Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อปทานปาฬิ • Apadānapāḷi

    ๕. อุปาลิวโคฺค

    5. Upālivaggo

    ๑. ภาคิเนยฺยุปาลิเตฺถรอปทานํ

    1. Bhāgineyyupālittheraapadānaṃ

    .

    1.

    ‘‘ขีณาสวสหเสฺสหิ , ปริวุโต 1 โลกนายโก;

    ‘‘Khīṇāsavasahassehi , parivuto 2 lokanāyako;

    วิเวกมนุยุโตฺต โส, คจฺฉเต ปฎิสลฺลิตุํฯ

    Vivekamanuyutto so, gacchate paṭisallituṃ.

    .

    2.

    ‘‘อชิเนน นิวโตฺถหํ, ติทณฺฑปริธารโก;

    ‘‘Ajinena nivatthohaṃ, tidaṇḍaparidhārako;

    ภิกฺขุสงฺฆปริพฺยูฬฺหํ, อทฺทสํ โลกนายกํฯ

    Bhikkhusaṅghaparibyūḷhaṃ, addasaṃ lokanāyakaṃ.

    .

    3.

    ‘‘เอกํสํ อชินํ กตฺวา, สิเร กตฺวาน อญฺชลิํ;

    ‘‘Ekaṃsaṃ ajinaṃ katvā, sire katvāna añjaliṃ;

    สมฺพุทฺธํ อภิวาเทตฺวา, สนฺถวิํ โลกนายกํฯ

    Sambuddhaṃ abhivādetvā, santhaviṃ lokanāyakaṃ.

    .

    4.

    ‘‘ยถาณฺฑชา จ สํเสทา, โอปปาตี ชลาพุชา;

    ‘‘Yathāṇḍajā ca saṃsedā, opapātī jalābujā;

    กากาทิปกฺขิโน สเพฺพ, อนฺตลิกฺขจรา สทาฯ

    Kākādipakkhino sabbe, antalikkhacarā sadā.

    .

    5.

    ‘‘เย เกจิ ปาณภูตตฺถิ, สญฺญิโน วา อสญฺญิโน;

    ‘‘Ye keci pāṇabhūtatthi, saññino vā asaññino;

    สเพฺพ เต ตว ญาณมฺหิ, อโนฺต โหนฺติ สโมคธาฯ

    Sabbe te tava ñāṇamhi, anto honti samogadhā.

    .

    6.

    ‘‘คนฺธา จ ปพฺพเตยฺยา เย, หิมวนฺตนคุตฺตเม;

    ‘‘Gandhā ca pabbateyyā ye, himavantanaguttame;

    สเพฺพ เต ตว สีลมฺหิ, กลายปิ น ยุชฺชเรฯ

    Sabbe te tava sīlamhi, kalāyapi na yujjare.

    .

    7.

    ‘‘โมหนฺธการปกฺขโนฺท, อยํ โลโก สเทวโก;

    ‘‘Mohandhakārapakkhando, ayaṃ loko sadevako;

    ตว ญาณมฺหิ โชตเนฺต, อนฺธการา วิธํสิตาฯ

    Tava ñāṇamhi jotante, andhakārā vidhaṃsitā.

    .

    8.

    ‘‘ยถา อตฺถงฺคเต สูริเย, โหนฺติ สตฺตา ตโมคตา;

    ‘‘Yathā atthaṅgate sūriye, honti sattā tamogatā;

    เอวํ พุเทฺธ อนุปฺปเนฺน, โหติ โลโก ตโมคโตฯ

    Evaṃ buddhe anuppanne, hoti loko tamogato.

    .

    9.

    ‘‘ยโถทยโนฺต อาทิโจฺจ, วิโนเทติ ตมํ สทา;

    ‘‘Yathodayanto ādicco, vinodeti tamaṃ sadā;

    ตเถว ตฺวํ พุทฺธเสฎฺฐ, วิทฺธํเสสิ ตมํ สทาฯ

    Tatheva tvaṃ buddhaseṭṭha, viddhaṃsesi tamaṃ sadā.

    ๑๐.

    10.

    ‘‘ปธานปหิตโตฺตสิ , พุโทฺธ โลเก สเทวเก;

    ‘‘Padhānapahitattosi , buddho loke sadevake;

    ตว กมฺมาภิรเทฺธน, โตเสสิ ชนตํ พหุํฯ

    Tava kammābhiraddhena, tosesi janataṃ bahuṃ.

    ๑๑.

    11.

    ‘‘ตํ สพฺพํ อนุโมทิตฺวา, ปทุมุตฺตโร มหามุนิ;

    ‘‘Taṃ sabbaṃ anumoditvā, padumuttaro mahāmuni;

    นภํ อพฺภุคฺคมี ธีโร, หํสราชาว อมฺพเรฯ

    Nabhaṃ abbhuggamī dhīro, haṃsarājāva ambare.

    ๑๒.

    12.

    ‘‘อพฺภุคฺคนฺตฺวาน สมฺพุโทฺธ, มเหสิ ปทุมุตฺตโร;

    ‘‘Abbhuggantvāna sambuddho, mahesi padumuttaro;

    อนฺตลิเกฺข ฐิโต สตฺถา, อิมา คาถา อภาสถฯ

    Antalikkhe ṭhito satthā, imā gāthā abhāsatha.

    ๑๓.

    13.

    ‘‘เยนิทํ ถวิตํ ญาณํ, โอปเมฺมหิ สมายุตํ;

    ‘‘Yenidaṃ thavitaṃ ñāṇaṃ, opammehi samāyutaṃ;

    ตมหํ กิตฺตยิสฺสามิ, สุณาถ มม ภาสโตฯ

    Tamahaṃ kittayissāmi, suṇātha mama bhāsato.

    ๑๔.

    14.

    ‘‘‘อฎฺฐารสญฺจ ขตฺตุํ โส, เทวราชา ภวิสฺสติ;

    ‘‘‘Aṭṭhārasañca khattuṃ so, devarājā bhavissati;

    ปถพฺยา รชฺชํ ติสตํ, วสุธํ อาวสิสฺสติฯ

    Pathabyā rajjaṃ tisataṃ, vasudhaṃ āvasissati.

    ๑๕.

    15.

    ‘‘‘ปญฺจวีสติกฺขตฺตุญฺจ, จกฺกวตฺตี ภวิสฺสติ;

    ‘‘‘Pañcavīsatikkhattuñca, cakkavattī bhavissati;

    ปเทสรชฺชํ วิปุลํ, คณนาโต อสงฺขิยํฯ

    Padesarajjaṃ vipulaṃ, gaṇanāto asaṅkhiyaṃ.

    ๑๖.

    16.

    ‘‘‘กปฺปสตสหสฺสมฺหิ, โอกฺกากกุลสมฺภโว;

    ‘‘‘Kappasatasahassamhi, okkākakulasambhavo;

    โคตโม นาม โคเตฺตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติฯ

    Gotamo nāma gottena, satthā loke bhavissati.

    ๑๗.

    17.

    ‘‘‘ตุสิตา หิ จวิตฺวาน, สุกฺกมูเลน โจทิโต;

    ‘‘‘Tusitā hi cavitvāna, sukkamūlena codito;

    หีโนว ชาติยา สโนฺต, อุปาลิ นาม เหสฺสติฯ

    Hīnova jātiyā santo, upāli nāma hessati.

    ๑๘.

    18.

    ‘‘‘โส ปจฺฉา ปพฺพชิตฺวาน, วิราเชตฺวาน ปาปกํ;

    ‘‘‘So pacchā pabbajitvāna, virājetvāna pāpakaṃ;

    สพฺพาสเว ปริญฺญาย, นิพฺพายิสฺสตินาสโวฯ

    Sabbāsave pariññāya, nibbāyissatināsavo.

    ๑๙.

    19.

    ‘‘‘ตุโฎฺฐ จ โคตโม พุโทฺธ, สกฺยปุโตฺต มหายโส;

    ‘‘‘Tuṭṭho ca gotamo buddho, sakyaputto mahāyaso;

    วินยาธิคตํ ตสฺส, เอตทเคฺค ฐเปสฺสติ’ฯ

    Vinayādhigataṃ tassa, etadagge ṭhapessati’.

    ๒๐.

    20.

    ‘‘สทฺธายาหํ ปพฺพชิโต, กตกิโจฺจ อนาสโว;

    ‘‘Saddhāyāhaṃ pabbajito, katakicco anāsavo;

    สพฺพาสเว ปริญฺญาย, วิหรามิ อนาสโวฯ

    Sabbāsave pariññāya, viharāmi anāsavo.

    ๒๑.

    21.

    ‘‘ภควา จานุกมฺปี มํ, วินเยหํ วิสารโท;

    ‘‘Bhagavā cānukampī maṃ, vinayehaṃ visārado;

    สกกมฺมาภิรโทฺธ จ, วิหรามิ อนาสโวฯ

    Sakakammābhiraddho ca, viharāmi anāsavo.

    ๒๒.

    22.

    ‘‘สํวุโต ปาติโมกฺขมฺหิ, อินฺทฺริเยสุ จ ปญฺจสุ;

    ‘‘Saṃvuto pātimokkhamhi, indriyesu ca pañcasu;

    ธาเรมิ วินยํ สพฺพํ, เกวลํ รตนากรํ 3

    Dhāremi vinayaṃ sabbaṃ, kevalaṃ ratanākaraṃ 4.

    ๒๓.

    23.

    ‘‘มมญฺจ คุณมญฺญาย, สตฺถา โลเก อนุตฺตโร;

    ‘‘Mamañca guṇamaññāya, satthā loke anuttaro;

    ภิกฺขุสเงฺฆ นิสีทิตฺวา, เอตทเคฺค ฐเปสิ มํฯ

    Bhikkhusaṅghe nisīditvā, etadagge ṭhapesi maṃ.

    ๒๔.

    24.

    ‘‘ปฎิสมฺภิทา จตโสฺส, วิโมกฺขาปิ จ อฎฺฐิเม;

    ‘‘Paṭisambhidā catasso, vimokkhāpi ca aṭṭhime;

    ฉฬภิญฺญา สจฺฉิกตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’ฯ

    Chaḷabhiññā sacchikatā, kataṃ buddhassa sāsanaṃ’’.

    อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา อุปาลิเถโร อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติฯ

    Itthaṃ sudaṃ āyasmā upālithero imā gāthāyo abhāsitthāti.

    ภาคิเนยฺยุปาลิเตฺถรสฺสาปทานํ ปฐมํฯ

    Bhāgineyyupālittherassāpadānaṃ paṭhamaṃ.







    Footnotes:
    1. ปเรโต (ก. อฎฺฐ)
    2. pareto (ka. aṭṭha)
    3. รตนคฺฆรํ (ก.)
    4. ratanaggharaṃ (ka.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / อปทาน-อฎฺฐกถา • Apadāna-aṭṭhakathā / ๑. ภาคิเนยฺยุปาลิเตฺถรอปทานวณฺณนา • 1. Bhāgineyyupālittheraapadānavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact