Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā

    [๑๕๕] ๕. ภคฺคชาตกวณฺณนา

    [155] 5. Bhaggajātakavaṇṇanā

    ชีว วสฺสสตํ ภคฺคาติ อิทํ สตฺถา เชตวนสมีเป ปเสนทิโกสเลน รญฺญา การิเต ราชการาเม วิหรโนฺต อตฺตโน ขิปิตกํ อารพฺภ กเถสิฯ เอกสฺมิญฺหิ ทิวเส สตฺถา ราชการาเม จตุปริสมเชฺฌ นิสีทิตฺวา ธมฺมํ เทเสโนฺต ขิปิฯ ภิกฺขู ‘‘ชีวตุ, ภเนฺต ภควา, ชีวตุ, สุคโต’’ติ อุจฺจาสทฺทํ มหาสทฺทํ อกํสุ, เตน สเทฺทน ธมฺมกถาย อนฺตราโย อโหสิฯ อถ โข ภควา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อปิ นุ โข, ภิกฺขเว, ขิปิเต ‘ชีวา’ติ วุโตฺต ตปฺปจฺจยา ชีเวยฺย วา มเรยฺย วา’’ติ? ‘‘โน เหตํ ภเนฺต’’ติฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, ขิปิเต ‘ชีวา’ติ วตฺตโพฺพ, โย วเทยฺย อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติ (จูฬว. ๒๘๘)ฯ เตน โข ปน สมเยน มนุสฺสา ภิกฺขูนํ ขิปิเต ‘‘ชีวถ, ภเนฺต’’ติ วทนฺติ, ภิกฺขู กุกฺกุจฺจายนฺตา นาลปนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา ‘ชีวถ, ภเนฺต’ติ วุจฺจมานา นาลปิสฺสนฺตี’’ติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ คิหี, ภิกฺขเว, มงฺคลิกา, อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิหีนํ ‘‘ชีวถ, ภเนฺต’’ติ วุจฺจมาเนน ‘‘จิรํ ชีวา’’ติ วตฺตุนฺติฯ ภิกฺขู ภควนฺตํ ปุจฺฉิํสุ – ‘‘ภเนฺต, ชีวปฎิชีวํ นาม กทา อุปฺปนฺน’’นฺติ? สตฺถา ‘‘ภิกฺขเว, ชีวปฎิชีวํ นาม โปราณกาเล อุปฺปนฺน’’นฺติ วตฺวา อตีตํ อาหริฯ

    Jīvavassasataṃ bhaggāti idaṃ satthā jetavanasamīpe pasenadikosalena raññā kārite rājakārāme viharanto attano khipitakaṃ ārabbha kathesi. Ekasmiñhi divase satthā rājakārāme catuparisamajjhe nisīditvā dhammaṃ desento khipi. Bhikkhū ‘‘jīvatu, bhante bhagavā, jīvatu, sugato’’ti uccāsaddaṃ mahāsaddaṃ akaṃsu, tena saddena dhammakathāya antarāyo ahosi. Atha kho bhagavā bhikkhū āmantesi – ‘‘api nu kho, bhikkhave, khipite ‘jīvā’ti vutto tappaccayā jīveyya vā mareyya vā’’ti? ‘‘No hetaṃ bhante’’ti. ‘‘Na, bhikkhave, khipite ‘jīvā’ti vattabbo, yo vadeyya āpatti dukkaṭassā’’ti (cūḷava. 288). Tena kho pana samayena manussā bhikkhūnaṃ khipite ‘‘jīvatha, bhante’’ti vadanti, bhikkhū kukkuccāyantā nālapanti. Manussā ujjhāyanti – ‘‘kathañhi nāma samaṇā sakyaputtiyā ‘jīvatha, bhante’ti vuccamānā nālapissantī’’ti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Gihī, bhikkhave, maṅgalikā, anujānāmi, bhikkhave, gihīnaṃ ‘‘jīvatha, bhante’’ti vuccamānena ‘‘ciraṃ jīvā’’ti vattunti. Bhikkhū bhagavantaṃ pucchiṃsu – ‘‘bhante, jīvapaṭijīvaṃ nāma kadā uppanna’’nti? Satthā ‘‘bhikkhave, jīvapaṭijīvaṃ nāma porāṇakāle uppanna’’nti vatvā atītaṃ āhari.

    อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต กาสิรเฎฺฐ เอกสฺมิํ พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติฯ ตสฺส ปิตา โวหารํ กตฺวา ชีวิกํ กเปฺปติ, โส โสฬสวสฺสุเทฺทสิกํ โพธิสตฺตํ มณิกภณฺฑํ อุกฺขิปาเปตฺวา คามนิคมาทีสุ จรโนฺต พาราณสิํ ปตฺวา โทวาริกสฺส ฆเร ภตฺตํ ปจาเปตฺวา ภุญฺชิตฺวา นิวาสฎฺฐานํ อลภโนฺต ‘‘อเวลาย อาคตา อาคนฺตุกา กตฺถ วสนฺตี’’ติ ปุจฺฉิฯ อถ นํ มนุสฺสา ‘‘พหินคเร เอกา สาลา อตฺถิ, สา ปน อมนุสฺสปริคฺคหิตาฯ สเจ อิจฺฉถ, ตตฺถ วสถา’’ติ อาหํสุฯ โพธิสโตฺต ‘‘เอถ, ตาต, คจฺฉาม, มา ยกฺขสฺส ภายิตฺถ, อหํ ตํ ทเมตฺวา ตุมฺหากํ ปาเทสุ ปาเตสฺสามี’’ติ ปิตรํ คเหตฺวา ตตฺถ คโตฯ อถสฺส ปิตา ผลเก นิปชฺชิ, สยํ ปิตุ ปาเท สมฺพาหโนฺต นิสีทิฯ ตตฺถ อธิวโตฺถ ยโกฺข ทฺวาทส วสฺสานิ เวสฺสวณํ อุปฎฺฐหิตฺวา ตํ สาลํ ลภโนฺต ‘‘อิมํ สาลํ ปวิฎฺฐมนุเสฺสสุ โย ขิปิเต ‘ชีวา’ติ วทติ, โย จ ‘ชีวา’ติ วุเตฺต ‘ปฎิชีวา’ติ วทติ, เต ชีวปฎิชีวภาณิโน ฐเปตฺวา อวเสเส ขาเทยฺยาสี’’ติ ลภิฯ โส ปิฎฺฐิวํสถูณาย วสติฯ โส ‘‘โพธิสตฺตสฺส ปิตรํ ขิปาเปสฺสามี’’ติ อตฺตโน อานุภาเวน สุขุมจุณฺณํ วิสฺสเชฺชสิ, จุโณฺณ อาคนฺตฺวา ตสฺส นาสปุเฎ ปาวิสิฯ โส ผลเก นิปนฺนโกว ขิปิ, โพธิสโตฺต น ‘‘ชีวา’’ติ อาหฯ ยโกฺข ตํ ขาทิตุํ ถูณาย โอตรติฯ โพธิสโตฺต ตํ โอตรนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อิมินา เม ปิตา ขิปาปิโต ภวิสฺสติ, อยํ โส ขิปิเต ‘ชีวา’ติ อวทนฺตํ ขาทกยโกฺข ภวิสฺสตี’’ติ ปิตรํ อารพฺภ ปฐมํ คาถมาห –

    Atīte bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bodhisatto kāsiraṭṭhe ekasmiṃ brāhmaṇakule nibbatti. Tassa pitā vohāraṃ katvā jīvikaṃ kappeti, so soḷasavassuddesikaṃ bodhisattaṃ maṇikabhaṇḍaṃ ukkhipāpetvā gāmanigamādīsu caranto bārāṇasiṃ patvā dovārikassa ghare bhattaṃ pacāpetvā bhuñjitvā nivāsaṭṭhānaṃ alabhanto ‘‘avelāya āgatā āgantukā kattha vasantī’’ti pucchi. Atha naṃ manussā ‘‘bahinagare ekā sālā atthi, sā pana amanussapariggahitā. Sace icchatha, tattha vasathā’’ti āhaṃsu. Bodhisatto ‘‘etha, tāta, gacchāma, mā yakkhassa bhāyittha, ahaṃ taṃ dametvā tumhākaṃ pādesu pātessāmī’’ti pitaraṃ gahetvā tattha gato. Athassa pitā phalake nipajji, sayaṃ pitu pāde sambāhanto nisīdi. Tattha adhivattho yakkho dvādasa vassāni vessavaṇaṃ upaṭṭhahitvā taṃ sālaṃ labhanto ‘‘imaṃ sālaṃ paviṭṭhamanussesu yo khipite ‘jīvā’ti vadati, yo ca ‘jīvā’ti vutte ‘paṭijīvā’ti vadati, te jīvapaṭijīvabhāṇino ṭhapetvā avasese khādeyyāsī’’ti labhi. So piṭṭhivaṃsathūṇāya vasati. So ‘‘bodhisattassa pitaraṃ khipāpessāmī’’ti attano ānubhāvena sukhumacuṇṇaṃ vissajjesi, cuṇṇo āgantvā tassa nāsapuṭe pāvisi. So phalake nipannakova khipi, bodhisatto na ‘‘jīvā’’ti āha. Yakkho taṃ khādituṃ thūṇāya otarati. Bodhisatto taṃ otarantaṃ disvā ‘‘iminā me pitā khipāpito bhavissati, ayaṃ so khipite ‘jīvā’ti avadantaṃ khādakayakkho bhavissatī’’ti pitaraṃ ārabbha paṭhamaṃ gāthamāha –

    .

    9.

    ‘‘ชีว วสฺสสตํ ภคฺค, อปรานิ จ วีสติํ;

    ‘‘Jīva vassasataṃ bhagga, aparāni ca vīsatiṃ;

    มา มํ ปิสาจา ขาทนฺตุ, ชีว ตฺวํ สรโทสต’’นฺติฯ

    Mā maṃ pisācā khādantu, jīva tvaṃ saradosata’’nti.

    ตตฺถ ภคฺคาติ ปิตรํ นาเมนาลปติฯ อปรานิ จ วีสตินฺติ อปรานิ จ วีสติ วสฺสานิ ชีวฯ มา มํ ปิสาจา ขาทนฺตูติ มํ ปิสาจา มา ขาทนฺตุฯ ชีว ตฺวํ สรโทสตนฺติ ตฺวํ ปน วีสุตฺตรํ วสฺสสตํ ชีวาติฯ สรโทสตญฺหิ คณิยมานํ วสฺสสตเมว โหติ, ตํ ปุริเมหิ วีสาย สทฺธิํ วีสุตฺตรํ อิธ อธิเปฺปตํฯ

    Tattha bhaggāti pitaraṃ nāmenālapati. Aparāni ca vīsatinti aparāni ca vīsati vassāni jīva. Mā maṃ pisācā khādantūti maṃ pisācā mā khādantu. Jīva tvaṃ saradosatanti tvaṃ pana vīsuttaraṃ vassasataṃ jīvāti. Saradosatañhi gaṇiyamānaṃ vassasatameva hoti, taṃ purimehi vīsāya saddhiṃ vīsuttaraṃ idha adhippetaṃ.

    ยโกฺข โพธิสตฺตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘อิมํ ตาว มาณวํ ‘ชีวา’ติ วุตฺตตฺตา ขาทิตุํ น สกฺกา, ปิตรํ ปนสฺส ขาทิสฺสามี’’ติ ปิตุ สนฺติกํ อคมาสิฯ โส ตํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา จิเนฺตสิ – ‘‘อยํ โส ‘ปฎิชีวา’ติ อภณนฺตานํ ขาทกยโกฺข ภวิสฺสติ, ปฎิชีวํ กริสฺสามี’’ติฯ โส ปุตฺตํ อารพฺภ ทุติยํ คาถมาห –

    Yakkho bodhisattassa vacanaṃ sutvā ‘‘imaṃ tāva māṇavaṃ ‘jīvā’ti vuttattā khādituṃ na sakkā, pitaraṃ panassa khādissāmī’’ti pitu santikaṃ agamāsi. So taṃ āgacchantaṃ disvā cintesi – ‘‘ayaṃ so ‘paṭijīvā’ti abhaṇantānaṃ khādakayakkho bhavissati, paṭijīvaṃ karissāmī’’ti. So puttaṃ ārabbha dutiyaṃ gāthamāha –

    ๑๐.

    10.

    ‘‘ตฺวมฺปิ วสฺสสตํ ชีวํ, อปรานิ จ วีสติํ;

    ‘‘Tvampi vassasataṃ jīvaṃ, aparāni ca vīsatiṃ;

    วิสํ ปิสาจา ขาทนฺตุ, ชีว ตฺวํ สรโทสต’’นฺติฯ

    Visaṃ pisācā khādantu, jīva tvaṃ saradosata’’nti.

    ตตฺถ วิสํ ปิสาจา ขาทนฺตูติ ปิสาจา หลาหลวิสํ ขาทนฺตุฯ

    Tattha visaṃ pisācā khādantūti pisācā halāhalavisaṃ khādantu.

    ยโกฺข ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘อุโภปิ เม น สกฺกา ขาทิตุ’’นฺติ ปฎินิวตฺติฯ อถ นํ โพธิสโตฺต ปุจฺฉิ – ‘‘โภ ยกฺข, กสฺมา ตฺวํ อิมํ สาลํ ปวิฎฺฐมนุเสฺส ขาทสี’’ติ? ‘‘ทฺวาทส วสฺสานิ เวสฺสวณํ อุปฎฺฐหิตฺวา ลทฺธตฺตา’’ติฯ ‘‘กิํ ปน สเพฺพว ขาทิตุํ ลภสี’’ติ? ‘‘ชีวปฎิชีวภาณิโน ฐเปตฺวา อวเสเส ขาทามี’’ติฯ ‘‘ยกฺข, ตฺวํ ปุเพฺพปิ อกุสลํ กตฺวา กกฺขโฬ ผรุโส ปรวิหิํสโก หุตฺวา นิพฺพโตฺต, อิทานิปิ ตาทิสํ กมฺมํ กตฺวา ตโม ตมปรายโณ ภวิสฺสติ, ตสฺมา อิโต ปฎฺฐาย ปาณาติปาตาทีหิ วิรมสฺสู’’ติ ตํ ยกฺขํ ทเมตฺวา นิรยภเยน ตเชฺชตฺวา ปญฺจสุ สีเลสุ ปติฎฺฐาเปตฺวา ยกฺขํ เปสนการกํ วิย อกาสิฯ

    Yakkho tassa vacanaṃ sutvā ‘‘ubhopi me na sakkā khāditu’’nti paṭinivatti. Atha naṃ bodhisatto pucchi – ‘‘bho yakkha, kasmā tvaṃ imaṃ sālaṃ paviṭṭhamanusse khādasī’’ti? ‘‘Dvādasa vassāni vessavaṇaṃ upaṭṭhahitvā laddhattā’’ti. ‘‘Kiṃ pana sabbeva khādituṃ labhasī’’ti? ‘‘Jīvapaṭijīvabhāṇino ṭhapetvā avasese khādāmī’’ti. ‘‘Yakkha, tvaṃ pubbepi akusalaṃ katvā kakkhaḷo pharuso paravihiṃsako hutvā nibbatto, idānipi tādisaṃ kammaṃ katvā tamo tamaparāyaṇo bhavissati, tasmā ito paṭṭhāya pāṇātipātādīhi viramassū’’ti taṃ yakkhaṃ dametvā nirayabhayena tajjetvā pañcasu sīlesu patiṭṭhāpetvā yakkhaṃ pesanakārakaṃ viya akāsi.

    ปุนทิวเส สญฺจรนฺตา มนุสฺสา ยกฺขํ ทิสฺวา โพธิสเตฺตน จสฺส ทมิตภาวํ ญตฺวา รโญฺญ อาโรเจสุํ – ‘‘เทว, เอโก มาณโว ตํ ยกฺขํ ทเมตฺวา เปสนการกํ วิย กตฺวา ฐิโต’’ติฯ ราชา โพธิสตฺตํ ปโกฺกสาเปตฺวา เสนาปติฎฺฐาเน ฐเปสิ, ปิตุ จสฺส มหนฺตํ ยสํ อทาสิฯ โส ยกฺขํ พลิปฎิคฺคาหกํ กตฺวา โพธิสตฺตสฺส โอวาเท ฐตฺวา ทานาทีนิ ปุญฺญานิ กตฺวา สคฺคปุรํ ปูเรสิฯ

    Punadivase sañcarantā manussā yakkhaṃ disvā bodhisattena cassa damitabhāvaṃ ñatvā rañño ārocesuṃ – ‘‘deva, eko māṇavo taṃ yakkhaṃ dametvā pesanakārakaṃ viya katvā ṭhito’’ti. Rājā bodhisattaṃ pakkosāpetvā senāpatiṭṭhāne ṭhapesi, pitu cassa mahantaṃ yasaṃ adāsi. So yakkhaṃ balipaṭiggāhakaṃ katvā bodhisattassa ovāde ṭhatvā dānādīni puññāni katvā saggapuraṃ pūresi.

    สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘ชีวปฎิชีวํ นาม ตสฺมิํ กาเล อุปฺปนฺน’’นฺติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ยโกฺข องฺคุลิมาโล อโหสิ, ราชา อานโนฺท, ปิตา กสฺสโป, ปุโตฺต ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ

    Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā ‘‘jīvapaṭijīvaṃ nāma tasmiṃ kāle uppanna’’nti vatvā jātakaṃ samodhānesi – ‘‘tadā yakkho aṅgulimālo ahosi, rājā ānando, pitā kassapo, putto pana ahameva ahosi’’nti.

    ภคฺคชาตกวณฺณนา ปญฺจมาฯ

    Bhaggajātakavaṇṇanā pañcamā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๑๕๕. ภคฺคชาตกํ • 155. Bhaggajātakaṃ


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact