Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā)

    ๕. ภูมิชสุตฺตวณฺณนา

    5. Bhūmijasuttavaṇṇanā

    ๒๕-๒๖. ปญฺจเม ภูมิโชติ ตสฺส เถรสฺส นามํฯ เสสมิธาปิ ปุริมสุเตฺต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํฯ อยํ ปน วิเสโส – ยสฺมา อิทํ สุขทุกฺขํ น เกวลํ ผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ, กาเยนปิ กริยมานํ กรียติ, วาจายปิ มนสาปิ, อตฺตนาปิ กริยมานํ กรียติ, ปเรนปิ กริยมานํ กรียติ, สมฺปชาเนนปิ กริยมานํ กรียติ, อสมฺปชาเนนปิ, ตสฺมา ตสฺส อปรมฺปิ ปจฺจยวิเสสํ ทเสฺสตุํ กาเย วา หานนฺท, สตีติอาทิมาหฯ กายสเญฺจตนาเหตูติ กายทฺวาเร อุปฺปนฺนเจตนาเหตุฯ วจีสเญฺจตนามโนสเญฺจตนาสุปิ เอเสว นโยฯ เอตฺถ จ กายทฺวาเร กามาวจรกุสลากุสลวเสน วีสติ เจตนา ลพฺภนฺติ, ตถา วจีทฺวาเรฯ มโนทฺวาเร นวหิ รูปารูปเจตนาหิ สทฺธิํ เอกูนติํสาติ ตีสุ ทฺวาเรสุ เอกูนสตฺตติ เจตนา โหนฺติ, ตปฺปจฺจยํ วิปากสุขทุกฺขํ ทสฺสิตํฯ อวิชฺชาปจฺจยา จาติ อิทํ ตาปิ เจตนา อวิชฺชาปจฺจยา โหนฺตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํฯ ยสฺมา ปน ตํ ยถาวุตฺตเจตนาเภทํ กายสงฺขารเญฺจว วจีสงฺขารญฺจ มโนสงฺขารญฺจ ปเรหิ อนุสฺสาหิโต สามํ อสงฺขาริกจิเตฺตน กโรติ, ปเรหิ การิยมาโน สสงฺขาริกจิเตฺตนาปิ กโรติ, ‘‘อิทํ นาม กมฺมํ กโรติ, ตสฺส เอวรูโป นาม วิปาโก ภวิสฺสตี’’ติ, เอวํ กมฺมญฺจ วิปากญฺจ ชานโนฺตปิ กโรติ, มาตาปิตูสุ เจติยวนฺทนาทีนิ กโรเนฺตสุ อนุกโรนฺตา ทารกา วิย เกวลํ กมฺมเมว ชานโนฺต ‘‘อิมสฺส ปน กมฺมสฺส อยํ วิปาโก’’ติ วิปากํ อชานโนฺตปิ กโรติ, ตสฺมา ตํ ทเสฺสตุํ สามํ วา ตํ, อานนฺท, กายสงฺขารํ อภิสงฺขโรตีติอาทิ วุตฺตํฯ

    25-26. Pañcame bhūmijoti tassa therassa nāmaṃ. Sesamidhāpi purimasutte vuttanayeneva veditabbaṃ. Ayaṃ pana viseso – yasmā idaṃ sukhadukkhaṃ na kevalaṃ phassapaccayā uppajjati, kāyenapi kariyamānaṃ karīyati, vācāyapi manasāpi, attanāpi kariyamānaṃ karīyati, parenapi kariyamānaṃ karīyati, sampajānenapi kariyamānaṃ karīyati, asampajānenapi, tasmā tassa aparampi paccayavisesaṃ dassetuṃ kāye vā hānanda, satītiādimāha. Kāyasañcetanāhetūti kāyadvāre uppannacetanāhetu. Vacīsañcetanāmanosañcetanāsupi eseva nayo. Ettha ca kāyadvāre kāmāvacarakusalākusalavasena vīsati cetanā labbhanti, tathā vacīdvāre. Manodvāre navahi rūpārūpacetanāhi saddhiṃ ekūnatiṃsāti tīsu dvāresu ekūnasattati cetanā honti, tappaccayaṃ vipākasukhadukkhaṃ dassitaṃ. Avijjāpaccayā cāti idaṃ tāpi cetanā avijjāpaccayā hontīti dassanatthaṃ vuttaṃ. Yasmā pana taṃ yathāvuttacetanābhedaṃ kāyasaṅkhārañceva vacīsaṅkhārañca manosaṅkhārañca parehi anussāhito sāmaṃ asaṅkhārikacittena karoti, parehi kāriyamāno sasaṅkhārikacittenāpi karoti, ‘‘idaṃ nāma kammaṃ karoti, tassa evarūpo nāma vipāko bhavissatī’’ti, evaṃ kammañca vipākañca jānantopi karoti, mātāpitūsu cetiyavandanādīni karontesu anukarontā dārakā viya kevalaṃ kammameva jānanto ‘‘imassa pana kammassa ayaṃ vipāko’’ti vipākaṃ ajānantopi karoti, tasmā taṃ dassetuṃ sāmaṃ vā taṃ, ānanda, kāyasaṅkhāraṃ abhisaṅkharotītiādi vuttaṃ.

    อิเมสุ, อานนฺท, ธเมฺมสูติ เย อิเม ‘‘สามํ วา ตํ, อานนฺท, กายสงฺขาร’’นฺติอาทีสุ จตูสุ ฐาเนสุ วุตฺตา ฉสตฺตติ เทฺวสตา เจตนาธมฺมา, อิเมสุ ธเมฺมสุ อวิชฺชา อุปนิสฺสยโกฎิยา อนุปติตาฯ สเพฺพปิ หิ เต ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ เอเตฺถว สงฺคหํ คจฺฉนฺติฯ อิทานิ วิวฎฺฎํ ทเสฺสโนฺต อวิชฺชาย เตฺววาติอาทิมาหฯ โส กาโย น โหตีติ ยสฺมิํ กาเย สติ กายสเญฺจตนาปจฺจยํ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, โส กาโย น โหติฯ วาจามเนสุปิ เอเสว นโยฯ อปิจ กาโยติ เจตนากาโย, วาจาปิ เจตนาวาจา, มโนปิ กมฺมมโนเยวฯ ทฺวารกาโย วา กาโยฯ วาจามเนสุปิ เอเสว นโยฯ ขีณาสโว เจติยํ วนฺทติ, ธมฺมํ ภณติ, กมฺมฎฺฐานํ มนสิ กโรติ, กถมสฺส กายาทโย น โหนฺตีติ? อวิปากตฺตาฯ ขีณาสเวน หิ กตํ กมฺมํ เนว กุสลํ โหติ นากุสลํฯ อวิปากํ หุตฺวา กิริยามเตฺต ติฎฺฐติ, เตนสฺส เต กายาทโย น โหนฺตีติ วุตฺตํฯ

    Imesu, ānanda, dhammesūti ye ime ‘‘sāmaṃ vā taṃ, ānanda, kāyasaṅkhāra’’ntiādīsu catūsu ṭhānesu vuttā chasattati dvesatā cetanādhammā, imesu dhammesu avijjā upanissayakoṭiyā anupatitā. Sabbepi hi te ‘‘avijjāpaccayā saṅkhārā’’ti ettheva saṅgahaṃ gacchanti. Idāni vivaṭṭaṃ dassento avijjāya tvevātiādimāha. So kāyo na hotīti yasmiṃ kāye sati kāyasañcetanāpaccayaṃ ajjhattaṃ sukhadukkhaṃ uppajjati, so kāyo na hoti. Vācāmanesupi eseva nayo. Apica kāyoti cetanākāyo, vācāpi cetanāvācā, manopi kammamanoyeva. Dvārakāyo vā kāyo. Vācāmanesupi eseva nayo. Khīṇāsavo cetiyaṃ vandati, dhammaṃ bhaṇati, kammaṭṭhānaṃ manasi karoti, kathamassa kāyādayo na hontīti? Avipākattā. Khīṇāsavena hi kataṃ kammaṃ neva kusalaṃ hoti nākusalaṃ. Avipākaṃ hutvā kiriyāmatte tiṭṭhati, tenassa te kāyādayo na hontīti vuttaṃ.

    เขตฺตํ ตํ น โหตีติอาทีสุปิ วิรุหนเฎฺฐน ตํ เขตฺตํ น โหติ, ปติฎฺฐานเฎฺฐน วตฺถุ น โหติ, ปจฺจยเฎฺฐน อายตนํ น โหติ, การณเฎฺฐน อธิกรณํ น โหติฯ สเญฺจตนามูลกญฺหิ อชฺฌตฺตํ สุขทุกฺขํ อุปฺปเชฺชยฺย, สา สเญฺจตนา เอเตสํ วิรุหนาทีนํ อตฺถานํ อภาเวน ตสฺส สุขทุกฺขสฺส เนว เขตฺตํ, น วตฺถุ น อายตนํ, น อธิกรณํ โหตีติฯ อิมสฺมิํ สุเตฺต เวทนาทีสุ สุขทุกฺขเมว กถิตํ, ตญฺจ โข วิปากเมวาติฯ ปญฺจมํฯ

    Khettaṃ taṃ na hotītiādīsupi viruhanaṭṭhena taṃ khettaṃ na hoti, patiṭṭhānaṭṭhena vatthu na hoti, paccayaṭṭhena āyatanaṃ na hoti, kāraṇaṭṭhena adhikaraṇaṃ na hoti. Sañcetanāmūlakañhi ajjhattaṃ sukhadukkhaṃ uppajjeyya, sā sañcetanā etesaṃ viruhanādīnaṃ atthānaṃ abhāvena tassa sukhadukkhassa neva khettaṃ, na vatthu na āyatanaṃ, na adhikaraṇaṃ hotīti. Imasmiṃ sutte vedanādīsu sukhadukkhameva kathitaṃ, tañca kho vipākamevāti. Pañcamaṃ.

    ฉฎฺฐํ อุปวาณสุตฺตํ อุตฺตานเมวฯ เอตฺถ ปน วฎฺฎทุกฺขเมว กถิตนฺติฯ ฉฎฺฐํฯ

    Chaṭṭhaṃ upavāṇasuttaṃ uttānameva. Ettha pana vaṭṭadukkhameva kathitanti. Chaṭṭhaṃ.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya
    ๕. ภูมิชสุตฺตํ • 5. Bhūmijasuttaṃ
    ๖. อุปวาณสุตฺตํ • 6. Upavāṇasuttaṃ

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā)
    ๕. ภูมิชสุตฺตวณฺณนา • 5. Bhūmijasuttavaṇṇanā
    ๖. อุปวาณสุตฺตวณฺณนา • 6. Upavāṇasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact