Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / จูฬวคฺค-อฎฺฐกถา • Cūḷavagga-aṭṭhakathā |
ภตฺตคฺควตฺตกถา
Bhattaggavattakathā
๓๖๔. ภตฺตคฺควเตฺต ‘‘อโนฺตคาโม วา โหตุ วิหาโร วา, มนุสฺสานํ ปริเวสนฎฺฐานํ คจฺฉเนฺตน จีวรํ ปารุปิตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธนเมว วฎฺฎตี’’ติ อฎฺฐกถาสุ วุตฺตํฯ น เถเร ภิกฺขู อนุปขชฺชาติ เถเร ภิกฺขู อติอลฺลียิตฺวา น นิสีทิตพฺพํฯ สเจ มหาเถรสฺส นิสินฺนาสเนน สมกํ อาสนํ โหติ, พหูสุ อาสเนสุ สติ เอกํ เทฺว อาสนานิ ฐเปตฺวา นิสีทิตพฺพํฯ ภิกฺขู คเณตฺวา ปญฺญตฺตาสเนสุ อนิสีทิตฺวา มหาเถเรน นิสีทาติ วุเตฺตน นิสีทิตพฺพํฯ โน เจ มหาเถโร วทติ, ‘‘อิทํ, ภเนฺต, อาสนํ อุจฺจ’’นฺติ วตฺตพฺพํฯ ‘‘นิสีทา’’ติ วุเตฺต นิสีทิตพฺพํฯ สเจ ปน เอวํ อาปุจฺฉิเตปิ น วทติ, นิสีทนฺตสฺส อนาปตฺติ; มหาเถรเสฺสว อาปตฺติฯ นวโก หิ เอวรูเป อาสเน อนาปุจฺฉา นิสีทโนฺต อาปชฺชติ, เถโร อาปุจฺฉิเต อนนุชานโนฺตฯ น สงฺฆาฎิํ โอตฺถริตฺวาติ น สงฺฆาฎิํ อวตฺถริตฺวา นิสีทิตพฺพํฯ
364. Bhattaggavatte ‘‘antogāmo vā hotu vihāro vā, manussānaṃ parivesanaṭṭhānaṃ gacchantena cīvaraṃ pārupitvā kāyabandhanaṃ bandhanameva vaṭṭatī’’ti aṭṭhakathāsu vuttaṃ. Na there bhikkhū anupakhajjāti there bhikkhū atiallīyitvā na nisīditabbaṃ. Sace mahātherassa nisinnāsanena samakaṃ āsanaṃ hoti, bahūsu āsanesu sati ekaṃ dve āsanāni ṭhapetvā nisīditabbaṃ. Bhikkhū gaṇetvā paññattāsanesu anisīditvā mahātherena nisīdāti vuttena nisīditabbaṃ. No ce mahāthero vadati, ‘‘idaṃ, bhante, āsanaṃ ucca’’nti vattabbaṃ. ‘‘Nisīdā’’ti vutte nisīditabbaṃ. Sace pana evaṃ āpucchitepi na vadati, nisīdantassa anāpatti; mahātherasseva āpatti. Navako hi evarūpe āsane anāpucchā nisīdanto āpajjati, thero āpucchite ananujānanto. Na saṅghāṭiṃ ottharitvāti na saṅghāṭiṃ avattharitvā nisīditabbaṃ.
อุโภหิ หเตฺถหีติ ปตฺตโธวนอุทกํ สนฺธาย วุตฺตํฯ ทกฺขิโณทกํ ปน ปุรโต อาธารเก ปตฺตํ ฐเปตฺวา คเหตพฺพํฯ สาธุกนฺติ อุทกสทฺทํ อกโรเนฺตนฯ
Ubhohihatthehīti pattadhovanaudakaṃ sandhāya vuttaṃ. Dakkhiṇodakaṃ pana purato ādhārake pattaṃ ṭhapetvā gahetabbaṃ. Sādhukanti udakasaddaṃ akarontena.
สูปสฺส โอกาโสติ ยถา สูปสฺส โอกาโส โหติ; เอวํ มตฺตาย โอทโน คณฺหิตโพฺพติ อโตฺถฯ สมกํ สมฺปาเทหีติ อิทํ น เกวลํ สปฺปิอาทีสุเยว โอทเนปิ วตฺตพฺพํฯ สปฺปิอาทีสุ ปน ยํ อปฺปํ โหติ เอกสฺส วา ทฺวินฺนํ วา อนุรูปกํ, ตํ สเพฺพสํ สมกํ สมฺปาเทหีติ วุเตฺต มนุสฺสานํ วิหสา โหติ, ตสฺมา ตาทิสํ สกิํ วา ทฺวิกฺขตฺตุํ วา คเหตฺวา เสสํ น คเหตพฺพํฯ
Sūpassa okāsoti yathā sūpassa okāso hoti; evaṃ mattāya odano gaṇhitabboti attho. Samakaṃ sampādehīti idaṃ na kevalaṃ sappiādīsuyeva odanepi vattabbaṃ. Sappiādīsu pana yaṃ appaṃ hoti ekassa vā dvinnaṃ vā anurūpakaṃ, taṃ sabbesaṃ samakaṃ sampādehīti vutte manussānaṃ vihasā hoti, tasmā tādisaṃ sakiṃ vā dvikkhattuṃ vā gahetvā sesaṃ na gahetabbaṃ.
น ตาว เถเรน ภุญฺชิตพฺพนฺติ อิทํ ยํ ปริจฺฉินฺนภิกฺขุกํ ภตฺตคฺคํ, ยตฺถ มนุสฺสา สเพฺพสํ ปาเปตฺวา ทาตุกามา โหนฺติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํฯ ยํ ปน มหาภตฺตคฺคํ โหติ, ยตฺถ เอกสฺมิํ ปเทเส ภุญฺชนฺติ, เอกสฺมิํ ปเทเส อุทกํ ทิยฺยติ, ตตฺถ ยถาสุขํ ภุญฺชิตพฺพํฯ
Na tāva therena bhuñjitabbanti idaṃ yaṃ paricchinnabhikkhukaṃ bhattaggaṃ, yattha manussā sabbesaṃ pāpetvā dātukāmā honti, taṃ sandhāya vuttaṃ. Yaṃ pana mahābhattaggaṃ hoti, yattha ekasmiṃ padese bhuñjanti, ekasmiṃ padese udakaṃ diyyati, tattha yathāsukhaṃ bhuñjitabbaṃ.
น ตาว อุทกนฺติ อิทํ หตฺถโธวนอุทกํ สนฺธาย วุตฺตํฯ อนฺตรา ปิปาสิเตน ปน คเล วิลคฺคามิเสน วา ปานียํ ปิวิตฺวา หตฺถา น โธวิตพฺพาฯ สเจ มนุสฺสา ‘‘โธวถ ภเนฺต ปตฺตญฺจ หเตฺถ จา’’ติ วทนฺติ, ภิกฺขู วา ‘‘ตุเมฺห อุทกํ คณฺหถา’’ติ วทนฺติ, วฎฺฎติฯ
Na tāva udakanti idaṃ hatthadhovanaudakaṃ sandhāya vuttaṃ. Antarā pipāsitena pana gale vilaggāmisena vā pānīyaṃ pivitvā hatthā na dhovitabbā. Sace manussā ‘‘dhovatha bhante pattañca hatthe cā’’ti vadanti, bhikkhū vā ‘‘tumhe udakaṃ gaṇhathā’’ti vadanti, vaṭṭati.
นิวตฺตเนฺตนาติ ภตฺตคฺคโต อุฎฺฐาย นิวตฺตเนฺตน สเงฺฆน เอวํ นิวตฺติตพฺพนฺติ ทเสฺสติฯ กถํ? ‘‘นวเกหี’’ติ สพฺพํ ทฎฺฐพฺพํฯ สมฺพาเธสุ หิ ฆเรสุ มหาเถรานํ นิกฺขมโนกาโส น โหติ, ตสฺมา เอวํ วุตฺตํฯ เอวํ นิวตฺตเนฺตหิ ปน นวเกหิ เคหทฺวาเร ฐตฺวา เถเรสุ นิกฺขเนฺตสุ ปฎิปาฎิยา คนฺตพฺพํฯ สเจ ปน มหาเถรา ธุเร นิสินฺนา โหนฺติ, นวกา อโนฺตเคเห , เถราสนโต ปฎฺฐาย ปฎิปาฎิยา เอว นิกฺขมิตพฺพํฯ กาเยน กายํ อฆเฎฺฎเนฺตน ยถา อนฺตเรน มนุสฺสา คนฺตุํ สโกฺกนฺติ, เอวํ วิรฬาย ปฎิปาฎิยา คนฺตพฺพํฯ
Nivattantenāti bhattaggato uṭṭhāya nivattantena saṅghena evaṃ nivattitabbanti dasseti. Kathaṃ? ‘‘Navakehī’’ti sabbaṃ daṭṭhabbaṃ. Sambādhesu hi gharesu mahātherānaṃ nikkhamanokāso na hoti, tasmā evaṃ vuttaṃ. Evaṃ nivattantehi pana navakehi gehadvāre ṭhatvā theresu nikkhantesu paṭipāṭiyā gantabbaṃ. Sace pana mahātherā dhure nisinnā honti, navakā antogehe , therāsanato paṭṭhāya paṭipāṭiyā eva nikkhamitabbaṃ. Kāyena kāyaṃ aghaṭṭentena yathā antarena manussā gantuṃ sakkonti, evaṃ viraḷāya paṭipāṭiyā gantabbaṃ.
ภตฺตคฺควตฺตกถา นิฎฺฐิตาฯ
Bhattaggavattakathā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / จูฬวคฺคปาฬิ • Cūḷavaggapāḷi / ๕. ภตฺตคฺควตฺตกถา • 5. Bhattaggavattakathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ภตฺตคฺควตฺตกถาวณฺณนา • Bhattaggavattakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / อนุโมทนวตฺตกถาวณฺณนา • Anumodanavattakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ภตฺตคฺควตฺตกถาวณฺณนา • Bhattaggavattakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๕. ภตฺตคฺควตฺตกถา • 5. Bhattaggavattakathā