Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วินยวินิจฺฉย-ฎีกา • Vinayavinicchaya-ṭīkā

    ภิกฺขุนิกฺขนฺธกกถาวณฺณนา

    Bhikkhunikkhandhakakathāvaṇṇanā

    ๒๙๕๒. วิวริตฺวาน จีวรํ อปเนตฺวาฯ

    2952.Vivaritvāna cīvaraṃ apanetvā.

    ๒๙๕๓. ยํ กิญฺจิ สมฺปโยเชนฺติยาติ ยํ กิญฺจิ อนาจารํ กโรนฺติยาฯ ตโตติ เตน อนาจารสงฺขาเตน อสทฺธเมฺมนฯ ภาสนฺติยาติ วาจาย ภาสนฺติยาฯ

    2953.Yaṃ kiñci sampayojentiyāti yaṃ kiñci anācāraṃ karontiyā. Tatoti tena anācārasaṅkhātena asaddhammena. Bhāsantiyāti vācāya bhāsantiyā.

    ๒๙๕๔-๖. ทีฆนฺติ เอกปริเกฺขปโต ทีฆํฯ วิลีเวน จ ปเฎฺฎนาติ สเณฺหหิปิ วิลีเวหิ กตปเฎฺฎนฯ จมฺมปเฎฺฎนาติ จมฺมมยปเฎฺฎนฯ ทุสฺสปเฎฺฎนาติ เสตวเตฺถนฯ ทุสฺสเวณิยาติ ทุเสฺสน คณฺฐิตเวณิยาฯ ทุสฺสวฎฺฎิยาติ ทุเสฺสน กตวฎฺฎิยา ฯ น ผาสุกา นเมตพฺพาติ มชฺฌิมสฺส ตนุภาวตฺถาย คามทาริกา วิย ผาสุลิกา น นาเมตพฺพาฯ ชฆนนฺติ มุตฺตกรณปฺปเทสํฯ อฎฺฐิกาทินาติ โคชาณุฎฺฐิกาทินาฯ น ฆํสาเปยฺยาติ น ฆฎฺฎาเปยฺยฯ ‘‘อฎฺฐิกาทินา’’ติ อิทํ ‘‘น ฆํสาเปยฺยา’’ติ อิมินา จ ‘‘โกฎฺฎาเปตี’’ติ อิมินา กิริยาปเทน จ สมฺพนฺธิตพฺพํฯ

    2954-6.Dīghanti ekaparikkhepato dīghaṃ. Vilīvena ca paṭṭenāti saṇhehipi vilīvehi katapaṭṭena. Cammapaṭṭenāti cammamayapaṭṭena. Dussapaṭṭenāti setavatthena. Dussaveṇiyāti dussena gaṇṭhitaveṇiyā. Dussavaṭṭiyāti dussena katavaṭṭiyā . Na phāsukā nametabbāti majjhimassa tanubhāvatthāya gāmadārikā viya phāsulikā na nāmetabbā. Jaghananti muttakaraṇappadesaṃ. Aṭṭhikādināti gojāṇuṭṭhikādinā. Na ghaṃsāpeyyāti na ghaṭṭāpeyya. ‘‘Aṭṭhikādinā’’ti idaṃ ‘‘na ghaṃsāpeyyā’’ti iminā ca ‘‘koṭṭāpetī’’ti iminā kiriyāpadena ca sambandhitabbaṃ.

    ๒๙๕๗. ‘‘โกฎฺฎาเปตี’’ติ อิทํ ‘‘หตฺถํ วา’’ติอาทีหิ อุปโยคนฺตปเทหิ ปเจฺจกํ โยเชตพฺพํฯ หตฺถนฺติ อคฺคพาหํฯ หตฺถโกจฺฉนฺติ ปิฎฺฐิหตฺถํฯ ปาทนฺติ ชงฺฆํฯ

    2957.‘‘Koṭṭāpetī’’ti idaṃ ‘‘hatthaṃ vā’’tiādīhi upayogantapadehi paccekaṃ yojetabbaṃ. Hatthanti aggabāhaṃ. Hatthakocchanti piṭṭhihatthaṃ. Pādanti jaṅghaṃ.

