Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā |
๒. ภูตคามวโคฺค
2. Bhūtagāmavaggo
๑. ภูตคามสิกฺขาปทวณฺณนา
1. Bhūtagāmasikkhāpadavaṇṇanā
๘๙. ทุติยวคฺคสฺส ปฐเม นิคฺคเหตุํ อสโกฺกโนฺตติ สาขฎฺฐกวิมาเน สาขาย ฉิชฺชมานาย ฉิชฺชเนฺต ตตฺถ อเฉทนตฺถาย เทวตาย อุปนีตํ ปุตฺตํ ทิสฺวาปิ กุฐารินิเกฺขปเวคํ นิวเตฺตตุํ อสโกฺกโนฺตติ อโตฺถฯ รุกฺขธเมฺมติ รุกฺขสฺส ปวตฺติยํฯ รุกฺขานํ วิย เฉทนาทีสุ อกุปฺปนญฺหิ รุกฺขธโมฺม นามฯ
89. Dutiyavaggassa paṭhame niggahetuṃ asakkontoti sākhaṭṭhakavimāne sākhāya chijjamānāya chijjante tattha achedanatthāya devatāya upanītaṃ puttaṃ disvāpi kuṭhārinikkhepavegaṃ nivattetuṃ asakkontoti attho. Rukkhadhammeti rukkhassa pavattiyaṃ. Rukkhānaṃ viya chedanādīsu akuppanañhi rukkhadhammo nāma.
อุปฺปติตนฺติ อุปฺปนฺนํฯ ภนฺตนฺติ ธาวนฺตํฯ วารเยติ นิคฺคเณฺหยฺยฯ อิตโรติ อุปฺปนฺนํ โกธํ อนิคฺคณฺหโนฺต ราชอุปราชาทีนํ รสฺมิมตฺตคฺคาหกชโน วิย น อุตฺตมสารถีติ อโตฺถฯ วิสฎํ สปฺปวิสนฺติ สรีเร ทาฐาวณานุสาเรน วิตฺถิณฺณํ พฺยาเปตฺวา ฐิตํ กณฺหสปฺปวิสํ วิยฯ ชหาติ โอรปารนฺติ ปโญฺจรมฺภาคิยสโญฺญชนานิ ตติยมเคฺคน ชหาติฯ ‘‘โอรปาร’’นฺติ หิ โอริมตีรํ วุจฺจติ ฯ อถ วา โสติ ตติยมเคฺคน โกธํ วิเนตฺวา ฐิโต ภิกฺขุ อรหตฺตมเคฺคน โอรปารํ ชหาตีติ อโตฺถฯ ตตฺถ โอรํ นาม สกตฺตภาโว, อชฺฌตฺติกานิ วา อายตนานิฯ ปารํ นาม ปรอตฺตภาโว, พาหิรานิ วา อายตนานิฯ ตทุภเย ปน ฉนฺทราคํ ชหโนฺต ‘‘ชหาติ โอริมปาร’’นฺติ วุจฺจติฯ
Uppatitanti uppannaṃ. Bhantanti dhāvantaṃ. Vārayeti niggaṇheyya. Itaroti uppannaṃ kodhaṃ aniggaṇhanto rājauparājādīnaṃ rasmimattaggāhakajano viya na uttamasārathīti attho. Visaṭaṃ sappavisanti sarīre dāṭhāvaṇānusārena vitthiṇṇaṃ byāpetvā ṭhitaṃ kaṇhasappavisaṃ viya. Jahāti orapāranti pañcorambhāgiyasaññojanāni tatiyamaggena jahāti. ‘‘Orapāra’’nti hi orimatīraṃ vuccati . Atha vā soti tatiyamaggena kodhaṃ vinetvā ṭhito bhikkhu arahattamaggena orapāraṃ jahātīti attho. Tattha oraṃ nāma sakattabhāvo, ajjhattikāni vā āyatanāni. Pāraṃ nāma paraattabhāvo, bāhirāni vā āyatanāni. Tadubhaye pana chandarāgaṃ jahanto ‘‘jahāti orimapāra’’nti vuccati.
๙๐. ภวนฺตีติ วฑฺฒนฺติฯ อหุวุนฺตีติ พภูวุฯ เตนาห ‘‘ชาตา วฑฺฒิตา’’ติฯ ภูตานํ คาโมติ มหาภูตานํ หริตติณาทิภาเวน สมคฺคานํ สมูโหฯ ตพฺพินิมุตฺตสฺส คามสฺส อภาวํ ทเสฺสตุํ ‘‘ภูตา เอว วา คาโม’’ติ วุตฺตํฯ ปาตพฺย-สทฺทสฺส ปา ปาเนติ ธาตฺวตฺถํ สนฺธายาห ‘‘ปริภุญฺชิตพฺพตา’’ติฯ สา จ ปาตพฺยตา เฉทนาทิ เอว โหตีติ อาห ‘‘ตสฺสา…เป.… ภูตคามสฺส ชาตา เฉทนาทิปจฺจยา’’ติฯ
90.Bhavantīti vaḍḍhanti. Ahuvuntīti babhūvu. Tenāha ‘‘jātā vaḍḍhitā’’ti. Bhūtānaṃ gāmoti mahābhūtānaṃ haritatiṇādibhāvena samaggānaṃ samūho. Tabbinimuttassa gāmassa abhāvaṃ dassetuṃ ‘‘bhūtā eva vā gāmo’’ti vuttaṃ. Pātabya-saddassa pā pāneti dhātvatthaṃ sandhāyāha ‘‘paribhuñjitabbatā’’ti. Sā ca pātabyatā chedanādi eva hotīti āha ‘‘tassā…pe… bhūtagāmassa jātā chedanādipaccayā’’ti.
๙๑. ชาต-สโทฺท เอตฺถ วิชาตปริยาโยติ ‘‘ปุตฺตํ วิชาตา อิตฺถี’’ติอาทีสุ วิย ปสูตวจโนติ อาห ‘‘ปสูตานี’’ติ, นิพฺพตฺตปณฺณมูลานีติ อโตฺถฯ
91.Jāta-saddo ettha vijātapariyāyoti ‘‘puttaṃ vijātā itthī’’tiādīsu viya pasūtavacanoti āha ‘‘pasūtānī’’ti, nibbattapaṇṇamūlānīti attho.
ตานิ ทเสฺสโนฺตติ ตานิ พีชานิ ทเสฺสโนฺตฯ การิยทสฺสนมุเขเนว การณญฺจ คหิตนฺติ อาห ‘‘พีชโต นิพฺพเตฺตน พีชํ ทสฺสิต’’นฺติฯ
Tānidassentoti tāni bījāni dassento. Kāriyadassanamukheneva kāraṇañca gahitanti āha ‘‘bījato nibbattena bījaṃ dassita’’nti.
๙๒. ‘‘พีชโต สมฺภูโต ภูตคาโม พีช’’นฺติ อิมินา อุตฺตรปทโลเปน ‘‘ปทุมคจฺฉโต นิพฺพตฺตํ ปุปฺผํ ปทุม’’นฺติอาทีสุ วิยายํ โวหาโรติ ทเสฺสติฯ ยํ พีชํ ภูตคาโม นาม โหตีติ นิพฺพตฺตปณฺณมูลํ สนฺธาย วทติฯ ยถารุตนฺติ ยถาปาฐํฯ
92.‘‘Bījato sambhūto bhūtagāmo bīja’’nti iminā uttarapadalopena ‘‘padumagacchato nibbattaṃ pupphaṃ paduma’’ntiādīsu viyāyaṃ vohāroti dasseti. Yaṃ bījaṃ bhūtagāmo nāma hotīti nibbattapaṇṇamūlaṃ sandhāya vadati. Yathārutanti yathāpāṭhaṃ.
‘‘สญฺจิจฺจา’’ติ วุตฺตตฺตา สรีเร ลคฺคภาวํ ญตฺวาปิ อุฎฺฐหติ, ‘‘ตํ อุทฺธริสฺสามี’’ติสญฺญาย อภาวโต วฎฺฎติฯ อนนฺตก-คฺคหเณน สาสปมตฺติกา คหิตา, นามเญฺหตํ ตสฺสา เสวาลชาติยาฯ มูลปณฺณานํ อภาเวน ‘‘อสมฺปุณฺณภูตคาโม นามา’’ติ วุตฺตํฯ โส พีชคาเมน สงฺคหิโตติฯ อวฑฺฒมาเนปิ ภูตคามมูลกตฺตา วุตฺตํ ‘‘อมูลกภูตคาเม สงฺคหํ คจฺฉตี’’ติฯ นาฬิเกรสฺส อาเวณิกํ กตฺวา วทติฯ
‘‘Sañciccā’’ti vuttattā sarīre laggabhāvaṃ ñatvāpi uṭṭhahati, ‘‘taṃ uddharissāmī’’tisaññāya abhāvato vaṭṭati. Anantaka-ggahaṇena sāsapamattikā gahitā, nāmañhetaṃ tassā sevālajātiyā. Mūlapaṇṇānaṃ abhāvena ‘‘asampuṇṇabhūtagāmo nāmā’’ti vuttaṃ. So bījagāmena saṅgahitoti. Avaḍḍhamānepi bhūtagāmamūlakattā vuttaṃ ‘‘amūlakabhūtagāme saṅgahaṃ gacchatī’’ti. Nāḷikerassa āveṇikaṃ katvā vadati.
เสเลยฺยกํ นาม สิลาย สมฺภูตา เอกา คนฺธชาติฯ ปุปฺผิตกาลโต ปฎฺฐายาติ วิกสิตกาลโต ปภุติฯ ฉตฺตกํ คณฺหโนฺตติ วิกสิตํ คณฺหโนฺตฯ มกุฬํ ปน รุกฺขตฺตจํ อโกเปเนฺตนปิ คเหตุํ น วฎฺฎติ, ผุลฺลํ วฎฺฎติฯ หตฺถกุกฺกุเจฺจนาติ หตฺถจาปเลฺลนฯ
Seleyyakaṃ nāma silāya sambhūtā ekā gandhajāti. Pupphitakālato paṭṭhāyāti vikasitakālato pabhuti. Chattakaṃ gaṇhantoti vikasitaṃ gaṇhanto. Makuḷaṃ pana rukkhattacaṃ akopentenapi gahetuṃ na vaṭṭati, phullaṃ vaṭṭati. Hatthakukkuccenāti hatthacāpallena.
‘‘ปานียํ น วาเสตพฺพ’’นฺติ อิทํ อตฺตโน ปิวนปานียํ สนฺธาย วุตฺตํ, อเญฺญสํ ปน วฎฺฎติ อนุคฺคหิตตฺตาฯ เตนาห ‘‘อตฺตนา ขาทิตุกาเมนา’’ติฯ เยสํ รุกฺขานํ สาขา รุหตีติ มูลํ อโนตาเรตฺวา ปณฺณมตฺตนิคฺคมนมเตฺตนปิ วฑฺฒติฯ ตตฺถ กปฺปิยมฺปิ อกโรโนฺต ฉินฺนนาฬิเกรเวฬุทณฺฑาทโย โกเปตุํ วฎฺฎติฯ
‘‘Pānīyaṃ na vāsetabba’’nti idaṃ attano pivanapānīyaṃ sandhāya vuttaṃ, aññesaṃ pana vaṭṭati anuggahitattā. Tenāha ‘‘attanā khāditukāmenā’’ti. Yesaṃ rukkhānaṃ sākhā ruhatīti mūlaṃ anotāretvā paṇṇamattaniggamanamattenapi vaḍḍhati. Tattha kappiyampi akaronto chinnanāḷikeraveḷudaṇḍādayo kopetuṃ vaṭṭati.
‘‘จงฺกมิตฎฺฐานํ ทเสฺสสฺสามี’’ติ วุตฺตตฺตา เกวลํ จงฺกมนาธิปฺปาเยน วา มคฺคคมนาธิปฺปาเยน วา อกฺกมนฺตสฺส, ติณานํ อุปริ นิสีทนาธิปฺปาเยน นิสีทนฺตสฺส จ โทโส นตฺถิฯ
‘‘Caṅkamitaṭṭhānaṃ dassessāmī’’ti vuttattā kevalaṃ caṅkamanādhippāyena vā maggagamanādhippāyena vā akkamantassa, tiṇānaṃ upari nisīdanādhippāyena nisīdantassa ca doso natthi.
สมณกเปฺปหีติ สมณานํ กปฺปิยโวหาเรหิ, อพีชนิพฺพฎฺฎพีชานิปิ กปฺปิยภาวโต ‘‘สมณกปฺปานี’’ติ วุตฺตานิฯ อพีชํ นาม ตรุณอมฺพผลาทีนิฯ นิพฺพเฎฺฎตพฺพํ วิโยเชตพฺพํ พีชํ ยสฺมิํ, ตํ ปนสาทิ นิพฺพฎฺฎพีชํ นามฯ กปฺปิยนฺติ วตฺวาวาติ ปุพฺพกาลกิริยาวเสน วุเตฺตปิ วจนกฺขเณว อคฺคิสตฺถาทินา พีชคาเม วณํ กาตพฺพนฺติ วจนโต ปน ปุเพฺพ กาตุํ น วฎฺฎติ, ตญฺจ ทฺวิธา อกตฺวา เฉทนเภทนเมว ทเสฺสตพฺพํฯ กโรเนฺตน จ ภิกฺขุนา ‘‘กปฺปิยํ กโรหี’’ติ ยาย กายจิ ภาสาย วุเตฺตเยว กาตพฺพํฯ พีชคามปริโมจนตฺถํ ปุน กปฺปิยํ กาเรตพฺพนฺติ การาปนสฺส ปฐมเมว อธิกตตฺตาฯ ‘‘กฎาเหปิ กาตุํ วฎฺฎตี’’ติ วุตฺตตฺตา กฎาหโต นีหตาย มิญฺชาย วา พีเช วา ยตฺถ กตฺถจิ วิชฺฌิตุํ วฎฺฎติ เอวฯ ภูตคาโม, ภูตคามสญฺญิตา, วิโกปนํ วา วิโกปาปนํ วาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิฯ
Samaṇakappehīti samaṇānaṃ kappiyavohārehi, abījanibbaṭṭabījānipi kappiyabhāvato ‘‘samaṇakappānī’’ti vuttāni. Abījaṃ nāma taruṇaambaphalādīni. Nibbaṭṭetabbaṃ viyojetabbaṃ bījaṃ yasmiṃ, taṃ panasādi nibbaṭṭabījaṃ nāma. Kappiyanti vatvāvāti pubbakālakiriyāvasena vuttepi vacanakkhaṇeva aggisatthādinā bījagāme vaṇaṃ kātabbanti vacanato pana pubbe kātuṃ na vaṭṭati, tañca dvidhā akatvā chedanabhedanameva dassetabbaṃ. Karontena ca bhikkhunā ‘‘kappiyaṃ karohī’’ti yāya kāyaci bhāsāya vutteyeva kātabbaṃ. Bījagāmaparimocanatthaṃ puna kappiyaṃ kāretabbanti kārāpanassa paṭhamameva adhikatattā. ‘‘Kaṭāhepi kātuṃ vaṭṭatī’’ti vuttattā kaṭāhato nīhatāya miñjāya vā bīje vā yattha katthaci vijjhituṃ vaṭṭati eva. Bhūtagāmo, bhūtagāmasaññitā, vikopanaṃ vā vikopāpanaṃ vāti imānettha tīṇi aṅgāni.
ภูตคามสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Bhūtagāmasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๒. ภูตคามวโคฺค • 2. Bhūtagāmavaggo
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๑. ภูตคามสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Bhūtagāmasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๑. ภูตคามสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Bhūtagāmasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๑. ภูตคามสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Bhūtagāmasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๑. ภูตคามสิกฺขาปท-อตฺถโยชนา • 1. Bhūtagāmasikkhāpada-atthayojanā