Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya |
๔. วิภงฺควโคฺค
4. Vibhaṅgavaggo
๑. ภเทฺทกรตฺตสุตฺตํ
1. Bhaddekarattasuttaṃ
๒๗๒. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติฯ ‘‘ภทเนฺต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจโสฺสสุํฯ ภควา เอตทโวจ – ‘‘ภเทฺทกรตฺตสฺส โว, ภิกฺขเว, อุเทฺทสญฺจ วิภงฺคญฺจ เทเสสฺสามิฯ ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจโสฺสสุํฯ ภควา เอตทโวจ –
272. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tatra kho bhagavā bhikkhū āmantesi – ‘‘bhikkhavo’’ti. ‘‘Bhadante’’ti te bhikkhū bhagavato paccassosuṃ. Bhagavā etadavoca – ‘‘bhaddekarattassa vo, bhikkhave, uddesañca vibhaṅgañca desessāmi. Taṃ suṇātha, sādhukaṃ manasi karotha; bhāsissāmī’’ti. ‘‘Evaṃ, bhante’’ti kho te bhikkhū bhagavato paccassosuṃ. Bhagavā etadavoca –
‘‘อตีตํ นานฺวาคเมยฺย, นปฺปฎิกเงฺข อนาคตํ;
‘‘Atītaṃ nānvāgameyya, nappaṭikaṅkhe anāgataṃ;
ยทตีตํ ปหีนํ ตํ, อปฺปตฺตญฺจ อนาคตํฯ
Yadatītaṃ pahīnaṃ taṃ, appattañca anāgataṃ.
‘‘ปจฺจุปฺปนฺนญฺจ โย 1 ธมฺมํ, ตตฺถ ตตฺถ วิปสฺสติ;
‘‘Paccuppannañca yo 2 dhammaṃ, tattha tattha vipassati;
น หิ โน สงฺครํ เตน, มหาเสเนน มจฺจุนาฯ
Na hi no saṅgaraṃ tena, mahāsenena maccunā.
‘‘เอวํ วิหาริํ อาตาปิํ, อโหรตฺตมตนฺทิตํ;
‘‘Evaṃ vihāriṃ ātāpiṃ, ahorattamatanditaṃ;
๒๗๓. ‘‘กถญฺจ , ภิกฺขเว, อตีตํ อนฺวาคเมติ? ‘เอวํรูโป อโหสิํ อตีตมทฺธาน’นฺติ ตตฺถ นนฺทิํ สมนฺวาเนติ, ‘เอวํเวทโน อโหสิํ อตีตมทฺธาน’นฺติ ตตฺถ นนฺทิํ สมนฺวาเนติ, ‘เอวํสโญฺญ อโหสิํ อตีตมทฺธาน’นฺติ ตตฺถ นนฺทิํ สมนฺวาเนติ, ‘เอวํสงฺขาโร อโหสิํ อตีตมทฺธาน’นฺติ ตตฺถ นนฺทิํ สมนฺวาเนติ, ‘เอวํวิญฺญาโณ อโหสิํ อตีตมทฺธาน’นฺติ ตตฺถ นนฺทิํ สมนฺวาเนติ – เอวํ โข, ภิกฺขเว, อตีตํ อนฺวาคเมติฯ
273. ‘‘Kathañca , bhikkhave, atītaṃ anvāgameti? ‘Evaṃrūpo ahosiṃ atītamaddhāna’nti tattha nandiṃ samanvāneti, ‘evaṃvedano ahosiṃ atītamaddhāna’nti tattha nandiṃ samanvāneti, ‘evaṃsañño ahosiṃ atītamaddhāna’nti tattha nandiṃ samanvāneti, ‘evaṃsaṅkhāro ahosiṃ atītamaddhāna’nti tattha nandiṃ samanvāneti, ‘evaṃviññāṇo ahosiṃ atītamaddhāna’nti tattha nandiṃ samanvāneti – evaṃ kho, bhikkhave, atītaṃ anvāgameti.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, อตีตํ นานฺวาคเมติ? ‘เอวํรูโป อโหสิํ อตีตมทฺธาน’นฺติ ตตฺถ นนฺทิํ น สมนฺวาเนติ, ‘เอวํเวทโน อโหสิํ อตีตมทฺธาน’นฺติ ตตฺถ นนฺทิํ น สมนฺวาเนติ, ‘เอวํสโญฺญ อโหสิํ อตีตมทฺธาน’นฺติ ตตฺถ นนฺทิํ น สมนฺวาเนติ, ‘เอวํสงฺขาโร อโหสิํ อตีตมทฺธาน’นฺติ ตตฺถ นนฺทิํ น สมนฺวาเนติ, ‘เอวํวิญฺญาโณ อโหสิํ อตีตมทฺธาน’นฺติ ตตฺถ นนฺทิํ น สมนฺวาเนติ – เอวํ โข, ภิกฺขเว, อตีตํ นานฺวาคเมติฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, atītaṃ nānvāgameti? ‘Evaṃrūpo ahosiṃ atītamaddhāna’nti tattha nandiṃ na samanvāneti, ‘evaṃvedano ahosiṃ atītamaddhāna’nti tattha nandiṃ na samanvāneti, ‘evaṃsañño ahosiṃ atītamaddhāna’nti tattha nandiṃ na samanvāneti, ‘evaṃsaṅkhāro ahosiṃ atītamaddhāna’nti tattha nandiṃ na samanvāneti, ‘evaṃviññāṇo ahosiṃ atītamaddhāna’nti tattha nandiṃ na samanvāneti – evaṃ kho, bhikkhave, atītaṃ nānvāgameti.
๒๗๔. ‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, อนาคตํ ปฎิกงฺขติ? ‘เอวํรูโป สิยํ อนาคตมทฺธาน’นฺติ ตตฺถ นนฺทิํ สมนฺวาเนติ, เอวํเวทโน สิยํ…เป.… เอวํสโญฺญ สิยํ… เอวํสงฺขาโร สิยํ… เอวํวิญฺญาโณ สิยํ อนาคตมทฺธานนฺติ ตตฺถ นนฺทิํ สมนฺวาเนติ – เอวํ โข, ภิกฺขเว, อนาคตํ ปฎิกงฺขติฯ
274. ‘‘Kathañca, bhikkhave, anāgataṃ paṭikaṅkhati? ‘Evaṃrūpo siyaṃ anāgatamaddhāna’nti tattha nandiṃ samanvāneti, evaṃvedano siyaṃ…pe… evaṃsañño siyaṃ… evaṃsaṅkhāro siyaṃ… evaṃviññāṇo siyaṃ anāgatamaddhānanti tattha nandiṃ samanvāneti – evaṃ kho, bhikkhave, anāgataṃ paṭikaṅkhati.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, อนาคตํ นปฺปฎิกงฺขติ? ‘เอวํรูโป สิยํ อนาคตมทฺธาน’นฺติ ตตฺถ นนฺทิํ น สมนฺวาเนติ, เอวํเวทโน สิยํ … เอวํสโญฺญ สิยํ… เอวํสงฺขาโร สิยํ… ‘เอวํวิญฺญาโณ สิยํ อนาคตมทฺธาน’นฺติ ตตฺถ นนฺทิํ น สมนฺวาเนติ – เอวํ โข, ภิกฺขเว, อนาคตํ นปฺปฎิกงฺขติฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, anāgataṃ nappaṭikaṅkhati? ‘Evaṃrūpo siyaṃ anāgatamaddhāna’nti tattha nandiṃ na samanvāneti, evaṃvedano siyaṃ … evaṃsañño siyaṃ… evaṃsaṅkhāro siyaṃ… ‘evaṃviññāṇo siyaṃ anāgatamaddhāna’nti tattha nandiṃ na samanvāneti – evaṃ kho, bhikkhave, anāgataṃ nappaṭikaṅkhati.
๒๗๕. ‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ปจฺจุปฺปเนฺนสุ ธเมฺมสุ สํหีรติ? อิธ, ภิกฺขเว, อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน อริยานํ อทสฺสาวี อริยธมฺมสฺส อโกวิโท อริยธเมฺม อวินีโต สปฺปุริสานํ อทสฺสาวี สปฺปุริสธมฺมสฺส อโกวิโท สปฺปุริสธเมฺม อวินีโต รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ, อตฺตนิ วา รูปํ, รูปสฺมิํ วา อตฺตานํ; เวทนํ…เป.… สญฺญํ… สงฺขาเร… วิญฺญาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, วิญฺญาณวนฺตํ วา อตฺตานํ อตฺตนิ วา วิญฺญาณํ, วิญฺญาณสฺมิํ วา อตฺตานํ – เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปจฺจุปฺปเนฺนสุ ธเมฺมสุ สํหีรติฯ
275. ‘‘Kathañca, bhikkhave, paccuppannesu dhammesu saṃhīrati? Idha, bhikkhave, assutavā puthujjano ariyānaṃ adassāvī ariyadhammassa akovido ariyadhamme avinīto sappurisānaṃ adassāvī sappurisadhammassa akovido sappurisadhamme avinīto rūpaṃ attato samanupassati, rūpavantaṃ vā attānaṃ, attani vā rūpaṃ, rūpasmiṃ vā attānaṃ; vedanaṃ…pe… saññaṃ… saṅkhāre… viññāṇaṃ attato samanupassati, viññāṇavantaṃ vā attānaṃ attani vā viññāṇaṃ, viññāṇasmiṃ vā attānaṃ – evaṃ kho, bhikkhave, paccuppannesu dhammesu saṃhīrati.
‘‘กถญฺจ , ภิกฺขเว, ปจฺจุปฺปเนฺนสุ ธเมฺมสุ น สํหีรติ? อิธ, ภิกฺขเว, สุตวา อริยสาวโก อริยานํ ทสฺสาวี อริยธมฺมสฺส โกวิโท อริยธเมฺม สุวินีโต สปฺปุริสานํ ทสฺสาวี สปฺปุริสธมฺมสฺส โกวิโท สปฺปุริสธเมฺม สุวินีโต น รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, น รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ, น อตฺตนิ วา รูปํ, น รูปสฺมิํ วา อตฺตานํ; น เวทนํ… น สญฺญํ… น สงฺขาเร… น วิญฺญาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, น วิญฺญาณวนฺตํ วา อตฺตานํ, น อตฺตนิ วา วิญฺญาณํ, น วิญฺญาณสฺมิํ วา อตฺตานํ – เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปจฺจุปฺปเนฺนสุ ธเมฺมสุ น สํหีรติฯ
‘‘Kathañca , bhikkhave, paccuppannesu dhammesu na saṃhīrati? Idha, bhikkhave, sutavā ariyasāvako ariyānaṃ dassāvī ariyadhammassa kovido ariyadhamme suvinīto sappurisānaṃ dassāvī sappurisadhammassa kovido sappurisadhamme suvinīto na rūpaṃ attato samanupassati, na rūpavantaṃ vā attānaṃ, na attani vā rūpaṃ, na rūpasmiṃ vā attānaṃ; na vedanaṃ… na saññaṃ… na saṅkhāre… na viññāṇaṃ attato samanupassati, na viññāṇavantaṃ vā attānaṃ, na attani vā viññāṇaṃ, na viññāṇasmiṃ vā attānaṃ – evaṃ kho, bhikkhave, paccuppannesu dhammesu na saṃhīrati.
‘‘อตีตํ นานฺวาคเมยฺย, นปฺปฎิกเงฺข อนาคตํ;
‘‘Atītaṃ nānvāgameyya, nappaṭikaṅkhe anāgataṃ;
ยทตีตํ ปหีนํ ตํ, อปฺปตฺตญฺจ อนาคตํฯ
Yadatītaṃ pahīnaṃ taṃ, appattañca anāgataṃ.
‘‘ปจฺจุปฺปนฺนญฺจ โย ธมฺมํ, ตตฺถ ตตฺถ วิปสฺสติ;
‘‘Paccuppannañca yo dhammaṃ, tattha tattha vipassati;
อสํหีรํ อสํกุปฺปํ, ตํ วิทฺวา มนุพฺรูหเยฯ
Asaṃhīraṃ asaṃkuppaṃ, taṃ vidvā manubrūhaye.
‘‘อเชฺชว กิจฺจมาตปฺปํ, โก ชญฺญา มรณํ สุเว;
‘‘Ajjeva kiccamātappaṃ, ko jaññā maraṇaṃ suve;
น หิ โน สงฺครํ เตน, มหาเสเนน มจฺจุนาฯ
Na hi no saṅgaraṃ tena, mahāsenena maccunā.
‘‘เอวํ วิหาริํ อาตาปิํ, อโหรตฺตมตนฺทิตํ;
‘‘Evaṃ vihāriṃ ātāpiṃ, ahorattamatanditaṃ;
ตํ เว ภเทฺทกรโตฺตติ, สโนฺต อาจิกฺขเต มุนี’’ติฯ
Taṃ ve bhaddekarattoti, santo ācikkhate munī’’ti.
‘‘‘ภเทฺทกรตฺตสฺส โว, ภิกฺขเว, อุเทฺทสญฺจ วิภงฺคญฺจ เทเสสฺสามี’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฎิจฺจ วุตฺต’’นฺติฯ
‘‘‘Bhaddekarattassa vo, bhikkhave, uddesañca vibhaṅgañca desessāmī’ti – iti yaṃ taṃ vuttaṃ idametaṃ paṭicca vutta’’nti.
อิทมโวจ ภควาฯ อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติฯ
Idamavoca bhagavā. Attamanā te bhikkhū bhagavato bhāsitaṃ abhinandunti.
ภเทฺทกรตฺตสุตฺตํ นิฎฺฐิตํ ปฐมํฯ
Bhaddekarattasuttaṃ niṭṭhitaṃ paṭhamaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) / ๑. ภเทฺทกรตฺตสุตฺตวณฺณนา • 1. Bhaddekarattasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) / ๑. ภเทฺทกรตฺตสุตฺตวณฺณนา • 1. Bhaddekarattasuttavaṇṇanā