Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๓. พาลวโคฺค
3. Bālavaggo
๒๒. ‘‘‘เทฺวเม , ภิกฺขเว, พาลาฯ กตเม เทฺว? โย จ อจฺจยํ อจฺจยโต น ปสฺสติ, โย จ อจฺจยํ เทเสนฺตสฺส ยถาธมฺมํ นปฺปฎิคฺคณฺหาติ ฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, เทฺว พาลา’ติฯ ‘เทฺวเม , ภิกฺขเว, ปณฺฑิตาฯ กตเม เทฺว? โย จ อจฺจยํ อจฺจยโต ปสฺสติ, โย จ อจฺจยํ เทเสนฺตสฺส ยถาธมฺมํ ปฎิคฺคณฺหาติฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, เทฺว ปณฺฑิตา’’’ติฯ
22. ‘‘‘Dveme , bhikkhave, bālā. Katame dve? Yo ca accayaṃ accayato na passati, yo ca accayaṃ desentassa yathādhammaṃ nappaṭiggaṇhāti . Ime kho, bhikkhave, dve bālā’ti. ‘Dveme , bhikkhave, paṇḍitā. Katame dve? Yo ca accayaṃ accayato passati, yo ca accayaṃ desentassa yathādhammaṃ paṭiggaṇhāti. Ime kho, bhikkhave, dve paṇḍitā’’’ti.
๒๓. ‘‘เทฺวเม, ภิกฺขเว, ตถาคตํ อพฺภาจิกฺขนฺติฯ กตเม เทฺว? ทุโฎฺฐ วา โทสนฺตโร, สโทฺธ วา ทุคฺคหิเตน 1ฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, เทฺว ตถาคตํ อพฺภาจิกฺขนฺตี’’ติฯ
23. ‘‘Dveme, bhikkhave, tathāgataṃ abbhācikkhanti. Katame dve? Duṭṭho vā dosantaro, saddho vā duggahitena 2. Ime kho, bhikkhave, dve tathāgataṃ abbhācikkhantī’’ti.
๒๔. ‘‘‘เทฺวเม, ภิกฺขเว, ตถาคตํ อพฺภาจิกฺขนฺติฯ กตเม เทฺว? โย จ อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตน ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, โย จ ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตน อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, เทฺว ตถาคตํ อพฺภาจิกฺขนฺตี’ติฯ ‘เทฺวเม, ภิกฺขเว, ตถาคตํ นาพฺภาจิกฺขนฺติฯ กตเม เทฺว? โย จ อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตน อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, โย จ ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตน ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, เทฺว ตถาคตํ นาพฺภาจิกฺขนฺตี’’’ติฯ
24. ‘‘‘Dveme, bhikkhave, tathāgataṃ abbhācikkhanti. Katame dve? Yo ca abhāsitaṃ alapitaṃ tathāgatena bhāsitaṃ lapitaṃ tathāgatenāti dīpeti, yo ca bhāsitaṃ lapitaṃ tathāgatena abhāsitaṃ alapitaṃ tathāgatenāti dīpeti. Ime kho, bhikkhave, dve tathāgataṃ abbhācikkhantī’ti. ‘Dveme, bhikkhave, tathāgataṃ nābbhācikkhanti. Katame dve? Yo ca abhāsitaṃ alapitaṃ tathāgatena abhāsitaṃ alapitaṃ tathāgatenāti dīpeti, yo ca bhāsitaṃ lapitaṃ tathāgatena bhāsitaṃ lapitaṃ tathāgatenāti dīpeti. Ime kho, bhikkhave, dve tathāgataṃ nābbhācikkhantī’’’ti.
๒๕. ‘‘เทฺวเม, ภิกฺขเว, ตถาคตํ อพฺภาจิกฺขนฺติฯ กตเม เทฺว? โย จ เนยฺยตฺถํ สุตฺตนฺตํ นีตโตฺถ สุตฺตโนฺตติ ทีเปติ, โย จ นีตตฺถํ สุตฺตนฺตํ เนยฺยโตฺถ สุตฺตโนฺตติ ทีเปติฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, เทฺว ตถาคตํ อพฺภาจิกฺขนฺตี’’ติฯ
25. ‘‘Dveme, bhikkhave, tathāgataṃ abbhācikkhanti. Katame dve? Yo ca neyyatthaṃ suttantaṃ nītattho suttantoti dīpeti, yo ca nītatthaṃ suttantaṃ neyyattho suttantoti dīpeti. Ime kho, bhikkhave, dve tathāgataṃ abbhācikkhantī’’ti.
๒๖. ‘‘เทฺวเม, ภิกฺขเว, ตถาคตํ นาพฺภาจิกฺขนฺติฯ กตเม เทฺว? โย จ เนยฺยตฺถํ สุตฺตนฺตํ เนยฺยโตฺถ สุตฺตโนฺตติ ทีเปติ , โย จ นีตตฺถํ สุตฺตนฺตํ นีตโตฺถ สุตฺตโนฺตติ ทีเปติฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, เทฺว ตถาคตํ นาพฺภาจิกฺขนฺตี’’ติฯ
26. ‘‘Dveme, bhikkhave, tathāgataṃ nābbhācikkhanti. Katame dve? Yo ca neyyatthaṃ suttantaṃ neyyattho suttantoti dīpeti , yo ca nītatthaṃ suttantaṃ nītattho suttantoti dīpeti. Ime kho, bhikkhave, dve tathāgataṃ nābbhācikkhantī’’ti.
๒๗. ‘‘ปฎิจฺฉนฺนกมฺมนฺตสฺส , ภิกฺขเว, ทฺวินฺนํ คตีนํ อญฺญตรา คติ ปาฎิกงฺขา – นิรโย วา ติรจฺฉานโยนิ วาติฯ อปฺปฎิจฺฉนฺนกมฺมนฺตสฺส, ภิกฺขเว, ทฺวินฺนํ คตีนํ อญฺญตรา คติ ปาฎิกงฺขา – เทวา วา มนุสฺสา วา’’ติฯ
27. ‘‘Paṭicchannakammantassa , bhikkhave, dvinnaṃ gatīnaṃ aññatarā gati pāṭikaṅkhā – nirayo vā tiracchānayoni vāti. Appaṭicchannakammantassa, bhikkhave, dvinnaṃ gatīnaṃ aññatarā gati pāṭikaṅkhā – devā vā manussā vā’’ti.
๒๘. ‘‘มิจฺฉาทิฎฺฐิกสฺส , ภิกฺขเว, ทฺวินฺนํ คตีนํ อญฺญตรา คติ ปาฎิกงฺขา – นิรโย วา ติรจฺฉานโยนิ วา’’ติฯ
28. ‘‘Micchādiṭṭhikassa , bhikkhave, dvinnaṃ gatīnaṃ aññatarā gati pāṭikaṅkhā – nirayo vā tiracchānayoni vā’’ti.
๒๙. ‘‘สมฺมาทิฎฺฐิกสฺส, ภิกฺขเว, ทฺวินฺนํ คตีนํ อญฺญตรา คติ ปาฎิกงฺขา – เทวา วา มนุสฺสา วา’’ติฯ
29. ‘‘Sammādiṭṭhikassa, bhikkhave, dvinnaṃ gatīnaṃ aññatarā gati pāṭikaṅkhā – devā vā manussā vā’’ti.
๓๐. ‘‘ทุสฺสีลสฺส, ภิกฺขเว, เทฺว ปฎิคฺคาหา – นิรโย วา ติรจฺฉานโยนิ วาฯ สีลวโต, ภิกฺขเว, เทฺว ปฎิคฺคาหา – เทวา วา มนุสฺสา วา’’ติ 3ฯ
30. ‘‘Dussīlassa, bhikkhave, dve paṭiggāhā – nirayo vā tiracchānayoni vā. Sīlavato, bhikkhave, dve paṭiggāhā – devā vā manussā vā’’ti 4.
๓๑. ‘‘ทฺวาหํ, ภิกฺขเว, อตฺถวเส สมฺปสฺสมาโน อรญฺญวนปตฺถานิ 5 ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฎิเสวามิฯ กตเม เทฺว? อตฺตโน จ ทิฎฺฐธมฺมสุขวิหารํ สมฺปสฺสมาโน, ปจฺฉิมญฺจ ชนตํ อนุกมฺปมาโนฯ อิเม โข อหํ, ภิกฺขเว, เทฺว อตฺถวเส สมฺปสฺสมาโน อรญฺญวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฎิเสวามี’’ติฯ
31. ‘‘Dvāhaṃ, bhikkhave, atthavase sampassamāno araññavanapatthāni 6 pantāni senāsanāni paṭisevāmi. Katame dve? Attano ca diṭṭhadhammasukhavihāraṃ sampassamāno, pacchimañca janataṃ anukampamāno. Ime kho ahaṃ, bhikkhave, dve atthavase sampassamāno araññavanapatthāni pantāni senāsanāni paṭisevāmī’’ti.
๓๒. ‘‘เทฺว เม, ภิกฺขเว, ธมฺมา วิชฺชาภาคิยาฯ กตเม เทฺว? สมโถ จ วิปสฺสนา จฯ สมโถ, ภิกฺขเว, ภาวิโต กมตฺถ 7 มนุโภติ? จิตฺตํ ภาวียติฯ จิตฺตํ ภาวิตํ กมตฺถมนุโภติ? โย ราโค โส ปหียติฯ วิปสฺสนา, ภิกฺขเว, ภาวิตา กมตฺถมนุโภติ? ปญฺญา ภาวียติฯ ปญฺญา ภาวิตา กมตฺถมนุโภติ? ยา อวิชฺชา สา ปหียติฯ ราคุปกฺกิลิฎฺฐํ วา, ภิกฺขเว, จิตฺตํ น วิมุจฺจติ, อวิชฺชุปกฺกิลิฎฺฐา วา ปญฺญา ภาวียติฯ อิติ โข, ภิกฺขเว, ราควิราคา เจโตวิมุตฺติ, อวิชฺชาวิราคา ปญฺญาวิมุตฺตี’’ติฯ
32. ‘‘Dve me, bhikkhave, dhammā vijjābhāgiyā. Katame dve? Samatho ca vipassanā ca. Samatho, bhikkhave, bhāvito kamattha 8 manubhoti? Cittaṃ bhāvīyati. Cittaṃ bhāvitaṃ kamatthamanubhoti? Yo rāgo so pahīyati. Vipassanā, bhikkhave, bhāvitā kamatthamanubhoti? Paññā bhāvīyati. Paññā bhāvitā kamatthamanubhoti? Yā avijjā sā pahīyati. Rāgupakkiliṭṭhaṃ vā, bhikkhave, cittaṃ na vimuccati, avijjupakkiliṭṭhā vā paññā bhāvīyati. Iti kho, bhikkhave, rāgavirāgā cetovimutti, avijjāvirāgā paññāvimuttī’’ti.
พาลวโคฺค ตติโยฯ
Bālavaggo tatiyo.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๓. พาลวคฺควณฺณนา • 3. Bālavaggavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๓. พาลวคฺควณฺณนา • 3. Bālavaggavaṇṇanā