭṭhakathā) / ปญฺจปกรณ-อฎฺฐกถา • Pañcapakaraṇa-aṭṭhakathā / ๓. อายตนยมกํ • 3. Āyatanayamakaṃ
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-มูลฎีกา • Pañcapakaraṇa-mūlaṭīkā / ๓. อายตนยมกํ • 3. Āyatanayamakaṃ