Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā)

    ๗. ภาวนาสุตฺตวณฺณนา

    7. Bhāvanāsuttavaṇṇanā

    ๗๑. สตฺตเม อนนุยุตฺตสฺสาติ น ยุตฺตปฺปยุตฺตสฺส หุตฺวา วิหรโตฯ เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, กุกฺกุฎิยา อณฺฑานีติ อิมา กณฺหปกฺขสุกฺกปกฺขวเสน เทฺว อุปมา วุตฺตาฯ ตาสุ กณฺหปกฺขูปมา อตฺถสฺส อสาธิกา, อิตรา สาธิกาติ สุกฺกปกฺขูปมาย เอว อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ เสยฺยถาติ โอปมฺมเตฺถ นิปาโตฯ อปีติ สมฺภาวนเตฺถฯ อุภเยนาปิ เสยฺยถาปิ นาม, ภิกฺขเวติ ทเสฺสติฯ กุกฺกุฎิยา อณฺฑานิ อฎฺฐ วา ทส วา ทฺวาทส วาติ เอตฺถ ปน กิญฺจาปิ กุกฺกุฎิยา วุตฺตปฺปการโต อูนาธิกานิปิ อณฺฑานิ โหนฺติ, วจนสิลิฎฺฐตาย ปเนตํ วุตฺตํฯ เอวญฺหิ โลเก สิลิฎฺฐํ วจนํ โหติฯ ตานสฺสูติ ตานิ อสฺสุ, ภเวยฺยุนฺติ อโตฺถฯ กุกฺกุฎิยา สมฺมา อธิสยิตานีติ ตาย ชเนตฺติยา กุกฺกุฎิยา ปเกฺข ปสาเรตฺวา เตสํ อุปริ สยนฺติยา สมฺมา อธิสยิตานิฯ สมฺมา ปริเสทิตานีติ กาเลน กาลํ อุตุํ คณฺหาเปนฺติยา สุฎฺฐุ สมนฺตโต เสทิตานิ, อุสฺมีกตานีติ วุตฺตํ โหติฯ สมฺมา ปริภาวิตานีติ กาเลน กาลํ สุฎฺฐุ สมนฺตโต ภาวิตานิ, กุกฺกุฎคนฺธํ คาหาปิตานีติ อโตฺถฯ

    71. Sattame ananuyuttassāti na yuttappayuttassa hutvā viharato. Seyyathāpi, bhikkhave, kukkuṭiyā aṇḍānīti imā kaṇhapakkhasukkapakkhavasena dve upamā vuttā. Tāsu kaṇhapakkhūpamā atthassa asādhikā, itarā sādhikāti sukkapakkhūpamāya eva attho veditabbo. Seyyathāti opammatthe nipāto. Apīti sambhāvanatthe. Ubhayenāpi seyyathāpi nāma, bhikkhaveti dasseti. Kukkuṭiyā aṇḍāni aṭṭha vā dasa vā dvādasa vāti ettha pana kiñcāpi kukkuṭiyā vuttappakārato ūnādhikānipi aṇḍāni honti, vacanasiliṭṭhatāya panetaṃ vuttaṃ. Evañhi loke siliṭṭhaṃ vacanaṃ hoti. Tānassūti tāni assu, bhaveyyunti attho. Kukkuṭiyā sammā adhisayitānīti tāya janettiyā kukkuṭiyā pakkhe pasāretvā tesaṃ upari sayantiyā sammā adhisayitāni. Sammā pariseditānīti kālena kālaṃ utuṃ gaṇhāpentiyā suṭṭhu samantato seditāni, usmīkatānīti vuttaṃ hoti. Sammāparibhāvitānīti kālena kālaṃ suṭṭhu samantato bhāvitāni, kukkuṭagandhaṃ gāhāpitānīti attho.

