Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga

    ๔. โภชนวโคฺค

    4. Bhojanavaggo

    ๑. อาวสถปิณฺฑสิกฺขาปทํ

    1. Āvasathapiṇḍasikkhāpadaṃ

    ๒๐๓. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน สาวตฺถิยา อวิทูเร อญฺญตรสฺส ปูคสฺส อาวสถปิโณฺฑ ปญฺญโตฺต โหติฯ ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถิํ ปิณฺฑาย ปวิสิตฺวา ปิณฺฑํ อลภมานา อาวสถํ อคมํสุฯ มนุสฺสา – ‘‘จิรสฺสมฺปิ ภทนฺตา อาคตา’’ติ เต สกฺกจฺจํ ปริวิสิํสุฯ อถ โข ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ทุติยมฺปิ ทิวสํ…เป.… ตติยมฺปิ ทิวสํ ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถิํ ปิณฺฑาย ปวิสิตฺวา ปิณฺฑํ อลภมานา อาวสถํ คนฺตฺวา ภุญฺชิํสุฯ อถ โข ฉพฺพคฺคิยานํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘กิํ มยํ กริสฺสาม อารามํ คนฺตฺวา! หิโยฺยปิ อิเธว อาคนฺตพฺพํ ภวิสฺสตี’’ติ, ตเตฺถว อนุวสิตฺวา อนุวสิตฺวา อาวสถปิณฺฑํ ภุญฺชนฺติฯ ติตฺถิยา อปสกฺกนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา อนุวสิตฺวา อนุวสิตฺวา อาวสถปิณฺฑํ ภุญฺชิสฺสนฺติ! นยิเมสเญฺญว อาวสถปิโณฺฑ ปญฺญโตฺต; สเพฺพสเญฺญว อาวสถปิโณฺฑ ปญฺญโตฺต’’ติฯ

    203. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena sāvatthiyā avidūre aññatarassa pūgassa āvasathapiṇḍo paññatto hoti. Chabbaggiyā bhikkhū pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya sāvatthiṃ piṇḍāya pavisitvā piṇḍaṃ alabhamānā āvasathaṃ agamaṃsu. Manussā – ‘‘cirassampi bhadantā āgatā’’ti te sakkaccaṃ parivisiṃsu. Atha kho chabbaggiyā bhikkhū dutiyampi divasaṃ…pe… tatiyampi divasaṃ pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya sāvatthiṃ piṇḍāya pavisitvā piṇḍaṃ alabhamānā āvasathaṃ gantvā bhuñjiṃsu. Atha kho chabbaggiyānaṃ bhikkhūnaṃ etadahosi – ‘‘kiṃ mayaṃ karissāma ārāmaṃ gantvā! Hiyyopi idheva āgantabbaṃ bhavissatī’’ti, tattheva anuvasitvā anuvasitvā āvasathapiṇḍaṃ bhuñjanti. Titthiyā apasakkanti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma samaṇā sakyaputtiyā anuvasitvā anuvasitvā āvasathapiṇḍaṃ bhuñjissanti! Nayimesaññeva āvasathapiṇḍo paññatto; sabbesaññeva āvasathapiṇḍo paññatto’’ti.

    อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ มนุสฺสานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – กถญฺหิ นาม ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อนุวสิตฺวา อนุวสิตฺวา อาวสถปิณฺฑํ ภุญฺชิสฺสนฺตีติ…เป.… สจฺจํ กิร ตุเมฺห, ภิกฺขเว, อนุวสิตฺวา อนุวสิตฺวา อาวสถปิณฺฑํ ภุญฺชถาติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตุเมฺห, โมฆปุริสา, อนุวสิตฺวา อนุวสิตฺวา อาวสถปิณฺฑํ ภุญฺชิสฺสถ! เนตํ, โมฆปุริสา, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    Assosuṃ kho bhikkhū tesaṃ manussānaṃ ujjhāyantānaṃ khiyyantānaṃ vipācentānaṃ. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – kathañhi nāma chabbaggiyā bhikkhū anuvasitvā anuvasitvā āvasathapiṇḍaṃ bhuñjissantīti…pe… saccaṃ kira tumhe, bhikkhave, anuvasitvā anuvasitvā āvasathapiṇḍaṃ bhuñjathāti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tumhe, moghapurisā, anuvasitvā anuvasitvā āvasathapiṇḍaṃ bhuñjissatha! Netaṃ, moghapurisā, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ‘‘เอโก อาวสถปิโณฺฑ ภุญฺชิตโพฺพฯ ตโต เจ อุตฺตริํ ภุเญฺชยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    ‘‘Eko āvasathapiṇḍo bhuñjitabbo. Tato ce uttariṃ bhuñjeyya, pācittiya’’nti.

    เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ

    Evañcidaṃ bhagavatā bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ hoti.

    ๒๐๔. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา สาริปุโตฺต โกสเลสุ ชนปเท สาวตฺถิํ คจฺฉโนฺต เยน อญฺญตโร อาวสโถ เตนุปสงฺกมิฯ มนุสฺสา – ‘‘จิรสฺสมฺปิ เถโร อาคโต’’ติ สกฺกจฺจํ ปริวิสิํสุฯ อถ โข อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ภุตฺตาวิสฺส ขโร อาพาโธ อุปฺปชฺชิ, นาสกฺขิ ตมฺหา อาวสถา ปกฺกมิตุํฯ อถ โข เต มนุสฺสา ทุติยมฺปิ ทิวสํ อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘ภุญฺชถ, ภเนฺต’’ติฯ อถ โข อายสฺมา สาริปุโตฺต – ‘‘ภควตา ปฎิกฺขิตฺตํ อนุวสิตฺวา อนุวสิตฺวา อาวสถปิณฺฑํ ภุญฺชิตุ’’นฺติ กุกฺกุจฺจายโนฺต น ปฎิคฺคเหสิ; ฉินฺนภโตฺต อโหสิฯ อถ โข อายสฺมา สาริปุโตฺต สาวตฺถิํ คนฺตฺวา ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิลาเนน ภิกฺขุนา อนุวสิตฺวา อนุวสิตฺวา อาวสถปิณฺฑํ ภุญฺชิตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    204. Tena kho pana samayena āyasmā sāriputto kosalesu janapade sāvatthiṃ gacchanto yena aññataro āvasatho tenupasaṅkami. Manussā – ‘‘cirassampi thero āgato’’ti sakkaccaṃ parivisiṃsu. Atha kho āyasmato sāriputtassa bhuttāvissa kharo ābādho uppajji, nāsakkhi tamhā āvasathā pakkamituṃ. Atha kho te manussā dutiyampi divasaṃ āyasmantaṃ sāriputtaṃ etadavocuṃ – ‘‘bhuñjatha, bhante’’ti. Atha kho āyasmā sāriputto – ‘‘bhagavatā paṭikkhittaṃ anuvasitvā anuvasitvā āvasathapiṇḍaṃ bhuñjitu’’nti kukkuccāyanto na paṭiggahesi; chinnabhatto ahosi. Atha kho āyasmā sāriputto sāvatthiṃ gantvā bhikkhūnaṃ etamatthaṃ ārocesi. Bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, gilānena bhikkhunā anuvasitvā anuvasitvā āvasathapiṇḍaṃ bhuñjituṃ. Evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ๒๐๕. ‘‘อคิลาเนน ภิกฺขุนา เอโก อาวสถปิโณฺฑ ภุญฺชิตโพฺพฯ ตโต เจ อุตฺตริ ภุเญฺชยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    205.‘‘Agilānena bhikkhunā eko āvasathapiṇḍo bhuñjitabbo. Tato ce uttari bhuñjeyya, pācittiya’’nti.

    ๒๐๖. อคิลาโน นาม สโกฺกติ ตมฺหา อาวสถา ปกฺกมิตุํฯ

    206.Agilāno nāma sakkoti tamhā āvasathā pakkamituṃ.

    คิลาโน นาม น สโกฺกติ ตมฺหา อาวสถา ปกฺกมิตุํฯ

    Gilāno nāma na sakkoti tamhā āvasathā pakkamituṃ.

    อาวสถปิโณฺฑ นาม ปญฺจนฺนํ โภชนานํ อญฺญตรํ โภชนํ – สาลาย วา มณฺฑเป วา รุกฺขมูเล วา อโชฺฌกาเส วา อโนทิสฺส ยาวทโตฺถ ปญฺญโตฺต โหติฯ อคิลาเนน ภิกฺขุนา สกิํ ภุญฺชิตโพฺพฯ ตโต เจ อุตฺตริ ‘ภุญฺชิสฺสามี’ติ ปฎิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อโชฺฌหาเร อโชฺฌหาเร อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Āvasathapiṇḍo nāma pañcannaṃ bhojanānaṃ aññataraṃ bhojanaṃ – sālāya vā maṇḍape vā rukkhamūle vā ajjhokāse vā anodissa yāvadattho paññatto hoti. Agilānena bhikkhunā sakiṃ bhuñjitabbo. Tato ce uttari ‘bhuñjissāmī’ti paṭiggaṇhāti, āpatti dukkaṭassa. Ajjhohāre ajjhohāre āpatti pācittiyassa.

    ๒๐๗. อคิลาโน อคิลานสญฺญี ตตุตฺตริ อาวสถปิณฺฑํ ภุญฺชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อคิลาโน เวมติโก ตตุตฺตริ อาวสถปิณฺฑํ ภุญฺชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อคิลาโน คิลานสญฺญี ตตุตฺตริํ อาวสถปิณฺฑํ ภุญฺชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    207. Agilāno agilānasaññī tatuttari āvasathapiṇḍaṃ bhuñjati, āpatti pācittiyassa. Agilāno vematiko tatuttari āvasathapiṇḍaṃ bhuñjati, āpatti pācittiyassa. Agilāno gilānasaññī tatuttariṃ āvasathapiṇḍaṃ bhuñjati, āpatti pācittiyassa.

    คิลาโน อคิลานสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ คิลาโน เวมติโก อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ คิลาโน คิลานสญฺญี, อนาปตฺติฯ

    Gilāno agilānasaññī, āpatti dukkaṭassa. Gilāno vematiko āpatti dukkaṭassa. Gilāno gilānasaññī, anāpatti.

    ๒๐๘. อนาปตฺติ คิลานสฺส, อคิลาโน สกิํ ภุญฺชติ, คจฺฉโนฺต, วา อาคจฺฉโนฺต วา ภุญฺชติ, สามิกา นิมเนฺตตฺวา โภเชนฺติ, โอทิสฺส ปญฺญโตฺต โหติ, น ยาวทโตฺถ ปญฺญโตฺต โหติ, ปญฺจ โภชนานิ ฐเปตฺวา สพฺพตฺถ อนาปตฺติ, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ

    208. Anāpatti gilānassa, agilāno sakiṃ bhuñjati, gacchanto, vā āgacchanto vā bhuñjati, sāmikā nimantetvā bhojenti, odissa paññatto hoti, na yāvadattho paññatto hoti, pañca bhojanāni ṭhapetvā sabbattha anāpatti, ummattakassa, ādikammikassāti.

    อาวสถปิณฺฑสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ ปฐมํฯ

    Āvasathapiṇḍasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ paṭhamaṃ.

    ๒. คณโภชนสิกฺขาปทํ

    2. Gaṇabhojanasikkhāpadaṃ

    ๒๐๙. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปฯ เตน โข ปน สมเยน เทวทโตฺต ปริหีนลาภสกฺกาโร สปริโส กุเลสุ วิญฺญาเปตฺวา วิญฺญาเปตฺวา ภุญฺชติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา กุเลสุ วิญฺญาเปตฺวา วิญฺญาเปตฺวา ภุญฺชิสฺสนฺติ! กสฺส สมฺปนฺนํ น มนาปํ, กสฺส สาทุํ น รุจฺจตี’’ติ! อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ มนุสฺสานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม เทวทโตฺต สปริโส กุเลสุ วิญฺญาเปตฺวา วิญฺญาเปตฺวา ภุญฺชิสฺสตี’’ติ…เป.… สจฺจํ กิร ตฺวํ, เทวทตฺต, สปริโส กุเลสุ วิญฺญาเปตฺวา วิญฺญาเปตฺวา ภุญฺชสีติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส, สปริโส กุเลสุ วิญฺญาเปตฺวา วิญฺญาเปตฺวา ภุญฺชิสฺสสิ! เนตํ, โมฆปุริส, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    209. Tena samayena buddho bhagavā rājagahe viharati veḷuvane kalandakanivāpe. Tena kho pana samayena devadatto parihīnalābhasakkāro sapariso kulesu viññāpetvā viññāpetvā bhuñjati. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma samaṇā sakyaputtiyā kulesu viññāpetvā viññāpetvā bhuñjissanti! Kassa sampannaṃ na manāpaṃ, kassa sāduṃ na ruccatī’’ti! Assosuṃ kho bhikkhū tesaṃ manussānaṃ ujjhāyantānaṃ khiyyantānaṃ vipācentānaṃ. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma devadatto sapariso kulesu viññāpetvā viññāpetvā bhuñjissatī’’ti…pe… saccaṃ kira tvaṃ, devadatta, sapariso kulesu viññāpetvā viññāpetvā bhuñjasīti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tvaṃ, moghapurisa, sapariso kulesu viññāpetvā viññāpetvā bhuñjissasi! Netaṃ, moghapurisa, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ‘‘คณโภชเน ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    ‘‘Gaṇabhojane pācittiya’’nti.

    เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ

    Evañcidaṃ bhagavatā bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ hoti.

    ๒๑๐. เตน โข ปน สมเยน มนุสฺสา คิลาเน ภิกฺขู ภเตฺตน นิมเนฺตนฺติฯ ภิกฺขู กุกฺกุจฺจายนฺตา นาธิวาเสนฺติ – ‘‘ปฎิกฺขิตฺตํ ภควตา คณโภชน’’นฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิลาเนน ภิกฺขุนา คณโภชนํ ภุญฺชิตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    210. Tena kho pana samayena manussā gilāne bhikkhū bhattena nimantenti. Bhikkhū kukkuccāyantā nādhivāsenti – ‘‘paṭikkhittaṃ bhagavatā gaṇabhojana’’nti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, gilānena bhikkhunā gaṇabhojanaṃ bhuñjituṃ. Evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ‘‘คณโภชเน, อญฺญตฺร สมยา, ปาจิตฺติยํฯ ตตฺถายํ สมโยฯ คิลานสมโย – อยํ ตตฺถ สมโย’’ติฯ

    ‘‘Gaṇabhojane, aññatra samayā, pācittiyaṃ. Tatthāyaṃ samayo. Gilānasamayo – ayaṃ tattha samayo’’ti.

    เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ

    Evañcidaṃ bhagavatā bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ hoti.

    ๒๑๑. เตน โข ปน สมเยน มนุสฺสา จีวรทานสมเย สจีวรภตฺตํ ปฎิยาเทตฺวา ภิกฺขู นิมเนฺตนฺติ – ‘‘โภเชตฺวา จีวเรน อจฺฉาเทสฺสามา’’ติฯ ภิกฺขู กุกฺกุจฺจายนฺตา นาธิวาเสนฺติ – ‘‘ปฎิกฺขิตฺตํ ภควตา คณโภชน’’นฺติฯ จีวรํ ปริตฺตํ อุปฺปชฺชติฯ ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จีวรทานสมเย คณโภชนํ ภุญฺชิตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    211. Tena kho pana samayena manussā cīvaradānasamaye sacīvarabhattaṃ paṭiyādetvā bhikkhū nimantenti – ‘‘bhojetvā cīvarena acchādessāmā’’ti. Bhikkhū kukkuccāyantā nādhivāsenti – ‘‘paṭikkhittaṃ bhagavatā gaṇabhojana’’nti. Cīvaraṃ parittaṃ uppajjati. Bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… anujānāmi, bhikkhave, cīvaradānasamaye gaṇabhojanaṃ bhuñjituṃ. Evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ‘‘คณโภชเน, อญฺญตฺร สมยา, ปาจิตฺติยํฯ ตตฺถายํ สมโยฯ คิลานสมโย, จีวรทานสมโย – อยํ ตตฺถ สมโย’’ติฯ

    ‘‘Gaṇabhojane, aññatra samayā, pācittiyaṃ. Tatthāyaṃ samayo. Gilānasamayo, cīvaradānasamayo – ayaṃ tattha samayo’’ti.

    เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ

    Evañcidaṃ bhagavatā bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ hoti.

    ๒๑๒. เตน โข ปน สมเยน มนุสฺสา จีวรการเก ภิกฺขู ภเตฺตน นิมเนฺตนฺติฯ ภิกฺขู กุกฺกุจฺจายนฺตา นาธิวาเสนฺติ – ‘‘ปฎิกฺขิตฺตํ ภควตา คณโภชน’’นฺติ ฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จีวรการสมเย คณโภชนํ ภุญฺชิตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    212. Tena kho pana samayena manussā cīvarakārake bhikkhū bhattena nimantenti. Bhikkhū kukkuccāyantā nādhivāsenti – ‘‘paṭikkhittaṃ bhagavatā gaṇabhojana’’nti . Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… anujānāmi, bhikkhave, cīvarakārasamaye gaṇabhojanaṃ bhuñjituṃ. Evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ‘‘คณโภชเน, อญฺญตฺร สมยา, ปาจิตฺติยํฯ ตตฺถายํ สมโยฯ คิลานสมโย, จีวรทานสมโย, จีวรการสมโย – อยํ ตตฺถ สมโย’’ติฯ

    ‘‘Gaṇabhojane, aññatra samayā, pācittiyaṃ. Tatthāyaṃ samayo. Gilānasamayo, cīvaradānasamayo, cīvarakārasamayo – ayaṃ tattha samayo’’ti.

    เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ

    Evañcidaṃ bhagavatā bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ hoti.

    ๒๑๓. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู มนุเสฺสหิ สทฺธิํ อทฺธานํ คจฺฉนฺติฯ อถ โข เต ภิกฺขู เต มนุเสฺส เอตทโวจุํ – ‘‘มุหุตฺตํ, อาวุโส, อาคเมถ; ปิณฺฑาย จริสฺสามา’’ติฯ เต เอวมาหํสุ – ‘‘อิเธว, ภเนฺต, ภุญฺชถา’’ติฯ ภิกฺขู กุกฺกุจฺจายนฺตา น ปฎิคฺคณฺหนฺติ – ‘‘ปฎิกฺขิตฺตํ ภควตา คณโภชน’’นฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อทฺธานคมนสมเย คณโภชนํ ภุญฺชิตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    213. Tena kho pana samayena bhikkhū manussehi saddhiṃ addhānaṃ gacchanti. Atha kho te bhikkhū te manusse etadavocuṃ – ‘‘muhuttaṃ, āvuso, āgametha; piṇḍāya carissāmā’’ti. Te evamāhaṃsu – ‘‘idheva, bhante, bhuñjathā’’ti. Bhikkhū kukkuccāyantā na paṭiggaṇhanti – ‘‘paṭikkhittaṃ bhagavatā gaṇabhojana’’nti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… anujānāmi, bhikkhave, addhānagamanasamaye gaṇabhojanaṃ bhuñjituṃ. Evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ‘‘คณโภชเน, อญฺญตฺร สมยา, ปาจิตฺติยํฯ ตตฺถายํ สมโยฯ คิลานสมโย, จีวรทานสมโย, จีวรการสมโย, อทฺธานคมนสมโย – อยํ ตตฺถ สมโย’’ติฯ

    ‘‘Gaṇabhojane, aññatra samayā, pācittiyaṃ. Tatthāyaṃ samayo. Gilānasamayo, cīvaradānasamayo, cīvarakārasamayo, addhānagamanasamayo – ayaṃ tattha samayo’’ti.

    เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ

    Evañcidaṃ bhagavatā bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ hoti.

    ๒๑๔. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู มนุเสฺสหิ สทฺธิํ นาวาย คจฺฉนฺติฯ อถ โข เต ภิกฺขู เต มนุเสฺส เอตทโวจุํ – ‘‘มุหุตฺตํ, อาวุโส, ตีรํ อุปเนถ; ปิณฺฑาย จริสฺสามา’’ติฯ เต เอวมาหํสุ – ‘‘อิเธว, ภเนฺต, ภุญฺชถา’’ติฯ ภิกฺขู กุกฺกุจฺจายนฺตา น ปฎิคฺคณฺหนฺติ – ‘‘ปฎิกฺขิตฺตํ ภควตา คณโภชน’’นฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… อนุชานามิ, ภิกฺขเว, นาวาภิรุหนสมเย คณโภชนํ ภุญฺชิตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    214. Tena kho pana samayena bhikkhū manussehi saddhiṃ nāvāya gacchanti. Atha kho te bhikkhū te manusse etadavocuṃ – ‘‘muhuttaṃ, āvuso, tīraṃ upanetha; piṇḍāya carissāmā’’ti. Te evamāhaṃsu – ‘‘idheva, bhante, bhuñjathā’’ti. Bhikkhū kukkuccāyantā na paṭiggaṇhanti – ‘‘paṭikkhittaṃ bhagavatā gaṇabhojana’’nti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… anujānāmi, bhikkhave, nāvābhiruhanasamaye gaṇabhojanaṃ bhuñjituṃ. Evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ‘‘คณโภชเน, อญฺญตฺร สมยา, ปาจิตฺติยํฯ ตตฺถายํ สมโยฯ คิลานสมโย, จีวรทานสมโย, จีวรการสมโย, อทฺธานคมนสมโย, นาวาภิรุหนสมโย – อยํ ตตฺถ สมโย’’ติฯ

    ‘‘Gaṇabhojane, aññatra samayā, pācittiyaṃ. Tatthāyaṃ samayo. Gilānasamayo, cīvaradānasamayo, cīvarakārasamayo, addhānagamanasamayo, nāvābhiruhanasamayo – ayaṃ tattha samayo’’ti.

    เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ

    Evañcidaṃ bhagavatā bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ hoti.

    ๒๑๕. เตน ๐ โข ปน สมเยน ทิสาสุ วสฺสํวุฎฺฐา ภิกฺขู ราชคหํ อาคจฺฉนฺติ ภควนฺตํ ทสฺสนายฯ มนุสฺสา นานาเวรชฺชเก ภิกฺขู ปสฺสิตฺวา ภเตฺตน นิมเนฺตนฺติฯ ภิกฺขู กุกฺกุจฺจายนฺตา นาธิวาเสนฺติ – ‘‘ปฎิกฺขิตฺตํ ภควตา คณโภชน’’นฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มหาสมเย คณโภชนํ ภุญฺชิตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    215. Tena 0 kho pana samayena disāsu vassaṃvuṭṭhā bhikkhū rājagahaṃ āgacchanti bhagavantaṃ dassanāya. Manussā nānāverajjake bhikkhū passitvā bhattena nimantenti. Bhikkhū kukkuccāyantā nādhivāsenti – ‘‘paṭikkhittaṃ bhagavatā gaṇabhojana’’nti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… anujānāmi, bhikkhave, mahāsamaye gaṇabhojanaṃ bhuñjituṃ. Evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ‘‘คณโภชเน , อญฺญตฺร สมยา, ปาจิตฺติยํฯ ตตฺถายํ สมโยฯ คิลานสมโย, จีวรทานสมโย, จีวรการสมโย, อทฺธานคมนสมโย, นาวาภิรุหนสมโย, มหาสมโย – อยํ ตตฺถ สมโย’’ติฯ

    ‘‘Gaṇabhojane , aññatra samayā, pācittiyaṃ. Tatthāyaṃ samayo. Gilānasamayo, cīvaradānasamayo, cīvarakārasamayo, addhānagamanasamayo, nāvābhiruhanasamayo, mahāsamayo – ayaṃ tattha samayo’’ti.

    เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ

    Evañcidaṃ bhagavatā bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ hoti.

    ๒๑๖. เตน โข ปน สมเยน รโญฺญ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส ญาติสาโลหิโต อาชีวเกสุ ปพฺพชิโต โหติฯ อถ โข โส อาชีวโก เยน ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ราชานํ มาคธํ เสนิยํ พิมฺพิสารํ เอตทโวจ – ‘‘อิจฺฉามหํ, มหาราช, สพฺพปาสณฺฑิกภตฺตํ กาตุ’’นฺติฯ ‘‘สเจ ตฺวํ, ภเนฺต, พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปฐมํ โภเชยฺยาสิ’’ฯ ‘‘เอวํ กเรยฺยามี’’ติฯ อถ โข โส อาชีวโก ภิกฺขูนํ สนฺติเก ทูตํ ปาเหสิ – ‘‘อธิวาเสนฺตุ เม ภิกฺขู สฺวาตนาย ภตฺต’’นฺติฯ ภิกฺขู กุกฺกุจฺจายนฺตา นาธิวาเสนฺติ – ‘‘ปฎิกฺขิตฺตํ ภควตา คณโภชน’’นฺติฯ อถ โข โส อาชีวโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สโมฺมทิ, สโมฺมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ อฎฺฐาสิฯ เอกมนฺตํ ฐิโต โข โส อาชีวโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ภวมฺปิ โคตโม ปพฺพชิโต, อหมฺปิ ปพฺพชิโต; อรหติ ปพฺพชิโต ปพฺพชิตสฺส ปิณฺฑํ ปฎิคฺคเหตุํฯ อธิวาเสตุ เม ภวํ โคตโม สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธิํ ภิกฺขุสเงฺฆนา’’ติฯ อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวนฯ อถ โข โส อาชีวโก ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา ปกฺกามิฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สมณภตฺตสมเย คณโภชนํ ภุญฺชิตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    216. Tena kho pana samayena rañño māgadhassa seniyassa bimbisārassa ñātisālohito ājīvakesu pabbajito hoti. Atha kho so ājīvako yena rājā māgadho seniyo bimbisāro tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā rājānaṃ māgadhaṃ seniyaṃ bimbisāraṃ etadavoca – ‘‘icchāmahaṃ, mahārāja, sabbapāsaṇḍikabhattaṃ kātu’’nti. ‘‘Sace tvaṃ, bhante, buddhappamukhaṃ bhikkhusaṅghaṃ paṭhamaṃ bhojeyyāsi’’. ‘‘Evaṃ kareyyāmī’’ti. Atha kho so ājīvako bhikkhūnaṃ santike dūtaṃ pāhesi – ‘‘adhivāsentu me bhikkhū svātanāya bhatta’’nti. Bhikkhū kukkuccāyantā nādhivāsenti – ‘‘paṭikkhittaṃ bhagavatā gaṇabhojana’’nti. Atha kho so ājīvako yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavatā saddhiṃ sammodi, sammodanīyaṃ kathaṃ sāraṇīyaṃ vītisāretvā ekamantaṃ aṭṭhāsi. Ekamantaṃ ṭhito kho so ājīvako bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘bhavampi gotamo pabbajito, ahampi pabbajito; arahati pabbajito pabbajitassa piṇḍaṃ paṭiggahetuṃ. Adhivāsetu me bhavaṃ gotamo svātanāya bhattaṃ saddhiṃ bhikkhusaṅghenā’’ti. Adhivāsesi bhagavā tuṇhībhāvena. Atha kho so ājīvako bhagavato adhivāsanaṃ viditvā pakkāmi. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, samaṇabhattasamaye gaṇabhojanaṃ bhuñjituṃ. Evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ๒๑๗. คณโภชเน , อญฺญตฺร สมยา, ปาจิตฺติยํฯ ตตฺถายํ สมโยฯ คิลานสมโย, จีวรทานสมโย, จีวรการสมโย, อทฺธานคมนสมโย, นาวาภิรุหนสมโย, มหาสมโย, สมณภตฺตสมโย – อยํ ตตฺถ สมโย’’ติฯ

    217.Gaṇabhojane, aññatra samayā, pācittiyaṃ. Tatthāyaṃ samayo. Gilānasamayo, cīvaradānasamayo, cīvarakārasamayo, addhānagamanasamayo, nāvābhiruhanasamayo, mahāsamayo, samaṇabhattasamayo – ayaṃ tattha samayo’’ti.

    ๒๑๘. คณโภชนํ นาม ยตฺถ จตฺตาโร ภิกฺขู ปญฺจนฺนํ โภชนานํ อญฺญตเรน โภชเนน นิมนฺติตา ภุญฺชนฺติฯ เอตํ คณโภชนํ นามฯ

    218.Gaṇabhojanaṃ nāma yattha cattāro bhikkhū pañcannaṃ bhojanānaṃ aññatarena bhojanena nimantitā bhuñjanti. Etaṃ gaṇabhojanaṃ nāma.

    อญฺญตฺร สมยาติ ฐเปตฺวา สมยํฯ

    Aññatra samayāti ṭhapetvā samayaṃ.

    คิลานสมโย นาม อนฺตมโส ปาทาปิ ผลิตา 1 โหนฺติฯ ‘‘คิลานสมโย’’ติ ภุญฺชิตพฺพํฯ

    Gilānasamayo nāma antamaso pādāpi phalitā 2 honti. ‘‘Gilānasamayo’’ti bhuñjitabbaṃ.

    จีวรทานสมโย นาม อนตฺถเต กถิเน วสฺสานสฺส ปจฺฉิโม มาโส, อตฺถเต กถิเน ปญฺจมาสาฯ ‘‘จีวรทานสมโย’’ติ ภุญฺชิตพฺพํฯ

    Cīvaradānasamayo nāma anatthate kathine vassānassa pacchimo māso, atthate kathine pañcamāsā. ‘‘Cīvaradānasamayo’’ti bhuñjitabbaṃ.

    จีวรการสมโย นาม จีวเร กยิรมาเนฯ ‘‘จีวรการสมโย’’ติ ภุญฺชิตพฺพํฯ

    Cīvarakārasamayo nāma cīvare kayiramāne. ‘‘Cīvarakārasamayo’’ti bhuñjitabbaṃ.

    อทฺธานคมนสมโย นาม ‘‘อทฺธโยชนํ คจฺฉิสฺสามี’’ติ ภุญฺชิตพฺพํ, คจฺฉเนฺตน ภุญฺชิตพฺพํ, คเตน ภุญฺชิตพฺพํฯ

    Addhānagamanasamayo nāma ‘‘addhayojanaṃ gacchissāmī’’ti bhuñjitabbaṃ, gacchantena bhuñjitabbaṃ, gatena bhuñjitabbaṃ.

    นาวาภิรุหนสมโย นาม ‘‘นาวํ อภิรุหิสฺสามี’’ติ ภุญฺชิตพฺพํ, อารุเฬฺหน ภุญฺชิตพฺพํ, โอรุเฬฺหน ภุญฺชิตพฺพํฯ

    Nāvābhiruhanasamayo nāma ‘‘nāvaṃ abhiruhissāmī’’ti bhuñjitabbaṃ, āruḷhena bhuñjitabbaṃ, oruḷhena bhuñjitabbaṃ.

    มหาสมโย นาม ยตฺถ เทฺว ตโย ภิกฺขู ปิณฺฑาย จริตฺวา ยาเปนฺติ, จตุเตฺถ อาคเต น ยาเปนฺติฯ ‘‘มหาสมโย’’ติ ภุญฺชิตพฺพํฯ

    Mahāsamayo nāma yattha dve tayo bhikkhū piṇḍāya caritvā yāpenti, catutthe āgate na yāpenti. ‘‘Mahāsamayo’’ti bhuñjitabbaṃ.

    สมณภตฺตสมโย นาม โย โกจิ ปริพฺพาชกสมาปโนฺน ภตฺตํ กโรติฯ ‘‘สมณภตฺตสมโย’’ติ ภุญฺชิตพฺพํฯ

    Samaṇabhattasamayo nāma yo koci paribbājakasamāpanno bhattaṃ karoti. ‘‘Samaṇabhattasamayo’’ti bhuñjitabbaṃ.

    ‘‘อญฺญตฺร สมยา ภุญฺชิสฺสามี’’ติ ปฎิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อโชฺฌหาเร อโชฺฌหาเร อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    ‘‘Aññatra samayā bhuñjissāmī’’ti paṭiggaṇhāti, āpatti dukkaṭassa. Ajjhohāre ajjhohāre āpatti pācittiyassa.

    ๒๑๙. คณโภชเน คณโภชนสญฺญี, อญฺญตฺร สมยา, ภุญฺชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ คณโภชเน เวมติโก, อญฺญตฺร สมยา, ภุญฺชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ คณโภชเน นคณโภชนสญฺญี, อญฺญตฺร สมยา, ภุญฺชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    219. Gaṇabhojane gaṇabhojanasaññī, aññatra samayā, bhuñjati, āpatti pācittiyassa. Gaṇabhojane vematiko, aññatra samayā, bhuñjati, āpatti pācittiyassa. Gaṇabhojane nagaṇabhojanasaññī, aññatra samayā, bhuñjati, āpatti pācittiyassa.

    นคณโภชเน คณโภชนสญฺญี , อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ นคณโภชเน เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ นคณโภชเน นคณโภชนสญฺญี, อนาปตฺติฯ

    Nagaṇabhojane gaṇabhojanasaññī , āpatti dukkaṭassa. Nagaṇabhojane vematiko, āpatti dukkaṭassa. Nagaṇabhojane nagaṇabhojanasaññī, anāpatti.

    ๒๒๐. อนาปตฺติ สมเย, เทฺว ตโย เอกโต ภุญฺชนฺติ, ปิณฺฑาย จริตฺวา เอกโต สนฺนิปติตฺวา ภุญฺชนฺติ, นิจฺจภตฺตํ, สลากภตฺตํ, ปกฺขิกํ, อุโปสถิกํ, ปาฎิปทิกํ, ปญฺจ โภชนานิ ฐเปตฺวา สพฺพตฺถ อนาปตฺติ, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ

    220. Anāpatti samaye, dve tayo ekato bhuñjanti, piṇḍāya caritvā ekato sannipatitvā bhuñjanti, niccabhattaṃ, salākabhattaṃ, pakkhikaṃ, uposathikaṃ, pāṭipadikaṃ, pañca bhojanāni ṭhapetvā sabbattha anāpatti, ummattakassa, ādikammikassāti.

    คณโภชนสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ ทุติยํฯ

    Gaṇabhojanasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ dutiyaṃ.

    ๓. ปรมฺปรโภชนสิกฺขาปทํ

    3. Paramparabhojanasikkhāpadaṃ

    ๒๒๑. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฎาคารสาลายํฯ เตน โข ปน สมเยน เวสาลิยํ ปณีตานํ ภตฺตานํ ภตฺตปฎิปาฎิ อธิฎฺฐิตา โหติฯ อถ โข อญฺญตรสฺส ทลิทฺทสฺส กมฺมการสฺส 3 เอตทโหสิ – ‘‘น โข อิทํ โอรกํ ภวิสฺสติ ยถยิเม มนุสฺสา สกฺกจฺจํ ภตฺตํ กโรนฺติ; ยํนูนาหมฺปิ ภตฺตํ กเรยฺย’’นฺติฯ อถ โข โส ทลิโทฺท กมฺมกาโร เยน กิรปติโก เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ กิรปติกํ เอตทโวจ – ‘‘อิจฺฉามหํ, อยฺยปุตฺต, พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส ภตฺตํ กาตุํฯ เทหิ เม เวตน’’นฺติฯ โสปิ โข กิรปติโก สโทฺธ โหติ ปสโนฺนฯ อถ โข โส กิรปติโก ตสฺส ทลิทฺทสฺส กมฺมการสฺส อพฺภาติเรกํ 4 เวตนํ อทาสิฯ อถ โข โส ทลิโทฺท กมฺมกาโร เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข โส ทลิโทฺท กมฺมกาโร ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อธิวาเสตุ เม, ภเนฺต, ภควา สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธิํ ภิกฺขุสเงฺฆนา’’ติฯ ‘‘มหา โข, อาวุโส, ภิกฺขุสโงฺฆฯ ชานาหี’’ติฯ ‘‘โหตุ 5 ภเนฺต, มหา ภิกฺขุสโงฺฆฯ พหู เม พทรา ปฎิยตฺตา พทรมิเสฺสน เปยฺยา ปริปูริสฺสนฺตี’’ติฯ อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวนฯ

    221. Tena samayena buddho bhagavā vesāliyaṃ viharati mahāvane kūṭāgārasālāyaṃ. Tena kho pana samayena vesāliyaṃ paṇītānaṃ bhattānaṃ bhattapaṭipāṭi adhiṭṭhitā hoti. Atha kho aññatarassa daliddassa kammakārassa 6 etadahosi – ‘‘na kho idaṃ orakaṃ bhavissati yathayime manussā sakkaccaṃ bhattaṃ karonti; yaṃnūnāhampi bhattaṃ kareyya’’nti. Atha kho so daliddo kammakāro yena kirapatiko tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā taṃ kirapatikaṃ etadavoca – ‘‘icchāmahaṃ, ayyaputta, buddhappamukhassa bhikkhusaṅghassa bhattaṃ kātuṃ. Dehi me vetana’’nti. Sopi kho kirapatiko saddho hoti pasanno. Atha kho so kirapatiko tassa daliddassa kammakārassa abbhātirekaṃ 7 vetanaṃ adāsi. Atha kho so daliddo kammakāro yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho so daliddo kammakāro bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘adhivāsetu me, bhante, bhagavā svātanāya bhattaṃ saddhiṃ bhikkhusaṅghenā’’ti. ‘‘Mahā kho, āvuso, bhikkhusaṅgho. Jānāhī’’ti. ‘‘Hotu 8 bhante, mahā bhikkhusaṅgho. Bahū me badarā paṭiyattā badaramissena peyyā paripūrissantī’’ti. Adhivāsesi bhagavā tuṇhībhāvena.

    อถ โข โส ทลิโทฺท กมฺมกาโร ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฎฺฐายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิฯ อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู – ‘‘ทลิเทฺทน กิร กมฺมกาเรน สฺวาตนาย พุทฺธปฺปมุโข ภิกฺขุสโงฺฆ นิมนฺติโต, พทรมิเสฺสน เปยฺยา ปริปูริสฺสนฺตี’’ติฯ เต กาลเสฺสว ปิณฺฑาย จริตฺวา ภุญฺชิํสุฯ อโสฺสสุํ โข มนุสฺสา – ‘‘ทลิเทฺทน กิร กมฺมกาเรน พุทฺธปฺปมุโข ภิกฺขุสโงฺฆ นิมนฺติโต’’ติฯ เต ทลิทฺทสฺส กมฺมการสฺส ปหูตํ ขาทนียํ โภชนียํ อภิหริํสุฯ อถ โข โส ทลิโทฺท กมฺมกาโร ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฎิยาทาเปตฺวา ภควโต กาลํ อาโรจาเปสิ – ‘‘กาโล, ภเนฺต, นิฎฺฐิตํ ภตฺต’’นฺติฯ

    Atha kho so daliddo kammakāro bhagavato adhivāsanaṃ viditvā uṭṭhāyāsanā bhagavantaṃ abhivādetvā padakkhiṇaṃ katvā pakkāmi. Assosuṃ kho bhikkhū – ‘‘daliddena kira kammakārena svātanāya buddhappamukho bhikkhusaṅgho nimantito, badaramissena peyyā paripūrissantī’’ti. Te kālasseva piṇḍāya caritvā bhuñjiṃsu. Assosuṃ kho manussā – ‘‘daliddena kira kammakārena buddhappamukho bhikkhusaṅgho nimantito’’ti. Te daliddassa kammakārassa pahūtaṃ khādanīyaṃ bhojanīyaṃ abhihariṃsu. Atha kho so daliddo kammakāro tassā rattiyā accayena paṇītaṃ khādanīyaṃ bhojanīyaṃ paṭiyādāpetvā bhagavato kālaṃ ārocāpesi – ‘‘kālo, bhante, niṭṭhitaṃ bhatta’’nti.

    อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน ตสฺส ทลิทฺทสฺส กมฺมการสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญเตฺต อาสเน นิสีทิ สทฺธิํ ภิกฺขุสเงฺฆนฯ อถ โข โส ทลิโทฺท กมฺมกาโร ภตฺตเคฺค ภิกฺขู ปริวิสติฯ ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘โถกํ, อาวุโส, เทหิฯ โถกํ, อาวุโส, เทหี’’ติฯ ‘‘มา โข ตุเมฺห, ภเนฺต, ‘อยํ ทลิโทฺท กมฺมกาโร’ติ โถกํ โถกํ ปฎิคฺคณฺหิตฺถฯ ปหูตํ เม ขาทนียํ โภชนียํ ปฎิยตฺตํฯ

    Atha kho bhagavā pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya yena tassa daliddassa kammakārassa nivesanaṃ tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā paññatte āsane nisīdi saddhiṃ bhikkhusaṅghena. Atha kho so daliddo kammakāro bhattagge bhikkhū parivisati. Bhikkhū evamāhaṃsu – ‘‘thokaṃ, āvuso, dehi. Thokaṃ, āvuso, dehī’’ti. ‘‘Mā kho tumhe, bhante, ‘ayaṃ daliddo kammakāro’ti thokaṃ thokaṃ paṭiggaṇhittha. Pahūtaṃ me khādanīyaṃ bhojanīyaṃ paṭiyattaṃ.

    ปฎิคฺคณฺหถ, ภเนฺต, ยาวทตฺถ’’นฺติฯ ‘‘น โข มยํ, อาวุโส, เอตํการณา โถกํ โถกํ ปฎิคฺคณฺหามฯ อปิจ, มยํ กาลเสฺสว ปิณฺฑาย จริตฺวา ภุญฺชิมฺหา; เตน มยํ โถกํ โถกํ ปฎิคฺคณฺหามา’’ติฯ

    Paṭiggaṇhatha, bhante, yāvadattha’’nti. ‘‘Na kho mayaṃ, āvuso, etaṃkāraṇā thokaṃ thokaṃ paṭiggaṇhāma. Apica, mayaṃ kālasseva piṇḍāya caritvā bhuñjimhā; tena mayaṃ thokaṃ thokaṃ paṭiggaṇhāmā’’ti.

    อถ โข โส ทลิโทฺท กมฺมกาโร อุชฺฌายติ ขิยฺยติ วิปาเจติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ภทนฺตา มยา นิมนฺติตา อญฺญตฺร ภุญฺชิสฺสนฺติ! น จาหํ ปฎิพโล ยาวทตฺถํ ทาตุ’’นฺติ? อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู ตสฺส ทลิทฺทสฺส กมฺมการสฺส อุชฺฌายนฺตสฺส ขิยฺยนฺตสฺส วิปาเจนฺตสฺสฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ภิกฺขู อญฺญตฺร นิมนฺติตา อญฺญตฺร ภุญฺชิสฺสนฺตี’’ติ…เป.… สจฺจํ กิร, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อญฺญตฺร นิมนฺติตา อญฺญตฺร ภุญฺชนฺตีติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม เต, ภิกฺขเว, โมฆปุริสา อญฺญตฺร นิมนฺติตา อญฺญตฺร ภุญฺชิสฺสนฺติ! เนตํ, ภิกฺขเว, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    Atha kho so daliddo kammakāro ujjhāyati khiyyati vipāceti – ‘‘kathañhi nāma bhadantā mayā nimantitā aññatra bhuñjissanti! Na cāhaṃ paṭibalo yāvadatthaṃ dātu’’nti? Assosuṃ kho bhikkhū tassa daliddassa kammakārassa ujjhāyantassa khiyyantassa vipācentassa. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma bhikkhū aññatra nimantitā aññatra bhuñjissantī’’ti…pe… saccaṃ kira, bhikkhave, bhikkhū aññatra nimantitā aññatra bhuñjantīti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma te, bhikkhave, moghapurisā aññatra nimantitā aññatra bhuñjissanti! Netaṃ, bhikkhave, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ‘‘ปรมฺปรโภชเน ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    ‘‘Paramparabhojanepācittiya’’nti.

    เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ

    Evañcidaṃ bhagavatā bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ hoti.

    ๒๒๒. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ คิลาโน โหติฯ อญฺญตโร ภิกฺขุ ปิณฺฑปาตํ อาทาย เยน โส ภิกฺขุ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘ภุญฺชาหิ, อาวุโส’’ติฯ ‘‘อลํ, อาวุโส, อตฺถิ เม ภตฺตปจฺจาสา’’ติฯ ตสฺส ภิกฺขุโน ปิณฺฑปาโต อุสฺสูเร 9 อาหรียิตฺถฯ โส ภิกฺขุ น จิตฺตรูปํ ภุญฺชิฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิลาเนน ภิกฺขุนา ปรมฺปรโภชนํ ภุญฺชิตุํฯ เอวญฺจ ปน , ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    222. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu gilāno hoti. Aññataro bhikkhu piṇḍapātaṃ ādāya yena so bhikkhu tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā taṃ bhikkhuṃ etadavoca – ‘‘bhuñjāhi, āvuso’’ti. ‘‘Alaṃ, āvuso, atthi me bhattapaccāsā’’ti. Tassa bhikkhuno piṇḍapāto ussūre 10 āharīyittha. So bhikkhu na cittarūpaṃ bhuñji. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, gilānena bhikkhunā paramparabhojanaṃ bhuñjituṃ. Evañca pana , bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ‘‘ปรมฺปรโภชเน, อญฺญตฺร สมยา, ปาจิตฺติยํฯ ตตฺถายํ สมโยฯ คิลานสมโย – อยํ ตตฺถ สมโย’’ติฯ

    ‘‘Paramparabhojane,aññatra samayā, pācittiyaṃ. Tatthāyaṃ samayo. Gilānasamayo – ayaṃ tattha samayo’’ti.

    เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ

    Evañcidaṃ bhagavatā bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ hoti.

    ๒๒๓. เตน โข ปน สมเยน มนุสฺสา จีวรทานสมเย สจีวรภตฺตํ ปฎิยาเทตฺวา 11 ภิกฺขู นิมเนฺตนฺติ – ‘‘โภเชตฺวา จีวเรน อจฺฉาเทสฺสามา’’ติฯ ภิกฺขู กุกฺกุจฺจายนฺตา นาธิวาเสนฺติ – ‘‘ปฎิกฺขิตฺตํ ภควตา ปรมฺปรโภชน’’นฺติฯ จีวรํ ปริตฺตํ อุปฺปชฺชติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จีวรทานสมเย ปรมฺปรโภชนํ ภุญฺชิตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    223. Tena kho pana samayena manussā cīvaradānasamaye sacīvarabhattaṃ paṭiyādetvā 12 bhikkhū nimantenti – ‘‘bhojetvā cīvarena acchādessāmā’’ti. Bhikkhū kukkuccāyantā nādhivāsenti – ‘‘paṭikkhittaṃ bhagavatā paramparabhojana’’nti. Cīvaraṃ parittaṃ uppajjati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… anujānāmi, bhikkhave, cīvaradānasamaye paramparabhojanaṃ bhuñjituṃ. Evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ‘‘ปรมฺปรโภชเน, อญฺญตฺร สมยา, ปาจิตฺติยํฯ ตตฺถายํ สมโยฯ คิลานสมโย, จีวรทานสมโย – อยํ ตตฺถ สมโย’’ติฯ

    ‘‘Paramparabhojane, aññatra samayā, pācittiyaṃ. Tatthāyaṃ samayo. Gilānasamayo, cīvaradānasamayo – ayaṃ tattha samayo’’ti.

    เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ

    Evañcidaṃ bhagavatā bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ hoti.

    ๒๒๔. เตน โข ปน สมเยน มนุสฺสา จีวรการเก ภิกฺขู ภเตฺตน นิมเนฺตนฺติฯ ภิกฺขู กุกฺกุจฺจายนฺตา นาธิวาเสนฺติ – ‘‘ปฎิกฺขิตฺตํ ภควตา ปรมฺปรโภชน’’นฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จีวรการสมเย ปรมฺปรโภชนํ ภุญฺชิตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    224. Tena kho pana samayena manussā cīvarakārake bhikkhū bhattena nimantenti. Bhikkhū kukkuccāyantā nādhivāsenti – ‘‘paṭikkhittaṃ bhagavatā paramparabhojana’’nti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… anujānāmi, bhikkhave, cīvarakārasamaye paramparabhojanaṃ bhuñjituṃ. Evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ๒๒๕. ‘‘ปรมฺปรโภชเน, อญฺญตฺร สมยา, ปาจิตฺติยํฯ ตตฺถายํ สมโยฯ คิลานสมโย, จีวรทานสมโย, จีวรการสมโย – อยํ ตตฺถ สมโย’’ติฯ

    225.‘‘Paramparabhojane, aññatra samayā, pācittiyaṃ. Tatthāyaṃ samayo. Gilānasamayo, cīvaradānasamayo, cīvarakārasamayo – ayaṃ tattha samayo’’ti.

    เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ

    Evañcidaṃ bhagavatā bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ hoti.

    ๒๒๖. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย อายสฺมตา อานเนฺทน ปจฺฉาสมเณน เยน อญฺญตรํ กุลํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญเตฺต อาสเน นิสีทิฯ อถ โข เต มนุสฺสา ภควโต จ อายสฺมโต จ อานนฺทสฺส โภชนํ อทํสุฯ อายสฺมา อานโนฺท กุกฺกุจฺจายโนฺต น ปฎิคฺคณฺหาติฯ ‘‘คณฺหาหิ 13, อานนฺทา’’ติฯ ‘‘อลํ, ภควา , อตฺถิ เม ภตฺตปจฺจาสา’’ติฯ ‘‘เตนหานนฺท, วิกเปฺปตฺวา คณฺหาหี’’ติฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วิกเปฺปตฺวา 14 ปรมฺปรโภชนํ ภุญฺชิตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, วิกเปฺปตพฺพํ – ‘มยฺหํ ภตฺตปจฺจาสํ อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’’’ติฯ

    226. Atha kho bhagavā pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya āyasmatā ānandena pacchāsamaṇena yena aññataraṃ kulaṃ tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā paññatte āsane nisīdi. Atha kho te manussā bhagavato ca āyasmato ca ānandassa bhojanaṃ adaṃsu. Āyasmā ānando kukkuccāyanto na paṭiggaṇhāti. ‘‘Gaṇhāhi 15, ānandā’’ti. ‘‘Alaṃ, bhagavā , atthi me bhattapaccāsā’’ti. ‘‘Tenahānanda, vikappetvā gaṇhāhī’’ti. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, vikappetvā 16 paramparabhojanaṃ bhuñjituṃ. Evañca pana, bhikkhave, vikappetabbaṃ – ‘mayhaṃ bhattapaccāsaṃ itthannāmassa dammī’’’ti.

    ๒๒๗. ปรมฺปรโภชนํ นาม ปญฺจนฺนํ โภชนานํ อญฺญตเรน โภชเนน นิมนฺติโต, ตํ ฐเปตฺวา อญฺญํ ปญฺจนฺนํ โภชนานํ อญฺญตรํ โภชนํ ภุญฺชติ, เอตํ ปรมฺปรโภชนํ นามฯ

    227.Paramparabhojanaṃ nāma pañcannaṃ bhojanānaṃ aññatarena bhojanena nimantito, taṃ ṭhapetvā aññaṃ pañcannaṃ bhojanānaṃ aññataraṃ bhojanaṃ bhuñjati, etaṃ paramparabhojanaṃ nāma.

    อญฺญตฺร สมยาติ ฐเปตฺวา สมยํฯ

    Aññatra samayāti ṭhapetvā samayaṃ.

    คิลานสมโย นาม น สโกฺกติ เอกาสเน นิสิโนฺน ยาวทตฺถํ ภุญฺชิตุํฯ ‘‘คิลานสมโย’’ติ ภุญฺชิตพฺพํฯ

    Gilānasamayo nāma na sakkoti ekāsane nisinno yāvadatthaṃ bhuñjituṃ. ‘‘Gilānasamayo’’ti bhuñjitabbaṃ.

    จีวรทานสมโย นาม อนตฺถเต กถิเน วสฺสานสฺส ปจฺฉิโม มาโส, อตฺถเต กถิเน ปญฺจ มาสาฯ ‘‘จีวรทานสมโย’’ติ ภุญฺชิตพฺพํฯ

    Cīvaradānasamayo nāma anatthate kathine vassānassa pacchimo māso, atthate kathine pañca māsā. ‘‘Cīvaradānasamayo’’ti bhuñjitabbaṃ.

    จีวรการสมโย นาม จีวเร กยิรมาเนฯ ‘‘จีวรการสมโย’’ติ ภุญฺชิตพฺพํฯ

    Cīvarakārasamayo nāma cīvare kayiramāne. ‘‘Cīvarakārasamayo’’ti bhuñjitabbaṃ.

    ‘‘อญฺญตฺร สมยา ภุญฺชิสฺสามี’’ติ ปฎิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อโชฺฌหาเร อโชฺฌหาเร อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    ‘‘Aññatra samayā bhuñjissāmī’’ti paṭiggaṇhāti, āpatti dukkaṭassa. Ajjhohāre ajjhohāre āpatti pācittiyassa.

    ๒๒๘. ปรมฺปรโภชเน ปรมฺปรโภชนสญฺญี, อญฺญตฺร สมยา, ภุญฺชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ ปรมฺปรโภชเน เวมติโก, อญฺญตฺร สมยา, ภุญฺชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ ปรมฺปรโภชเน นปรมฺปรโภชนสญฺญี, อญฺญตฺร สมยา, ภุญฺชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    228. Paramparabhojane paramparabhojanasaññī, aññatra samayā, bhuñjati, āpatti pācittiyassa. Paramparabhojane vematiko, aññatra samayā, bhuñjati, āpatti pācittiyassa. Paramparabhojane naparamparabhojanasaññī, aññatra samayā, bhuñjati, āpatti pācittiyassa.

    นปรมฺปรโภชเน ปรมฺปรโภชนสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ นปรมฺปรโภชเน เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ นปรมฺปรโภชเน นปรมฺปรโภชนสญฺญี, อนาปตฺติฯ

    Naparamparabhojane paramparabhojanasaññī, āpatti dukkaṭassa. Naparamparabhojane vematiko, āpatti dukkaṭassa. Naparamparabhojane naparamparabhojanasaññī, anāpatti.

    ๒๒๙. อนาปตฺติ สมเย, วิกเปฺปตฺวา ภุญฺชติ, เทฺว ตโย นิมนฺตเน เอกโต ภุญฺชติ, นิมนฺตนปฎิปาฎิยา ภุญฺชติ, สกเลน คาเมน นิมนฺติโต ตสฺมิํ คาเม ยตฺถ กตฺถจิ ภุญฺชติ , สกเลน ปูเคน นิมนฺติโต ตสฺมิํ ปูเค ยตฺถ กตฺถจิ ภุญฺชติ, นิมนฺติยมาโน ภิกฺขํ คเหสฺสามีติ ภณติ, นิจฺจภเตฺต, สลากภเตฺต, ปกฺขิเก, อุโปสถิเก, ปาฎิปทิเก, ปญฺจ โภชนานิ ฐเปตฺวา สพฺพตฺถ อนาปตฺติ, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ

    229. Anāpatti samaye, vikappetvā bhuñjati, dve tayo nimantane ekato bhuñjati, nimantanapaṭipāṭiyā bhuñjati, sakalena gāmena nimantito tasmiṃ gāme yattha katthaci bhuñjati , sakalena pūgena nimantito tasmiṃ pūge yattha katthaci bhuñjati, nimantiyamāno bhikkhaṃ gahessāmīti bhaṇati, niccabhatte, salākabhatte, pakkhike, uposathike, pāṭipadike, pañca bhojanāni ṭhapetvā sabbattha anāpatti, ummattakassa, ādikammikassāti.

    ปรมฺปรโภชนสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ ตติยํฯ

    Paramparabhojanasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ tatiyaṃ.

    ๔. กาณมาตุสิกฺขาปทํ

    4. Kāṇamātusikkhāpadaṃ

    ๒๓๐. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน กาณมาตา อุปาสิกา สทฺธา โหติ ปสนฺนาฯ กาณา คามเก อญฺญตรสฺส ปุริสสฺส ทินฺนา โหติฯ อถ โข กาณา มาตุฆรํ อคมาสิ เกนจิเทว กรณีเยนฯ อถ โข กาณาย สามิโก กาณาย สนฺติเก ทูตํ ปาเหสิ – ‘‘อาคจฺฉตุ กาณา, อิจฺฉามิ กาณาย อาคต’’นฺติฯ อถ โข กาณมาตา อุปาสิกา ‘‘กิสฺมิํ วิย ริตฺตหตฺถํ คนฺตุ’’นฺติ ปูวํ 17 ปจิฯ ปเกฺก ปูเว อญฺญตโร ปิณฺฑจาริโก ภิกฺขุ กาณมาตาย อุปาสิกาย นิเวสนํ ปาวิสิฯ อถ โข กาณมาตา อุปาสิกา ตสฺส ภิกฺขุโน ปูวํ ทาเปสิฯ โส นิกฺขมิตฺวา อญฺญสฺส อาจิกฺขิฯ ตสฺสปิ ปูวํ ทาเปสิฯ โสปิ นิกฺขมิตฺวา อญฺญสฺส อาจิกฺขิฯ ตสฺสปิ ปูวํ ทาเปสิฯ ยถาปฎิยตฺตํ ปูวํ ปริกฺขยํ อคมาสิฯ ทุติยมฺปิ โข กาณาย สามิโก กาณาย สนฺติเก ทูตํ ปาเหสิ – ‘‘อาคจฺฉตุ กาณา, อิจฺฉามิ กาณาย อาคต’’นฺติฯ ทุติยมฺปิ โข กาณมาตา อุปาสิกา ‘‘กิสฺมิํ วิย ริตฺตหตฺตํ คนฺตุ’’นฺติ ปูวํ ปจิฯ ปเกฺก ปูเว อญฺญตโร ปิณฺฑจาริโก ภิกฺขุ กาณมาตาย อุปาสิกาย นิเวสนํ ปาวิสิฯ อถ โข กาณมาตา อุปาสิกา ตสฺส ภิกฺขุโน ปูวํ ทาเปสิฯ โส นิกฺขมิตฺวา อญฺญสฺส อาจิกฺขิฯ ตสฺสปิ ปูวํ ทาเปสิฯ โสปิ นิกฺขมิตฺวา อญฺญสฺส อาจิกฺขิฯ ตสฺสปิ ปูวํ ทาเปสิฯ ยถาปฎิยตฺตํ ปูวํ ปริกฺขยํ อคมาสิฯ ตติยมฺปิ โข กาณาย สามิโก กาณาย สนฺติเก ทูตํ ปาเหสิ – ‘‘อาคจฺฉตุ กาณา, อิจฺฉามิ กาณาย อาคตํฯ สเจ กาณา นาคจฺฉิสฺสติ, อหํ อญฺญํ ปชาปติํ อาเนสฺสามี’’ติฯ ตติยมฺปิ โข กาณมาตา อุปาสิกา กิสฺมิํ วิย ริตฺตหตฺถํ คนฺตุนฺติ ปูวํ ปจิฯ ปเกฺก ปูเว อญฺญตโร ปิณฺฑจาริโก ภิกฺขุ กาณมาตาย อุปาสิกาย นิเวสนํ ปาวิสิฯ อถ โข กาณมาตา อุปาสิกา ตสฺส ภิกฺขุโน ปูวํ ทาเปสิฯ โส นิกฺขมิตฺวา อญฺญสฺส อาจิกฺขิฯ ตสฺสปิ ปูวํ ทาเปสิฯ โสปิ นิกฺขมิตฺวา อญฺญสฺส อาจิกฺขิฯ ตสฺสปิ ปูวํ ทาเปสิฯ ยถาปฎิยตฺตํ ปูวํ ปริกฺขยํ อคมาสิฯ อถ โข กาณาย สามิโก อญฺญํ ปชาปติํ อาเนสิฯ

    230. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena kāṇamātā upāsikā saddhā hoti pasannā. Kāṇā gāmake aññatarassa purisassa dinnā hoti. Atha kho kāṇā mātugharaṃ agamāsi kenacideva karaṇīyena. Atha kho kāṇāya sāmiko kāṇāya santike dūtaṃ pāhesi – ‘‘āgacchatu kāṇā, icchāmi kāṇāya āgata’’nti. Atha kho kāṇamātā upāsikā ‘‘kismiṃ viya rittahatthaṃ gantu’’nti pūvaṃ 18 paci. Pakke pūve aññataro piṇḍacāriko bhikkhu kāṇamātāya upāsikāya nivesanaṃ pāvisi. Atha kho kāṇamātā upāsikā tassa bhikkhuno pūvaṃ dāpesi. So nikkhamitvā aññassa ācikkhi. Tassapi pūvaṃ dāpesi. Sopi nikkhamitvā aññassa ācikkhi. Tassapi pūvaṃ dāpesi. Yathāpaṭiyattaṃ pūvaṃ parikkhayaṃ agamāsi. Dutiyampi kho kāṇāya sāmiko kāṇāya santike dūtaṃ pāhesi – ‘‘āgacchatu kāṇā, icchāmi kāṇāya āgata’’nti. Dutiyampi kho kāṇamātā upāsikā ‘‘kismiṃ viya rittahattaṃ gantu’’nti pūvaṃ paci. Pakke pūve aññataro piṇḍacāriko bhikkhu kāṇamātāya upāsikāya nivesanaṃ pāvisi. Atha kho kāṇamātā upāsikā tassa bhikkhuno pūvaṃ dāpesi. So nikkhamitvā aññassa ācikkhi. Tassapi pūvaṃ dāpesi. Sopi nikkhamitvā aññassa ācikkhi. Tassapi pūvaṃ dāpesi. Yathāpaṭiyattaṃ pūvaṃ parikkhayaṃ agamāsi. Tatiyampi kho kāṇāya sāmiko kāṇāya santike dūtaṃ pāhesi – ‘‘āgacchatu kāṇā, icchāmi kāṇāya āgataṃ. Sace kāṇā nāgacchissati, ahaṃ aññaṃ pajāpatiṃ ānessāmī’’ti. Tatiyampi kho kāṇamātā upāsikā kismiṃ viya rittahatthaṃ gantunti pūvaṃ paci. Pakke pūve aññataro piṇḍacāriko bhikkhu kāṇamātāya upāsikāya nivesanaṃ pāvisi. Atha kho kāṇamātā upāsikā tassa bhikkhuno pūvaṃ dāpesi. So nikkhamitvā aññassa ācikkhi. Tassapi pūvaṃ dāpesi. Sopi nikkhamitvā aññassa ācikkhi. Tassapi pūvaṃ dāpesi. Yathāpaṭiyattaṃ pūvaṃ parikkhayaṃ agamāsi. Atha kho kāṇāya sāmiko aññaṃ pajāpatiṃ ānesi.

    อโสฺสสิ โข กาณา – ‘‘เตน กิร ปุริเสน อญฺญา ปชาปติ อานีตา’’ติฯ สา โรทนฺตี อฎฺฐาสิฯ อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน กาณมาตาย อุปาสิกาย นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญเตฺต อาสเน นิสีทิฯ อถ โข กาณมาตา อุปาสิกา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข กาณมาตรํ อุปาสิกํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘กิสฺสายํ กาณา โรทตี’’ติ? อถ โข กาณมาตา อุปาสิกา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ อถ โข ภควา กาณมาตรํ อุปาสิกํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุเตฺตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฎฺฐายาสนา ปกฺกามิฯ

    Assosi kho kāṇā – ‘‘tena kira purisena aññā pajāpati ānītā’’ti. Sā rodantī aṭṭhāsi. Atha kho bhagavā pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya yena kāṇamātāya upāsikāya nivesanaṃ tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā paññatte āsane nisīdi. Atha kho kāṇamātā upāsikā yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinnaṃ kho kāṇamātaraṃ upāsikaṃ bhagavā etadavoca – ‘‘kissāyaṃ kāṇā rodatī’’ti? Atha kho kāṇamātā upāsikā bhagavato etamatthaṃ ārocesi. Atha kho bhagavā kāṇamātaraṃ upāsikaṃ dhammiyā kathāya sandassetvā samādapetvā samuttejetvā sampahaṃsetvā uṭṭhāyāsanā pakkāmi.

    ๒๓๑. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร สโตฺถ ราชคหา ปฎิยาโลกํ คนฺตุกาโม โหติฯ อญฺญตโร ปิณฺฑจาริโก ภิกฺขุ ตํ สตฺถํ ปิณฺฑาย ปาวิสิฯ อญฺญตโร อุปาสโก ตสฺส ภิกฺขุโน สตฺตุํ ทาเปสิฯ โส นิกฺขมิตฺวา อญฺญสฺส อาจิกฺขิฯ ตสฺสปิ สตฺตุํ ทาเปสิฯ โส นิกฺขมิตฺวา อญฺญสฺส อาจิกฺขิฯ ตสฺสปิ สตฺตุํ ทาเปสิฯ ยถาปฎิยตฺตํ ปาเถยฺยํ ปริกฺขยํ อคมาสิ ฯ อถ โข โส อุปาสโก เต มนุเสฺส เอตทโวจ – ‘‘อชฺชโณฺห, อยฺยา, อาคเมถ, ยถาปฎิยตฺตํ ปาเถยฺยํ อยฺยานํ ทินฺนํฯ ปาเถยฺยํ ปฎิยาเทสฺสามี’’ติฯ ‘‘นาโยฺย 19 สกฺกา อาคเมตุํ, ปยาโต สโตฺถ’’ติ อคมํสุฯ อถ โข ตสฺส อุปาสกสฺส ปาเถยฺยํ ปฎิยาเทตฺวา ปจฺฉา คจฺฉนฺตสฺส โจรา อจฺฉินฺทิํสุฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา น มตฺตํ ชานิตฺวา ปฎิคฺคเหสฺสนฺติ! อยํ อิเมสํ ทตฺวา ปจฺฉา คจฺฉโนฺต โจเรหิ อจฺฉิโนฺน’’ติฯ อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ มนุสฺสานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํฯ อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญเปสฺสามิ ทส อตฺถวเส ปฎิจฺจ – สงฺฆสุฎฺฐุตาย, สงฺฆผาสุตาย…เป.… วินยานุคฺคหายฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    231. Tena kho pana samayena aññataro sattho rājagahā paṭiyālokaṃ gantukāmo hoti. Aññataro piṇḍacāriko bhikkhu taṃ satthaṃ piṇḍāya pāvisi. Aññataro upāsako tassa bhikkhuno sattuṃ dāpesi. So nikkhamitvā aññassa ācikkhi. Tassapi sattuṃ dāpesi. So nikkhamitvā aññassa ācikkhi. Tassapi sattuṃ dāpesi. Yathāpaṭiyattaṃ pātheyyaṃ parikkhayaṃ agamāsi . Atha kho so upāsako te manusse etadavoca – ‘‘ajjaṇho, ayyā, āgametha, yathāpaṭiyattaṃ pātheyyaṃ ayyānaṃ dinnaṃ. Pātheyyaṃ paṭiyādessāmī’’ti. ‘‘Nāyyo 20 sakkā āgametuṃ, payāto sattho’’ti agamaṃsu. Atha kho tassa upāsakassa pātheyyaṃ paṭiyādetvā pacchā gacchantassa corā acchindiṃsu. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma samaṇā sakyaputtiyā na mattaṃ jānitvā paṭiggahessanti! Ayaṃ imesaṃ datvā pacchā gacchanto corehi acchinno’’ti. Assosuṃ kho bhikkhū tesaṃ manussānaṃ ujjhāyantānaṃ khiyyantānaṃ vipācentānaṃ. Atha kho te bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘tena hi, bhikkhave, bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññapessāmi dasa atthavase paṭicca – saṅghasuṭṭhutāya, saṅghaphāsutāya…pe… vinayānuggahāya. Evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ๒๓๒. ‘‘ภิกฺขุํ ปเนว กุลํ อุปคตํ ปูเวหิ วา มเนฺถหิ วา อภิหฎฺฐุํ ปวาเรยฺย, อากงฺขมาเนน ภิกฺขุนา ทฺวตฺติปตฺตปูรา ปฎิคฺคเหตพฺพา ตโต เจ อุตฺตริ ปฎิคฺคเณฺหยฺย ปาจิตฺติยํฯ ทฺวตฺติปตฺตปูเร ปฎิคฺคเหตฺวา ตโต นีหริตฺวา ภิกฺขูหิ สทฺธิํ สํวิภชิตพฺพํฯ อยํ ตตฺถ สามีจี’’ติฯ

    232.‘‘Bhikkhuṃ paneva kulaṃ upagataṃ pūvehi vā manthehi vā abhihaṭṭhuṃ pavāreyya, ākaṅkhamānena bhikkhunā dvattipattapūrā paṭiggahetabbā tato ce uttari paṭiggaṇheyya pācittiyaṃ. Dvattipattapūre paṭiggahetvā tato nīharitvā bhikkhūhi saddhiṃ saṃvibhajitabbaṃ. Ayaṃ tattha sāmīcī’’ti.

    ๒๓๓. ภิกฺขุํ ปเนว กุลํ อุปคตนฺติ กุลํ นาม จตฺตาริ กุลานิ – ขตฺติยกุลํ, พฺราหฺมณกุลํ, เวสฺสกุลํ, สุทฺทกุลํฯ

    233.Bhikkhuṃ paneva kulaṃ upagatanti kulaṃ nāma cattāri kulāni – khattiyakulaṃ, brāhmaṇakulaṃ, vessakulaṃ, suddakulaṃ.

    อุปคตนฺติ ตตฺถ คตํฯ

    Upagatanti tattha gataṃ.

    ปูวํ นาม ยํกิญฺจิ ปเหณกตฺถาย ปฎิยตฺตํฯ

    Pūvaṃ nāma yaṃkiñci paheṇakatthāya paṭiyattaṃ.

    มนฺถํ นาม ยํกิญฺจิ ปาเถยฺยตฺถาย ปฎิยตฺตํฯ

    Manthaṃ nāma yaṃkiñci pātheyyatthāya paṭiyattaṃ.

    อภิหฎฺฐุํ ปวาเรยฺยาติ ยาวตกํ อิจฺฉสิ ตาวตกํ คณฺหาหีติฯ

    Abhihaṭṭhuṃ pavāreyyāti yāvatakaṃ icchasi tāvatakaṃ gaṇhāhīti.

    อากงฺขมาเนนาติ อิจฺฉมาเนนฯ

    Ākaṅkhamānenāti icchamānena.

    ทฺวตฺติปตฺตปูรา ปฎิคฺคเหตพฺพาติ เทฺวตโย ปตฺตปูรา ปฎิคฺคเหตพฺพาฯ

    Dvattipattapūrā paṭiggahetabbāti dvetayo pattapūrā paṭiggahetabbā.

    ตโต เจ อุตฺตริ ปฎิคเณฺหยฺยาติ ตตุตฺตริ ปฎิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Tatoce uttari paṭigaṇheyyāti tatuttari paṭiggaṇhāti, āpatti pācittiyassa.

    ทฺวตฺติปตฺตปูเร ปฎิคฺคเหตฺวา ตโต นิกฺขมเนฺตน ภิกฺขุํ ปสฺสิตฺวา อาจิกฺขิตพฺพํ – ‘‘อมุตฺร มยา ทฺวตฺติปตฺตปูรา ปฎิคฺคหิตา, มา โข ตตฺถ ปฎิคฺคณฺหี’’ติฯ สเจ ปสฺสิตฺวา น อาจิกฺขติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ สเจ อาจิกฺขิเต ปฎิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ

    Dvattipattapūre paṭiggahetvā tato nikkhamantena bhikkhuṃ passitvā ācikkhitabbaṃ – ‘‘amutra mayā dvattipattapūrā paṭiggahitā, mā kho tattha paṭiggaṇhī’’ti. Sace passitvā na ācikkhati, āpatti dukkaṭassa. Sace ācikkhite paṭiggaṇhāti, āpatti dukkaṭassa.

    ตโต นีหริตฺวา ภิกฺขูหิ สทฺธิํ สํวิภชิตพฺพนฺติ ปฎิกฺกมนํ นีหริตฺวา สํวิภชิตพฺพํฯ

    Tatonīharitvā bhikkhūhi saddhiṃ saṃvibhajitabbanti paṭikkamanaṃ nīharitvā saṃvibhajitabbaṃ.

    อยํ ตตฺถ สามีจีติ อยํ ตตฺถ อนุธมฺมตาฯ

    Ayaṃ tattha sāmīcīti ayaṃ tattha anudhammatā.

    ๒๓๔. อติเรกทฺวตฺติปตฺตปูเร อติเรกสญฺญี ปฎิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อติเรกทฺวตฺติปตฺตปูเร เวมติโก ปฎิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อติเรกทฺวตฺติปตฺตปูเร อูนกสญฺญี ปฎิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    234. Atirekadvattipattapūre atirekasaññī paṭiggaṇhāti, āpatti pācittiyassa. Atirekadvattipattapūre vematiko paṭiggaṇhāti, āpatti pācittiyassa. Atirekadvattipattapūre ūnakasaññī paṭiggaṇhāti, āpatti pācittiyassa.

    อูนกทฺวตฺติปตฺตปูเร อติเรกสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อูนกทฺวตฺติปตฺตปูเร เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อูนกทฺวตฺติปตฺตปูเร อูนกสญฺญี, อนาปตฺติฯ

    Ūnakadvattipattapūre atirekasaññī, āpatti dukkaṭassa. Ūnakadvattipattapūre vematiko, āpatti dukkaṭassa. Ūnakadvattipattapūre ūnakasaññī, anāpatti.

    ๒๓๕. อนาปตฺติ ทฺวตฺติปตฺตปูเร ปฎิคฺคณฺหาติ, อูนกทฺวตฺติปตฺตปูเร ปฎิคฺคณฺหาติ, น ปเหณกตฺถาย น ปาเถยฺยตฺถาย ปฎิยตฺตํ เทนฺติ, ปเหณกตฺถาย วา ปาเถยฺยตฺถาย วา ปฎิยตฺตเสสกํ เทนฺติ, คมเน ปฎิปฺปสฺสเทฺธ เทนฺติ, ญาตกานํ ปวาริตานํ, อญฺญสฺสตฺถาย, อตฺตโน ธเนน, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ

    235. Anāpatti dvattipattapūre paṭiggaṇhāti, ūnakadvattipattapūre paṭiggaṇhāti, na paheṇakatthāya na pātheyyatthāya paṭiyattaṃ denti, paheṇakatthāya vā pātheyyatthāya vā paṭiyattasesakaṃ denti, gamane paṭippassaddhe denti, ñātakānaṃ pavāritānaṃ, aññassatthāya, attano dhanena, ummattakassa, ādikammikassāti.

    กาณมาตุสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ จตุตฺถํฯ

    Kāṇamātusikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ catutthaṃ.

    ๕. ปฐมปวารณาสิกฺขาปทํ

    5. Paṭhamapavāraṇāsikkhāpadaṃ

    ๒๓๖. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร พฺราหฺมโณ ภิกฺขู นิมเนฺตตฺวา โภเชสิฯ ภิกฺขู ภุตฺตาวี ปวาริตา ญาติกุลานิ คนฺตฺวา เอกเจฺจ ภุญฺชิํสุ เอกเจฺจ ปิณฺฑปาตํ อาทาย อคมํสุฯ อถ โข โส พฺราหฺมโณ ปฎิวิสฺสเก 21 เอตทโวจ – ‘‘ภิกฺขู มยา อยฺยา สนฺตปฺปิตาฯ เอถ, ตุเมฺหปิ สนฺตเปฺปสฺสามี’’ติฯ เต เอวมาหํสุ – ‘‘กิํ ตฺวํ, อโยฺย 22, อเมฺห สนฺตเปฺปสฺสสิ? เยปิ ตยา นิมนฺติตา เตปิ อมฺหากํ ฆรานิ อาคนฺตฺวา เอกเจฺจ ภุญฺชิํสุ เอกเจฺจ ปิณฺฑปาตํ อาทาย อคมํสู’’ติ!

    236. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena aññataro brāhmaṇo bhikkhū nimantetvā bhojesi. Bhikkhū bhuttāvī pavāritā ñātikulāni gantvā ekacce bhuñjiṃsu ekacce piṇḍapātaṃ ādāya agamaṃsu. Atha kho so brāhmaṇo paṭivissake 23 etadavoca – ‘‘bhikkhū mayā ayyā santappitā. Etha, tumhepi santappessāmī’’ti. Te evamāhaṃsu – ‘‘kiṃ tvaṃ, ayyo 24, amhe santappessasi? Yepi tayā nimantitā tepi amhākaṃ gharāni āgantvā ekacce bhuñjiṃsu ekacce piṇḍapātaṃ ādāya agamaṃsū’’ti!

    อถ โข โส พฺราหฺมโณ อุชฺฌายติ ขิยฺยติ วิปาเจติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ภทนฺตา อมฺหากํ ฆเร ภุญฺชิตฺวา อญฺญตฺร ภุญฺชิสฺสนฺติ! น จาหํ ปฎิพโล ยาวทตฺถํ ทาตุ’’นฺติ! อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู ตสฺส พฺราหฺมณสฺส อุชฺฌายนฺตสฺส ขิยฺยนฺตสฺส วิปาเจนฺตสฺสฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ภิกฺขู ภุตฺตาวี ปวาริตา อญฺญตฺร ภุญฺชิสฺสนฺตี’’ติ…เป.… สจฺจํ กิร, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ภุตฺตาวี ปวาริตา อญฺญตฺร ภุญฺชนฺตีติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม เต, ภิกฺขเว, โมฆปุริสา ภุตฺตาวี ปวาริตา อญฺญตฺร ภุญฺชิสฺสนฺติ ! เนตํ, ภิกฺขเว, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    Atha kho so brāhmaṇo ujjhāyati khiyyati vipāceti – ‘‘kathañhi nāma bhadantā amhākaṃ ghare bhuñjitvā aññatra bhuñjissanti! Na cāhaṃ paṭibalo yāvadatthaṃ dātu’’nti! Assosuṃ kho bhikkhū tassa brāhmaṇassa ujjhāyantassa khiyyantassa vipācentassa. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma bhikkhū bhuttāvī pavāritā aññatra bhuñjissantī’’ti…pe… saccaṃ kira, bhikkhave, bhikkhū bhuttāvī pavāritā aññatra bhuñjantīti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma te, bhikkhave, moghapurisā bhuttāvī pavāritā aññatra bhuñjissanti ! Netaṃ, bhikkhave, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ภุตฺตาวี ปวาริโต ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ขาเทยฺย วา ภุเญฺชยฺย วา, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    ‘‘Yo pana bhikkhu bhuttāvī pavārito khādanīyaṃ vā bhojanīyaṃ vā khādeyya vā bhuñjeyya vā, pācittiya’’nti.

    เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ

    Evañcidaṃ bhagavatā bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ hoti.

    ๒๓๗. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู คิลานานํ ภิกฺขูนํ ปณีเต ปิณฺฑปาเต นีหรนฺติฯ คิลานา น จิตฺตรูปํ ภุญฺชนฺติฯ ตานิ ภิกฺขู ฉเฎฺฎนฺติฯ อโสฺสสิ โข ภควา อุจฺจาสทฺทํ มหาสทฺทํ กาโกรวสทฺทํฯ สุตฺวาน อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามเนฺตสิ – ‘‘กิํ นุ โข โส, อานนฺท, อุจฺจาสโทฺท มหาสโทฺท กาโกรวสโทฺท’’ติ? อถ โข อายสฺมา อานโนฺท ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ ‘‘ภุเญฺชยฺยุํ ปนานนฺท, ภิกฺขู คิลานาติริตฺต’’นฺติฯ ‘‘น ภุเญฺชยฺยุํ, ภควา’’ติฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว, คิลานสฺส จ อคิลานสฺส จ อติริตฺตํ ภุญฺชิตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อติริตฺตํ กาตพฺพํ – ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    237. Tena kho pana samayena bhikkhū gilānānaṃ bhikkhūnaṃ paṇīte piṇḍapāte nīharanti. Gilānā na cittarūpaṃ bhuñjanti. Tāni bhikkhū chaṭṭenti. Assosi kho bhagavā uccāsaddaṃ mahāsaddaṃ kākoravasaddaṃ. Sutvāna āyasmantaṃ ānandaṃ āmantesi – ‘‘kiṃ nu kho so, ānanda, uccāsaddo mahāsaddo kākoravasaddo’’ti? Atha kho āyasmā ānando bhagavato etamatthaṃ ārocesi. ‘‘Bhuñjeyyuṃ panānanda, bhikkhū gilānātiritta’’nti. ‘‘Na bhuñjeyyuṃ, bhagavā’’ti. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘anujānāmi bhikkhave, gilānassa ca agilānassa ca atirittaṃ bhuñjituṃ. Evañca pana, bhikkhave, atirittaṃ kātabbaṃ – ‘‘alametaṃ sabba’’nti. Evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ๒๓๘. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ภุตฺตาวี ปวาริโต อนติริตฺตํ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ขาเทยฺย วา ภุเญฺชยฺย วา, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    238.‘‘Yopana bhikkhu bhuttāvī pavārito anatirittaṃ khādanīyaṃ vā bhojanīyaṃ vā khādeyya vā bhuñjeyya vā, pācittiya’’nti.

    ๒๓๙. โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ

    239.Yo panāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.

    ภุตฺตาวี นาม ปญฺจนฺนํ โภชนานํ อญฺญตรํ โภชนํ อนฺตมโส กุสเคฺคนปิ ภุตฺตํ โหติฯ

    Bhuttāvī nāma pañcannaṃ bhojanānaṃ aññataraṃ bhojanaṃ antamaso kusaggenapi bhuttaṃ hoti.

    ปวาริโต นาม อสนํ ปญฺญายติ, โภชนํ ปญฺญายติ, หตฺถปาเส ฐิโต อภิหรติ, ปฎิเกฺขโป ปญฺญายติฯ

    Pavārito nāma asanaṃ paññāyati, bhojanaṃ paññāyati, hatthapāse ṭhito abhiharati, paṭikkhepo paññāyati.

    อนติริตฺตํ นาม อกปฺปิยกตํ โหติ, อปฺปฎิคฺคหิตกตํ โหติ, อนุจฺจาริตกตํ โหติ , อหตฺถปาเส กตํ โหติ, อภุตฺตาวินา กตํ โหติ, ภุตฺตาวินา ปวาริเตน อาสนา วุฎฺฐิเตน กตํ โหติ, ‘‘อลเมตํ สพฺพนฺติ อวุตฺตํ โหติ, น คิลานาติริตฺตํ โหติ’’ – เอตํ อนติริตฺตํ นามฯ

    Anatirittaṃ nāma akappiyakataṃ hoti, appaṭiggahitakataṃ hoti, anuccāritakataṃ hoti , ahatthapāse kataṃ hoti, abhuttāvinā kataṃ hoti, bhuttāvinā pavāritena āsanā vuṭṭhitena kataṃ hoti, ‘‘alametaṃ sabbanti avuttaṃ hoti, na gilānātirittaṃ hoti’’ – etaṃ anatirittaṃ nāma.

    อติริตฺตํ นาม กปฺปิยกตํ โหติ, ปฎิคฺคหิตกตํ โหติ, อุจฺจาริตกตํ โหติ, หตฺถปาเส กตํ โหติ, ภุตฺตาวินา กตํ โหติ, ภุตฺตาวินา ปวาริเตน อาสนา อวุฎฺฐิเตน กตํ โหติ, ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ โหติ, คิลานาติริตฺตํ โหติ – เอตํ อติริตฺตํ นามฯ

    Atirittaṃ nāma kappiyakataṃ hoti, paṭiggahitakataṃ hoti, uccāritakataṃ hoti, hatthapāse kataṃ hoti, bhuttāvinā kataṃ hoti, bhuttāvinā pavāritena āsanā avuṭṭhitena kataṃ hoti, ‘‘alametaṃ sabba’’nti vuttaṃ hoti, gilānātirittaṃ hoti – etaṃ atirittaṃ nāma.

    ขาทนียํ นาม ปญฺจ โภชนานิ – ยามกาลิกํ สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกํ ฐเปตฺวา อวเสสํ ขาทนียํ นามฯ

    Khādanīyaṃ nāma pañca bhojanāni – yāmakālikaṃ sattāhakālikaṃ yāvajīvikaṃ ṭhapetvā avasesaṃ khādanīyaṃ nāma.

    โภชนียํ นาม ปญฺจ โภชนานิ – โอทโน, กุมฺมาโส, สตฺตุ, มโจฺฉ, มํสํฯ

    Bhojanīyaṃ nāma pañca bhojanāni – odano, kummāso, sattu, maccho, maṃsaṃ.

    ‘‘ขาทิสฺสามิ ภุญฺชิสฺสามี’’ติ ปฎิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺส อโชฺฌหาเร อโชฺฌหาเร อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    ‘‘Khādissāmi bhuñjissāmī’’ti paṭiggaṇhāti, āpatti dukkaṭassa ajjhohāre ajjhohāre āpatti pācittiyassa.

    ๒๔๐. อนติริเตฺต อนติริตฺตสญฺญี ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ขาทติ วา ภุญฺชติ วา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อนติริเตฺต เวมติโก ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ขาทติ วา ภุญฺชติ วา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อนติริเตฺต อติริตฺตสญฺญี ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ขาทติ วา ภุญฺชติ วา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    240. Anatiritte anatirittasaññī khādanīyaṃ vā bhojanīyaṃ vā khādati vā bhuñjati vā, āpatti pācittiyassa. Anatiritte vematiko khādanīyaṃ vā bhojanīyaṃ vā khādati vā bhuñjati vā, āpatti pācittiyassa. Anatiritte atirittasaññī khādanīyaṃ vā bhojanīyaṃ vā khādati vā bhuñjati vā, āpatti pācittiyassa.

    ยามกาลิกํ สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกํ อาหารตฺถาย ปฎิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อโชฺฌหาเร อโชฺฌหาเร อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อติริเตฺต อนติริตฺตสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อติริเตฺต เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อติริเตฺต อติริตฺตสญฺญี, อนาปตฺติฯ

    Yāmakālikaṃ sattāhakālikaṃ yāvajīvikaṃ āhāratthāya paṭiggaṇhāti, āpatti dukkaṭassa. Ajjhohāre ajjhohāre āpatti dukkaṭassa. Atiritte anatirittasaññī, āpatti dukkaṭassa. Atiritte vematiko, āpatti dukkaṭassa. Atiritte atirittasaññī, anāpatti.

    ๒๔๑. อนาปตฺติ อติริตฺตํ การาเปตฺวา ภุญฺชติ, ‘‘อติริตฺตํ การาเปตฺวา ภุญฺชิสฺสามี’’ติ ปฎิคฺคณฺหาติ, อญฺญสฺสตฺถาย หรโนฺต คจฺฉติ, คิลานสฺส เสสกํ ภุญฺชติ, ยามกาลิกํ สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกํ สติ ปจฺจเย ปริภุญฺชติ, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ

    241. Anāpatti atirittaṃ kārāpetvā bhuñjati, ‘‘atirittaṃ kārāpetvā bhuñjissāmī’’ti paṭiggaṇhāti, aññassatthāya haranto gacchati, gilānassa sesakaṃ bhuñjati, yāmakālikaṃ sattāhakālikaṃ yāvajīvikaṃ sati paccaye paribhuñjati, ummattakassa, ādikammikassāti.

    ปฐมปวารณาสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ ปญฺจมํฯ

    Paṭhamapavāraṇāsikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ pañcamaṃ.

    ๖. ทุติยปวารณาสิกฺขาปทํ

    6. Dutiyapavāraṇāsikkhāpadaṃ

    ๒๔๒. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน เทฺว ภิกฺขู โกสเลสุ ชนปเท สาวตฺถิํ อทฺธานมคฺคปฺปฎิปนฺนา โหนฺติฯ เอโก ภิกฺขุ อนาจารํ อาจรติฯ ทุติโย ภิกฺขุ ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘มาวุโส, เอวรูปมกาสิ, เนตํ กปฺปตี’’ติฯ โส ตสฺมิํ อุปนนฺธิฯ อถ โข เต ภิกฺขู สาวตฺถิํ อคมํสุฯ เตน โข ปน สมเยน สาวตฺถิยํ อญฺญตรสฺส ปูคสฺส สงฺฆภตฺตํ โหติฯ ทุติโย ภิกฺขุ ภุตฺตาวี ปวาริโต โหติฯ อุปนโทฺธ 25 ภิกฺขุ ญาติกุลํ คนฺตฺวา ปิณฺฑปาตํ อาทาย เยน โส ภิกฺขุ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘ภุญฺชาหิ, อาวุโส’’ติฯ ‘‘อลํ, อาวุโส, ปริปุโณฺณมฺหี’’ติฯ ‘‘สุนฺทโร, อาวุโส, ปิณฺฑปาโต, ภุญฺชาหี’’ติฯ อถ โข โส ภิกฺขุ เตน ภิกฺขุนา นิปฺปีฬิยมาโน ตํ ปิณฺฑปาตํ ภุญฺชิฯ อุปนโทฺธ ภิกฺขุ ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘ตฺวมฺปิ 26 นาม, อาวุโส, มํ วตฺตพฺพํ มญฺญสิ ยํ ตฺวํ ภุตฺตาวี ปวาริโต อนติริตฺตํ โภชนํ ภุญฺชสี’’ติฯ ‘‘นนุ, อาวุโส, อาจิกฺขิตพฺพ’’นฺติฯ ‘‘นนุ, อาวุโส, ปุจฺฉิตพฺพ’’นฺติฯ

    242. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena dve bhikkhū kosalesu janapade sāvatthiṃ addhānamaggappaṭipannā honti. Eko bhikkhu anācāraṃ ācarati. Dutiyo bhikkhu taṃ bhikkhuṃ etadavoca – ‘‘māvuso, evarūpamakāsi, netaṃ kappatī’’ti. So tasmiṃ upanandhi. Atha kho te bhikkhū sāvatthiṃ agamaṃsu. Tena kho pana samayena sāvatthiyaṃ aññatarassa pūgassa saṅghabhattaṃ hoti. Dutiyo bhikkhu bhuttāvī pavārito hoti. Upanaddho 27 bhikkhu ñātikulaṃ gantvā piṇḍapātaṃ ādāya yena so bhikkhu tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā taṃ bhikkhuṃ etadavoca – ‘‘bhuñjāhi, āvuso’’ti. ‘‘Alaṃ, āvuso, paripuṇṇomhī’’ti. ‘‘Sundaro, āvuso, piṇḍapāto, bhuñjāhī’’ti. Atha kho so bhikkhu tena bhikkhunā nippīḷiyamāno taṃ piṇḍapātaṃ bhuñji. Upanaddho bhikkhu taṃ bhikkhuṃ etadavoca – ‘‘tvampi 28 nāma, āvuso, maṃ vattabbaṃ maññasi yaṃ tvaṃ bhuttāvī pavārito anatirittaṃ bhojanaṃ bhuñjasī’’ti. ‘‘Nanu, āvuso, ācikkhitabba’’nti. ‘‘Nanu, āvuso, pucchitabba’’nti.

    อถ โข โส ภิกฺขุ ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ภิกฺขุ ภิกฺขุํ ภุตฺตาวิํ ปวาริตํ อนติริเตฺตน โภชเนน อภิหฎฺฐุํ ปวาเรสฺสตี’’ ติ…เป.… สจฺจํ กิร ตฺวํ, ภิกฺขุ, ภิกฺขุํ ภุตฺตาวิํ ปวาริตํ อนติริเตฺตน โภชเนน อภิหฎฺฐุํ ปวาเรสีติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส, ภิกฺขุํ ภุตฺตาวิํ ปวาริตํ อนติริเตฺตน โภชเนน อภิหฎฺฐุํ ปวาเรสฺสสิ! เนตํ, โมฆปุริส, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน ภิกฺขเว อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    Atha kho so bhikkhu bhikkhūnaṃ etamatthaṃ ārocesi. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma bhikkhu bhikkhuṃ bhuttāviṃ pavāritaṃ anatirittena bhojanena abhihaṭṭhuṃ pavāressatī’’ ti…pe… saccaṃ kira tvaṃ, bhikkhu, bhikkhuṃ bhuttāviṃ pavāritaṃ anatirittena bhojanena abhihaṭṭhuṃ pavāresīti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tvaṃ, moghapurisa, bhikkhuṃ bhuttāviṃ pavāritaṃ anatirittena bhojanena abhihaṭṭhuṃ pavāressasi! Netaṃ, moghapurisa, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana bhikkhave imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ๒๔๓. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ภิกฺขุํ ภุตฺตาวิํ ปวาริตํ อนติริเตฺตน ขาทนีเยน วา โภชนีเยน วา อภิหฎฺฐุํ ปวาเรยฺย – ‘หนฺท, ภิกฺขุ, ขาท วา ภุญฺช วา’ติ, ชานํ อาสาทนาเปโกฺข, ภุตฺตสฺมิํ, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    243.‘‘Yo pana bhikkhu bhikkhuṃ bhuttāviṃ pavāritaṃ anatirittena khādanīyena vā bhojanīyena vā abhihaṭṭhuṃ pavāreyya – ‘handa, bhikkhu, khāda vā bhuñja vā’ti, jānaṃ āsādanāpekkho, bhuttasmiṃ, pācittiya’’nti.

    ๒๔๔. โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ

    244.Yo panāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.

    ภิกฺขุนฺติ อญฺญํ ภิกฺขุํฯ

    Bhikkhunti aññaṃ bhikkhuṃ.

    ภุตฺตาวี นาม ปญฺจนฺนํ โภชนานํ อญฺญตรํ โภชนํ, อนฺตมโส กุสเคฺคนปิ ภุตฺตํ โหติฯ

    Bhuttāvī nāma pañcannaṃ bhojanānaṃ aññataraṃ bhojanaṃ, antamaso kusaggenapi bhuttaṃ hoti.

    ปวาริโต นาม อสนํ ปญฺญายติ, โภชนํ ปญฺญายติ, หตฺถปาเส ฐิโต อภิหรติ, ปฎิเกฺขโป ปญฺญายติฯ

    Pavārito nāma asanaṃ paññāyati, bhojanaṃ paññāyati, hatthapāse ṭhito abhiharati, paṭikkhepo paññāyati.

    อนติริตฺตํ นาม อกปฺปิยกตํ โหติ, อปฺปฎิคฺคหิตกตํ โหติ, อนุจฺจาริตกตํ โหติ, อหตฺถปาเส กตํ โหติ, อภุตฺตาวินา กตํ โหติ, ภุตฺตาวินา ปวาริเตน อาสนา วุฎฺฐิเตน กตํ โหติ, ‘‘อลเมตํ สพฺพ’’นฺติ อวุตฺตํ โหติ, น คิลานาติริตฺตํ โหติ – เอตํ อนติริตฺตํ นามฯ

    Anatirittaṃ nāma akappiyakataṃ hoti, appaṭiggahitakataṃ hoti, anuccāritakataṃ hoti, ahatthapāse kataṃ hoti, abhuttāvinā kataṃ hoti, bhuttāvinā pavāritena āsanā vuṭṭhitena kataṃ hoti, ‘‘alametaṃ sabba’’nti avuttaṃ hoti, na gilānātirittaṃ hoti – etaṃ anatirittaṃ nāma.

    ขาทนียํ นาม ปญฺจ โภชนานิ – ยามกาลิกํ สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกํ ฐเปตฺวา อวเสสํ ขาทนียํ นามฯ

    Khādanīyaṃ nāma pañca bhojanāni – yāmakālikaṃ sattāhakālikaṃ yāvajīvikaṃ ṭhapetvā avasesaṃ khādanīyaṃ nāma.

    โภชนียํ นาม ปญฺจ โภชนานิ – โอทโน, กุมฺมาโส, สตฺตุ, มโจฺฉ, มํสํฯ

    Bhojanīyaṃ nāma pañca bhojanāni – odano, kummāso, sattu, maccho, maṃsaṃ.

    อภิหฎฺฐุํ ปวาเรยฺยาติ ยาวตกํ อิจฺฉสิ ตาวตกํ คณฺหาหีติฯ

    Abhihaṭṭhuṃ pavāreyyāti yāvatakaṃ icchasi tāvatakaṃ gaṇhāhīti.

    ชานาติ นาม สามํ วา ชานาติ, อเญฺญ วา ตสฺส อาโรเจนฺติ, โส วา อาโรเจติฯ

    Jānāti nāma sāmaṃ vā jānāti, aññe vā tassa ārocenti, so vā āroceti.

    อาสาทนาเปโกฺขติ ‘‘อิมินา อิมํ โจเทสฺสามิ สาเรสฺสามิ ปฎิโจเทสฺสามิ ปฎิสาเรสฺสามิ มงฺกุ กริสฺสามี’’ติ อภิหรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ตสฺส วจเนน ‘‘ขาทิสฺสามิ ภุญฺชิสฺสามี’’ติ ปฎิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อโชฺฌหาเร อโชฺฌหาเร อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ โภชนปริโยสาเน อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Āsādanāpekkhoti ‘‘iminā imaṃ codessāmi sāressāmi paṭicodessāmi paṭisāressāmi maṅku karissāmī’’ti abhiharati, āpatti dukkaṭassa. Tassa vacanena ‘‘khādissāmi bhuñjissāmī’’ti paṭiggaṇhāti, āpatti dukkaṭassa. Ajjhohāre ajjhohāre āpatti dukkaṭassa. Bhojanapariyosāne āpatti pācittiyassa.

    ๒๔๕. ปวาริเต ปวาริตสญฺญี อนติริเตฺตน ขาทนีเยน วา โภชนีเยน วา อภิหฎฺฐุํ ปวาเรติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ ปวาริเต เวมติโก อนติริเตฺตน ขาทนีเยน วา โภชนีเยน วา อภิหฎฺฐุํ ปวาเรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ปวาริเต อปฺปวาริตสญฺญี อนติริเตฺตน ขาทนีเยน วา โภชนีเยน วา อภิหฎฺฐุํ ปวาเรติ, อนาปตฺติฯ ยามกาลิกํ สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกํ อาหารตฺถาย อภิหรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ตสฺส วจเนน ‘‘ขาทิสฺสามิ ภุญฺชิสฺสามี’’ติ ปฎิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อโชฺฌหาเร อโชฺฌหาเร อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อปฺปวาริเต ปวาริตสญฺญี , อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อปฺปวาริเต เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อปฺปวาริเต อปฺปวาริตสญฺญี, อนาปตฺติฯ

    245. Pavārite pavāritasaññī anatirittena khādanīyena vā bhojanīyena vā abhihaṭṭhuṃ pavāreti, āpatti pācittiyassa. Pavārite vematiko anatirittena khādanīyena vā bhojanīyena vā abhihaṭṭhuṃ pavāreti, āpatti dukkaṭassa. Pavārite appavāritasaññī anatirittena khādanīyena vā bhojanīyena vā abhihaṭṭhuṃ pavāreti, anāpatti. Yāmakālikaṃ sattāhakālikaṃ yāvajīvikaṃ āhāratthāya abhiharati, āpatti dukkaṭassa. Tassa vacanena ‘‘khādissāmi bhuñjissāmī’’ti paṭiggaṇhāti, āpatti dukkaṭassa. Ajjhohāre ajjhohāre āpatti dukkaṭassa. Appavārite pavāritasaññī , āpatti dukkaṭassa. Appavārite vematiko, āpatti dukkaṭassa. Appavārite appavāritasaññī, anāpatti.

    ๒๔๖. อนาปตฺติ อติริตฺตํ การาเปตฺวา เทติ, ‘‘อติริตฺตํ การาเปตฺวา ภุญฺชาหี’’ติ เทติ, อญฺญสฺสตฺถาย หรโนฺต คจฺฉาหีติ เทติ, คิลานสฺส เสสกํ เทติ, ‘‘ยามกาลิกํ สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกํ สติ ปจฺจเย ปริภุญฺชา’’ติ เทติ, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ

    246. Anāpatti atirittaṃ kārāpetvā deti, ‘‘atirittaṃ kārāpetvā bhuñjāhī’’ti deti, aññassatthāya haranto gacchāhīti deti, gilānassa sesakaṃ deti, ‘‘yāmakālikaṃ sattāhakālikaṃ yāvajīvikaṃ sati paccaye paribhuñjā’’ti deti, ummattakassa, ādikammikassāti.

    ทุติยปวารณาสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ ฉฎฺฐํฯ

    Dutiyapavāraṇāsikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ chaṭṭhaṃ.

    ๗. วิกาลโภชนสิกฺขาปทํ

    7. Vikālabhojanasikkhāpadaṃ

    ๒๔๗. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปฯ เตน โข ปน สมเยน ราชคเห คิรคฺคสมโชฺช โหติฯ สตฺตรสวคฺคิยา ภิกฺขู คิรคฺคสมชฺชํ ทสฺสนาย อคมํสุฯ มนุสฺสา สตฺตรสวคฺคิเย ภิกฺขู ปสฺสิตฺวา นหาเปตฺวา วิลิเมฺปตฺวา โภเชตฺวา ขาทนียํ อทํสุฯ สตฺตรสวคฺคิยา ภิกฺขู ขาทนียํ อาทาย อารามํ คนฺตฺวา ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู เอตทโวจุํ – ‘‘คณฺหาถาวุโส, ขาทนียํ ขาทถา’’ติฯ ‘‘กุโต ตุเมฺหหิ, อาวุโส, ขาทนียํ ลทฺธ’’นฺติ? สตฺตรสวคฺคิยา ภิกฺขู ฉพฺพคฺคิยานํ ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘กิํ ปน ตุเมฺห, อาวุโส, วิกาเล โภชนํ ภุญฺชถา’’ติ? ‘‘เอวมาวุโส’’ติฯ ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม สตฺตรสวคฺคิยา ภิกฺขู วิกาเล โภชนํ ภุญฺชิสฺสนฺตี’’ติ! อถ โข ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม สตฺตรสวคฺคิยา ภิกฺขู วิกาเล โภชนํ ภุญฺชิสฺสนฺตี’’ติ…เป.… สจฺจํ กิร ตุเมฺห, ภิกฺขเว, วิกาเล โภชนํ ภุญฺชถาติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตุเมฺห, โมฆปุริสา, วิกาเล โภชนํ ภุญฺชิสฺสถ! เนตํ, โมฆปุริสา, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    247. Tena samayena buddho bhagavā rājagahe viharati veḷuvane kalandakanivāpe. Tena kho pana samayena rājagahe giraggasamajjo hoti. Sattarasavaggiyā bhikkhū giraggasamajjaṃ dassanāya agamaṃsu. Manussā sattarasavaggiye bhikkhū passitvā nahāpetvā vilimpetvā bhojetvā khādanīyaṃ adaṃsu. Sattarasavaggiyā bhikkhū khādanīyaṃ ādāya ārāmaṃ gantvā chabbaggiye bhikkhū etadavocuṃ – ‘‘gaṇhāthāvuso, khādanīyaṃ khādathā’’ti. ‘‘Kuto tumhehi, āvuso, khādanīyaṃ laddha’’nti? Sattarasavaggiyā bhikkhū chabbaggiyānaṃ bhikkhūnaṃ etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Kiṃ pana tumhe, āvuso, vikāle bhojanaṃ bhuñjathā’’ti? ‘‘Evamāvuso’’ti. Chabbaggiyā bhikkhū ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma sattarasavaggiyā bhikkhū vikāle bhojanaṃ bhuñjissantī’’ti! Atha kho chabbaggiyā bhikkhū bhikkhūnaṃ etamatthaṃ ārocesuṃ. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma sattarasavaggiyā bhikkhū vikāle bhojanaṃ bhuñjissantī’’ti…pe… saccaṃ kira tumhe, bhikkhave, vikāle bhojanaṃ bhuñjathāti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tumhe, moghapurisā, vikāle bhojanaṃ bhuñjissatha! Netaṃ, moghapurisā, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ๒๔๘. โย ปน ภิกฺขุ วิกาเล ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ขาเทยฺย วา ภุเญฺชยฺย วา, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    248.Yopana bhikkhu vikāle khādanīyaṃvā bhojanīyaṃ vā khādeyya vā bhuñjeyya vā, pācittiya’’nti.

    ๒๔๙. โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ

    249.Yopanāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.

    วิกาโล นาม มชฺฌนฺหิเก วีติวเตฺต ยาว อรุณุคฺคมนาฯ

    Vikālo nāma majjhanhike vītivatte yāva aruṇuggamanā.

    ขาทนียํ นาม ปญฺจ โภชนานิ – ยามกาลิกํ สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกํ ฐเปตฺวา อวเสสํ ขาทนียํ นามฯ

    Khādanīyaṃ nāma pañca bhojanāni – yāmakālikaṃ sattāhakālikaṃ yāvajīvikaṃ ṭhapetvā avasesaṃ khādanīyaṃ nāma.

    โภชนียํ นาม ปญฺจ โภชนานิ – โอทโน, กุมฺมาโส, สตฺตุ, มโจฺฉ, มํสํฯ

    Bhojanīyaṃ nāma pañca bhojanāni – odano, kummāso, sattu, maccho, maṃsaṃ.

    ‘‘ขาทิสฺสามิ ภุญฺชิสฺสามี’’ติ ปฎิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อโชฺฌหาเร อโชฺฌหาเร อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    ‘‘Khādissāmi bhuñjissāmī’’ti paṭiggaṇhāti, āpatti dukkaṭassa. Ajjhohāre ajjhohāre āpatti pācittiyassa.

    ๒๕๐. วิกาเล วิกาลสญฺญี ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ขาทติ วา ภุญฺชติ วา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ วิกาเล เวมติโก ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ขาทติ วา ภุญฺชติ วา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ วิกาเล กาลสญฺญี ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ขาทติ วา ภุญฺชติ วา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    250. Vikāle vikālasaññī khādanīyaṃ vā bhojanīyaṃ vā khādati vā bhuñjati vā, āpatti pācittiyassa. Vikāle vematiko khādanīyaṃ vā bhojanīyaṃ vā khādati vā bhuñjati vā, āpatti pācittiyassa. Vikāle kālasaññī khādanīyaṃ vā bhojanīyaṃ vā khādati vā bhuñjati vā, āpatti pācittiyassa.

    ยามกาลิกํ สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกํ อาหารตฺถาย ปฎิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อโชฺฌหาเร อโชฺฌหาเร อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ กาเล วิกาลสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ กาเล เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ กาเล กาลสญฺญี, อนาปตฺติฯ

    Yāmakālikaṃ sattāhakālikaṃ yāvajīvikaṃ āhāratthāya paṭiggaṇhāti, āpatti dukkaṭassa. Ajjhohāre ajjhohāre āpatti dukkaṭassa. Kāle vikālasaññī, āpatti dukkaṭassa. Kāle vematiko, āpatti dukkaṭassa. Kāle kālasaññī, anāpatti.

    ๒๕๑. อนาปตฺติ ยามกาลิกํ สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกํ สติ ปจฺจเย ปริภุญฺชติ, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ

    251. Anāpatti yāmakālikaṃ sattāhakālikaṃ yāvajīvikaṃ sati paccaye paribhuñjati, ummattakassa, ādikammikassāti.

    วิกาลโภชนสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ สตฺตมํฯ

    Vikālabhojanasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ sattamaṃ.

    ๘. สนฺนิธิการกสิกฺขาปทํ

    8. Sannidhikārakasikkhāpadaṃ

    ๒๕๒. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต อานนฺทสฺส อุปชฺฌาโย อายสฺมา เพลฎฺฐสีโส 29 อรเญฺญ วิหรติฯ โส ปิณฺฑาย จริตฺวา สุกฺขกุรํ อารามํ หริตฺวา สุกฺขาเปตฺวา นิกฺขิปติฯ ยทา อาหาเรน อโตฺถ โหติ, ตทา อุทเกน เตเมตฺวา เตเมตฺวา ภุญฺชติ, จิเรน คามํ ปิณฺฑาย ปวิสติฯ ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ เพลฎฺฐสีสํ เอตทโวจุํ – ‘‘กิสฺส ตฺวํ, อาวุโส, จิเรน คามํ ปิณฺฑาย ปวิสสี’’ติ? อถ โข อายสฺมา เพลฎฺฐสีโส ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ ‘‘กิํ ปน ตฺวํ, อาวุโส, สนฺนิธิการกํ โภชนํ ภุญฺชสี’’ติ? ‘‘เอวมาวุโส’’ติฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม อายสฺมา เพลฎฺฐสีโส สนฺนิธิการกํ โภชนํ ภุญฺชิสฺสตี’’ติ…เป.… สจฺจํ กิร ตฺวํ, เพลฎฺฐสีส, สนฺนิธิการกํ โภชนํ ภุญฺชสีติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตฺวํ, เพลฎฺฐสีส, สนฺนิธิการกํ โภชนํ ภุญฺชิสฺสสิ! เนตํ, เพลฎฺฐสีส, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    252. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena āyasmato ānandassa upajjhāyo āyasmā belaṭṭhasīso 30 araññe viharati. So piṇḍāya caritvā sukkhakuraṃ ārāmaṃ haritvā sukkhāpetvā nikkhipati. Yadā āhārena attho hoti, tadā udakena temetvā temetvā bhuñjati, cirena gāmaṃ piṇḍāya pavisati. Bhikkhū āyasmantaṃ belaṭṭhasīsaṃ etadavocuṃ – ‘‘kissa tvaṃ, āvuso, cirena gāmaṃ piṇḍāya pavisasī’’ti? Atha kho āyasmā belaṭṭhasīso bhikkhūnaṃ etamatthaṃ ārocesi. ‘‘Kiṃ pana tvaṃ, āvuso, sannidhikārakaṃ bhojanaṃ bhuñjasī’’ti? ‘‘Evamāvuso’’ti. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma āyasmā belaṭṭhasīso sannidhikārakaṃ bhojanaṃ bhuñjissatī’’ti…pe… saccaṃ kira tvaṃ, belaṭṭhasīsa, sannidhikārakaṃ bhojanaṃ bhuñjasīti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tvaṃ, belaṭṭhasīsa, sannidhikārakaṃ bhojanaṃ bhuñjissasi! Netaṃ, belaṭṭhasīsa, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ๒๕๓. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ สนฺนิธิการกํ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ขาเทยฺย วา ภุเญฺชยฺย วา, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    253.‘‘Yopana bhikkhu sannidhikārakaṃ khādanīyaṃ vā bhojanīyaṃ vākhādeyya vā bhuñjeyya vā, pācittiya’’nti.

    ๒๕๔. โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ

    254.Yopanāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.

    สนฺนิธิการกํ นาม อชฺช ปฎิคฺคหิตํ อปรชฺชุ ขาทิตํ โหติฯ

    Sannidhikārakaṃ nāma ajja paṭiggahitaṃ aparajju khāditaṃ hoti.

    ขาทนียํ นาม ปญฺจ โภชนานิ – ยามกาลิกํ สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกํ ฐเปตฺวา อวเสสํ ขาทนียํ นามฯ

    Khādanīyaṃ nāma pañca bhojanāni – yāmakālikaṃ sattāhakālikaṃ yāvajīvikaṃ ṭhapetvā avasesaṃ khādanīyaṃ nāma.

    โภชนียํ นาม ปญฺจ โภชนานิ – โอทโน, กุมฺมาโส, สตฺตุ, มโจฺฉ, มํสํฯ

    Bhojanīyaṃ nāma pañca bhojanāni – odano, kummāso, sattu, maccho, maṃsaṃ.

    ‘‘ขาทิสฺสามิ ภุญฺชิสฺสามี’’ติ ปฎิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อโชฺฌหาเร อโชฺฌหาเร อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    ‘‘Khādissāmi bhuñjissāmī’’ti paṭiggaṇhāti, āpatti dukkaṭassa. Ajjhohāre ajjhohāre āpatti pācittiyassa.

    ๒๕๕. สนฺนิธิการเก สนฺนิธิการกสญฺญี ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ขาทติ วา ภุญฺชติ วา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ สนฺนิธิการเก เวมติโก ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ขาทติ วา ภุญฺชติ วา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ สนฺนิธิการเก อสนฺนิธิการกสญฺญี ขาทนียํ วา โภชนียํ วา ขาทติ วา ภุญฺชติ วา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    255. Sannidhikārake sannidhikārakasaññī khādanīyaṃ vā bhojanīyaṃ vā khādati vā bhuñjati vā, āpatti pācittiyassa. Sannidhikārake vematiko khādanīyaṃ vā bhojanīyaṃ vā khādati vā bhuñjati vā, āpatti pācittiyassa. Sannidhikārake asannidhikārakasaññī khādanīyaṃ vā bhojanīyaṃ vā khādati vā bhuñjati vā, āpatti pācittiyassa.

    ยามกาลิกํ สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกํ อาหารตฺถาย ปฎิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อโชฺฌหาเร อโชฺฌหาเร อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อสนฺนิธิการเก สนฺนิธิการกสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อสนฺนิธิการเก เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อสนฺนิธิการเก อสนฺนิธิการกสญฺญี, อนาปตฺติฯ

    Yāmakālikaṃ sattāhakālikaṃ yāvajīvikaṃ āhāratthāya paṭiggaṇhāti, āpatti dukkaṭassa. Ajjhohāre ajjhohāre āpatti dukkaṭassa. Asannidhikārake sannidhikārakasaññī, āpatti dukkaṭassa. Asannidhikārake vematiko, āpatti dukkaṭassa. Asannidhikārake asannidhikārakasaññī, anāpatti.

    ๒๕๖. อนาปตฺติ ยาวกาลิกํ ยาวกาเล นิทหิตฺวา ภุญฺชติ, ยามกาลิกํ ยาเม นิทหิตฺวา ภุญฺชติ, สตฺตาหกาลิกํ สตฺตาหํ นิทหิตฺวา ภุญฺชติ, ยาวชีวิกํ สติ ปจฺจเย ปริภุญฺชติ, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ

    256. Anāpatti yāvakālikaṃ yāvakāle nidahitvā bhuñjati, yāmakālikaṃ yāme nidahitvā bhuñjati, sattāhakālikaṃ sattāhaṃ nidahitvā bhuñjati, yāvajīvikaṃ sati paccaye paribhuñjati, ummattakassa, ādikammikassāti.

    สนฺนิธิการกสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ อฎฺฐมํฯ

    Sannidhikārakasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ aṭṭhamaṃ.

    ๙. ปณีตโภชนสิกฺขาปทํ

    9. Paṇītabhojanasikkhāpadaṃ

    ๒๕๗. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ปณีตโภชนานิ อตฺตโน อตฺถาย วิญฺญาเปตฺวา ภุญฺชนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา ปณีตโภชนานิ อตฺตโน อตฺถาย วิญฺญาเปตฺวา ภุญฺชิสฺสนฺติ! กสฺส สมฺปนฺนํ น มนาปํ, กสฺส สาทุํ น รุจฺจตี’’ติ!! อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ มนุสฺสานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ปณีตโภชนานิ อตฺตโน อตฺถาย วิญฺญาเปตฺวา ภุญฺชิสฺสนฺตี’’ติ …เป.… สจฺจํ กิร ตุเมฺห, ภิกฺขเว, ปณีตโภชนานิ อตฺตโน อตฺถาย วิญฺญาเปตฺวา ภุญฺชถาติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา …เป.… กถญฺหิ นาม ตุเมฺห, โมฆปุริสา, ปณีตโภชนานิ อตฺตโน อตฺถาย วิญฺญาเปตฺวา ภุญฺชิสฺสถ! เนตํ, โมฆปุริสา, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    257. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū paṇītabhojanāni attano atthāya viññāpetvā bhuñjanti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma samaṇā sakyaputtiyā paṇītabhojanāni attano atthāya viññāpetvā bhuñjissanti! Kassa sampannaṃ na manāpaṃ, kassa sāduṃ na ruccatī’’ti!! Assosuṃ kho bhikkhū tesaṃ manussānaṃ ujjhāyantānaṃ khiyyantānaṃ vipācentānaṃ. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma chabbaggiyā bhikkhū paṇītabhojanāni attano atthāya viññāpetvā bhuñjissantī’’ti …pe… saccaṃ kira tumhe, bhikkhave, paṇītabhojanāni attano atthāya viññāpetvā bhuñjathāti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā …pe… kathañhi nāma tumhe, moghapurisā, paṇītabhojanāni attano atthāya viññāpetvā bhuñjissatha! Netaṃ, moghapurisā, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ‘‘ยานิ โข ปน ตานิ ปณีตโภชนานิ, เสยฺยถิทํ – สปฺปิ นวนีตํ เตลํ มธุ ผาณิตํ มโจฺฉ มํสํ ขีรํ ทธิฯ โย ปน ภิกฺขุ เอวรูปานิ ปณีตโภชนานิ อตฺตโน อตฺถาย วิญฺญาเปตฺวา ภุเญฺชยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    ‘‘Yāni kho pana tāni paṇītabhojanāni, seyyathidaṃ – sappi navanītaṃ telaṃ madhu phāṇitaṃ maccho maṃsaṃ khīraṃ dadhi. Yo pana bhikkhu evarūpāni paṇītabhojanāni attano atthāya viññāpetvābhuñjeyya, pācittiya’’nti.

    เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ

    Evañcidaṃ bhagavatā bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ hoti.

    ๒๕๘. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู คิลานา โหนฺติฯ คิลานปุจฺฉกา ภิกฺขู คิลาเน ภิกฺขู เอตทโวจุํ – ‘‘กจฺจาวุโส ขมนียํ, กจฺจิ ยาปนีย’’นฺติ? ‘‘ปุเพฺพ มยํ, อาวุโส, ปณีตโภชนานิ อตฺตโน อตฺถาย วิญฺญาเปตฺวา ภุญฺชาม, เตน โน ผาสุ โหติ; อิทานิ ปน ‘‘ภควตา ปฎิกฺขิตฺต’’นฺติ กุกฺกุจฺจายนฺตา น วิญฺญาเปม, เตน โน น ผาสุ โหตี’’ติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิลาเนน ภิกฺขุนา ปณีตโภชนานิ อตฺตโน อตฺถาย วิญฺญาเปตฺวา ภุญฺชิตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    258. Tena kho pana samayena bhikkhū gilānā honti. Gilānapucchakā bhikkhū gilāne bhikkhū etadavocuṃ – ‘‘kaccāvuso khamanīyaṃ, kacci yāpanīya’’nti? ‘‘Pubbe mayaṃ, āvuso, paṇītabhojanāni attano atthāya viññāpetvā bhuñjāma, tena no phāsu hoti; idāni pana ‘‘bhagavatā paṭikkhitta’’nti kukkuccāyantā na viññāpema, tena no na phāsu hotī’’ti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, gilānena bhikkhunā paṇītabhojanāni attano atthāya viññāpetvā bhuñjituṃ. Evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ๒๕๙. ‘‘ยานิ โข ปน ตานิ ปณีตโภชนานิ, เสยฺยถิทํ – สปฺปิ นวนีตํ เตลํ มธุ ผาณิตํ มโจฺฉ มํสํ ขีรํ ทธิฯ โย ปน ภิกฺขุ เอวรูปานิ ปณีตโภชนานิ อคิลาโน อตฺตโน อตฺถาย วิญฺญาเปตฺวา ภุเญฺชยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    259.‘‘Yānikho pana tāni paṇītabhojanāni, seyyathidaṃ – sappi navanītaṃ telaṃ madhu phāṇitaṃ maccho maṃsaṃ khīraṃ dadhi. Yo pana bhikkhu evarūpāni paṇītabhojanāni agilāno attano atthāya viññāpetvā bhuñjeyya, pācittiya’’nti.

    ๒๖๐. ยานิ โข ปน ตานิ ปณีตโภชนานีติ สปฺปิ นาม โคสปฺปิ วา อชิกาสปฺปิ วา มหิํสสปฺปิ วา, เยสํ มํสํ กปฺปติ เตสํ สปฺปิฯ

    260.Yāni kho pana tāni paṇītabhojanānīti sappi nāma gosappi vā ajikāsappi vā mahiṃsasappi vā, yesaṃ maṃsaṃ kappati tesaṃ sappi.

    นวนีตํ นาม เตสเญฺญว นวนีตํฯ

    Navanītaṃ nāma tesaññeva navanītaṃ.

    เตลํ นาม ติลเตลํ สาสปเตลํ มธุกเตลํ เอรณฺฑเตลํ วสาเตลํฯ

    Telaṃ nāma tilatelaṃ sāsapatelaṃ madhukatelaṃ eraṇḍatelaṃ vasātelaṃ.

    มธุ นาม มกฺขิกามธุ ฯ

    Madhu nāma makkhikāmadhu .

    ผาณิตํ นาม อุจฺฉุมฺหา นิพฺพตฺตํฯ

    Phāṇitaṃ nāma ucchumhā nibbattaṃ.

    มโจฺฉ นาม อุทโก 31 วุจฺจติฯ

    Maccho nāma udako 32 vuccati.

    มํสํ นาม เยสํ มํสํ กปฺปติ, เตสํ มํสํฯ

    Maṃsaṃ nāma yesaṃ maṃsaṃ kappati, tesaṃ maṃsaṃ.

    ขีรํ นาม โคขีรํ วา อชิกาขีรํ วา มหิํสขีรํ วา, เยสํ มํสํ กปฺปติ, เตสํ ขีรํฯ

    Khīraṃ nāma gokhīraṃ vā ajikākhīraṃ vā mahiṃsakhīraṃ vā, yesaṃ maṃsaṃ kappati, tesaṃ khīraṃ.

    ทธิ นาม เตสเญฺญว ทธิฯ

    Dadhi nāma tesaññeva dadhi.

    โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ

    Yopanāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.

    เอวรูปานิ ปณีตโภชนานีติ ตถารูปานิ ปณีตโภชนานิฯ

    Evarūpāni paṇītabhojanānīti tathārūpāni paṇītabhojanāni.

    อคิลาโน นาม ยสฺส วินา ปณีตโภชนานิ ผาสุ โหติฯ

    Agilāno nāma yassa vinā paṇītabhojanāni phāsu hoti.

    คิลาโน นาม ยสฺส วินา ปณีตโภชนานิ น ผาสุ โหติฯ

    Gilāno nāma yassa vinā paṇītabhojanāni na phāsu hoti.

    อคิลาโน อตฺตโน อตฺถาย วิญฺญาเปติ, ปโยเค 33 ทุกฺกฎํฯ ปฎิลาเภน ‘‘ภุญฺชิสฺสามี’’ติ ปฎิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อโชฺฌหาเร อโชฺฌหาเร อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Agilāno attano atthāya viññāpeti, payoge 34 dukkaṭaṃ. Paṭilābhena ‘‘bhuñjissāmī’’ti paṭiggaṇhāti, āpatti dukkaṭassa. Ajjhohāre ajjhohāre āpatti pācittiyassa.

    ๒๖๑. อคิลาโน อคิลานสญฺญี ปณีตโภชนานิ อตฺตโน อตฺถาย วิญฺญาเปตฺวา ภุญฺชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อคิลาโน เวมติโก ปณีตโภชนานิ อตฺตโน อตฺถาย วิญฺญาเปตฺวา ภุญฺชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อคิลาโน คิลานสญฺญี ปณีตโภชนานิ อตฺตโน อตฺถาย วิญฺญาเปตฺวา ภุญฺชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    261. Agilāno agilānasaññī paṇītabhojanāni attano atthāya viññāpetvā bhuñjati, āpatti pācittiyassa. Agilāno vematiko paṇītabhojanāni attano atthāya viññāpetvā bhuñjati, āpatti pācittiyassa. Agilāno gilānasaññī paṇītabhojanāni attano atthāya viññāpetvā bhuñjati, āpatti pācittiyassa.

    คิลาโน อคิลานสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ คิลาโน เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ คิลาโน คิลานสญฺญี อนาปตฺติฯ

    Gilāno agilānasaññī, āpatti dukkaṭassa. Gilāno vematiko, āpatti dukkaṭassa. Gilāno gilānasaññī anāpatti.

    ๒๖๒. อนาปตฺติ คิลานสฺส, คิลาโน หุตฺวา วิญฺญาเปตฺวา อคิลาโน ภุญฺชติ, คิลานสฺส เสสกํ ภุญฺชติ, ญาตกานํ ปวาริตานํ อญฺญสฺสตฺถาย อตฺตโน ธเนน, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ

    262. Anāpatti gilānassa, gilāno hutvā viññāpetvā agilāno bhuñjati, gilānassa sesakaṃ bhuñjati, ñātakānaṃ pavāritānaṃ aññassatthāya attano dhanena, ummattakassa, ādikammikassāti.

    ปณีตโภชนสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ นวมํฯ

    Paṇītabhojanasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ navamaṃ.

    ๑๐. ทนฺตโปนสิกฺขาปทํ

    10. Dantaponasikkhāpadaṃ

    ๒๖๓. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฎาคารสาลายํฯ เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ สพฺพปํสุกูลิโก สุสาเน วิหรติฯ โส มนุเสฺสหิ ทิยฺยมานํ น อิจฺฉติ ปฎิคฺคเหตุํ, สุสาเนปิ รุกฺขมูเลปิ อุมฺมาเรปิ อยฺยโวสาฎิตกานิ สามํ คเหตฺวา ปริภุญฺชติ 35ฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม อยํ ภิกฺขุ อมฺหากํ อยฺยโวสาฎิตกานิ สามํ คเหตฺวา ปริภุญฺชิสฺสติ! เถโรยํ ภิกฺขุ วฐโร มนุสฺสมํสํ มเญฺญ ขาทตี’’ติ! อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ มนุสฺสานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ภิกฺขุ อทินฺนํ มุขทฺวารํ อาหารํ อาหริสฺสตี’’ติ…เป.… สจฺจํ กิร ตฺวํ, ภิกฺขุ, อทินฺนํ มุขทฺวารํ อาหารํ อาหรสีติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส, อทินฺนํ มุขทฺวารํ อาหารํ อาหริสฺสสิ! เนตํ, โมฆปุริส, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    263. Tena samayena buddho bhagavā vesāliyaṃ viharati mahāvane kūṭāgārasālāyaṃ. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu sabbapaṃsukūliko susāne viharati. So manussehi diyyamānaṃ na icchati paṭiggahetuṃ, susānepi rukkhamūlepi ummārepi ayyavosāṭitakāni sāmaṃ gahetvā paribhuñjati 36. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma ayaṃ bhikkhu amhākaṃ ayyavosāṭitakāni sāmaṃ gahetvā paribhuñjissati! Theroyaṃ bhikkhu vaṭharo manussamaṃsaṃ maññe khādatī’’ti! Assosuṃ kho bhikkhū tesaṃ manussānaṃ ujjhāyantānaṃ khiyyantānaṃ vipācentānaṃ. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma bhikkhu adinnaṃ mukhadvāraṃ āhāraṃ āharissatī’’ti…pe… saccaṃ kira tvaṃ, bhikkhu, adinnaṃ mukhadvāraṃ āhāraṃ āharasīti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tvaṃ, moghapurisa, adinnaṃ mukhadvāraṃ āhāraṃ āharissasi! Netaṃ, moghapurisa, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ‘‘โย ปน ภิกฺขุ อทินฺนํ มุขทฺวารํ อาหารํ อาหเรยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    ‘‘Yopana bhikkhu adinnaṃ mukhadvāraṃ āhāraṃ āhareyya, pācittiya’’nti.

    เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ

    Evañcidaṃ bhagavatā bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ hoti.

    ๒๖๔. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู อุทกทนฺตโปเน 37 กุกฺกุจฺจายนฺติ ฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุทกทนฺตโปนํ สามํ คเหตฺวา ปริภุญฺชิตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    264. Tena kho pana samayena bhikkhū udakadantapone 38 kukkuccāyanti . Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, udakadantaponaṃ sāmaṃ gahetvā paribhuñjituṃ. Evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ๒๖๕. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ อทินฺนํ มุขทฺวารํ อาหารํ อาหเรยฺย, อญฺญตฺร อุทกทนฺตโปนา, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    265.‘‘Yo pana bhikkhu adinnaṃ mukhadvāraṃ āhāraṃ āhareyya, aññatra udakadantaponā, pācittiya’’nti.

    ๒๖๖. โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ

    266.Yo panāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.

    อทินฺนํ นาม อปฺปฎิคฺคหิตกํ วุจฺจติฯ

    Adinnaṃ nāma appaṭiggahitakaṃ vuccati.

    ทินฺนํ นาม กาเยน วา กายปฎิพเทฺธน วา นิสฺสคฺคิเยน วา เทเนฺต หตฺถปาเส ฐิโต กาเยน วา กายปฎิพเทฺธน วา ปฎิคฺคณฺหาติ, เอตํ ทินฺนํ นามฯ

    Dinnaṃ nāma kāyena vā kāyapaṭibaddhena vā nissaggiyena vā dente hatthapāse ṭhito kāyena vā kāyapaṭibaddhena vā paṭiggaṇhāti, etaṃ dinnaṃ nāma.

    อาหาโร นาม อุทกทนฺตโปนํ ฐเปตฺวา ยํกิญฺจิ อโชฺฌหรณียํ, เอโส อาหาโร นามฯ

    Āhāro nāma udakadantaponaṃ ṭhapetvā yaṃkiñci ajjhoharaṇīyaṃ, eso āhāro nāma.

    อญฺญตฺร อุทกทนฺตโปนาติ ฐเปตฺวา อุทกทนฺตโปนํฯ

    Aññatra udakadantaponāti ṭhapetvā udakadantaponaṃ.

    ‘‘ขาทิสฺสามิ ภุญฺชิสฺสามี’’ติ คณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อโชฺฌหาเร อโชฺฌหาเร อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    ‘‘Khādissāmi bhuñjissāmī’’ti gaṇhāti, āpatti dukkaṭassa. Ajjhohāre ajjhohāre āpatti pācittiyassa.

    ๒๖๗. อปฺปฎิคฺคหิตเก อปฺปฎิคฺคหิตกสญฺญี อทินฺนํ มุขทฺวารํ อาหารํ อาหาเรติ, อญฺญตฺร อุทกทนฺตโปนา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อปฺปฎิคฺคหิตเก เวมติโก อทินฺนํ มุขทฺวารํ อาหารํ อาหาเรติ, อญฺญตฺร อุทกทนฺตโปนา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อปฺปฎิคฺคหิตเก ปฎิคฺคหิตกสญฺญี อทินฺนํ มุขทฺวารํ อาหารํ อาหาเรติ, อญฺญตฺร อุทกทนฺตโปนา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    267. Appaṭiggahitake appaṭiggahitakasaññī adinnaṃ mukhadvāraṃ āhāraṃ āhāreti, aññatra udakadantaponā, āpatti pācittiyassa. Appaṭiggahitake vematiko adinnaṃ mukhadvāraṃ āhāraṃ āhāreti, aññatra udakadantaponā, āpatti pācittiyassa. Appaṭiggahitake paṭiggahitakasaññī adinnaṃ mukhadvāraṃ āhāraṃ āhāreti, aññatra udakadantaponā, āpatti pācittiyassa.

    ปฎิคฺคหิตเก อปฺปฎิคฺคหิตกสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ปฎิคฺคหิตเก เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ปฎิคฺคหิตเก ปฎิคฺคหิตกสญฺญี, อนาปตฺติฯ

    Paṭiggahitake appaṭiggahitakasaññī, āpatti dukkaṭassa. Paṭiggahitake vematiko, āpatti dukkaṭassa. Paṭiggahitake paṭiggahitakasaññī, anāpatti.

    ๒๖๘. อนาปตฺติ อุทกทนฺตโปเน, จตฺตาริ มหาวิกตานิ สติ ปจฺจเย อสติ กปฺปิยการเก สามํ คเหตฺวา ปริภุญฺชติ, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ

    268. Anāpatti udakadantapone, cattāri mahāvikatāni sati paccaye asati kappiyakārake sāmaṃ gahetvā paribhuñjati, ummattakassa, ādikammikassāti.

    ทนฺตโปนสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ ทสมํฯ

    Dantaponasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ dasamaṃ.

    โภชนวโคฺค จตุโตฺถฯ

    Bhojanavaggo catuttho.

    ตสฺสุทฺทานํ –

    Tassuddānaṃ –

    ปิโณฺฑ คณํ ปรํ ปูวํ, เทฺว จ วุตฺตา ปวารณา;

    Piṇḍo gaṇaṃ paraṃ pūvaṃ, dve ca vuttā pavāraṇā;

    วิกาเล สนฺนิธี ขีรํ, ทนฺตโปเนน เต ทสาติฯ

    Vikāle sannidhī khīraṃ, dantaponena te dasāti.







    Footnotes:
    1. ผาลิตา (สฺยา. ก.)
    2. phālitā (syā. ka.)
    3. กมฺมกรสฺส (สี.)
    4. อติเรกํ (สฺยา.)
    5. โหตุ เม (ก.)
    6. kammakarassa (sī.)
    7. atirekaṃ (syā.)
    8. hotu me (ka.)
    9. อุสฺสูเรน (ก.)
    10. ussūrena (ka.)
    11. ปฎิยาทาเปตฺวา (อิติปิ)
    12. paṭiyādāpetvā (itipi)
    13. ปติคณฺหาหิ (สี.)
    14. ภตฺตปจฺจาสํ วิกเปฺปตฺวา (สฺยา.)
    15. patigaṇhāhi (sī.)
    16. bhattapaccāsaṃ vikappetvā (syā.)
    17. ปูปํ (ณฺวาทิโมคฺคลฺลาเน)
    18. pūpaṃ (ṇvādimoggallāne)
    19. นายฺย (สฺยา.)
    20. nāyya (syā.)
    21. ปฎิวิสเก (โยชนา)
    22. อยฺย (สฺยา.)
    23. paṭivisake (yojanā)
    24. ayya (syā.)
    25. อุปนโนฺธ (ก.)
    26. ตฺวํ หิ (สฺยา.)
    27. upanandho (ka.)
    28. tvaṃ hi (syā.)
    29. เพลฎฺฐิสีโส (สี.) เวฬฎฺฐสีโส (สฺยา.)
    30. belaṭṭhisīso (sī.) veḷaṭṭhasīso (syā.)
    31. อุทกจโร (สฺยา. ก.)
    32. udakacaro (syā. ka.)
    33. ปโยเค ปโยเค (ก.)
    34. payoge payoge (ka.)
    35. ภุญฺชติ (สฺยา.)
    36. bhuñjati (syā.)
    37. อุทกทนฺตโปเณ (สฺยา. ก.)
    38. udakadantapoṇe (syā. ka.)



    Related texts:




    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact