Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi |
๒. ภูตคามวโคฺค
2. Bhūtagāmavaggo
๑. ภูตคามสิกฺขาปท-อตฺถโยชนา
1. Bhūtagāmasikkhāpada-atthayojanā
๘๙. ทุติยวคฺคสฺส ปฐเม ตสฺสาติ เทวตายฯ อุกฺขิตฺตํ ผรสุนฺติ อุทฺธํ ขิตฺตํ กุฐาริํฯ นิคฺคเหตุนฺติ สณฺฐาตุํ, นิวเตฺตตุํ วาฯ จกฺขุวิสยาตีเตติ ปสาทจกฺขุสฺส โคจราติกฺกเนฺตฯ มหาราชสนฺติกาติ เวสฺสวณมหาราชสฺส สนฺติกาฯ ถนมูเลเยวาติ ถนสมีเปเยวฯ หิมวเนฺตติ หิมอุคฺคิรเณ วเน, หิมยุเตฺต วาฯ ตตฺถาติ หิมวเนฺต, เทวตาสนฺนิปาเต วาฯ รุกฺขธโมฺมติ รุกฺขสภาโวฯ รุกฺขธโมฺม จ นาม เฉทนเภทนาทีสุ รุกฺขานํ อเจตนตฺตา โกปสฺส อกรณํ, ตสฺมิํ รุกฺขธเมฺม ฐิตา เทวตา รุกฺขธเมฺม ฐิตา นาม, เฉทนเภทนาทีสุ รุกฺขสฺส วิย รุกฺขฎฺฐกเทวตาย อโกปนํ รุกฺขธเมฺม ฐิตา นามาติ อธิปฺปาโยฯ ตตฺถาติ ตาสุ สนฺนิปาตเทวตาสุฯ อิตีติ อิมสฺส อลภนสฺส, อิมสฺมิํ อลภเน วา, อาทีนวนฺติ สมฺพโนฺธฯ ภควโต จาติ จ-สโทฺท ‘‘ปุพฺพจริต’’นฺติ เอตฺถ โยเชตโพฺพฯ อิมญฺจ อาทีนวํ อทฺทส, ภควโต ปุพฺพจริตญฺจ อนุสฺสรีติ วากฺยสมฺปิณฺฑนวเสน โยชนา กาตพฺพาฯ เตนาติ ทสฺสนานุสฺสรณการเณนฯ อสฺสาติ เทวตายฯ สํวิชฺชติ ปิตา อสฺสาติ สปิติโก, ปุโตฺตฯ (ตาวาติ อติวิย, ปฎิสญฺจิกฺขนฺติยาติ สมฺพโนฺธ) ‘‘มริยาทํ พนฺธิสฺสตี’’ติ วตฺวา ตสฺส อตฺถํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘สิกฺขาปทํ ปญฺญเปสฺสตี’’ติฯ อิติ ปฎิสญฺจิกฺขนฺติยา อสฺสา เทวตาย เอตทโหสีติ โยชนาฯ
89. Dutiyavaggassa paṭhame tassāti devatāya. Ukkhittaṃ pharasunti uddhaṃ khittaṃ kuṭhāriṃ. Niggahetunti saṇṭhātuṃ, nivattetuṃ vā. Cakkhuvisayātīteti pasādacakkhussa gocarātikkante. Mahārājasantikāti vessavaṇamahārājassa santikā. Thanamūleyevāti thanasamīpeyeva. Himavanteti himauggiraṇe vane, himayutte vā. Tatthāti himavante, devatāsannipāte vā. Rukkhadhammoti rukkhasabhāvo. Rukkhadhammo ca nāma chedanabhedanādīsu rukkhānaṃ acetanattā kopassa akaraṇaṃ, tasmiṃ rukkhadhamme ṭhitā devatā rukkhadhamme ṭhitā nāma, chedanabhedanādīsu rukkhassa viya rukkhaṭṭhakadevatāya akopanaṃ rukkhadhamme ṭhitā nāmāti adhippāyo. Tatthāti tāsu sannipātadevatāsu. Itīti imassa alabhanassa, imasmiṃ alabhane vā, ādīnavanti sambandho. Bhagavato cāti ca-saddo ‘‘pubbacarita’’nti ettha yojetabbo. Imañca ādīnavaṃ addasa, bhagavato pubbacaritañca anussarīti vākyasampiṇḍanavasena yojanā kātabbā. Tenāti dassanānussaraṇakāraṇena. Assāti devatāya. Saṃvijjati pitā assāti sapitiko, putto. (Tāvāti ativiya, paṭisañcikkhantiyāti sambandho) ‘‘mariyādaṃ bandhissatī’’ti vatvā tassa atthaṃ dassento āha ‘‘sikkhāpadaṃ paññapessatī’’ti. Iti paṭisañcikkhantiyā assā devatāya etadahosīti yojanā.
โยติ โย โกจิ ชโนฯ เวติ เอกเนฺตนฯ อุปฺปติตนฺติ อุปฺปชฺชนวเสน อตฺตโน อุปริ ปติตํฯ ภนฺตนฺติ ภมนฺตํ ธาวนฺตํ, วารเยติ นิวาเรยฺย นิคฺคเณฺหยฺยาติ อโตฺถฯ ตนฺติ ชนํฯ อยํ ปเนตฺถ โยชนา – สารถิ ภนฺตํ รถํ วารเย อิว, ตถา โย เว อุปฺปติตํ โกธํ วารเย, ตํ อหํ สารถิํ อิติ พฺรูมิฯ อิตโร โกธนิวารกโต อโญฺญ ราชอุปราชาทีนํ สารถิภูโต ชโน รสฺมิคฺคาโห รชฺชุคฺคาโห นามาติฯ
Yoti yo koci jano. Veti ekantena. Uppatitanti uppajjanavasena attano upari patitaṃ. Bhantanti bhamantaṃ dhāvantaṃ, vārayeti nivāreyya niggaṇheyyāti attho. Tanti janaṃ. Ayaṃ panettha yojanā – sārathi bhantaṃ rathaṃ vāraye iva, tathā yo ve uppatitaṃ kodhaṃ vāraye, taṃ ahaṃ sārathiṃ iti brūmi. Itaro kodhanivārakato añño rājauparājādīnaṃ sārathibhūto jano rasmiggāho rajjuggāho nāmāti.
ทุติยคาถาย เวโชฺช วิสฎํ วิตฺถตํ สปฺปวิสํ สปฺปสฺส อาสีวิสสฺส วิสํ ครฬํ โอสเธหิ เภสเชฺชน, มเนฺตน จ วิเนติ อิว, ตถา โย ภิกฺขเว อุปฺปติตํ โกธํ เมตฺตาย วิเนติ, โส ภิกฺขุ อุรโค ภุชโค ปุราณํ ปุเร ภวํ ชิณฺณํ ปุราณตฺตา ชิณฺณํ ตจํ ชหาติ อิว, ตถา โอรปารํ อปารสงฺขาตํ ปโญฺจรมฺภาคิยสํโยชนํ ชหาตีติ โยชนา กาตพฺพาฯ
Dutiyagāthāya vejjo visaṭaṃ vitthataṃ sappavisaṃ sappassa āsīvisassa visaṃ garaḷaṃ osadhehi bhesajjena, mantena ca vineti iva, tathā yo bhikkhave uppatitaṃ kodhaṃ mettāya vineti, so bhikkhu urago bhujago purāṇaṃ pure bhavaṃ jiṇṇaṃ purāṇattā jiṇṇaṃ tacaṃ jahāti iva, tathā orapāraṃ apārasaṅkhātaṃ pañcorambhāgiyasaṃyojanaṃ jahātīti yojanā kātabbā.
ตตฺราติ ทฺวีสุ คาถาสุฯ วตฺถุ ปน วินเย อารูฬฺหนฺติ โยชนาฯ อถาติ ปจฺฉาฯ ยสฺส เทวปุตฺตสฺสาติ เยน เทวปุเตฺตนฯ ปริคฺคโหติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา คหิโตฯ โสติ เทวปุโตฺตฯ ตโตติ อุปคมนโตฯ ยทา โหติ, ตทาติ โยชนาฯ มเหสกฺขเทวตาสูติ มหาปริวาราสุ เทวตาสุ, มหาเตชาสุ วาฯ ปฎิกฺกมนฺตีติ อเปนฺติฯ เทวตา ยมฺปิ ปญฺหํ ปุจฺฉนฺตีติ โยชนาฯ ตเตฺถวาติ อตฺตโน วสนฎฺฐาเนเยวฯ อุปฎฺฐานนฺติ อุปฎฺฐานตฺถาย, สมฺปทานเตฺถ เจตํ อุปโยควจนํฯ อถ วา อุปคนฺตฺวา ติฎฺฐติ เอตฺถาติ อุปฎฺฐานํ, ภควโต สมีปฎฺฐานํ, ตํ อาคนฺตฺวาติ อโตฺถฯ นนฺติ ตํ, อยเมว วา ปาโฐฯ
Tatrāti dvīsu gāthāsu. Vatthu pana vinaye ārūḷhanti yojanā. Athāti pacchā. Yassa devaputtassāti yena devaputtena. Pariggahoti paricchinditvā gahito. Soti devaputto. Tatoti upagamanato. Yadā hoti, tadāti yojanā. Mahesakkhadevatāsūti mahāparivārāsu devatāsu, mahātejāsu vā. Paṭikkamantīti apenti. Devatā yampi pañhaṃ pucchantīti yojanā. Tatthevāti attano vasanaṭṭhāneyeva. Upaṭṭhānanti upaṭṭhānatthāya, sampadānatthe cetaṃ upayogavacanaṃ. Atha vā upagantvā tiṭṭhati etthāti upaṭṭhānaṃ, bhagavato samīpaṭṭhānaṃ, taṃ āgantvāti attho. Nanti taṃ, ayameva vā pāṭho.
๙๐. ‘‘ภวนฺตี’’ติ อิมินา วิรูเฬฺห มูเล นีลภาวํ อาปชฺชิตฺวา วฑฺฒมานเก ตรุณรุกฺขคจฺฉาทิเก ทเสฺสติฯ ‘‘อหุวตฺถุ’’นฺติ อิมินา ปน วฑฺฒิตฺวา ฐิเต มหนฺตรุกฺขคจฺฉาทิเก ทเสฺสติฯ ‘‘อหุวตฺถุ’’นฺติ จ หิยฺยตฺตนิสงฺขาตาย ตฺถุํ-วิภตฺติยา หู-ธาตุสฺส อูการสฺส อุวาเทโส โหติฯ โปตฺถเกสุ ปน ‘‘อหุวตี’’ติ ปาโฐ ทิสฺสติ, โส อปาโฐติ ทฎฺฐโพฺพฯ ‘‘ชายนฺตี’’ติ อิมินา ภู-ธาตุสฺส สตฺตตฺถภาวํ ทเสฺสติ , ‘‘วฑฺฒนฺตี’’ติ อิมินา วฑฺฒนตฺถภาวํฯ เอตนฺติ ‘‘ภูตคาโม’’ติ นามํฯ ปียเต ยถากามํ ปริภุญฺชียเต, ปาตพฺพํ ปริภุญฺชิตพฺพนฺติ วา ปาตพฺยํ, ปาสโทฺท ยถากามปริภุญฺชนโตฺถฯ เตนาห – ‘‘เฉทนเภทนาทีหิ ยถารุจิ ปริภุญฺชิตพฺพตาติ อโตฺถ’’ติฯ
90. ‘‘Bhavantī’’ti iminā virūḷhe mūle nīlabhāvaṃ āpajjitvā vaḍḍhamānake taruṇarukkhagacchādike dasseti. ‘‘Ahuvatthu’’nti iminā pana vaḍḍhitvā ṭhite mahantarukkhagacchādike dasseti. ‘‘Ahuvatthu’’nti ca hiyyattanisaṅkhātāya tthuṃ-vibhattiyā hū-dhātussa ūkārassa uvādeso hoti. Potthakesu pana ‘‘ahuvatī’’ti pāṭho dissati, so apāṭhoti daṭṭhabbo. ‘‘Jāyantī’’ti iminā bhū-dhātussa sattatthabhāvaṃ dasseti , ‘‘vaḍḍhantī’’ti iminā vaḍḍhanatthabhāvaṃ. Etanti ‘‘bhūtagāmo’’ti nāmaṃ. Pīyate yathākāmaṃ paribhuñjīyate, pātabbaṃ paribhuñjitabbanti vā pātabyaṃ, pāsaddo yathākāmaparibhuñjanattho. Tenāha – ‘‘chedanabhedanādīhi yathāruci paribhuñjitabbatāti attho’’ti.
๙๑. ‘‘อิทานี’’ติ ปทํ ‘‘อาหา’’ติ ปเท กาลสตฺตมีฯ ยสฺมินฺติ พีเชฯ ตนฺติ พีชํฯ ปญฺจ พีชชาตานีติ เอตฺถ ชาตสทฺทสฺส ตพฺภาวตฺถตํ สนฺธาย อฎฺฐกถาสุ เอวํ วุตฺตํฯ ตพฺภาวตฺถสฺส ‘‘มูเล ชายนฺตี’’ติ อิมาย ปาฬิยา อสํสนฺทนตํ สนฺธาย วุตฺตํ สงฺคหกาเรน ‘‘น สเมนฺตี’’ติฯ อฎฺฐกถาจริยานํ มเตน สติ ชาตสทฺทสฺส ตพฺภาวตฺถภาเว ‘‘มูเล ชายนฺตี’’ติอาทีสุ มูเล มูลานิ ชายนฺตีติ โทโส ภเวยฺยาติ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘น หี’’ติอาทิฯ หีติ สจฺจํ, ยสฺมา วาฯ ตานีติ รุกฺขาทีนิฯ ตสฺสาติ ‘‘ภูตคาโม นาม ปญฺจ พีชชาตานี’’ติ ปทสฺสฯ เอตนฺติ ‘‘พีชชาตานี’’ติ นามํฯ พีเชสุ ชาตานิ พีชชาตานีติ วุเตฺต ‘‘มูเล ชายนฺตี’’ติอาทินา สเมติฯ เอเตนาติ ‘‘พีชโต’’ติอาทินา สงฺคโหติ สมฺพโนฺธฯ
91. ‘‘Idānī’’ti padaṃ ‘‘āhā’’ti pade kālasattamī. Yasminti bīje. Tanti bījaṃ. Pañca bījajātānīti ettha jātasaddassa tabbhāvatthataṃ sandhāya aṭṭhakathāsu evaṃ vuttaṃ. Tabbhāvatthassa ‘‘mūle jāyantī’’ti imāya pāḷiyā asaṃsandanataṃ sandhāya vuttaṃ saṅgahakārena ‘‘na samentī’’ti. Aṭṭhakathācariyānaṃ matena sati jātasaddassa tabbhāvatthabhāve ‘‘mūle jāyantī’’tiādīsu mūle mūlāni jāyantīti doso bhaveyyāti manasi katvā āha ‘‘na hī’’tiādi. Hīti saccaṃ, yasmā vā. Tānīti rukkhādīni. Tassāti ‘‘bhūtagāmo nāma pañca bījajātānī’’ti padassa. Etanti ‘‘bījajātānī’’ti nāmaṃ. Bījesu jātāni bījajātānīti vutte ‘‘mūle jāyantī’’tiādinā sameti. Etenāti ‘‘bījato’’tiādinā saṅgahoti sambandho.
‘‘เยหี’’ติ ปทํ ‘‘ชาตตฺตา’’ติ ปเท อปาทานํ, เหตุ วา ‘‘วุตฺตานี’’ติ ปเท กรณํ, กตฺตา วาฯ เตสนฺติ พีชานํฯ รุกฺขาทีนํ วิรุหนํ ชเนตีติ พีชํฯ ‘‘พีชโต’’ติอาทินา การิโยปจาเรน การณสฺส ทสฺสิตตฺตา การณูปจารํ ปทีเปติฯ อญฺญานิปิ ยานิ วา ปน คจฺฉวลฺลิรุกฺขาทีนิ อตฺถิ สํวิชฺชนฺติ, ตานิ คจฺฉวลฺลิรุกฺขาทีนิ ชายนฺติ สญฺชายนฺตีติ โยชนาฯ ตานีติ คจฺฉวลฺลิรุกฺขาทีนิ ฯ ตญฺจ มูลํ, ปาฬิยํ วุตฺตหลิทฺทาทิ จ อตฺถิ, สพฺพมฺปิ เอตํ มูลพีชํ นามาติ สมฺพโนฺธฯ เอตฺถาติ พีเชสุ, ขนฺธพีเชสุ วาฯ
‘‘Yehī’’ti padaṃ ‘‘jātattā’’ti pade apādānaṃ, hetu vā ‘‘vuttānī’’ti pade karaṇaṃ, kattā vā. Tesanti bījānaṃ. Rukkhādīnaṃ viruhanaṃ janetīti bījaṃ. ‘‘Bījato’’tiādinā kāriyopacārena kāraṇassa dassitattā kāraṇūpacāraṃ padīpeti. Aññānipi yāni vā pana gacchavallirukkhādīni atthi saṃvijjanti, tāni gacchavallirukkhādīni jāyanti sañjāyantīti yojanā. Tānīti gacchavallirukkhādīni . Tañca mūlaṃ, pāḷiyaṃ vuttahaliddādi ca atthi, sabbampi etaṃ mūlabījaṃ nāmāti sambandho. Etthāti bījesu, khandhabījesu vā.
๙๒. สญฺญาวเสนาติ ‘‘พีช’’นฺติ สญฺญาวเสนฯ ‘‘ตตฺถา’’ติ ปทํ ‘‘เวทิตโพฺพ’’ติ ปเท อาธาโรฯ ‘‘ยถา’’ติอาทินา การโณปจาเรน การิยสฺส วุตฺตตฺตา ผลูปจารํ ทเสฺสติฯ ยํ พีชํ วุตฺตํ, ตํ ทุกฺกฎวตฺถูติ โยชนาฯ ยเทตํ อาทิปทนฺติ โยเชตพฺพํฯ เตนาติ อาทิปเทนฯ รวียติ ภควตา กถียตีติ รุตํ, ปาฬิ, ตสฺส อนุรูปํ ยถารุตํ, ปาฬิอนติกฺกนฺตนฺติ อโตฺถฯ
92.Saññāvasenāti ‘‘bīja’’nti saññāvasena. ‘‘Tatthā’’ti padaṃ ‘‘veditabbo’’ti pade ādhāro. ‘‘Yathā’’tiādinā kāraṇopacārena kāriyassa vuttattā phalūpacāraṃ dasseti. Yaṃ bījaṃ vuttaṃ, taṃ dukkaṭavatthūti yojanā. Yadetaṃ ādipadanti yojetabbaṃ. Tenāti ādipadena. Ravīyati bhagavatā kathīyatīti rutaṃ, pāḷi, tassa anurūpaṃ yathārutaṃ, pāḷianatikkantanti attho.
เอตฺถาติ ‘‘พีเช พีชสญฺญี’’ติอาทิปเท, อิมสฺมิํ สิกฺขาปเท วาฯ อุทเก ฐาติ ปวตฺตตีติ อุทกโฎฺฐ, เอวํ ถลโฎฺฐปิฯ ตตฺถาติ อุทกฎฺฐถลเฎฺฐสุฯ สาสปสฺส มตฺตํ ปมาณํ อสฺส เสวาลสฺสาติ สาสปมตฺติโกฯ ติลสฺส พีชปมาณํ อสฺส เสวาลสฺสาติ ติลพีชโกฯ ปมาณเตฺถ โกฯ อาทิสเทฺทน สงฺขปณกาทโย เสวาเล สงฺคณฺหาติฯ ตตฺถ ติลพีชปมาโณ ชลสณฺฐิโต นีลาทิวณฺณยุโตฺต เสวาโล ติลพีชํ นาม, สปโตฺต อปฺปกโณฺฑ อุกฺขลิปิธานาทิปมาโณ สมูโล เอโก เสวาลวิเสโส สโงฺข นาม, ภมรสณฺฐาโน นีลวโณฺณ เอโก เสวาลวิเสโส ปณโก นามฯ อุทกํ เสวตีติ เสวาโลฯ ตตฺถาติ เสวาเลสุฯ โยติ เสวาโลฯ ปติฎฺฐิตํ เสวาลนฺติ สมฺพโนฺธฯ ยตฺถ กตฺถจีติ มูเล วา นเฬ วา ปเตฺต วาฯ อุทฺธริตฺวาติ อุปฺปาเฎตฺวาฯ ‘‘หเตฺถหี’’ติ ปทํ ‘‘วิยูหิตฺวา’’ติ ปเท กรณํฯ หีติ สจฺจํ, ยสฺมา วาฯ ตสฺสาติ เสวาลสฺสฯ เอตฺตาวตาติ อิโต จิโต จ วิยูหนมเตฺตนฯ โย เสวาโล นิกฺขมติ, ตํ เสวาลนฺติ โยชนาฯ ปริสฺสาวนนฺตเรนาติ ปริสฺสาวนฉิเทฺทนฯ อุปฺปลานิ อสฺมิํ คเจฺฉติ อุปฺปลินีฯ ปทุมานิ อสฺมิํ คเจฺฉติ ปทุมินี, อิโน, อิตฺถิลิงฺคโชตโก อีฯ ตเตฺถวาติ อุทเกเยวฯ ตานีติ วลฺลีติณานิฯ หีติ สจฺจํ, ยสฺมา วาฯ อนนฺตโกติ สาสปมตฺติโก เสวาโลฯ โส หิ นตฺถิ อตฺตโต อโนฺต ลามโก เสวาโล เอตสฺสาติ กตฺวา ‘‘อนนฺตโก’’ติ วุจฺจติฯ อตฺตนาเยว หิ สุขุโม, ตโต สุขุโม เสวาโล นตฺถีติ อธิปฺปาโยฯ ตตฺถาติ ทุกฺกฎวตฺถุภาเวฯ ตมฺปีติ ‘‘สมฺปุณฺณภูตคามํ น โหตี’’ติ วจนมฺปิฯ ปิสโทฺท มหาปจฺจริอาทิอฎฺฐกถาจริยานํ วจนาเปโกฺขฯ หีติ สจฺจํ, ยสฺมา วาฯ น อาคโต, ตสฺมา น สเมตีติ โยชนาฯ อถาติ ตสฺมิํ อนาคเตฯ เอตนฺติ อนนฺตกเสวาลาทิํฯ คจฺฉิสฺสตีติ วเทยฺยาติ สมฺพโนฺธฯ ตมฺปีติ ‘‘คจฺฉิสฺสตี’’ติ วจนมฺปิฯ ปิสโทฺท ปุริมฎฺฐกถาจริยานํ วจนาเปโกฺขฯ
Etthāti ‘‘bīje bījasaññī’’tiādipade, imasmiṃ sikkhāpade vā. Udake ṭhāti pavattatīti udakaṭṭho, evaṃ thalaṭṭhopi. Tatthāti udakaṭṭhathalaṭṭhesu. Sāsapassa mattaṃ pamāṇaṃ assa sevālassāti sāsapamattiko. Tilassa bījapamāṇaṃ assa sevālassāti tilabījako. Pamāṇatthe ko. Ādisaddena saṅkhapaṇakādayo sevāle saṅgaṇhāti. Tattha tilabījapamāṇo jalasaṇṭhito nīlādivaṇṇayutto sevālo tilabījaṃ nāma, sapatto appakaṇḍo ukkhalipidhānādipamāṇo samūlo eko sevālaviseso saṅkho nāma, bhamarasaṇṭhāno nīlavaṇṇo eko sevālaviseso paṇako nāma. Udakaṃ sevatīti sevālo. Tatthāti sevālesu. Yoti sevālo. Patiṭṭhitaṃ sevālanti sambandho. Yattha katthacīti mūle vā naḷe vā patte vā. Uddharitvāti uppāṭetvā. ‘‘Hatthehī’’ti padaṃ ‘‘viyūhitvā’’ti pade karaṇaṃ. Hīti saccaṃ, yasmā vā. Tassāti sevālassa. Ettāvatāti ito cito ca viyūhanamattena. Yo sevālo nikkhamati, taṃ sevālanti yojanā. Parissāvanantarenāti parissāvanachiddena. Uppalāni asmiṃ gaccheti uppalinī. Padumāni asmiṃ gaccheti paduminī, ino, itthiliṅgajotako ī. Tatthevāti udakeyeva. Tānīti vallītiṇāni. Hīti saccaṃ, yasmā vā. Anantakoti sāsapamattiko sevālo. So hi natthi attato anto lāmako sevālo etassāti katvā ‘‘anantako’’ti vuccati. Attanāyeva hi sukhumo, tato sukhumo sevālo natthīti adhippāyo. Tatthāti dukkaṭavatthubhāve. Tampīti ‘‘sampuṇṇabhūtagāmaṃ na hotī’’ti vacanampi. Pisaddo mahāpaccariādiaṭṭhakathācariyānaṃ vacanāpekkho. Hīti saccaṃ, yasmā vā. Na āgato, tasmā na sametīti yojanā. Athāti tasmiṃ anāgate. Etanti anantakasevālādiṃ. Gacchissatīti vadeyyāti sambandho. Tampīti ‘‘gacchissatī’’ti vacanampi. Pisaddo purimaṭṭhakathācariyānaṃ vacanāpekkho.
อภูตคามมูลตฺตา ตาทิสสฺส พีชคามสฺสาติ เอตฺถ พีชคาโม ติวิโธ โหติ – โย สยํ ภูตคามโต หุตฺวา อญฺญมฺปิ ภูตคามํ ชเนติ, อมฺพฎฺฐิอาทิโกฯ โย ปน สยํ ภูตคามโต หุตฺวา อญฺญํ ปน ภูตคามํ น ชเนติ, ตาลนาฬิเกราทิขาณุฯ โย ปน สยมฺปิ ภูตคามโต อหุตฺวา อญฺญมฺปิ ภูตคามํ น ชเนติฯ ปานียฆฎาทีนํ พหิ เสวาโลติฯ ภูตคาโม ปน จตุพฺพิโธ โหติ – โย สยํ พีชคามโต หุตฺวา อญฺญมฺปิ พีชคามํ ชเนติ, เอตรหิ อมฺพรุกฺขาทิโกฯ โย ปน สยํ พีชคามโต อหุตฺวาว อญฺญํ พีชคามํ ชเนติ, อาทิกปฺปกาเล อมฺพรุกฺขาทิโกฯ โย ปน สยํ พีชคามโต หุตฺวา อญฺญํ ปน พีชคามํ น ชเนติ, นีลวโณฺณ ผลิตกทลีรุกฺขาทิโกฯ โย ปน สยมฺปิ พีชคามโต อหุตฺวา อญฺญมฺปิ พีชคามํ น ชเนติ, อิธ วุโตฺต อนนฺตกเสวาลาทิโกติฯ ตตฺถ จตุตฺถํ ภูตคามํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อภูตคามมูลกตฺตา ตาทิสสฺส พีชสฺสา’’ติฯ อยํ ปน ตติยพีชคามสฺส จ จตุตฺถภูตคามสฺส จ วิเสโส – ตติยพีชคาเม มูลปณฺณานิ น ปญฺญายนฺติ, จตุตฺถภูตคาเม ตานิ ปญฺญายนฺตีติฯ มูลปณฺณานํ อปญฺญายนตฺตา พีชคาโมติ วุโตฺต, เตสํ ปญฺญายนตฺตา ภูตคาโมติ วุโตฺตฯ อิตรถา หิ วิโรโธ ภเวยฺยาติฯ อตฺตโน วาเท ปาจิตฺติยภาวโต ครุกํ, มหาปจฺจริอาทีนํ วาเท ทุกฺกฎมตฺตภาวโต ลหุกํฯ เอตนฺติ ฐานํฯ
Abhūtagāmamūlattātādisassa bījagāmassāti ettha bījagāmo tividho hoti – yo sayaṃ bhūtagāmato hutvā aññampi bhūtagāmaṃ janeti, ambaṭṭhiādiko. Yo pana sayaṃ bhūtagāmato hutvā aññaṃ pana bhūtagāmaṃ na janeti, tālanāḷikerādikhāṇu. Yo pana sayampi bhūtagāmato ahutvā aññampi bhūtagāmaṃ na janeti. Pānīyaghaṭādīnaṃ bahi sevāloti. Bhūtagāmo pana catubbidho hoti – yo sayaṃ bījagāmato hutvā aññampi bījagāmaṃ janeti, etarahi ambarukkhādiko. Yo pana sayaṃ bījagāmato ahutvāva aññaṃ bījagāmaṃ janeti, ādikappakāle ambarukkhādiko. Yo pana sayaṃ bījagāmato hutvā aññaṃ pana bījagāmaṃ na janeti, nīlavaṇṇo phalitakadalīrukkhādiko. Yo pana sayampi bījagāmato ahutvā aññampi bījagāmaṃ na janeti, idha vutto anantakasevālādikoti. Tattha catutthaṃ bhūtagāmaṃ sandhāya vuttaṃ ‘‘abhūtagāmamūlakattā tādisassa bījassā’’ti. Ayaṃ pana tatiyabījagāmassa ca catutthabhūtagāmassa ca viseso – tatiyabījagāme mūlapaṇṇāni na paññāyanti, catutthabhūtagāme tāni paññāyantīti. Mūlapaṇṇānaṃ apaññāyanattā bījagāmoti vutto, tesaṃ paññāyanattā bhūtagāmoti vutto. Itarathā hi virodho bhaveyyāti. Attano vāde pācittiyabhāvato garukaṃ, mahāpaccariādīnaṃ vāde dukkaṭamattabhāvato lahukaṃ. Etanti ṭhānaṃ.
เอวํ อุทกฎฺฐํ ทเสฺสตฺวา ถลฎฺฐํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘ถลเฎฺฐ’’ติอาทิฯ ถลเฎฺฐ วินิจฺฉโย เอวํ เวทิตโพฺพติ โยชนาฯ ตตฺถาติ หริตขาณูสุฯ อุทฺธํ วฑฺฒตีติ นวสาขานิคฺคมเนน ฉินฺนโต อุปริ วฑฺฒติฯ โสติ ขาณุฯ ผลิตาย กทลิยา ขาณุ พีชคาเมน สงฺคหิโตติ โยชนาฯ ผลํ สญฺชาตํ เอติสฺสาติ ผลิตาฯ ตถาติ ‘‘ภูตคาเมเนว สงฺคหิตา’’ติ ปทานิ อากฑฺฒติฯ ยทาติ ยสฺมิํ กาเลฯ รตนปฺปมาณาปีติ หตฺถปฺปมาณาปิฯ อถาติ อปาทานโตฺถ, ตโต ราสิกรณโต อญฺญนฺติ อโตฺถฯ ภูมิยํ นิขณนฺตีติ สมฺพโนฺธฯ ‘‘มูเลสุ เจว ปเณฺณสุ จา’’ติ เอตฺถ จสโทฺท สมุจฺจยโตฺถว, น วิกปฺปโตฺถติ อาห ‘‘มูลมเตฺตสุ ปนา’’ติอาทิฯ
Evaṃ udakaṭṭhaṃ dassetvā thalaṭṭhaṃ dassento āha ‘‘thalaṭṭhe’’tiādi. Thalaṭṭhe vinicchayo evaṃ veditabboti yojanā. Tatthāti haritakhāṇūsu. Uddhaṃ vaḍḍhatīti navasākhāniggamanena chinnato upari vaḍḍhati. Soti khāṇu. Phalitāya kadaliyā khāṇu bījagāmena saṅgahitoti yojanā. Phalaṃ sañjātaṃ etissāti phalitā. Tathāti ‘‘bhūtagāmeneva saṅgahitā’’ti padāni ākaḍḍhati. Yadāti yasmiṃ kāle. Ratanappamāṇāpīti hatthappamāṇāpi. Athāti apādānattho, tato rāsikaraṇato aññanti attho. Bhūmiyaṃ nikhaṇantīti sambandho. ‘‘Mūlesu ceva paṇṇesu cā’’ti ettha casaddo samuccayatthova, na vikappatthoti āha ‘‘mūlamattesu panā’’tiādi.
พีชานีติ มูลาทิพีชานิฯ ฐปิตานิ โหนฺตีติ สมฺพโนฺธฯ ‘‘อุปรี’’ติ ปเทน เหฎฺฐา มูลานิ จาติ อตฺถํ นเยน ญาเปติฯ น องฺกุเร นิคฺคตมเตฺตเยว , อถ โข หริเต นีลปณฺณวเณฺณ ชาเตเยว ภูตคามสงฺคโห กาตโพฺพติ อาห ‘‘หริเต’’ติอาทิฯ ตาลฎฺฐีนํ มูลนฺติ สมฺพโนฺธฯ ทนฺตสูจิ วิยาติ หตฺถิทนฺตสูจิ วิยฯ ยถา อสมฺปุณฺณภูตคาโม ตติโย โกฎฺฐาโส น อาคโต, น เอวํ อมูลกภูตคาโมฯ โส ปน อาคโตเยวาติ อาห ‘‘อมูลกภูตคาเม’’ติฯ อมูลิกลตา วิย อมูลกภูตคาเม สงฺคหํ คจฺฉตีติ อโตฺถฯ
Bījānīti mūlādibījāni. Ṭhapitāni hontīti sambandho. ‘‘Uparī’’ti padena heṭṭhā mūlāni cāti atthaṃ nayena ñāpeti. Na aṅkure niggatamatteyeva , atha kho harite nīlapaṇṇavaṇṇe jāteyeva bhūtagāmasaṅgaho kātabboti āha ‘‘harite’’tiādi. Tālaṭṭhīnaṃ mūlanti sambandho. Dantasūci viyāti hatthidantasūci viya. Yathā asampuṇṇabhūtagāmo tatiyo koṭṭhāso na āgato, na evaṃ amūlakabhūtagāmo. So pana āgatoyevāti āha ‘‘amūlakabhūtagāme’’ti. Amūlikalatā viya amūlakabhūtagāme saṅgahaṃ gacchatīti attho.
วนฺทากาติ รุกฺขาทนีฯ สา หิ สยํ รุกฺขํ นิสฺสาย ชายนฺตีปิ อตฺตโน นิสฺสยานํ รุกฺขานํ อทนตฺตา ภกฺขนตฺตา วทียติ ถุตียตีติ ‘‘วนฺทากา’’ติ วุจฺจติฯ อญฺญา วาติ วนฺทากาย อญฺญา วาฯ ตนฺติ วนฺทากาทิํฯ ตโตติ รุกฺขโตฯ วนนฺติ ขุทฺทโก คโจฺฉฯ ปคุโมฺพติ มหาคโจฺฉฯ ทณฺฑโกติ รุโกฺข ทณฺฑโยคโตฯ ตสฺสาปีติ อมูลิกลตายปิฯ อยเมว วินิจฺฉโยติ วนฺทากาทิกสฺส วินิจฺฉโย วิย อยํ วินิจฺฉโย ทฎฺฐโพฺพติ โยชนาฯ ‘‘เทฺว ตีณิ ปตฺตานี’’ติ วุตฺตตฺตา เอกปโตฺต สญฺชายโนฺตปิ อคฺคพีชสงฺคหํ คจฺฉตีติ อโตฺถฯ ‘‘อนุปสมฺปเนฺนนา’’ติ ปทํ ‘‘ลิตฺตสฺสา’’ติ ปเท กตฺตาฯ นิทาฆสมเยติ คิมฺหกาเลฯ อโพฺพหาริโกติ อาปตฺติยา องฺคนฺติ น โวหริตโพฺพฯ โวหริตุํ น อรหตีติ อโตฺถฯ เอตนฺติ อโพฺพหาริกตํ, ‘‘สเจ…เป.… ปมชฺชิตพฺพา’’ติ วจนํ วาฯ
Vandākāti rukkhādanī. Sā hi sayaṃ rukkhaṃ nissāya jāyantīpi attano nissayānaṃ rukkhānaṃ adanattā bhakkhanattā vadīyati thutīyatīti ‘‘vandākā’’ti vuccati. Aññā vāti vandākāya aññā vā. Tanti vandākādiṃ. Tatoti rukkhato. Vananti khuddako gaccho. Pagumboti mahāgaccho. Daṇḍakoti rukkho daṇḍayogato. Tassāpīti amūlikalatāyapi. Ayameva vinicchayoti vandākādikassa vinicchayo viya ayaṃ vinicchayo daṭṭhabboti yojanā. ‘‘Dve tīṇi pattānī’’ti vuttattā ekapatto sañjāyantopi aggabījasaṅgahaṃ gacchatīti attho. ‘‘Anupasampannenā’’ti padaṃ ‘‘littassā’’ti pade kattā. Nidāghasamayeti gimhakāle. Abbohārikoti āpattiyā aṅganti na voharitabbo. Voharituṃ na arahatīti attho. Etanti abbohārikataṃ, ‘‘sace…pe… pamajjitabbā’’ti vacanaṃ vā.
อหิํ สปฺปํ ฉาเทตีติ อหิจฺฉตฺตํ, ตํเยว อหิจฺฉตฺตกํฯ ยถากถญฺจิ หิ พฺยุปฺปตฺติ, รุฬฺหิยา อตฺถวินิจฺฉโยฯ ตสฺมาติ ตโต วิโกปนโตฯ ตตฺถาติ อหิจฺฉตฺตเกฯ เหฎฺฐา ‘‘อุทกปปฺปฎโก’’ติ วตฺวา อิธ ‘‘รุกฺขปปฺปฎิกายปี’’ติ วุตฺตตฺตา ปปฺปฎกสโทฺท ทฺวิลิโงฺคติ ทฎฺฐโพฺพฯ ตนฺติ ปปฺปฎิกํฯ ฐิตํ นิยฺยาสนฺติ สมฺพโนฺธฯ เอวํ ‘‘ลคฺค’’นฺติ เอตฺถาปิฯ หตฺถกุกฺกุเจฺจนาติ หตฺถโลเลนฯ ‘‘ฉินฺทนฺตสฺสาปี’’ติ ปเท เหตุฯ
Ahiṃ sappaṃ chādetīti ahicchattaṃ, taṃyeva ahicchattakaṃ. Yathākathañci hi byuppatti, ruḷhiyā atthavinicchayo. Tasmāti tato vikopanato. Tatthāti ahicchattake. Heṭṭhā ‘‘udakapappaṭako’’ti vatvā idha ‘‘rukkhapappaṭikāyapī’’ti vuttattā pappaṭakasaddo dviliṅgoti daṭṭhabbo. Tanti pappaṭikaṃ. Ṭhitaṃ niyyāsanti sambandho. Evaṃ ‘‘lagga’’nti etthāpi. Hatthakukkuccenāti hatthalolena. ‘‘Chindantassāpī’’ti pade hetu.
วาสตฺถิเกนาติ วาสํ อิจฺฉเนฺตนฯ ‘‘โอจินาเปตพฺพา’’ติ ปเท กตฺตาฯ อุปฺปาเฎเนฺตหีติ อุทฺธรเนฺตหิฯ เตสนฺติ สามเณรานํฯ สาขํ คหิตนฺติ สมฺพโนฺธฯ ฐปิตสฺส สิงฺคีเวรสฺสาติ โยชนาฯ
Vāsatthikenāti vāsaṃ icchantena. ‘‘Ocināpetabbā’’ti pade kattā. Uppāṭentehīti uddharantehi. Tesanti sāmaṇerānaṃ. Sākhaṃ gahitanti sambandho. Ṭhapitassa siṅgīverassāti yojanā.
ฉิชฺชนกนฺติ ฉิชฺชนยุตฺตํ, ฉิชฺชนารหนฺติ อโตฺถฯ ‘‘จงฺกมิตฎฺฐานํ ทเสฺสสฺสามี’’ติ อิมินา วตฺตสีเสน จงฺกมนํ วฎฺฎตีติ ทเสฺสติฯ ‘‘ภิชฺชตี’’ติ อิมินา อภิชฺชมาเน คณฺฐิปิ กาตโพฺพติ ทเสฺสติฯ ทารุมกฺกฎกนฺติ มกฺกฎสฺส หโตฺถ มกฺกโฎ อุปจาเรน, มกฺกโฎ วิยาติ มกฺกฎโก, สทิสเตฺถ โกฯ ทารุสงฺขาโต มกฺกฎโก ทารุมกฺกฎโกฯ ตํ อาโกเฎนฺตีติ สมฺพโนฺธฯ อนิยามิตตฺตาติ อิมนฺติ อนิยามิตตฺตา วจนสฺสฯ อิทํ มหาสามญฺญํ, วิเสสสามญฺญมฺปิ วฎฺฎตีติ อาห ‘‘นามํ คเหตฺวาปี’’ติอาทิฯ สพฺพนฺติ สพฺพํ วจนํฯ
Chijjanakanti chijjanayuttaṃ, chijjanārahanti attho. ‘‘Caṅkamitaṭṭhānaṃ dassessāmī’’ti iminā vattasīsena caṅkamanaṃ vaṭṭatīti dasseti. ‘‘Bhijjatī’’ti iminā abhijjamāne gaṇṭhipi kātabboti dasseti. Dārumakkaṭakanti makkaṭassa hattho makkaṭo upacārena, makkaṭo viyāti makkaṭako, sadisatthe ko. Dārusaṅkhāto makkaṭako dārumakkaṭako. Taṃ ākoṭentīti sambandho. Aniyāmitattāti imanti aniyāmitattā vacanassa. Idaṃ mahāsāmaññaṃ, visesasāmaññampi vaṭṭatīti āha ‘‘nāmaṃ gahetvāpī’’tiādi. Sabbanti sabbaṃ vacanaṃ.
‘‘อิมํ ชานาติอาทีสู’’ติ ปทํ ‘‘เอวมโตฺถ ทฎฺฐโพฺพ’’ติ ปเท อาธาโรฯ อิมํ มูลเภสชฺชํ ชานาติ อิมํ มูลเภสชฺชํ โยชิตุํ ชานาติ โยชนาฯ เอตฺตาวตาติ ‘‘อิมํ ชานา’’ติอาทิวจนมเตฺตนฯ กปฺปิยนฺติ สมณโวหาเรน, โวหารสฺส วา ยุตฺตํ อนุรูปํฯ เอตฺถาติ ‘‘กปฺปิยํ กาตพฺพ’’นฺติ วจเนฯ นิพฺพฎฺฎพีชเมวาติ ผลโต นิพฺพเฎฺฎตฺวา วิสุํ กตํ พีชํ เอวฯ ตตฺถาติ สุเตฺตฯ กโรเนฺตน ภิกฺขุนา กาตพฺพนฺติ โยชนาฯ ‘‘กปฺปิยนฺติ วตฺวาวา’’ติ อิมินา ปฐมํ กตฺวา อคฺคิสตฺถนขานิ อุทฺธริตฺวา ปจฺฉา วตฺตุํ น วฎฺฎตีติ ทเสฺสติฯ โลหมยสตฺถสฺสาติ อยตมฺพาทิโลหมยสฺส สตฺถสฺสฯ เตหีติ มนุสฺสาทีนํ นเขหิฯ เตหีติ อสฺสาทีนํ ขุเรหิฯ เตหีติ หตฺถินเขหิฯ เยหีติ นเขหิฯ ตตฺถชาตเกหิปีติ ตสฺมิํ สเตฺถ ชาตเกหิปิ, นเขหีติ สมฺพโนฺธฯ
‘‘Imaṃ jānātiādīsū’’ti padaṃ ‘‘evamattho daṭṭhabbo’’ti pade ādhāro. Imaṃ mūlabhesajjaṃ jānāti imaṃ mūlabhesajjaṃ yojituṃ jānāti yojanā. Ettāvatāti ‘‘imaṃ jānā’’tiādivacanamattena. Kappiyanti samaṇavohārena, vohārassa vā yuttaṃ anurūpaṃ. Etthāti ‘‘kappiyaṃ kātabba’’nti vacane. Nibbaṭṭabījamevāti phalato nibbaṭṭetvā visuṃ kataṃ bījaṃ eva. Tatthāti sutte. Karontena bhikkhunā kātabbanti yojanā. ‘‘Kappiyanti vatvāvā’’ti iminā paṭhamaṃ katvā aggisatthanakhāni uddharitvā pacchā vattuṃ na vaṭṭatīti dasseti. Lohamayasatthassāti ayatambādilohamayassa satthassa. Tehīti manussādīnaṃ nakhehi. Tehīti assādīnaṃ khurehi. Tehīti hatthinakhehi. Yehīti nakhehi. Tatthajātakehipīti tasmiṃ satthe jātakehipi, nakhehīti sambandho.
ตตฺถาติ ปุริมวจนาเปกฺขํฯ ‘‘กปฺปิยํ กโรเนฺตนา’’ติอาทิวจนมเปกฺขติฯ ‘‘อุจฺฉุํ กปฺปิยํ กริสฺสามี’’ติ อุจฺฉุเมว วิชฺฌติ, ปเควฯ ‘‘ทารุํ กปฺปิยํ กริสฺสามี’’ติ อุจฺฉุํ วิชฺฌติ, ‘‘ทารุํ กปฺปิยํ กริสฺสามี’’ติ ทารุเมว วา วิชฺฌติ, วฎฺฎติ เอกาพทฺธตฺตาติ วทนฺติฯ ตนฺติ รชฺชุํ วา วลฺลิํ วาฯ สพฺพํ ขณฺฑนฺติ สมฺพโนฺธฯ ตตฺถาติ มริจปเกฺกสุฯ กฎาหนฺติ เอกาย ภาชนวิกติยา นามเมตํฯ อิธ ปน พีชานํ ภาชนภาเวน ตํสทิสตฺตา ผลเผคฺคุปิ ‘‘กฎาห’’นฺติ วุจฺจติฯ เอกาพทฺธนฺติ กฎาเหน เอกโต อาพทฺธํฯ
Tatthāti purimavacanāpekkhaṃ. ‘‘Kappiyaṃ karontenā’’tiādivacanamapekkhati. ‘‘Ucchuṃ kappiyaṃ karissāmī’’ti ucchumeva vijjhati, pageva. ‘‘Dāruṃ kappiyaṃ karissāmī’’ti ucchuṃ vijjhati, ‘‘dāruṃ kappiyaṃ karissāmī’’ti dārumeva vā vijjhati, vaṭṭati ekābaddhattāti vadanti. Tanti rajjuṃ vā valliṃ vā. Sabbaṃ khaṇḍanti sambandho. Tatthāti maricapakkesu. Kaṭāhanti ekāya bhājanavikatiyā nāmametaṃ. Idha pana bījānaṃ bhājanabhāvena taṃsadisattā phalapheggupi ‘‘kaṭāha’’nti vuccati. Ekābaddhanti kaṭāhena ekato ābaddhaṃ.
ตานีติ ติณานิฯ เตนาติ รุกฺขปวฎฺฎนาทินาฯ ตตฺราติ ตสฺมิํ ฐปนปาตนฎฺฐาเนฯ ‘‘มนุสฺสวิคฺคหปาราชิกวณฺณนาย’’นฺติ ปทํ ‘‘วุตฺต’’นฺติ ปเท สามญฺญาธาโรฯ ภิกฺขุ อโชฺฌตฺถโฎ โหตีติ สมฺพโนฺธฯ โอปาเตติ อาวาเฎฯ โส หิ อวปตนฎฺฐานตฺตา ‘‘โอปาโต’’ติ วุจฺจติฯ รุกฺขนฺติ อโชฺฌตฺถฎรุกฺขํฯ ภูมินฺติ โอปาตถิรภูมิํฯ ชีวิตเหตูติ นิมิตฺตเตฺถ ปจฺจตฺตวจนํ, ชีวิตการณาติ อโตฺถฯ ‘‘ภิกฺขุนา’’ติ ปทํ ‘‘นิกฺขาเมตุ’’นฺติ ปเท ภาวกตฺตา, การิตกตฺตา วาฯ ‘‘อโชฺฌตฺถฎภิกฺขุ’’นฺติ วา ‘‘โอปาตภิกฺขุ’’นฺติ วา การิตกมฺมํ อชฺฌาหริตพฺพํฯ ตตฺถาติ อนาปตฺติภาเว, อนาปตฺติภาวสฺส วาฯ เอตสฺสาติ สุตฺตสฺสฯ ปโร ปน การุเญฺญน กโรตีติ สมฺพโนฺธฯ เอตมฺปีติ การุญฺญมฺปิฯ หีติ สจฺจํ, ยสฺมา วาติฯ ปฐมํฯ
Tānīti tiṇāni. Tenāti rukkhapavaṭṭanādinā. Tatrāti tasmiṃ ṭhapanapātanaṭṭhāne. ‘‘Manussaviggahapārājikavaṇṇanāya’’nti padaṃ ‘‘vutta’’nti pade sāmaññādhāro. Bhikkhu ajjhotthaṭo hotīti sambandho. Opāteti āvāṭe. So hi avapatanaṭṭhānattā ‘‘opāto’’ti vuccati. Rukkhanti ajjhotthaṭarukkhaṃ. Bhūminti opātathirabhūmiṃ. Jīvitahetūti nimittatthe paccattavacanaṃ, jīvitakāraṇāti attho. ‘‘Bhikkhunā’’ti padaṃ ‘‘nikkhāmetu’’nti pade bhāvakattā, kāritakattā vā. ‘‘Ajjhotthaṭabhikkhu’’nti vā ‘‘opātabhikkhu’’nti vā kāritakammaṃ ajjhāharitabbaṃ. Tatthāti anāpattibhāve, anāpattibhāvassa vā. Etassāti suttassa. Paro pana kāruññena karotīti sambandho. Etampīti kāruññampi. Hīti saccaṃ, yasmā vāti. Paṭhamaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๒. ภูตคามวโคฺค • 2. Bhūtagāmavaggo
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๑. ภูตคามสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Bhūtagāmasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๑. ภูตคามสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Bhūtagāmasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๑. ภูตคามสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Bhūtagāmasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๑. ภูตคามสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Bhūtagāmasikkhāpadavaṇṇanā