Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā)

    ๔. วิภงฺควโคฺค

    4. Vibhaṅgavaggo

    ๑. ภเทฺทกรตฺตสุตฺตวณฺณนา

    1. Bhaddekarattasuttavaṇṇanā

    ๒๗๒. เอวํ เม สุตนฺติ ภเทฺทกรตฺตสุตฺตํฯ ตตฺถ ภเทฺทกรตฺตสฺสาติ วิปสฺสนานุโยคสมนฺนาคตตฺตา ภทฺทกสฺส เอกรตฺตสฺสฯ อุเทฺทสนฺติ มาติกํฯ วิภงฺคนฺติ วิตฺถารภาชนียํฯ

    272.Evaṃme sutanti bhaddekarattasuttaṃ. Tattha bhaddekarattassāti vipassanānuyogasamannāgatattā bhaddakassa ekarattassa. Uddesanti mātikaṃ. Vibhaṅganti vitthārabhājanīyaṃ.

    อตีตนฺติ อตีเต ปญฺจกฺขเนฺธฯ นานฺวาคเมยฺยาติ ตณฺหาทิฎฺฐีหิ นานุคเจฺฉยฺยฯ นปฺปฎิกเงฺขติ ตณฺหาทิฎฺฐีหิ น ปเตฺถยฺยฯ ยทตีตนฺติ อิทเมตฺถ การณวจนํฯ ยสฺมา ยํ อตีตํ, ตํ ปหีนํ นิรุทฺธํ อตฺถงฺคตํ, ตสฺมา ตํ ปุน นานุคเจฺฉยฺยฯ ยสฺมา จ ยํ อนาคตํ, ตํ อปฺปตฺตํ อชาตํ อนิพฺพตฺตํ, ตสฺมา ตมฺปิ น ปเตฺถยฺยฯ

    Atītanti atīte pañcakkhandhe. Nānvāgameyyāti taṇhādiṭṭhīhi nānugaccheyya. Nappaṭikaṅkheti taṇhādiṭṭhīhi na pattheyya. Yadatītanti idamettha kāraṇavacanaṃ. Yasmā yaṃ atītaṃ, taṃ pahīnaṃ niruddhaṃ atthaṅgataṃ, tasmā taṃ puna nānugaccheyya. Yasmā ca yaṃ anāgataṃ, taṃ appattaṃ ajātaṃ anibbattaṃ, tasmā tampi na pattheyya.

    ตตฺถ ตตฺถาติ ปจฺจุปฺปนฺนมฺปิ ธมฺมํ ยตฺถ ยเตฺถว อุปฺปโนฺน, ตตฺถ ตเตฺถว จ นํ อนิจฺจานุปสฺสนาทีหิ สตฺตหิ อนุปสฺสนาหิ โย วิปสฺสติ อรญฺญาทีสุ วา ตตฺถ ตเตฺถว วิปสฺสติฯ อสํหีรํ อสํกุปฺปนฺติ อิทํ วิปสฺสนาปฎิวิปสฺสนาทสฺสนตฺถํ วุตฺตํฯ วิปสฺสนา หิ ราคาทีหิ น สํหีรติ น สํกุปฺปตีติ อสํหีรํ อสํกุปฺปํ, ตํ อนุพฺรูหเย วเฑฺฒยฺย, ปฎิวิปเสฺสยฺยาติ วุตฺตํ โหติฯ อถ วา นิพฺพานํ ราคาทีหิ น สํหีรติ น สํกุปฺปตีติ อสํหีรํ อสํกุปฺปํฯ ตํ วิทฺวา ปณฺฑิโต ภิกฺขุ อนุพฺรูหเย, ปุนปฺปุนํ ตทารมฺมณํ ตํ ตํ ผลสมาปตฺติํ อเปฺปโนฺต วเฑฺฒยฺยาติ อโตฺถฯ

    Tattha tatthāti paccuppannampi dhammaṃ yattha yattheva uppanno, tattha tattheva ca naṃ aniccānupassanādīhi sattahi anupassanāhi yo vipassati araññādīsu vā tattha tattheva vipassati. Asaṃhīraṃasaṃkuppanti idaṃ vipassanāpaṭivipassanādassanatthaṃ vuttaṃ. Vipassanā hi rāgādīhi na saṃhīrati na saṃkuppatīti asaṃhīraṃ asaṃkuppaṃ, taṃ anubrūhaye vaḍḍheyya, paṭivipasseyyāti vuttaṃ hoti. Atha vā nibbānaṃ rāgādīhi na saṃhīrati na saṃkuppatīti asaṃhīraṃ asaṃkuppaṃ. Taṃ vidvā paṇḍito bhikkhu anubrūhaye, punappunaṃ tadārammaṇaṃ taṃ taṃ phalasamāpattiṃ appento vaḍḍheyyāti attho.

    ตสฺส ปน อนุพฺรูหนฺตสฺส อตฺถาย – อเชฺชว กิจฺจมาตปฺปนฺติ กิเลสานํ อาตาปนปริตาปเนน อาตปฺปนฺติ ลทฺธนามํ วีริยํ อเชฺชว กาตพฺพํฯ โก ชญฺญา มรณํ สุเวติ เสฺว ชีวิตํ วา มรณํ วา โก ชานาติฯ อเชฺชว ทานํ วา ทสฺสามิ, สีลํ วา รกฺขิสฺสามิ, อญฺญตรํ วา ปน กุสลํ กริสฺสามีติ หิ ‘‘อชฺช ตาว ปปโญฺจ อตฺถิ, เสฺว วา ปุนทิวเส วา กริสฺสามี’’ติ จิตฺตํ อนุปฺปาเทตฺวา อเชฺชว กริสฺสามีติ เอวํ วีริยํ กาตพฺพนฺติ ทเสฺสติฯ มหาเสเนนาติ อคฺคิวิสสตฺถาทีนิ อเนกานิ มรณการณานิ ตสฺส เสนา, ตาย มหติยา เสนาย วเสน มหาเสเนน เอวรูเปน มจฺจุนา สทฺธิํ ‘‘กติปาหํ ตาว อาคเมหิ ยาวาหํ พุทฺธปูชาทิํ อตฺตโน อวสฺสยกมฺมํ กโรมี’’ติ ฯ เอวํ มิตฺตสนฺถวาการสงฺขาโต วา, ‘‘อิทํ สตํ วา สหสฺสํ วา คเหตฺวา กติปาหํ อาคเมหี’’ติ เอวํ ลญฺชานุปฺปทานสงฺขาโต วา, ‘‘อิมินาหํ พลราสินา ปฎิพาหิสฺสามี’’ติ เอวํ พลราสิสงฺขาโต วา สงฺคโร นตฺถิฯ สงฺคโรติ หิ มิตฺตสนฺถวาการลญฺชานุปฺปทานพลราสีนํ นามํ, ตสฺมา อยมโตฺถ วุโตฺตฯ

    Tassa pana anubrūhantassa atthāya – ajjeva kiccamātappanti kilesānaṃ ātāpanaparitāpanena ātappanti laddhanāmaṃ vīriyaṃ ajjeva kātabbaṃ. Ko jaññā maraṇaṃ suveti sve jīvitaṃ vā maraṇaṃ vā ko jānāti. Ajjeva dānaṃ vā dassāmi, sīlaṃ vā rakkhissāmi, aññataraṃ vā pana kusalaṃ karissāmīti hi ‘‘ajja tāva papañco atthi, sve vā punadivase vā karissāmī’’ti cittaṃ anuppādetvā ajjeva karissāmīti evaṃ vīriyaṃ kātabbanti dasseti. Mahāsenenāti aggivisasatthādīni anekāni maraṇakāraṇāni tassa senā, tāya mahatiyā senāya vasena mahāsenena evarūpena maccunā saddhiṃ ‘‘katipāhaṃ tāva āgamehi yāvāhaṃ buddhapūjādiṃ attano avassayakammaṃ karomī’’ti . Evaṃ mittasanthavākārasaṅkhāto vā, ‘‘idaṃ sataṃ vā sahassaṃ vā gahetvā katipāhaṃ āgamehī’’ti evaṃ lañjānuppadānasaṅkhāto vā, ‘‘imināhaṃ balarāsinā paṭibāhissāmī’’ti evaṃ balarāsisaṅkhāto vā saṅgaro natthi. Saṅgaroti hi mittasanthavākāralañjānuppadānabalarāsīnaṃ nāmaṃ, tasmā ayamattho vutto.

    อตนฺทิตนฺติ อนลสํ อุฎฺฐาหกํฯ เอวํ ปฎิปนฺนตฺตา ภโทฺท เอกรโตฺต อสฺสาติ ภเทฺทกรโตฺตฯ อิติ ตํ เอวํ ปฎิปนฺนปุคฺคลํ ‘‘ภเทฺทกรโตฺต อย’’นฺติฯ ราคาทีนํ สนฺตตาย สโนฺต พุทฺธมุนิ อาจิกฺขติฯ

    Atanditanti analasaṃ uṭṭhāhakaṃ. Evaṃ paṭipannattā bhaddo ekaratto assāti bhaddekaratto. Iti taṃ evaṃ paṭipannapuggalaṃ ‘‘bhaddekaratto aya’’nti. Rāgādīnaṃ santatāya santo buddhamuni ācikkhati.

    ๒๗๓. เอวํรูโปติอาทีสุ กาโฬปิ สมาโน อินฺทนีลมณิวโณฺณ อโหสินฺติ เอวํ มนุญฺญรูปวเสเนว เอวํรูโป อโหสิํฯ กุสลสุขโสมนสฺสเวทนาวเสเนว เอวํเวทโนฯ ตํสมฺปยุตฺตานํเยว สญฺญาทีนํ วเสน เอวํสโญฺญ เอวํสงฺขาโร เอวํวิญฺญาโณ อโหสิํ อตีตมทฺธานนฺติฯ

    273.Evaṃrūpotiādīsu kāḷopi samāno indanīlamaṇivaṇṇo ahosinti evaṃ manuññarūpavaseneva evaṃrūpo ahosiṃ. Kusalasukhasomanassavedanāvaseneva evaṃvedano. Taṃsampayuttānaṃyeva saññādīnaṃ vasena evaṃsañño evaṃsaṅkhāro evaṃviññāṇo ahosiṃ atītamaddhānanti.

    ตตฺถ นนฺทิํ สมนฺวาเนตีติ เตสุ รูปาทีสุ ตณฺหํ สมนฺวาเนติ อนุปวเตฺตติฯ หีนรูปาทิวเสน ปน เอวํรูโป อโหสิํ…เป.… เอวํวิญฺญาโณ อโหสินฺติ น มญฺญติฯ

    Tattha nandiṃ samanvānetīti tesu rūpādīsu taṇhaṃ samanvāneti anupavatteti. Hīnarūpādivasena pana evaṃrūpo ahosiṃ…pe… evaṃviññāṇo ahosinti na maññati.

    นนฺทิํ น สมนฺวาเนตีติ ตณฺหํ วา ตณฺหาสมฺปยุตฺตทิฎฺฐิํ วา นานุปวตฺตยติฯ

    Nandiṃ na samanvānetīti taṇhaṃ vā taṇhāsampayuttadiṭṭhiṃ vā nānupavattayati.

    ๒๗๔. เอวํรูโป สิยนฺติอาทีสุปิ ตํมนุญฺญรูปาทิวเสเนว ตณฺหาทิฎฺฐิปวตฺตสงฺขาตา นนฺทิสมนฺวานยนาว เวทิตพฺพาฯ

    274.Evaṃrūpo siyantiādīsupi taṃmanuññarūpādivaseneva taṇhādiṭṭhipavattasaṅkhātā nandisamanvānayanāva veditabbā.

    ๒๗๕. กถญฺจ , ภิกฺขเว, ปจฺจุปฺปเนฺนสุ ธเมฺมสุ สํหีรตีติ อิทํ ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนญฺจ โย ธมฺมํ, ตตฺถ ตตฺถ วิปสฺสติฯ อสํหีรํ อสํกุปฺป’’นฺติ อุเทฺทสสฺส นิเทฺทสตฺถํ วุตฺตํฯ กามเญฺจตฺถ ‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ปจฺจุปฺปนฺนํ ธมฺมํ น วิปสฺสตี’’ติอาทิ วตฺตพฺพํ สิยา, ยสฺมา ปน อสํหีราติ จ อสํกุปฺปาติ จ วิปสฺสนา วุตฺตา, ตสฺมา ตสฺสา เอว อภาวญฺจ ภาวญฺจ ทเสฺสตุํ สํหีรตีติ มาติกํ อุทฺธริตฺวา วิตฺถาโร วุโตฺตฯ ตตฺถ สํหีรตีติ วิปสฺสนาย อภาวโต ตณฺหาทิฎฺฐีหิ อากฑฺฒิยติฯ น สํหีรตีติ วิปสฺสนาย ภาเวน ตณฺหาทิฎฺฐีหิ นากฑฺฒิยติฯ เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติฯ

    275.Kathañca, bhikkhave, paccuppannesu dhammesu saṃhīratīti idaṃ ‘‘paccuppannañca yo dhammaṃ, tattha tattha vipassati. Asaṃhīraṃ asaṃkuppa’’nti uddesassa niddesatthaṃ vuttaṃ. Kāmañcettha ‘‘kathañca, bhikkhave, paccuppannaṃ dhammaṃ na vipassatī’’tiādi vattabbaṃ siyā, yasmā pana asaṃhīrāti ca asaṃkuppāti ca vipassanā vuttā, tasmā tassā eva abhāvañca bhāvañca dassetuṃ saṃhīratīti mātikaṃ uddharitvā vitthāro vutto. Tattha saṃhīratīti vipassanāya abhāvato taṇhādiṭṭhīhi ākaḍḍhiyati. Na saṃhīratīti vipassanāya bhāvena taṇhādiṭṭhīhi nākaḍḍhiyati. Sesaṃ sabbattha uttānamevāti.

    ปปญฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฎฺฐกถาย

    Papañcasūdaniyā majjhimanikāyaṭṭhakathāya

    ภเทฺทกรตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Bhaddekarattasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya / ๑. ภเทฺทกรตฺตสุตฺตํ • 1. Bhaddekarattasuttaṃ

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) / ๑. ภเทฺทกรตฺตสุตฺตวณฺณนา • 1. Bhaddekarattasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact