Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) |
๙. พาลปณฺฑิตสุตฺตวณฺณนา
9. Bālapaṇḍitasuttavaṇṇanā
๑๙. นวเม อวิชฺชานีวรณสฺสาติ อวิชฺชาย นิวาริตสฺสฯ เอวมยํ กาโย สมุทาคโตติ เอวํ อวิชฺชาย นิวาริตตฺตา ตณฺหาย จ สมฺปยุตฺตตฺตาเยว อยํ กาโย นิพฺพโตฺตฯ อยเญฺจว กาโยติ อยญฺจสฺส อตฺตโน สวิญฺญาณโก กาโยฯ พหิทฺธา จ นามรูปนฺติ พหิทฺธา จ ปเรสํ สวิญฺญาณโก กาโยฯ อตฺตโน จ ปรสฺส จ ปญฺจหิ ขเนฺธหิ ฉหิ อายตเนหิ จาปิ อยํ อโตฺถ ทีเปตโพฺพวฯ อิเตฺถตํ ทฺวยนฺติ เอวเมตํ ทฺวยํฯ ทฺวยํ ปฎิจฺจ ผโสฺสติ อญฺญตฺถ จกฺขุรูปาทีนิ ทฺวยานิ ปฎิจฺจ จกฺขุสมฺผสฺสาทโย วุตฺตา, อิธ ปน อชฺฌตฺติกพาหิรานิ อายตนานิฯ มหาทฺวยํ นาม กิเรตํฯ สเฬวายตนานีติ สเฬว ผสฺสายตนานิ ผสฺสการณานิฯ เยหิ ผุโฎฺฐติ เยหิ การณภูเตหิ อายตเนหิ อุปฺปเนฺนน ผเสฺสน ผุโฎฺฐฯ อญฺญตเรนาติ เอตฺถ ปริปุณฺณวเสน อญฺญตรตา เวทิตพฺพาฯ ตตฺราติ ตสฺมิํ พาลปณฺฑิตานํ กายนิพฺพตฺตนาทิมฺหิฯ โก อธิปฺปยาโสติ โก อธิกปโยโคฯ
19. Navame avijjānīvaraṇassāti avijjāya nivāritassa. Evamayaṃ kāyo samudāgatoti evaṃ avijjāya nivāritattā taṇhāya ca sampayuttattāyeva ayaṃ kāyo nibbatto. Ayañceva kāyoti ayañcassa attano saviññāṇako kāyo. Bahiddhā ca nāmarūpanti bahiddhā ca paresaṃ saviññāṇako kāyo. Attano ca parassa ca pañcahi khandhehi chahi āyatanehi cāpi ayaṃ attho dīpetabbova. Itthetaṃ dvayanti evametaṃ dvayaṃ. Dvayaṃ paṭicca phassoti aññattha cakkhurūpādīni dvayāni paṭicca cakkhusamphassādayo vuttā, idha pana ajjhattikabāhirāni āyatanāni. Mahādvayaṃ nāma kiretaṃ. Saḷevāyatanānīti saḷeva phassāyatanāni phassakāraṇāni. Yehi phuṭṭhoti yehi kāraṇabhūtehi āyatanehi uppannena phassena phuṭṭho. Aññatarenāti ettha paripuṇṇavasena aññataratā veditabbā. Tatrāti tasmiṃ bālapaṇḍitānaṃ kāyanibbattanādimhi. Ko adhippayāsoti ko adhikapayogo.
ภควํมูลกาติ ภควา มูลํ เอเตสนฺติ ภควํมูลกาฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – อิเม, ภเนฺต, อมฺหากํ ธมฺมา ปุเพฺพ กสฺสปสมฺมาสมฺพุเทฺธน อุปฺปาทิตา, ตสฺมิํ ปรินิพฺพุเต เอกํ พุทฺธนฺตรํ อโญฺญ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อิเม ธเมฺม อุปฺปาเทตุํ สมโตฺถ นาม นาโหสิ, ภควตา ปน โน อิเม ธมฺมา อุปฺปาทิตาฯ ภควนฺตญฺหิ นิสฺสาย มยํ อิเม ธเมฺม อาชานาม ปฎิวิชฺฌามาติ เอวํ ภควํมูลกา โน, ภเนฺต, ธมฺมาติฯ ภควํเนตฺติกาติ ภควา หิ ธมฺมานํ เนตา วิเนตา อนุเนตา, ยถาสภาวโต ปาฎิเยกฺกํ ปาฎิเยกฺกํ นามํ คเหตฺวา ทเสฺสตาติ ธมฺมา ภควํเนตฺติกา นาม โหนฺติฯ ภควํปฎิสรณาติ จตุภูมกธมฺมา สพฺพญฺญุตญฺญาณสฺส อาปาถํ อาคจฺฉมานา ภควติ ปฎิสรนฺติ นามาติ ภควํปฎิสรณาฯ ปฎิสรนฺตีติ สโมสรนฺติฯ อปิจ มหาโพธิมเณฺฑ นิสินฺนสฺส ภควโต ปฎิเวธวเสน ผโสฺส อาคจฺฉติ ‘‘อหํ ภควา กินฺนาโม’’ติ? ตฺวํ ผุสนเฎฺฐน ผโสฺส นามฯ เวทนา, สญฺญา, สงฺขารา, วิญฺญาณํ อาคจฺฉติ ‘‘อหํ ภควา กินฺนาม’’นฺติ, ตฺวํ วิชานนเฎฺฐน วิญฺญาณํ นามาติ เอวํ จตุภูมกธมฺมานํ ยถาสภาวโต ปาฎิเยกฺกํ ปาฎิเยกฺกํ นามํ คณฺหโนฺต ภควา ธเมฺม ปฎิสรตีติ ภควํปฎิสรณาฯ ภควนฺตํเยว ปฎิภาตูติ ภควโตว เอตสฺส ภาสิตสฺส อโตฺถ อุปฎฺฐาตุ, ตุเมฺหเยว โน กเถตฺวา เทถาติ อโตฺถฯ
Bhagavaṃmūlakāti bhagavā mūlaṃ etesanti bhagavaṃmūlakā. Idaṃ vuttaṃ hoti – ime, bhante, amhākaṃ dhammā pubbe kassapasammāsambuddhena uppāditā, tasmiṃ parinibbute ekaṃ buddhantaraṃ añño samaṇo vā brāhmaṇo vā ime dhamme uppādetuṃ samattho nāma nāhosi, bhagavatā pana no ime dhammā uppāditā. Bhagavantañhi nissāya mayaṃ ime dhamme ājānāma paṭivijjhāmāti evaṃ bhagavaṃmūlakā no, bhante, dhammāti. Bhagavaṃnettikāti bhagavā hi dhammānaṃ netā vinetā anunetā, yathāsabhāvato pāṭiyekkaṃ pāṭiyekkaṃ nāmaṃ gahetvā dassetāti dhammā bhagavaṃnettikā nāma honti. Bhagavaṃpaṭisaraṇāti catubhūmakadhammā sabbaññutaññāṇassa āpāthaṃ āgacchamānā bhagavati paṭisaranti nāmāti bhagavaṃpaṭisaraṇā. Paṭisarantīti samosaranti. Apica mahābodhimaṇḍe nisinnassa bhagavato paṭivedhavasena phasso āgacchati ‘‘ahaṃ bhagavā kinnāmo’’ti? Tvaṃ phusanaṭṭhena phasso nāma. Vedanā, saññā, saṅkhārā, viññāṇaṃ āgacchati ‘‘ahaṃ bhagavā kinnāma’’nti, tvaṃ vijānanaṭṭhena viññāṇaṃ nāmāti evaṃ catubhūmakadhammānaṃ yathāsabhāvato pāṭiyekkaṃ pāṭiyekkaṃ nāmaṃ gaṇhanto bhagavā dhamme paṭisaratīti bhagavaṃpaṭisaraṇā. Bhagavantaṃyeva paṭibhātūti bhagavatova etassa bhāsitassa attho upaṭṭhātu, tumheyeva no kathetvā dethāti attho.
สา เจว อวิชฺชาติ เอตฺถ กิญฺจาปิ สา อวิชฺชา จ ตณฺหา จ กมฺมํ ชวาเปตฺวา ปฎิสนฺธิํ อากฑฺฒิตฺวา นิรุทฺธา, ยถา ปน อชฺชาปิ ยํ หิโยฺย เภสชฺชํ ปีตํ, ตเทว โภชนํ ภุญฺชาติ สริกฺขกเตฺตน ตเทวาติ วุจฺจติ, เอวมิธาปิ สา เจว อวิชฺชา สา จ ตณฺหาติ อิทมฺปิ สริกฺขกเตฺตน วุตฺตํฯ พฺรหฺมจริยนฺติ มคฺคพฺรหฺมจริยํฯ ทุกฺขกฺขยายาติ วฎฺฎทุกฺขสฺส ขยตฺถายฯ กายูปโค โหตีติ อญฺญํ ปฎิสนฺธิกายํ อุปคนฺตา โหติฯ ยทิทํ พฺรหฺมจริยวาโสติ โย อยํ มคฺคพฺรหฺมจริยวาโส, อยํ พาลโต ปณฺฑิตสฺส วิเสโสติ ทเสฺสติฯ อิติ อิมสฺมิํ สุเตฺต สโพฺพปิ สปฎิสนฺธิโก ปุถุชฺชโน ‘‘พาโล’’ติ, อปฺปฎิสนฺธิโก ขีณาสโว ‘‘ปณฺฑิโต’’ติ วุโตฺตฯ โสตาปนฺนสกทาคามิอนาคามิโน ปน ‘‘ปณฺฑิตา’’ติ วา ‘‘พาลา’’ติ วา น วตฺตพฺพา, ภชมานา ปน ปณฺฑิตปกฺขํ ภชนฺติฯ นวมํฯ
Sāceva avijjāti ettha kiñcāpi sā avijjā ca taṇhā ca kammaṃ javāpetvā paṭisandhiṃ ākaḍḍhitvā niruddhā, yathā pana ajjāpi yaṃ hiyyo bhesajjaṃ pītaṃ, tadeva bhojanaṃ bhuñjāti sarikkhakattena tadevāti vuccati, evamidhāpi sā ceva avijjā sā ca taṇhāti idampi sarikkhakattena vuttaṃ. Brahmacariyanti maggabrahmacariyaṃ. Dukkhakkhayāyāti vaṭṭadukkhassa khayatthāya. Kāyūpago hotīti aññaṃ paṭisandhikāyaṃ upagantā hoti. Yadidaṃ brahmacariyavāsoti yo ayaṃ maggabrahmacariyavāso, ayaṃ bālato paṇḍitassa visesoti dasseti. Iti imasmiṃ sutte sabbopi sapaṭisandhiko puthujjano ‘‘bālo’’ti, appaṭisandhiko khīṇāsavo ‘‘paṇḍito’’ti vutto. Sotāpannasakadāgāmianāgāmino pana ‘‘paṇḍitā’’ti vā ‘‘bālā’’ti vā na vattabbā, bhajamānā pana paṇḍitapakkhaṃ bhajanti. Navamaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๙. พาลปณฺฑิตสุตฺตํ • 9. Bālapaṇḍitasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๙. พาลปณฺฑิตสุตฺตวณฺณนา • 9. Bālapaṇḍitasuttavaṇṇanā