Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปญฺจปกรณ-อฎฺฐกถา • Pañcapakaraṇa-aṭṭhakathā

    ๕. พาหิรมาติกาวณฺณนา

    5. Bāhiramātikāvaṇṇanā

    . สพฺพาปิ ธมฺมสงฺคณี ธาตุกถาย มาติกาติ อยํ ฉสฎฺฐิ ติกปทานิ, เทฺว จ ทุกปทสตานิ สงฺขิปิตฺวา นิกฺขิตฺตา พาหิรมาติกา นามฯ อยญฺหิ ‘‘ปญฺจกฺขนฺธา…เป.… มนสิกาโร’’ติ เอวํ ธาตุกถาย อพฺภนฺตเร อวตฺวา ‘‘สพฺพาปิ ธมฺมสงฺคณี’’ติ เอวํ ธาตุกถาย มาติกโต พหิ ฐปิตตฺตา พาหิรมาติกาติ วุจฺจติฯ

    5. Sabbāpi dhammasaṅgaṇī dhātukathāya mātikāti ayaṃ chasaṭṭhi tikapadāni, dve ca dukapadasatāni saṅkhipitvā nikkhittā bāhiramātikā nāma. Ayañhi ‘‘pañcakkhandhā…pe… manasikāro’’ti evaṃ dhātukathāya abbhantare avatvā ‘‘sabbāpi dhammasaṅgaṇī’’ti evaṃ dhātukathāya mātikato bahi ṭhapitattā bāhiramātikāti vuccati.

    เอวํ มาติกาย ปญฺจธา ฐิตภาวํ วิทิตฺวา อิทานิ ‘สงฺคโห อสงฺคโห’ติอาทีสุ สงฺคโห ตาว ชาติสญฺชาติกิริยาคณนวเสน จตุพฺพิโธฯ ตตฺถ – ‘‘สเพฺพ ขตฺติยา อาคจฺฉนฺตุ, สเพฺพ พฺราหฺมณา, สเพฺพ เวสฺสา, สเพฺพ สุทฺทา อาคจฺฉนฺตุ’’, ‘‘ยา จาวุโส วิสาข, สมฺมาวาจา, โย จ สมฺมากมฺมโนฺต, โย จ สมฺมาอาชีโว, อิเม ธมฺมา สีลกฺขเนฺธ สงฺคหิตา’’ติ อยํ ชาติสงฺคโห นามฯ ‘‘เอกชาติกา อาคจฺฉนฺตู’’ติ วุตฺตฎฺฐาเน วิย หิ อิธ สเพฺพปิ ชาติยา เอกสงฺคหํ คตาฯ ‘‘สเพฺพ โกสลกา อาคจฺฉนฺตุ, สเพฺพ มาคธกา, สเพฺพ ภารุกจฺฉกา อาคจฺฉนฺตุ’’, ‘‘โย จาวุโส วิสาข, สมฺมาวายาโม; ยา จ สมฺมาสติ, โย จ สมฺมาสมาธิ, อิเม ธมฺมา สมาธิกฺขเนฺธ สงฺคหิตา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๒) อยํ สญฺชาติสงฺคโห นามฯ ‘‘เอกฎฺฐาเน ชาตา สํวฑฺฒา อาคจฺฉนฺตู’’ติ วุตฺตฎฺฐาเน วิย หิ อิธ สเพฺพปิ สญฺชาติฐาเนน นิวุโตฺถกาเสน เอกสงฺคหํ คตาฯ ‘‘สเพฺพ หตฺถาโรหา อาคจฺฉนฺตุ, สเพฺพ อสฺสาโรหา, สเพฺพ รถิกา อาคจฺฉนฺตุ’’, ‘‘ยา จาวุโส วิสาข, สมฺมาทิฎฺฐิ, โย จ สมฺมาสงฺกโปฺป, อิเม ธมฺมา ปญฺญากฺขเนฺธ สงฺคหิตา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๒) อยํ กิริยาสงฺคโห นามฯ สเพฺพว เหเต อตฺตโน กิริยากรเณน เอกสงฺคหํ คตาฯ ‘‘จกฺขายตนํ กตมกฺขนฺธคณนํ คจฺฉตีติ? รูปกฺขนฺธคณนํ คจฺฉตี’’ติฯ หญฺจิ จกฺขายตนํ รูปกฺขนฺธคณนํ คจฺฉติ, เตน วต เร วตฺตเพฺพ – ‘จกฺขายตนํ รูปกฺขเนฺธน สงฺคหิต’’นฺติ (กถา. ๔๗๑), อยํ คณนสงฺคโห นามฯ อยมิธ อธิเปฺปโตฯ ตปฺปฎิปเกฺขน อสงฺคโห เวทิตโพฺพฯ เตสํ วิกปฺปโต สงฺคหิเตน อสงฺคหิตาทีนิฯ เอกุปฺปาเทกนิโรธเอกวตฺถุกเอการมฺมณตาวเสน สมฺปโยโค, ตปฺปฎิปกฺขโต วิปฺปโยโคฯ เตสํ วิกปฺปโต สมฺปยุเตฺตน วิปฺปยุตฺตาทีนิฯ ตทุภยสํสคฺควิกปฺปโต สงฺคหิเตน สมฺปยุตฺตํ วิปฺปยุตฺตนฺติอาทีนิฯ ปญฺจกฺขนฺธาติอาทีนิ ปน ขนฺธวิภงฺคาทีสุ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิฯ ผสฺสาทโย ปเนตฺถ สนฺนิฎฺฐานวเสน วุตฺตสพฺพจิตฺตุปฺปาทสาธารณโต วุตฺตาติฯ

    Evaṃ mātikāya pañcadhā ṭhitabhāvaṃ viditvā idāni ‘saṅgaho asaṅgaho’tiādīsu saṅgaho tāva jātisañjātikiriyāgaṇanavasena catubbidho. Tattha – ‘‘sabbe khattiyā āgacchantu, sabbe brāhmaṇā, sabbe vessā, sabbe suddā āgacchantu’’, ‘‘yā cāvuso visākha, sammāvācā, yo ca sammākammanto, yo ca sammāājīvo, ime dhammā sīlakkhandhe saṅgahitā’’ti ayaṃ jātisaṅgaho nāma. ‘‘Ekajātikā āgacchantū’’ti vuttaṭṭhāne viya hi idha sabbepi jātiyā ekasaṅgahaṃ gatā. ‘‘Sabbe kosalakā āgacchantu, sabbe māgadhakā, sabbe bhārukacchakā āgacchantu’’, ‘‘yo cāvuso visākha, sammāvāyāmo; yā ca sammāsati, yo ca sammāsamādhi, ime dhammā samādhikkhandhe saṅgahitā’’ti (ma. ni. 1.462) ayaṃ sañjātisaṅgaho nāma. ‘‘Ekaṭṭhāne jātā saṃvaḍḍhā āgacchantū’’ti vuttaṭṭhāne viya hi idha sabbepi sañjātiṭhānena nivutthokāsena ekasaṅgahaṃ gatā. ‘‘Sabbe hatthārohā āgacchantu, sabbe assārohā, sabbe rathikā āgacchantu’’, ‘‘yā cāvuso visākha, sammādiṭṭhi, yo ca sammāsaṅkappo, ime dhammā paññākkhandhe saṅgahitā’’ti (ma. ni. 1.462) ayaṃ kiriyāsaṅgaho nāma. Sabbeva hete attano kiriyākaraṇena ekasaṅgahaṃ gatā. ‘‘Cakkhāyatanaṃ katamakkhandhagaṇanaṃ gacchatīti? Rūpakkhandhagaṇanaṃ gacchatī’’ti. Hañci cakkhāyatanaṃ rūpakkhandhagaṇanaṃ gacchati, tena vata re vattabbe – ‘cakkhāyatanaṃ rūpakkhandhena saṅgahita’’nti (kathā. 471), ayaṃ gaṇanasaṅgaho nāma. Ayamidha adhippeto. Tappaṭipakkhena asaṅgaho veditabbo. Tesaṃ vikappato saṅgahitena asaṅgahitādīni. Ekuppādekanirodhaekavatthukaekārammaṇatāvasena sampayogo, tappaṭipakkhato vippayogo. Tesaṃ vikappato sampayuttena vippayuttādīni. Tadubhayasaṃsaggavikappato saṅgahitena sampayuttaṃ vippayuttantiādīni. Pañcakkhandhātiādīni pana khandhavibhaṅgādīsu vuttanayeneva veditabbāni. Phassādayo panettha sanniṭṭhānavasena vuttasabbacittuppādasādhāraṇato vuttāti.

    มาติกาวณฺณนาฯ

    Mātikāvaṇṇanā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / ธาตุกถาปาฬิ • Dhātukathāpāḷi / ๕. พาหิรมาติกา • 5. Bāhiramātikā

    ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-มูลฎีกา • Pañcapakaraṇa-mūlaṭīkā / ๕. พาหิรมาติกาวณฺณนา • 5. Bāhiramātikāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-อนุฎีกา • Pañcapakaraṇa-anuṭīkā / ๕. พาหิรมาติกาวณฺณนา • 5. Bāhiramātikāvaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact