Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga |
๓. เภสชฺชสิกฺขาปทํ
3. Bhesajjasikkhāpadaṃ
๖๑๘. 1 เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา ปิลินฺทวโจฺฉ ราชคเห ปพฺภารํ โสธาเปติ เลณํ กตฺตุกาโมฯ อถ โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร เยนายสฺมา ปิลินฺทวโจฺฉ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ ปิลินฺทวจฺฉํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร อายสฺมนฺตํ ปิลินฺทวจฺฉํ เอตทโวจ – ‘‘กิํ, ภเนฺต, เถโร การาเปตี’’ติ? ‘‘ปพฺภารํ มหาราช, โสธาเปมิ เลณํ กตฺตุกาโม’’ติฯ ‘‘อโตฺถ, ภเนฺต, อยฺยสฺส อารามิเกนา’’ติ? ‘‘น โข, มหาราช, ภควตา อารามิโก อนุญฺญาโต’’ติฯ ‘‘เตน หิ, ภเนฺต, ภควนฺตํ ปฎิปุจฺฉิตฺวา มม อาโรเจยฺยาถา’’ติฯ ‘‘เอวํ มหาราชา’’ติ โข อายสฺมา ปิลินฺทวโจฺฉ รโญฺญ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส ปจฺจโสฺสสิฯ อถ โข อายสฺมา ปิลินฺทวโจฺฉ ราชานํ มาคธํ เสนิยํ พิมฺพิสารํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสสิ สมาทเปสิ สมุเตฺตเชสิ สมฺปหํเสสิฯ อถ โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร อายสฺมตา ปิลินฺทวเจฺฉน ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต สมุเตฺตชิโต สมฺปหํสิโต อุฎฺฐายาสนา อายสฺมนฺตํ ปิลินฺทวจฺฉํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิฯ
618.2 Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena āyasmā pilindavaccho rājagahe pabbhāraṃ sodhāpeti leṇaṃ kattukāmo. Atha kho rājā māgadho seniyo bimbisāro yenāyasmā pilindavaccho tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā āyasmantaṃ pilindavacchaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho rājā māgadho seniyo bimbisāro āyasmantaṃ pilindavacchaṃ etadavoca – ‘‘kiṃ, bhante, thero kārāpetī’’ti? ‘‘Pabbhāraṃ mahārāja, sodhāpemi leṇaṃ kattukāmo’’ti. ‘‘Attho, bhante, ayyassa ārāmikenā’’ti? ‘‘Na kho, mahārāja, bhagavatā ārāmiko anuññāto’’ti. ‘‘Tena hi, bhante, bhagavantaṃ paṭipucchitvā mama āroceyyāthā’’ti. ‘‘Evaṃ mahārājā’’ti kho āyasmā pilindavaccho rañño māgadhassa seniyassa bimbisārassa paccassosi. Atha kho āyasmā pilindavaccho rājānaṃ māgadhaṃ seniyaṃ bimbisāraṃ dhammiyā kathāya sandassesi samādapesi samuttejesi sampahaṃsesi. Atha kho rājā māgadho seniyo bimbisāro āyasmatā pilindavacchena dhammiyā kathāya sandassito samādapito samuttejito sampahaṃsito uṭṭhāyāsanā āyasmantaṃ pilindavacchaṃ abhivādetvā padakkhiṇaṃ katvā pakkāmi.
๖๑๙. อถ โข อายสฺมา ปิลินฺทวโจฺฉ ภควโต สนฺติเก ทูตํ ปาเหสิ – ‘‘ราชา, ภเนฺต , มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร อารามิกํ ทาตุกาโมฯ กถํ นุ โข, ภเนฺต, มยา ปฎิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อารามิก’’นฺติฯ ทุติยมฺปิ โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร เยนายสฺมา ปิลินฺทิวโจฺฉ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ ปิลินฺทวจฺฉํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร อายสฺมนฺตํ ปิลินฺทวจฺฉํ เอตทโวจ – ‘‘อนุญฺญาโต, ภเนฺต, ภควตา อารามิโก’’ติ? ‘‘เอวํ, มหาราชา’’ติฯ ‘‘เตน หิ, ภเนฺต, อยฺยสฺส อารามิกํ ทมฺมี’’ติฯ อถ โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร อายสฺมโต ปิลินฺทวจฺฉสฺส อารามิกํ ปฎิสฺสุณิตฺวา วิสฺสริตฺวา จิเรน สติํ ปฎิลภิตฺวา อญฺญตรํ สพฺพตฺถกํ มหามตฺตํ อามเนฺตสิ – ‘‘โย มยา, ภเณ, อยฺยสฺส อารามิโก ปฎิสฺสุโต, ทิโนฺน โส อารามิโก’’ติ? ‘‘น โข, เทว, อยฺยสฺส อารามิโก ทิโนฺน’’ติฯ ‘‘กีวจิรํ นุ โข, ภเณ, อิโต หิ ตํ โหตี’’ติ? อถ โข โส มหามโตฺต รตฺติโย คเณตฺวา 3 ราชานํ มาคธํ เสนิยํ พิมฺพิสารํ เอตทโวจ – ‘‘ปญฺจ, เทว, รตฺติสตานี’’ติฯ ‘‘เตน หิ, ภเณ, อยฺยสฺส ปญฺจ อารามิกสตานิ เทหี’’ติฯ ‘‘เอวํ, เทวา’’ติ โข โส มหามโตฺต รโญฺญ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส ปฎิสฺสุณิตฺวา อายสฺมโต ปิลินฺทวจฺฉสฺส ปญฺจ อารามิกสตานิ ปาทาสิ 4, ปาฎิเยโกฺก คาโม นิวิสิฯ อารามิกคามโกติปิ นํ อาหํสุ, ปิลินฺทคามโกติปิ นํ อาหํสุฯ
619. Atha kho āyasmā pilindavaccho bhagavato santike dūtaṃ pāhesi – ‘‘rājā, bhante , māgadho seniyo bimbisāro ārāmikaṃ dātukāmo. Kathaṃ nu kho, bhante, mayā paṭipajjitabba’’nti? Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, ārāmika’’nti. Dutiyampi kho rājā māgadho seniyo bimbisāro yenāyasmā pilindivaccho tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā āyasmantaṃ pilindavacchaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho rājā māgadho seniyo bimbisāro āyasmantaṃ pilindavacchaṃ etadavoca – ‘‘anuññāto, bhante, bhagavatā ārāmiko’’ti? ‘‘Evaṃ, mahārājā’’ti. ‘‘Tena hi, bhante, ayyassa ārāmikaṃ dammī’’ti. Atha kho rājā māgadho seniyo bimbisāro āyasmato pilindavacchassa ārāmikaṃ paṭissuṇitvā vissaritvā cirena satiṃ paṭilabhitvā aññataraṃ sabbatthakaṃ mahāmattaṃ āmantesi – ‘‘yo mayā, bhaṇe, ayyassa ārāmiko paṭissuto, dinno so ārāmiko’’ti? ‘‘Na kho, deva, ayyassa ārāmiko dinno’’ti. ‘‘Kīvaciraṃ nu kho, bhaṇe, ito hi taṃ hotī’’ti? Atha kho so mahāmatto rattiyo gaṇetvā 5 rājānaṃ māgadhaṃ seniyaṃ bimbisāraṃ etadavoca – ‘‘pañca, deva, rattisatānī’’ti. ‘‘Tena hi, bhaṇe, ayyassa pañca ārāmikasatāni dehī’’ti. ‘‘Evaṃ, devā’’ti kho so mahāmatto rañño māgadhassa seniyassa bimbisārassa paṭissuṇitvā āyasmato pilindavacchassa pañca ārāmikasatāni pādāsi 6, pāṭiyekko gāmo nivisi. Ārāmikagāmakotipi naṃ āhaṃsu, pilindagāmakotipi naṃ āhaṃsu.
๖๒๐. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา ปิลินฺทวโจฺฉ ตสฺมิํ คามเก กุลูปโก โหติฯ อถ โข อายสฺมา ปิลินฺทวโจฺฉ ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรํ อาทาย ปิลินฺทคามกํ ปิณฺฑาย ปาวิสิฯ เตน โข ปน สมเยน ตสฺมิํ คามเก อุสฺสโว โหติฯ ทารกา อลงฺกตา มาลากิตา กีฬนฺติฯ อถ โข อายสฺมา ปิลินฺทวโจฺฉ ปิลินฺทคามเก สปทานํ ปิณฺฑาย จรมาโน เยน อญฺญตรสฺส อารามิกสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญเตฺต อาสเน นิสีทิฯ เตน โข ปน สมเยน ตสฺสา อารามิกินิยา ธีตา อเญฺญ ทารเก อลงฺกเต มาลากิเต ปสฺสิตฺวา โรทติ – ‘‘มาลํ เม เทถ, อลงฺการํ เม เทถา’’ติฯ อถ โข อายสฺมา ปิลินฺทวโจฺฉ ตํ อารามิกินิํ เอตทโวจ – ‘‘กิสฺสายํ ทาริกา โรทตี’’ติ? ‘‘อยํ, ภเนฺต, ทาริกา อเญฺญ ทารเก อลงฺกเต มาลากิเต ปสฺสิตฺวา โรทติ – ‘มาลํ เม เทถ, อลงฺการํ เม เทถา’ติฯ กุโต อมฺหากํ ทุคฺคตานํ มาลา กุโต, อลงฺกาโร’’ติ? อถ โข อายสฺมา ปิลินฺทวโจฺฉ อญฺญตรํ ติณณฺฑุปกํ คเหตฺวา ตํ อารามิกินิํ เอตทโวจ – ‘‘หนฺทิมํ ติณณฺฑุปกํ ตสฺสา ทาริกาย สีเส ปฎิมุญฺจา’’ติฯ อถ โข สา อารามิกินี ตํ ติณณฺฑุปกํ คเหตฺวา ตสฺสา ทาริกาย สีเส ปฎิมุญฺจิฯ สา อโหสิ สุวณฺณมาลา อภิรูปา ทสฺสนียา ปาสาทิกาฯ นตฺถิ ตาทิสา รโญฺญปิ อเนฺตปุเร สุวณฺณมาลาฯ มนุสฺสา รโญฺญ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส อาโรเจสุํ – ‘‘อมุกสฺส, เทว, อารามิกสฺส ฆเร สุวณฺณมาลา อภิรูปา ทสฺสนียา ปาสาทิกาฯ นตฺถิ ตาทิสา เทวสฺสาปิ อเนฺตปุเร สุวณฺณมาลาฯ กุโต ตสฺส ทุคฺคตสฺส! นิสฺสํสยํ โจริกาย อาภตา’’ติ!! อถ โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร ตํ อารามิกกุลํ พนฺธาเปสิฯ ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา ปิลินฺทวโจฺฉ ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรํ อาทาย ปิลินฺทคามกํ ปิณฺฑาย ปาวิสิฯ ปิลินฺทคามเก สปทานํ ปิณฺฑาย จรมาโน เยน ตสฺส อารามิกสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฎิวิสฺสเก ปุจฺฉิ – ‘‘กหํ อิมํ อารามิกกุลํ คต’’นฺติ? ‘‘เอติสฺสา, ภเนฺต, สุวณฺณมาลาย การณา รญฺญา พนฺธาปิต’’นฺติฯ
620. Tena kho pana samayena āyasmā pilindavaccho tasmiṃ gāmake kulūpako hoti. Atha kho āyasmā pilindavaccho pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaraṃ ādāya pilindagāmakaṃ piṇḍāya pāvisi. Tena kho pana samayena tasmiṃ gāmake ussavo hoti. Dārakā alaṅkatā mālākitā kīḷanti. Atha kho āyasmā pilindavaccho pilindagāmake sapadānaṃ piṇḍāya caramāno yena aññatarassa ārāmikassa nivesanaṃ tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā paññatte āsane nisīdi. Tena kho pana samayena tassā ārāmikiniyā dhītā aññe dārake alaṅkate mālākite passitvā rodati – ‘‘mālaṃ me detha, alaṅkāraṃ me dethā’’ti. Atha kho āyasmā pilindavaccho taṃ ārāmikiniṃ etadavoca – ‘‘kissāyaṃ dārikā rodatī’’ti? ‘‘Ayaṃ, bhante, dārikā aññe dārake alaṅkate mālākite passitvā rodati – ‘mālaṃ me detha, alaṅkāraṃ me dethā’ti. Kuto amhākaṃ duggatānaṃ mālā kuto, alaṅkāro’’ti? Atha kho āyasmā pilindavaccho aññataraṃ tiṇaṇḍupakaṃ gahetvā taṃ ārāmikiniṃ etadavoca – ‘‘handimaṃ tiṇaṇḍupakaṃ tassā dārikāya sīse paṭimuñcā’’ti. Atha kho sā ārāmikinī taṃ tiṇaṇḍupakaṃ gahetvā tassā dārikāya sīse paṭimuñci. Sā ahosi suvaṇṇamālā abhirūpā dassanīyā pāsādikā. Natthi tādisā raññopi antepure suvaṇṇamālā. Manussā rañño māgadhassa seniyassa bimbisārassa ārocesuṃ – ‘‘amukassa, deva, ārāmikassa ghare suvaṇṇamālā abhirūpā dassanīyā pāsādikā. Natthi tādisā devassāpi antepure suvaṇṇamālā. Kuto tassa duggatassa! Nissaṃsayaṃ corikāya ābhatā’’ti!! Atha kho rājā māgadho seniyo bimbisāro taṃ ārāmikakulaṃ bandhāpesi. Dutiyampi kho āyasmā pilindavaccho pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaraṃ ādāya pilindagāmakaṃ piṇḍāya pāvisi. Pilindagāmake sapadānaṃ piṇḍāya caramāno yena tassa ārāmikassa nivesanaṃ tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā paṭivissake pucchi – ‘‘kahaṃ imaṃ ārāmikakulaṃ gata’’nti? ‘‘Etissā, bhante, suvaṇṇamālāya kāraṇā raññā bandhāpita’’nti.
๖๒๑. อถ โข อายสฺมา ปิลินฺทวโจฺฉ เยน รโญฺญ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญเตฺต อาสเน นิสีทิฯ อถ โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร เยนายสฺมา ปิลินฺทวโจฺฉ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ ปิลินฺทวจฺฉํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข ราชานํ มาคธํ เสนิยํ พิมฺพิสารํ อายสฺมา ปิลินฺทวโจฺฉ เอตทโวจ – ‘‘กิสฺส, มหาราช, อารามิกกุลํ พนฺธาปิต’’นฺติ? ‘‘ตสฺส, ภเนฺต, อารามิกสฺส ฆเร สุวณฺณมาลา อภิรูปา ทสฺสนียา ปาสาทิกาฯ นตฺถิ ตาทิสา อมฺหากมฺปิ อเนฺตปุเร สุวณฺณมาลาฯ กุโต ตสฺส ทุคฺคตสฺส! นิสฺสํสยํ โจริกาย อาภตา’’ติ!! อถ โข อายสฺมา ปิลินฺทวโจฺฉ รโญฺญ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส ปาสาทํ สุวณฺณนฺติ อธิมุจฺจิฯ โส อโหสิ สพฺพโสวณฺณมโยฯ ‘‘อิทํ ปน เต, มหาราช, ตาว พหุํ สุวณฺณํ กุโต’’ติ? ‘‘อญฺญาตํ, ภเนฺต, อยฺยเสฺสเวโส อิทฺธานุภาโว’’ติฯ ตํ อารามิกกุลํ มุญฺจาเปสิฯ มนุสฺสา – ‘‘อเยฺยน กิร ปิลินฺทวเจฺฉน สราชิกาย ปริสาย อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อิทฺธิปาฎิหาริยํ ทสฺสิต’’นฺติ, อตฺตมนา อภิปฺปสนฺนา อายสฺมโต ปิลินฺทวจฺฉสฺส ปญฺจ เภสชฺชานิ อภิหริํสุ, เสยฺยถิทํ – สปฺปิ นวนีตํ เตลํ มธุ ผาณิตํฯ ปกติยาปิ จ อายสฺมา ปิลินฺทวโจฺฉ ลาภี โหติ ปญฺจนฺนํ เภสชฺชานํฯ ลทฺธํ ลทฺธํ ปริสาย วิสฺสเชฺชติฯ ปริสา จสฺส โหติ พาหุลฺลิกาฯ ลทฺธํ ลทฺธํ โกลเมฺพปิ ฆเฎปิ ปูเรตฺวา ปฎิสาเมติ, ปริสฺสาวนานิปิ ถวิกาโยปิ ปูเรตฺวา วาตปาเนสุ ลเคฺคติฯ ตานิ โอลีนวิลีนานิ ติฎฺฐนฺติฯ อุนฺทูเรหิปิ วิหารา โอกิณฺณวิกิณฺณา โหนฺติฯ มนุสฺสา วิหารจาริกํ อาหิณฺฑนฺตา ปสฺสิตฺวา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘อโนฺตโกฎฺฐาคาริกา อิเม สมณา สกฺยปุตฺติยา, เสยฺยถาปิ ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร’’ติ ! อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ มนุสฺสานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ภิกฺขู เอวรูปาย พาหุลฺลาย เจเตสฺสนฺตี’’ติ! อถ โข เต ภิกฺขู เต อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… ‘‘สจฺจํ กิร, ภิกฺขเว, ภิกฺขู เอวรูปาย พาหุลฺลาย เจเตนฺตี’’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม เต, ภิกฺขเว, โมฆปุริสา เอวรูปาย พาหุลฺลาย เจเตสฺสนฺติ! เนตํ, ภิกฺขเว, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –
621. Atha kho āyasmā pilindavaccho yena rañño māgadhassa seniyassa bimbisārassa nivesanaṃ tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā paññatte āsane nisīdi. Atha kho rājā māgadho seniyo bimbisāro yenāyasmā pilindavaccho tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā āyasmantaṃ pilindavacchaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinnaṃ kho rājānaṃ māgadhaṃ seniyaṃ bimbisāraṃ āyasmā pilindavaccho etadavoca – ‘‘kissa, mahārāja, ārāmikakulaṃ bandhāpita’’nti? ‘‘Tassa, bhante, ārāmikassa ghare suvaṇṇamālā abhirūpā dassanīyā pāsādikā. Natthi tādisā amhākampi antepure suvaṇṇamālā. Kuto tassa duggatassa! Nissaṃsayaṃ corikāya ābhatā’’ti!! Atha kho āyasmā pilindavaccho rañño māgadhassa seniyassa bimbisārassa pāsādaṃ suvaṇṇanti adhimucci. So ahosi sabbasovaṇṇamayo. ‘‘Idaṃ pana te, mahārāja, tāva bahuṃ suvaṇṇaṃ kuto’’ti? ‘‘Aññātaṃ, bhante, ayyasseveso iddhānubhāvo’’ti. Taṃ ārāmikakulaṃ muñcāpesi. Manussā – ‘‘ayyena kira pilindavacchena sarājikāya parisāya uttarimanussadhammaṃ iddhipāṭihāriyaṃ dassita’’nti, attamanā abhippasannā āyasmato pilindavacchassa pañca bhesajjāni abhihariṃsu, seyyathidaṃ – sappi navanītaṃ telaṃ madhu phāṇitaṃ. Pakatiyāpi ca āyasmā pilindavaccho lābhī hoti pañcannaṃ bhesajjānaṃ. Laddhaṃ laddhaṃ parisāya vissajjeti. Parisā cassa hoti bāhullikā. Laddhaṃ laddhaṃ kolambepi ghaṭepi pūretvā paṭisāmeti, parissāvanānipi thavikāyopi pūretvā vātapānesu laggeti. Tāni olīnavilīnāni tiṭṭhanti. Undūrehipi vihārā okiṇṇavikiṇṇā honti. Manussā vihāracārikaṃ āhiṇḍantā passitvā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘antokoṭṭhāgārikā ime samaṇā sakyaputtiyā, seyyathāpi rājā māgadho seniyo bimbisāro’’ti ! Assosuṃ kho bhikkhū tesaṃ manussānaṃ ujjhāyantānaṃ khiyyantānaṃ vipācentānaṃ. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma bhikkhū evarūpāya bāhullāya cetessantī’’ti! Atha kho te bhikkhū te anekapariyāyena vigarahitvā bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… ‘‘saccaṃ kira, bhikkhave, bhikkhū evarūpāya bāhullāya cetentī’’ti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma te, bhikkhave, moghapurisā evarūpāya bāhullāya cetessanti! Netaṃ, bhikkhave, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –
๖๒๒. ‘‘ยานิ โข ปน ตานิ คิลานานํ ภิกฺขูนํ ปฎิสายนียานิ เภสชฺชานิ, เสยฺยถิทํ – สปฺปิ นวนีตํ เตลํ มธุ ผาณิตํ, ตานิ ปฎิคฺคเหตฺวา สตฺตาหปรมํ สนฺนิธิการกํ ปริภุญฺชิตพฺพานิฯ ตํ อติกฺกามยโต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติฯ
622.‘‘Yānikho pana tāni gilānānaṃ bhikkhūnaṃ paṭisāyanīyāni bhesajjāni, seyyathidaṃ – sappi navanītaṃ telaṃ madhu phāṇitaṃ, tāni paṭiggahetvā sattāhaparamaṃ sannidhikārakaṃ paribhuñjitabbāni. Taṃ atikkāmayato nissaggiyaṃ pācittiya’’nti.
๖๒๓. ยานิ โข ปน ตานิ คิลานานํ ภิกฺขูนํ ปฎิสายนียานิ เภสฺสชฺชานีติ สปฺปิ นาม โคสปฺปิ วา อชิกาสปฺปิ วา มหิํสสปฺปิ 7 วา เยสํ มํสํ กปฺปติ เตสํ สปฺปิฯ นวนีตํ นาม เตสํ เยว นวนีตํฯ เตลํ นาม ติลเตลํ สาสปเตลํ มธุกเตลํ เอรณฺฑเตลํ วสาเตลํฯ มธุ นาม มกฺขิกามธุฯ ผาณิตํ นาม อุจฺฉุมฺหา นิพฺพตฺตํฯ
623.Yāni kho pana tāni gilānānaṃ bhikkhūnaṃ paṭisāyanīyāni bhessajjānīti sappi nāma gosappi vā ajikāsappi vā mahiṃsasappi 8 vā yesaṃ maṃsaṃ kappati tesaṃ sappi. Navanītaṃ nāma tesaṃ yeva navanītaṃ. Telaṃ nāma tilatelaṃ sāsapatelaṃ madhukatelaṃ eraṇḍatelaṃ vasātelaṃ. Madhu nāma makkhikāmadhu. Phāṇitaṃ nāma ucchumhā nibbattaṃ.
ตานิ ปฎิคฺคเหตฺวา สตฺตาหปรมํ สนฺนิธิการกํ ปริภุญฺชิตพฺพานีติ สตฺตาหปรมตา ปริภุญฺชิตพฺพานิฯ
Tāni paṭiggahetvā sattāhaparamaṃ sannidhikārakaṃ paribhuñjitabbānīti sattāhaparamatā paribhuñjitabbāni.
ตํ อติกฺกามยโต นิสฺสคฺคิยํ โหตีติ อฎฺฐเม อรุณุคฺคมเน นิสฺสคฺคิยํ โหติฯ นิสฺสชฺชิตพฺพํ สงฺฆสฺส วา คณสฺส วา ปุคฺคลสฺส วาฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, นิสฺสชฺชิตพฺพํ…เป.… อิทํ เม, ภเนฺต, เภสชฺชํ สตฺตาหาติกฺกนฺตํ นิสฺสคฺคิยํ, อิมาหํ สงฺฆสฺส นิสฺสชฺชามีติ…เป.… ทเทยฺยาติ…เป.… ทเทยฺยุนฺติ…เป.… อายสฺมโต ทมฺมีติฯ
Taṃ atikkāmayato nissaggiyaṃhotīti aṭṭhame aruṇuggamane nissaggiyaṃ hoti. Nissajjitabbaṃ saṅghassa vā gaṇassa vā puggalassa vā. Evañca pana, bhikkhave, nissajjitabbaṃ…pe… idaṃ me, bhante, bhesajjaṃ sattāhātikkantaṃ nissaggiyaṃ, imāhaṃ saṅghassa nissajjāmīti…pe… dadeyyāti…pe… dadeyyunti…pe… āyasmato dammīti.
๖๒๔. สตฺตาหาติกฺกเนฺต อติกฺกนฺตสญฺญี, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํฯ สตฺตาหาติกฺกเนฺต เวมติโก, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํฯ สตฺตาหาติกฺกเนฺต อนติกฺกนฺตสญฺญี, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํฯ อนธิฎฺฐิเต อธิฎฺฐิตสญฺญี, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํฯ อวิสฺสชฺชิเต วิสฺสชฺชิตสญฺญี, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํฯ อนเฎฺฐ นฎฺฐสญฺญี, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํฯ อวินเฎฺฐ วินฎฺฐสญฺญี, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํฯ อทเฑฺฒ ทฑฺฒสญฺญี, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํฯ อวิลุเตฺต วิลุตฺตสญฺญี, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํฯ
624. Sattāhātikkante atikkantasaññī, nissaggiyaṃ pācittiyaṃ. Sattāhātikkante vematiko, nissaggiyaṃ pācittiyaṃ. Sattāhātikkante anatikkantasaññī, nissaggiyaṃ pācittiyaṃ. Anadhiṭṭhite adhiṭṭhitasaññī, nissaggiyaṃ pācittiyaṃ. Avissajjite vissajjitasaññī, nissaggiyaṃ pācittiyaṃ. Anaṭṭhe naṭṭhasaññī, nissaggiyaṃ pācittiyaṃ. Avinaṭṭhe vinaṭṭhasaññī, nissaggiyaṃ pācittiyaṃ. Adaḍḍhe daḍḍhasaññī, nissaggiyaṃ pācittiyaṃ. Avilutte viluttasaññī, nissaggiyaṃ pācittiyaṃ.
นิสฺสฎฺฐํ ปฎิลภิตฺวา น กายิเกน ปริโภเคน ปริภุญฺชิตพฺพํ, น อโชฺฌหริตพฺพํ, ปทีเป วา กาฬวเณฺณ วา อุปเนตพฺพํ, อเญฺญน ภิกฺขุนา กายิเกน ปริโภเคน ปริภุญฺชิตพฺพํ, น อโชฺฌหริตพฺพํฯ
Nissaṭṭhaṃ paṭilabhitvā na kāyikena paribhogena paribhuñjitabbaṃ, na ajjhoharitabbaṃ, padīpe vā kāḷavaṇṇe vā upanetabbaṃ, aññena bhikkhunā kāyikena paribhogena paribhuñjitabbaṃ, na ajjhoharitabbaṃ.
สตฺตาหานติกฺกเนฺต อติกฺกนฺตสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ สตฺตาหานติกฺกเนฺต เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ สตฺตาหานติกฺกเนฺต อนติกฺกนฺตสญฺญี, อนาปตฺติฯ
Sattāhānatikkante atikkantasaññī, āpatti dukkaṭassa. Sattāhānatikkante vematiko, āpatti dukkaṭassa. Sattāhānatikkante anatikkantasaññī, anāpatti.
๖๒๕. อนาปตฺติ อโนฺตสตฺตาหํ อธิเฎฺฐติ, วิสฺสเชฺชติ, นสฺสติ, วินสฺสติ, ฑยฺหติ, อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหนฺติ, วิสฺสาสํ คณฺหนฺติ, อนุปสมฺปนฺนสฺส จเตฺตน วเนฺตน มุเตฺตน อนเปโกฺข ทตฺวา ปฎิลภิตฺวา ปริภุญฺชติ, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ
625. Anāpatti antosattāhaṃ adhiṭṭheti, vissajjeti, nassati, vinassati, ḍayhati, acchinditvā gaṇhanti, vissāsaṃ gaṇhanti, anupasampannassa cattena vantena muttena anapekkho datvā paṭilabhitvā paribhuñjati, ummattakassa, ādikammikassāti.
เภสชฺชสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ ตติยํฯ
Bhesajjasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ tatiyaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๓. เภสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา • 3. Bhesajjasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๓. เภสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา • 3. Bhesajjasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๓. เภสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา • 3. Bhesajjasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๓. เภสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา • 3. Bhesajjasikkhāpadavaṇṇanā