Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi

    ๑๔๔. ภณฺฑนการกวตฺถุ

    144. Bhaṇḍanakārakavatthu

    ๒๔๐. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา สนฺทิฎฺฐา สมฺภตฺตา ภิกฺขู โกสเลสุ ชนปเท อญฺญตรสฺมิํ อาวาเส วสฺสํ อุปคจฺฉิํสุฯ เตสํ สามนฺตา อเญฺญ ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สเงฺฆ อธิกรณการกา วสฺสํ อุปคจฺฉิํสุ – มยํ เตสํ ภิกฺขูนํ วสฺสํวุฎฺฐานํ ปวารณาย ปวารณํ ฐเปสฺสามาติฯ อโสฺสสุํ โข เต ภิกฺขู – ‘‘อมฺหากํ กิร สามนฺตา อเญฺญ ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สเงฺฆ อธิกรณการกา วสฺสํ อุปคตา – มยํ เตสํ ภิกฺขูนํ วสฺสํวุฎฺฐานํ ปวารณาย ปวารณํ ฐเปสฺสามา’’ติฯ กถํ นุ โข อเมฺหหิ ปฎิปชฺชิตพฺพนฺติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ

    240. Tena kho pana samayena sambahulā sandiṭṭhā sambhattā bhikkhū kosalesu janapade aññatarasmiṃ āvāse vassaṃ upagacchiṃsu. Tesaṃ sāmantā aññe bhikkhū bhaṇḍanakārakā kalahakārakā vivādakārakā bhassakārakā saṅghe adhikaraṇakārakā vassaṃ upagacchiṃsu – mayaṃ tesaṃ bhikkhūnaṃ vassaṃvuṭṭhānaṃ pavāraṇāya pavāraṇaṃ ṭhapessāmāti. Assosuṃ kho te bhikkhū – ‘‘amhākaṃ kira sāmantā aññe bhikkhū bhaṇḍanakārakā kalahakārakā vivādakārakā bhassakārakā saṅghe adhikaraṇakārakā vassaṃ upagatā – mayaṃ tesaṃ bhikkhūnaṃ vassaṃvuṭṭhānaṃ pavāraṇāya pavāraṇaṃ ṭhapessāmā’’ti. Kathaṃ nu kho amhehi paṭipajjitabbanti? Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ.

    อิธ ปน, ภิกฺขเว, สมฺพหุลา สนฺทิฎฺฐา สมฺภตฺตา ภิกฺขู อญฺญตรสฺมิํ อาวาเส วสฺสํ อุปคจฺฉนฺติฯ เตสํ สามนฺตา อเญฺญ ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สเงฺฆ อธิกรณการกา วสฺสํ อุปคจฺฉนฺติ – มยํ เตสํ ภิกฺขูนํ วสฺสํวุฎฺฐานํ ปวารณาย ปวารณํ ฐเปสฺสามาติฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เตหิ ภิกฺขูหิ เทฺว ตโย อุโปสเถ จาตุทฺทสิเก กาตุํ – กถํ มยํ เตหิ ภิกฺขูหิ ปฐมตรํ ปวาเรยฺยามาติฯ เต เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สเงฺฆ อธิกรณการกา ตํ อาวาสํ อาคจฺฉนฺติ, เตหิ, ภิกฺขเว, อาวาสิเกหิ ภิกฺขูหิ ลหุํ ลหุํ สนฺนิปติตฺวา ปวาเรตพฺพํ, ปวาเรตฺวา วตฺตพฺพา – ‘‘ปวาริตา โข มยํ, อาวุโส; ยถายสฺมนฺตา มญฺญนฺติ ตถา กโรนฺตู’’ติฯ เต เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สเงฺฆ อธิกรณการกา อสํวิหิตา ตํ อาวาสํ อาคจฺฉนฺติ, เตหิ, ภิกฺขเว, อาวาสิเกหิ ภิกฺขูหิ อาสนํ ปญฺญเปตพฺพํ, ปาโททกํ ปาทปีฐํ ปาทกถลิกํ อุปนิกฺขิปิตพฺพํ, ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ปตฺตจีวรํ ปฎิคฺคเหตพฺพํ, ปานีเยน ปริปุจฺฉิตพฺพา; เตสํ วิกฺขิตฺวา 1 นิสฺสีมํ คนฺตฺวา ปวาเรตพฺพํ, ปวาเรตฺวา วตฺตพฺพา – ‘‘ปวาริตา โข มยํ, อาวุโส; ยถายสฺมนฺตา มญฺญนฺติ ตถา กโรนฺตู’’ติฯ เอวเญฺจตํ ลเภถ, อิเจฺจตํ กุสลํฯ โน เจ ลเภถ, อาวาสิเกน ภิกฺขุนา พฺยเตฺตน ปฎิพเลน อาวาสิกา ภิกฺขู ญาเปตพฺพา –

    Idha pana, bhikkhave, sambahulā sandiṭṭhā sambhattā bhikkhū aññatarasmiṃ āvāse vassaṃ upagacchanti. Tesaṃ sāmantā aññe bhikkhū bhaṇḍanakārakā kalahakārakā vivādakārakā bhassakārakā saṅghe adhikaraṇakārakā vassaṃ upagacchanti – mayaṃ tesaṃ bhikkhūnaṃ vassaṃvuṭṭhānaṃ pavāraṇāya pavāraṇaṃ ṭhapessāmāti. Anujānāmi, bhikkhave, tehi bhikkhūhi dve tayo uposathe cātuddasike kātuṃ – kathaṃ mayaṃ tehi bhikkhūhi paṭhamataraṃ pavāreyyāmāti. Te ce, bhikkhave, bhikkhū bhaṇḍanakārakā kalahakārakā vivādakārakā bhassakārakā saṅghe adhikaraṇakārakā taṃ āvāsaṃ āgacchanti, tehi, bhikkhave, āvāsikehi bhikkhūhi lahuṃ lahuṃ sannipatitvā pavāretabbaṃ, pavāretvā vattabbā – ‘‘pavāritā kho mayaṃ, āvuso; yathāyasmantā maññanti tathā karontū’’ti. Te ce, bhikkhave, bhikkhū bhaṇḍanakārakā kalahakārakā vivādakārakā bhassakārakā saṅghe adhikaraṇakārakā asaṃvihitā taṃ āvāsaṃ āgacchanti, tehi, bhikkhave, āvāsikehi bhikkhūhi āsanaṃ paññapetabbaṃ, pādodakaṃ pādapīṭhaṃ pādakathalikaṃ upanikkhipitabbaṃ, paccuggantvā pattacīvaraṃ paṭiggahetabbaṃ, pānīyena paripucchitabbā; tesaṃ vikkhitvā 2 nissīmaṃ gantvā pavāretabbaṃ, pavāretvā vattabbā – ‘‘pavāritā kho mayaṃ, āvuso; yathāyasmantā maññanti tathā karontū’’ti. Evañcetaṃ labhetha, iccetaṃ kusalaṃ. No ce labhetha, āvāsikena bhikkhunā byattena paṭibalena āvāsikā bhikkhū ñāpetabbā –

    ‘‘สุณนฺตุ เม, อายสฺมโนฺต 3, อาวาสิกาฯ ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อิทานิ อุโปสถํ กเรยฺยาม, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิเสยฺยาม , อาคเม กาเฬ ปวาเรยฺยามา’’ติฯ เต เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สเงฺฆ อธิกรณการกา เต ภิกฺขู เอวํ วเทยฺยุํ – ‘‘สาธาวุโส, อิทาเนว โน ปวาเรถา’’ติ, เต เอวมสฺสุ วจนียา – ‘‘อนิสฺสรา โข ตุเมฺห, อาวุโส, อมฺหากํ ปวารณาย; น ตาว มยํ ปวาเรยฺยามา’’ติฯ เต เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สเงฺฆ อธิกรณการกา ตํ กาฬํ อนุวเสยฺยุํ, อาวาสิเกน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา พฺยเตฺตน ปฎิพเลน อาวาสิกา ภิกฺขู ญาเปตพฺพา –

    ‘‘Suṇantu me, āyasmanto 4, āvāsikā. Yadāyasmantānaṃ pattakallaṃ, idāni uposathaṃ kareyyāma, pātimokkhaṃ uddiseyyāma , āgame kāḷe pavāreyyāmā’’ti. Te ce, bhikkhave, bhikkhū bhaṇḍanakārakā kalahakārakā vivādakārakā bhassakārakā saṅghe adhikaraṇakārakā te bhikkhū evaṃ vadeyyuṃ – ‘‘sādhāvuso, idāneva no pavārethā’’ti, te evamassu vacanīyā – ‘‘anissarā kho tumhe, āvuso, amhākaṃ pavāraṇāya; na tāva mayaṃ pavāreyyāmā’’ti. Te ce, bhikkhave, bhikkhū bhaṇḍanakārakā kalahakārakā vivādakārakā bhassakārakā saṅghe adhikaraṇakārakā taṃ kāḷaṃ anuvaseyyuṃ, āvāsikena, bhikkhave, bhikkhunā byattena paṭibalena āvāsikā bhikkhū ñāpetabbā –

    ‘‘สุณนฺตุ เม, อายสฺมโนฺต, อาวาสิกาฯ ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อิทานิ อุโปสถํ กเรยฺยาม, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิเสยฺยาม, อาคเม ชุเณฺห ปวาเรยฺยามา’’ติฯ เต เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สเงฺฆ อธิกรณการกา เต ภิกฺขู เอวํ วเทยฺยุํ – ‘‘สาธาวุโส, อิทาเนว โน ปวาเรยฺยาถา’’ติ, เต เอวมสฺสุ วจนียา – ‘‘อนิสฺสรา โข ตุเมฺห, อาวุโส, อมฺหากํ ปวารณาย, น ตาว มยํ ปวาเรยฺยามา’’ติฯ เต เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สเงฺฆ อธิกรณการกา ตมฺปิ ชุณฺหํ อนุวเสยฺยุํ, เตหิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูหิ สเพฺพเหว อาคเม ชุเณฺห โกมุทิยา จาตุมาสินิยา อกามา ปวาเรตพฺพํฯ

    ‘‘Suṇantu me, āyasmanto, āvāsikā. Yadāyasmantānaṃ pattakallaṃ, idāni uposathaṃ kareyyāma, pātimokkhaṃ uddiseyyāma, āgame juṇhe pavāreyyāmā’’ti. Te ce, bhikkhave, bhikkhū bhaṇḍanakārakā kalahakārakā vivādakārakā bhassakārakā saṅghe adhikaraṇakārakā te bhikkhū evaṃ vadeyyuṃ – ‘‘sādhāvuso, idāneva no pavāreyyāthā’’ti, te evamassu vacanīyā – ‘‘anissarā kho tumhe, āvuso, amhākaṃ pavāraṇāya, na tāva mayaṃ pavāreyyāmā’’ti. Te ce, bhikkhave, bhikkhū bhaṇḍanakārakā kalahakārakā vivādakārakā bhassakārakā saṅghe adhikaraṇakārakā tampi juṇhaṃ anuvaseyyuṃ, tehi, bhikkhave, bhikkhūhi sabbeheva āgame juṇhe komudiyā cātumāsiniyā akāmā pavāretabbaṃ.

    เตหิ เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูหิ ปวาริยมาเน คิลาโน อคิลานสฺส ปวารณํ ฐเปติ, โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘‘อายสฺมา โข คิลาโนฯ คิลาโน จ อนนุโยคกฺขโม วุโตฺต ภควตาฯ อาคเมหิ, อาวุโส, ยาว อโรโค โหสิฯ อโรโค อากงฺขมาโน โจเทสฺสสี’’ติฯ เอวเญฺจ วุจฺจมาโน โจเทติ, อนาทริเย ปาจิตฺติยํฯ เตหิ เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูหิ ปวาริยมาเน อคิลาโน คิลานสฺส ปวารณํ ฐเปติ, โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘‘อยํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ คิลาโนฯ คิลาโน จ อนนุโยคกฺขโม วุโตฺต ภควตาฯ อาคเมหิ, อาวุโส, ยาวายํ ภิกฺขุ อโรโค โหติฯ อโรคํ อากงฺขมาโน โจเทสฺสสี’’ติฯ เอวเญฺจ วุจฺจมาโน โจเทติ, อนาทริเย ปาจิตฺติยํฯ เตหิ เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูหิ ปวาริยมาเน คิลาโน คิลานสฺส ปวารณํ ฐเปติ, โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘‘อายสฺมนฺตา โข คิลานาฯ คิลาโน จ อนนุโยคกฺขโม วุโตฺต ภควตาฯ อาคเมหิ, อาวุโส, ยาว อโรคา โหถฯ อโรโค อโรคํ อากงฺขมาโน โจเทสฺสสี’’ติ 5ฯ เอวเญฺจ วุจฺจมาโน โจเทติ, อนาทริเย ปาจิตฺติยํฯ เตหิ เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูหิ ปวาริยมาเน อคิลาโน อคิลานสฺส ปวารณํ ฐเปติ, อุโภ สเงฺฆน สมนุยุญฺชิตฺวา สมนุคาหิตฺวา 6 ยถาธมฺมํ การาเปตฺวา สเงฺฆน ปวาเรตพฺพนฺติฯ

    Tehi ce, bhikkhave, bhikkhūhi pavāriyamāne gilāno agilānassa pavāraṇaṃ ṭhapeti, so evamassa vacanīyo – ‘‘āyasmā kho gilāno. Gilāno ca ananuyogakkhamo vutto bhagavatā. Āgamehi, āvuso, yāva arogo hosi. Arogo ākaṅkhamāno codessasī’’ti. Evañce vuccamāno codeti, anādariye pācittiyaṃ. Tehi ce, bhikkhave, bhikkhūhi pavāriyamāne agilāno gilānassa pavāraṇaṃ ṭhapeti, so evamassa vacanīyo – ‘‘ayaṃ kho, āvuso, bhikkhu gilāno. Gilāno ca ananuyogakkhamo vutto bhagavatā. Āgamehi, āvuso, yāvāyaṃ bhikkhu arogo hoti. Arogaṃ ākaṅkhamāno codessasī’’ti. Evañce vuccamāno codeti, anādariye pācittiyaṃ. Tehi ce, bhikkhave, bhikkhūhi pavāriyamāne gilāno gilānassa pavāraṇaṃ ṭhapeti, so evamassa vacanīyo – ‘‘āyasmantā kho gilānā. Gilāno ca ananuyogakkhamo vutto bhagavatā. Āgamehi, āvuso, yāva arogā hotha. Arogo arogaṃ ākaṅkhamāno codessasī’’ti 7. Evañce vuccamāno codeti, anādariye pācittiyaṃ. Tehi ce, bhikkhave, bhikkhūhi pavāriyamāne agilāno agilānassa pavāraṇaṃ ṭhapeti, ubho saṅghena samanuyuñjitvā samanugāhitvā 8 yathādhammaṃ kārāpetvā saṅghena pavāretabbanti.

    ภณฺฑนการกวตฺถุ นิฎฺฐิตํฯ

    Bhaṇḍanakārakavatthu niṭṭhitaṃ.







    Footnotes:
    1. วิกฺขิปาเปตฺวา (ปฎิวิโสธกานํ มติ), อาจิกฺขิตฺวา (ก.)
    2. vikkhipāpetvā (paṭivisodhakānaṃ mati), ācikkhitvā (ka.)
    3. อายสฺมนฺตา (ก.)
    4. āyasmantā (ka.)
    5. ยาว อโรโค โหติ, อโรคํ อากงฺขมาโน โจเทสฺสสีติ (ก.)
    6. สมนุภาสิตฺวา (สี.)
    7. yāva arogo hoti, arogaṃ ākaṅkhamāno codessasīti (ka.)
    8. samanubhāsitvā (sī.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā / ภณฺฑนการกวตฺถุกถา • Bhaṇḍanakārakavatthukathā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ภณฺฑนการกวตฺถุกถาวณฺณนา • Bhaṇḍanakārakavatthukathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ภณฺฑนการกวตฺถุกถาวณฺณนา • Bhaṇḍanakārakavatthukathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๑๔๔. ภณฺฑนการกวตฺถุกถา • 144. Bhaṇḍanakārakavatthukathā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact