Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya |
๒. อยฺยิกาสุตฺตํ
2. Ayyikāsuttaṃ
๑๓๓. สาวตฺถินิทานํ ฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข ราชานํ ปเสนทิํ โกสลํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘หนฺท, กุโต นุ ตฺวํ, มหาราช, อาคจฺฉสิ ทิวาทิวสฺสา’’ติ?
133. Sāvatthinidānaṃ . Ekamantaṃ nisinnaṃ kho rājānaṃ pasenadiṃ kosalaṃ bhagavā etadavoca – ‘‘handa, kuto nu tvaṃ, mahārāja, āgacchasi divādivassā’’ti?
‘‘อยฺยิกา เม, ภเนฺต, กาลงฺกตา ชิณฺณา วุฑฺฒา มหลฺลิกา อทฺธคตา วโยอนุปฺปตฺตา วีสวสฺสสติกา ชาติยาฯ อยฺยิกา โข ปน เม, ภเนฺต, ปิยา โหติ มนาปาฯ หตฺถิรตเนน เจปาหํ, ภเนฺต, ลเภยฺยํ ‘มา เม อยฺยิกา กาลมกาสี’ติ, หตฺถิรตนมฺปาหํ ทเทยฺยํ – ‘มา เม อยฺยิกา กาลมกาสี’ติฯ อสฺสรตเนน เจปาหํ, ภเนฺต, ลเภยฺยํ ‘มา เม อยฺยิกา กาลมกาสี’ติ, อสฺสรตนมฺปาหํ ทเทยฺยํ – ‘มา เม อยฺยิกา กาลมกาสี’ติฯ คามวเรน เจปาหํ ภเนฺต, ลเภยฺยํ ‘มา เม อยฺยิกา กาลมกาสี’ติ, คามวรมฺปาหํ ทเทยฺยํ – ‘มา เม อยฺยิกา กาลมกาสี’ติฯ ชนปทปเทเสน 1 เจปาหํ, ภเนฺต, ลเภยฺยํ ‘มา เม อยฺยิกา กาลมกาสี’ติ, ชนปทปเทสมฺปาหํ ทเทยฺยํ – ‘มา เม อยฺยิกา กาลมกาสี’ติฯ ‘สเพฺพ สตฺตา, มหาราช, มรณธมฺมา มรณปริโยสานา มรณํ อนตีตา’ติฯ ‘อจฺฉริยํ, ภเนฺต, อพฺภุตํ, ภเนฺต! ยาวสุภาสิตมิทํ, ภเนฺต, ภควตา – สเพฺพ สตฺตา มรณธมฺมา มรณปริโยสานา มรณํ อนตีตา’’’ติฯ
‘‘Ayyikā me, bhante, kālaṅkatā jiṇṇā vuḍḍhā mahallikā addhagatā vayoanuppattā vīsavassasatikā jātiyā. Ayyikā kho pana me, bhante, piyā hoti manāpā. Hatthiratanena cepāhaṃ, bhante, labheyyaṃ ‘mā me ayyikā kālamakāsī’ti, hatthiratanampāhaṃ dadeyyaṃ – ‘mā me ayyikā kālamakāsī’ti. Assaratanena cepāhaṃ, bhante, labheyyaṃ ‘mā me ayyikā kālamakāsī’ti, assaratanampāhaṃ dadeyyaṃ – ‘mā me ayyikā kālamakāsī’ti. Gāmavarena cepāhaṃ bhante, labheyyaṃ ‘mā me ayyikā kālamakāsī’ti, gāmavarampāhaṃ dadeyyaṃ – ‘mā me ayyikā kālamakāsī’ti. Janapadapadesena 2 cepāhaṃ, bhante, labheyyaṃ ‘mā me ayyikā kālamakāsī’ti, janapadapadesampāhaṃ dadeyyaṃ – ‘mā me ayyikā kālamakāsī’ti. ‘Sabbe sattā, mahārāja, maraṇadhammā maraṇapariyosānā maraṇaṃ anatītā’ti. ‘Acchariyaṃ, bhante, abbhutaṃ, bhante! Yāvasubhāsitamidaṃ, bhante, bhagavatā – sabbe sattā maraṇadhammā maraṇapariyosānā maraṇaṃ anatītā’’’ti.
‘‘เอวเมตํ, มหาราช, เอวเมตํ, มหาราช! สเพฺพ สตฺตา มรณธมฺมา มรณปริโยสานา มรณํ อนตีตาฯ เสยฺยถาปิ, มหาราช, ยานิ กานิจิ กุมฺภการภาชนานิ อามกานิ เจว ปกฺกานิ จ สพฺพานิ ตานิ เภทนธมฺมานิ เภทนปริโยสานานิ เภทนํ อนตีตานิ; เอวเมว โข, มหาราช, สเพฺพ สตฺตา มรณธมฺมา มรณปริโยสานา มรณํ อนตีตา’’ติฯ อิทมโวจ…เป.…
‘‘Evametaṃ, mahārāja, evametaṃ, mahārāja! Sabbe sattā maraṇadhammā maraṇapariyosānā maraṇaṃ anatītā. Seyyathāpi, mahārāja, yāni kānici kumbhakārabhājanāni āmakāni ceva pakkāni ca sabbāni tāni bhedanadhammāni bhedanapariyosānāni bhedanaṃ anatītāni; evameva kho, mahārāja, sabbe sattā maraṇadhammā maraṇapariyosānā maraṇaṃ anatītā’’ti. Idamavoca…pe…
‘‘สเพฺพ สตฺตา มริสฺสนฺติ, มรณนฺตญฺหิ ชีวิตํ;
‘‘Sabbe sattā marissanti, maraṇantañhi jīvitaṃ;
ยถากมฺมํ คมิสฺสนฺติ, ปุญฺญปาปผลูปคา;
Yathākammaṃ gamissanti, puññapāpaphalūpagā;
นิรยํ ปาปกมฺมนฺตา, ปุญฺญกมฺมา จ สุคฺคติํฯ
Nirayaṃ pāpakammantā, puññakammā ca suggatiṃ.
‘‘ตสฺมา กเรยฺย กลฺยาณํ, นิจยํ สมฺปรายิกํ;
‘‘Tasmā kareyya kalyāṇaṃ, nicayaṃ samparāyikaṃ;
ปุญฺญานิ ปรโลกสฺมิํ, ปติฎฺฐา โหนฺติ ปาณิน’’นฺติฯ
Puññāni paralokasmiṃ, patiṭṭhā honti pāṇina’’nti.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๒. อยฺยิกาสุตฺตวณฺณนา • 2. Ayyikāsuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๒. อยฺยิกาสุตฺตวณฺณนา • 2. Ayyikāsuttavaṇṇanā