Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā |
ภิกฺขุนีอุปสมฺปทานุชานนกถาวณฺณนา
Bhikkhunīupasampadānujānanakathāvaṇṇanā
๔๐๔. ยทเคฺคน ยํ ทิวสํ อาทิํ กตฺวาฯ ตเทวาติ ตสฺมิํ เอว ทิวเสฯ ‘‘อนุญตฺติยา’’ติ ปาโฐฯ ‘‘อนุปญฺญตฺติยา’’ติ น สุนฺทรํฯ
404.Yadaggena yaṃ divasaṃ ādiṃ katvā. Tadevāti tasmiṃ eva divase. ‘‘Anuñattiyā’’ti pāṭho. ‘‘Anupaññattiyā’’ti na sundaraṃ.
๔๐๕. ‘‘ปฎิคฺคณฺหามิ ยาวชีวํ อนติกฺกมนีโย’’ติ วตฺวา อิทานิ กิํ การณา วรํ ยาจตีติ เจ? ปรูปวาทวิวชฺชนตฺถํฯ ทุพฺพุทฺธิโน หิ เกจิ วเทยฺยุํ ‘‘มหาปชาปติยา ปฐมํ สมฺปฎิจฺฉิตตฺตา อุภโตสงฺฆสฺส ยถาวุฑฺฒอภิวาทนํ น ชาตํฯ โคตมี เจ วรํ ยาเจยฺย, ภควา อนุชาเนยฺยา’’ติฯ
405. ‘‘Paṭiggaṇhāmi yāvajīvaṃ anatikkamanīyo’’ti vatvā idāni kiṃ kāraṇā varaṃ yācatīti ce? Parūpavādavivajjanatthaṃ. Dubbuddhino hi keci vadeyyuṃ ‘‘mahāpajāpatiyā paṭhamaṃ sampaṭicchitattā ubhatosaṅghassa yathāvuḍḍhaabhivādanaṃ na jātaṃ. Gotamī ce varaṃ yāceyya, bhagavā anujāneyyā’’ti.
๔๐๘. วิมาเนตฺวาติ อปรชฺฌิตฺวาฯ
408.Vimānetvāti aparajjhitvā.
๔๑๐-๓. กมฺมปฺปตฺตาโยปีติ กมฺมารหาปิฯ อาปตฺติคามินิโยปีติ อาปตฺติํ อาปนฺนาโยปิฯ เทฺว ติโสฺส ภิกฺขุนิโยติ ทฺวีหิ ตีหิ ภิกฺขุนีหิฯ ‘‘มโนสิลิกายา’’ติ ปาโฐฯ
410-3.Kammappattāyopīti kammārahāpi. Āpattigāminiyopīti āpattiṃ āpannāyopi. Dve tisso bhikkhuniyoti dvīhi tīhi bhikkhunīhi. ‘‘Manosilikāyā’’ti pāṭho.
๔๒๐. ‘‘เตน จ ภิกฺขุ นิมเนฺตตโพฺพ’’ติ สามีจิวเสน วุตฺตํฯ
420. ‘‘Tena ca bhikkhu nimantetabbo’’ti sāmīcivasena vuttaṃ.
๔๒๒-๓. ‘‘อนุชานามิ…เป.… ตาวกาลิก’’นฺติ ปุคฺคลิกํ สนฺธาย วุตฺตํ, น สงฺฆิกนฺติ อาจริโยฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุตุนิยา กฎิสุตฺตก’’นฺติ วจนโต ภิกฺขุสฺส วินิพนฺธํ กฎิสุตฺตกํ น วฎฺฎติฯ ปคฺฆรนฺตี วิสวิณาฯ เวปุริสิกา มสฺสุทาฐีฯ
422-3. ‘‘Anujānāmi…pe… tāvakālika’’nti puggalikaṃ sandhāya vuttaṃ, na saṅghikanti ācariyo. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, utuniyā kaṭisuttaka’’nti vacanato bhikkhussa vinibandhaṃ kaṭisuttakaṃ na vaṭṭati. Paggharantī visaviṇā. Vepurisikā massudāṭhī.
๔๒๕. ตโย นิสฺสเยติ รุกฺขมูลญฺหิ สา น ลภติฯ
425.Tayo nissayeti rukkhamūlañhi sā na labhati.
๔๒๖. ภตฺตเคฺค สเจ ทายกา ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส ภุตฺตวโต จตุปจฺจเย ทาตุกามา โหนฺติ, ยถาวุฑฺฒเมวฯ
426. Bhattagge sace dāyakā bhikkhunisaṅghassa bhuttavato catupaccaye dātukāmā honti, yathāvuḍḍhameva.
๔๒๗. วิกาเลติ ยาว วิกาเล โหนฺติ, ตาว ปวาเรสุนฺติ อโตฺถฯ อชฺชตฺตนาติ อชฺชตนาฯ
427.Vikāleti yāva vikāle honti, tāva pavāresunti attho. Ajjattanāti ajjatanā.
๔๒๘. อนุวาทนฺติ อิสฺสริยฎฺฐานํฯ อิทํ สพฺพํ ‘‘อชฺชตเคฺค โอวโฎ ภิกฺขุนีนํ ภิกฺขูสุ วจนปโถ’’ติ ปญฺญตฺตสฺส ครุธมฺมสฺส วีติกฺกมอาปตฺติปญฺญาปนตฺถํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ, อญฺญถา เยสํ ครุธมฺมานํ ปฎิคฺคหเณน ภิกฺขุนีนํ อุปสมฺปทา อนุญฺญาตา, เตสํ วีติกฺกเม อนุปสมฺปนฺนาว สิยาติ อาสงฺกา ภเวยฺยฯ
428.Anuvādanti issariyaṭṭhānaṃ. Idaṃ sabbaṃ ‘‘ajjatagge ovaṭo bhikkhunīnaṃ bhikkhūsu vacanapatho’’ti paññattassa garudhammassa vītikkamaāpattipaññāpanatthaṃ vuttanti veditabbaṃ, aññathā yesaṃ garudhammānaṃ paṭiggahaṇena bhikkhunīnaṃ upasampadā anuññātā, tesaṃ vītikkame anupasampannāva siyāti āsaṅkā bhaveyya.
๔๒๙. อิตฺถิยุเตฺตนาติ อิตฺถีหิ คาวีอาทีหิ ธุรฎฺฐาเน ยุเตฺตนฯ ปุริสนฺตเรนาติ ปุริเสน อนฺตริเกนฯ ‘‘ปุริสทุติเยนา’’ติ ลิขิตํ, ปุริสสารถินาติ อธิปฺปาโยฯ ‘‘พาฬฺหตรํ อผาสู’’ติ วจนโต คิลานาย วฎฺฎติเจฺจว สิทฺธํ, ภควนฺตํ อาปุจฺฉิตฺวา อนุญฺญาตฎฺฐาเน อุปสมฺปชฺชิสฺสามีติ อธิปฺปาโยฯ
429.Itthiyuttenāti itthīhi gāvīādīhi dhuraṭṭhāne yuttena. Purisantarenāti purisena antarikena. ‘‘Purisadutiyenā’’ti likhitaṃ, purisasārathināti adhippāyo. ‘‘Bāḷhataraṃ aphāsū’’ti vacanato gilānāya vaṭṭaticceva siddhaṃ, bhagavantaṃ āpucchitvā anuññātaṭṭhāne upasampajjissāmīti adhippāyo.
๔๓๐. สา เกนจิเทว อนฺตราเยนาติ สพฺพนฺตรายสงฺคหนวจนํ, ตสฺมา ตํ น อนฺตรายํ กิเตฺตตฺวา, วุตฺตนฺตราเยน ‘‘ราชนฺตราเยนา’’ติ สาเธตพฺพนฺติ อาจริโยฯ
430.Sā kenacideva antarāyenāti sabbantarāyasaṅgahanavacanaṃ, tasmā taṃ na antarāyaṃ kittetvā, vuttantarāyena ‘‘rājantarāyenā’’ti sādhetabbanti ācariyo.
๔๓๑-๒. ‘‘นวกมฺมนฺติ กตฺวา ‘เอตฺตกานิ วสฺสานิ วสตู’ติ อปโลเกตฺวา สงฺฆิกภูมิทาน’’นฺติ ลิขิตํฯ ‘‘สาคาร’’นฺติ วุตฺตตฺตา อคารปฎิสํยุตฺตรโหนิสชฺชสิกฺขาทิวชฺชิตาติ เกจิ, ยุตฺตเมตํฯ กสฺมา? ‘‘สหาคารเสยฺยมตฺตํ ฐเปตฺวา’’ติ อฎฺฐกถายํ วุตฺตตฺตาฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โปเสตุ’’นฺติ วจนโต โปสนยุตฺตกมฺมํ สพฺพํ วฎฺฎติ มาตุยา, น อเญฺญสํฯ วสิตุํ เจ น สโกฺกติ ทุติยํ วินา, สมฺมนฺนิตฺวาว ทาตพฺพา ตาย อิติ โน มติฯ กิตฺตกํ กาลํ? วสิตฺวา เจ ทุติยา คนฺตุมิจฺฉติ, อญฺญํ สมฺมนฺนิตุํ ยุตฺตาวฯ สา วิชาตา ลเภติ อาจริโยฯ
431-2. ‘‘Navakammanti katvā ‘ettakāni vassāni vasatū’ti apaloketvā saṅghikabhūmidāna’’nti likhitaṃ. ‘‘Sāgāra’’nti vuttattā agārapaṭisaṃyuttarahonisajjasikkhādivajjitāti keci, yuttametaṃ. Kasmā? ‘‘Sahāgāraseyyamattaṃ ṭhapetvā’’ti aṭṭhakathāyaṃ vuttattā. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, posetu’’nti vacanato posanayuttakammaṃ sabbaṃ vaṭṭati mātuyā, na aññesaṃ. Vasituṃ ce na sakkoti dutiyaṃ vinā, sammannitvāva dātabbā tāya iti no mati. Kittakaṃ kālaṃ? Vasitvā ce dutiyā gantumicchati, aññaṃ sammannituṃ yuttāva. Sā vijātā labheti ācariyo.
๔๓๔. ‘‘อิทํ โอทิสฺส อนุญฺญาตํ วฎฺฎตีติ เอกโต วา อุภโต วา อวสฺสเว สติปิ วฎฺฎตี’’ติ ลิขิตํฯ ‘‘เกสเจฺฉทาทิกํ กมฺมํ อนุชานามิ สาทิตุํ ’’อิเจฺจว วุตฺตตฺตา วุตฺตํ ‘‘ตทเญฺญ สาทิตุ’’นฺติฯ ‘‘เกสเจฺฉทาทิกํ กมฺมํ อนุชานามิ, ภิกฺขเว’’ติ อวตฺวา เอตฺตกํ ยสฺมา ‘‘สาทิตุ’’นฺติ ภาสิตํ, ตสฺมา สา วิจิกิจฺฉาย อุภโตปิ อวสฺสเว อปิ ปาราชิกเขเตฺตน สา ปาราชิกํ ผุสติฯ อิติ อฎฺฐกถาเสฺวตํ สพฺพาสุปิ วินิจฺฉิตํฯ โอทิสฺสกาภิลาโป หิ อญฺญถา นิพฺพิเสสโต ตํ ปมาณํฯ ยทิ ตถา ภิกฺขุสฺส กปฺปติ วิจิกิจฺฉาฯ
434. ‘‘Idaṃ odissa anuññātaṃ vaṭṭatīti ekato vā ubhato vā avassave satipi vaṭṭatī’’ti likhitaṃ. ‘‘Kesacchedādikaṃ kammaṃ anujānāmi sādituṃ ’’icceva vuttattā vuttaṃ ‘‘tadaññe sāditu’’nti. ‘‘Kesacchedādikaṃ kammaṃ anujānāmi, bhikkhave’’ti avatvā ettakaṃ yasmā ‘‘sāditu’’nti bhāsitaṃ, tasmā sā vicikicchāya ubhatopi avassave api pārājikakhettena sā pārājikaṃ phusati. Iti aṭṭhakathāsvetaṃ sabbāsupi vinicchitaṃ. Odissakābhilāpo hi aññathā nibbisesato taṃ pamāṇaṃ. Yadi tathā bhikkhussa kappati vicikicchā.
กาลโมทิสฺส นํ ปทํ, น สโตฺตทิสฺสกญฺหิ ตํ;
Kālamodissa naṃ padaṃ, na sattodissakañhi taṃ;
อถ ภิกฺขุนิยา เอว, กาลโมทิสฺส ภาสิตํฯ
Atha bhikkhuniyā eva, kālamodissa bhāsitaṃ.
เอวํ ปาราชิกาปตฺติ, สิถิลาว กตา สิยา;
Evaṃ pārājikāpatti, sithilāva katā siyā;
สพฺพโส ปิหิตํ ทฺวารํ, สพฺพปาราชิกสฺมินฺติฯ
Sabbaso pihitaṃ dvāraṃ, sabbapārājikasminti.
นิรตฺถกภาวโต, อุพฺภชาณุมณฺฑเล;
Niratthakabhāvato, ubbhajāṇumaṇḍale;
ตสฺมา น สาทิยนฺตีติ, นิทานวจนกฺกมํฯ
Tasmā na sādiyantīti, nidānavacanakkamaṃ.
นิสฺสาย สตฺถุนา วุตฺตํ, สาทิตุนฺติ น อญฺญถา;
Nissāya satthunā vuttaṃ, sāditunti na aññathā;
อตฺตโน ปณฺหิสมฺผสฺสํ, สาทิตุํ เยน วาริตํฯ
Attano paṇhisamphassaṃ, sādituṃ yena vāritaṃ.
อปิ ปาราชิกเกฺขเตฺต, กถํ ทฺวารํ ทเทยฺย โส;
Api pārājikakkhette, kathaṃ dvāraṃ dadeyya so;
ตถาปิ พุทฺธปุตฺตานํ, พุทฺธภาสิตภาสิตํฯ
Tathāpi buddhaputtānaṃ, buddhabhāsitabhāsitaṃ.
วจนญฺจ สมาเนโนฺต, โน เจตฺถ ยุตฺติกถา ธีรา;
Vacanañca samānento, no cettha yuttikathā dhīrā;
เกสเจฺฉทาทิกมฺมสฺส, อวสฺสํ กรณียโตฯ
Kesacchedādikammassa, avassaṃ karaṇīyato.
จิตฺตสฺส จาติโลลตฺตา, คณสฺส จ องฺคสมฺปทา-
Cittassa cātilolattā, gaṇassa ca aṅgasampadā-
ภาวา ภิกฺขุนีนํ มเหสินา, รกฺขิตุญฺจ อสงฺกตฺตา;
Bhāvā bhikkhunīnaṃ mahesinā, rakkhituñca asaṅkattā;
นนุ โมทิสฺสกํ กตนฺติฯ
Nanu modissakaṃ katanti.
ภิกฺขุนิกฺขนฺธกวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Bhikkhunikkhandhakavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / จูฬวคฺคปาฬิ • Cūḷavaggapāḷi
ภิกฺขุนีอุปสมฺปทานุชานนํ • Bhikkhunīupasampadānujānanaṃ
๒. ทุติยภาณวาโร • 2. Dutiyabhāṇavāro
๓. ตติยภาณวาโร • 3. Tatiyabhāṇavāro
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / จูฬวคฺค-อฎฺฐกถา • Cūḷavagga-aṭṭhakathā / ภิกฺขุนีอุปสมฺปทานุชานนกถา • Bhikkhunīupasampadānujānanakathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ภิกฺขุนีอุปสมฺปนฺนานุชานนกถาวณฺณนา • Bhikkhunīupasampannānujānanakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ภิกฺขุนีอุปสมฺปทานุชานนกถาวณฺณนา • Bhikkhunīupasampadānujānanakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ภิกฺขุนีอุปสมฺปทานุชานนกถา • Bhikkhunīupasampadānujānanakathā