Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) |
๔. พากุลสุตฺตวณฺณนา
4. Bākulasuttavaṇṇanā
๒๐๙. ยถา ‘‘ทฺวตฺติํสา’’ติ วตฺตเพฺพ ทฺวิ-สทฺทสฺส พา-อาเทสํ กตฺวา พาตฺติํสาติ วุจฺจติ, เอวํ เอตฺถ พา-การาเทสํ กตฺวา พากุโลติ สมญฺญา อโหสิ, สายํ ตสฺส อนฺวตฺถสญฺญาติ ทเสฺสตุํ, ‘‘ตสฺส หี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ สีสํ นฺหาเปตฺวาติ มงฺคลตฺถํ มหาคงฺคาย สีสํ นฺหาเปตฺวาฯ นิมุชฺชนวเสนาติ ชณฺณุปมาเณ อุทเก โถกํเยว นิมุชฺชนวเสนฯ ฉเฑฺฑตฺวา ปลาตา มรณภยตชฺชิตาฯ ปหริยมานา มรนฺติ, น ชาเลน พนฺธิตมเตฺตนฯ ทารกสฺส เตเชนาติ ทารกสฺส ปุญฺญเตเชนฯ นีหฎมโตฺตว มโต, ตสฺส มรณตฺถํ อุปกฺกโม น กโต, เยน อุปกฺกเมน ทารกสฺส พาโธ สิยาฯ ตนฺติ มจฺฉํฯ สกลเมวาติ ปริปุณฺณาวยวเมวฯ
209. Yathā ‘‘dvattiṃsā’’ti vattabbe dvi-saddassa bā-ādesaṃ katvā bāttiṃsāti vuccati, evaṃ ettha bā-kārādesaṃ katvā bākuloti samaññā ahosi, sāyaṃ tassa anvatthasaññāti dassetuṃ, ‘‘tassa hī’’tiādi vuttaṃ. Sīsaṃ nhāpetvāti maṅgalatthaṃ mahāgaṅgāya sīsaṃ nhāpetvā. Nimujjanavasenāti jaṇṇupamāṇe udake thokaṃyeva nimujjanavasena. Chaḍḍetvā palātā maraṇabhayatajjitā. Pahariyamānā maranti, na jālena bandhitamattena. Dārakassa tejenāti dārakassa puññatejena. Nīhaṭamattova mato, tassa maraṇatthaṃ upakkamo na kato, yena upakkamena dārakassa bādho siyā. Tanti macchaṃ. Sakalamevāti paripuṇṇāvayavameva.
น เกลายตีติ น มมายติ กิสฺมิญฺจิ น มญฺญติฯ ทารกสฺส ปุญฺญเตเชน ปิฎฺฐิโต ผาเลนฺตีฯ ทารกํ ลภตีติ อุโคฺฆสนวเสน เภริํ จราเปตฺวาฯ ปวตฺติํ อาจิกฺขิ, อตฺตโน ปุตฺตภาวํ กเถสิฯ กุจฺฉิยา ธาริตตฺตา อมาตา กาตุํ น สกฺกา ชนนีภาวโตฯ มจฺฉํ คณฺหนฺตาปีติ มจฺฉํ กิณิตฺวา คณฺหนฺตาปิฯ ตถา คณฺหนฺตา จ ตปฺปริยาปนฺนํ สพฺพํ คณฺหาติ นามาติ อาห – ‘‘วกฺกยกนาทีนิ พหิ กตฺวา คณฺหนฺตา นาม นตฺถี’’ติฯ อยมฺปิ อมาตา กาตุํ น สกฺกา สามิกภาวโตฯ ทารโก อุภินฺนมฺปิ กุลานํ ทายาโท โหตุ ทฺวินฺนํ ปุตฺตภาวโตฯ
Na kelāyatīti na mamāyati kismiñci na maññati. Dārakassa puññatejena piṭṭhito phālentī. Dārakaṃ labhatīti ugghosanavasena bheriṃ carāpetvā. Pavattiṃ ācikkhi, attano puttabhāvaṃ kathesi. Kucchiyā dhāritattā amātā kātuṃ na sakkā jananībhāvato. Macchaṃ gaṇhantāpīti macchaṃ kiṇitvā gaṇhantāpi. Tathā gaṇhantā ca tappariyāpannaṃ sabbaṃ gaṇhāti nāmāti āha – ‘‘vakkayakanādīni bahi katvā gaṇhantā nāma natthī’’ti. Ayampi amātā kātuṃ na sakkā sāmikabhāvato. Dārako ubhinnampi kulānaṃ dāyādo hotu dvinnaṃ puttabhāvato.
อสีติเมติ ชาติยา อสีติเม วเสฺสฯ ปพฺพชฺชามเตฺตน กิเลสานํ อสมุจฺฉิชฺชนโต วีติกฺกมิตุํ กามสญฺญา อุปฺปนฺนปุพฺพาติ ปุจฺฉา ปน ปุจฺฉิตพฺพาฯ เตนาห – ‘‘เอวญฺจ โข มํ, อาวุโส กสฺสป, ปุจฺฉิตพฺพ’’นฺติฯ
Asītimeti jātiyā asītime vasse. Pabbajjāmattena kilesānaṃ asamucchijjanato vītikkamituṃ kāmasaññā uppannapubbāti pucchā pana pucchitabbā. Tenāha – ‘‘evañca kho maṃ, āvuso kassapa, pucchitabba’’nti.
๒๑๐. นิยเมตฺวาติ ตํ ตํวาเร เสสวาเรน นิยเมตฺวาฯ กมฺมปถเภทโกติ กมฺมปถวิเสสกโรฯ ตตฺถ กามวิตโกฺก ยถา กายวจีทฺวาเรสุ โจปนปฺปโตฺต กมฺมปถปฺปโตฺต นาม โหติ; มโนทฺวาเร ปรภณฺฑสฺส อตฺตโน ปริณามนวเสน ปวตฺตอภิชฺฌาสหคโต; เอวํ กามสญฺญาติ, ตถา พฺยาปาทวิหิํสาวิตกฺกสญฺญาติ เถโร, ‘‘อุภยเมฺปตํ กมฺมปถเภทกเมวา’’ติ อาหฯ กมฺมปถํ อปฺปตฺตํ สญฺญํ สนฺธาย, ‘‘สญฺญา อุปฺปนฺนมตฺตาวา’’ติ วุจฺจมาเน วิตกฺกิตมฺปิ สมานํ กมฺมปถํ อปฺปตฺตเมว, อุภยสฺส ปน วเสน สุตฺตปทํ ปวตฺตนฺติ เถรสฺส อธิปฺปาโยฯ
210.Niyametvāti taṃ taṃvāre sesavārena niyametvā. Kammapathabhedakoti kammapathavisesakaro. Tattha kāmavitakko yathā kāyavacīdvāresu copanappatto kammapathappatto nāma hoti; manodvāre parabhaṇḍassa attano pariṇāmanavasena pavattaabhijjhāsahagato; evaṃ kāmasaññāti, tathā byāpādavihiṃsāvitakkasaññāti thero, ‘‘ubhayampetaṃ kammapathabhedakamevā’’ti āha. Kammapathaṃ appattaṃ saññaṃ sandhāya, ‘‘saññā uppannamattāvā’’ti vuccamāne vitakkitampi samānaṃ kammapathaṃ appattameva, ubhayassa pana vasena suttapadaṃ pavattanti therassa adhippāyo.
๒๑๑. อายูหนกมฺมนฺติ อตฺตนา อายูหิตพฺพกมฺมํฯ โลมกิลิฎฺฐานีติ กิลิฎฺฐโลมานิ, กิลิฎฺฐํสูนีติ อโตฺถฯ กิเมวํ โภเคสุ ปรนิมฺมิตภเว วสวตฺติเทวานํ วิย สพฺพโส อายูหนกเมฺมน วินา อญฺญสฺสปิ ปพฺพชิตสฺส ปจฺจยลาโภ ทิฎฺฐปุโพฺพ สุตปุโพฺพติ อาห ‘‘อนจฺฉริยเญฺจต’’นฺติฯ กุลูปกเถรานเมตํ กมฺมํ, เถโร ปน กทาจิปิ กุลูปโก นาโหสิฯ
211.Āyūhanakammanti attanā āyūhitabbakammaṃ. Lomakiliṭṭhānīti kiliṭṭhalomāni, kiliṭṭhaṃsūnīti attho. Kimevaṃ bhogesu paranimmitabhave vasavattidevānaṃ viya sabbaso āyūhanakammena vinā aññassapi pabbajitassa paccayalābho diṭṭhapubbo sutapubboti āha ‘‘anacchariyañceta’’nti. Kulūpakatherānametaṃ kammaṃ, thero pana kadācipi kulūpako nāhosi.
คทฺทุหนมตฺตนฺติ โคทุหนมตฺตกาลํฯ อิธ ปน สกโล โคทุหโน อธิเปฺปโตติ ทเสฺสโนฺต, ‘‘คาวิํ…เป.… กาลมตฺตมฺปี’’ติ อาหฯ นิพนฺธีติ นิพทฺธทาตพฺพํ กตฺวา ฐเปสิฯ
Gadduhanamattanti goduhanamattakālaṃ. Idha pana sakalo goduhano adhippetoti dassento, ‘‘gāviṃ…pe… kālamattampī’’ti āha. Nibandhīti nibaddhadātabbaṃ katvā ṭhapesi.
สกิเลสปุคฺคลสฺส อเสริภาวกรเณน รเณน สทิสตาย รโณ, สํกิเลโสฯ อญฺญา อุทปาทีติ ปนาห, ตสฺมา อรหตฺตํ น ปฎิญฺญาตนฺติ ทเสฺสติฯ นนุ ตถา วจนํ ปฎิชานนํ วิย โหตีติ อาห ‘‘อปิจา’’ติอาทิฯ
Sakilesapuggalassa aseribhāvakaraṇena raṇena sadisatāya raṇo, saṃkileso. Aññā udapādīti panāha, tasmā arahattaṃ na paṭiññātanti dasseti. Nanu tathā vacanaṃ paṭijānanaṃ viya hotīti āha ‘‘apicā’’tiādi.
๒๑๒. อวาปุรติ ทฺวารํ เอเตนาติ อวาปุรณํฯ ปฐมสงฺคหโต ปจฺฉา เทสิตตฺตา ทุติยสงฺคเห สงฺคิตํฯ เสสํ สุวิเญฺญยฺยเมวฯ
212. Avāpurati dvāraṃ etenāti avāpuraṇaṃ. Paṭhamasaṅgahato pacchā desitattā dutiyasaṅgahe saṅgitaṃ. Sesaṃ suviññeyyameva.
พากุลสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตาฯ
Bākulasuttavaṇṇanāya līnatthappakāsanā samattā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya / ๔. พากุลสุตฺตํ • 4. Bākulasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) / ๔. พากุลสุตฺตวณฺณนา • 4. Bākulasuttavaṇṇanā