Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) |
๕. ภูมิชสุตฺตวณฺณนา
5. Bhūmijasuttavaṇṇanā
๒๕. ปุริมสุเตฺตติ อนนฺตเร ปุริเม สุเตฺตฯ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ ปทเตฺถ ตโต วิสิฎฺฐํ อนิทฺทิสิตฺวา อิตรํ อตฺถโต วิภาเวตุํ ‘‘อยํ ปน วิเสโส’’ติอาทิมาหฯ น เกวลํ ผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ, อถ โข ผสฺสสฺส สหการีการณภูตอญฺญปจฺจยา จ อุปฺปชฺชตีติฯ กาเยนาติ โจปนกาเยน, กายวิญฺญตฺติยาติ อโตฺถฯ สา หิ กามํ ปฎฺฐาเน อาคเตสุ จตุวีสติยา ปจฺจเยสุ เกนจิ ปจฺจเยน เจตนาย ปจฺจโย น โหติฯ ยสฺมา ปน กาเย สติ เอว กายกมฺมํ นาม โหติ, นาสติ, ตสฺมา สา ตสฺสา สามคฺคิยภาเวน อิจฺฉิตพฺพาติ วุตฺตํ ‘‘กาเยนปิ กริยมานํ กรียตี’’ติฯ เตนาห ภควา ‘‘กาเย วา, หานนฺท, สติ กายสเญฺจตนาเหตุ อุปฺปชฺชติ อชฺฌตฺตํ สุขํ ทุกฺข’’นฺติฯ วาจายปีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโยฯ มนสาติ ปาตุภูเตน มนสา, น มนมเตฺตนาติฯ อตฺตนา ปเรหิ อนุสฺสาหิเตนฯ ปเรนาติ ปเรน อนุสฺสาเหนฯ สมฺปชาเนนาติ ญาณสมฺปยุตฺตจิตฺตวเสน ปชานเนฺตนฯ อสมฺปชาเนนาติ ตถา น สมฺปชานเนฺตนฯ ตสฺสาติ สุขทุกฺขสฺสฯ กายสเญฺจตนาเหตูติ กายกมฺมนิมิตฺตํ, กายิกสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตาติ อโตฺถฯ เอส นโย เสสสเญฺจตนาสุปิฯ อุทฺธจฺจสหคตเจตนา ปวตฺติยํ วิปากํ เทติเยวาติ ‘‘วีสติ เจตนา ลพฺภนฺตี’’ติ วุตฺตํฯ ตถา วจีทฺวาเรติ เอตฺถ ‘‘กามาวจรกุสลากุสลวเสน วีสติ เจตนา ลพฺภนฺตี’’ติ อิทํ ตถา-สเทฺทน อุปสํหรติฯ รูปารูปเจตนาหีติ รูปาวจรารูปาวจรกุสลเจตนาหิฯ ตปฺปจฺจยํ ยถารหนฺติ อธิปฺปาโยฯ ตาปิ เจตนาติ ยถาวุตฺตา เอกูนวีสติ เจตนา อวิชฺชาปจฺจยา โหนฺติ กุสลานมฺปิ ปเคว อิตราธิฎฺฐหิตาวิชฺชเสฺสว อุปฺปชฺชนโต, อญฺญถา อนุปฺปชฺชนโตฯ ยถาวุตฺตเจตนาเภทนฺติ ยถาวุตฺตํ กายเจตนาทิวิภาคํฯ ปเรหิ อนุสฺสาหิโต สรเสเนว ปวตฺตมาโนฯ ปเรหิ การิยมาโนติ ปเรหิ อุสฺสาหิโต หุตฺวา กยิรมาโนฯ ชานโนฺตปีติ อนุสฺสวาทิวเสน ชานโนฺตปิฯ กมฺมเมว ชานโนฺตติ ตทา อตฺตนา กริยมานกมฺมเมว ชานโนฺตฯ
25.Purimasutteti anantare purime sutte. Vuttanayeneva veditabbanti padatthe tato visiṭṭhaṃ aniddisitvā itaraṃ atthato vibhāvetuṃ ‘‘ayaṃ pana viseso’’tiādimāha. Na kevalaṃ phassapaccayā uppajjati, atha kho phassassa sahakārīkāraṇabhūtaaññapaccayā ca uppajjatīti. Kāyenāti copanakāyena, kāyaviññattiyāti attho. Sā hi kāmaṃ paṭṭhāne āgatesu catuvīsatiyā paccayesu kenaci paccayena cetanāya paccayo na hoti. Yasmā pana kāye sati eva kāyakammaṃ nāma hoti, nāsati, tasmā sā tassā sāmaggiyabhāvena icchitabbāti vuttaṃ ‘‘kāyenapi kariyamānaṃ karīyatī’’ti. Tenāha bhagavā ‘‘kāye vā, hānanda, sati kāyasañcetanāhetu uppajjati ajjhattaṃ sukhaṃ dukkha’’nti. Vācāyapīti etthāpi eseva nayo. Manasāti pātubhūtena manasā, na manamattenāti. Attanā parehi anussāhitena. Parenāti parena anussāhena. Sampajānenāti ñāṇasampayuttacittavasena pajānantena. Asampajānenāti tathā na sampajānantena. Tassāti sukhadukkhassa. Kāyasañcetanāhetūti kāyakammanimittaṃ, kāyikassa kammassa katattā upacitattāti attho. Esa nayo sesasañcetanāsupi. Uddhaccasahagatacetanā pavattiyaṃ vipākaṃ detiyevāti ‘‘vīsati cetanā labbhantī’’ti vuttaṃ. Tathā vacīdvāreti ettha ‘‘kāmāvacarakusalākusalavasena vīsati cetanā labbhantī’’ti idaṃ tathā-saddena upasaṃharati. Rūpārūpacetanāhīti rūpāvacarārūpāvacarakusalacetanāhi. Tappaccayaṃ yathārahanti adhippāyo. Tāpi cetanāti yathāvuttā ekūnavīsati cetanā avijjāpaccayā honti kusalānampi pageva itarādhiṭṭhahitāvijjasseva uppajjanato, aññathā anuppajjanato. Yathāvuttacetanābhedanti yathāvuttaṃ kāyacetanādivibhāgaṃ. Parehi anussāhito saraseneva pavattamāno. Parehi kāriyamānoti parehi ussāhito hutvā kayiramāno. Jānantopīti anussavādivasena jānantopi. Kammameva jānantoti tadā attanā kariyamānakammameva jānanto.
จตูสูติ ‘‘สามํ วา ปเร วา สมฺปชาโน วา อสมฺปชาโน วา’’ติ เอวํ วุเตฺตสุ จตูสุ ฐาเนสุฯ ยถาวุเตฺต เอกูนวีสติเจตนาธเมฺม อสงฺขาริกสสงฺขาริกภาเวน สมฺปชานกตาสมฺปชานกตภาเวน จตุคุเณ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘ฉสตฺตติ เทฺวสตา เจตนาธมฺมา’’ติฯ เยสํ สหชาตโกฎิ ลพฺภติ, เตสมฺปิ อุปนิสฺสยโกฎิ ลพฺภเตวาติ ‘‘อุปนิสฺสยโกฎิยา อนุปติตา’’ติอิเจฺจว วุตฺตาฯ เตติ ยถาวุตฺตา สเพฺพปิ ธมฺมาฯ โส กาโย น โหตีติ เอตฺถ ปสาทกาโยปิ คเหตโพฺพฯ เตนาห ‘‘ยสฺมิํ กาเย สตี’’ติอาทิฯ โส กาโย น โหตีติ โส กาโย ปจฺจยนิโรเธน น โหติฯ วาจาติ สทฺทวาจาฯ มโนติ ยํ กิญฺจิ วิญฺญาณํฯ อิทานิ กมฺมวเสเนว โยเชตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ เอเสว นโย ‘‘วาจาปิ ทฺวารภูตา มโนปิ ทฺวารภูโต’’ติฯ ขีณาสวสฺส กถํ กาโย น โหติ, น ตสฺส กายกมฺมาธิฎฺฐานนฺติ อธิปฺปาโยฯ อวิปากตฺตาติ อวิปากธมฺมตฺตาติ อโตฺถฯ กาโย น โหตีติ วุตฺตํ อกมฺมกรณภาวโตฯ
Catūsūti ‘‘sāmaṃ vā pare vā sampajāno vā asampajāno vā’’ti evaṃ vuttesu catūsu ṭhānesu. Yathāvutte ekūnavīsaticetanādhamme asaṅkhārikasasaṅkhārikabhāvena sampajānakatāsampajānakatabhāvena catuguṇe katvā vuttaṃ ‘‘chasattati dvesatā cetanādhammā’’ti. Yesaṃ sahajātakoṭi labbhati, tesampi upanissayakoṭi labbhatevāti ‘‘upanissayakoṭiyā anupatitā’’tiicceva vuttā. Teti yathāvuttā sabbepi dhammā. So kāyo na hotīti ettha pasādakāyopi gahetabbo. Tenāha ‘‘yasmiṃ kāye satī’’tiādi. So kāyo na hotīti so kāyo paccayanirodhena na hoti. Vācāti saddavācā. Manoti yaṃ kiñci viññāṇaṃ. Idāni kammavaseneva yojetuṃ ‘‘apicā’’tiādi vuttaṃ. Eseva nayo ‘‘vācāpi dvārabhūtā manopi dvārabhūto’’ti. Khīṇāsavassa kathaṃ kāyo na hoti, na tassa kāyakammādhiṭṭhānanti adhippāyo. Avipākattāti avipākadhammattāti attho. Kāyo na hotīti vuttaṃ akammakaraṇabhāvato.
ตนฺติ กมฺมํฯ เขตฺตํ น โหตีติ ตสฺส ทุกฺขสฺส อวิรุหนฎฺฐานตฺตาฯ วิรุหนฎฺฐานาทโย พฺยติเรกวเสน วุตฺตาฯ เตนาห ‘‘น โหตี’’ติฯ การณเฎฺฐนาติ อาธารภูตการณภาเวนฯ สเญฺจตนามูลกนฺติ สเญฺจตนานิมิตฺตํฯ วิรุหนาทีนํ อตฺถานนฺติ ‘‘วิรุหนเฎฺฐนา’’ติอาทินา วุตฺตานํ อตฺถานํฯ อิมินา วิรุหนาทิภาเวน เวทนา ‘‘สุขทุกฺขเวทนา’’ติ กถิตา, นยิธ เชฎฺฐลกฺขณํ สุขทุกฺขํ นิปฺปโยชกสฺส สุขสฺส ทุกฺขสฺส จ อธิเปฺปตตฺตาฯ อุเปกฺขาเวทนาเปตฺถ สุขสณฺหสภาววิปากภูตา เวทนาวฯ
Tanti kammaṃ. Khettaṃ na hotīti tassa dukkhassa aviruhanaṭṭhānattā. Viruhanaṭṭhānādayo byatirekavasena vuttā. Tenāha ‘‘na hotī’’ti. Kāraṇaṭṭhenāti ādhārabhūtakāraṇabhāvena. Sañcetanāmūlakanti sañcetanānimittaṃ. Viruhanādīnaṃ atthānanti ‘‘viruhanaṭṭhenā’’tiādinā vuttānaṃ atthānaṃ. Iminā viruhanādibhāvena vedanā ‘‘sukhadukkhavedanā’’ti kathitā, nayidha jeṭṭhalakkhaṇaṃ sukhadukkhaṃ nippayojakassa sukhassa dukkhassa ca adhippetattā. Upekkhāvedanāpettha sukhasaṇhasabhāvavipākabhūtā vedanāva.
ภูมิชสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Bhūmijasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๕. ภูมิชสุตฺตํ • 5. Bhūmijasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๕. ภูมิชสุตฺตวณฺณนา • 5. Bhūmijasuttavaṇṇanā