    ๒๙๕๘. น มุขํ ลิมฺปิตพฺพนฺติ ฉวิปสาทกเรน ติลสาสปกกฺกาทินา อเนกวิเธน ลิมฺปเนน น ลิมฺปิตพฺพํฯ น จุเณฺณตพฺพนฺติ มุขจุณฺณเลปนํ น กาตพฺพํฯ มโนสิลาย มุขํ ลญฺชนฺติยา อาปตฺติ สิยาติ โยชนาฯ

    2958.Na mukhaṃ limpitabbanti chavipasādakarena tilasāsapakakkādinā anekavidhena limpanena na limpitabbaṃ. Na cuṇṇetabbanti mukhacuṇṇalepanaṃ na kātabbaṃ. Manosilāya mukhaṃ lañjantiyā āpatti siyāti yojanā.

    ๒๙๕๙. องฺคราโค น กาตโพฺพติ หลิทฺทิกุงฺกุมาทีหิ สรีรจฺฉวิราโค น กาตโพฺพฯ อวงฺคํ น จ กาตพฺพนฺติ อญฺชนํ พหิ อกฺขิโกฎิยา เลขํ ฐเปตฺวา น อญฺชิตพฺพํฯ น กาตพฺพํ วิเสสกนฺติ คณฺฑปเทเส วิจิตฺรสณฺฐานํ วิเสสกํ วตฺตภงฺคํ น กาตพฺพํฯ

    2959.Aṅgarāgo na kātabboti haliddikuṅkumādīhi sarīracchavirāgo na kātabbo. Avaṅgaṃ na ca kātabbanti añjanaṃ bahi akkhikoṭiyā lekhaṃ ṭhapetvā na añjitabbaṃ. Na kātabbaṃ visesakanti gaṇḍapadese vicitrasaṇṭhānaṃ visesakaṃ vattabhaṅgaṃ na kātabbaṃ.

    ๒๙๖๐. โอโลกนกโตติ วาตปานโตฯ ราคาติ กามราเคนฯ โอโลเกตุนฺติ อนฺตรวีถิํ วิโลเกตุํ, สาโลเก น จ ฐาตพฺพนฺติ โยชนาฯ สาโลเก ทฺวารํ วิวริตฺวา อุปฑฺฒกายํ ทเสฺสนฺตีหิ น ฐาตพฺพํฯ สนจฺจนฺติ นฎสมชฺชํฯ

    2960.Olokanakatoti vātapānato. Rāgāti kāmarāgena. Oloketunti antaravīthiṃ viloketuṃ, sāloke na ca ṭhātabbanti yojanā. Sāloke dvāraṃ vivaritvā upaḍḍhakāyaṃ dassentīhi na ṭhātabbaṃ. Sanaccanti naṭasamajjaṃ.

    ๒๙๖๑. คณิกํ วุฎฺฐาเปนฺติยา เวสิํ วุฎฺฐาเปนฺติยาฯ ‘‘วิกฺกิณนฺติยา’’ติ อิทํ ‘‘สุร’’นฺติอาทีหิ อุปโยคนฺตปเทหิ ปเจฺจกํ โยเชตพฺพํฯ

    2961.Gaṇikaṃ vuṭṭhāpentiyā vesiṃ vuṭṭhāpentiyā. ‘‘Vikkiṇantiyā’’ti idaṃ ‘‘sura’’ntiādīhi upayogantapadehi paccekaṃ yojetabbaṃ.

    ๒๙๖๓. เจวุปฎฺฐาเปตโพฺพติ อตฺตโน เวยฺยาวจฺจํ เนว การาเปตโพฺพฯ ติรจฺฉานคโตปิ ทาโส วา ทาสี วา ติรจฺฉานคโตปิ กมฺมกโร วา น เจว อุปฎฺฐาเปตโพฺพ เนว อตฺตโน เวยฺยาวจฺจํ การาเปตโพฺพฯ อปิ-สเทฺทน ปเคว มนุสฺสภูโตติ ทีเปติฯ

    2963.Nacevupaṭṭhāpetabboti attano veyyāvaccaṃ neva kārāpetabbo. Tiracchānagatopi dāso vā dāsī vā tiracchānagatopi kammakaro vā na ceva upaṭṭhāpetabbo neva attano veyyāvaccaṃ kārāpetabbo. Api-saddena pageva manussabhūtoti dīpeti.

    ๒๙๖๔. ‘‘สพฺพนีลาทิ’’นฺติ อิมินา –

    2964.‘‘Sabbanīlādi’’nti iminā –

    ‘‘สพฺพนีลกมเญฺชฎฺฐ-กณฺหโลหิตปีตเก;

    ‘‘Sabbanīlakamañjeṭṭha-kaṇhalohitapītake;

    มหานามมหารงฺค-รเตฺตสู’’ติฯ (วิ. วิ. ๕๙๘) –

    Mahānāmamahāraṅga-rattesū’’ti. (vi. vi. 598) –

    วุตฺตานิ อกปฺปิยจีวรานิ สงฺคหิตานิฯ ‘‘นมตกํ นาม เอฬกโลเมหิ กตํ อวายิมํ จมฺมขณฺฑปริโภเคน ปริภุญฺชิตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. อฎฺฐ. ๒๖๔) อฎฺฐกถาย วุตฺตตฺตา, คณฺฐิปเท จ ‘‘สนฺถรณสทิโส ปิโลติกาหิ กโต ปริกฺขารวิเสโส’’ติ วุตฺตตฺตา จ นิปชฺชาย ปริภุญฺชิตโพฺพ ปริกฺขารวิเสโส นมตกํ นามฯ

    Vuttāni akappiyacīvarāni saṅgahitāni. ‘‘Namatakaṃ nāma eḷakalomehi kataṃ avāyimaṃ cammakhaṇḍaparibhogena paribhuñjitabba’’nti (cūḷava. aṭṭha. 264) aṭṭhakathāya vuttattā, gaṇṭhipade ca ‘‘santharaṇasadiso pilotikāhi kato parikkhāraviseso’’ti vuttattā ca nipajjāya paribhuñjitabbo parikkhāraviseso namatakaṃ nāma.

    ๒๙๖๕. ฉนฺนมฺปิ ปุริสพฺยญฺชนํ ‘‘เอตฺถา’’ติ จิเนฺตตฺวา ราคจิเตฺตน โอโลเกนฺติยา ทุกฺกฎํ โหติฯ สพฺพนฺติ วุตฺตปฺปการํ สพฺพํฯ

    2965. Channampi purisabyañjanaṃ ‘‘etthā’’ti cintetvā rāgacittena olokentiyā dukkaṭaṃ hoti. Sabbanti vuttappakāraṃ sabbaṃ.

    ๒๙๖๖. ภิกฺขุํ ทูรโตว ปสฺสิตฺวา ตสฺส ภิกฺขุโน ทูรโต โอกฺกมิตฺวาน มโคฺค ทาตโพฺพติ โยชนาฯ

    2966. Bhikkhuṃ dūratova passitvā tassa bhikkhuno dūrato okkamitvāna maggo dātabboti yojanā.

    ๒๙๖๗. ภิกฺขํ จรนฺติยา ภิกฺขุนิยา ภิกฺขุํ ปสฺสิตฺวา ปน เยน ภิกฺขาย จรติ, ตํ ปตฺตํ นีหริตฺวา อุปริ ฉาเทตฺวา ฐิตํ สงฺฆาฎิจีวรํ อปเนตฺวา อุกฺกุชฺชํ อุทฺธํมุขํ กตฺวา ภิกฺขุโน ทเสฺสตพฺพนฺติ โยชนาฯ

    2967. Bhikkhaṃ carantiyā bhikkhuniyā bhikkhuṃ passitvā pana yena bhikkhāya carati, taṃ pattaṃ nīharitvā upari chādetvā ṭhitaṃ saṅghāṭicīvaraṃ apanetvā ukkujjaṃ uddhaṃmukhaṃ katvā bhikkhuno dassetabbanti yojanā.

    ๒๙๖๘. อุตุนีนํ ภิกฺขุนีนํ อุตุกาเล สญฺชาตปุเปฺผ กาเล สํเวลฺลิกํ กาตุํ กจฺฉํ พนฺธิตุํ มเหสินา กฎิสุตฺตกํ อนุญฺญาตนฺติ โยชนา, อิมินา อญฺญสฺมิํ กาเล กฎิสุตฺตกํ พนฺธิตุํ น วฎฺฎตีติ ทีเปติฯ ยถาห – ‘‘น, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนิยา สพฺพกาลํ กฎิสุตฺตกํ ธาเรตพฺพํ, ยา ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุตุนิยา กฎิสุตฺตก’’นฺติ (จูฬว. ๔๒๒)ฯ

    2968.Utunīnaṃ bhikkhunīnaṃ utukāle sañjātapupphe kāle saṃvellikaṃ kātuṃ kacchaṃ bandhituṃ mahesinā kaṭisuttakaṃ anuññātanti yojanā, iminā aññasmiṃ kāle kaṭisuttakaṃ bandhituṃ na vaṭṭatīti dīpeti. Yathāha – ‘‘na, bhikkhave, bhikkhuniyā sabbakālaṃ kaṭisuttakaṃ dhāretabbaṃ, yā dhāreyya, āpatti dukkaṭassa. Anujānāmi, bhikkhave, utuniyā kaṭisuttaka’’nti (cūḷava. 422).

    ๒๙๖๙. อิตฺถิโปสยุตนฺติ อิตฺถีหิ วา ปุริเสหิ วา อิตฺถิปุริเสหิ วา ยุตฺตํฯ อิตฺถิโปสยุตฺตํ หตฺถวฎฺฎกเมว วาฯ ปาฎงฺกีติ ปฎโปฎฺฎลิกํฯ

    2969.Itthiposayutanti itthīhi vā purisehi vā itthipurisehi vā yuttaṃ. Itthiposayuttaṃ hatthavaṭṭakameva vā. Pāṭaṅkīti paṭapoṭṭalikaṃ.

    ๒๙๗๐. ครุธเมฺมติ สงฺฆาทิเสเสฯ มานตฺตนฺติ ปกฺขมานตฺตํฯ สมฺมนฺนิตฺวาติ ญตฺติทุติยาย กมฺมวาจาย สมฺมนฺนิตฺวาฯ

    2970.Garudhammeti saṅghādisese. Mānattanti pakkhamānattaṃ. Sammannitvāti ñattidutiyāya kammavācāya sammannitvā.

    ๒๙๗๑. ยสฺสา อิตฺถิยา ปพฺพชิตกาเล คโพฺภ วุฎฺฐาติ วิชายติ ยทิ, ปุโตฺต เจ, ตสฺสาปิ ทารกมาตุ ยาว โส ทารโก วิญฺญุตํ ปาปุณาติ, ยาว ขาทิตุํ, ภุญฺชิตุํ, นหายิตุญฺจ อตฺตโน ธมฺมตาย สโกฺกติ, ตาว ทุติยา ภิกฺขุนี ตถา สมฺมนฺนิตฺวา ทาตพฺพาติ โยชนาฯ

    2971. Yassā itthiyā pabbajitakāle gabbho vuṭṭhāti vijāyati yadi, putto ce, tassāpi dārakamātu yāva so dārako viññutaṃ pāpuṇāti, yāva khādituṃ, bhuñjituṃ, nahāyituñca attano dhammatāya sakkoti, tāva dutiyā bhikkhunī tathā sammannitvā dātabbāti yojanā.

    ๒๙๗๒. สา ปน มาตา ภิกฺขุนี อตฺตโน ปุตฺตํ ปาเยตุํ, โภเชตุํ, มเณฺฑตุํ, อุเร กตฺวา สยิตุญฺจ ลภตีติ โยชนาฯ

    2972.pana mātā bhikkhunī attano puttaṃ pāyetuṃ, bhojetuṃ, maṇḍetuṃ, ure katvā sayituñca labhatīti yojanā.

    ๒๙๗๓. ทุติยิกาย ภิกฺขุนิยา ทารเกน สหเสยฺยํ ฐเปตฺวา ยถา อเญฺญสุ ปุริเสสุ วตฺติตพฺพํ ปฎิปชฺชิตพฺพํ, ตถา เอว ตสฺมิํ ทารเก วตฺติตพฺพนฺติ โยชนาฯ

    2973.Dutiyikāya bhikkhuniyā dārakena sahaseyyaṃ ṭhapetvā yathā aññesu purisesu vattitabbaṃ paṭipajjitabbaṃ, tathā eva tasmiṃ dārake vattitabbanti yojanā.

    ๒๙๗๔. วิพฺภเมเนวาติ อตฺตโน รุจิยา เสตวตฺถานํ คหเณเนวฯ ยถาห – ‘‘ยสฺมา สา วิพฺภนฺตา อตฺตโน รุจิยา ขนฺติยา โอทาตานิ วตฺถานิ นิวตฺถา, ตสฺมาเยว สา อภิกฺขุนี, น สิกฺขาปจฺจกฺขาเนนา’’ติ (จูฬว. อฎฺฐ. ๔๓๔)ฯ อิธาติ อิมสฺมิํ สาสเนฯ

    2974.Vibbhamenevāti attano ruciyā setavatthānaṃ gahaṇeneva. Yathāha – ‘‘yasmā sā vibbhantā attano ruciyā khantiyā odātāni vatthāni nivatthā, tasmāyeva sā abhikkhunī, na sikkhāpaccakkhānenā’’ti (cūḷava. aṭṭha. 434). Idhāti imasmiṃ sāsane.

    ๒๙๗๕. คตายาติ เอตฺถ ‘‘สกาวาสา’’ติ เสโสฯ ยถาห – ‘‘ยา สา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนี สกาวาสา ติตฺถายตนํ สงฺกนฺตา, สา อาคตา น อุปสมฺปาเทตพฺพา’’ติฯ น เกวลํ น อุปสมฺปาเทตพฺพา, ปพฺพชฺชมฺปิ น ลภติฯ โอทาตานิ คเหตฺวา วิพฺภนฺตา ปน ปพฺพชฺชามตฺตํ ลภติฯ

    2975.Gatāyāti ettha ‘‘sakāvāsā’’ti seso. Yathāha – ‘‘yā sā, bhikkhave, bhikkhunī sakāvāsā titthāyatanaṃ saṅkantā, sā āgatā na upasampādetabbā’’ti. Na kevalaṃ na upasampādetabbā, pabbajjampi na labhati. Odātāni gahetvā vibbhantā pana pabbajjāmattaṃ labhati.

    ๒๙๗๖. วนฺทนนฺติ ปาเท สมฺพาเหตฺวา วนฺทนํฯ สาทิตุํ วฎฺฎตีติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สาทิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๔๓๔) อนุญฺญาตตฺตา วฎฺฎติฯ ตเตฺรเก อาจริยา ‘‘สเจ เอกโต วา อุภโต วา อวสฺสุตา โหนฺติ สารตฺตา, ยถาวตฺถุกเมวา’’ติ วทนฺติฯ เอเก อาจริยา ‘‘นตฺถิ เอตฺถ อาปตฺตี’’ติ วทนฺตีติ เอวํ อาจริยวาทํ ทเสฺสตฺวา ‘‘อิทํ โอทิสฺส อนุญฺญาตํ วฎฺฎตี’’ติ อฎฺฐกถาสุ วุตฺตํ, ตํ ปมาณํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สาทิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๔๓๔) หิ วจเนเนว กปฺปิยํฯ

    2976.Vandananti pāde sambāhetvā vandanaṃ. Sādituṃ vaṭṭatīti ‘‘anujānāmi, bhikkhave, sāditu’’nti (cūḷava. 434) anuññātattā vaṭṭati. Tatreke ācariyā ‘‘sace ekato vā ubhato vā avassutā honti sārattā, yathāvatthukamevā’’ti vadanti. Eke ācariyā ‘‘natthi ettha āpattī’’ti vadantīti evaṃ ācariyavādaṃ dassetvā ‘‘idaṃ odissa anuññātaṃ vaṭṭatī’’ti aṭṭhakathāsu vuttaṃ, taṃ pamāṇaṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, sāditu’’nti (cūḷava. 434) hi vacaneneva kappiyaṃ.

    ๒๙๗๗. ยาย กายจิ วจฺจกุฎิยา วโจฺจ น กาตโพฺพ, เหฎฺฐา วิวเฎ อุทฺธํ ปฎิจฺฉเนฺน ปน วจฺจํ กาตุํ วฎฺฎติฯ เหฎฺฐา วิวเฎ อุปริ ปฎิจฺฉเนฺนติ อฎฺฐกถายํ ‘‘สเจ กูโป ขโต โหติ, อุปริ ปน ปทรมตฺตเมว สพฺพทิสาสุ ปญฺญายติ, เอวรูเปปิ วฎฺฎตี’’ติ (จูฬว. อฎฺฐ. ๔๓๕) วุตฺตํฯ

    2977. Yāya kāyaci vaccakuṭiyā vacco na kātabbo, heṭṭhā vivaṭe uddhaṃ paṭicchanne pana vaccaṃ kātuṃ vaṭṭati. Heṭṭhā vivaṭe upari paṭicchanneti aṭṭhakathāyaṃ ‘‘sace kūpo khato hoti, upari pana padaramattameva sabbadisāsu paññāyati, evarūpepi vaṭṭatī’’ti (cūḷava. aṭṭha. 435) vuttaṃ.

    ๒๙๗๘. สพฺพตฺถาติ ภิกฺขุนิอุปสฺสยอนฺตรฆราทิสพฺพฎฺฐาเนสุฯ คิลานายาติ ยสฺสา วินา ปลฺลงฺกํ น ผาสุ โหติฯ อฑฺฒปลฺลงฺกนฺติ เอกปาทํ อาภุชิตฺวา กตปลฺลงฺกํฯ โส เอกํ ปณฺหิํ อูรุมูลาสนฺนํ กตฺวา อิตรํ ทูเร กตฺวา อาภุชิตปลฺลโงฺก นามฯ

    2978.Sabbatthāti bhikkhuniupassayaantaragharādisabbaṭṭhānesu. Gilānāyāti yassā vinā pallaṅkaṃ na phāsu hoti. Aḍḍhapallaṅkanti ekapādaṃ ābhujitvā katapallaṅkaṃ. So ekaṃ paṇhiṃ ūrumūlāsannaṃ katvā itaraṃ dūre katvā ābhujitapallaṅko nāma.

    ๒๙๗๙. นรติเตฺถติ ปุริสานํ นหานติเตฺถฯ ยถาห – ‘‘น, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนิยา ปุริสติเตฺถ นหายิตพฺพํ, ยา นหาเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มหิลาติเตฺถ นหายิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๔๓๖)ฯ

    2979.Naratittheti purisānaṃ nahānatitthe. Yathāha – ‘‘na, bhikkhave, bhikkhuniyā purisatitthe nahāyitabbaṃ, yā nahāyeyya, āpatti dukkaṭassa. Anujānāmi, bhikkhave, mahilātitthe nahāyitu’’nti (cūḷava. 436).

    ๒๙๘๐. ยา สมณี คนฺธจุเณฺณน วา วาสิตมตฺติยา วาสิตกาย มตฺติกาย วา ปฎิโสเต วา นฺหาเยยฺย, ตสฺสา อาปตฺติ ทุกฺกฎนฺติ โยชนาฯ วาสิตวิเสสเนน อวาสิตา วฎฺฎตีติ ทีเปติฯ ยถาห – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปกติมตฺติก’’นฺติ (จูฬว. ๔๓๖)ฯ

    2980. Yā samaṇī gandhacuṇṇena vā vāsitamattiyā vāsitakāya mattikāya vā paṭisote vā nhāyeyya, tassā āpatti dukkaṭanti yojanā. Vāsitavisesanena avāsitā vaṭṭatīti dīpeti. Yathāha – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, pakatimattika’’nti (cūḷava. 436).

    ๒๙๘๑. อภุตฺวาติ เอตฺถ อามิสอคฺคํ คหณมตฺตมฺปิ อกตฺวา, ปตฺตจีวรํ กติปยทิวสานิปิ อปริภุญฺชิตฺวาติ อโตฺถฯ สเจ อสปฺปายํ, สพฺพมฺปิ อปเนตุํ วฎฺฎติฯ

    2981.Abhutvāti ettha āmisaaggaṃ gahaṇamattampi akatvā, pattacīvaraṃ katipayadivasānipi aparibhuñjitvāti attho. Sace asappāyaṃ, sabbampi apanetuṃ vaṭṭati.

    ๒๙๘๒. อนุปสมฺปเนฺน อสเนฺต สพฺพํ ภิกฺขูหิ ปฎิคฺคหิตํ วา อปฺปฎิคฺคหิตํ วา สนฺนิธิกตํ วา สพฺพํ อโชฺฌหรณียํ ภิกฺขูหิ ปฎิคฺคหาเปตฺวา ปริภุญฺชิตุํ ภิกฺขุนีนํ วฎฺฎตีติ โยชนาฯ ‘‘ภิกฺขุนีนํ วฎฺฎตี’’ติ อิทํ ปกรณวเสน วุตฺตํฯ ภิกฺขุนีหิปิ ปฎิคฺคหาเปตฺวา ภิกฺขูนมฺปิ ตถาวิธํ ปริภุญฺชิตุํ วฎฺฎติฯ ยถาห – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ สนฺนิธิํ ภิกฺขุนีหิ ปฎิคฺคาหาเปตฺวา ปริภุญฺชิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๔๒๑)ฯ

    2982. Anupasampanne asante sabbaṃ bhikkhūhi paṭiggahitaṃ vā appaṭiggahitaṃ vā sannidhikataṃ vā sabbaṃ ajjhoharaṇīyaṃ bhikkhūhi paṭiggahāpetvā paribhuñjituṃ bhikkhunīnaṃ vaṭṭatīti yojanā. ‘‘Bhikkhunīnaṃ vaṭṭatī’’ti idaṃ pakaraṇavasena vuttaṃ. Bhikkhunīhipi paṭiggahāpetvā bhikkhūnampi tathāvidhaṃ paribhuñjituṃ vaṭṭati. Yathāha – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, bhikkhūnaṃ sannidhiṃ bhikkhunīhi paṭiggāhāpetvā paribhuñjitu’’nti (cūḷava. 421).

    ภิกฺขุนิกฺขนฺธกกถาวณฺณนาฯ

    Bhikkhunikkhandhakakathāvaṇṇanā.

    อิติ วินยตฺถสารสนฺทีปนิยา วินยวินิจฺฉยวณฺณนาย

    Iti vinayatthasārasandīpaniyā vinayavinicchayavaṇṇanāya

    ขนฺธกกถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Khandhakakathāvaṇṇanā niṭṭhitā.





    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact