Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya

    ๖. ภูมิชสุตฺตํ

    6. Bhūmijasuttaṃ

    ๒๒๓. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปฯ อถ โข อายสฺมา ภูมิโช ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน ชยเสนสฺส ราชกุมารสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญเตฺต อาสเน นิสีทิฯ อถ โข ชยเสโน ราชกุมาโร เยนายสฺมา ภูมิโช เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา ภูมิเชน สทฺธิํ สโมฺมทิฯ สโมฺมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข ชยเสโน ราชกุมาโร อายสฺมนฺตํ ภูมิชํ เอตทโวจ – ‘‘สนฺติ, โภ ภูมิช, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฎฺฐิโน – ‘อาสเญฺจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา 1 ผลสฺส อธิคมาย; อนาสเญฺจปิ 2 กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อาสญฺจ อนาสเญฺจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; เนวาสํ นานาสเญฺจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมายา’ติฯ อิธ โภโต ภูมิชสฺส สตฺถา กิํวาที 3 กิมกฺขายี’’ติ? ‘‘น โข เมตํ, ราชกุมาร, ภควโต สมฺมุขา สุตํ, สมฺมุขา ปฎิคฺคหิตํฯ ฐานญฺจ โข เอตํ วิชฺชติ ยํ ภควา เอวํ พฺยากเรยฺย – ‘อาสเญฺจปิ กริตฺวา อโยนิโส พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย ; อนาสเญฺจปิ กริตฺวา อโยนิโส พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อาสญฺจ อนาสเญฺจปิ กริตฺวา อโยนิโส พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; เนวาสํ นานาสเญฺจปิ กริตฺวา อโยนิโส พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมายฯ อาสเญฺจปิ กริตฺวา โยนิโส พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย ; อนาสเญฺจปิ กริตฺวา โยนิโส พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อาสญฺจ อนาสเญฺจปิ กริตฺวา โยนิโส พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; เนวาสํ นานาสเญฺจปิ กริตฺวา โยนิโส พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ภพฺพา ผลสฺส อธิคมายา’ติฯ น โข เม ตํ, ราชกุมาร, ภควโต สมฺมุขา สุตํ, สมฺมุขา ปฎิคฺคหิตํฯ ฐานญฺจ โข เอตํ วิชฺชติ ยํ ภควา เอวํ พฺยากเรยฺยา’’ติฯ ‘‘สเจ โข โภโต ภูมิชสฺส สตฺถา เอวํวาที 4 เอวมกฺขายี, อทฺธา โภโต ภูมิชสฺส สตฺถา สเพฺพสํเยว ปุถุสมณพฺราหฺมณานํ มุทฺธานํ 5 มเญฺญ อาหจฺจ ติฎฺฐตี’’ติ ฯ อถ โข ชยเสโน ราชกุมาโร อายสฺมนฺตํ ภูมิชํ สเกเนว ถาลิปาเกน ปริวิสิฯ

    223. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā rājagahe viharati veḷuvane kalandakanivāpe. Atha kho āyasmā bhūmijo pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya yena jayasenassa rājakumārassa nivesanaṃ tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā paññatte āsane nisīdi. Atha kho jayaseno rājakumāro yenāyasmā bhūmijo tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā āyasmatā bhūmijena saddhiṃ sammodi. Sammodanīyaṃ kathaṃ sāraṇīyaṃ vītisāretvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho jayaseno rājakumāro āyasmantaṃ bhūmijaṃ etadavoca – ‘‘santi, bho bhūmija, eke samaṇabrāhmaṇā evaṃvādino evaṃdiṭṭhino – ‘āsañcepi karitvā brahmacariyaṃ caranti, abhabbā 6 phalassa adhigamāya; anāsañcepi 7 karitvā brahmacariyaṃ caranti, abhabbā phalassa adhigamāya; āsañca anāsañcepi karitvā brahmacariyaṃ caranti, abhabbā phalassa adhigamāya; nevāsaṃ nānāsañcepi karitvā brahmacariyaṃ caranti, abhabbā phalassa adhigamāyā’ti. Idha bhoto bhūmijassa satthā kiṃvādī 8 kimakkhāyī’’ti? ‘‘Na kho metaṃ, rājakumāra, bhagavato sammukhā sutaṃ, sammukhā paṭiggahitaṃ. Ṭhānañca kho etaṃ vijjati yaṃ bhagavā evaṃ byākareyya – ‘āsañcepi karitvā ayoniso brahmacariyaṃ caranti, abhabbā phalassa adhigamāya ; anāsañcepi karitvā ayoniso brahmacariyaṃ caranti, abhabbā phalassa adhigamāya; āsañca anāsañcepi karitvā ayoniso brahmacariyaṃ caranti, abhabbā phalassa adhigamāya; nevāsaṃ nānāsañcepi karitvā ayoniso brahmacariyaṃ caranti, abhabbā phalassa adhigamāya. Āsañcepi karitvā yoniso brahmacariyaṃ caranti, bhabbā phalassa adhigamāya ; anāsañcepi karitvā yoniso brahmacariyaṃ caranti, bhabbā phalassa adhigamāya; āsañca anāsañcepi karitvā yoniso brahmacariyaṃ caranti, bhabbā phalassa adhigamāya; nevāsaṃ nānāsañcepi karitvā yoniso brahmacariyaṃ caranti, bhabbā phalassa adhigamāyā’ti. Na kho me taṃ, rājakumāra, bhagavato sammukhā sutaṃ, sammukhā paṭiggahitaṃ. Ṭhānañca kho etaṃ vijjati yaṃ bhagavā evaṃ byākareyyā’’ti. ‘‘Sace kho bhoto bhūmijassa satthā evaṃvādī 9 evamakkhāyī, addhā bhoto bhūmijassa satthā sabbesaṃyeva puthusamaṇabrāhmaṇānaṃ muddhānaṃ 10 maññe āhacca tiṭṭhatī’’ti . Atha kho jayaseno rājakumāro āyasmantaṃ bhūmijaṃ sakeneva thālipākena parivisi.

    ๒๒๔. อถ โข อายสฺมา ภูมิโช ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฎิกฺกโนฺต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข อายสฺมา ภูมิโช ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิธาหํ, ภเนฺต, ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน ชยเสนสฺส ราชกุมารสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิํ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญเตฺต อาสเน นิสีทิํฯ อถ โข, ภเนฺต, ชยเสโน ราชกุมาโร เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มยา สทฺธิํ สโมฺมทิฯ สโมฺมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข, ภเนฺต, ชยเสโน ราชกุมาโร มํ เอตทโวจ – ‘สนฺติ, โภ ภูมิช, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฎฺฐิโน – อาสเญฺจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อนาสเญฺจปิ กริตฺวา…เป.… อาสญฺจ อนาสเญฺจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; เนวาสํ นานาสเญฺจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมายา’ติฯ ‘อิธ โภโต ภูมิชสฺส สตฺถา กิํวาที กิมกฺขายี’ติ? เอวํ วุเตฺต อหํ, ภเนฺต, ชยเสนํ ราชกุมารํ เอตทโวจํ – ‘น โข เม ตํ, ราชกุมาร, ภควโต สมฺมุขา สุตํ, สมฺมุขา ปฎิคฺคหิตํฯ ฐานญฺจ โข เอตํ วิชฺชติ ยํ ภควา เอวํ พฺยากเรยฺย – อาสเญฺจปิ กริตฺวา อโยนิโส พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อนาสเญฺจปิ กริตฺวา อโยนิโส พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อาสญฺจ อนาสเญฺจปิ กริตฺวา อโยนิโส พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; เนวาสํ นานาสเญฺจปิ กริตฺวา อโยนิโส พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมายฯ อาสเญฺจปิ กริตฺวา โยนิโส พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อนาสเญฺจปิ กริตฺวา…เป.… อาสญฺจ อนาสเญฺจปิ กริตฺวา…เป.… เนวาสํ นานาสเญฺจปิ กริตฺวา โยนิโส พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ภพฺพา ผลสฺส อธิคมายาติฯ น โข เม ตํ, ราชกุมาร, ภควโต สมฺมุขา สุตํ, สมฺมุขา ปฎิคฺคหิตํฯ ฐานญฺจ โข เอตํ วิชฺชติ ยํ ภควา เอวํ พฺยากเรยฺยา’ติฯ ‘สเจ โภโต ภูมิชสฺส สตฺถา เอวํวาที เอวมกฺขายี, อทฺธา โภโต ภูมิชสฺส สตฺถา สเพฺพสํเยว ปุถุสมณพฺราหฺมณานํ มุทฺธานํ มเญฺญ อาหจฺจ ติฎฺฐตี’ติฯ ‘กจฺจาหํ, ภเนฺต, เอวํ ปุโฎฺฐ เอวํ พฺยากรมาโน วุตฺตวาที เจว ภควโต โหมิ, น จ ภควนฺตํ อภูเตน อพฺภาจิกฺขามิ, ธมฺมสฺส จานุธมฺมํ พฺยากโรมิ, น จ โกจิ สหธมฺมิโก วาทานุวาโท คารยฺหํ ฐานํ อาคจฺฉตี’’’ติ?

    224. Atha kho āyasmā bhūmijo pacchābhattaṃ piṇḍapātapaṭikkanto yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho āyasmā bhūmijo bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘idhāhaṃ, bhante, pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya yena jayasenassa rājakumārassa nivesanaṃ tenupasaṅkamiṃ; upasaṅkamitvā paññatte āsane nisīdiṃ. Atha kho, bhante, jayaseno rājakumāro yenāhaṃ tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā mayā saddhiṃ sammodi. Sammodanīyaṃ kathaṃ sāraṇīyaṃ vītisāretvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho, bhante, jayaseno rājakumāro maṃ etadavoca – ‘santi, bho bhūmija, eke samaṇabrāhmaṇā evaṃvādino evaṃdiṭṭhino – āsañcepi karitvā brahmacariyaṃ caranti, abhabbā phalassa adhigamāya; anāsañcepi karitvā…pe… āsañca anāsañcepi karitvā brahmacariyaṃ caranti, abhabbā phalassa adhigamāya; nevāsaṃ nānāsañcepi karitvā brahmacariyaṃ caranti, abhabbā phalassa adhigamāyā’ti. ‘Idha bhoto bhūmijassa satthā kiṃvādī kimakkhāyī’ti? Evaṃ vutte ahaṃ, bhante, jayasenaṃ rājakumāraṃ etadavocaṃ – ‘na kho me taṃ, rājakumāra, bhagavato sammukhā sutaṃ, sammukhā paṭiggahitaṃ. Ṭhānañca kho etaṃ vijjati yaṃ bhagavā evaṃ byākareyya – āsañcepi karitvā ayoniso brahmacariyaṃ caranti, abhabbā phalassa adhigamāya; anāsañcepi karitvā ayoniso brahmacariyaṃ caranti, abhabbā phalassa adhigamāya; āsañca anāsañcepi karitvā ayoniso brahmacariyaṃ caranti, abhabbā phalassa adhigamāya; nevāsaṃ nānāsañcepi karitvā ayoniso brahmacariyaṃ caranti, abhabbā phalassa adhigamāya. Āsañcepi karitvā yoniso brahmacariyaṃ caranti, bhabbā phalassa adhigamāya; anāsañcepi karitvā…pe… āsañca anāsañcepi karitvā…pe… nevāsaṃ nānāsañcepi karitvā yoniso brahmacariyaṃ caranti, bhabbā phalassa adhigamāyāti. Na kho me taṃ, rājakumāra, bhagavato sammukhā sutaṃ, sammukhā paṭiggahitaṃ. Ṭhānañca kho etaṃ vijjati yaṃ bhagavā evaṃ byākareyyā’ti. ‘Sace bhoto bhūmijassa satthā evaṃvādī evamakkhāyī, addhā bhoto bhūmijassa satthā sabbesaṃyeva puthusamaṇabrāhmaṇānaṃ muddhānaṃ maññe āhacca tiṭṭhatī’ti. ‘Kaccāhaṃ, bhante, evaṃ puṭṭho evaṃ byākaramāno vuttavādī ceva bhagavato homi, na ca bhagavantaṃ abhūtena abbhācikkhāmi, dhammassa cānudhammaṃ byākaromi, na ca koci sahadhammiko vādānuvādo gārayhaṃ ṭhānaṃ āgacchatī’’’ti?

    ‘‘ตคฺฆ ตฺวํ, ภูมิช, เอวํ ปุโฎฺฐ เอวํ พฺยากรมาโน วุตฺตวาที เจว เม โหสิ, น จ มํ อภูเตน อพฺภาจิกฺขสิ, ธมฺมสฺส จานุธมฺมํ พฺยากโรสิ, น จ โกจิ สหธมฺมิโก วาทานุวาโท คารยฺหํ ฐานํ อาคจฺฉติฯ เย หิ เกจิ, ภูมิช, สมณา วา พฺราหฺมณา วา มิจฺฉาทิฎฺฐิโน มิจฺฉาสงฺกปฺปา มิจฺฉาวาจา มิจฺฉากมฺมนฺตา มิจฺฉาอาชีวา มิจฺฉาวายามา มิจฺฉาสตี มิจฺฉาสมาธิโน เต อาสเญฺจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อนาสเญฺจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อาสญฺจ อนาสเญฺจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; เนวาสํ นานาสเญฺจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมายฯ ตํ กิสฺส เหตุ? อโยนิ เหสา, ภูมิช, ผลสฺส อธิคมายฯ

    ‘‘Taggha tvaṃ, bhūmija, evaṃ puṭṭho evaṃ byākaramāno vuttavādī ceva me hosi, na ca maṃ abhūtena abbhācikkhasi, dhammassa cānudhammaṃ byākarosi, na ca koci sahadhammiko vādānuvādo gārayhaṃ ṭhānaṃ āgacchati. Ye hi keci, bhūmija, samaṇā vā brāhmaṇā vā micchādiṭṭhino micchāsaṅkappā micchāvācā micchākammantā micchāājīvā micchāvāyāmā micchāsatī micchāsamādhino te āsañcepi karitvā brahmacariyaṃ caranti, abhabbā phalassa adhigamāya; anāsañcepi karitvā brahmacariyaṃ caranti, abhabbā phalassa adhigamāya; āsañca anāsañcepi karitvā brahmacariyaṃ caranti, abhabbā phalassa adhigamāya; nevāsaṃ nānāsañcepi karitvā brahmacariyaṃ caranti, abhabbā phalassa adhigamāya. Taṃ kissa hetu? Ayoni hesā, bhūmija, phalassa adhigamāya.

    ๒๒๕. ‘‘เสยฺยถาปิ, ภูมิช, ปุริโส เตลตฺถิโก เตลคเวสี เตลปริเยสนํ จรมาโน วาลิกํ โทณิยา อากิริตฺวา อุทเกน ปริโปฺผสกํ ปริโปฺผสกํ ปีเฬยฺยฯ อาสเญฺจปิ กริตฺวา วาลิกํ โทณิยา อากิริตฺวา อุทเกน ปริโปฺผสกํ ปริโปฺผสกํ ปีเฬยฺย, อภโพฺพ เตลสฺส อธิคมาย; อนาสเญฺจปิ กริตฺวา วาลิกํ โทณิยา อากิริตฺวา อุทเกน ปริโปฺผสกํ ปริโปฺผสกํ ปีเฬยฺย, อภโพฺพ เตลสฺส อธิคมาย; อาสญฺจ อนาสเญฺจปิ กริตฺวา วาลิกํ โทณิยา อากิริตฺวา อุทเกน ปริโปฺผสกํ ปริโปฺผสกํ ปีเฬยฺย, อภโพฺพ เตลสฺส อธิคมาย; เนวาสํ นานาสเญฺจปิ กริตฺวา วาลิกํ โทณิยา อากิริตฺวา อุทเกน ปริโปฺผสกํ ปริโปฺผสกํ ปีเฬยฺย, อภโพฺพ เตลสฺส อธิคมายฯ ตํ กิสฺส เหตุ? อโยนิ เหสา, ภูมิช, เตลสฺส อธิคมายฯ เอวเมว โข, ภูมิช, เย หิ เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา มิจฺฉาทิฎฺฐิโน มิจฺฉาสงฺกปฺปา มิจฺฉาวาจา มิจฺฉากมฺมนฺตา มิจฺฉาอาชีวา มิจฺฉาวายามา มิจฺฉาสตี มิจฺฉาสมาธิโน เต อาสเญฺจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อนาสเญฺจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อาสญฺจ อนาสเญฺจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; เนวาสํ นานาสเญฺจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมายฯ ตํ กิสฺส เหตุ? อโยนิ เหสา, ภูมิช, ผลสฺส อธิคมายฯ

    225. ‘‘Seyyathāpi, bhūmija, puriso telatthiko telagavesī telapariyesanaṃ caramāno vālikaṃ doṇiyā ākiritvā udakena paripphosakaṃ paripphosakaṃ pīḷeyya. Āsañcepi karitvā vālikaṃ doṇiyā ākiritvā udakena paripphosakaṃ paripphosakaṃ pīḷeyya, abhabbo telassa adhigamāya; anāsañcepi karitvā vālikaṃ doṇiyā ākiritvā udakena paripphosakaṃ paripphosakaṃ pīḷeyya, abhabbo telassa adhigamāya; āsañca anāsañcepi karitvā vālikaṃ doṇiyā ākiritvā udakena paripphosakaṃ paripphosakaṃ pīḷeyya, abhabbo telassa adhigamāya; nevāsaṃ nānāsañcepi karitvā vālikaṃ doṇiyā ākiritvā udakena paripphosakaṃ paripphosakaṃ pīḷeyya, abhabbo telassa adhigamāya. Taṃ kissa hetu? Ayoni hesā, bhūmija, telassa adhigamāya. Evameva kho, bhūmija, ye hi keci samaṇā vā brāhmaṇā vā micchādiṭṭhino micchāsaṅkappā micchāvācā micchākammantā micchāājīvā micchāvāyāmā micchāsatī micchāsamādhino te āsañcepi karitvā brahmacariyaṃ caranti, abhabbā phalassa adhigamāya; anāsañcepi karitvā brahmacariyaṃ caranti, abhabbā phalassa adhigamāya; āsañca anāsañcepi karitvā brahmacariyaṃ caranti, abhabbā phalassa adhigamāya; nevāsaṃ nānāsañcepi karitvā brahmacariyaṃ caranti, abhabbā phalassa adhigamāya. Taṃ kissa hetu? Ayoni hesā, bhūmija, phalassa adhigamāya.

    ‘‘เสยฺยถาปิ , ภูมิช, ปุริโส ขีรตฺถิโก ขีรคเวสี ขีรปริเยสนํ จรมาโน คาวิํ ตรุณวจฺฉํ วิสาณโต อาวิเญฺฉยฺย 11ฯ อาสเญฺจปิ กริตฺวา คาวิํ ตรุณวจฺฉํ วิสาณโต อาวิเญฺฉยฺย, อภโพฺพ ขีรสฺส อธิคมาย; อนาสเญฺจปิ กริตฺวา…เป.… อาสญฺจ อนาสเญฺจปิ กริตฺวา…เป.… เนวาสํ นานาสเญฺจปิ กริตฺวา คาวิํ ตรุณวจฺฉํ วิสาณโต อาวิเญฺฉยฺย, อภโพฺพ ขีรสฺส อธิคมายฯ ตํ กิสฺส เหตุ? อโยนิ เหสา, ภูมิช, ขีรสฺส อธิคมายฯ เอวเมว โข, ภูมิช, เย หิ เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา มิจฺฉาทิฎฺฐิโน…เป.… มิจฺฉาสมาธิโน เต อาสเญฺจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อนาสเญฺจปิ กริตฺวา…เป.… อาสญฺจ อนาสเญฺจปิ กริตฺวา…เป.… เนวาสํ นานาสเญฺจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมายฯ ตํ กิสฺส เหตุ? อโยนิ เหสา, ภูมิช, ผลสฺส อธิคมายฯ

    ‘‘Seyyathāpi , bhūmija, puriso khīratthiko khīragavesī khīrapariyesanaṃ caramāno gāviṃ taruṇavacchaṃ visāṇato āviñcheyya 12. Āsañcepi karitvā gāviṃ taruṇavacchaṃ visāṇato āviñcheyya, abhabbo khīrassa adhigamāya; anāsañcepi karitvā…pe… āsañca anāsañcepi karitvā…pe… nevāsaṃ nānāsañcepi karitvā gāviṃ taruṇavacchaṃ visāṇato āviñcheyya, abhabbo khīrassa adhigamāya. Taṃ kissa hetu? Ayoni hesā, bhūmija, khīrassa adhigamāya. Evameva kho, bhūmija, ye hi keci samaṇā vā brāhmaṇā vā micchādiṭṭhino…pe… micchāsamādhino te āsañcepi karitvā brahmacariyaṃ caranti, abhabbā phalassa adhigamāya; anāsañcepi karitvā…pe… āsañca anāsañcepi karitvā…pe… nevāsaṃ nānāsañcepi karitvā brahmacariyaṃ caranti, abhabbā phalassa adhigamāya. Taṃ kissa hetu? Ayoni hesā, bhūmija, phalassa adhigamāya.

    ๒๒๖. ‘‘เสยฺยถาปิ, ภูมิช, ปุริโส นวนีตตฺถิโก นวนีตคเวสี นวนีตปริเยสนํ จรมาโน อุทกํ กลเส อาสิญฺจิตฺวา มเตฺถน 13 อาวิเญฺฉยฺยฯ อาสเญฺจปิ กริตฺวา อุทกํ กลเส อาสิญฺจิตฺวา มเตฺถน อาวิเญฺฉยฺย, อภโพฺพ นวนีตสฺส อธิคมาย; อนาสเญฺจปิ กริตฺวา…เป.… อาสญฺจ อนาสเญฺจปิ กริตฺวา…เป.… เนวาสํ นานาสเญฺจปิ กริตฺวา อุทกํ กลเส อาสิญฺจิตฺวา มเตฺถน อาวิเญฺฉยฺย, อภโพฺพ นวนีตสฺส อธิคมายฯ ตํ กิสฺส เหตุ? อโยนิ เหสา, ภูมิช, นวนีตสฺส อธิคมายฯ เอวเมว โข, ภูมิช, เย หิ เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา มิจฺฉาทิฎฺฐิโน…เป.… มิจฺฉาสมาธิโน เต อาสเญฺจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อนาสเญฺจปิ กริตฺวา…เป.… อาสญฺจ อนาสเญฺจปิ กริตฺวา…เป.… เนวาสํ นานาสเญฺจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมายฯ ตํ กิสฺส เหตุ? อโยนิ เหสา, ภูมิช, ผลสฺส อธิคมายฯ

    226. ‘‘Seyyathāpi, bhūmija, puriso navanītatthiko navanītagavesī navanītapariyesanaṃ caramāno udakaṃ kalase āsiñcitvā matthena 14 āviñcheyya. Āsañcepi karitvā udakaṃ kalase āsiñcitvā matthena āviñcheyya, abhabbo navanītassa adhigamāya; anāsañcepi karitvā…pe… āsañca anāsañcepi karitvā…pe… nevāsaṃ nānāsañcepi karitvā udakaṃ kalase āsiñcitvā matthena āviñcheyya, abhabbo navanītassa adhigamāya. Taṃ kissa hetu? Ayoni hesā, bhūmija, navanītassa adhigamāya. Evameva kho, bhūmija, ye hi keci samaṇā vā brāhmaṇā vā micchādiṭṭhino…pe… micchāsamādhino te āsañcepi karitvā brahmacariyaṃ caranti, abhabbā phalassa adhigamāya; anāsañcepi karitvā…pe… āsañca anāsañcepi karitvā…pe… nevāsaṃ nānāsañcepi karitvā brahmacariyaṃ caranti, abhabbā phalassa adhigamāya. Taṃ kissa hetu? Ayoni hesā, bhūmija, phalassa adhigamāya.

    ‘‘เสยฺยถาปิ, ภูมิช, ปุริโส อคฺคิตฺถิโก 15 อคฺคิคเวสี อคฺคิปริเยสนํ จรมาโน อลฺลํ กฎฺฐํ สเสฺนหํ อุตฺตรารณิํ อาทาย อภิมเนฺถยฺย 16ฯ อาสเญฺจปิ กริตฺวา อลฺลํ กฎฺฐํ สเสฺนหํ อุตฺตรารณิํ อาทาย อภิมเนฺถยฺย, อภโพฺพ อคฺคิสฺส อธิคมาย; อนาสเญฺจปิ กริตฺวา…เป.… อาสญฺจ อนาสเญฺจปิ กริตฺวา…เป.… เนวาสํ นานาสเญฺจปิ กริตฺวา อลฺลํ กฎฺฐํ สเสฺนหํ อุตฺตรารณิํ อาทาย อภิมเนฺถยฺย, อภโพฺพ อคฺคิสฺส อธิคมายฯ ตํ กิสฺส เหตุ? อโยนิ เหสา, ภูมิช, อคฺคิสฺส อธิคมายฯ เอวเมว โข, ภูมิช, เย หิ เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา มิจฺฉาทิฎฺฐิโน…เป.… มิจฺฉาสมาธิโน เต อาสเญฺจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อนาสเญฺจปิ กริตฺวา…เป.…อาสญฺจ อนาสเญฺจปิ กริตฺวา…เป.… เนวาสํ นานาสเญฺจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมายฯ ตํ กิสฺส เหตุ? อโยนิ เหสา, ภูมิช, ผลสฺส อธิคมายฯ เย หิ เกจิ, ภูมิช, สมณา วา พฺราหฺมณา วา สมฺมาทิฎฺฐิโน สมฺมาสงฺกปฺปา สมฺมาวาจา สมฺมากมฺมนฺตา สมฺมาอาชีวา สมฺมาวายามา สมฺมาสตี สมฺมาสมาธิโน เต อาสเญฺจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อนาสเญฺจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อาสญฺจ อนาสเญฺจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; เนวาสํ นานาสเญฺจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ภพฺพา ผลสฺส อธิคมายฯ ตํ กิสฺส เหตุ? โยนิ เหสา, ภูมิช, ผลสฺส อธิคมายฯ

    ‘‘Seyyathāpi, bhūmija, puriso aggitthiko 17 aggigavesī aggipariyesanaṃ caramāno allaṃ kaṭṭhaṃ sasnehaṃ uttarāraṇiṃ ādāya abhimantheyya 18. Āsañcepi karitvā allaṃ kaṭṭhaṃ sasnehaṃ uttarāraṇiṃ ādāya abhimantheyya, abhabbo aggissa adhigamāya; anāsañcepi karitvā…pe… āsañca anāsañcepi karitvā…pe… nevāsaṃ nānāsañcepi karitvā allaṃ kaṭṭhaṃ sasnehaṃ uttarāraṇiṃ ādāya abhimantheyya, abhabbo aggissa adhigamāya. Taṃ kissa hetu? Ayoni hesā, bhūmija, aggissa adhigamāya. Evameva kho, bhūmija, ye hi keci samaṇā vā brāhmaṇā vā micchādiṭṭhino…pe… micchāsamādhino te āsañcepi karitvā brahmacariyaṃ caranti, abhabbā phalassa adhigamāya; anāsañcepi karitvā…pe…āsañca anāsañcepi karitvā…pe… nevāsaṃ nānāsañcepi karitvā brahmacariyaṃ caranti, abhabbā phalassa adhigamāya. Taṃ kissa hetu? Ayoni hesā, bhūmija, phalassa adhigamāya. Ye hi keci, bhūmija, samaṇā vā brāhmaṇā vā sammādiṭṭhino sammāsaṅkappā sammāvācā sammākammantā sammāājīvā sammāvāyāmā sammāsatī sammāsamādhino te āsañcepi karitvā brahmacariyaṃ caranti, bhabbā phalassa adhigamāya; anāsañcepi karitvā brahmacariyaṃ caranti, bhabbā phalassa adhigamāya; āsañca anāsañcepi karitvā brahmacariyaṃ caranti, bhabbā phalassa adhigamāya; nevāsaṃ nānāsañcepi karitvā brahmacariyaṃ caranti, bhabbā phalassa adhigamāya. Taṃ kissa hetu? Yoni hesā, bhūmija, phalassa adhigamāya.

    ๒๒๗. ‘‘เสยฺยถาปิ, ภูมิช, ปุริโส เตลตฺถิโก เตลคเวสี เตลปริเยสนํ จรมาโน ติลปิฎฺฐํ โทณิยา อากิริตฺวา อุทเกน ปริโปฺผสกํ ปริโปฺผสกํ ปีเฬยฺยฯ อาสเญฺจปิ กริตฺวา ติลปิฎฺฐํ โทณิยา อากิริตฺวา อุทเกน ปริโปฺผสกํ ปริโปฺผสกํ ปีเฬยฺย, ภโพฺพ เตลสฺส อธิคมาย; อนาสเญฺจปิ กริตฺวา…เป.… อาสญฺจ อนาสเญฺจปิ กริตฺวา…เป.… เนวาสํ นานาสเญฺจปิ กริตฺวา ติลปิฎฺฐํ โทณิยา อากิริตฺวา อุทเกน ปริโปฺผสกํ ปริโปฺผสกํ ปีเฬยฺย, ภโพฺพ เตลสฺส อธิคมายฯ ตํ กิสฺส เหตุ? โยนิ เหสา, ภูมิช, เตลสฺส อธิคมายฯ เอวเมว โข, ภูมิช, เย หิ เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา สมฺมาทิฎฺฐิโน…เป.… สมฺมาสมาธิโน เต อาสเญฺจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อนาสเญฺจปิ กริตฺวา…เป.… อาสญฺจ อนาสเญฺจปิ กริตฺวา…เป.… เนวาสํ นานาสเญฺจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ภพฺพา ผลสฺส อธิคมายฯ ตํ กิสฺส เหตุ? โยนิ เหสา, ภูมิช, ผลสฺส อธิคมายฯ

    227. ‘‘Seyyathāpi, bhūmija, puriso telatthiko telagavesī telapariyesanaṃ caramāno tilapiṭṭhaṃ doṇiyā ākiritvā udakena paripphosakaṃ paripphosakaṃ pīḷeyya. Āsañcepi karitvā tilapiṭṭhaṃ doṇiyā ākiritvā udakena paripphosakaṃ paripphosakaṃ pīḷeyya, bhabbo telassa adhigamāya; anāsañcepi karitvā…pe… āsañca anāsañcepi karitvā…pe… nevāsaṃ nānāsañcepi karitvā tilapiṭṭhaṃ doṇiyā ākiritvā udakena paripphosakaṃ paripphosakaṃ pīḷeyya, bhabbo telassa adhigamāya. Taṃ kissa hetu? Yoni hesā, bhūmija, telassa adhigamāya. Evameva kho, bhūmija, ye hi keci samaṇā vā brāhmaṇā vā sammādiṭṭhino…pe… sammāsamādhino te āsañcepi karitvā brahmacariyaṃ caranti, bhabbā phalassa adhigamāya; anāsañcepi karitvā…pe… āsañca anāsañcepi karitvā…pe… nevāsaṃ nānāsañcepi karitvā brahmacariyaṃ caranti, bhabbā phalassa adhigamāya. Taṃ kissa hetu? Yoni hesā, bhūmija, phalassa adhigamāya.

    ‘‘เสยฺยถาปิ, ภูมิช, ปุริโส ขีรตฺถิโก ขีรคเวสี ขีรปริเยสนํ จรมาโน คาวิํ ตรุณวจฺฉํ ถนโต อาวิเญฺฉยฺยฯ อาสเญฺจปิ กริตฺวา คาวิํ ตรุณวจฺฉํ ถนโต อาวิเญฺฉยฺย, ภโพฺพ ขีรสฺส อธิคมาย; อนาสเญฺจปิ กริตฺวา…เป.… อาสญฺจ อนาสเญฺจปิ กริตฺวา…เป.… เนวาสํ นานาสเญฺจปิ กริตฺวา คาวิํ ตรุณวจฺฉํ ถนโต อาวิเญฺฉยฺย, ภโพฺพ ขีรสฺส อธิคมายฯ ตํ กิสฺส เหตุ? โยนิ เหสา, ภูมิช, ขีรสฺส อธิคมายฯ เอวเมว โข, ภูมิช, เย หิ เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา สมฺมาทิฎฺฐิโน…เป.… สมฺมาสมาธิโน เต อาสเญฺจปิ กริตฺวา…เป.… อนาสเญฺจปิ กริตฺวา…เป.… อาสญฺจ อนาสเญฺจปิ กริตฺวา…เป.… เนวาสํ นานาสเญฺจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ภพฺพา ผลสฺส อธิคมายฯ ตํ กิสฺส เหตุ? โยนิ เหสา, ภูมิช, ผลสฺส อธิคมายฯ

    ‘‘Seyyathāpi, bhūmija, puriso khīratthiko khīragavesī khīrapariyesanaṃ caramāno gāviṃ taruṇavacchaṃ thanato āviñcheyya. Āsañcepi karitvā gāviṃ taruṇavacchaṃ thanato āviñcheyya, bhabbo khīrassa adhigamāya; anāsañcepi karitvā…pe… āsañca anāsañcepi karitvā…pe… nevāsaṃ nānāsañcepi karitvā gāviṃ taruṇavacchaṃ thanato āviñcheyya, bhabbo khīrassa adhigamāya. Taṃ kissa hetu? Yoni hesā, bhūmija, khīrassa adhigamāya. Evameva kho, bhūmija, ye hi keci samaṇā vā brāhmaṇā vā sammādiṭṭhino…pe… sammāsamādhino te āsañcepi karitvā…pe… anāsañcepi karitvā…pe… āsañca anāsañcepi karitvā…pe… nevāsaṃ nānāsañcepi karitvā brahmacariyaṃ caranti, bhabbā phalassa adhigamāya. Taṃ kissa hetu? Yoni hesā, bhūmija, phalassa adhigamāya.

    ๒๒๘. ‘‘เสยฺยถาปิ, ภูมิช, ปุริโส นวนีตตฺถิโก นวนีตคเวสี นวนีตปริเยสนํ จรมาโน ทธิํ กลเส อาสิญฺจิตฺวา มเตฺถน อาวิเญฺฉยฺยฯ อาสเญฺจปิ กริตฺวา ทธิํ กลเส อาสิญฺจิตฺวา มเตฺถน อาวิเญฺฉยฺย, ภโพฺพ นวนีตสฺส อธิคมาย; อนาสเญฺจปิ กริตฺวา… อาสญฺจ อนาสเญฺจปิ กริตฺวา… เนวาสํ นานาสเญฺจปิ กริตฺวา ทธิํ กลเส อาสิญฺจิตฺวา มเตฺถน อาวิเญฺฉยฺย, ภโพฺพ นวนีตสฺส อธิคมายฯ ตํ กิสฺส เหตุ? โยนิ เหสา, ภูมิช, นวนีตสฺส อธิคมายฯ เอวเมว โข, ภูมิช, เย หิ เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา สมฺมาทิฎฺฐิโน…เป.… สมฺมาสมาธิโน เต อาสเญฺจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อนาสเญฺจปิ กริตฺวา… อาสญฺจ อนาสเญฺจปิ กริตฺวา … เนวาสํ นานาสเญฺจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ภพฺพา ผลสฺส อธิคมายฯ ตํ กิสฺส เหตุ? โยนิ เหสา, ภูมิช, ผลสฺส อธิคมายฯ

    228. ‘‘Seyyathāpi, bhūmija, puriso navanītatthiko navanītagavesī navanītapariyesanaṃ caramāno dadhiṃ kalase āsiñcitvā matthena āviñcheyya. Āsañcepi karitvā dadhiṃ kalase āsiñcitvā matthena āviñcheyya, bhabbo navanītassa adhigamāya; anāsañcepi karitvā… āsañca anāsañcepi karitvā… nevāsaṃ nānāsañcepi karitvā dadhiṃ kalase āsiñcitvā matthena āviñcheyya, bhabbo navanītassa adhigamāya. Taṃ kissa hetu? Yoni hesā, bhūmija, navanītassa adhigamāya. Evameva kho, bhūmija, ye hi keci samaṇā vā brāhmaṇā vā sammādiṭṭhino…pe… sammāsamādhino te āsañcepi karitvā brahmacariyaṃ caranti, bhabbā phalassa adhigamāya; anāsañcepi karitvā… āsañca anāsañcepi karitvā … nevāsaṃ nānāsañcepi karitvā brahmacariyaṃ caranti, bhabbā phalassa adhigamāya. Taṃ kissa hetu? Yoni hesā, bhūmija, phalassa adhigamāya.

    ‘‘เสยฺยถาปิ, ภูมิช, ปุริโส อคฺคิตฺถิโก อคฺคิคเวสี อคฺคิปริเยสนํ จรมาโน สุกฺขํ กฎฺฐํ โกฬาปํ อุตฺตรารณิํ อาทาย อภิมเนฺถยฺย; ( ) 19 อาสเญฺจปิ กริตฺวา… อนาสเญฺจปิ กริตฺวา.. อาสญฺจ อนาสเญฺจปิ กริตฺวา… เนวาสํ นานาสเญฺจปิ กริตฺวา สุกฺข กฎฺฐํ โกฬาปํ อุตฺตรารณิํ อาทาย อภิมเนฺถยฺย, ภโพฺพ อคฺคิสฺส อธิคมายฯ ตํ กิสฺส เหตุ? โยนิ เหสา, ภูมิช, อคฺคิสฺส อธิคมายฯ เอวเมว โข, ภูมิช, เย หิ เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา สมฺมาทิฎฺฐิโน…เป.… สมฺมาสมาธิโน เต อาสเญฺจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อนาสเญฺจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; อาสญฺจ อนาสเญฺจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย; เนวาสํ นานาสเญฺจปิ กริตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ, ภพฺพา ผลสฺส อธิคมายฯ ตํ กิสฺส เหตุ? โยนิ เหสา, ภูมิช, ผลสฺส อธิคมายฯ

    ‘‘Seyyathāpi, bhūmija, puriso aggitthiko aggigavesī aggipariyesanaṃ caramāno sukkhaṃ kaṭṭhaṃ koḷāpaṃ uttarāraṇiṃ ādāya abhimantheyya; ( ) 20 āsañcepi karitvā… anāsañcepi karitvā.. āsañca anāsañcepi karitvā… nevāsaṃ nānāsañcepi karitvā sukkha kaṭṭhaṃ koḷāpaṃ uttarāraṇiṃ ādāya abhimantheyya, bhabbo aggissa adhigamāya. Taṃ kissa hetu? Yoni hesā, bhūmija, aggissa adhigamāya. Evameva kho, bhūmija, ye hi keci samaṇā vā brāhmaṇā vā sammādiṭṭhino…pe… sammāsamādhino te āsañcepi karitvā brahmacariyaṃ caranti, bhabbā phalassa adhigamāya; anāsañcepi karitvā brahmacariyaṃ caranti, bhabbā phalassa adhigamāya; āsañca anāsañcepi karitvā brahmacariyaṃ caranti, bhabbā phalassa adhigamāya; nevāsaṃ nānāsañcepi karitvā brahmacariyaṃ caranti, bhabbā phalassa adhigamāya. Taṃ kissa hetu? Yoni hesā, bhūmija, phalassa adhigamāya.

    ‘‘สเจ โข ตํ, ภูมิช, ชยเสนสฺส ราชกุมารสฺส อิมา จตโสฺส อุปมา ปฎิภาเยยฺยุํ อนจฺฉริยํ เต ชยเสโน ราชกุมาโร ปสีเทยฺย, ปสโนฺน จ เต ปสนฺนาการํ กเรยฺยา’’ติฯ ‘‘กุโต ปน มํ, ภเนฺต, ชยเสนสฺส ราชกุมารสฺส อิมา จตโสฺส อุปมา ปฎิภายิสฺสนฺติ อนจฺฉริยา ปุเพฺพ อสฺสุตปุพฺพา, เสยฺยถาปิ ภควนฺต’’นฺติ?

    ‘‘Sace kho taṃ, bhūmija, jayasenassa rājakumārassa imā catasso upamā paṭibhāyeyyuṃ anacchariyaṃ te jayaseno rājakumāro pasīdeyya, pasanno ca te pasannākāraṃ kareyyā’’ti. ‘‘Kuto pana maṃ, bhante, jayasenassa rājakumārassa imā catasso upamā paṭibhāyissanti anacchariyā pubbe assutapubbā, seyyathāpi bhagavanta’’nti?

    อิทมโวจ ภควาฯ อตฺตมโน อายสฺมา ภูมิโช ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติฯ

    Idamavoca bhagavā. Attamano āyasmā bhūmijo bhagavato bhāsitaṃ abhinandīti.

    ภูมิชสุตฺตํ นิฎฺฐิตํ ฉฎฺฐํฯ

    Bhūmijasuttaṃ niṭṭhitaṃ chaṭṭhaṃ.







    Footnotes:
    1. จรติ, อภโพฺพ (สี. ปี.) เอวมุปริปิ เอกวจเนเนว ทิสฺสติ
    2. อาสญฺจ อนาสญฺจ เจปิ (อฎฺฐ.)
    3. กิํวาที กิํทิฎฺฐี (สฺยา. กํ. ก.)
    4. เอวํวาที เอวํทิฎฺฐี (สฺยา. กํ. ก.)
    5. พุทฺธานํ (ก.) มุทฺธานนฺติมุทฺธํ, มตฺถกนฺติ อโตฺถ
    6. carati, abhabbo (sī. pī.) evamuparipi ekavacaneneva dissati
    7. āsañca anāsañca cepi (aṭṭha.)
    8. kiṃvādī kiṃdiṭṭhī (syā. kaṃ. ka.)
    9. evaṃvādī evaṃdiṭṭhī (syā. kaṃ. ka.)
    10. buddhānaṃ (ka.) muddhānantimuddhaṃ, matthakanti attho
    11. อาวิเญฺชยฺย (สี. สฺยา. กํ. ปี.)
    12. āviñjeyya (sī. syā. kaṃ. pī.)
    13. มเนฺถน (สี.), มเตฺตน (ก.)
    14. manthena (sī.), mattena (ka.)
    15. อคฺคตฺถิโก (สี.)
    16. อภิมเตฺถยฺย (สฺยา. กํ. ปี. ก.)
    17. aggatthiko (sī.)
    18. abhimattheyya (syā. kaṃ. pī. ka.)
    19. (ภโพฺพ อคฺคิสฺส อธิคมาย) (สพฺพตฺถ)
    20. (bhabbo aggissa adhigamāya) (sabbattha)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) / ๖. ภูมิชสุตฺตวณฺณนา • 6. Bhūmijasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) / ๖. ภูมิชสุตฺตวณฺณนา • 6. Bhūmijasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact