Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / กงฺขาวิตรณี-อภินว-ฎีกา • Kaṅkhāvitaraṇī-abhinava-ṭīkā |
๒. ภูตคามวโคฺค
2. Bhūtagāmavaggo
๑. ภูตคามสิกฺขาปทวณฺณนา
1. Bhūtagāmasikkhāpadavaṇṇanā
‘‘ภวนฺตี’’ติ (สารตฺถ. ฎี. ปาจิตฺติย ๓.๙๐) อิมินา วิรุฬฺหมูเล นีลภาวํ อาปชฺชิตฺวา วฑฺฒมานเก ตรุณคเจฺฉ ทเสฺสติฯ ‘‘อเหสุ’’นฺติ อิมินา ปน วฑฺฒิตฺวา ฐิเต มหเนฺต รุกฺขคจฺฉาทิเก ทเสฺสติฯ เตนาห ‘‘ชายนฺตี’’ติอาทิฯ เอตฺถ จ ‘‘ภวนฺตี’’ติ อิมสฺส วิวรณํ ‘‘ชายนฺติ วฑฺฒนฺตี’’ติ, ‘‘อเหสุ’’นฺติ อิมสฺส ‘‘ชาตา วฑฺฒิตา’’ติฯ คาโมติ สมูโหฯ ปติฎฺฐิตหริตติณรุกฺขาทีนนฺติ ภูมิยํ ปติฎฺฐิตสฺส หริตติณสฺส เจว หริตรุกฺขาทีนญฺจฯ อาทิสเทฺทน โอสธิคจฺฉลตาทโย เวทิตพฺพาฯ นิมิตฺตเตฺถ จ ภุมฺมํฯ โย อโตฺถ สมฺปชฺชติ, ตมาห ‘‘ภูตคามปาตพฺยตายา’’ติอาทินาฯ
‘‘Bhavantī’’ti (sārattha. ṭī. pācittiya 3.90) iminā viruḷhamūle nīlabhāvaṃ āpajjitvā vaḍḍhamānake taruṇagacche dasseti. ‘‘Ahesu’’nti iminā pana vaḍḍhitvā ṭhite mahante rukkhagacchādike dasseti. Tenāha ‘‘jāyantī’’tiādi. Ettha ca ‘‘bhavantī’’ti imassa vivaraṇaṃ ‘‘jāyanti vaḍḍhantī’’ti, ‘‘ahesu’’nti imassa ‘‘jātā vaḍḍhitā’’ti. Gāmoti samūho. Patiṭṭhitaharitatiṇarukkhādīnanti bhūmiyaṃ patiṭṭhitassa haritatiṇassa ceva haritarukkhādīnañca. Ādisaddena osadhigacchalatādayo veditabbā. Nimittatthe ca bhummaṃ. Yo attho sampajjati, tamāha ‘‘bhūtagāmapātabyatāyā’’tiādinā.
นนุ จ รุกฺขาทโย จิตฺตรหิตตาย น ชีวา, จิตฺตรหิตตา จ ปริผนฺทาภาวโต, ฉิเนฺนปิ วิรุหนโต, วิสทิสชาติกภาวโต, จตุโยนิยํ อปริยาปนฺนโต จ เวทิตพฺพา, วุฑฺฒิ ปน ปวาฬสิลาลวณานมฺปิ วิชฺชตีติ น เตสํ ชีวภาเว การณํ, วิสยคฺคหณญฺจ เนสํ ปริกปฺปนามตฺตํ สุปนํ วิย จิญฺจาทีนํ, ตถา โทหฬาทโย, อถ กสฺมา ภูตคามสฺส ปาตพฺยตาย ปาจิตฺติยํ อิจฺฉิตนฺติ? สมณอสารุปฺปโต, ตนฺนิสฺสิตสตฺตานุรกฺขณโต จฯ เตเนวาห ‘‘ชีวสญฺญิโน หิ โมฆปุริสา มนุสฺสา รุกฺขสฺมิ’’นฺติอาทิ (ปาจิ. ๘๙)ฯ สาสปพีชกเสวาลมฺปีติ สาสปพีชกสงฺขาตํ เสวาลมฺปิ, สาสปเสวาลํ, พีชกเสวาลมฺปีติ อโตฺถฯ ตตฺถ สาสปเสวาโล นาม สาสปมโตฺต ขุทฺทกเสวาโลฯ พีชกเสวาโล นาม อุปริ ขุทฺทกปโตฺต เหฎฺฐา ขุทฺทกมูโล เสวาโลฯ
Nanu ca rukkhādayo cittarahitatāya na jīvā, cittarahitatā ca pariphandābhāvato, chinnepi viruhanato, visadisajātikabhāvato, catuyoniyaṃ apariyāpannato ca veditabbā, vuḍḍhi pana pavāḷasilālavaṇānampi vijjatīti na tesaṃ jīvabhāve kāraṇaṃ, visayaggahaṇañca nesaṃ parikappanāmattaṃ supanaṃ viya ciñcādīnaṃ, tathā dohaḷādayo, atha kasmā bhūtagāmassa pātabyatāya pācittiyaṃ icchitanti? Samaṇaasāruppato, tannissitasattānurakkhaṇato ca. Tenevāha ‘‘jīvasaññino hi moghapurisā manussā rukkhasmi’’ntiādi (pāci. 89). Sāsapabījakasevālampīti sāsapabījakasaṅkhātaṃ sevālampi, sāsapasevālaṃ, bījakasevālampīti attho. Tattha sāsapasevālo nāma sāsapamatto khuddakasevālo. Bījakasevālo nāma upari khuddakapatto heṭṭhā khuddakamūlo sevālo.
มูลพีชขนฺธพีชผฬุพีชอคฺคพีชพีชพีชานนฺติ เอตฺถ มูลเมว พีชํ มูลพีชํฯ เอวํ เสเสสุปิฯ ตตฺถ มูลพีชํ หลิทฺทิอาทิกํฯ ขนฺธพีชํ อสฺสตฺถาทิกํฯ ผฬุพีชํ อุจฺฉุอาทิกํฯ อคฺคพีชํ หิริเวราทิกํฯ พีชํพีชํ ปุพฺพณฺณาทิกํฯ ภาชนคตนฺติ สราวาทิภาชนคตํฯ นิกฺขนฺตํ มูลมตฺตํ เอตสฺมาติ นิกฺขนฺตมูลมตฺตํฯ มตฺต สเทฺทน เจตฺถ ปณฺณสฺส นิกฺขมนํ ปฎิกฺขิปติฯ เอส นโย นิกฺขนฺตองฺกุรมตฺตนฺติ เอตฺถาปิฯ สเจ ปน มูลญฺจ ปณฺณญฺจ นิคฺคตํ, ภูตคามสงฺขํ คจฺฉติฯ วิทตฺถิมตฺตา ปตฺตวฎฺฎิ นิคฺคจฺฉตีติ วิทตฺถิมตฺตา อนีลวณฺณา ปตฺตวฎฺฎิ นิกฺขมติฯ เตนาห ‘‘นิกฺขเนฺต’’ติอาทิฯ หริโต น โหตีติ นีลวโณฺณ น โหติฯ มุคฺคาทีนํ ปน ปเณฺณสุ อุฎฺฐิเตสุ, วีหิอาทีนํ วา องฺกุเร หริเต ภูตคามสงฺคหํ คจฺฉนฺติฯ เอส นโย อมฺพฎฺฐิอาทีสุฯ
Mūlabījakhandhabījaphaḷubījaaggabījabījabījānanti ettha mūlameva bījaṃ mūlabījaṃ. Evaṃ sesesupi. Tattha mūlabījaṃ haliddiādikaṃ. Khandhabījaṃ assatthādikaṃ. Phaḷubījaṃ ucchuādikaṃ. Aggabījaṃ hiriverādikaṃ. Bījaṃbījaṃ pubbaṇṇādikaṃ. Bhājanagatanti sarāvādibhājanagataṃ. Nikkhantaṃ mūlamattaṃ etasmāti nikkhantamūlamattaṃ. Matta saddena cettha paṇṇassa nikkhamanaṃ paṭikkhipati. Esa nayo nikkhantaaṅkuramattanti etthāpi. Sace pana mūlañca paṇṇañca niggataṃ, bhūtagāmasaṅkhaṃ gacchati. Vidatthimattā pattavaṭṭi niggacchatīti vidatthimattā anīlavaṇṇā pattavaṭṭi nikkhamati. Tenāha ‘‘nikkhante’’tiādi. Harito na hotīti nīlavaṇṇo na hoti. Muggādīnaṃ pana paṇṇesu uṭṭhitesu, vīhiādīnaṃ vā aṅkure harite bhūtagāmasaṅgahaṃ gacchanti. Esa nayo ambaṭṭhiādīsu.
ภูตคามพีชคาเมติ เอตฺถ ภูตคามโต วิโยชิตํ วิรุหนสมตฺถเมว มูลพีชาทิกํ พีชคาโม นามาติ เวทิตพฺพํฯ อุภยตฺถาติ ภูตคามพีชคาเมสุฯ อตถาสญฺญิสฺสาติ อภูตคามาพีชคามสญฺญิสฺสฯ โก ปน วาโท อภูตคามาพีชคาเมสุ อภูตคามาพีชคามสญฺญิสฺสฯ อสญฺจิจฺจาติ ปาสาณรุกฺขาทีนิ วา ปวเฎฺฎนฺตสฺส, สาขํ วา กฑฺฒนฺตสฺส, กตฺตรทเณฺฑน วา ภูมิํ ปหริตฺวา คจฺฉนฺตสฺส ติณานิ กุปฺปนฺติฯ ตานิ เตน ‘‘วิโกเปสฺสามี’’ติ เอวํ สญฺจิจฺจ อวิโกปิตตฺตา อสญฺจิจฺจ วิโกปิตานิ นาม โหนฺติฯ อิติ อสญฺจิจฺจ วิโกเปนฺตสฺส อนาปตฺติฯ
Bhūtagāmabījagāmeti ettha bhūtagāmato viyojitaṃ viruhanasamatthameva mūlabījādikaṃ bījagāmo nāmāti veditabbaṃ. Ubhayatthāti bhūtagāmabījagāmesu. Atathāsaññissāti abhūtagāmābījagāmasaññissa. Ko pana vādo abhūtagāmābījagāmesu abhūtagāmābījagāmasaññissa. Asañciccāti pāsāṇarukkhādīni vā pavaṭṭentassa, sākhaṃ vā kaḍḍhantassa, kattaradaṇḍena vā bhūmiṃ paharitvā gacchantassa tiṇāni kuppanti. Tāni tena ‘‘vikopessāmī’’ti evaṃ sañcicca avikopitattā asañcicca vikopitāni nāma honti. Iti asañcicca vikopentassa anāpatti.
อสติยาติ อญฺญวิหิโต เกนจิ สทฺธิํ กิญฺจิ กเถโนฺต ปาทงฺคุฎฺฐเกน วา หเตฺถน วา ติณํ วา ลตํ วา วิโกเปโนฺต ติฎฺฐติ, เอวํ อสติยา วิโกเปนฺตสฺส อนาปตฺติฯ
Asatiyāti aññavihito kenaci saddhiṃ kiñci kathento pādaṅguṭṭhakena vā hatthena vā tiṇaṃ vā lataṃ vā vikopento tiṭṭhati, evaṃ asatiyā vikopentassa anāpatti.
อชานิตฺวาติ เอตฺถ อพฺภนฺตเร ‘‘พีชคาโม’’ติ วา ‘‘ภูตคาโม’’ติ วา น ชานาติ, ‘‘วิโกเปมี’’ติ ปน ชานาติฯ เอวํ ติเณ วา ปลาลปุเญฺช วา ขณิตฺติํ วา กุทาลํ วา สโงฺคปนตฺถาย ฐเปติ, ฑยฺหมานหโตฺถ วา อคฺคิํ ปาเตติฯ ตตฺร เจ ติณานิ ฉิชฺชนฺติ วา ฑยฺหนฺติ วา, เอวํ อชานิตฺวา วิโกเปนฺตสฺส อนาปตฺติฯ
Ajānitvāti ettha abbhantare ‘‘bījagāmo’’ti vā ‘‘bhūtagāmo’’ti vā na jānāti, ‘‘vikopemī’’ti pana jānāti. Evaṃ tiṇe vā palālapuñje vā khaṇittiṃ vā kudālaṃ vā saṅgopanatthāya ṭhapeti, ḍayhamānahattho vā aggiṃ pāteti. Tatra ce tiṇāni chijjanti vā ḍayhanti vā, evaṃ ajānitvā vikopentassa anāpatti.
เยน เกนจิ อคฺคินาติ กฎฺฐคฺคิโคมยคฺคิอาทีสุ เยน เกนจิ อคฺคินา, อนฺตมโส โลหขเณฺฑนปิ อาทิเตฺตนฯ ‘‘กปฺปิย’’นฺติ วตฺวาวาติ ยาย กายจิ ภาสาย ‘‘กปฺปิย’’นฺติ วตฺวาวฯ เอว-สเทฺทน ปฐมํ อคฺคินา ผุสิตฺวา ปจฺฉา ‘‘กปฺปิย’’นฺติ วตฺตุํ น วฎฺฎตี’’ติ ทเสฺสติฯ ‘‘ปฐมํ อคฺคิํ นิกฺขิปิตฺวา ตํ อนุทฺธริตฺวาว ‘กปฺปิย’นฺติ วุเตฺต ปน วฎฺฎตี’’ติ (สารตฺถ. ฎี. ปาจิตฺติย ๓.๙๓) วทนฺติฯ เอส นโย เสเสสุปิฯ ตเถวาติ ‘กปฺปิย’นฺติ วตฺวาวฯ อสฺสมหิํสสูกรมิคโครูปานํ ปน ขุรา อติขิณา, ตสฺมา เตหิ น กาตพฺพํ, กตมฺปิ อกตํ โหตีติ อาห ‘‘ฐเปตฺวา โคมหิํสาทีนํ ขุเร’’ติฯ หตฺถินขา ปน ขุรา น โหนฺติ, ตสฺมา เตหิ วฎฺฎติฯ ติรจฺฉานานนฺติ สีหพฺยคฺฆทีปิมกฺกฎานํ, สกุนฺตานญฺจฯ เตสญฺหิ นขา ติขิณา โหนฺติ, ตสฺมา เตหิ กาตพฺพํฯ ‘‘อนฺตมโส ฉินฺทิตฺวา อาหเฎนปี’’ติ อิมินา เยหิ กาตุํ วฎฺฎติ, เตหิ ตตฺถชาตเกหิ กาตพฺพนฺติ เอตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทเสฺสติฯ ‘‘สเตฺถ วุตฺตนเยเนวา’’ติ อิมินา เฉทํ วา เวธํ วา ทเสฺสเนฺตน ‘‘กปฺปิยนฺติ วตฺวาวา’’ติ วุตฺตมติทิสติฯ เอตฺถ จ กิญฺจาปิ ‘‘กปฺปิยนฺติ วตฺวาว กาตพฺพ’’นฺติอาทินา กปฺปิยํ กโรเนฺตน กตฺตพฺพาการเมว ทสฺสิตํ, ตถาปิ ภิกฺขุนา ‘‘กปฺปิยํ กโรหี’’ติ วุเตฺตเยว อนุปสมฺปเนฺนน ‘‘กปฺปิย’’นฺติ วตฺวา อคฺคิปริชิตาทิ กาตพฺพนฺติ คเหตพฺพํฯ อวจนํ ปน ‘‘ปุนปิ กปฺปิยํ กโรหีติ กาเรตฺวาว ปริภุญฺชิตพฺพ’’นฺติ ปฐมเมว วุตฺตตฺตาฯ
Yena kenaci aggināti kaṭṭhaggigomayaggiādīsu yena kenaci agginā, antamaso lohakhaṇḍenapi ādittena. ‘‘Kappiya’’nti vatvāvāti yāya kāyaci bhāsāya ‘‘kappiya’’nti vatvāva. Eva-saddena paṭhamaṃ agginā phusitvā pacchā ‘‘kappiya’’nti vattuṃ na vaṭṭatī’’ti dasseti. ‘‘Paṭhamaṃ aggiṃ nikkhipitvā taṃ anuddharitvāva ‘kappiya’nti vutte pana vaṭṭatī’’ti (sārattha. ṭī. pācittiya 3.93) vadanti. Esa nayo sesesupi. Tathevāti ‘kappiya’nti vatvāva. Assamahiṃsasūkaramigagorūpānaṃ pana khurā atikhiṇā, tasmā tehi na kātabbaṃ, katampi akataṃ hotīti āha ‘‘ṭhapetvā gomahiṃsādīnaṃ khure’’ti. Hatthinakhā pana khurā na honti, tasmā tehi vaṭṭati. Tiracchānānanti sīhabyagghadīpimakkaṭānaṃ, sakuntānañca. Tesañhi nakhā tikhiṇā honti, tasmā tehi kātabbaṃ. ‘‘Antamaso chinditvā āhaṭenapī’’ti iminā yehi kātuṃ vaṭṭati, tehi tatthajātakehi kātabbanti ettha vattabbameva natthīti dasseti. ‘‘Satthe vuttanayenevā’’ti iminā chedaṃ vā vedhaṃ vā dassentena ‘‘kappiyanti vatvāvā’’ti vuttamatidisati. Ettha ca kiñcāpi ‘‘kappiyanti vatvāva kātabba’’ntiādinā kappiyaṃ karontena kattabbākārameva dassitaṃ, tathāpi bhikkhunā ‘‘kappiyaṃ karohī’’ti vutteyeva anupasampannena ‘‘kappiya’’nti vatvā aggiparijitādi kātabbanti gahetabbaṃ. Avacanaṃ pana ‘‘punapi kappiyaṃ karohīti kāretvāva paribhuñjitabba’’nti paṭhamameva vuttattā.
เอกสฺมิํ…เป.… กปฺปิเย กเต สพฺพํ กตํ โหตีติ เอกํเยว ‘‘กปฺปิยํ กโรมี’’ติ อธิปฺปาเยนปิ กปฺปิเย กเต เอกาพทฺธตฺตา สพฺพํ กตํ โหติฯ ทารุกํ วิชฺฌตีติ ชานิตฺวา วา อชานิตฺวา วา วิชฺฌติ วา วิชฺฌาเปติ วา, วฎฺฎติเยวฯ ภตฺตสิเตฺถ วิชฺฌตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโยฯ ตํ วิชฺฌติ, น วฎฺฎตีติ วลฺลิอาทีนํ ภาชนคติกตฺตาติ อธิปฺปาโยฯ ภินฺทาเปตฺวา กปฺปิยํ กาเรตพฺพนฺติ พีชโต มุตฺตสฺส กฎาหสฺส ภาชนคติกตฺตา วุตฺตํฯ อพีชนฺติ องฺกุรชนนสมตฺถพีชรหิตตรุณมฺพผลาทิฯ เตนาห ‘‘ยํ ปน ผลํ ตรุณํ โหติ, อพีช’’นฺติฯ นิพฺพตฺตพีชํ นาม พีชํ นิพฺพเตฺตตฺวา วิสุํ กตฺวา ปริภุญฺชิตุํ สกฺกุเณยฺยํ อมฺพปนสาทิผลํฯ เตนาห ‘‘พีชํ อปเนตฺวา ปริภุญฺชิตพฺพ’’นฺติฯ ตตฺถ กปฺปิยกรณกิจฺจํ นตฺถิ, สยเมว กปฺปิยานีติ อธิปฺปาโยฯ
Ekasmiṃ…pe… kappiye kate sabbaṃ kataṃ hotīti ekaṃyeva ‘‘kappiyaṃ karomī’’ti adhippāyenapi kappiye kate ekābaddhattā sabbaṃ kataṃ hoti. Dārukaṃ vijjhatīti jānitvā vā ajānitvā vā vijjhati vā vijjhāpeti vā, vaṭṭatiyeva. Bhattasitthe vijjhatīti etthāpi eseva nayo. Taṃ vijjhati, na vaṭṭatīti valliādīnaṃ bhājanagatikattāti adhippāyo. Bhindāpetvā kappiyaṃ kāretabbanti bījato muttassa kaṭāhassa bhājanagatikattā vuttaṃ. Abījanti aṅkurajananasamatthabījarahitataruṇambaphalādi. Tenāha ‘‘yaṃ pana phalaṃ taruṇaṃ hoti, abīja’’nti. Nibbattabījaṃ nāma bījaṃ nibbattetvā visuṃ katvā paribhuñjituṃ sakkuṇeyyaṃ ambapanasādiphalaṃ. Tenāha ‘‘bījaṃ apanetvā paribhuñjitabba’’nti. Tattha kappiyakaraṇakiccaṃ natthi, sayameva kappiyānīti adhippāyo.
ภูตคามสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Bhūtagāmasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.