    กิญฺจาปิ ตสฺสา กุกฺกุฎิยาติ ตสฺสา กุกฺกุฎิยา อิมํ ติวิธกิริยากรเณน อปฺปมาทํ กตฺวา กิญฺจาปิ น เอวํ อิจฺฉา อุปฺปเชฺชยฺยฯ อถ โข ภพฺพาว เตติ อถ โข เต กุกฺกุฎโปตกา วุตฺตนเยน โสตฺถินา อภินิพฺภิชฺชิตุํ ภพฺพาวฯ เต หิ ยสฺมา ตาย กุกฺกุฎิยา เอวํ ตีหากาเรหิ ตานิ อณฺฑานิ ปริปาลิยมานานิ น ปูตีนิ โหนฺติฯ โยปิ เนสํ อลฺลสิเนโห, โส ปริยาทานํ คจฺฉติ, กปาลํ ตนุกํ โหติ, ปาทนขสิขา จ มุขตุณฺฑกญฺจ ขรํ โหติ, สยมฺปิ ปริณามํ คจฺฉติฯ กปาลสฺส ตนุตฺตา พหิทฺธา อาโลโก อโนฺต ปญฺญายติ, ตสฺมา ‘‘จิรํ วต มยํ สํกุฎิตหตฺถปาทา สมฺพาเธ สยิมฺห, อยญฺจ พหิ อาโลโก ทิสฺสติ, เอตฺถ ทานิ โน สุขวิหาโร ภวิสฺสตี’’ติ นิกฺขมิตุกามา หุตฺวา กปาลํ ปาเทน ปหรนฺติ, คีวํ ปสาเรนฺติ, ตโต ตํ กปาลํ เทฺวธา ภิชฺชติฯ อถ เต ปเกฺข วิธุนนฺตา ตํขณานุรูปํ วิรวนฺตา นิกฺขมนฺติเยวฯ นิกฺขมนฺตา จ คามเกฺขตฺตํ อุปโสภยมานา วิจรนฺติฯ

    Kiñcāpi tassā kukkuṭiyāti tassā kukkuṭiyā imaṃ tividhakiriyākaraṇena appamādaṃ katvā kiñcāpi na evaṃ icchā uppajjeyya. Atha kho bhabbāva teti atha kho te kukkuṭapotakā vuttanayena sotthinā abhinibbhijjituṃ bhabbāva. Te hi yasmā tāya kukkuṭiyā evaṃ tīhākārehi tāni aṇḍāni paripāliyamānāni na pūtīni honti. Yopi nesaṃ allasineho, so pariyādānaṃ gacchati, kapālaṃ tanukaṃ hoti, pādanakhasikhā ca mukhatuṇḍakañca kharaṃ hoti, sayampi pariṇāmaṃ gacchati. Kapālassa tanuttā bahiddhā āloko anto paññāyati, tasmā ‘‘ciraṃ vata mayaṃ saṃkuṭitahatthapādā sambādhe sayimha, ayañca bahi āloko dissati, ettha dāni no sukhavihāro bhavissatī’’ti nikkhamitukāmā hutvā kapālaṃ pādena paharanti, gīvaṃ pasārenti, tato taṃ kapālaṃ dvedhā bhijjati. Atha te pakkhe vidhunantā taṃkhaṇānurūpaṃ viravantā nikkhamantiyeva. Nikkhamantā ca gāmakkhettaṃ upasobhayamānā vicaranti.

    เอวเมว โขติ อิทํ โอปมฺมสมฺปฎิปาทนํฯ ตํ เอวํ อเตฺถน สํสเนฺทตฺวา เวทิตพฺพํ – ตสฺสา กุกฺกุฎิยา อเณฺฑสุ อธิสยนาทิติวิธกิริยากรณํ วิย หิ อิมสฺส ภิกฺขุโน ภาวนํ อนุยุตฺตกาโล , กุกฺกุฎิยา ติวิธกิริยาสมฺปาทเนน อณฺฑานํ อปูติภาโว วิย ภาวนํ อนุยุตฺตสฺส ภิกฺขุโน ติวิธานุปสฺสนาสมฺปาทเนน วิปสฺสนาญาณสฺส อปริหานิฯ ตสฺสา ติวิธกิริยากรเณน อณฺฑานํ อลฺลสิเนหปริยาทานํ วิย ตสฺส ภิกฺขุโน ติวิธานุปสฺสนาสมฺปาทเนน ภวตฺตยานุคตนิกนฺติสิเนหปริยาทานํ, อณฺฑกปาลานํ ตนุภาโว วิย ภิกฺขุโน อวิชฺชณฺฑโกสสฺส ตนุภาโว, กุกฺกุฎโปตกานํ นขตุณฺฑกานํ ถทฺธภาโว วิย ภิกฺขุโน วิปสฺสนาญาณสฺส ติกฺขขรวิปฺปสนฺนสูรภาโว, กุกฺกุฎโปตกานํ ปริณามกาโล วิย ภิกฺขุโน วิปสฺสนาญาณสฺส ปริณามกาโล วฑฺฒิกาโล คพฺภคฺคหณกาโล, กุกฺกุฎโปตกานํ ปาทนขสิขาย วา มุขตุณฺฑเกน วา อณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา ปเกฺข ปโปฺผเฎตฺวา โสตฺถินา อภินิพฺภิทากาโล วิย ตสฺส ภิกฺขุโน วิปสฺสนาญาณคพฺภํ คณฺหาเปตฺวา วิจรนฺตสฺส ตชฺชาติกํ อุตุสปฺปายํ วา โภชนสปฺปายํ วา ปุคฺคลสปฺปายํ วา ธมฺมสฺสวนสปฺปายํ วา ลภิตฺวา เอกาสเน นิสินฺนเสฺสว วิปสฺสนํ วเฑฺฒนฺตสฺส อนุปุพฺพาธิคเตน อรหตฺตมเคฺคน อวิชฺชณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา อภิญฺญาปเกฺข ปโปฺผเฎตฺวา โสตฺถินา อรหตฺตปฺปตฺตกาโล เวทิตโพฺพฯ

