Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya

    ๔. ภารทฺวาชสุตฺตํ

    4. Bhāradvājasuttaṃ

    ๑๒๗. เอกํ สมยํ อายสฺมา ปิโณฺฑลภารทฺวาโช โกสมฺพิยํ วิหรติ โฆสิตาราเมฯ อถ โข ราชา อุเทโน เยนายสฺมา ปิโณฺฑลภารทฺวาโช เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา ปิโณฺฑลภารทฺวาเชน สทฺธิํ สโมฺมทิฯ สโมฺมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข ราชา อุเทโน อายสฺมนฺตํ ปิโณฺฑลภารทฺวาชํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, โภ ภารทฺวาช, เหตุ โก ปจฺจโย เยนิเม ทหรา ภิกฺขู สุสู 1 กาฬเกสา ภเทฺรน โยพฺพเนน สมนฺนาคตา ปฐเมน วยสา อนิกีฬิตาวิโน กาเมสุ ยาวชีวํ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อทฺธานญฺจ อาปาเทนฺตี’’ติ? ‘‘วุตฺตํ โข เอตํ, มหาราช, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุเทฺธน – ‘เอถ ตุเมฺห, ภิกฺขเว, มาตุมตฺตีสุ มาตุจิตฺตํ อุปฎฺฐเปถ, ภคินิมตฺตีสุ ภคินิจิตฺตํ อุปฎฺฐเปถ, ธีตุมตฺตีสุ ธีตุจิตฺตํ อุปฎฺฐเปถา’ติฯ อยํ โข, มหาราช, เหตุ, อยํ ปจฺจโย เยนิเม ทหรา ภิกฺขู สุสู กาฬเกสา ภเทฺรน โยพฺพเนน สมนฺนาคตา ปฐเมน วยสา อนิกีฬิตาวิโน กาเมสุ ยาวชีวํ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อทฺธานญฺจ อาปาเทนฺตี’’ติฯ

    127. Ekaṃ samayaṃ āyasmā piṇḍolabhāradvājo kosambiyaṃ viharati ghositārāme. Atha kho rājā udeno yenāyasmā piṇḍolabhāradvājo tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā āyasmatā piṇḍolabhāradvājena saddhiṃ sammodi. Sammodanīyaṃ kathaṃ sāraṇīyaṃ vītisāretvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho rājā udeno āyasmantaṃ piṇḍolabhāradvājaṃ etadavoca – ‘‘ko nu kho, bho bhāradvāja, hetu ko paccayo yenime daharā bhikkhū susū 2 kāḷakesā bhadrena yobbanena samannāgatā paṭhamena vayasā anikīḷitāvino kāmesu yāvajīvaṃ paripuṇṇaṃ parisuddhaṃ brahmacariyaṃ caranti, addhānañca āpādentī’’ti? ‘‘Vuttaṃ kho etaṃ, mahārāja, tena bhagavatā jānatā passatā arahatā sammāsambuddhena – ‘etha tumhe, bhikkhave, mātumattīsu mātucittaṃ upaṭṭhapetha, bhaginimattīsu bhaginicittaṃ upaṭṭhapetha, dhītumattīsu dhītucittaṃ upaṭṭhapethā’ti. Ayaṃ kho, mahārāja, hetu, ayaṃ paccayo yenime daharā bhikkhū susū kāḷakesā bhadrena yobbanena samannāgatā paṭhamena vayasā anikīḷitāvino kāmesu yāvajīvaṃ paripuṇṇaṃ parisuddhaṃ brahmacariyaṃ caranti, addhānañca āpādentī’’ti.

    ‘‘โลลํ 3 โข, โภ ภารทฺวาช, จิตฺตํฯ อเปฺปกทา มาตุมตฺตีสุปิ โลภธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ, ภคินิมตฺตีสุปิ โลภธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ, ธีตุมตฺตีสุปิ โลภธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติฯ อตฺถิ นุ โข, โภ ภารทฺวาช, อโญฺญ จ เหตุ, อโญฺญ จ ปจฺจโย เยนิเม ทหรา ภิกฺขู สุสู กาฬเกสา…เป.… อทฺธานญฺจ อาปาเทนฺตี’’ติ?

    ‘‘Lolaṃ 4 kho, bho bhāradvāja, cittaṃ. Appekadā mātumattīsupi lobhadhammā uppajjanti, bhaginimattīsupi lobhadhammā uppajjanti, dhītumattīsupi lobhadhammā uppajjanti. Atthi nu kho, bho bhāradvāja, añño ca hetu, añño ca paccayo yenime daharā bhikkhū susū kāḷakesā…pe… addhānañca āpādentī’’ti?

    ‘‘วุตฺตํ โข เอตํ, มหาราช, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุเทฺธน – ‘เอถ ตุเมฺห, ภิกฺขเว, อิมเมว กายํ อุทฺธํ ปาทตลา อโธ เกสมตฺถกา ตจปริยนฺตํ ปูรํ นานปฺปการสฺส อสุจิโน ปจฺจเวกฺขถ – อตฺถิ อิมสฺมิํ กาเย เกสา โลมา นขา ทนฺตา ตโจ มํสํ นฺหารุ 5 อฎฺฐิ อฎฺฐิมิญฺชํ 6 วกฺกํ หทยํ ยกนํ กิโลมกํ ปิหกํ ปปฺผาสํ อนฺตํ อนฺตคุณํ อุทริยํ กรีสํ ปิตฺตํ เสมฺหํ ปุโพฺพ โลหิตํ เสโท เมโท อสฺสุ วสา เขโฬ สิงฺฆาณิกา ลสิกา มุตฺต’นฺติฯ อยมฺปิ โข, มหาราช, เหตุ, อยํ ปจฺจโย เยนิเม ทหรา ภิกฺขู สุสู กาฬเกสา…เป.… อทฺธานญฺจ อาปาเทนฺตี’’ติฯ ‘‘เย เต, โภ ภารทฺวาช, ภิกฺขู ภาวิตกายา ภาวิตสีลา ภาวิตจิตฺตา ภาวิตปญฺญา, เตสํ ตํ สุกรํ โหติฯ เย จ โข เต , โภ ภารทฺวาช, ภิกฺขู อภาวิตกายา อภาวิตสีลา อภาวิตจิตฺตา อภาวิตปญฺญา, เตสํ ตํ ทุกฺกรํ โหติฯ อเปฺปกทา, โภ ภารทฺวาช, อสุภโต มนสิ กริสฺสามีติ 7 สุภโตว 8 อาคจฺฉติฯ อตฺถิ นุ โข, โภ ภารทฺวาช , อโญฺญ จ โข เหตุ อโญฺญ จ ปจฺจโย เยนิเม ทหรา ภิกฺขู สุสู กาฬเกสา…เป.… อทฺธานญฺจ อาปาเทนฺตี’’ติ?

    ‘‘Vuttaṃ kho etaṃ, mahārāja, tena bhagavatā jānatā passatā arahatā sammāsambuddhena – ‘etha tumhe, bhikkhave, imameva kāyaṃ uddhaṃ pādatalā adho kesamatthakā tacapariyantaṃ pūraṃ nānappakārassa asucino paccavekkhatha – atthi imasmiṃ kāye kesā lomā nakhā dantā taco maṃsaṃ nhāru 9 aṭṭhi aṭṭhimiñjaṃ 10 vakkaṃ hadayaṃ yakanaṃ kilomakaṃ pihakaṃ papphāsaṃ antaṃ antaguṇaṃ udariyaṃ karīsaṃ pittaṃ semhaṃ pubbo lohitaṃ sedo medo assu vasā kheḷo siṅghāṇikā lasikā mutta’nti. Ayampi kho, mahārāja, hetu, ayaṃ paccayo yenime daharā bhikkhū susū kāḷakesā…pe… addhānañca āpādentī’’ti. ‘‘Ye te, bho bhāradvāja, bhikkhū bhāvitakāyā bhāvitasīlā bhāvitacittā bhāvitapaññā, tesaṃ taṃ sukaraṃ hoti. Ye ca kho te , bho bhāradvāja, bhikkhū abhāvitakāyā abhāvitasīlā abhāvitacittā abhāvitapaññā, tesaṃ taṃ dukkaraṃ hoti. Appekadā, bho bhāradvāja, asubhato manasi karissāmīti 11 subhatova 12 āgacchati. Atthi nu kho, bho bhāradvāja , añño ca kho hetu añño ca paccayo yenime daharā bhikkhū susū kāḷakesā…pe… addhānañca āpādentī’’ti?

    ‘‘วุตฺตํ โข เอตํ, มหาราช, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุเทฺธน – ‘เอถ ตุเมฺห, ภิกฺขเว, อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารา วิหรถฯ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา มา นิมิตฺตคฺคาหิโน อหุวตฺถ, มานุพฺยญฺชนคฺคาหิโนฯ ยตฺวาธิกรณเมนํ จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย ปฎิปชฺชถฯ รกฺขถ จกฺขุนฺทฺริยํ; จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชถฯ โสเตน สทฺทํ สุตฺวา…เป.… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฎฺฐพฺพํ ผุสิตฺวา… มนสา ธมฺมํ วิญฺญาย มา นิมิตฺตคฺคาหิโน อหุวตฺถ, มานุพฺยญฺชนคฺคาหิโนฯ ยตฺวาธิกรณเมนํ มนินฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย ปฎิปชฺชถ ฯ รกฺขถ มนินฺทฺริยํ; มนินฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชถา’ติฯ อยมฺปิ โข, มหาราช, เหตุ อยํ ปจฺจโย เยนิเม ทหรา ภิกฺขู สุสู กาฬเกสา ภเทฺรน โยพฺพเนน สมนฺนาคตา ปฐเมน วยสา อนิกีฬิตาวิโน กาเมสุ ยาวชีวํ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อทฺธานญฺจ อาปาเทนฺตี’’ติฯ

    ‘‘Vuttaṃ kho etaṃ, mahārāja, tena bhagavatā jānatā passatā arahatā sammāsambuddhena – ‘etha tumhe, bhikkhave, indriyesu guttadvārā viharatha. Cakkhunā rūpaṃ disvā mā nimittaggāhino ahuvattha, mānubyañjanaggāhino. Yatvādhikaraṇamenaṃ cakkhundriyaṃ asaṃvutaṃ viharantaṃ abhijjhādomanassā pāpakā akusalā dhammā anvāssaveyyuṃ, tassa saṃvarāya paṭipajjatha. Rakkhatha cakkhundriyaṃ; cakkhundriye saṃvaraṃ āpajjatha. Sotena saddaṃ sutvā…pe… ghānena gandhaṃ ghāyitvā… jivhāya rasaṃ sāyitvā… kāyena phoṭṭhabbaṃ phusitvā… manasā dhammaṃ viññāya mā nimittaggāhino ahuvattha, mānubyañjanaggāhino. Yatvādhikaraṇamenaṃ manindriyaṃ asaṃvutaṃ viharantaṃ abhijjhādomanassā pāpakā akusalā dhammā anvāssaveyyuṃ, tassa saṃvarāya paṭipajjatha . Rakkhatha manindriyaṃ; manindriye saṃvaraṃ āpajjathā’ti. Ayampi kho, mahārāja, hetu ayaṃ paccayo yenime daharā bhikkhū susū kāḷakesā bhadrena yobbanena samannāgatā paṭhamena vayasā anikīḷitāvino kāmesu yāvajīvaṃ paripuṇṇaṃ parisuddhaṃ brahmacariyaṃ caranti, addhānañca āpādentī’’ti.

    ‘‘อจฺฉริยํ, โภ ภารทฺวาช; อพฺภุตํ, โภ ภารทฺวาช! ยาว สุภาสิตํ จิทํ 13, โภ ภารทฺวาช, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุเทฺธนฯ เอโสว โข, โภ ภารทฺวาช, เหตุ, เอส ปจฺจโย เยนิเม ทหรา ภิกฺขู สุสู กาฬเกสา ภเทฺรน โยพฺพเนน สมนฺนาคตา ปฐเมน วยสา อนิกีฬิตาวิโน กาเมสุ ยาวชีวํ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อทฺธานญฺจ อาปาเทนฺตีติฯ อหมฺปิ โข, โภ 14 ภารทฺวาช, ยสฺมิํ สมเย อรกฺขิเตเนว กาเยน, อรกฺขิตาย วาจาย, อรกฺขิเตน จิเตฺตน, อนุปฎฺฐิตาย สติยา, อสํวุเตหิ อินฺทฺริเยหิ อเนฺตปุรํ ปวิสามิ, อติวิย มํ ตสฺมิํ สมเย โลภธมฺมา ปริสหนฺติฯ ยสฺมิญฺจ ขฺวาหํ, โภ ภารทฺวาช, สมเย รกฺขิเตเนว กาเยน, รกฺขิตาย วาจาย, รกฺขิเตน จิเตฺตน, อุปฎฺฐิตาย สติยา , สํวุเตหิ อินฺทฺริเยหิ อเนฺตปุรํ ปวิสามิ, น มํ ตถา ตสฺมิํ สมเย โลภธมฺมา ปริสหนฺติฯ อภิกฺกนฺตํ, โภ ภารทฺวาช; อภิกฺกนฺตํ, โภ ภารทฺวาช! เสยฺยถาปิ , โภ ภารทฺวาช, นิกฺกุชฺชิตํ 15 วา อุกฺกุเชฺชยฺย , ปฎิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิเกฺขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปโชฺชตํ ธาเรยฺย, จกฺขุมโนฺต รูปานิ ทกฺขนฺตีติ; เอวเมวํ โภตา ภารทฺวาเชน อเนกปริยาเยน ธโมฺม ปกาสิโตฯ เอสาหํ, โภ ภารทฺวาช, ตํ ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ, ธมฺมญฺจ, ภิกฺขุสงฺฆญฺจฯ อุปาสกํ มํ ภวํ ภารทฺวาโช ธาเรตุ อชฺชตเคฺค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติฯ จตุตฺถํฯ

    ‘‘Acchariyaṃ, bho bhāradvāja; abbhutaṃ, bho bhāradvāja! Yāva subhāsitaṃ cidaṃ 16, bho bhāradvāja, tena bhagavatā jānatā passatā arahatā sammāsambuddhena. Esova kho, bho bhāradvāja, hetu, esa paccayo yenime daharā bhikkhū susū kāḷakesā bhadrena yobbanena samannāgatā paṭhamena vayasā anikīḷitāvino kāmesu yāvajīvaṃ paripuṇṇaṃ parisuddhaṃ brahmacariyaṃ caranti, addhānañca āpādentīti. Ahampi kho, bho 17 bhāradvāja, yasmiṃ samaye arakkhiteneva kāyena, arakkhitāya vācāya, arakkhitena cittena, anupaṭṭhitāya satiyā, asaṃvutehi indriyehi antepuraṃ pavisāmi, ativiya maṃ tasmiṃ samaye lobhadhammā parisahanti. Yasmiñca khvāhaṃ, bho bhāradvāja, samaye rakkhiteneva kāyena, rakkhitāya vācāya, rakkhitena cittena, upaṭṭhitāya satiyā , saṃvutehi indriyehi antepuraṃ pavisāmi, na maṃ tathā tasmiṃ samaye lobhadhammā parisahanti. Abhikkantaṃ, bho bhāradvāja; abhikkantaṃ, bho bhāradvāja! Seyyathāpi , bho bhāradvāja, nikkujjitaṃ 18 vā ukkujjeyya , paṭicchannaṃ vā vivareyya, mūḷhassa vā maggaṃ ācikkheyya, andhakāre vā telapajjotaṃ dhāreyya, cakkhumanto rūpāni dakkhantīti; evamevaṃ bhotā bhāradvājena anekapariyāyena dhammo pakāsito. Esāhaṃ, bho bhāradvāja, taṃ bhagavantaṃ saraṇaṃ gacchāmi, dhammañca, bhikkhusaṅghañca. Upāsakaṃ maṃ bhavaṃ bhāradvājo dhāretu ajjatagge pāṇupetaṃ saraṇaṃ gata’’nti. Catutthaṃ.







    Footnotes:
    1. สุสุ (สี. ก.)
    2. susu (sī. ka.)
    3. โลฬํ (สฺยา. กํ.)
    4. loḷaṃ (syā. kaṃ.)
    5. นหารุ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)
    6. อฎฺฐิมิญฺชา (สี.)
    7. มนสิ กริสฺสามาติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)
    8. สุภโต วา (สี.), สุภโต จ (สฺยา. กํ.)
    9. nahāru (sī. syā. kaṃ. pī.)
    10. aṭṭhimiñjā (sī.)
    11. manasi karissāmāti (sī. syā. kaṃ. pī.)
    12. subhato vā (sī.), subhato ca (syā. kaṃ.)
    13. ยาว สุภาสิตมิทํ (สี.)
    14. อหมฺปิ โภ (สี. ปี.)
    15. นิกุชฺชิตํ (ปี.)
    16. yāva subhāsitamidaṃ (sī.)
    17. ahampi bho (sī. pī.)
    18. nikujjitaṃ (pī.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๔-๕. ภารทฺวาชสุตฺตาทิวณฺณนา • 4-5. Bhāradvājasuttādivaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๔-๕. ภารทฺวาชสุตฺตาทิวณฺณนา • 4-5. Bhāradvājasuttādivaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact