Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā |
[๕๙] ๙. เภริวาทกชาตกวณฺณนา
[59] 9. Bherivādakajātakavaṇṇanā
ธเม ธเมติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต อญฺญตรํ ทุพฺพจภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิฯ ตญฺหิ ภิกฺขุํ สตฺถา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ ภิกฺขุ ทุพฺพโจสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติ วุเตฺต ‘‘น ตฺวํ ภิกฺขุ อิทาเนว ทุพฺพโจ, ปุเพฺพปิ ทุพฺพโจเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริฯ
Dhame dhameti idaṃ satthā jetavane viharanto aññataraṃ dubbacabhikkhuṃ ārabbha kathesi. Tañhi bhikkhuṃ satthā ‘‘saccaṃ kira tvaṃ bhikkhu dubbacosī’’ti pucchitvā ‘‘saccaṃ, bhagavā’’ti vutte ‘‘na tvaṃ bhikkhu idāneva dubbaco, pubbepi dubbacoyevā’’ti vatvā atītaṃ āhari.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต เภริวาทกกุเล นิพฺพตฺติตฺวา คามเก วสติฯ โส ‘‘พาราณสิยํ นกฺขตฺตํ ฆุฎฺฐ’’นฺติ สุตฺวา ‘‘สมชฺชมณฺฑเล เภริํ วาเทตฺวา ธนํ อาหริสฺสามี’’ติ ปุตฺตํ อาทาย ตตฺถ คนฺตฺวา เภริํ วาเทตฺวา พหุธนํ ลภิฯ โส ตํ อาทาย อตฺตโน คามํ คจฺฉโนฺต โจราฎวิํ ปตฺวา ปุตฺตํ นิรนฺตรํ เภริํ วาเทนฺตํ วาเรสิ ‘‘ตาต, นิรนฺตรํ อวาเทตฺวา มคฺคปฎิปนฺนสฺส อิสฺสรสฺส เภริํ วิย อนฺตรนฺตรา วาเทหี’’ติ โส ปิตรา วาริยมาโนปิ ‘‘เภริสเทฺทเนว โจเร ปลาเปสฺสามี’’ติ วตฺวา นิรนฺตรเมว วาเทสิฯ โจรา ปฐมเญฺญว เภริสทฺทํ สุตฺวา ‘‘อิสฺสรเภรี ภวิสฺสตี’’ติ ปลายิตฺวา อติ วิย เอกาพทฺธํ สทฺทํ สุตฺวา ‘‘นายํ อิสฺสรเภรี ภวิสฺสตี’’ติ อาคนฺตฺวา อุปธาเรนฺตา เทฺวเยว ชเน ทิสฺวา โปเถตฺวา วิลุมฺปิํสุฯ โพธิสโตฺต ‘‘กิเจฺฉน วต โน ลทฺธํ ธนํ เอกาพทฺธํ กตฺวา วาเทโนฺต นาเสสี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
Atīte bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bodhisatto bherivādakakule nibbattitvā gāmake vasati. So ‘‘bārāṇasiyaṃ nakkhattaṃ ghuṭṭha’’nti sutvā ‘‘samajjamaṇḍale bheriṃ vādetvā dhanaṃ āharissāmī’’ti puttaṃ ādāya tattha gantvā bheriṃ vādetvā bahudhanaṃ labhi. So taṃ ādāya attano gāmaṃ gacchanto corāṭaviṃ patvā puttaṃ nirantaraṃ bheriṃ vādentaṃ vāresi ‘‘tāta, nirantaraṃ avādetvā maggapaṭipannassa issarassa bheriṃ viya antarantarā vādehī’’ti so pitarā vāriyamānopi ‘‘bherisaddeneva core palāpessāmī’’ti vatvā nirantarameva vādesi. Corā paṭhamaññeva bherisaddaṃ sutvā ‘‘issarabherī bhavissatī’’ti palāyitvā ati viya ekābaddhaṃ saddaṃ sutvā ‘‘nāyaṃ issarabherī bhavissatī’’ti āgantvā upadhārentā dveyeva jane disvā pothetvā vilumpiṃsu. Bodhisatto ‘‘kicchena vata no laddhaṃ dhanaṃ ekābaddhaṃ katvā vādento nāsesī’’ti vatvā imaṃ gāthamāha –
๕๙.
59.
‘‘ธเม ธเม นาติธเม, อติธนฺตญฺหิ ปาปกํ;
‘‘Dhame dhame nātidhame, atidhantañhi pāpakaṃ;
ธเนฺตน หิ สตํ ลทฺธํ, อติธเนฺตน นาสิต’’นฺติฯ
Dhantena hi sataṃ laddhaṃ, atidhantena nāsita’’nti.
ตตฺถ ธเม ธเมติ ธเมยฺย โน น ธเมยฺย, เภริํ วาเทยฺย โน น วาเทยฺยาติ อโตฺถฯ นาติธเมติ อติกฺกมิตฺวา ปน นิรนฺตรเมว กตฺวา น วาเทยฺยฯ กิํการณา? อติธนฺตญฺหิ ปาปกํ, นิรนฺตรํ เภริวาทนํ อิทานิ อมฺหากํ ปาปกํ ลามกํ ชาตํฯ ธเนฺตน หิ สตํ ลทฺธนฺติ นคเร ธมเนฺตน เภริวาทเนน กหาปณสตํ ลทฺธํฯ อติธเนฺตน นาสิตนฺติ อิทานิ ปน เม ปุเตฺตน วจนํ อกตฺวา ยทิทํ อฎวิยํ อติธนฺตํ, เตน อติธเนฺตน สพฺพํ นาสิตนฺติฯ
Tattha dhame dhameti dhameyya no na dhameyya, bheriṃ vādeyya no na vādeyyāti attho. Nātidhameti atikkamitvā pana nirantarameva katvā na vādeyya. Kiṃkāraṇā? Atidhantañhi pāpakaṃ, nirantaraṃ bherivādanaṃ idāni amhākaṃ pāpakaṃ lāmakaṃ jātaṃ. Dhantena hi sataṃ laddhanti nagare dhamantena bherivādanena kahāpaṇasataṃ laddhaṃ. Atidhantena nāsitanti idāni pana me puttena vacanaṃ akatvā yadidaṃ aṭaviyaṃ atidhantaṃ, tena atidhantena sabbaṃ nāsitanti.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา อนุสนฺธิํ ฆเฎตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ปุโตฺต ทุพฺพจภิกฺขุ อโหสิ, ปิตา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ
Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā anusandhiṃ ghaṭetvā jātakaṃ samodhānesi – ‘‘tadā putto dubbacabhikkhu ahosi, pitā pana ahameva ahosi’’nti.
เภริวาทกชาตกวณฺณนา นวมาฯ
Bherivādakajātakavaṇṇanā navamā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๕๙. เภริวาทกชาตกํ • 59. Bherivādakajātakaṃ