Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya |
๑๐. ภิกฺขุนุปสฺสยสุตฺตํ
10. Bhikkhunupassayasuttaṃ
๓๗๖. อถ โข อายสฺมา อานโนฺท ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน อญฺญตโร ภิกฺขุนุปสฺสโย เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญเตฺต อาสเน นิสีทิฯ อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขุนิโย เยนายสฺมา อานโนฺท เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข ตา ภิกฺขุนิโย อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจุํ –
376. Atha kho āyasmā ānando pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya yena aññataro bhikkhunupassayo tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā paññatte āsane nisīdi. Atha kho sambahulā bhikkhuniyo yenāyasmā ānando tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā āyasmantaṃ ānandaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdiṃsu. Ekamantaṃ nisinnā kho tā bhikkhuniyo āyasmantaṃ ānandaṃ etadavocuṃ –
‘‘อิธ, ภเนฺต อานนฺท, สมฺพหุลา ภิกฺขุนิโย จตูสุ สติปฎฺฐาเนสุ สุปฺปติฎฺฐิตจิตฺตา 1 วิหรนฺติโย อุฬารํ ปุเพฺพนาปรํ วิเสสํ สญฺชานนฺตี’’ติ 2ฯ ‘‘เอวเมตํ , ภคินิโย, เอวเมตํ, ภคินิโย! โย หิ โกจิ, ภคินิโย, ภิกฺขุ วา ภิกฺขุนี วา จตูสุ สติปฎฺฐาเนสุ สุปฺปติฎฺฐิตจิโตฺต วิหรติ, ตเสฺสตํ ปาฎิกงฺขํ – ‘อุฬารํ ปุเพฺพนาปรํ วิเสสํ สญฺชานิสฺสตี’’’ติฯ
‘‘Idha, bhante ānanda, sambahulā bhikkhuniyo catūsu satipaṭṭhānesu suppatiṭṭhitacittā 3 viharantiyo uḷāraṃ pubbenāparaṃ visesaṃ sañjānantī’’ti 4. ‘‘Evametaṃ , bhaginiyo, evametaṃ, bhaginiyo! Yo hi koci, bhaginiyo, bhikkhu vā bhikkhunī vā catūsu satipaṭṭhānesu suppatiṭṭhitacitto viharati, tassetaṃ pāṭikaṅkhaṃ – ‘uḷāraṃ pubbenāparaṃ visesaṃ sañjānissatī’’’ti.
อถ โข อายสฺมา อานโนฺท ตา ภิกฺขุนิโย ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุเตฺตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฎฺฐายาสนา ปกฺกามิฯ อถ โข อายสฺมา อานโนฺท สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฎิกฺกโนฺต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข อายสฺมา อานโนฺท ภควนฺตํ เอตทโวจ –
Atha kho āyasmā ānando tā bhikkhuniyo dhammiyā kathāya sandassetvā samādapetvā samuttejetvā sampahaṃsetvā uṭṭhāyāsanā pakkāmi. Atha kho āyasmā ānando sāvatthiyaṃ piṇḍāya caritvā pacchābhattaṃ piṇḍapātapaṭikkanto yena bhagavā tenupasaṅkamiṃ; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdiṃ. Ekamantaṃ nisinno kho āyasmā ānando bhagavantaṃ etadavoca –
‘‘อิธาหํ, ภเนฺต, ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน อญฺญตโร ภิกฺขุนุปสฺสโย เตนุปสงฺกมิํ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญเตฺต อาสเน นิสีทิํฯ อถ โข, ภเนฺต, สมฺพหุลา ภิกฺขุนิโย เยนาหํ เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข, ภเนฺต, ตา ภิกฺขุนิโย มํ เอตทโวจุํ – ‘อิธ, ภเนฺต อานนฺท, สมฺพหุลา ภิกฺขุนิโย จตูสุ สติปฎฺฐาเนสุ สุปฺปติฎฺฐิตจิตฺตา วิหรนฺติโย อุฬารํ ปุเพฺพนาปรํ วิเสสํ สญฺชานนฺตี’ติฯ เอวํ วุตฺตาหํ, ภเนฺต, ตา ภิกฺขุนิโย เอตทโวจํ – ‘เอวเมตํ, ภคินิโย, เอวเมตํ, ภคินิโย! โย หิ โกจิ, ภคินิโย, ภิกฺขุ วา ภิกฺขุนี วา จตูสุ สติปฎฺฐาเนสุ สุปฺปติฎฺฐิตจิโตฺต วิหรติ, ตเสฺสตํ ปาฎิกงฺขํ – อุฬารํ ปุเพฺพนาปรํ วิเสสํ สญฺชานิสฺสตี’’’ติฯ
‘‘Idhāhaṃ, bhante, pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya yena aññataro bhikkhunupassayo tenupasaṅkamiṃ; upasaṅkamitvā paññatte āsane nisīdiṃ. Atha kho, bhante, sambahulā bhikkhuniyo yenāhaṃ tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā maṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdiṃsu. Ekamantaṃ nisinnā kho, bhante, tā bhikkhuniyo maṃ etadavocuṃ – ‘idha, bhante ānanda, sambahulā bhikkhuniyo catūsu satipaṭṭhānesu suppatiṭṭhitacittā viharantiyo uḷāraṃ pubbenāparaṃ visesaṃ sañjānantī’ti. Evaṃ vuttāhaṃ, bhante, tā bhikkhuniyo etadavocaṃ – ‘evametaṃ, bhaginiyo, evametaṃ, bhaginiyo! Yo hi koci, bhaginiyo, bhikkhu vā bhikkhunī vā catūsu satipaṭṭhānesu suppatiṭṭhitacitto viharati, tassetaṃ pāṭikaṅkhaṃ – uḷāraṃ pubbenāparaṃ visesaṃ sañjānissatī’’’ti.
‘‘เอวเมตํ, อานนฺท, เอวเมตํ, อานนฺท! โย หิ โกจิ, อานนฺท, ภิกฺขุ วา ภิกฺขุนี วา จตูสุ สติปฎฺฐาเนสุ สุปฺปติฎฺฐิตจิโตฺต วิหรติ, ตเสฺสตํ ปาฎิกงฺขํ – ‘อุฬารํ ปุเพฺพนาปรํ วิเสสํ สญฺชานิสฺสติ’’’ 5ฯ
‘‘Evametaṃ, ānanda, evametaṃ, ānanda! Yo hi koci, ānanda, bhikkhu vā bhikkhunī vā catūsu satipaṭṭhānesu suppatiṭṭhitacitto viharati, tassetaṃ pāṭikaṅkhaṃ – ‘uḷāraṃ pubbenāparaṃ visesaṃ sañjānissati’’’ 6.
‘‘กตเมสุ จตูสุ? อิธานนฺท, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา, วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํฯ ตสฺส กาเย กายานุปสฺสิโน วิหรโต กายารมฺมโณ วา อุปฺปชฺชติ กายสฺมิํ ปริฬาโห, เจตโส วา ลีนตฺตํ, พหิทฺธา วา จิตฺตํ วิกฺขิปติฯ เตนานนฺท 7, ภิกฺขุนา กิสฺมิญฺจิเทว ปสาทนีเย นิมิเตฺต จิตฺตํ ปณิทหิตพฺพํฯ ตสฺส กิสฺมิญฺจิเทว ปสาทนีเย นิมิเตฺต จิตฺตํ ปณิทหโต ปาโมชฺชํ ชายติฯ ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติฯ ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติฯ ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวทยติ 8ฯ สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติฯ โส อิติ ปฎิสญฺจิกฺขติ – ‘ยสฺส ขฺวาหํ อตฺถาย จิตฺตํ ปณิทหิํ, โส เม อโตฺถ อภินิปฺผโนฺนฯ หนฺท, ทานิ ปฎิสํหรามี’ติฯ โส ปฎิสํหรติ เจว น จ วิตเกฺกติ น จ วิจาเรติฯ ‘อวิตโกฺกมฺหิ อวิจาโร, อชฺฌตฺตํ สติมา สุขมสฺมี’ติ ปชานาติ’’ฯ
‘‘Katamesu catūsu? Idhānanda, bhikkhu kāye kāyānupassī viharati ātāpī sampajāno satimā, vineyya loke abhijjhādomanassaṃ. Tassa kāye kāyānupassino viharato kāyārammaṇo vā uppajjati kāyasmiṃ pariḷāho, cetaso vā līnattaṃ, bahiddhā vā cittaṃ vikkhipati. Tenānanda 9, bhikkhunā kismiñcideva pasādanīye nimitte cittaṃ paṇidahitabbaṃ. Tassa kismiñcideva pasādanīye nimitte cittaṃ paṇidahato pāmojjaṃ jāyati. Pamuditassa pīti jāyati. Pītimanassa kāyo passambhati. Passaddhakāyo sukhaṃ vedayati 10. Sukhino cittaṃ samādhiyati. So iti paṭisañcikkhati – ‘yassa khvāhaṃ atthāya cittaṃ paṇidahiṃ, so me attho abhinipphanno. Handa, dāni paṭisaṃharāmī’ti. So paṭisaṃharati ceva na ca vitakketi na ca vicāreti. ‘Avitakkomhi avicāro, ajjhattaṃ satimā sukhamasmī’ti pajānāti’’.
‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุ เวทนาสุ…เป.… จิเตฺต…เป.… ธเมฺมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา, วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํฯ ตสฺส ธเมฺมสุ ธมฺมานุปสฺสิโน วิหรโต ธมฺมารมฺมโณ วา อุปฺปชฺชติ กายสฺมิํ ปริฬาโห, เจตโส วา ลีนตฺตํ, พหิทฺธา วา จิตฺตํ วิกฺขิปติฯ เตนานนฺท, ภิกฺขุนา กิสฺมิญฺจิเทว ปสาทนีเย นิมิเตฺต จิตฺตํ ปณิทหิตพฺพํฯ ตสฺส กิสฺมิญฺจิเทว ปสาทนีเย นิมิเตฺต จิตฺตํ ปณิทหโต ปาโมชฺชํ ชายติ ฯ ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติฯ ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติฯ ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวทยติฯ สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติฯ โส อิติ ปฎิสญฺจิกฺขติ – ‘ยสฺส ขฺวาหํ อตฺถาย จิตฺตํ ปณิทหิํ, โส เม อโตฺถ อภินิปฺผโนฺนฯ หนฺท, ทานิ ปฎิสํหรามี’ติฯ โส ปฎิสํหรติ เจว น จ วิตเกฺกติ น จ วิจาเรติฯ ‘อวิตโกฺกมฺหิ อวิจาโร, อชฺฌตฺตํ สติมา สุขมสฺมี’ติ ปชานาติฯ เอวํ โข, อานนฺท, ปณิธาย ภาวนา โหติฯ
‘‘Puna caparaṃ, ānanda, bhikkhu vedanāsu…pe… citte…pe… dhammesu dhammānupassī viharati ātāpī sampajāno satimā, vineyya loke abhijjhādomanassaṃ. Tassa dhammesu dhammānupassino viharato dhammārammaṇo vā uppajjati kāyasmiṃ pariḷāho, cetaso vā līnattaṃ, bahiddhā vā cittaṃ vikkhipati. Tenānanda, bhikkhunā kismiñcideva pasādanīye nimitte cittaṃ paṇidahitabbaṃ. Tassa kismiñcideva pasādanīye nimitte cittaṃ paṇidahato pāmojjaṃ jāyati . Pamuditassa pīti jāyati. Pītimanassa kāyo passambhati. Passaddhakāyo sukhaṃ vedayati. Sukhino cittaṃ samādhiyati. So iti paṭisañcikkhati – ‘yassa khvāhaṃ atthāya cittaṃ paṇidahiṃ, so me attho abhinipphanno. Handa, dāni paṭisaṃharāmī’ti. So paṭisaṃharati ceva na ca vitakketi na ca vicāreti. ‘Avitakkomhi avicāro, ajjhattaṃ satimā sukhamasmī’ti pajānāti. Evaṃ kho, ānanda, paṇidhāya bhāvanā hoti.
‘‘กถญฺจานนฺท , อปฺปณิธาย ภาวนา โหติ? พหิทฺธา , อานนฺท, ภิกฺขุ จิตฺตํ อปฺปณิธาย ‘อปฺปณิหิตํ เม พหิทฺธา จิตฺต’นฺติ ปชานาติฯ อถ ปจฺฉาปุเร ‘อสํขิตฺตํ วิมุตฺตํ อปฺปณิหิต’นฺติ ปชานาติฯ อถ จ ปน ‘กาเย กายานุปสฺสี วิหรามิ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา สุขมสฺมี’ติ ปชานาติฯ พหิทฺธา, อานนฺท, ภิกฺขุ จิตฺตํ อปฺปณิธาย ‘อปฺปณิหิตํ เม พหิทฺธา จิตฺต’นฺติ ปชานาติฯ อถ ปจฺฉาปุเร ‘อสํขิตฺตํ วิมุตฺตํ อปฺปณิหิต’นฺติ ปชานาติฯ อถ จ ปน ‘เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหรามิ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา สุขมสฺมี’ติ ปชานาติฯ พหิทฺธา, อานนฺท, ภิกฺขุ จิตฺตํ อปฺปณิธาย ‘อปฺปณิหิตํ เม พหิทฺธา จิตฺต’นฺติ ปชานาติฯ อถ ปจฺฉาปุเร ‘อสํขิตฺตํ วิมุตฺตํ อปฺปณิหิต’นฺติ ปชานาติฯ อถ จ ปน ‘จิเตฺต จิตฺตานุปสฺสี วิหรามิ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา สุขมสฺมี’ติ ปชานาติฯ พหิทฺธา, อานนฺท, ภิกฺขุ จิตฺตํ อปฺปณิธาย ‘อปฺปณิหิตํ เม พหิทฺธา จิตฺต’นฺติ ปชานาติฯ อถ ปจฺฉาปุเร ‘อสํขิตฺตํ วิมุตฺตํ อปฺปณิหิต’นฺติ ปชานาติฯ อถ จ ปน ‘ธเมฺมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรามิ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา สุขมสฺมี’ติ ปชานาติฯ เอวํ โข, อานนฺท, อปฺปณิธาย ภาวนา โหติฯ
‘‘Kathañcānanda , appaṇidhāya bhāvanā hoti? Bahiddhā , ānanda, bhikkhu cittaṃ appaṇidhāya ‘appaṇihitaṃ me bahiddhā citta’nti pajānāti. Atha pacchāpure ‘asaṃkhittaṃ vimuttaṃ appaṇihita’nti pajānāti. Atha ca pana ‘kāye kāyānupassī viharāmi ātāpī sampajāno satimā sukhamasmī’ti pajānāti. Bahiddhā, ānanda, bhikkhu cittaṃ appaṇidhāya ‘appaṇihitaṃ me bahiddhā citta’nti pajānāti. Atha pacchāpure ‘asaṃkhittaṃ vimuttaṃ appaṇihita’nti pajānāti. Atha ca pana ‘vedanāsu vedanānupassī viharāmi ātāpī sampajāno satimā sukhamasmī’ti pajānāti. Bahiddhā, ānanda, bhikkhu cittaṃ appaṇidhāya ‘appaṇihitaṃ me bahiddhā citta’nti pajānāti. Atha pacchāpure ‘asaṃkhittaṃ vimuttaṃ appaṇihita’nti pajānāti. Atha ca pana ‘citte cittānupassī viharāmi ātāpī sampajāno satimā sukhamasmī’ti pajānāti. Bahiddhā, ānanda, bhikkhu cittaṃ appaṇidhāya ‘appaṇihitaṃ me bahiddhā citta’nti pajānāti. Atha pacchāpure ‘asaṃkhittaṃ vimuttaṃ appaṇihita’nti pajānāti. Atha ca pana ‘dhammesu dhammānupassī viharāmi ātāpī sampajāno satimā sukhamasmī’ti pajānāti. Evaṃ kho, ānanda, appaṇidhāya bhāvanā hoti.
‘‘อิติ โข, อานนฺท, เทสิตา มยา ปณิธาย ภาวนา, เทสิตา อปฺปณิธาย ภาวนาฯ ยํ, อานนฺท, สตฺถารา กรณียํ สาวกานํ หิเตสินา อนุกมฺปเกน อนุกมฺปํ อุปาทาย, กตํ โว ตํ มยาฯ เอตานิ, อานนฺท, รุกฺขมูลานิ, เอตานิ สุญฺญาคารานิ! ฌายถานนฺท, มา ปมาทตฺถ; มา ปจฺฉา วิปฺปฎิสาริโน อหุวตฺถ! อยํ โว อมฺหากํ อนุสาสนี’’ติฯ
‘‘Iti kho, ānanda, desitā mayā paṇidhāya bhāvanā, desitā appaṇidhāya bhāvanā. Yaṃ, ānanda, satthārā karaṇīyaṃ sāvakānaṃ hitesinā anukampakena anukampaṃ upādāya, kataṃ vo taṃ mayā. Etāni, ānanda, rukkhamūlāni, etāni suññāgārāni! Jhāyathānanda, mā pamādattha; mā pacchā vippaṭisārino ahuvattha! Ayaṃ vo amhākaṃ anusāsanī’’ti.
อิทมโวจ ภควาฯ อตฺตมโน อายสฺมา อานโนฺท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติฯ ทสมํฯ
Idamavoca bhagavā. Attamano āyasmā ānando bhagavato bhāsitaṃ abhinandīti. Dasamaṃ.
อมฺพปาลิวโคฺค ปฐโมฯ
Ambapālivaggo paṭhamo.
ตสฺสุทฺทานํ –
Tassuddānaṃ –
อมฺพปาลิ สโต ภิกฺขุ, สาลา กุสลราสิ จ;
Ambapāli sato bhikkhu, sālā kusalarāsi ca;
สกุณคฺธิ มกฺกโฎ สูโท, คิลาโน ภิกฺขุนุปสฺสโยติฯ
Sakuṇagdhi makkaṭo sūdo, gilāno bhikkhunupassayoti.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๑๐. ภิกฺขุนุปสฺสยสุตฺตวณฺณนา • 10. Bhikkhunupassayasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๑๐. ภิกฺขุนุปสฺสยสุตฺตวณฺณนา • 10. Bhikkhunupassayasuttavaṇṇanā