Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya

    ๓. ภทฺทิยสุตฺตํ

    3. Bhaddiyasuttaṃ

    ๑๙๓. เอกํ สมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฎาคารสาลายํฯ อถ โข ภทฺทิโย ลิจฺฉวิ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข ภทฺทิโย ลิจฺฉวิ ภควนฺตํ เอตทโวจ –

    193. Ekaṃ samayaṃ bhagavā vesāliyaṃ viharati mahāvane kūṭāgārasālāyaṃ. Atha kho bhaddiyo licchavi yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho bhaddiyo licchavi bhagavantaṃ etadavoca –

    ‘‘สุตํ เมตํ, ภเนฺต – ‘มายาวี สมโณ โคตโม อาวฎฺฎนิํ มายํ 1 ชานาติ ยาย อญฺญติตฺถิยานํ สาวเก อาวเฎฺฎตี’ติฯ เย เต, ภเนฺต, เอวมาหํสุ – ‘มายาวี สมโณ โคตโม อาวฎฺฎนิํ มายํ ชานาติ ยาย อญฺญติตฺถิยานํ สาวเก อาวเฎฺฎตี’ติ, กจฺจิ เต, ภเนฺต, ภควโต วุตฺตวาทิโน, น จ ภควนฺตํ อภูเตน อพฺภาจิกฺขนฺติ, ธมฺมสฺส จ อนุธมฺมํ พฺยากโรนฺติ, น จ โกจิ สหธมฺมิโก วาทานุปาโต คารยฺหํ ฐานํ อาคจฺฉติ, อนพฺภกฺขาตุกามา หิ มยํ, ภเนฺต, ภควนฺต’’นฺติ?

    ‘‘Sutaṃ metaṃ, bhante – ‘māyāvī samaṇo gotamo āvaṭṭaniṃ māyaṃ 2 jānāti yāya aññatitthiyānaṃ sāvake āvaṭṭetī’ti. Ye te, bhante, evamāhaṃsu – ‘māyāvī samaṇo gotamo āvaṭṭaniṃ māyaṃ jānāti yāya aññatitthiyānaṃ sāvake āvaṭṭetī’ti, kacci te, bhante, bhagavato vuttavādino, na ca bhagavantaṃ abhūtena abbhācikkhanti, dhammassa ca anudhammaṃ byākaronti, na ca koci sahadhammiko vādānupāto gārayhaṃ ṭhānaṃ āgacchati, anabbhakkhātukāmā hi mayaṃ, bhante, bhagavanta’’nti?

    ‘‘เอถ ตุเมฺห, ภทฺทิย, มา อนุสฺสเวน, มา ปรมฺปราย, มา อิติกิราย, มา ปิฎกสมฺปทาเนน, มา ตกฺกเหตุ, มา นยเหตุ, มา อาการปริวิตเกฺกน, มา ทิฎฺฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา, มา ภพฺพรูปตาย, มา ‘สมโณ โน ครู’ติฯ ยทา ตุเมฺห, ภทฺทิย, อตฺตนาว ชาเนยฺยาถ – ‘อิเม ธมฺมา อกุสลา, อิเม ธมฺมา สาวชฺชา, อิเม ธมฺมา วิญฺญุครหิตา, อิเม ธมฺมา สมตฺตา สมาทินฺนา อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺตี’ติ, อถ ตุเมฺห, ภทฺทิย, ปชเหยฺยาถฯ

    ‘‘Etha tumhe, bhaddiya, mā anussavena, mā paramparāya, mā itikirāya, mā piṭakasampadānena, mā takkahetu, mā nayahetu, mā ākāraparivitakkena, mā diṭṭhinijjhānakkhantiyā, mā bhabbarūpatāya, mā ‘samaṇo no garū’ti. Yadā tumhe, bhaddiya, attanāva jāneyyātha – ‘ime dhammā akusalā, ime dhammā sāvajjā, ime dhammā viññugarahitā, ime dhammā samattā samādinnā ahitāya dukkhāya saṃvattantī’ti, atha tumhe, bhaddiya, pajaheyyātha.

    ‘‘ตํ กิํ มญฺญถ, ภทฺทิย, โลโภ ปุริสสฺส อชฺฌตฺตํ อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ หิตาย วา อหิตาย วา’’ติ? ‘‘อหิตาย, ภเนฺต’’ฯ ‘‘ลุโทฺธ ปนายํ, ภทฺทิย, ปุริสปุคฺคโล โลเภน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิโตฺต ปาณมฺปิ หนติ, อทินฺนมฺปิ อาทิยติ, ปรทารมฺปิ คจฺฉติ, มุสาปิ ภณติ, ปรมฺปิ ตถตฺตาย 3 สมาทเปติ ยํส โหติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ฯ

    ‘‘Taṃ kiṃ maññatha, bhaddiya, lobho purisassa ajjhattaṃ uppajjamāno uppajjati hitāya vā ahitāya vā’’ti? ‘‘Ahitāya, bhante’’. ‘‘Luddho panāyaṃ, bhaddiya, purisapuggalo lobhena abhibhūto pariyādinnacitto pāṇampi hanati, adinnampi ādiyati, paradārampi gacchati, musāpi bhaṇati, parampi tathattāya 4 samādapeti yaṃsa hoti dīgharattaṃ ahitāya dukkhāyā’’ti. ‘‘Evaṃ, bhante’’.

    ‘‘ตํ กิํ มญฺญถ, ภทฺทิย, โทโส ปุริสสฺส…เป.… โมโห ปุริสสฺส…เป.… สารโมฺภ ปุริสสฺส อชฺฌตฺตํ อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ หิตาย วา อหิตาย วา’’ติ? ‘‘อหิตาย, ภเนฺต’’ฯ ‘‘สารโทฺธ ปนายํ, ภทฺทิย, ปุริสปุคฺคโล สารเมฺภน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิโตฺต ปาณมฺปิ หนติ, อทินฺนมฺปิ อาทิยติ, ปรทารมฺปิ คจฺฉติ, มุสาปิ ภณติ, ปรมฺปิ ตถตฺตาย สมาทเปติ ยํส โหติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ฯ

    ‘‘Taṃ kiṃ maññatha, bhaddiya, doso purisassa…pe… moho purisassa…pe… sārambho purisassa ajjhattaṃ uppajjamāno uppajjati hitāya vā ahitāya vā’’ti? ‘‘Ahitāya, bhante’’. ‘‘Sāraddho panāyaṃ, bhaddiya, purisapuggalo sārambhena abhibhūto pariyādinnacitto pāṇampi hanati, adinnampi ādiyati, paradārampi gacchati, musāpi bhaṇati, parampi tathattāya samādapeti yaṃsa hoti dīgharattaṃ ahitāya dukkhāyā’’ti. ‘‘Evaṃ, bhante’’.

    ‘‘ตํ กิํ มญฺญถ, ภทฺทิย, อิเม ธมฺมา กุสลา วา อกุสลา วา’’ติ? ‘‘อกุสลา, ภเนฺต’’ฯ ‘‘สาวชฺชา วา อนวชฺชา วา’’ติ? ‘‘สาวชฺชา, ภเนฺต’’ฯ ‘‘วิญฺญุครหิตา วา วิญฺญุปฺปสตฺถา วา’’ติ? ‘‘วิญฺญุครหิตา, ภเนฺต’’ฯ ‘‘สมตฺตา สมาทินฺนา อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺติ, โน วา? กถํ วา เอตฺถ โหตี’’ติ? ‘‘สมตฺตา, ภเนฺต, สมาทินฺนา อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺติฯ เอวํ โน เอตฺถ โหตี’’ติฯ

    ‘‘Taṃ kiṃ maññatha, bhaddiya, ime dhammā kusalā vā akusalā vā’’ti? ‘‘Akusalā, bhante’’. ‘‘Sāvajjā vā anavajjā vā’’ti? ‘‘Sāvajjā, bhante’’. ‘‘Viññugarahitā vā viññuppasatthā vā’’ti? ‘‘Viññugarahitā, bhante’’. ‘‘Samattā samādinnā ahitāya dukkhāya saṃvattanti, no vā? Kathaṃ vā ettha hotī’’ti? ‘‘Samattā, bhante, samādinnā ahitāya dukkhāya saṃvattanti. Evaṃ no ettha hotī’’ti.

    ‘‘อิติ โข, ภทฺทิย, ยํ ตํ เต อโวจุมฺหา – เอถ ตุเมฺห, ภทฺทิย, มา อนุสฺสเวน, มา ปรมฺปราย, มา อิติกิราย, มา ปิฎกสมฺปทาเนน, มา ตกฺกเหตุ, มา นยเหตุ, มา อาการปริวิตเกฺกน, มา ทิฎฺฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา, มา ภพฺพรูปตาย, มา ‘สมโณ โน ครู’ติฯ ยทา ตุเมฺห, ภทฺทิย, อตฺตนาว ชาเนยฺยาถ – ‘อิเม ธมฺมา อกุสลา, อิเม ธมฺมา สาวชฺชา, อิเม ธมฺมา วิญฺญุครหิตา, อิเม ธมฺมา สมตฺตา สมาทินฺนา อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺตีติ, อถ ตุเมฺห, ภทฺทิย, ปชเหยฺยาถา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฎิจฺจ วุตฺตํฯ

    ‘‘Iti kho, bhaddiya, yaṃ taṃ te avocumhā – etha tumhe, bhaddiya, mā anussavena, mā paramparāya, mā itikirāya, mā piṭakasampadānena, mā takkahetu, mā nayahetu, mā ākāraparivitakkena, mā diṭṭhinijjhānakkhantiyā, mā bhabbarūpatāya, mā ‘samaṇo no garū’ti. Yadā tumhe, bhaddiya, attanāva jāneyyātha – ‘ime dhammā akusalā, ime dhammā sāvajjā, ime dhammā viññugarahitā, ime dhammā samattā samādinnā ahitāya dukkhāya saṃvattantīti, atha tumhe, bhaddiya, pajaheyyāthā’ti, iti yaṃ taṃ vuttaṃ idametaṃ paṭicca vuttaṃ.

    ‘‘เอถ ตุเมฺห, ภทฺทิย, มา อนุสฺสเวน, มา ปรมฺปราย, มา อิติกิราย, มา ปิฎกสมฺปทาเนน, มา ตกฺกเหตุ, มา นยเหตุ, มา อาการปริวิตเกฺกน, มา ทิฎฺฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา, มา ภพฺพรูปตาย, มา ‘สมโณ โน ครู’ติฯ ยทา ตุเมฺห, ภทฺทิย, อตฺตนาว ชาเนยฺยาถ – ‘อิเม ธมฺมา กุสลา, อิเม ธมฺมา อนวชฺชา, อิเม ธมฺมา วิญฺญุปฺปสตฺถา, อิเม ธมฺมา สมตฺตา สมาทินฺนา หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺตี’ติ, อถ ตุเมฺห, ภทฺทิย, อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยาถา’’ติฯ

    ‘‘Etha tumhe, bhaddiya, mā anussavena, mā paramparāya, mā itikirāya, mā piṭakasampadānena, mā takkahetu, mā nayahetu, mā ākāraparivitakkena, mā diṭṭhinijjhānakkhantiyā, mā bhabbarūpatāya, mā ‘samaṇo no garū’ti. Yadā tumhe, bhaddiya, attanāva jāneyyātha – ‘ime dhammā kusalā, ime dhammā anavajjā, ime dhammā viññuppasatthā, ime dhammā samattā samādinnā hitāya sukhāya saṃvattantī’ti, atha tumhe, bhaddiya, upasampajja vihareyyāthā’’ti.

    ‘‘ตํ กิํ มญฺญถ, ภทฺทิย, อโลโภ ปุริสสฺส อชฺฌตฺตํ อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ หิตาย วา อหิตาย วา’’ติ? ‘‘หิตาย, ภเนฺต’’ฯ ‘‘อลุโทฺธ ปนายํ, ภทฺทิย, ปุริสปุคฺคโล โลเภน อนภิภูโต อปริยาทินฺนจิโตฺต เนว ปาณํ หนติ, น อทินฺนํ อาทิยติ, น ปรทารํ คจฺฉติ, น มุสา ภณติ, ปรมฺปิ ตถตฺตาย น สมาทเปติ ยํ’ส โหติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ฯ

    ‘‘Taṃ kiṃ maññatha, bhaddiya, alobho purisassa ajjhattaṃ uppajjamāno uppajjati hitāya vā ahitāya vā’’ti? ‘‘Hitāya, bhante’’. ‘‘Aluddho panāyaṃ, bhaddiya, purisapuggalo lobhena anabhibhūto apariyādinnacitto neva pāṇaṃ hanati, na adinnaṃ ādiyati, na paradāraṃ gacchati, na musā bhaṇati, parampi tathattāya na samādapeti yaṃ’sa hoti dīgharattaṃ hitāya sukhāyā’’ti. ‘‘Evaṃ, bhante’’.

    ‘‘ตํ กิํ มญฺญถ, ภทฺทิย, อโทโส ปุริสสฺส…เป.… อโมโห ปุริสสฺส…เป.… อสารโมฺภ ปุริสสฺส อชฺฌตฺตํ อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ หิตาย วา อหิตาย วา’’ติ? ‘‘หิตาย, ภเนฺต’’ฯ ‘‘อสารโทฺธ ปนายํ, ภทฺทิย, ปุริสปุคฺคโล สารเมฺภน อนภิภูโต อปริยาทินฺนจิโตฺต เนว ปาณํ หนติ, น อทินฺนํ อาทิยติ, น ปรทารํ คจฺฉติ, น มุสา ภณติ , ปรมฺปิ ตถตฺตาย น สมาทเปติ ยํ’ส โหติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ฯ

    ‘‘Taṃ kiṃ maññatha, bhaddiya, adoso purisassa…pe… amoho purisassa…pe… asārambho purisassa ajjhattaṃ uppajjamāno uppajjati hitāya vā ahitāya vā’’ti? ‘‘Hitāya, bhante’’. ‘‘Asāraddho panāyaṃ, bhaddiya, purisapuggalo sārambhena anabhibhūto apariyādinnacitto neva pāṇaṃ hanati, na adinnaṃ ādiyati, na paradāraṃ gacchati, na musā bhaṇati , parampi tathattāya na samādapeti yaṃ’sa hoti dīgharattaṃ hitāya sukhāyā’’ti. ‘‘Evaṃ, bhante’’.

    ‘‘ตํ กิํ มญฺญถ, ภทฺทิย, อิเม ธมฺมา กุสลา วา อกุสลา วา’’ติ? ‘‘กุสลา, ภเนฺต’’ฯ ‘‘สาวชฺชา วา อนวชฺชา วา’’ติ? ‘‘อนวชฺชา, ภเนฺต’’ฯ ‘‘วิญฺญุครหิตา วา วิญฺญุปฺปสตฺถา วา’’ติ? ‘‘วิญฺญุปฺปสตฺถา, ภเนฺต’’ฯ ‘‘สมตฺตา สมาทินฺนา หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺติ โน วา? กถํ วา เอตฺถ โหตี’’ติ? ‘‘สมตฺตา, ภเนฺต, สมาทินฺนา หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺติฯ เอวํ โน เอตฺถ โหตี’’ติฯ

    ‘‘Taṃ kiṃ maññatha, bhaddiya, ime dhammā kusalā vā akusalā vā’’ti? ‘‘Kusalā, bhante’’. ‘‘Sāvajjā vā anavajjā vā’’ti? ‘‘Anavajjā, bhante’’. ‘‘Viññugarahitā vā viññuppasatthā vā’’ti? ‘‘Viññuppasatthā, bhante’’. ‘‘Samattā samādinnā hitāya sukhāya saṃvattanti no vā? Kathaṃ vā ettha hotī’’ti? ‘‘Samattā, bhante, samādinnā hitāya sukhāya saṃvattanti. Evaṃ no ettha hotī’’ti.

    ‘‘อิติ โข, ภทฺทิย, ยํ ตํ เต อโวจุมฺหา – เอถ ตุเมฺห, ภทฺทิย, มา อนุสฺสเวน, มา ปรมฺปราย, มา อิติกิราย, มา ปิฎกสมฺปทาเนน, มา ตกฺกเหตุ, มา นยเหตุ, มา อาการปริวิตเกฺกน, มา ทิฎฺฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา, มา ภพฺพรูปตาย, มา ‘สมโณ โน ครู’ติฯ ยทา ตุเมฺห, ภทฺทิย, อตฺตนาว ชาเนยฺยาถ – ‘อิเม ธมฺมา กุสลา, อิเม ธมฺมา อนวชฺชา, อิเม ธมฺมา วิญฺญุปฺปสตฺถา, อิเม ธมฺมา สมตฺตา สมาทินฺนา หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺตีติ , อถ ตุเมฺห, ภทฺทิย, อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยาถา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฎิจฺจ วุตฺตํฯ

    ‘‘Iti kho, bhaddiya, yaṃ taṃ te avocumhā – etha tumhe, bhaddiya, mā anussavena, mā paramparāya, mā itikirāya, mā piṭakasampadānena, mā takkahetu, mā nayahetu, mā ākāraparivitakkena, mā diṭṭhinijjhānakkhantiyā, mā bhabbarūpatāya, mā ‘samaṇo no garū’ti. Yadā tumhe, bhaddiya, attanāva jāneyyātha – ‘ime dhammā kusalā, ime dhammā anavajjā, ime dhammā viññuppasatthā, ime dhammā samattā samādinnā hitāya sukhāya saṃvattantīti , atha tumhe, bhaddiya, upasampajja vihareyyāthā’ti, iti yaṃ taṃ vuttaṃ idametaṃ paṭicca vuttaṃ.

    ‘‘เย โข เต, ภทฺทิย, โลเก สโนฺต สปฺปุริสา เต สาวกํ เอวํ สมาทเปนฺติ – ‘เอหิ ตฺวํ, อโมฺภ ปุริส, โลภํ วิเนยฺย 5 วิหราหิฯ โลภํ วิเนยฺย วิหรโนฺต น โลภชํ กมฺมํ กริสฺสสิ กาเยน วาจาย มนสาฯ โทสํ วิเนยฺย วิหราหิฯ โทสํ วิเนยฺย วิหรโนฺต น โทสชํ กมฺมํ กริสฺสสิ กาเยน วาจาย มนสาฯ โมหํ วิเนยฺย วิหราหิฯ โมหํ วิเนยฺย วิหรโนฺต น โมหชํ กมฺมํ กริสฺสสิ กาเยน วาจาย มนสาฯ สารมฺภํ วิเนยฺย วิหราหิฯ สารมฺภํ วิเนยฺย วิหรโนฺต น สารมฺภชํ กมฺมํ กริสฺสสิ กาเยน วาจาย มนสา’’’ติฯ

    ‘‘Ye kho te, bhaddiya, loke santo sappurisā te sāvakaṃ evaṃ samādapenti – ‘ehi tvaṃ, ambho purisa, lobhaṃ vineyya 6 viharāhi. Lobhaṃ vineyya viharanto na lobhajaṃ kammaṃ karissasi kāyena vācāya manasā. Dosaṃ vineyya viharāhi. Dosaṃ vineyya viharanto na dosajaṃ kammaṃ karissasi kāyena vācāya manasā. Mohaṃ vineyya viharāhi. Mohaṃ vineyya viharanto na mohajaṃ kammaṃ karissasi kāyena vācāya manasā. Sārambhaṃ vineyya viharāhi. Sārambhaṃ vineyya viharanto na sārambhajaṃ kammaṃ karissasi kāyena vācāya manasā’’’ti.

    เอวํ วุเตฺต ภทฺทิโย ลิจฺฉวิ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภเนฺต…เป.… อุปาสกํ มํ, ภเนฺต, ภควา ธาเรตุ อชฺชตเคฺค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติฯ

    Evaṃ vutte bhaddiyo licchavi bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘abhikkantaṃ, bhante…pe… upāsakaṃ maṃ, bhante, bhagavā dhāretu ajjatagge pāṇupetaṃ saraṇaṃ gata’’nti.

    ‘‘อปิ นุ ตาหํ, ภทฺทิย, เอวํ อวจํ – ‘เอหิ เม ตฺวํ, ภทฺทิย, สาวโก โหหิ; อหํ สตฺถา ภวิสฺสามี’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภเนฺต’’ฯ ‘‘เอวํวาทิํ โข มํ, ภทฺทิย, เอวมกฺขายิํ เอเก สมณพฺราหฺมณา อสตา ตุจฺฉา มุสา อภูเตน อพฺภาจิกฺขนฺติ – ‘มายาวี สมโณ โคตโม อาวฎฺฎนิํ มายํ ชานาติ ยาย อญฺญติตฺถิยานํ สาวเก อาวเฎฺฎตี’’’ติฯ ‘‘ภทฺทิกา , ภเนฺต, อาวฎฺฎนี มายาฯ กลฺยาณี, ภเนฺต, อาวฎฺฎนี มายาฯ ปิยา เม, ภเนฺต, ญาติสาโลหิตา อิมาย อาวฎฺฎนิยา อาวเฎฺฎยฺยุํ, ปิยานมฺปิ เม อสฺส ญาติสาโลหิตานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายฯ สเพฺพ เจปิ, ภเนฺต, ขตฺติยา อิมาย อาวฎฺฎนิยา อาวเฎฺฎยฺยุํ, สเพฺพสมฺปิสฺส ขตฺติยานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายฯ สเพฺพ เจปิ, ภเนฺต, พฺราหฺมณา… เวสฺสา … สุทฺทา อิมาย อาวฎฺฎนิยา อาวเฎฺฎยฺยุํ, สเพฺพสมฺปิสฺส สุทฺทานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติฯ

    ‘‘Api nu tāhaṃ, bhaddiya, evaṃ avacaṃ – ‘ehi me tvaṃ, bhaddiya, sāvako hohi; ahaṃ satthā bhavissāmī’’’ti? ‘‘No hetaṃ, bhante’’. ‘‘Evaṃvādiṃ kho maṃ, bhaddiya, evamakkhāyiṃ eke samaṇabrāhmaṇā asatā tucchā musā abhūtena abbhācikkhanti – ‘māyāvī samaṇo gotamo āvaṭṭaniṃ māyaṃ jānāti yāya aññatitthiyānaṃ sāvake āvaṭṭetī’’’ti. ‘‘Bhaddikā , bhante, āvaṭṭanī māyā. Kalyāṇī, bhante, āvaṭṭanī māyā. Piyā me, bhante, ñātisālohitā imāya āvaṭṭaniyā āvaṭṭeyyuṃ, piyānampi me assa ñātisālohitānaṃ dīgharattaṃ hitāya sukhāya. Sabbe cepi, bhante, khattiyā imāya āvaṭṭaniyā āvaṭṭeyyuṃ, sabbesampissa khattiyānaṃ dīgharattaṃ hitāya sukhāya. Sabbe cepi, bhante, brāhmaṇā… vessā … suddā imāya āvaṭṭaniyā āvaṭṭeyyuṃ, sabbesampissa suddānaṃ dīgharattaṃ hitāya sukhāyā’’ti.

    ‘‘เอวเมตํ, ภทฺทิย, เอวเมตํ, ภทฺทิย! สเพฺพ เจปิ, ภทฺทิย, ขตฺติยา อิมาย อาวฎฺฎนิยา อาวเฎฺฎยฺยุํ อกุสลธมฺมปฺปหานาย กุสลธมฺมูปสมฺปทาย, สเพฺพสมฺปิสฺส ขตฺติยานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายฯ สเพฺพ เจปิ, ภทฺทิย, พฺราหฺมณา… เวสฺสา… สุทฺทา อาวเฎฺฎยฺยุํ อกุสลธมฺมปฺปหานาย กุสลธมฺมูปสมฺปทาย, สเพฺพสมฺปิสฺส สุทฺทานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายฯ สเทวโก เจปิ, ภทฺทิย, โลโก สมารโก สพฺรหฺมโก สสฺสมณพฺราหฺมณี ปชา สเทวมนุสฺสา อิมาย อาวฎฺฎนิยา อาวเฎฺฎยฺยุํ 7 อกุสลธมฺมปฺปหานาย กุสลธมฺมูปสมฺปทาย, สเทวกสฺสปิสฺส โลกสฺส สมารกสฺส สพฺรหฺมกสฺส สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายฯ อิเม เจปิ, ภทฺทิย, มหาสาลา อิมาย อาวฎฺฎนิยา อาวเฎฺฎยฺยุํ อกุสลธมฺมปฺปหานาย กุสลธมฺมูปสมฺปทาย, อิเมสมฺปิสฺส มหาสาลานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย ( ) 8ฯ โก ปน วาโท มนุสฺสภูตสฺสา’’ติ! ตติยํฯ

    ‘‘Evametaṃ, bhaddiya, evametaṃ, bhaddiya! Sabbe cepi, bhaddiya, khattiyā imāya āvaṭṭaniyā āvaṭṭeyyuṃ akusaladhammappahānāya kusaladhammūpasampadāya, sabbesampissa khattiyānaṃ dīgharattaṃ hitāya sukhāya. Sabbe cepi, bhaddiya, brāhmaṇā… vessā… suddā āvaṭṭeyyuṃ akusaladhammappahānāya kusaladhammūpasampadāya, sabbesampissa suddānaṃ dīgharattaṃ hitāya sukhāya. Sadevako cepi, bhaddiya, loko samārako sabrahmako sassamaṇabrāhmaṇī pajā sadevamanussā imāya āvaṭṭaniyā āvaṭṭeyyuṃ 9 akusaladhammappahānāya kusaladhammūpasampadāya, sadevakassapissa lokassa samārakassa sabrahmakassa sassamaṇabrāhmaṇiyā pajāya sadevamanussāya dīgharattaṃ hitāya sukhāya. Ime cepi, bhaddiya, mahāsālā imāya āvaṭṭaniyā āvaṭṭeyyuṃ akusaladhammappahānāya kusaladhammūpasampadāya, imesampissa mahāsālānaṃ dīgharattaṃ hitāya sukhāya ( ) 10. Ko pana vādo manussabhūtassā’’ti! Tatiyaṃ.







    Footnotes:
    1. อาวฎฺฎนีมายํ (สี.), อาวฎฺฎนิมายํ (สฺยา. กํ. ก.) ม. นิ. ๒.๖๐ ปสฺสิตพฺพํ
    2. āvaṭṭanīmāyaṃ (sī.), āvaṭṭanimāyaṃ (syā. kaṃ. ka.) ma. ni. 2.60 passitabbaṃ
    3. ตทตฺถาย (ก.) อ. นิ. ๓.๖๖
    4. tadatthāya (ka.) a. ni. 3.66
    5. วิเนยฺย วิเนยฺย (สี. สฺยา. กํ.)
    6. vineyya vineyya (sī. syā. kaṃ.)
    7. อาวเฎฺฎยฺย (?)
    8. (สเจ เจเตยฺยุํ) (สี. สฺยา. กํ. ปี.), (อาวเฎฺฎยฺยุํ) (ก.) อ. นิ. ๘.๔๔
    9. āvaṭṭeyya (?)
    10. (sace ceteyyuṃ) (sī. syā. kaṃ. pī.), (āvaṭṭeyyuṃ) (ka.) a. ni. 8.44



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๓. ภทฺทิยสุตฺตวณฺณนา • 3. Bhaddiyasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๓. ภทฺทิยสุตฺตวณฺณนา • 3. Bhaddiyasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact