Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรีคาถา-อฎฺฐกถา • Therīgāthā-aṭṭhakathā |
๔. จตุกฺกนิปาโต
4. Catukkanipāto
๑. ภทฺทากาปิลานีเถรีคาถาวณฺณนา
1. Bhaddākāpilānītherīgāthāvaṇṇanā
จตุกฺกนิปาเต ปุโตฺต พุทฺธสฺส ทายาโทติอาทิกา ภทฺทาย กาปิลานิยา เถริยา คาถาฯ สา กิร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิญฺญุตํ ปตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺตี สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุนิํ ปุเพฺพนิวาสํ อนุสฺสรนฺตีนํ อคฺคฎฺฐาเน ฐเปนฺตํ ทิสฺวา อธิการกมฺมํ กตฺวา สยมฺปิ ตํ ฐานนฺตรํ ปเตฺถตฺวา ยาวชีวํ ปุญฺญานิ กตฺวา ตโต จุตา เทวมนุเสฺสสุ สํสรนฺตี อนุปฺปเนฺน พุเทฺธ พาราณสิยํ กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา ปติกุลํ คนฺตฺวา, เอกทิวสํ อตฺตโน นนนฺทาย สทฺธิํ กลหํ กโรนฺตี ตาย ปเจฺจกพุทฺธสฺส ปิณฺฑปาเต ทิเนฺน ‘‘อยํ อิมสฺส ทานํ ทตฺวา อุฬารสมฺปตฺติํ ลภิสฺสตี’’ติ ปเจฺจกพุทฺธสฺส หตฺถโต ปตฺตํ คเหตฺวา ภตฺตํ ฉเฑฺฑตฺวา กลลสฺส ปูเรตฺวา อทาสิฯ มหาชโน ครหิ – ‘‘พาเล, ปเจฺจกพุโทฺธ เต กิํ อปรชฺฌี’’ติ? สา เตสํ วจเนน ลชฺชมานา ปุน ปตฺตํ คเหตฺวา กลลํ นีหริตฺวา โธวิตฺวา คนฺธจุเณฺณน อุพฺพเฎฺฎตฺวา จตุมธุรสฺส ปูเรตฺวา อุปริ อาสิเตฺตน ปทุมคพฺภวเณฺณน สปฺปินา วิโชฺชตมานํ ปเจฺจกพุทฺธสฺส หเตฺถ ฐเปตฺวา ‘‘ยถา อยํ ปิณฺฑปาโต โอภาสชาโต, เอวํ โอภาสชาตํ เม สรีรํ โหตู’’ติ ปตฺถนํ ปฎฺฐเปสิฯ สา ตโต จวิตฺวา สุคตีสุเยว สํสรนฺตี กสฺสปพุทฺธกาเล พาราณสิยํ มหาวิภวสฺส เสฎฺฐิโน ธีตา หุตฺวา นิพฺพตฺติฯ ปุพฺพกมฺมผเลน ทุคฺคนฺธสรีรา มนุเสฺสหิ ชิคุจฺฉิตพฺพา หุตฺวา สํเวคชาตา อตฺตโน อาภรเณหิ สุวณฺณิฎฺฐกํ กาเรตฺวา ภควโต เจติเย ปติฎฺฐเปสิ, อุปฺปลหเตฺถน จ ปูชํ อกาสิฯ เตนสฺสา สรีรํ ตสฺมิํเยว ภเว สุคนฺธํ มโนหรํ ชาตํฯ สา ปติโน ปิยา มนาปา หุตฺวา ยาวชีวํ กุสลํ กตฺวา ตโต จุตา สเคฺค นิพฺพตฺติฯ ตตฺถาปิ ยาวชีวํ ทิพฺพสุขํ อนุภวิตฺวา, ตโต จุตา พาราณสิรโญฺญ ธีตา หุตฺวา ตตฺถ เทวสมฺปตฺติสทิสํ สมฺปตฺติํ อนุภวนฺตี จิรกาลํ ปเจฺจกพุเทฺธ อุปฎฺฐหิตฺวา, เตสุ ปรินิพฺพุเตสุ สํเวคชาตา ตาปสปพฺพชฺชาย ปพฺพชิตฺวา อุยฺยาเน วสนฺตี ฌานานิ ภาเวตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติตฺวา ตโต จุตา สาคลนคเร โกสิยโคตฺตสฺส พฺราหฺมณกุลสฺส เคเห นิพฺพตฺติตฺวา มหตา ปริหาเรน วฑฺฒิตฺวา วยปฺปตฺตา มหาติตฺถคาเม ปิปฺผลิกุมารสฺส เคหํ นีตาฯ ตสฺมิํ ปพฺพชิตุํ นิกฺขเนฺต มหนฺตํ โภคกฺขนฺธํ มหนฺตญฺจ ญาติปริวฎฺฎํ ปหาย ปพฺพชฺชตฺถาย นิกฺขมิตฺวา ปญฺจ วสฺสานิ ติตฺถิยาราเม ปวิสิตฺวา อปรภาเค มหาปชาปติโคตมิยา สนฺติเก ปพฺพชฺชํ อุปสมฺปทญฺจ ลภิตฺวา วิปสฺสนํ ปฎฺฐเปตฺวา น จิรเสฺสว อรหตฺตํ ปาปุณิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถรี ๒.๓.๒๔๔-๓๑๓) –
Catukkanipāte putto buddhassa dāyādotiādikā bhaddāya kāpilāniyā theriyā gāthā. Sā kira padumuttarassa bhagavato kāle haṃsavatīnagare kulagehe nibbattitvā viññutaṃ patvā satthu santike dhammaṃ suṇantī satthāraṃ ekaṃ bhikkhuniṃ pubbenivāsaṃ anussarantīnaṃ aggaṭṭhāne ṭhapentaṃ disvā adhikārakammaṃ katvā sayampi taṃ ṭhānantaraṃ patthetvā yāvajīvaṃ puññāni katvā tato cutā devamanussesu saṃsarantī anuppanne buddhe bārāṇasiyaṃ kulagehe nibbattitvā patikulaṃ gantvā, ekadivasaṃ attano nanandāya saddhiṃ kalahaṃ karontī tāya paccekabuddhassa piṇḍapāte dinne ‘‘ayaṃ imassa dānaṃ datvā uḷārasampattiṃ labhissatī’’ti paccekabuddhassa hatthato pattaṃ gahetvā bhattaṃ chaḍḍetvā kalalassa pūretvā adāsi. Mahājano garahi – ‘‘bāle, paccekabuddho te kiṃ aparajjhī’’ti? Sā tesaṃ vacanena lajjamānā puna pattaṃ gahetvā kalalaṃ nīharitvā dhovitvā gandhacuṇṇena ubbaṭṭetvā catumadhurassa pūretvā upari āsittena padumagabbhavaṇṇena sappinā vijjotamānaṃ paccekabuddhassa hatthe ṭhapetvā ‘‘yathā ayaṃ piṇḍapāto obhāsajāto, evaṃ obhāsajātaṃ me sarīraṃ hotū’’ti patthanaṃ paṭṭhapesi. Sā tato cavitvā sugatīsuyeva saṃsarantī kassapabuddhakāle bārāṇasiyaṃ mahāvibhavassa seṭṭhino dhītā hutvā nibbatti. Pubbakammaphalena duggandhasarīrā manussehi jigucchitabbā hutvā saṃvegajātā attano ābharaṇehi suvaṇṇiṭṭhakaṃ kāretvā bhagavato cetiye patiṭṭhapesi, uppalahatthena ca pūjaṃ akāsi. Tenassā sarīraṃ tasmiṃyeva bhave sugandhaṃ manoharaṃ jātaṃ. Sā patino piyā manāpā hutvā yāvajīvaṃ kusalaṃ katvā tato cutā sagge nibbatti. Tatthāpi yāvajīvaṃ dibbasukhaṃ anubhavitvā, tato cutā bārāṇasirañño dhītā hutvā tattha devasampattisadisaṃ sampattiṃ anubhavantī cirakālaṃ paccekabuddhe upaṭṭhahitvā, tesu parinibbutesu saṃvegajātā tāpasapabbajjāya pabbajitvā uyyāne vasantī jhānāni bhāvetvā brahmaloke nibbattitvā tato cutā sāgalanagare kosiyagottassa brāhmaṇakulassa gehe nibbattitvā mahatā parihārena vaḍḍhitvā vayappattā mahātitthagāme pipphalikumārassa gehaṃ nītā. Tasmiṃ pabbajituṃ nikkhante mahantaṃ bhogakkhandhaṃ mahantañca ñātiparivaṭṭaṃ pahāya pabbajjatthāya nikkhamitvā pañca vassāni titthiyārāme pavisitvā aparabhāge mahāpajāpatigotamiyā santike pabbajjaṃ upasampadañca labhitvā vipassanaṃ paṭṭhapetvā na cirasseva arahattaṃ pāpuṇi. Tena vuttaṃ apadāne (apa. therī 2.3.244-313) –
‘‘ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน, สพฺพธมฺมาน ปารคู;
‘‘Padumuttaro nāma jino, sabbadhammāna pāragū;
อิโต สตสหสฺสมฺหิ, กเปฺป อุปฺปชฺชิ นายโกฯ
Ito satasahassamhi, kappe uppajji nāyako.
‘‘ตทาหุ หํสวติยํ, วิเทโห นาม นามโต;
‘‘Tadāhu haṃsavatiyaṃ, videho nāma nāmato;
เสฎฺฐี ปหูตรตโน, ตสฺส ชายา อโหสหํฯ
Seṭṭhī pahūtaratano, tassa jāyā ahosahaṃ.
‘‘กทาจิ โส นราทิจฺจํ, อุเปจฺจ สปริชฺชโน;
‘‘Kadāci so narādiccaṃ, upecca saparijjano;
ธมฺมมโสฺสสิ พุทฺธสฺส, สพฺพทุกฺขภยปฺปหํฯ
Dhammamassosi buddhassa, sabbadukkhabhayappahaṃ.
‘‘สาวกํ ธุตวาทานํ, อคฺคํ กิเตฺตสิ นายโก;
‘‘Sāvakaṃ dhutavādānaṃ, aggaṃ kittesi nāyako;
สุตฺวา สตฺตาหิกํ ทานํ, ทตฺวา พุทฺธสฺส ตาทิโนฯ
Sutvā sattāhikaṃ dānaṃ, datvā buddhassa tādino.
‘‘นิปจฺจ สิรสา ปาเท, ตํ ฐานมภิปตฺถยิํ;
‘‘Nipacca sirasā pāde, taṃ ṭhānamabhipatthayiṃ;
ส หาสยโนฺต ปริสํ, ตทา หิ นรปุงฺคโวฯ
Sa hāsayanto parisaṃ, tadā hi narapuṅgavo.
‘‘เสฎฺฐิโน อนุกมฺปาย, อิมา คาถา อภาสถ;
‘‘Seṭṭhino anukampāya, imā gāthā abhāsatha;
ลจฺฉเส ปตฺถิตํ ฐานํ, นิพฺพุโต โหหิ ปุตฺตกฯ
Lacchase patthitaṃ ṭhānaṃ, nibbuto hohi puttaka.
‘‘สตสหสฺสิโต กเปฺป, โอกฺกากกุลสมฺภโว;
‘‘Satasahassito kappe, okkākakulasambhavo;
โคตโม นาม โคเตฺตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติฯ
Gotamo nāma gottena, satthā loke bhavissati.
‘‘ตสฺส ธเมฺมสุ ทายาโท, โอรโส ธมฺมนิมฺมิโต;
‘‘Tassa dhammesu dāyādo, oraso dhammanimmito;
กสฺสโป นาม โคเตฺตน, เหสฺสติ สตฺถุ สาวโกฯ
Kassapo nāma gottena, hessati satthu sāvako.
‘‘ตํ สุตฺวา มุทิโต หุตฺวา, ยาวชีวํ ตทา ชินํ;
‘‘Taṃ sutvā mudito hutvā, yāvajīvaṃ tadā jinaṃ;
เมตฺตจิโตฺต ปริจริ, ปจฺจเยหิ วินายกํฯ
Mettacitto paricari, paccayehi vināyakaṃ.
‘‘สาสนํ โชตยิตฺวาน, โส มทฺทิตฺวา กุติตฺถิเย;
‘‘Sāsanaṃ jotayitvāna, so madditvā kutitthiye;
เวเนยฺยํ วินยิตฺวา จ, นิพฺพุโต โส สสาวโกฯ
Veneyyaṃ vinayitvā ca, nibbuto so sasāvako.
‘‘นิพฺพุเต ตมฺหิ โลกเคฺค, ปูชนตฺถาย สตฺถุโน;
‘‘Nibbute tamhi lokagge, pūjanatthāya satthuno;
ญาติมิเตฺต สมาเนตฺวา, สห เตหิ อการยิฯ
Ñātimitte samānetvā, saha tehi akārayi.
‘‘สตฺตโยชนิกํ ถูปํ, อุพฺพิทฺธํ รตนามยํ;
‘‘Sattayojanikaṃ thūpaṃ, ubbiddhaṃ ratanāmayaṃ;
ชลนฺตํ สตรํสิํว, สาลราชํว ผุลฺลิตํฯ
Jalantaṃ sataraṃsiṃva, sālarājaṃva phullitaṃ.
‘‘สตฺตสตสหสฺสานิ, ปาติโย ตตฺถ การยิ;
‘‘Sattasatasahassāni, pātiyo tattha kārayi;
นฬคฺคี วิย โชตนฺตี, รตเนเหว สตฺตหิฯ
Naḷaggī viya jotantī, rataneheva sattahi.
‘‘คนฺธเตเลน ปูเรตฺวา, ทีปานุชฺชลยี ตหิํ;
‘‘Gandhatelena pūretvā, dīpānujjalayī tahiṃ;
ปูชนตฺถาย มเหสิสฺส, สพฺพภูตานุกมฺปิโนฯ
Pūjanatthāya mahesissa, sabbabhūtānukampino.
‘‘สตฺตสตสหสฺสานิ, ปุณฺณกุมฺภานิ การยิ;
‘‘Sattasatasahassāni, puṇṇakumbhāni kārayi;
รตเนเหว ปุณฺณานิ, ปูชนตฺถาย มเหสิโนฯ
Rataneheva puṇṇāni, pūjanatthāya mahesino.
‘‘มเชฺฌ อฎฺฐฎฺฐกุมฺภีนํ, อุสฺสิตา กญฺจนคฺฆิโย;
‘‘Majjhe aṭṭhaṭṭhakumbhīnaṃ, ussitā kañcanagghiyo;
อติโรจนฺติ วเณฺณน, สรเทว ทิวากโรฯ
Atirocanti vaṇṇena, saradeva divākaro.
‘‘จตุทฺวาเรสุ โสภนฺติ, โตรณา รตนามยา;
‘‘Catudvāresu sobhanti, toraṇā ratanāmayā;
อุสฺสิตา ผลกา รมฺมา, โสภนฺติ รตนามยาฯ
Ussitā phalakā rammā, sobhanti ratanāmayā.
‘‘วิโรจนฺติ ปริกฺขิตฺตา, อวฎํสา สุนิมฺมิตา;
‘‘Virocanti parikkhittā, avaṭaṃsā sunimmitā;
อุสฺสิตานิ ปฎากานิ, รตนานิ วิโรจเรฯ
Ussitāni paṭākāni, ratanāni virocare.
‘‘สุรตฺตํ สุกตํ จิตฺตํ, เจติยํ รตนามยํ;
‘‘Surattaṃ sukataṃ cittaṃ, cetiyaṃ ratanāmayaṃ;
อติโรจติ วเณฺณน, สสโญฺฌว ทิวากโรฯ
Atirocati vaṇṇena, sasañjhova divākaro.
‘‘ถูปสฺส เวทิโย ติโสฺส, หริตาเลน ปูรยิ;
‘‘Thūpassa vediyo tisso, haritālena pūrayi;
เอกํ มโนสิลาเยกํ, อญฺชเนน จ เอกิกํฯ
Ekaṃ manosilāyekaṃ, añjanena ca ekikaṃ.
‘‘ปูชํ เอตาทิสํ รมฺมํ, กาเรตฺวา วรวาทิโน;
‘‘Pūjaṃ etādisaṃ rammaṃ, kāretvā varavādino;
อทาสิ ทานํ สงฺฆสฺส, ยาวชีวํ ยถาพลํฯ
Adāsi dānaṃ saṅghassa, yāvajīvaṃ yathābalaṃ.
‘‘สหาว เสฎฺฐินา เตน, ตานิ ปุญฺญานิ สพฺพโส;
‘‘Sahāva seṭṭhinā tena, tāni puññāni sabbaso;
ยาวชีวํ กริตฺวาน, สหาว สุคติํ คตาฯ
Yāvajīvaṃ karitvāna, sahāva sugatiṃ gatā.
‘‘สมฺปตฺติโยนุโภตฺวาน, เทวเตฺต อถ มานุเส;
‘‘Sampattiyonubhotvāna, devatte atha mānuse;
ฉายา วิย สรีเรน, สห เตเนว สํสริํฯ
Chāyā viya sarīrena, saha teneva saṃsariṃ.
‘‘เอกนวุติโต กเปฺป, วิปสฺสี นาม นายโก;
‘‘Ekanavutito kappe, vipassī nāma nāyako;
อุปฺปชฺชิ จารุทสฺสโน, สพฺพธมฺมวิปสฺสโกฯ
Uppajji cārudassano, sabbadhammavipassako.
‘‘ตทายํ พนฺธุปติยํ, พฺราหฺมโณ สาธุสมฺมโต;
‘‘Tadāyaṃ bandhupatiyaṃ, brāhmaṇo sādhusammato;
อโฑฺฒ สโนฺต คุเณนาปิ, ธเนน จ สุทุคฺคโตฯ
Aḍḍho santo guṇenāpi, dhanena ca suduggato.
‘‘ตทาปิ ตสฺสาหํ อาสิํ, พฺราหฺมณี สมเจตสา;
‘‘Tadāpi tassāhaṃ āsiṃ, brāhmaṇī samacetasā;
กทาจิ โส ทิชวโร, สงฺคเมสิ มหามุนิํฯ
Kadāci so dijavaro, saṅgamesi mahāmuniṃ.
‘‘นิสินฺนํ ชนกายมฺหิ, เทเสนฺตํ อมตํ ปทํ;
‘‘Nisinnaṃ janakāyamhi, desentaṃ amataṃ padaṃ;
สุตฺวา ธมฺมํ ปมุทิโต, อทาสิ เอกสาฎกํฯ
Sutvā dhammaṃ pamudito, adāsi ekasāṭakaṃ.
‘‘ฆรเมเกน วเตฺถน, คนฺตฺวาเนตํ ส มพฺรวิ;
‘‘Gharamekena vatthena, gantvānetaṃ sa mabravi;
อนุโมท มหาปุญฺญํ, ทินฺนํ พุทฺธสฺส สาฎกํฯ
Anumoda mahāpuññaṃ, dinnaṃ buddhassa sāṭakaṃ.
‘‘ตทาหํ อญฺชลิํ กตฺวา, อนุโมทิํ สุปีณิตา;
‘‘Tadāhaṃ añjaliṃ katvā, anumodiṃ supīṇitā;
สุทิโนฺน สาฎโก สามิ, พุทฺธเสฎฺฐสฺส ตาทิโนฯ
Sudinno sāṭako sāmi, buddhaseṭṭhassa tādino.
‘‘สุขิโต สชฺชิโต หุตฺวา, สํสรโนฺต ภวาภเว;
‘‘Sukhito sajjito hutvā, saṃsaranto bhavābhave;
พาราณสิปุเร รเมฺม, ราชา อาสิ มหีปติฯ
Bārāṇasipure ramme, rājā āsi mahīpati.
‘‘ตทา ตสฺส มเหสีหํ, อิตฺถิคุมฺพสฺส อุตฺตมา;
‘‘Tadā tassa mahesīhaṃ, itthigumbassa uttamā;
ตสฺสาติ ทยิตา อาสิํ, ปุพฺพเสฺนเหน ภตฺตุโนฯ
Tassāti dayitā āsiṃ, pubbasnehena bhattuno.
‘‘ปิณฺฑาย วิจรเนฺต เต, อฎฺฐ ปเจฺจกนายเก;
‘‘Piṇḍāya vicarante te, aṭṭha paccekanāyake;
ทิสฺวา ปมุทิโต หุตฺวา, ทตฺวา ปิณฺฑํ มหารหํฯ
Disvā pamudito hutvā, datvā piṇḍaṃ mahārahaṃ.
‘‘ปุโน นิมนฺตยิตฺวาน, กตฺวา รตนมณฺฑปํ;
‘‘Puno nimantayitvāna, katvā ratanamaṇḍapaṃ;
กมฺมาเรหิ กตํ ปตฺตํ, โสวณฺณํ วต ตตฺตกํฯ
Kammārehi kataṃ pattaṃ, sovaṇṇaṃ vata tattakaṃ.
‘‘สมาเนตฺวาน เต สเพฺพ, เตสํ ทานมทาสิ โส;
‘‘Samānetvāna te sabbe, tesaṃ dānamadāsi so;
โสณฺณาสเน ปวิฎฺฐานํ, ปสโนฺน เสหิ ปาณิภิฯ
Soṇṇāsane paviṭṭhānaṃ, pasanno sehi pāṇibhi.
‘‘ตมฺปิ ทานํ สหาทาสิํ, กาสิราเชนหํ ตทา;
‘‘Tampi dānaṃ sahādāsiṃ, kāsirājenahaṃ tadā;
ปุนาหํ พาราณสิยํ, ชาตา กาสิกคามเกฯ
Punāhaṃ bārāṇasiyaṃ, jātā kāsikagāmake.
‘‘กุฎุมฺพิกกุเล ผีเต, สุขิโต โส สภาตุโก;
‘‘Kuṭumbikakule phīte, sukhito so sabhātuko;
เชฎฺฐสฺส ภาตุโน ชายา, อโหสิํ สุปติพฺพตาฯ
Jeṭṭhassa bhātuno jāyā, ahosiṃ supatibbatā.
‘‘ปเจฺจกพุทฺธํ ทิสฺวาน, กนิยสฺส มม ภตฺตุโน;
‘‘Paccekabuddhaṃ disvāna, kaniyassa mama bhattuno;
ภาคนฺนํ ตสฺส ทตฺวาน, อาคเต ตมฺหิ ปาวทิํฯ
Bhāgannaṃ tassa datvāna, āgate tamhi pāvadiṃ.
‘‘นาภินนฺทิตฺถ โส ทานํ, ตโต ตสฺส อทาสหํ;
‘‘Nābhinandittha so dānaṃ, tato tassa adāsahaṃ;
อุขา อานิย ตํ อนฺนํ, ปุโน ตเสฺสว โส อทาฯ
Ukhā āniya taṃ annaṃ, puno tasseva so adā.
‘‘ตทนฺนํ ฉฑฺฑยิตฺวาน, ทุฎฺฐา พุทฺธสฺสหํ ตทา;
‘‘Tadannaṃ chaḍḍayitvāna, duṭṭhā buddhassahaṃ tadā;
ปตฺตํ กลลปุณฺณํ ตํ, อทาสิํ ตสฺส ตาทิโนฯ
Pattaṃ kalalapuṇṇaṃ taṃ, adāsiṃ tassa tādino.
‘‘ทาเน จ คหเณ เจว, อปเจ ปทุเสปิ จ;
‘‘Dāne ca gahaṇe ceva, apace padusepi ca;
สมจิตฺตมุขํ ทิสฺวา, ตทาหํ สํวิชิํ ภุสํฯ
Samacittamukhaṃ disvā, tadāhaṃ saṃvijiṃ bhusaṃ.
‘‘ปุโน ปตฺตํ คเหตฺวาน, โสธยิตฺวา สุคนฺธินา,
‘‘Puno pattaṃ gahetvāna, sodhayitvā sugandhinā,
ปสนฺนจิตฺตา ปูเรตฺวา, สฆตํ สกฺกรํ อทํฯ
Pasannacittā pūretvā, saghataṃ sakkaraṃ adaṃ.
‘‘ยตฺถ ยตฺถูปปชฺชามิ, สุรูปา โหมิ ทานโต;
‘‘Yattha yatthūpapajjāmi, surūpā homi dānato;
พุทฺธสฺส อปกาเรน, ทุคฺคนฺธา วทเนน จฯ
Buddhassa apakārena, duggandhā vadanena ca.
‘‘ปุน กสฺสปวีรสฺส, นิธายนฺตมฺหิ เจติเย;
‘‘Puna kassapavīrassa, nidhāyantamhi cetiye;
โสวณฺณํ อิฎฺฐกํ วรํ, อทาสิํ มุทิตา อหํฯ
Sovaṇṇaṃ iṭṭhakaṃ varaṃ, adāsiṃ muditā ahaṃ.
‘‘จตุชฺชาเตน คเนฺธน, นิจยิตฺวา ตมิฎฺฐกํ;
‘‘Catujjātena gandhena, nicayitvā tamiṭṭhakaṃ;
มุตฺตา ทุคฺคนฺธโทสมฺหา, สพฺพงฺคสุสมาคตาฯ
Muttā duggandhadosamhā, sabbaṅgasusamāgatā.
‘‘สตฺต ปาติสหสฺสานิ, รตเนเหว สตฺตหิ;
‘‘Satta pātisahassāni, rataneheva sattahi;
กาเรตฺวา ฆตปูรานิ, วฎฺฎีนิ จ สหสฺสโสฯ
Kāretvā ghatapūrāni, vaṭṭīni ca sahassaso.
‘‘ปกฺขิปิตฺวา ปทีเปตฺวา, ฐปยิํ สตฺตปนฺติโย;
‘‘Pakkhipitvā padīpetvā, ṭhapayiṃ sattapantiyo;
ปูชนตฺถํ โลกนาถสฺส, วิปฺปสเนฺนน เจตสาฯ
Pūjanatthaṃ lokanāthassa, vippasannena cetasā.
‘‘ตทาปิ ตมฺหิ ปุญฺญมฺหิ, ภาคินียิ วิเสสโต;
‘‘Tadāpi tamhi puññamhi, bhāginīyi visesato;
ปุน กาสีสุ สญฺชาโต, สุมิตฺตา อิติ วิสฺสุโตฯ
Puna kāsīsu sañjāto, sumittā iti vissuto.
‘‘ตสฺสาหํ ภริยา อาสิํ, สุขิตา สชฺชิตา ปิยา;
‘‘Tassāhaṃ bhariyā āsiṃ, sukhitā sajjitā piyā;
ตทา ปเจฺจกมุนิโน, อทาสิํ ฆนเวฐนํฯ
Tadā paccekamunino, adāsiṃ ghanaveṭhanaṃ.
‘‘ตสฺสาปิ ภาคินี อาสิํ, โมทิตฺวา ทานมุตฺตมํ;
‘‘Tassāpi bhāginī āsiṃ, moditvā dānamuttamaṃ;
ปุนาปิ กาสิรฎฺฐมฺหิ, ชาโต โกลิยชาติยาฯ
Punāpi kāsiraṭṭhamhi, jāto koliyajātiyā.
‘‘ตทา โกลิยปุตฺตานํ, สเตหิ สห ปญฺจหิ;
‘‘Tadā koliyaputtānaṃ, satehi saha pañcahi;
ปญฺจ ปเจฺจกพุทฺธานํ, สตานิ สมุปฎฺฐหิฯ
Pañca paccekabuddhānaṃ, satāni samupaṭṭhahi.
‘‘เตมาสํ ตปฺปยิตฺวาน, อทาสิ จ ติจีวเร;
‘‘Temāsaṃ tappayitvāna, adāsi ca ticīvare;
ชายา ตสฺส ตทา อาสิํ, ปุญฺญกมฺมปถานุคาฯ
Jāyā tassa tadā āsiṃ, puññakammapathānugā.
‘‘ตโต จุโต อหุ ราชา, นโนฺท นาม มหายโส;
‘‘Tato cuto ahu rājā, nando nāma mahāyaso;
ตสฺสาปิ มเหสี อาสิํ, สพฺพกามสมิทฺธินีฯ
Tassāpi mahesī āsiṃ, sabbakāmasamiddhinī.
‘‘ตทา ราชา ภวิตฺวาน, พฺรหฺมทโตฺต มหีปติ;
‘‘Tadā rājā bhavitvāna, brahmadatto mahīpati;
ปทุมวตีปุตฺตานํ, ปเจฺจกมุนินํ ตทาฯ
Padumavatīputtānaṃ, paccekamuninaṃ tadā.
‘‘สตานิ ปญฺจนูนานิ, ยาวชีวํ อุปฎฺฐหิํ;
‘‘Satāni pañcanūnāni, yāvajīvaṃ upaṭṭhahiṃ;
ราชุยฺยาเน นิวาเสตฺวา, นิพฺพุตานิ จ ปูชยิํฯ
Rājuyyāne nivāsetvā, nibbutāni ca pūjayiṃ.
‘‘เจติยานิ จ กาเรตฺวา, ปพฺพชิตฺวา อุโภ มยํ;
‘‘Cetiyāni ca kāretvā, pabbajitvā ubho mayaṃ;
ภาเวตฺวา อปฺปมญฺญาโย, พฺรหฺมโลกํ อคมฺหเสฯ
Bhāvetvā appamaññāyo, brahmalokaṃ agamhase.
‘‘ตโต จุโต มหาติเตฺถ, สุชาโต ปิปฺผลายโน;
‘‘Tato cuto mahātitthe, sujāto pipphalāyano;
มาตา สุมนเทวีติ, โกสิโคโตฺต ทิโช ปิตาฯ
Mātā sumanadevīti, kosigotto dijo pitā.
‘‘อหํ มเทฺท ชนปเท, สากลาย ปุรุตฺตเม;
‘‘Ahaṃ madde janapade, sākalāya puruttame;
กปฺปิลสฺส ทิชสฺสาสิํ, ธีตา มาตา สุจีมติฯ
Kappilassa dijassāsiṃ, dhītā mātā sucīmati.
‘‘ฆรกญฺจนพิเมฺพน, นิมฺมินิตฺวาน มํ ปิตา;
‘‘Gharakañcanabimbena, nimminitvāna maṃ pitā;
อทา กสฺสปธีรสฺส, กาเมหิ วชฺชิตสฺสมํฯ
Adā kassapadhīrassa, kāmehi vajjitassamaṃ.
‘‘กทาจิ โส การุณิโก, คนฺตฺวา กมฺมนฺตเปกฺขโก;
‘‘Kadāci so kāruṇiko, gantvā kammantapekkhako;
กากาทิเกหิ ขชฺชเนฺต, ปาเณ ทิสฺวาน สํวิชิฯ
Kākādikehi khajjante, pāṇe disvāna saṃviji.
‘‘ฆเรวาหํ ติเล ชาเต, ทิสฺวานาตปตาปเน;
‘‘Gharevāhaṃ tile jāte, disvānātapatāpane;
กิมี กาเกหิ ขชฺชเนฺต, สํเวคมลภิํ ตทาฯ
Kimī kākehi khajjante, saṃvegamalabhiṃ tadā.
‘‘ตทา โส ปพฺพชี ธีโร, อหํ ตมนุปพฺพชิํ;
‘‘Tadā so pabbajī dhīro, ahaṃ tamanupabbajiṃ;
ปญฺจ วสฺสานิ นิวสิํ, ปริพฺพาชวเต อหํฯ
Pañca vassāni nivasiṃ, paribbājavate ahaṃ.
‘‘ยทา ปพฺพชิตา อาสิ, โคตมี ชินโปสิกา;
‘‘Yadā pabbajitā āsi, gotamī jinaposikā;
ตทาหํ ตมุปคนฺตฺวา, พุเทฺธน อนุสาสิตาฯ
Tadāhaṃ tamupagantvā, buddhena anusāsitā.
‘‘น จิเรเนว กาเลน, อรหตฺตมปาปุณิํ;
‘‘Na cireneva kālena, arahattamapāpuṇiṃ;
อโห กลฺยาณมิตฺตตฺตํ, กสฺสปสฺส สิรีมโตฯ
Aho kalyāṇamittattaṃ, kassapassa sirīmato.
‘‘สุโต พุทฺธสฺส ทายาโท, กสฺสโป สุสมาหิโต;
‘‘Suto buddhassa dāyādo, kassapo susamāhito;
ปุเพฺพนิวาสํ โย เวทิ, สคฺคาปายญฺจ ปสฺสติฯ
Pubbenivāsaṃ yo vedi, saggāpāyañca passati.
‘‘อโถ ชาติกฺขยํ ปโตฺต, อภิญฺญาโวสิโต มุนิ;
‘‘Atho jātikkhayaṃ patto, abhiññāvosito muni;
เอตาหิ ตีหิ วิชฺชาหิ, เตวิโชฺช โหติ พฺราหฺมโณฯ
Etāhi tīhi vijjāhi, tevijjo hoti brāhmaṇo.
‘‘ตเถว ภทฺทากาปิลานี, เตวิชฺชา มจฺจุหายินี;
‘‘Tatheva bhaddākāpilānī, tevijjā maccuhāyinī;
ธาเรติ อนฺติมํ เทหํ, ชิตฺวา มารํ สวาหนํฯ
Dhāreti antimaṃ dehaṃ, jitvā māraṃ savāhanaṃ.
‘‘ทิสฺวา อาทีนวํ โลเก, อุโภ ปพฺพชิตา มยํ;
‘‘Disvā ādīnavaṃ loke, ubho pabbajitā mayaṃ;
ตฺยมฺห ขีณาสวา ทนฺตา, สีติภูตามฺห นิพฺพุตาฯ
Tyamha khīṇāsavā dantā, sītibhūtāmha nibbutā.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ (อป. เถรี ๒.๓.๒๔๔-๓๑๓);
‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… kataṃ buddhassa sāsana’’nti. (apa. therī 2.3.244-313);
อรหตฺตํ ปน ปตฺวา ปุเพฺพนิวาสญาเณ จิณฺณวสี อโหสิฯ ตตฺถ สาติสยํ กตาธิการตฺตา อปรภาเค ตํ สตฺถา เชตวเน อริยคณมเชฺฌ นิสิโนฺน ภิกฺขุนิโย ปฎิปาฎิยา ฐานนฺตเรสุ ฐเปโนฺต ปุเพฺพนิวาสํ อนุสฺสรนฺตีนํ อคฺคฎฺฐาเน ฐเปสิฯ สา เอกทิวสํ มหากสฺสปเตฺถรสฺส คุณาภิตฺถวนปุพฺพกํ อตฺตโน กตกิจฺจตาทิวิภาวนมุเขน อุทานํ อุทาเนนฺตี –
Arahattaṃ pana patvā pubbenivāsañāṇe ciṇṇavasī ahosi. Tattha sātisayaṃ katādhikārattā aparabhāge taṃ satthā jetavane ariyagaṇamajjhe nisinno bhikkhuniyo paṭipāṭiyā ṭhānantaresu ṭhapento pubbenivāsaṃ anussarantīnaṃ aggaṭṭhāne ṭhapesi. Sā ekadivasaṃ mahākassapattherassa guṇābhitthavanapubbakaṃ attano katakiccatādivibhāvanamukhena udānaṃ udānentī –
๖๓.
63.
‘‘ปุโตฺต พุทฺธสฺส ทายาโท, กสฺสโป สุสมาหิโต;
‘‘Putto buddhassa dāyādo, kassapo susamāhito;
ปุเพฺพนิวาสํ โยเวทิ, สคฺคาปายญฺจ ปสฺสติฯ
Pubbenivāsaṃ yovedi, saggāpāyañca passati.
๖๔.
64.
‘‘อโถ ชาติกฺขยํ ปโตฺต, อภิญฺญาโวสิโต มุนิ;
‘‘Atho jātikkhayaṃ patto, abhiññāvosito muni;
เอตาหิ ตีหิ วิชฺชาหิ, เตวิโชฺช โหติ พฺราหฺมโณฯ
Etāhi tīhi vijjāhi, tevijjo hoti brāhmaṇo.
๖๕.
65.
‘‘ตเถว ภทฺทากาปิลานี, เตวิชฺชา มจฺจุหายินี;
‘‘Tatheva bhaddākāpilānī, tevijjā maccuhāyinī;
ธาเรติ อนฺติมํ เทหํ, เชตฺวา มารํ สวาหนํฯ
Dhāreti antimaṃ dehaṃ, jetvā māraṃ savāhanaṃ.
๖๖.
66.
‘‘ทิสฺวา อาทีนวํ โลเก, อุโภ ปพฺพชิตา มยํ;
‘‘Disvā ādīnavaṃ loke, ubho pabbajitā mayaṃ;
ตฺยมฺห ขีณาสวา ทนฺตา, สีติภูตามฺห นิพฺพุตา’’ติฯ –
Tyamha khīṇāsavā dantā, sītibhūtāmha nibbutā’’ti. –
อิมา คาถา อภาสิฯ
Imā gāthā abhāsi.
ตตฺถ ปุโตฺต พุทฺธสฺส ทายาโทติ พุทฺธานุพุทฺธภาวโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อนุชาตสุโต ตโต เอว ตสฺส ทายภูตสฺส นวโลกุตฺตรธมฺมสฺส อาทาเนน ทายาโท กสฺสโป โลกิยโลกุตฺตเรหิ สมาธีหิ สุฎฺฐุ สมาหิตจิตฺตตาย สุสมาหิโตฯ ปุเพฺพนิวาสํ โยเวทีติ โย มหากสฺสปเตฺถโร ปุเพฺพนิวาสํ อตฺตโน ปเรสญฺจ นิวุตฺถกฺขนฺธสนฺตานํ ปุเพฺพนิวาสานุสฺสติญาเณน ปากฎํ กตฺวา อเวทิ อญฺญาสิ ปฎิวิชฺฌิฯ สคฺคาปายญฺจ ปสฺสตีติ ฉพฺพีสติเทวโลกเภทํ สคฺคํ จตุพฺพิธํ อปายญฺจ ทิพฺพจกฺขุนา หตฺถตเล อามลกํ วิย ปสฺสติฯ
Tattha putto buddhassa dāyādoti buddhānubuddhabhāvato sammāsambuddhassa anujātasuto tato eva tassa dāyabhūtassa navalokuttaradhammassa ādānena dāyādo kassapo lokiyalokuttarehi samādhīhi suṭṭhu samāhitacittatāya susamāhito. Pubbenivāsaṃ yovedīti yo mahākassapatthero pubbenivāsaṃ attano paresañca nivutthakkhandhasantānaṃ pubbenivāsānussatiñāṇena pākaṭaṃ katvā avedi aññāsi paṭivijjhi. Saggāpāyañca passatīti chabbīsatidevalokabhedaṃ saggaṃ catubbidhaṃ apāyañca dibbacakkhunā hatthatale āmalakaṃ viya passati.
อโถ ชาติกฺขยํ ปโตฺตติ ตโต ปรํ ชาติกฺขยสงฺขาตํ อรหตฺตํ ปโตฺตฯ อภิญฺญาย อภิวิสิเฎฺฐน ญาเณน อภิเญฺญยฺยํ ธมฺมํ อภิชานิตฺวา ปริเญฺญยฺยํ ปริชานิตฺวา , ปหาตพฺพํ ปหาย , สจฺฉิกาตพฺพํ สจฺฉิกตฺวา โวสิโต นิฎฺฐํ ปโตฺต กตกิโจฺจฯ อาสวกฺขยปญฺญาสงฺขาตํ โมนํ ปตฺตตฺตา มุนิฯ
Atho jātikkhayaṃ pattoti tato paraṃ jātikkhayasaṅkhātaṃ arahattaṃ patto. Abhiññāya abhivisiṭṭhena ñāṇena abhiññeyyaṃ dhammaṃ abhijānitvā pariññeyyaṃ parijānitvā , pahātabbaṃ pahāya , sacchikātabbaṃ sacchikatvā vosito niṭṭhaṃ patto katakicco. Āsavakkhayapaññāsaṅkhātaṃ monaṃ pattattā muni.
ตเถว ภทฺทากาปิลานีติ ยถา มหากสฺสโป เอตาหิ ยถาวุตฺตาหิ ตีหิ วิชฺชาหิ เตวิโชฺช มจฺจุหายี จ, ตเถว ภทฺทากาปิลานี เตวิชฺชา มจฺจุหายินีติฯ ตโต เอว ธาเรติ อนฺติมํ เทหํ, เชตฺวา มารํ สวาหนนฺติ อตฺตานเมว ปรํ วิย กตฺวา ทเสฺสติฯ
Tatheva bhaddākāpilānīti yathā mahākassapo etāhi yathāvuttāhi tīhi vijjāhi tevijjo maccuhāyī ca, tatheva bhaddākāpilānī tevijjā maccuhāyinīti. Tato eva dhāreti antimaṃ dehaṃ, jetvā māraṃ savāhananti attānameva paraṃ viya katvā dasseti.
อิทานิ ยถา เถรสฺส ปฎิปตฺติ อาทิมชฺฌปริโยสานกลฺยาณา, เอวํ มมปีติ ทเสฺสนฺตี ‘‘ทิสฺวา อาทีนว’’นฺติ โอสานคาถมาหฯ ตตฺถ ตฺยมฺห ขีณาสวา ทนฺตาติ เต มยํ มหากสฺสปเตฺถโร อหญฺจ อุตฺตเมน ทเมน ทนฺตา สพฺพโส ขีณาสวา จ อมฺหฯ สีติภูตามฺห นิพฺพุตาติ ตโต เอว กิเลสปริฬาหาภาวโต สีติภูตา สอุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา นิพฺพุตา จ อมฺห ภวามาติ อโตฺถฯ
Idāni yathā therassa paṭipatti ādimajjhapariyosānakalyāṇā, evaṃ mamapīti dassentī ‘‘disvā ādīnava’’nti osānagāthamāha. Tattha tyamha khīṇāsavā dantāti te mayaṃ mahākassapatthero ahañca uttamena damena dantā sabbaso khīṇāsavā ca amha. Sītibhūtāmha nibbutāti tato eva kilesapariḷāhābhāvato sītibhūtā saupādisesāya nibbānadhātuyā nibbutā ca amha bhavāmāti attho.
ภทฺทากาปิลานีเถรีคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Bhaddākāpilānītherīgāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.
จตุกฺกนิปาตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Catukkanipātavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรีคาถาปาฬิ • Therīgāthāpāḷi / ๑. ภทฺทากาปิลานีเถรีคาถา • 1. Bhaddākāpilānītherīgāthā