Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā)

    ๙. พาลปณฺฑิตสุตฺตวณฺณนา

    9. Bālapaṇḍitasuttavaṇṇanā

    ๒๔๖. เอเตหีติ ทุจินฺติตาทีหิฯ เอเตน ลกฺขณสทฺทสฺส กรณตฺถตมาหฯ ตาเนวาติ ลกฺขณานิ เอวฯ ตสฺสาติ พาลสฺสฯ ‘‘อยํ พาโล’’ติ นิมียติ สญฺจานียติ เอเตหีติ พาลนิมิตฺตานิฯ อปทานํ วุจฺจติ วิขฺยาตํ กมฺมํฯ ทุจินฺติตาทีนิ จ พาเล วิขฺยาตานิ, อวธารณภาเว วา, ตสฺมา พาลสฺส อปทานานีติ พาลาปทานานิฯ อภิชฺฌาทีหิ ทุฎฺฐํ ทูสิตํ จิเนฺตตีติ ทุจินฺติตจินฺตีฯ โลภาทีหิ ทุฎฺฐํ ภาสิตํ มุสาวาทาทิํ ภาสตีติ ทุพฺภาสิตภาสีฯ เตสํ เตสํเยว วเสน กตฺตพฺพโต ทุกฺกฎกมฺมํ ปาณาติปาตาทิํ กโรตีติ ทุกฺกฎกมฺมการีฯ เตนาห ‘‘จินฺตยโนฺต’’ติอาทิฯ ตานิ อุปนิสฺสาย ชาตนฺติ ตชฺชํฯ ตโต เอว เตสํ สารุปฺปํ อนุรูปนฺติ ตสฺสารุปฺปํฯ เตนาห ‘‘ตชฺชาติก’’นฺติอาทิฯ กจฺฉมานายาติ กถิยมานายฯ

    246.Etehīti ducintitādīhi. Etena lakkhaṇasaddassa karaṇatthatamāha. Tānevāti lakkhaṇāni eva. Tassāti bālassa. ‘‘Ayaṃ bālo’’ti nimīyati sañcānīyati etehīti bālanimittāni. Apadānaṃ vuccati vikhyātaṃ kammaṃ. Ducintitādīni ca bāle vikhyātāni, avadhāraṇabhāve vā, tasmā bālassa apadānānīti bālāpadānāni. Abhijjhādīhi duṭṭhaṃ dūsitaṃ cintetīti ducintitacintī. Lobhādīhi duṭṭhaṃ bhāsitaṃ musāvādādiṃ bhāsatīti dubbhāsitabhāsī. Tesaṃ tesaṃyeva vasena kattabbato dukkaṭakammaṃ pāṇātipātādiṃ karotīti dukkaṭakammakārī. Tenāha ‘‘cintayanto’’tiādi. Tāni upanissāya jātanti tajjaṃ. Tato eva tesaṃ sāruppaṃ anurūpanti tassāruppaṃ. Tenāha ‘‘tajjātika’’ntiādi. Kacchamānāyāti kathiyamānāya.

    ๒๔๘. ยสฺมา สตฺตานํ ยถูปจิตานิ กมฺมานิ กโตกาสานิ ตทุปฎฺฐาปิตานิ กมฺมนิมิตฺตคตินิมิตฺตานิ มรณสฺส อาสนฺนกาเล จิตฺตสฺส อาปาถํ อาคจฺฉนฺตานิ, ตทา โอลมฺพนฺตานิ วิย อภิภวนฺตานิ วิย อโชฺฌตฺถรนฺตานิ วิย อุปฎฺฐหนฺติ, ตสฺมา วุตฺตํ – ‘‘โอลมฺพนาทิอากาเรน หิ ตานิ อุปฎฺฐหนฺตี’’ติฯ อุปฎฺฐานากาโร เอว ตทา จิตฺตสฺส โคจรภาวํ คจฺฉตีติ อาห – ‘‘ตสฺมิํ อุปฎฺฐานากาเร อาปาถคเต’’ติฯ

    248. Yasmā sattānaṃ yathūpacitāni kammāni katokāsāni tadupaṭṭhāpitāni kammanimittagatinimittāni maraṇassa āsannakāle cittassa āpāthaṃ āgacchantāni, tadā olambantāni viya abhibhavantāni viya ajjhottharantāni viya upaṭṭhahanti, tasmā vuttaṃ – ‘‘olambanādiākārena hi tāni upaṭṭhahantī’’ti. Upaṭṭhānākāro eva tadā cittassa gocarabhāvaṃ gacchatīti āha – ‘‘tasmiṃ upaṭṭhānākāre āpāthagate’’ti.

    ๒๔๙. น สกฺกาติ น วทตีติ เอเตน เทฺวปิ ปฎิเสธา ปกติอตฺถาติ อยมโตฺถ วุโตฺต โหติฯ น สุกราติ ปน อิมินา ทุกฺกรภาโว ทีปิโต, ทุกฺกรญฺจ ตาว อุปาเยน สกฺกา กาตุนฺติ ทเสฺสโนฺต อาห – ‘‘น สุกรํ ปนา’’ติอาทิฯ เตนาติ วินิวิชฺฌิตฺวา คมเนน อญฺญมญฺญํ สํวิชฺฌเนนฯ อสฺสาติ โจรสฺสฯ อิโต อุตฺตริปีติ มชฺฌนฺหิกสมยํ สายนฺหสมยญฺจ สตฺติสเตนฯ

    249.Na sakkāti na vadatīti etena dvepi paṭisedhā pakatiatthāti ayamattho vutto hoti. Na sukarāti pana iminā dukkarabhāvo dīpito, dukkarañca tāva upāyena sakkā kātunti dassento āha – ‘‘na sukaraṃ panā’’tiādi. Tenāti vinivijjhitvā gamanena aññamaññaṃ saṃvijjhanena. Assāti corassa. Ito uttaripīti majjhanhikasamayaṃ sāyanhasamayañca sattisatena.

    ๒๕๐. สงฺขมฺปิ น อุเปตีติ อิมินา สงฺขาตพฺพมตฺตํ นตฺถีติ ทีปิตํ โหตีติ อาห – ‘‘คณนามตฺตมฺปิ น คจฺฉตี’’ติฯ อุปนิเกฺขปนมตฺตมฺปีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโยฯ กลภาคนฺติ กลานํ สงฺคณนโกฎฺฐาสํฯ เตนาห ‘‘สติมํ กล’’นฺติอาทิฯ โอโลกิตมตฺตมฺปีติ อุปนิเกฺขปนวเสน โอโลกนมตฺตกมฺปิฯ ตํ กมฺมการณนฺติ ตํ ปญฺจวิธพนฺธนกมฺมการณํ จตุนฺนมฺปิ ปสฺสานํ วเสน สมฺปริวเตฺตตฺวา กโรนฺติเยว, ปาฬิยํ ปน เอกปสฺสวเสน อาคตาฯ เคหสฺสาติ มหโต เคหสฺสฯ สพฺพโตติ สพฺพาวยวโตฯ สมฺปชฺชลิเต เอกชาลีภูเตฯ สุปกฺกุถิตายาติ สุฎฺฐุ นิปกฺกายฯ

    250.Saṅkhampi na upetīti iminā saṅkhātabbamattaṃ natthīti dīpitaṃ hotīti āha – ‘‘gaṇanāmattampi na gacchatī’’ti. Upanikkhepanamattampīti etthāpi eseva nayo. Kalabhāganti kalānaṃ saṅgaṇanakoṭṭhāsaṃ. Tenāha ‘‘satimaṃ kala’’ntiādi. Olokitamattampīti upanikkhepanavasena olokanamattakampi. Taṃ kammakāraṇanti taṃ pañcavidhabandhanakammakāraṇaṃ catunnampi passānaṃ vasena samparivattetvā karontiyeva, pāḷiyaṃ pana ekapassavasena āgatā. Gehassāti mahato gehassa. Sabbatoti sabbāvayavato. Sampajjalite ekajālībhūte. Supakkuthitāyāti suṭṭhu nipakkāya.

    วิภโตฺตติ ตตฺถ นิพฺพตฺตกสตฺตานํ สาธารณกมฺมุนา วิภโตฺต วิย นิพฺพโตฺตฯ อโยปากาเรน ปริโต อโตฺต คหิโตติ อโยปาการปริยโตฺต ปริกฺขิโตฺตฯ

    Vibhattoti tattha nibbattakasattānaṃ sādhāraṇakammunā vibhatto viya nibbatto. Ayopākārena parito atto gahitoti ayopākārapariyatto parikkhitto.

    ยมกโคฬกาติ ทารกานํ กีฬนยุคฬาฯ เอวมฺปิ ทุโกฺขติ ยถาวุตฺตอุสฺสทนิรยวเสนปิ โสต-ฆาน-ชิวฺหา-กาย-มโน-โคจรตาวเสนปิ อิมินา อากาเรน ทุโกฺขติฯ

    Yamakagoḷakāti dārakānaṃ kīḷanayugaḷā. Evampi dukkhoti yathāvuttaussadanirayavasenapi sota-ghāna-jivhā-kāya-mano-gocaratāvasenapi iminā ākārena dukkhoti.

    ๒๕๑. ทเนฺตหิ อุเลฺลหิตฺวาติ อุตฺตรทเนฺตหิ อญฺฉิตฺวาฯ รสวเสน อติโตฺต อสฺสาโท รสาโทฯ เตนาห ‘‘รสเคเธน ปริภุตฺตรโส’’ติฯ

    251.Dantehi ullehitvāti uttaradantehi añchitvā. Rasavasena atitto assādo rasādo. Tenāha ‘‘rasagedhena paribhuttaraso’’ti.

    ๒๕๒. ทุรูโปติ วิรูโปฯ ทุทฺทโสติ เตเนว วิรูปภาเวน อนิฎฺฐทสฺสโนฯ ลกุณฺฐโกติ รโสฺสฯ ปวิฎฺฐคีโวติ ขนฺธนฺตรํ อนุปวิฎฺฐคีโวฯ มโหทโรติ วิปุลกุจฺฉิฯ เยภุเยฺยน หิ ลกุณฺฎกา สตฺตา รสฺสคีวา ปุถุลกุจฺฉิกาว โหนฺตีติ ตถา วุตฺตํฯ กาโณ นาม จกฺขุวิกโลติ วุตฺตํ – ‘‘เอกกฺขิกาโณ วา อุภยกฺขิกาโณ วา’’ติฯ กุณีติ หตฺถวิกโล วุจฺจตีติ อาห – ‘‘เอกหตฺถกุณี วา อุภยหตฺถกุณี วา’’ติฯ วาตาทินา อุปหตกายปโกฺข อิธ ปกฺขหโตติ อธิเปฺปโต, น ปกฺขิหโตติ อาห – ‘‘ปกฺขหโตติ ปีฐสปฺปี’’ติฯ ทุกฺขานุปพนฺธทสฺสนตฺถนฺติ อปราปรชาตีสุ วิปากทุกฺขสฺส อนุปพนฺธวเสน ปวตฺติทสฺสนตฺถํฯ

    252.Durūpoti virūpo. Duddasoti teneva virūpabhāvena aniṭṭhadassano. Lakuṇṭhakoti rasso. Paviṭṭhagīvoti khandhantaraṃ anupaviṭṭhagīvo. Mahodaroti vipulakucchi. Yebhuyyena hi lakuṇṭakā sattā rassagīvā puthulakucchikāva hontīti tathā vuttaṃ. Kāṇo nāma cakkhuvikaloti vuttaṃ – ‘‘ekakkhikāṇo vā ubhayakkhikāṇo vā’’ti. Kuṇīti hatthavikalo vuccatīti āha – ‘‘ekahatthakuṇī vā ubhayahatthakuṇī vā’’ti. Vātādinā upahatakāyapakkho idha pakkhahatoti adhippeto, na pakkhihatoti āha – ‘‘pakkhahatoti pīṭhasappī’’ti. Dukkhānupabandhadassanatthanti aparāparajātīsu vipākadukkhassa anupabandhavasena pavattidassanatthaṃ.

    กลียติ ขลียติ อปฺปหียติ สาสนํ เอเตนาติ กลิ, ชุตปราชโยฯ โส เอว คหสทิสตาย ‘‘กลิคฺคโห’’ติ วุโตฺตฯ อธิพนฺธนฺติ กุฎุมฺพสฺส อธิวุตฺถสฺส มูลภูตสฺส อตฺตโน พนฺธิตพฺพตํฯ เตนาห ‘‘อตฺตนาปิ พนฺธํ นิคเจฺฉยฺยา’’ติฯ พาลภูมิยา พาลภาวสฺส มตฺถกปฺปตฺติ นิรยคามิกมฺมการิตาติ ‘‘นิรเย นิพฺพตฺตติ’’เจฺจว วุตฺตํฯ ตคฺคหเณเนว ปน ตโต มุทุมุทุตราทิกมฺมวเสน เสสาปาเยสุ อปราปรนิพฺพตฺตาทิพาลภูมิ วิภาวิตา โหตีติฯ

    Kalīyati khalīyati appahīyati sāsanaṃ etenāti kali, jutaparājayo. So eva gahasadisatāya ‘‘kaliggaho’’ti vutto. Adhibandhanti kuṭumbassa adhivutthassa mūlabhūtassa attano bandhitabbataṃ. Tenāha ‘‘attanāpi bandhaṃ nigaccheyyā’’ti. Bālabhūmiyā bālabhāvassa matthakappatti nirayagāmikammakāritāti ‘‘niraye nibbattati’’cceva vuttaṃ. Taggahaṇeneva pana tato mudumudutarādikammavasena sesāpāyesu aparāparanibbattādibālabhūmi vibhāvitā hotīti.

    ๒๕๓. วุตฺตานุสาเรนาติ ‘‘พาโล อย’’นฺติอาทินา วุตฺตสฺส อตฺถวจนสฺส ‘‘ปณฺฑิโต อย’’นฺติ เอเตหิ ลกฺขียตีติอาทินา อนุสาเรนฯ มโนสุจริตาทีนํ วเสนาติ จิเนฺตโนฺต อนภิชฺฌา-อพฺยาปาท-สมฺมาทสฺสนํ สุจินฺติตเมว จิเนฺตตีติอาทินา มโนสุจริตานํ ติณฺณํ สุจริตานํ วเสน โยเชตพฺพานิฯ

    253.Vuttānusārenāti ‘‘bālo aya’’ntiādinā vuttassa atthavacanassa ‘‘paṇḍito aya’’nti etehi lakkhīyatītiādinā anusārena. Manosucaritādīnaṃ vasenāti cintento anabhijjhā-abyāpāda-sammādassanaṃ sucintitameva cintetītiādinā manosucaritānaṃ tiṇṇaṃ sucaritānaṃ vasena yojetabbāni.

    จกฺกรตนวณฺณนา

    Cakkaratanavaṇṇanā

    ๒๕๖. อุโปสถํ (ที. นิ. ฎี. ๒.๒๔๓) วุจฺจติ อฎฺฐงฺคสมนฺนาคตํ สพฺพทิวเสสุ คหเฎฺฐหิ รกฺขิตพฺพสีลํ, สมาทานวเสน ตํ เอตสฺส อตฺถีติ อุโปสถิโก, ตสฺสฯ เตนาห ‘‘สมาทินฺนอุโปสถงฺคสฺสา’’ติฯ ตทาติ ตสฺมิํ กาเล, ยสฺมิํ ปน กาเล จกฺกวตฺติภาวสํวตฺตนิย-ทาน-สีลาทิ-ปุญฺญสมฺภารสมุทาคมสมฺปโนฺน ปูริตจกฺกวตฺติวโตฺต กาทีปเทสวิเสสปจฺจาชาติยา เจว กุลรูปโภคาธิปเตยฺยาทิคุณวิเสสสมฺปตฺติยา จ ตทนุรูเป อตฺตภาเว ฐิโต โหติ, ตสฺมิํ กาเลฯ ตาทิเส หิ กาเล จกฺกวตฺติภาวี ปุริสุตฺตโม ยถาวุตฺตคุณสมนฺนาคโต ราชา ขตฺติโย หุตฺวา มุทฺธาวสิโตฺต วิสุทฺธสีโล อนุโปสถํ สตสหสฺสวิสฺสชฺชนาทินา สมฺมาปฎิปตฺติํ ปฎิปชฺชติ, น ยทา จกฺกรตนํ อุปฺปชฺชติ, ตทา เอวฯ เตนาห – ‘‘ปาโต…เป.… ธมฺมตา’’ติฯ (ตตฺถ ทโม อินฺทฺริยสํวโร, สํยโม สีลสํวโรฯ)

    256. Uposathaṃ (dī. ni. ṭī. 2.243) vuccati aṭṭhaṅgasamannāgataṃ sabbadivasesu gahaṭṭhehi rakkhitabbasīlaṃ, samādānavasena taṃ etassa atthīti uposathiko, tassa. Tenāha ‘‘samādinnauposathaṅgassā’’ti. Tadāti tasmiṃ kāle, yasmiṃ pana kāle cakkavattibhāvasaṃvattaniya-dāna-sīlādi-puññasambhārasamudāgamasampanno pūritacakkavattivatto kādīpadesavisesapaccājātiyā ceva kularūpabhogādhipateyyādiguṇavisesasampattiyā ca tadanurūpe attabhāve ṭhito hoti, tasmiṃ kāle. Tādise hi kāle cakkavattibhāvī purisuttamo yathāvuttaguṇasamannāgato rājā khattiyo hutvā muddhāvasitto visuddhasīlo anuposathaṃ satasahassavissajjanādinā sammāpaṭipattiṃ paṭipajjati, na yadā cakkaratanaṃ uppajjati, tadā eva. Tenāha – ‘‘pāto…pe… dhammatā’’ti. (Tattha damo indriyasaṃvaro, saṃyamo sīlasaṃvaro.)

    วุตฺตปฺปการปุญฺญกมฺมปจฺจยนฺติ จกฺกวตฺติภาวาวหทานทมสํยมาทิปุญฺญกมฺมเหตุกํฯ นีลมณิสงฺฆาฎสทิสนฺติ อินฺทนีลมณิสญฺจยสมานํฯ ทิพฺพานุภาวยุตฺตตฺตาติ ทสฺสนียตา มนุญฺญโฆสตา อากาสคามิตา โอภาสวิสฺสชฺชนา อปฺปฎิฆาตตา รโญฺญ อิจฺฉิตตฺถนิปฺผตฺติการณตาติ เอวมาทีหิ ทิพฺพสทิเสหิ อานุภาเวหิ สมนฺนาคตตฺตาฯ สเพฺพหิ อากาเรหีติ สเพฺพหิ สุนฺทเรหิ อากาเรหิฯ ปริปูรนฺติ ปริปุณฺณํฯ สา จสฺส ปาริปูริ อิทาเนว วิตฺถารียติฯ

    Vuttappakārapuññakammapaccayanti cakkavattibhāvāvahadānadamasaṃyamādipuññakammahetukaṃ. Nīlamaṇisaṅghāṭasadisanti indanīlamaṇisañcayasamānaṃ. Dibbānubhāvayuttattāti dassanīyatā manuññaghosatā ākāsagāmitā obhāsavissajjanā appaṭighātatā rañño icchitatthanipphattikāraṇatāti evamādīhi dibbasadisehi ānubhāvehi samannāgatattā. Sabbehi ākārehīti sabbehi sundarehi ākārehi. Paripūranti paripuṇṇaṃ. Sā cassa pāripūri idāneva vitthārīyati.

    ปนาฬีติ ฉิทฺทํฯ สุทฺธสินิทฺธทนฺตปนฺติยา นิพฺพิวรายาติ อธิปฺปาโยฯ นาภิปนาฬิ ปริเกฺขปปเฎฺฎสูติ นาภิปริเกฺขปปเฎฺฎ เจว นาภิยา ปนาฬิปริเกฺขปปเฎฺฎ จฯ สุวิภตฺตาวาติ อญฺญมญฺญํ อสํกิณฺณตฺตา สุฎฺฐุ วิภตฺตาฯ ปริเจฺฉทเลขนฺตเรสุ มณิกา สุวิภตฺตา หุตฺวา ปญฺญายนฺตีติ วทนฺติฯ

    Panāḷīti chiddaṃ. Suddhasiniddhadantapantiyā nibbivarāyāti adhippāyo. Nābhipanāḷi parikkhepapaṭṭesūti nābhiparikkhepapaṭṭe ceva nābhiyā panāḷiparikkhepapaṭṭe ca. Suvibhattāvāti aññamaññaṃ asaṃkiṇṇattā suṭṭhu vibhattā. Paricchedalekhantaresu maṇikā suvibhattā hutvā paññāyantīti vadanti.

    ปริเจฺฉทเลขาทีนีติ อาทิ-สเทฺทน มาลากมฺมาทิํ สงฺคณฺหาติฯ สุรตฺตาติอาทีสุ สุรตฺตคฺคหเณน มหานามวณฺณตํ ปฎิกฺขิปติ, สุทฺธคฺคหเณน สํกิลิฎฺฐตํ, สินิทฺธคฺคหเณน ลูขตํฯ กามํ ตสฺส จกฺกรตนสฺส เนมิมณฺฑลํ อสนฺธิกํว นิพฺพตฺตํ, สพฺพตฺถกเมว ปน เกวลํ ปวาฬวโณฺณว น โสภตีติ ปกติจกฺกสฺส สนฺธิยุเตฺตสุ ฐาเนสุ รตฺตชมฺพุนทปริกฺขตํ อโหสิ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘สนฺธีสุ ปนสฺสา’’ติอาทิฯ

    Paricchedalekhādīnīti ādi-saddena mālākammādiṃ saṅgaṇhāti. Surattātiādīsu surattaggahaṇena mahānāmavaṇṇataṃ paṭikkhipati, suddhaggahaṇena saṃkiliṭṭhataṃ, siniddhaggahaṇena lūkhataṃ. Kāmaṃ tassa cakkaratanassa nemimaṇḍalaṃ asandhikaṃva nibbattaṃ, sabbatthakameva pana kevalaṃ pavāḷavaṇṇova na sobhatīti pakaticakkassa sandhiyuttesu ṭhānesu rattajambunadaparikkhataṃ ahosi, taṃ sandhāya vuttaṃ ‘‘sandhīsu panassā’’tiādi.

    เนมิมณฺฑลปิฎฺฐิยนฺติ เนมิมณฺฑลสฺส ปิฎฺฐิปเทเสฯ ทสนฺนํ ทสนฺนํ อรานมนฺตเรติ ทสนฺนํ ทสนฺนํ อรานํ อนฺตรสมีเป ปเทเสฯ ฉิทฺทมณฺฑลจิโตฺตติ มณฺฑลสณฺฐานฉิทฺทวิจิโตฺตฯ สุกุสลสมนฺนาหตสฺสาติ สุฎฺฐุ กุสเลน สิปฺปินา ปหตสฺส, วาทิตสฺสาติ อโตฺถฯ วคฺคูติ มโนรโม รชนีโยติ สุณนฺตานํ ราคุปฺปาทโกฯ กมนีโยติ กโนฺตฯ สโมสริตกุสุมทามาติ โอลมฺพิตสุคนฺธกุสุมทามาฯ เนมิปริเกฺขปสฺสาติ เนมิปริยนฺตปริเกฺขปสฺสฯ นาภิปนาฬิยา ทฺวินฺนํ ปสฺสานํ วเสน ‘‘ทฺวินฺนมฺปิ นาภิปนาฬีน’’นฺติ วุตฺตํฯ เอกา เอว หิ สา ปนาฬิฯ เยหีติ เยหิ ทฺวีหิ สีหมุเขหิฯ ปุน เยหีติ มุตฺตากลาเปหิฯ

    Nemimaṇḍalapiṭṭhiyanti nemimaṇḍalassa piṭṭhipadese. Dasannaṃ dasannaṃ arānamantareti dasannaṃ dasannaṃ arānaṃ antarasamīpe padese. Chiddamaṇḍalacittoti maṇḍalasaṇṭhānachiddavicitto. Sukusalasamannāhatassāti suṭṭhu kusalena sippinā pahatassa, vāditassāti attho. Vaggūti manoramo rajanīyoti suṇantānaṃ rāguppādako. Kamanīyoti kanto. Samosaritakusumadāmāti olambitasugandhakusumadāmā. Nemiparikkhepassāti nemipariyantaparikkhepassa. Nābhipanāḷiyā dvinnaṃ passānaṃ vasena ‘‘dvinnampi nābhipanāḷīna’’nti vuttaṃ. Ekā eva hi sā panāḷi. Yehīti yehi dvīhi sīhamukhehi. Puna yehīti muttākalāpehi.

    โอธาปยมานนฺติ โสตุํ อวหิตานิ กุรุมานํฯ จโนฺท ปุรโต, จกฺกรตนํ ปจฺฉาติ เอวํ ปุพฺพาปริเยน ปุพฺพาปรภาเคนฯ

    Odhāpayamānanti sotuṃ avahitāni kurumānaṃ. Cando purato, cakkaratanaṃ pacchāti evaṃ pubbāpariyena pubbāparabhāgena.

    อเนฺต ปุรสฺสาติ อนุราธปุเร รโญฺญ อเนฺตปุรสฺส อุตฺตรสีหปญฺชรอาสเนฺน ตทา รโญฺญ ปาสาเท ตาทิสสฺส อุตฺตรทิสาย สีหปญฺชรสฺส ลพฺภมานตฺตา วุตฺตํฯ สุเขน สกฺกาติ กิญฺจิ อนารุหิตฺวา สรีรญฺจ อนุลฺลงฺฆิตฺวา ยถาฐิเตเนว หเตฺถน ปุปฺผมุฎฺฐิโย ขิปิตฺวา สุเขน สกฺกา โหติ ปูเชตุํฯ

    Ante purassāti anurādhapure rañño antepurassa uttarasīhapañjaraāsanne tadā rañño pāsāde tādisassa uttaradisāya sīhapañjarassa labbhamānattā vuttaṃ. Sukhena sakkāti kiñci anāruhitvā sarīrañca anullaṅghitvā yathāṭhiteneva hatthena pupphamuṭṭhiyo khipitvā sukhena sakkā hoti pūjetuṃ.

    นานาวิราครตนปฺปภาสมุชฺชลนฺติ นานาวิธจิตฺตวณฺณรตโนภาสปภสฺสรํฯ อากาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา ปวเตฺตติฯ อาคนฺตฺวา ฐิตฎฺฐานโต อุปริ อากาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา ปวเตฺตฯ

    Nānāvirāgaratanappabhāsamujjalanti nānāvidhacittavaṇṇaratanobhāsapabhassaraṃ. Ākāsaṃ abbhuggantvā pavatteti. Āgantvā ṭhitaṭṭhānato upari ākāsaṃ abbhuggantvā pavatte.

    สนฺนิเวสกฺขโมติ ขนฺธวารสนฺนิเวสโยโคฺยฯ สุลภาหารูปกรโณติ สุเขเนว ลทฺธพฺพธญฺญโครสทารุติณาทิโภชนสาธโนฯ ปรจกฺกนฺติ ปรสฺส รโญฺญ เสนา, อาณา วาฯ

    Sannivesakkhamoti khandhavārasannivesayogyo. Sulabhāhārūpakaraṇoti sukheneva laddhabbadhaññagorasadārutiṇādibhojanasādhano. Paracakkanti parassa rañño senā, āṇā vā.

    อาคตนนฺทโนติ อาคโต หุตฺวา นนฺทิชนโนฯ อาคตํ วา อาคมนํ, เตน นนฺทตีติ อาคตนนฺทโนฯ คมเนน โสเจตีติ คมนโสจโนฯ อุปกเปฺปถาติ อุปรูปริ กเปฺปถ สํวิทหถ, อุปเนถาติ อโตฺถฯ อุปปริกฺขิตฺวาติ เหตุโตปิ สภาวโตปิ ผลโตปิ ทิฎฺฐธมฺมิกสมฺปรายิกอาทีนวโตปิ วีมํสิตฺวาฯ

    Āgatanandanoti āgato hutvā nandijanano. Āgataṃ vā āgamanaṃ, tena nandatīti āgatanandano. Gamanena socetīti gamanasocano. Upakappethāti uparūpari kappetha saṃvidahatha, upanethāti attho. Upaparikkhitvāti hetutopi sabhāvatopi phalatopi diṭṭhadhammikasamparāyikaādīnavatopi vīmaṃsitvā.

    วิภาเวนฺติ ปญฺญาย อตฺถํ วิภูตํ กโรนฺตีติ วิภาวิโน, ปญฺญวโนฺตฯ อนุยนฺตาติ อนุวตฺตกาฯ โอคจฺฉมานนฺติ โอสีทนฺตํฯ โยชนมตฺตนฺติ วิตฺถารโต โยชนมตฺตํ ปเทสํฯ คมฺภีรภาเวน ปน ยถา ภูมิ ทิสฺสติ, เอวํ โอคจฺฉติฯ เตนาห ‘‘มหาสมุทฺทตล’’นฺติอาทิฯ อเนฺต จกฺกรตนํ อุทเกน เสนาย อนโชฺฌตฺถรณตฺถํฯ

    Vibhāventi paññāya atthaṃ vibhūtaṃ karontīti vibhāvino, paññavanto. Anuyantāti anuvattakā. Ogacchamānanti osīdantaṃ. Yojanamattanti vitthārato yojanamattaṃ padesaṃ. Gambhīrabhāvena pana yathā bhūmi dissati, evaṃ ogacchati. Tenāha ‘‘mahāsamuddatala’’ntiādi. Ante cakkaratanaṃ udakena senāya anajjhottharaṇatthaṃ.

    ๒๕๗. ปุรตฺถิโม สมุโทฺท ปริยโนฺต อสฺสาติ ปุรตฺถิมสมุทฺทปริยโนฺต, ปุรตฺถิมสมุทฺทํ ปริยนฺตํ กตฺวาฯ จาตุรนฺตายาติ จาตุสมุทฺทนฺตาย ปุพฺพวิเทหาทิจตุโกฎฺฐาสนฺตายฯ

    257. Puratthimo samuddo pariyanto assāti puratthimasamuddapariyanto, puratthimasamuddaṃ pariyantaṃ katvā. Cāturantāyāti cātusamuddantāya pubbavidehādicatukoṭṭhāsantāya.

    หตฺถิรตนวณฺณนา

    Hatthiratanavaṇṇanā

    ๒๕๘. หริจนฺทนาทีหีติ อาทิ-สเทฺทน จตุชฺชาติยคนฺธาทิํ สงฺคณฺหาติฯ อาคมนํ จิเนฺตถาติ วทนฺติ จกฺกวตฺติวตฺตสฺส ปูริตตาย ปริจิตตฺตาฯ ภูมิผุสนเกหิ วาลธิ, วรงฺคํ หโตฺถติ อิเมหิ จ ตีหิ, จตูหิ ปาเทหิ จาติ สตฺตหิ อวยเวหิ ฐิตตฺตา สตฺตปติโฎฺฐฯ อิตเรสํ อมจฺจาทีนํ จินฺตยนฺตานํ น อาคจฺฉติฯ อปเนตฺวาติ อตฺตโน อานุภาเวน อปเนตฺวาฯ คนฺธเมว หิ ตสฺส อิตเร หตฺถิโน น สหนฺติฯ

    258.Haricandanādīhīti ādi-saddena catujjātiyagandhādiṃ saṅgaṇhāti. Āgamanaṃ cintethāti vadanti cakkavattivattassa pūritatāya paricitattā. Bhūmiphusanakehi vāladhi, varaṅgaṃ hatthoti imehi ca tīhi, catūhi pādehi cāti sattahi avayavehi ṭhitattā sattapatiṭṭho. Itaresaṃ amaccādīnaṃ cintayantānaṃ na āgacchati. Apanetvāti attano ānubhāvena apanetvā. Gandhameva hi tassa itare hatthino na sahanti.

    อสฺสรตนวณฺณนา

    Assaratanavaṇṇanā

    สินฺธวกุลโตติ สินฺธวสฺสาชานียกุลโตฯ

    Sindhavakulatoti sindhavassājānīyakulato.

    มณิรตนวณฺณนา

    Maṇiratanavaṇṇanā

    สกฎนาภิสมปฺปมาณนฺติ ปริณาหโต มหาสกฎสฺส นาภิยา สมปฺปมาณํฯ อุโภสุ อเนฺตสูติ เหฎฺฐา อุปริ จาติ ทฺวีสุ อเนฺตสุฯ กณฺณิกปริยนฺตโตติ ทฺวินฺนํ กญฺจนปทุมานํ กณฺณิกาย ปริยนฺตโตฯ มุตฺตาชาลเก ฐเปตฺวาติ สุวิสุเทฺธ มุตฺตามเย ชาลเก ปติฎฺฐเปตฺวาฯ

    Sakaṭanābhisamappamāṇanti pariṇāhato mahāsakaṭassa nābhiyā samappamāṇaṃ. Ubhosu antesūti heṭṭhā upari cāti dvīsu antesu. Kaṇṇikapariyantatoti dvinnaṃ kañcanapadumānaṃ kaṇṇikāya pariyantato. Muttājālake ṭhapetvāti suvisuddhe muttāmaye jālake patiṭṭhapetvā.

    อิตฺถิรตนวณฺณนา

    Itthiratanavaṇṇanā

    ‘‘อิตฺถิรตนํ ปาตุภวตี’’ติ วตฺวา อสฺส ปาตุภวนาการํ ทเสฺสตุํ, ‘‘มทฺทราชกุลโต วา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ มทฺทรฎฺฐํ กิร อภิรูปานํ อิตฺถีนํ อุปฺปตฺติฎฺฐานํฯ สณฺฐานปาริปูริยาติ หตฺถปาทาทิสรีราวยวานํ สุสณฺฐิตตายฯ อวยวปาริปูริยา หิ สมุทายปาริปูริสิทฺธิฯ รูปนฺติ สรีรํฯ ทสฺสนียาติ สุรูปภาเวน ปสฺสิตพฺพยุตฺตาฯ โสมนสฺสวเสน จิตฺตํ ปสาเทติ โยนิโส จิเนฺตนฺตานํ กมฺมผลสทฺธาย วเสนฯ ปสาทาวหตฺตาติ การณวจเนน ยถา ปาสาทิกตาย วณฺณโปกฺขรตาสิทฺธิ วุตฺตา, เอวํ ทสฺสนียตาย ปาสาทิกตาสิทฺธิ, อภิรูปตาย จ ทสฺสนียตาสิทฺธิ วตฺตพฺพาติ นยํ ทเสฺสติฯ ปฎิโลมโต วา วณฺณโปกฺขรตาย ปาสาทิกตาสิทฺธิ, ปาสาทิกตาย ทสฺสนียตาสิทฺธิ, ทสฺสนียตาย อภิรูปตาสิทฺธิ โยเชตพฺพาฯ เอวํ สรีรสมฺปตฺติวเสน อภิรูปตาทิเก ทเสฺสตฺวา อิทานิ สรีเร โทสาภาววเสนปิ เต ทเสฺสตุํ, ‘‘อภิรูปา วา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ ยถา ปมาณยุตฺตา, เอวํ อาโรหปริณาหโยคโต จ ปาสาทิกา นาติทีฆตาทโยฯ เอวํ มนุสฺสานํ ทิพฺพรูปตาสมฺปตฺติปีติ ‘‘อปฺปตฺตา ทิพฺพวณฺณ’’นฺติ วุตฺตํฯ กายวิปตฺติยาติ สรีรโทสสฺสฯ อภาโวติ อจฺจนฺตเมว ทูรีภาโวฯ

    ‘‘Itthiratanaṃpātubhavatī’’ti vatvā assa pātubhavanākāraṃ dassetuṃ, ‘‘maddarājakulato vā’’tiādi vuttaṃ. Maddaraṭṭhaṃ kira abhirūpānaṃ itthīnaṃ uppattiṭṭhānaṃ. Saṇṭhānapāripūriyāti hatthapādādisarīrāvayavānaṃ susaṇṭhitatāya. Avayavapāripūriyā hi samudāyapāripūrisiddhi. Rūpanti sarīraṃ. Dassanīyāti surūpabhāvena passitabbayuttā. Somanassavasena cittaṃ pasādeti yoniso cintentānaṃ kammaphalasaddhāya vasena. Pasādāvahattāti kāraṇavacanena yathā pāsādikatāya vaṇṇapokkharatāsiddhi vuttā, evaṃ dassanīyatāya pāsādikatāsiddhi, abhirūpatāya ca dassanīyatāsiddhi vattabbāti nayaṃ dasseti. Paṭilomato vā vaṇṇapokkharatāya pāsādikatāsiddhi, pāsādikatāya dassanīyatāsiddhi, dassanīyatāya abhirūpatāsiddhi yojetabbā. Evaṃ sarīrasampattivasena abhirūpatādike dassetvā idāni sarīre dosābhāvavasenapi te dassetuṃ, ‘‘abhirūpā vā’’tiādi vuttaṃ. Tattha yathā pamāṇayuttā, evaṃ ārohapariṇāhayogato ca pāsādikā nātidīghatādayo. Evaṃ manussānaṃ dibbarūpatāsampattipīti ‘‘appattā dibbavaṇṇa’’nti vuttaṃ. Kāyavipattiyāti sarīradosassa. Abhāvoti accantameva dūrībhāvo.

    สตวิหตสฺสาติ สตกฺขตฺตุํ วิหตสฺสฯ สตวิหตสฺสาติ จ อิทํ กปฺปาสปิจุวเสน วุตฺตํ, ตูลปิจุโน ปน วิหนนเมว นตฺถิฯ กุงฺกุมตครตุรุกฺขยวนปุปฺผานิ จตุชฺชาติฯ ตมาลตครตุรุกฺขยวนปุปฺผานีติ อปเรฯ

    Satavihatassāti satakkhattuṃ vihatassa. Satavihatassāti ca idaṃ kappāsapicuvasena vuttaṃ, tūlapicuno pana vihananameva natthi. Kuṅkumatagaraturukkhayavanapupphāni catujjāti. Tamālatagaraturukkhayavanapupphānīti apare.

    อคฺคิทฑฺฒา วิยาติ อาสนคเตน อคฺคินา ทฑฺฒา วิยฯ ปฐมเมวาติ อญฺญกิจฺจโต ปฐมเมว, ทสฺสนสมกาลเมวาติ อโตฺถฯ ตํ ตํ อตฺตนา รโญฺญ กาตพฺพกิจฺจํ กิํ กโรมีติ ปุจฺฉิตพฺพตาย กิํ กรณนฺติ ปฎิสฺสาเวตีติ กิงฺการปฎิสฺสาวินี

    Aggidaḍḍhā viyāti āsanagatena agginā daḍḍhā viya. Paṭhamamevāti aññakiccato paṭhamameva, dassanasamakālamevāti attho. Taṃ taṃ attanā rañño kātabbakiccaṃ kiṃ karomīti pucchitabbatāya kiṃ karaṇanti paṭissāvetīti kiṅkārapaṭissāvinī.

    มาตุคาโม นาม เยภุเยฺยน สฐชาติโก, อิตฺถิรตนสฺส ปน ตํ นตฺถีติ ทเสฺสตุํ, ‘‘สฺวาสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ คุณาติ รูปคุณา เจว อาจารคุณา จฯ ปุริมกมฺมานุภาเวนาติ ตสฺสา ปุริมกมฺมานุภาเวนฯ อิตฺถิรตนสฺส ตพฺภาวสํวตฺตนิยปุริมกมฺมสฺส อานุภาเวน, จกฺกวตฺติโนปิ ปริวารสํวตฺตนิยํ ปุญฺญกมฺมํ ตาทิสสฺส ผลวิเสสสฺส อุปนิสฺสโย โหติเยวฯ เตนาห ‘‘จกฺกวตฺติโน ปุญฺญํ อุปนิสฺสายา’’ติฯ เอเตน เสสรตเนสุปิ เตสํ วิเสสานํ ตทุปนิสฺสยตา วิภาวิตา เอวาติ ทฎฺฐพฺพํฯ ปุเพฺพ เอกเทสวเสน ลพฺภมานปาริปูรี รโญฺญ จกฺกวตฺติภาวูปคมนโต ปฎฺฐาย สพฺพาการปาริปูรา ชาตา

    Mātugāmo nāma yebhuyyena saṭhajātiko, itthiratanassa pana taṃ natthīti dassetuṃ, ‘‘svāssā’’tiādi vuttaṃ. Guṇāti rūpaguṇā ceva ācāraguṇā ca. Purimakammānubhāvenāti tassā purimakammānubhāvena. Itthiratanassa tabbhāvasaṃvattaniyapurimakammassa ānubhāvena, cakkavattinopi parivārasaṃvattaniyaṃ puññakammaṃ tādisassa phalavisesassa upanissayo hotiyeva. Tenāha ‘‘cakkavattino puññaṃ upanissāyā’’ti. Etena sesaratanesupi tesaṃ visesānaṃ tadupanissayatā vibhāvitā evāti daṭṭhabbaṃ. Pubbe ekadesavasena labbhamānapāripūrī rañño cakkavattibhāvūpagamanato paṭṭhāya sabbākārapāripūrā jātā.

    คหปติรตนวณฺณนา

    Gahapatiratanavaṇṇanā

    ปกติยาวาติ สภาเวเนว, จกฺกรตนปาตุภาวโต ปุเพฺพปิฯ

    Pakatiyāvāti sabhāveneva, cakkaratanapātubhāvato pubbepi.

    ปริณายกรตนวณฺณนา

    Pariṇāyakaratanavaṇṇanā

    นิสฺสายาติ อุปนิสฺสายฯ

    Nissāyāti upanissāya.

    ๒๖๐. กฎคฺคโห วุจฺจติ ชยคฺคโห สกานํ ปณานํ กฎภาเวน อตฺถสิทฺธิวเสน สงฺคณฺหนนฺติ กตฺวาฯ เตนาห ‘‘ชยคฺคาเหนา’’ติฯ เอกปฺปหาเรเนวาติ เอกปฺปโยเคเนว สตสหสฺสานิ อธิคเจฺฉยฺยาติ โยชนาฯ เสสํ วุตฺตนยตฺตา สุวิเญฺญยฺยเมวฯ

    260.Kaṭaggaho vuccati jayaggaho sakānaṃ paṇānaṃ kaṭabhāvena atthasiddhivasena saṅgaṇhananti katvā. Tenāha ‘‘jayaggāhenā’’ti. Ekappahārenevāti ekappayogeneva satasahassāni adhigaccheyyāti yojanā. Sesaṃ vuttanayattā suviññeyyameva.

    พาลปณฺฑิตสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตาฯ

    Bālapaṇḍitasuttavaṇṇanāya līnatthappakāsanā samattā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya / ๙. พาลปณฺฑิตสุตฺตํ • 9. Bālapaṇḍitasuttaṃ

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) / ๙. พาลปณฺฑิตสุตฺตวณฺณนา • 9. Bālapaṇḍitasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact