Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อปทานปาฬิ • Apadānapāḷi |
๖. พาหิยเตฺถรอปทานํ
6. Bāhiyattheraapadānaṃ
๑๗๘.
178.
‘‘อิโต สตสหสฺสมฺหิ, กเปฺป อุปฺปชฺชิ นายโก;
‘‘Ito satasahassamhi, kappe uppajji nāyako;
มหปฺปโภ ติโลกโคฺค, นาเมน ปทุมุตฺตโรฯ
Mahappabho tilokaggo, nāmena padumuttaro.
๑๗๙.
179.
‘‘ขิปฺปาภิญฺญสฺส ภิกฺขุสฺส, คุณํ กิตฺตยโต มุเน;
‘‘Khippābhiññassa bhikkhussa, guṇaṃ kittayato mune;
สุตฺวา อุทคฺคจิโตฺตหํ, การํ กตฺวา มเหสิโนฯ
Sutvā udaggacittohaṃ, kāraṃ katvā mahesino.
๑๘๐.
180.
‘‘ทตฺวา สตฺตาหิกํ ทานํ, สสิสฺสสฺส มุเน อหํ;
‘‘Datvā sattāhikaṃ dānaṃ, sasissassa mune ahaṃ;
อภิวาทิย สมฺพุทฺธํ, ตํ ฐานํ ปตฺถยิํ ตทาฯ
Abhivādiya sambuddhaṃ, taṃ ṭhānaṃ patthayiṃ tadā.
๑๘๑.
181.
‘‘ตโต มํ พฺยากริ พุโทฺธ, ‘เอตํ ปสฺสถ พฺราหฺมณํ;
‘‘Tato maṃ byākari buddho, ‘etaṃ passatha brāhmaṇaṃ;
๑๘๒.
182.
‘‘‘เหมยโญฺญปจิตงฺคํ , อวทาตตนุตฺตจํ;
‘‘‘Hemayaññopacitaṅgaṃ , avadātatanuttacaṃ;
ปลมฺพพิมฺพตโมฺพฎฺฐํ, เสตติณฺหสมํ ทิชํฯ
Palambabimbatamboṭṭhaṃ, setatiṇhasamaṃ dijaṃ.
๑๘๓.
183.
‘‘‘คุณถามพหุตรํ, สมุคฺคตตนูรุหํ;
‘‘‘Guṇathāmabahutaraṃ, samuggatatanūruhaṃ;
คุโณฆายตนีภูตํ, ปีติสมฺผุลฺลิตานนํฯ
Guṇoghāyatanībhūtaṃ, pītisamphullitānanaṃ.
๑๘๔.
184.
‘‘‘เอโส ปตฺถยเต ฐานํ, ขิปฺปาภิญฺญสฺส ภิกฺขุโน;
‘‘‘Eso patthayate ṭhānaṃ, khippābhiññassa bhikkhuno;
อนาคเต มหาวีโร, โคตโม นาม เหสฺสติฯ
Anāgate mahāvīro, gotamo nāma hessati.
๑๘๕.
185.
‘‘‘ตสฺส ธเมฺมสุ ทายาโท, โอรโส ธมฺมนิมฺมิโต;
‘‘‘Tassa dhammesu dāyādo, oraso dhammanimmito;
พาหิโย นาม นาเมน, เหสฺสติ สตฺถุ สาวโก’ฯ
Bāhiyo nāma nāmena, hessati satthu sāvako’.
๑๘๖.
186.
‘‘ตทา หิ ตุโฎฺฐ วุฎฺฐาย, ยาวชีวํ มหามุเน;
‘‘Tadā hi tuṭṭho vuṭṭhāya, yāvajīvaṃ mahāmune;
การํ กตฺวา จุโต สคฺคํ, อคํ สภวนํ ยถาฯ
Kāraṃ katvā cuto saggaṃ, agaṃ sabhavanaṃ yathā.
๑๘๗.
187.
‘‘เทวภูโต มนุโสฺส วา, สุขิโต ตสฺส กมฺมุโน;
‘‘Devabhūto manusso vā, sukhito tassa kammuno;
วาหสา สํสริตฺวาน, สมฺปตฺติมนุโภมหํฯ
Vāhasā saṃsaritvāna, sampattimanubhomahaṃ.
๑๘๘.
188.
อารุยฺห เสลสิขรํ, ยุญฺชิตฺวา ชินสาสนํฯ
Āruyha selasikharaṃ, yuñjitvā jinasāsanaṃ.
๑๘๙.
189.
‘‘วิสุทฺธสีโล สปฺปโญฺญ, ชินสาสนการโก;
‘‘Visuddhasīlo sappañño, jinasāsanakārako;
ตโต จุตา ปญฺจ ชนา, เทวโลกํ อคมฺหเสฯ
Tato cutā pañca janā, devalokaṃ agamhase.
๑๙๐.
190.
‘‘ตโตหํ พาหิโย ชาโต, ภารุกเจฺฉ ปุรุตฺตเม;
‘‘Tatohaṃ bāhiyo jāto, bhārukacche puruttame;
๑๙๑.
191.
‘‘ตโต นาวา อภิชฺชิตฺถ, คนฺตฺวาน กติปาหกํ;
‘‘Tato nāvā abhijjittha, gantvāna katipāhakaṃ;
ตทา ภีสนเก โฆเร, ปติโต มกรากเรฯ
Tadā bhīsanake ghore, patito makarākare.
๑๙๒.
192.
‘‘ตทาหํ วายมิตฺวาน, สนฺตริตฺวา มโหทธิํ;
‘‘Tadāhaṃ vāyamitvāna, santaritvā mahodadhiṃ;
๑๙๓.
193.
‘‘ทารุจีรํ นิวาเสตฺวา, คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสิํ;
‘‘Dārucīraṃ nivāsetvā, gāmaṃ piṇḍāya pāvisiṃ;
ตทาห โส ชโน ตุโฎฺฐ, อรหายมิธาคโตฯ
Tadāha so jano tuṭṭho, arahāyamidhāgato.
๑๙๔.
194.
‘‘อิมํ อเนฺนน ปาเนน, วเตฺถน สยเนน จ;
‘‘Imaṃ annena pānena, vatthena sayanena ca;
เภสเชฺชน จ สกฺกตฺวา, เหสฺสาม สุขิตา มยํฯ
Bhesajjena ca sakkatvā, hessāma sukhitā mayaṃ.
๑๙๕.
195.
‘‘ปจฺจยานํ ตทา ลาภี, เตหิ สกฺกตปูชิโต;
‘‘Paccayānaṃ tadā lābhī, tehi sakkatapūjito;
อรหาหนฺติ สงฺกปฺปํ, อุปฺปาเทสิํ อโยนิโสฯ
Arahāhanti saṅkappaṃ, uppādesiṃ ayoniso.
๑๙๖.
196.
‘‘ตโต เม จิตฺตมญฺญาย, โจทยี ปุพฺพเทวตา;
‘‘Tato me cittamaññāya, codayī pubbadevatā;
‘น ตฺวํ อุปายมคฺคญฺญู, กุโต ตฺวํ อรหา ภเว’ฯ
‘Na tvaṃ upāyamaggaññū, kuto tvaṃ arahā bhave’.
๑๙๗.
197.
‘‘โจทิโต ตาย สํวิโคฺค, ตทาหํ ปริปุจฺฉิ ตํ;
‘‘Codito tāya saṃviggo, tadāhaṃ paripucchi taṃ;
‘เก วา เอเต กุหิํ โลเก, อรหโนฺต นรุตฺตมาฯ
‘Ke vā ete kuhiṃ loke, arahanto naruttamā.
๑๙๘.
198.
‘‘‘สาวตฺถิยํ โกสลมนฺทิเร ชิโน, ปหูตปโญฺญ วรภูริเมธโส;
‘‘‘Sāvatthiyaṃ kosalamandire jino, pahūtapañño varabhūrimedhaso;
โส สกฺยปุโตฺต อรหา อนาสโว, เทเสติ ธมฺมํ อรหตฺตปตฺติยาฯ
So sakyaputto arahā anāsavo, deseti dhammaṃ arahattapattiyā.
๑๙๙.
199.
‘‘‘ตทสฺส สุตฺวา วจนํ สุปีณิโต 13, นิธิํว ลทฺธา กปโณติ วิมฺหิโต;
‘‘‘Tadassa sutvā vacanaṃ supīṇito 14, nidhiṃva laddhā kapaṇoti vimhito;
อุทคฺคจิโตฺต อรหตฺตมุตฺตมํ, สุทสฺสนํ ทฎฺฐุมนนฺตโคจรํฯ
Udaggacitto arahattamuttamaṃ, sudassanaṃ daṭṭhumanantagocaraṃ.
๒๐๐.
200.
อุเปจฺจ รมฺมํ วิชิตวฺหยํ วนํ, ทิเช อปุจฺฉิํ กุหิํ โลกนนฺทโนฯ
Upecca rammaṃ vijitavhayaṃ vanaṃ, dije apucchiṃ kuhiṃ lokanandano.
๒๐๑.
201.
‘‘‘ตโต อโวจุํ นรเทววนฺทิโต, ปุรํ ปวิโฎฺฐ อสเนสนาย โส;
‘‘‘Tato avocuṃ naradevavandito, puraṃ paviṭṭho asanesanāya so;
สโสว 19 ขิปฺปํ มุนิทสฺสนุสฺสุโก, อุเปจฺจ วนฺทาหิ ตมคฺคปุคฺคลํ’ฯ
Sasova 20 khippaṃ munidassanussuko, upecca vandāhi tamaggapuggalaṃ’.
๒๐๒.
202.
‘‘ตโตหํ ตุวฎํ คนฺตฺวา, สาวตฺถิํ ปุรมุตฺตมํ;
‘‘Tatohaṃ tuvaṭaṃ gantvā, sāvatthiṃ puramuttamaṃ;
วิจรนฺตํ ตมทฺทกฺขิํ, ปิณฺฑตฺถํ อปิหาคิธํฯ
Vicarantaṃ tamaddakkhiṃ, piṇḍatthaṃ apihāgidhaṃ.
๒๐๓.
203.
สิรีนิลยสงฺกาสํ, รวิทิตฺติหรานนํฯ
Sirīnilayasaṅkāsaṃ, ravidittiharānanaṃ.
๒๐๔.
204.
‘‘ตํ สเมจฺจ นิปจฺจาหํ, อิทํ วจนมพฺรวิํ;
‘‘Taṃ samecca nipaccāhaṃ, idaṃ vacanamabraviṃ;
‘กุปเถ วิปฺปนฎฺฐสฺส, สรณํ โหหิ โคตมฯ
‘Kupathe vippanaṭṭhassa, saraṇaṃ hohi gotama.
๒๐๕.
205.
‘‘‘ปาณสนฺตารณตฺถาย , ปิณฺฑาย วิจรามหํ;
‘‘‘Pāṇasantāraṇatthāya , piṇḍāya vicarāmahaṃ;
น เต ธมฺมกถากาโล, อิจฺจาห มุนิสตฺตโม’ฯ
Na te dhammakathākālo, iccāha munisattamo’.
๒๐๖.
206.
‘‘ตทา ปุนปฺปุนํ พุทฺธํ, อายาจิํ ธมฺมลาลโส;
‘‘Tadā punappunaṃ buddhaṃ, āyāciṃ dhammalālaso;
โย เม ธมฺมมเทเสสิ, คมฺภีรํ สุญฺญตํ ปทํฯ
Yo me dhammamadesesi, gambhīraṃ suññataṃ padaṃ.
๒๐๗.
207.
‘‘ตสฺส ธมฺมํ สุณิตฺวาน, ปาปุณิํ อาสวกฺขยํ;
‘‘Tassa dhammaṃ suṇitvāna, pāpuṇiṃ āsavakkhayaṃ;
ปริกฺขีณายุโก สโนฺต, อโห สตฺถานุกมฺปโกฯ
Parikkhīṇāyuko santo, aho satthānukampako.
๒๐๘.
208.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… วิหรามิ อนาสโวฯ
‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… viharāmi anāsavo.
๒๐๙.
209.
‘‘สฺวาคตํ วต เม อาสิ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํฯ
‘‘Svāgataṃ vata me āsi…pe… kataṃ buddhassa sāsanaṃ.
๒๑๐.
210.
‘‘ปฎิสมฺภิทา จตโสฺส…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํฯ
‘‘Paṭisambhidā catasso…pe… kataṃ buddhassa sāsanaṃ.
๒๑๑.
211.
‘‘เอวํ เถโร วิยากาสิ, พาหิโย ทารุจีริโย;
‘‘Evaṃ thero viyākāsi, bāhiyo dārucīriyo;
สงฺการกูเฎ ปติโต, ภูตาวิฎฺฐาย คาวิยาฯ
Saṅkārakūṭe patito, bhūtāviṭṭhāya gāviyā.
๒๑๒.
212.
‘‘อตฺตโน ปุพฺพจริยํ, กิตฺตยิตฺวา มหามติ;
‘‘Attano pubbacariyaṃ, kittayitvā mahāmati;
๒๑๓.
213.
‘‘นครา นิกฺขมโนฺต ตํ, ทิสฺวาน อิสิสตฺตโม;
‘‘Nagarā nikkhamanto taṃ, disvāna isisattamo;
ทารุจีรธรํ ธีรํ, พาหิยํ พาหิตาคมํฯ
Dārucīradharaṃ dhīraṃ, bāhiyaṃ bāhitāgamaṃ.
๒๑๔.
214.
‘‘ภูมิยํ ปติตํ ทนฺตํ, อินฺทเกตูว ปาติตํ;
‘‘Bhūmiyaṃ patitaṃ dantaṃ, indaketūva pātitaṃ;
๒๑๕.
215.
‘‘ตโต อามนฺตยี สตฺถา, สาวเก สาสเน รเต;
‘‘Tato āmantayī satthā, sāvake sāsane rate;
๒๑๖.
216.
‘‘‘ถูปํ กโรถ ปูเชถ, นิพฺพุโต โส มหามติ;
‘‘‘Thūpaṃ karotha pūjetha, nibbuto so mahāmati;
ขิปฺปาภิญฺญานเมสโคฺค, สาวโก เม วโจกโรฯ
Khippābhiññānamesaggo, sāvako me vacokaro.
๒๑๗.
217.
‘‘‘สหสฺสมปิ เจ คาถา, อนตฺถปทสญฺหิตา;
‘‘‘Sahassamapi ce gāthā, anatthapadasañhitā;
เอกํ คาถาปทํ เสโยฺย, ยํ สุตฺวา อุปสมฺมติฯ
Ekaṃ gāthāpadaṃ seyyo, yaṃ sutvā upasammati.
๒๑๘.
218.
‘‘‘ยตฺถ อาโป จ ปถวี, เตโช วาโย น คาธติ;
‘‘‘Yattha āpo ca pathavī, tejo vāyo na gādhati;
น ตตฺถ สุกฺกา โชตนฺติ, อาทิโจฺจ น ปกาสติฯ
Na tattha sukkā jotanti, ādicco na pakāsati.
๒๑๙.
219.
‘‘‘น ตตฺถ จนฺทิมา ภาติ, ตโม ตตฺถ น วิชฺชติ;
‘‘‘Na tattha candimā bhāti, tamo tattha na vijjati;
ยทา จ อตฺตนา เวทิ, มุนิโมเนน พฺราหฺมโณฯ
Yadā ca attanā vedi, munimonena brāhmaṇo.
๒๒๐.
220.
‘‘‘อถ รูปา อรูปา จ, สุขทุกฺขา วิมุจฺจติ’;
‘‘‘Atha rūpā arūpā ca, sukhadukkhā vimuccati’;
อิเจฺจวํ อภณี นาโถ, ติโลกสรโณ มุนิ’’ฯ
Iccevaṃ abhaṇī nātho, tilokasaraṇo muni’’.
อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา พาหิโย เถโร อิมา คาถาโย
Itthaṃ sudaṃ āyasmā bāhiyo thero imā gāthāyo
อภาสิตฺถาติฯ
Abhāsitthāti.
พาหิยเตฺถรสฺสาปทานํ ฉฎฺฐํฯ
Bāhiyattherassāpadānaṃ chaṭṭhaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / อปทาน-อฎฺฐกถา • Apadāna-aṭṭhakathā / ๖. พาหิยเตฺถรอปทานวณฺณนา • 6. Bāhiyattheraapadānavaṇṇanā