    Evamevakhoti idaṃ opammasampaṭipādanaṃ. Taṃ evaṃ atthena saṃsandetvā veditabbaṃ – tassā kukkuṭiyā aṇḍesu adhisayanāditividhakiriyākaraṇaṃ viya hi imassa bhikkhuno bhāvanaṃ anuyuttakālo , kukkuṭiyā tividhakiriyāsampādanena aṇḍānaṃ apūtibhāvo viya bhāvanaṃ anuyuttassa bhikkhuno tividhānupassanāsampādanena vipassanāñāṇassa aparihāni. Tassā tividhakiriyākaraṇena aṇḍānaṃ allasinehapariyādānaṃ viya tassa bhikkhuno tividhānupassanāsampādanena bhavattayānugatanikantisinehapariyādānaṃ, aṇḍakapālānaṃ tanubhāvo viya bhikkhuno avijjaṇḍakosassa tanubhāvo, kukkuṭapotakānaṃ nakhatuṇḍakānaṃ thaddhabhāvo viya bhikkhuno vipassanāñāṇassa tikkhakharavippasannasūrabhāvo, kukkuṭapotakānaṃ pariṇāmakālo viya bhikkhuno vipassanāñāṇassa pariṇāmakālo vaḍḍhikālo gabbhaggahaṇakālo, kukkuṭapotakānaṃ pādanakhasikhāya vā mukhatuṇḍakena vā aṇḍakosaṃ padāletvā pakkhe papphoṭetvā sotthinā abhinibbhidākālo viya tassa bhikkhuno vipassanāñāṇagabbhaṃ gaṇhāpetvā vicarantassa tajjātikaṃ utusappāyaṃ vā bhojanasappāyaṃ vā puggalasappāyaṃ vā dhammassavanasappāyaṃ vā labhitvā ekāsane nisinnasseva vipassanaṃ vaḍḍhentassa anupubbādhigatena arahattamaggena avijjaṇḍakosaṃ padāletvā abhiññāpakkhe papphoṭetvā sotthinā arahattappattakālo veditabbo.

    ยถา ปน กุกฺกุฎโปตกานํ ปริณตภาวํ ญตฺวา มาตาปิ อณฺฑโกสํ ภินฺทติ, เอวํ ตถารูปสฺส ภิกฺขุโน ญาณปริปากํ ญตฺวา สตฺถาปิ –

    Yathā pana kukkuṭapotakānaṃ pariṇatabhāvaṃ ñatvā mātāpi aṇḍakosaṃ bhindati, evaṃ tathārūpassa bhikkhuno ñāṇaparipākaṃ ñatvā satthāpi –

    ‘‘อุจฺฉินฺท สิเนหมตฺตโน, กุมุทํ สารทิกํว ปาณินา;

    ‘‘Ucchinda sinehamattano, kumudaṃ sāradikaṃva pāṇinā;

    สนฺติมคฺคเมว พฺรูหย, นิพฺพานํ สุคเตน เทสิต’’นฺติฯ (ธ. ป. ๒๘๕) –

    Santimaggameva brūhaya, nibbānaṃ sugatena desita’’nti. (dha. pa. 285) –

    อาทินา นเยน โอภาสํ ผริตฺวา คาถาย อวิชฺชณฺฑโกสํ ปหรติฯ โส คาถาปริโยสาเน อวิชฺชณฺฑโกสํ ภินฺทิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติฯ ตโต ปฎฺฐาย ยถา เต กุกฺกุฎโปตกา คามเกฺขตฺตํ อุปโสภยมานา ตตฺถ วิจรนฺติ, เอวํ อยมฺปิ มหาขีณาสโว นิพฺพานารมฺมณํ ผลสมาปตฺติํ อเปฺปตฺวา สงฺฆารามํ อุปโสภยมาโน วิจรติฯ

    Ādinā nayena obhāsaṃ pharitvā gāthāya avijjaṇḍakosaṃ paharati. So gāthāpariyosāne avijjaṇḍakosaṃ bhinditvā arahattaṃ pāpuṇāti. Tato paṭṭhāya yathā te kukkuṭapotakā gāmakkhettaṃ upasobhayamānā tattha vicaranti, evaṃ ayampi mahākhīṇāsavo nibbānārammaṇaṃ phalasamāpattiṃ appetvā saṅghārāmaṃ upasobhayamāno vicarati.

    ผลคณฺฑสฺสาติ วฑฺฒกิสฺสฯ โส หิ โอลมฺพกสงฺขาตํ ผลํ จาเรตฺวา ทารูนํ คณฺฑํ หรตีติ ผลคโณฺฑติ วุจฺจติฯ วาสิชเฎติ วาสิทณฺฑกสฺส คหณฎฺฐาเนฯ เอตฺตกํ เม อชฺช อาสวานํ ขีณนฺติ ปพฺพชิตสฺส หิ ปพฺพชฺชาสเงฺขเปน อุเทฺทเสน ปริปุจฺฉาย โยนิโสมนสิกาเรน วตฺตปฎิปตฺติยา จ นิจฺจกาลํ อาสวา ขียนฺติฯ เอวํ ขียมานานํ ปน เนสํ ‘‘เอตฺตกํ อชฺช ขีณํ เอตฺตกํ หิโยฺย’’ติ เอวมสฺส ญาณํ น โหตีติ อโตฺถฯ อิมาย อุปมาย วิปสฺสนานิสํโส ทีปิโตฯ

    Phalagaṇḍassāti vaḍḍhakissa. So hi olambakasaṅkhātaṃ phalaṃ cāretvā dārūnaṃ gaṇḍaṃ haratīti phalagaṇḍoti vuccati. Vāsijaṭeti vāsidaṇḍakassa gahaṇaṭṭhāne. Ettakaṃ me ajja āsavānaṃ khīṇanti pabbajitassa hi pabbajjāsaṅkhepena uddesena paripucchāya yonisomanasikārena vattapaṭipattiyā ca niccakālaṃ āsavā khīyanti. Evaṃ khīyamānānaṃ pana nesaṃ ‘‘ettakaṃ ajja khīṇaṃ ettakaṃ hiyyo’’ti evamassa ñāṇaṃ na hotīti attho. Imāya upamāya vipassanānisaṃso dīpito.

    เหมนฺติเกนาติ เหมนฺตสมเยนฯ ปฎิปฺปสฺสมฺภนฺตีติ ถิรภาเวน ปริหายนฺติฯ เอวเมว โขติ เอตฺถ มหาสมุโทฺท วิย สาสนํ ทฎฺฐพฺพํ, นาวา วิย โยคาวจโร, นาวาย มหาสมุเทฺท ปริยายนํ วิย อิมสฺส ภิกฺขุโน อูนปญฺจวสฺสกาเล อาจริยุปชฺฌายานํ สนฺติเก วิจรณํ, นาวาย มหาสมุทฺทอุทเกน ขชฺชมานานํ พนฺธนานํ ตนุภาโว วิย ภิกฺขุโน ปพฺพชฺชาสเงฺขเปน อุเทฺทสปริปุจฺฉาทีหิเยว สํโยชนานํ ตนุภาโว, นาวาย ถเล อุกฺขิตฺตกาโล วิย ภิกฺขุโน นิสฺสยมุตฺตกสฺส กมฺมฎฺฐานํ คเหตฺวา อรเญฺญ วสนกาโล, ทิวา วาตาตเปน สํสุสฺสนํ วิย วิปสฺสนาญาเณน ตณฺหาสิเนหสฺส สํสุสฺสนํ, รตฺติํ หิโมทเกน เตมนํ วิย กมฺมฎฺฐานํ นิสฺสาย อุปฺปเนฺนน ปีติปาโมเชฺชน จิตฺตเตมนํ, รตฺตินฺทิวํ วาตาตเปหิ เจว หิโมทเกน จ ปริสุกฺขปริตินฺตานํ พนฺธนานํ ทุพฺพลภาโว วิย วิปสฺสนาญาณปีติปาโมเชฺชหิ สํโยชนานํ ภิโยฺยโสมตฺตาย ทุพฺพลภาโว, ปาวุสฺสกเมโฆ วิย อรหตฺตมคฺคญาณํ, เมฆวุฎฺฐิอุทเกน นาวาย อโนฺตปูติภาโว วิย อารทฺธวิปสฺสกสฺส รูปสตฺตกาทิวเสน วิปสฺสนํ วเฑฺฒนฺตสฺส โอกฺขายมาเน ปกฺขายมาเน กมฺมฎฺฐาเน เอกทิวสํ อุตุสปฺปายาทีนิ ลทฺธา เอกปลฺลเงฺกน นิสินฺนสฺส อรหตฺตผลาธิคโมฯ ปูติพนฺธนาย นาวาย กิญฺจิ กาลํ ฐานํ วิย ขีณสํโยชนสฺส อรหโต มหาชนํ อนุคฺคณฺหนฺตสฺส ยาวตายุกํ ฐานํ, ปูติพนฺธนาย นาวาย อนุปุเพฺพน ภิชฺชิตฺวา อปณฺณตฺติกภาวูปคโม วิย ขีณาสวสฺส อุปาทินฺนกฺขนฺธเภเทน อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพุตสฺส อปณฺณตฺติกภาวูปคโมติ อิมาย อุปมาย สํโยชนานํ ทุพฺพลตา ทีปิตาฯ

    Hemantikenāti hemantasamayena. Paṭippassambhantīti thirabhāvena parihāyanti. Evameva khoti ettha mahāsamuddo viya sāsanaṃ daṭṭhabbaṃ, nāvā viya yogāvacaro, nāvāya mahāsamudde pariyāyanaṃ viya imassa bhikkhuno ūnapañcavassakāle ācariyupajjhāyānaṃ santike vicaraṇaṃ, nāvāya mahāsamuddaudakena khajjamānānaṃ bandhanānaṃ tanubhāvo viya bhikkhuno pabbajjāsaṅkhepena uddesaparipucchādīhiyeva saṃyojanānaṃ tanubhāvo, nāvāya thale ukkhittakālo viya bhikkhuno nissayamuttakassa kammaṭṭhānaṃ gahetvā araññe vasanakālo, divā vātātapena saṃsussanaṃ viya vipassanāñāṇena taṇhāsinehassa saṃsussanaṃ, rattiṃ himodakena temanaṃ viya kammaṭṭhānaṃ nissāya uppannena pītipāmojjena cittatemanaṃ, rattindivaṃ vātātapehi ceva himodakena ca parisukkhaparitintānaṃ bandhanānaṃ dubbalabhāvo viya vipassanāñāṇapītipāmojjehi saṃyojanānaṃ bhiyyosomattāya dubbalabhāvo, pāvussakamegho viya arahattamaggañāṇaṃ, meghavuṭṭhiudakena nāvāya antopūtibhāvo viya āraddhavipassakassa rūpasattakādivasena vipassanaṃ vaḍḍhentassa okkhāyamāne pakkhāyamāne kammaṭṭhāne ekadivasaṃ utusappāyādīni laddhā ekapallaṅkena nisinnassa arahattaphalādhigamo. Pūtibandhanāya nāvāya kiñci kālaṃ ṭhānaṃ viya khīṇasaṃyojanassa arahato mahājanaṃ anuggaṇhantassa yāvatāyukaṃ ṭhānaṃ, pūtibandhanāya nāvāya anupubbena bhijjitvā apaṇṇattikabhāvūpagamo viya khīṇāsavassa upādinnakkhandhabhedena anupādisesāya nibbānadhātuyā parinibbutassa apaṇṇattikabhāvūpagamoti imāya upamāya saṃyojanānaṃ dubbalatā dīpitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๗. ภาวนาสุตฺตํ • 7. Bhāvanāsuttaṃ

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๗. ภาวนาสุตฺตวณฺณนา • 7. Bhāvanāsuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact