Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga |
๒. ภูตคามวโคฺค
2. Bhūtagāmavaggo
๑. ภูตคามสิกฺขาปทํ
1. Bhūtagāmasikkhāpadaṃ
๘๙. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา อาฬวิยํ วิหรติ อคฺคาฬเว เจติเยฯ เตน โข ปน สมเยน อาฬวกา ภิกฺขู นวกมฺมํ กโรนฺตา รุกฺขํ ฉินฺทนฺติปิ เฉทาเปนฺติปิฯ อญฺญตโรปิ อาฬวโก ภิกฺขุ รุกฺขํ ฉินฺทติฯ ตสฺมิํ รุเกฺข อธิวตฺถา เทวตา ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘มา, ภเนฺต, อตฺตโน ภวนํ กตฺตุกาโม มยฺหํ ภวนํ ฉินฺที’’ติฯ โส ภิกฺขุ อนาทิยโนฺต ฉินฺทิ เยว, ตสฺสา จ เทวตาย ทารกสฺส พาหุํ อาโกเฎสิฯ อถ โข ตสฺสา เทวตาย เอตทโหสิ – ‘‘ยํนฺนูนาหํ อิมํ ภิกฺขุํ อิเธว ชีวิตา โวโรเปยฺย’’นฺติฯ อถ โข ตสฺสา เทวตาย เอตทโหสิ – ‘‘น โข เมตํ ปติรูปํ ยาหํ อิมํ ภิกฺขุํ อิเธว ชีวิตา โวโรเปยฺยํฯ ยนฺนูนาหํ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจยฺย’’นฺติฯ อถ โข สา เทวตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ ‘‘สาธุ สาธุ เทวเต! สาธุ โข ตฺวํ, เทวเต, ตํ ภิกฺขุํ ชีวิตา น โวโรเปสิฯ สจชฺช ตฺวํ, เทวเต, ตํ ภิกฺขุํ ชีวิตา โวโรเปยฺยาสิ, พหุญฺจ ตฺวํ, เทวเต, อปุญฺญํ ปสเวยฺยาสิฯ คจฺฉ ตฺวํ, เทวเต, อมุกสฺมิํ โอกาเส รุโกฺข วิวิโตฺต ตสฺมิํ อุปคจฺฉา’’ติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา รุกฺขํ ฉินฺทิสฺสนฺติปิ เฉทาเปสฺสนฺติปิ เอกินฺทฺริยํ สมณา สกฺยปุตฺติยา ชีวํ วิเหเฐสฺสนฺตี’’ติ!
89. Tena samayena buddho bhagavā āḷaviyaṃ viharati aggāḷave cetiye. Tena kho pana samayena āḷavakā bhikkhū navakammaṃ karontā rukkhaṃ chindantipi chedāpentipi. Aññataropi āḷavako bhikkhu rukkhaṃ chindati. Tasmiṃ rukkhe adhivatthā devatā taṃ bhikkhuṃ etadavoca – ‘‘mā, bhante, attano bhavanaṃ kattukāmo mayhaṃ bhavanaṃ chindī’’ti. So bhikkhu anādiyanto chindi yeva, tassā ca devatāya dārakassa bāhuṃ ākoṭesi. Atha kho tassā devatāya etadahosi – ‘‘yaṃnnūnāhaṃ imaṃ bhikkhuṃ idheva jīvitā voropeyya’’nti. Atha kho tassā devatāya etadahosi – ‘‘na kho metaṃ patirūpaṃ yāhaṃ imaṃ bhikkhuṃ idheva jīvitā voropeyyaṃ. Yannūnāhaṃ bhagavato etamatthaṃ āroceyya’’nti. Atha kho sā devatā yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavato etamatthaṃ ārocesi. ‘‘Sādhu sādhu devate! Sādhu kho tvaṃ, devate, taṃ bhikkhuṃ jīvitā na voropesi. Sacajja tvaṃ, devate, taṃ bhikkhuṃ jīvitā voropeyyāsi, bahuñca tvaṃ, devate, apuññaṃ pasaveyyāsi. Gaccha tvaṃ, devate, amukasmiṃ okāse rukkho vivitto tasmiṃ upagacchā’’ti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma samaṇā sakyaputtiyā rukkhaṃ chindissantipi chedāpessantipi ekindriyaṃ samaṇā sakyaputtiyā jīvaṃ viheṭhessantī’’ti!
อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ มนุสฺสานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม อาฬวกา ภิกฺขู รุกฺขํ ฉินฺทิสฺสนฺติปิ เฉทาเปสฺสนฺติปี’’ติ…เป.… ‘‘สจฺจํ กิร ตุเมฺห, ภิกฺขเว, รุกฺขํ ฉินฺทถาปิ เฉทาเปถาปี’’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตุเมฺห, โมฆปุริสา, รุกฺขํ ฉินฺทิสฺสถาปิ, เฉทาเปสฺสถาปิ! ชีวสญฺญิโน หิ, โมฆปุริสา, มนุสฺสา รุกฺขสฺมิํ, เนตํ โมฆปุริสา อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –
Assosuṃ kho bhikkhū tesaṃ manussānaṃ ujjhāyantānaṃ khiyyantānaṃ vipācentānaṃ. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma āḷavakā bhikkhū rukkhaṃ chindissantipi chedāpessantipī’’ti…pe… ‘‘saccaṃ kira tumhe, bhikkhave, rukkhaṃ chindathāpi chedāpethāpī’’ti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tumhe, moghapurisā, rukkhaṃ chindissathāpi, chedāpessathāpi! Jīvasaññino hi, moghapurisā, manussā rukkhasmiṃ, netaṃ moghapurisā appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –
๙๐. ‘‘ภูตคามปาตพฺยตาย ปาจิตฺติย’’นฺติฯ
90.‘‘Bhūtagāmapātabyatāya pācittiya’’nti.
๙๑. ภูตคาโม นาม ปญฺจ พีชชาตานิ – มูลพีชํ, ขนฺธพีชํ, ผฬุพีชํ, อคฺคพีชํ, พีชพีชเมว 1 ปญฺจมํฯ
91.Bhūtagāmo nāma pañca bījajātāni – mūlabījaṃ, khandhabījaṃ, phaḷubījaṃ, aggabījaṃ, bījabījameva 2 pañcamaṃ.
มูลพีชํ นาม – หลิทฺทิ, สิงฺคิเวรํ, วจา, วจตฺตํ, อติวิสา, กฎุกโรหิณี, อุสีรํ, ภทฺทมูตฺตกํ, ยานิ วา ปนญฺญานิปิ อตฺถิ มูเล ชายนฺติ, มูเล สญฺชายนฺติ, เอตํ มูลพีชํ นามฯ
Mūlabījaṃ nāma – haliddi, siṅgiveraṃ, vacā, vacattaṃ, ativisā, kaṭukarohiṇī, usīraṃ, bhaddamūttakaṃ, yāni vā panaññānipi atthi mūle jāyanti, mūle sañjāyanti, etaṃ mūlabījaṃ nāma.
ขนฺธพีชํ นาม – อสฺสโตฺถ, นิโคฺรโธ, ปิลโกฺข, อุทุมฺพโร, กจฺฉโก, กปิตฺถโน, ยานิ วา ปนญฺญานิปิ อตฺถิ ขเนฺธ ชายนฺติ, ขเนฺธ สญฺชายนฺติ, เอตํ ขนฺธพีชํ นามฯ
Khandhabījaṃ nāma – assattho, nigrodho, pilakkho, udumbaro, kacchako, kapitthano, yāni vā panaññānipi atthi khandhe jāyanti, khandhe sañjāyanti, etaṃ khandhabījaṃ nāma.
ผฬุพีชํ นาม – อุจฺฉุ, เวฬุ, นโฬ, ยานิ วา ปนญฺญานิปิ อตฺถิ ปเพฺพ ชายนฺติ, ปเพฺพ สญฺชายนฺติ, เอตํ ผฬุพีชํ นามฯ
Phaḷubījaṃ nāma – ucchu, veḷu, naḷo, yāni vā panaññānipi atthi pabbe jāyanti, pabbe sañjāyanti, etaṃ phaḷubījaṃ nāma.
อคฺคพีชํ นาม – อชฺชุกํ, ผณิชฺชกํ, หิริเวรํ, ยานิ วา ปนญฺญานิปิ อตฺถิ อเคฺค ชายนฺติ, อเคฺค สญฺชายนฺติ, เอตํ อคฺคพีชํ นามฯ
Aggabījaṃ nāma – ajjukaṃ, phaṇijjakaṃ, hiriveraṃ, yāni vā panaññānipi atthi agge jāyanti, agge sañjāyanti, etaṃ aggabījaṃ nāma.
พีชพีชํ นาม – ปุพฺพณฺณํ, อปรณฺณํ, ยานิ วา ปนญฺญานิปิ อตฺถิ พีเช ชายนฺติ, พีเช สญฺชายนฺติ, เอตํ พีชพีชํ นามฯ
Bījabījaṃ nāma – pubbaṇṇaṃ, aparaṇṇaṃ, yāni vā panaññānipi atthi bīje jāyanti, bīje sañjāyanti, etaṃ bījabījaṃ nāma.
๙๒. พีเช พีชสญฺญี ฉินฺทติ วา เฉทาเปติ วา, ภินฺทติ วา เภทาเปติ วา, ปจติ วา ปจาเปติ วา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ พีเช เวมติโก ฉินฺทติ วา เฉทาเปติ วา, ภินฺทติ วา เภทาเปติ วา, ปจติ วา ปจาเปติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ พีเช อพีชสญฺญี ฉินฺทติ วา เฉทาเปติ วา, ภินฺทติ วา เภทาเปติ วา, ปจติ วา ปจาเปติ วา, อนาปตฺติฯ อพีเช พีชสญฺญี อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อพีเช เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อพีเช อพีชสญฺญี, อนาปตฺติฯ
92. Bīje bījasaññī chindati vā chedāpeti vā, bhindati vā bhedāpeti vā, pacati vā pacāpeti vā, āpatti pācittiyassa. Bīje vematiko chindati vā chedāpeti vā, bhindati vā bhedāpeti vā, pacati vā pacāpeti vā, āpatti dukkaṭassa. Bīje abījasaññī chindati vā chedāpeti vā, bhindati vā bhedāpeti vā, pacati vā pacāpeti vā, anāpatti. Abīje bījasaññī āpatti dukkaṭassa. Abīje vematiko, āpatti dukkaṭassa. Abīje abījasaññī, anāpatti.
๙๓. อนาปตฺติ – ‘‘อิมํ ชาน, อิมํ เทหิ, อิมํ อาหร, อิมินา อโตฺถ, อิมํ กปฺปิยํ กโรหี’’ติ ภณติ, อสญฺจิจฺจ, อสฺสติยา, อชานนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ
93. Anāpatti – ‘‘imaṃ jāna, imaṃ dehi, imaṃ āhara, iminā attho, imaṃ kappiyaṃ karohī’’ti bhaṇati, asañcicca, assatiyā, ajānantassa, ummattakassa, ādikammikassāti.
ภูตคามสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ ปฐมํฯ
Bhūtagāmasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ paṭhamaṃ.
๒. อญฺญวาทกสิกฺขาปทํ
2. Aññavādakasikkhāpadaṃ
๙๔. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา โกสมฺพิยํ วิหรติ โฆสิตาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา ฉโนฺน อนาจารํ อาจริตฺวา สงฺฆมเชฺฌ อาปตฺติยา อนุยุญฺชียมาโน อเญฺญนญฺญํ ปฎิจรติ – ‘‘โก อาปโนฺน, กิํ อาปโนฺน, กิสฺมิํ อาปโนฺน, กถํ อาปโนฺน, กํ ภณถ, กิํ ภณถา’’ติ? เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม อายสฺมา ฉโนฺน สงฺฆมเชฺฌ อาปตฺติยา อนุยุญฺชียมาโน อเญฺญนญฺญํ ปฎิจริสฺสติ – โก อาปโนฺน, กิํ อาปโนฺน, กิสฺมิํ อาปโนฺน, กถํ อาปโนฺน, กํ ภณถ, กิํ ภณถา’’ติ…เป.… สจฺจํ กิร ตฺวํ, ฉนฺน, สงฺฆมเชฺฌ อาปตฺติยา อนุยุญฺชียมาโน อเญฺญนญฺญํ ปฎิจรสิ – โก อาปโนฺน, กิํ อาปโนฺน, กิสฺมิํ อาปโนฺน, กถํ อาปโนฺน, กํ ภณถ, กิํ ภณถาติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส, สงฺฆมเชฺฌ อาปตฺติยา อนุยุญฺชียมาโน อเญฺญนญฺญํ ปฎิจริสฺสสิ – โก อาปโนฺน, กิํ อาปโนฺน, กิสฺมิํ อาปโนฺน, กถํ อาปโนฺน, กํ ภณถ, กิํ ภณถาติ! เนตํ, โมฆปุริส, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… วิครหิตฺวา…เป.… ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, สโงฺฆ ฉนฺนสฺส ภิกฺขุโน อญฺญวาทกํ โรเปตุฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว , โรเปตพฺพํฯ พฺยเตฺตน ภิกฺขุนา ปฎิพเลน สโงฺฆ ญาเปตโพฺพ –
94. Tena samayena buddho bhagavā kosambiyaṃ viharati ghositārāme. Tena kho pana samayena āyasmā channo anācāraṃ ācaritvā saṅghamajjhe āpattiyā anuyuñjīyamāno aññenaññaṃ paṭicarati – ‘‘ko āpanno, kiṃ āpanno, kismiṃ āpanno, kathaṃ āpanno, kaṃ bhaṇatha, kiṃ bhaṇathā’’ti? Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma āyasmā channo saṅghamajjhe āpattiyā anuyuñjīyamāno aññenaññaṃ paṭicarissati – ko āpanno, kiṃ āpanno, kismiṃ āpanno, kathaṃ āpanno, kaṃ bhaṇatha, kiṃ bhaṇathā’’ti…pe… saccaṃ kira tvaṃ, channa, saṅghamajjhe āpattiyā anuyuñjīyamāno aññenaññaṃ paṭicarasi – ko āpanno, kiṃ āpanno, kismiṃ āpanno, kathaṃ āpanno, kaṃ bhaṇatha, kiṃ bhaṇathāti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tvaṃ, moghapurisa, saṅghamajjhe āpattiyā anuyuñjīyamāno aññenaññaṃ paṭicarissasi – ko āpanno, kiṃ āpanno, kismiṃ āpanno, kathaṃ āpanno, kaṃ bhaṇatha, kiṃ bhaṇathāti! Netaṃ, moghapurisa, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… vigarahitvā…pe… dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘tena hi, bhikkhave, saṅgho channassa bhikkhuno aññavādakaṃ ropetu. Evañca pana, bhikkhave , ropetabbaṃ. Byattena bhikkhunā paṭibalena saṅgho ñāpetabbo –
๙๕. ‘‘สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆฯ อยํ ฉโนฺน ภิกฺขุ สงฺฆมเชฺฌ อาปตฺติยา อนุยุญฺชียมาโน อเญฺญนญฺญํ ปฎิจรติฯ ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สโงฺฆ ฉนฺนสฺส ภิกฺขุโน อญฺญวาทกํ โรเปยฺยฯ เอสา ญตฺติฯ
95. ‘‘Suṇātu me, bhante, saṅgho. Ayaṃ channo bhikkhu saṅghamajjhe āpattiyā anuyuñjīyamāno aññenaññaṃ paṭicarati. Yadi saṅghassa pattakallaṃ, saṅgho channassa bhikkhuno aññavādakaṃ ropeyya. Esā ñatti.
‘‘สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆฯ อยํ ฉโนฺน ภิกฺขุ สงฺฆมเชฺฌ อาปตฺติยา อนุยุญฺชียมาโน อเญฺญนญฺญํ ปฎิจรติฯ สโงฺฆ ฉนฺนสฺส ภิกฺขุโน อญฺญวาทกํ โรเปติฯ ยสฺสายสฺมโต ขมติ ฉนฺนสฺส ภิกฺขุโน อญฺญวาทกสฺส โรปนา, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺยฯ
‘‘Suṇātu me, bhante, saṅgho. Ayaṃ channo bhikkhu saṅghamajjhe āpattiyā anuyuñjīyamāno aññenaññaṃ paṭicarati. Saṅgho channassa bhikkhuno aññavādakaṃ ropeti. Yassāyasmato khamati channassa bhikkhuno aññavādakassa ropanā, so tuṇhassa; yassa nakkhamati, so bhāseyya.
‘‘โรปิตํ สเงฺฆน ฉนฺนสฺส ภิกฺขุโน อญฺญวาทกํฯ ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติฯ
‘‘Ropitaṃ saṅghena channassa bhikkhuno aññavādakaṃ. Khamati saṅghassa, tasmā tuṇhī, evametaṃ dhārayāmī’’ti.
อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ ฉนฺนํ อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ทุพฺภรตาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –
Atha kho bhagavā āyasmantaṃ channaṃ anekapariyāyena vigarahitvā dubbharatāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –
‘‘อญฺญวาทเก ปาจิตฺติย’’นฺติฯ
‘‘Aññavādake pācittiya’’nti.
เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ
Evañcidaṃ bhagavatā bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ hoti.
