Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ขุทฺทสิกฺขา-มูลสิกฺขา • Khuddasikkhā-mūlasikkhā |
๑๔. ภูมินิเทฺทสวณฺณนา
14. Bhūminiddesavaṇṇanā
๑๓๖. อิทานิ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จตโสฺส กปฺปิยภูมิโย อุสฺสาวนนฺติกํ โคนิสาทิกํ คหปติํ สมฺมุติ’’นฺติ (มหาว. ๒๙๕) เอวํ วุตฺตา จตโสฺส กปฺปิยภูมิโย ทเสฺสตุํ ‘‘สมฺมุตุสฺสาวนนฺตา จา’’ติอาทิมาหฯ ยาสูติ กปฺปิยภูมีสุ (กงฺขา. อฎฺฐ. สนฺนิธิการกสิกฺขาปทวณฺณนา)ฯ
136. Idāni ‘‘anujānāmi, bhikkhave, catasso kappiyabhūmiyo ussāvanantikaṃ gonisādikaṃ gahapatiṃ sammuti’’nti (mahāva. 295) evaṃ vuttā catasso kappiyabhūmiyo dassetuṃ ‘‘sammutussāvanantā cā’’tiādimāha. Yāsūti kappiyabhūmīsu (kaṅkhā. aṭṭha. sannidhikārakasikkhāpadavaṇṇanā).
๑๓๗. อิทานิ ยตฺถ กปฺปิยกุฎิ อิจฺฉิตพฺพา, ตํ ทเสฺสตุํ ‘‘วาสตฺถายา’’ติอาทิมาหฯ วาสตฺถายาติ อิมินา โกฎฺฐาคารภตฺตสาลาเจติยฆรสมฺมุญฺชนีมาฬกาทิ ยํ ยํ อญฺญมฺปิ วาสตฺถาย กรียติ, ตตฺถ ตตฺถ กปฺปิยกุฎิกรณกิจฺจํ นตฺถีติ ทีปิตํ โหติฯ โภชนสาลา ปน เสนาสนเมว, ตสฺมา ตตฺถ กาตพฺพา เอวาติ วทนฺติฯ สงฺฆิเกเวกสนฺตเกติ เอตฺถ เอกสนฺตโก อุปสมฺปนฺนสนฺตโกว เวทิตโพฺพฯ
137. Idāni yattha kappiyakuṭi icchitabbā, taṃ dassetuṃ ‘‘vāsatthāyā’’tiādimāha. Vāsatthāyāti iminā koṭṭhāgārabhattasālācetiyagharasammuñjanīmāḷakādi yaṃ yaṃ aññampi vāsatthāya karīyati, tattha tattha kappiyakuṭikaraṇakiccaṃ natthīti dīpitaṃ hoti. Bhojanasālā pana senāsanameva, tasmā tattha kātabbā evāti vadanti. Saṅghikevekasantaketi ettha ekasantako upasampannasantakova veditabbo.
๑๓๘. อิทานิ กตฺตพฺพาการํ ทเสฺสตุํ ‘‘เคเห’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ สงฺฆสฺส วา เอกสฺส วา เคเห วิหาเร กริยมาเน เอวํ อีรยํ ‘‘กปฺปิยกุฎิํ กโรม, กปฺปิยกุฎิํ กโรมา’’ติ วา ‘‘กปฺปิยกุฎิ กปฺปิยกุฎี’’ติ วา วทโนฺต ปฐมิฎฺฐกตฺถมฺภาทิํ ฐเปยฺย, เอวํ กตา อุสฺสาวนนฺติกา นาม, เอวํ อุทาหริตวจนนฺติกาติ อโตฺถฯ
138. Idāni kattabbākāraṃ dassetuṃ ‘‘gehe’’tiādimāha. Tattha saṅghassa vā ekassa vā gehe vihāre kariyamāne evaṃ īrayaṃ ‘‘kappiyakuṭiṃ karoma, kappiyakuṭiṃ karomā’’ti vā ‘‘kappiyakuṭi kappiyakuṭī’’ti vā vadanto paṭhamiṭṭhakatthambhādiṃ ṭhapeyya, evaṃ katā ussāvanantikā nāma, evaṃ udāharitavacanantikāti attho.
๑๓๙. เยภุเยฺยน วา อปริกฺขิโตฺต, สกโลปิ วา อปริกฺขิโตฺต อาราโม ‘‘โคนิสาที’’ติ วุจฺจตีติ สมฺพโนฺธฯ เอตฺถ ปน เสนาสเนสุ ปริกฺขิเตฺตสุปิ อาราเม อปริกฺขิเตฺต กปฺปิยกุฎิกรณกิจฺจํ นตฺถิฯ สมฺมุติํ กโรเนฺตหิ กตํ ปริโยสิตํ ‘‘อิมํ วิหารํ อฑฺฒโยคํ ปาสาทํ หมฺมิยํ คุหํ ติณกุฎิกํ มณฺฑป’’นฺติ เตสํ นามํ คเหตฺวา ตสฺสา กุฎิยา หตฺถปาเส วา ฐตฺวา, ตสฺสา อโนฺต วา ปวิสิตฺวา วุตฺตนเยเนว ญตฺติทุติยกมฺมวาจาย สมฺมนฺนิตพฺพํฯ
139. Yebhuyyena vā aparikkhitto, sakalopi vā aparikkhitto ārāmo ‘‘gonisādī’’ti vuccatīti sambandho. Ettha pana senāsanesu parikkhittesupi ārāme aparikkhitte kappiyakuṭikaraṇakiccaṃ natthi. Sammutiṃ karontehi kataṃ pariyositaṃ ‘‘imaṃ vihāraṃ aḍḍhayogaṃ pāsādaṃ hammiyaṃ guhaṃ tiṇakuṭikaṃ maṇḍapa’’nti tesaṃ nāmaṃ gahetvā tassā kuṭiyā hatthapāse vā ṭhatvā, tassā anto vā pavisitvā vuttanayeneva ñattidutiyakammavācāya sammannitabbaṃ.
๑๔๐. ‘‘ภิกฺขุํ ฐเปตฺวา อเญฺญหี’’ติ วจนโต เสสสหธมฺมิเกหิปิ เทวมนุเสฺสหิปิ อเญฺญหิ กปฺปิยกุฎิยา อตฺถาย ทิโนฺน วา เตสํ สนฺตโก วา เคโห ‘‘คหปตี’’ติ มโต ญาโตติ อโตฺถ, สงฺฆสนฺตกญฺจ ภิกฺขุสนฺตกญฺจ ฐเปตฺวา สเพฺพสํ เคโห คหปตีติ อธิปฺปาโยฯ
140. ‘‘Bhikkhuṃ ṭhapetvā aññehī’’ti vacanato sesasahadhammikehipi devamanussehipi aññehi kappiyakuṭiyā atthāya dinno vā tesaṃ santako vā geho ‘‘gahapatī’’ti mato ñātoti attho, saṅghasantakañca bhikkhusantakañca ṭhapetvā sabbesaṃ geho gahapatīti adhippāyo.
๑๔๑. สปฺปิอาทีหิ มิสฺสิตนฺติ สปฺปิอาทีหิ ปญฺจหิ จ หลิทฺทิสิงฺคิเวราทิยาวชีวิเกน จาติ อโตฺถฯ วเชยฺย อโนฺตวุตฺถตฺตนฺติ เอตฺถ ยาวกาลิกยามกาลิกสงฺขาตํ ปุริมกาลิกทฺวยํ สงฺฆิกํ วา ภิกฺขุสฺส วา ภิกฺขุนิยา วา สนฺตกํ สยํ กปฺปิยกุฎิยา วุตฺถมฺปิ อิตเรหิ อกปฺปิยกุฎิยา วุเตฺถหิ มิสฺสิตํ อโนฺตวุตฺถภาวํ อาคเจฺฉยฺยาติ อโตฺถฯ
141.Sappiādīhimissitanti sappiādīhi pañcahi ca haliddisiṅgiverādiyāvajīvikena cāti attho. Vajeyya antovutthattanti ettha yāvakālikayāmakālikasaṅkhātaṃ purimakālikadvayaṃ saṅghikaṃ vā bhikkhussa vā bhikkhuniyā vā santakaṃ sayaṃ kappiyakuṭiyā vutthampi itarehi akappiyakuṭiyā vutthehi missitaṃ antovutthabhāvaṃ āgaccheyyāti attho.
๑๔๒. เตเหวาติ อกปฺปิยกุฎิยํ วุตฺถสปฺปิเตลาทีหิฯ สามปากตนฺติ สามํปกฺกภาวํ คจฺฉตีติ อโตฺถฯ
142.Tehevāti akappiyakuṭiyaṃ vutthasappitelādīhi. Sāmapākatanti sāmaṃpakkabhāvaṃ gacchatīti attho.
๑๔๓-๔. อิมา ปน กปฺปิยกุฎิโย ยทา ชหิตวตฺถุกา โหนฺติ, ตํ ทเสฺสตุํ ‘‘อุสฺสาวนนฺติกา’’ติอาทิมาหฯ สเจ ถเมฺภ วา ภิตฺติปาเท วา ปริวเตฺตนฺติ, โย โย ฐิโต, ตตฺถ ตตฺถ ปติฎฺฐาติ, เอเตนุปาเยน สเพฺพสุ ปริวเตฺตสุปิ น วิชหิตวตฺถุกาว โหตีติ อโตฺถฯ ปริกฺขิเตฺต โคนิสาทิ วิชหิตวตฺถุกาฯ เสสา ฉทนวิพฺภมาติ ฉทนวินาสา ชหิตวตฺถุกา โหนฺตีติ อธิปฺปาโยฯ ภูมิวินิจฺฉโยฯ
143-4. Imā pana kappiyakuṭiyo yadā jahitavatthukā honti, taṃ dassetuṃ ‘‘ussāvanantikā’’tiādimāha. Sace thambhe vā bhittipāde vā parivattenti, yo yo ṭhito, tattha tattha patiṭṭhāti, etenupāyena sabbesu parivattesupi na vijahitavatthukāva hotīti attho. Parikkhitte gonisādi vijahitavatthukā. Sesā chadanavibbhamāti chadanavināsā jahitavatthukā hontīti adhippāyo. Bhūmivinicchayo.
ภูมินิเทฺทสวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Bhūminiddesavaṇṇanā niṭṭhitā.