๙๖. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา ฉโนฺน สงฺฆมเชฺฌ อาปตฺติยา อนุยุญฺชียมาโน ‘‘อเญฺญนญฺญํ ปฎิจรโนฺต – ‘‘อาปตฺติํ อาปชฺชิสฺสามี’’ติ ตุณฺหีภูโต สงฺฆํ วิเหเสติฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม อายสฺมา ฉโนฺน สงฺฆมเชฺฌ อาปตฺติยา อนุยุญฺชียมาโน ตุณฺหีภูโต สงฺฆํ วิเหเสสฺสตี’’ติ…เป.… สจฺจํ กิร ตฺวํ, ฉนฺน, สงฺฆมเชฺฌ อาปตฺติยา อนุยุญฺชียมาโน ตุณฺหีภูโต สงฺฆํ วิเหเสสีติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส, สงฺฆมเชฺฌ อาปตฺติยา อนุยุญฺชียมาโน ตุณฺหีภูโต สงฺฆํ วิเหเสสฺสสิ! เนตํ, โมฆปุริส, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… วิครหิตฺวา…เป.… ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, สโงฺฆ ฉนฺนสฺส ภิกฺขุโน วิเหสกํ โรเปตุฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, โรเปตพฺพํฯ พฺยเตฺตน ภิกฺขุนา ปฎิพเลน สโงฺฆ ญาเปตโพฺพ –
96. Tena kho pana samayena āyasmā channo saṅghamajjhe āpattiyā anuyuñjīyamāno ‘‘aññenaññaṃ paṭicaranto – ‘‘āpattiṃ āpajjissāmī’’ti tuṇhībhūto saṅghaṃ viheseti. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma āyasmā channo saṅghamajjhe āpattiyā anuyuñjīyamāno tuṇhībhūto saṅghaṃ vihesessatī’’ti…pe… saccaṃ kira tvaṃ, channa, saṅghamajjhe āpattiyā anuyuñjīyamāno tuṇhībhūto saṅghaṃ vihesesīti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tvaṃ, moghapurisa, saṅghamajjhe āpattiyā anuyuñjīyamāno tuṇhībhūto saṅghaṃ vihesessasi! Netaṃ, moghapurisa, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… vigarahitvā…pe… dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘tena hi, bhikkhave, saṅgho channassa bhikkhuno vihesakaṃ ropetu. Evañca pana, bhikkhave, ropetabbaṃ. Byattena bhikkhunā paṭibalena saṅgho ñāpetabbo –
๙๗. ‘‘สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆฯ อยํ ฉโนฺน ภิกฺขุ สงฺฆมเชฺฌ อาปตฺติยา อนุยุญฺชียมาโน ตุณฺหีภูโต สงฺฆํ วิเหเสติฯ ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สโงฺฆ ฉนฺนสฺส ภิกฺขุโน วิเหสกํ โรเปยฺยฯ เอสา ญตฺติฯ
97. ‘‘Suṇātu me, bhante, saṅgho. Ayaṃ channo bhikkhu saṅghamajjhe āpattiyā anuyuñjīyamāno tuṇhībhūto saṅghaṃ viheseti. Yadi saṅghassa pattakallaṃ, saṅgho channassa bhikkhuno vihesakaṃ ropeyya. Esā ñatti.
‘‘สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆฯ อยํ ฉโนฺน ภิกฺขุ สงฺฆมเชฺฌ อาปตฺติยา อนุยุญฺชียมาโน ตุณฺหีภูโต สงฺฆํ วิเหเสติฯ สโงฺฆ ฉนฺนสฺส ภิกฺขุโน วิเหสกํ โรเปติฯ ยสฺสายสฺมาโต ขมติ ฉนฺนสฺส ภิกฺขุโน วิเหสกสฺส โรปนา, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺยฯ
‘‘Suṇātu me, bhante, saṅgho. Ayaṃ channo bhikkhu saṅghamajjhe āpattiyā anuyuñjīyamāno tuṇhībhūto saṅghaṃ viheseti. Saṅgho channassa bhikkhuno vihesakaṃ ropeti. Yassāyasmāto khamati channassa bhikkhuno vihesakassa ropanā, so tuṇhassa; yassa nakkhamati, so bhāseyya.
‘‘โรปิตํ สเงฺฆน ฉนฺนสฺส ภิกฺขุโน วิเหสกํฯ ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติฯ
‘‘Ropitaṃ saṅghena channassa bhikkhuno vihesakaṃ. Khamati saṅghassa, tasmā tuṇhī, evametaṃ dhārayāmī’’ti.
อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ ฉนฺนํ อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ทุพฺภรตาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –
Atha kho bhagavā āyasmantaṃ channaṃ anekapariyāyena vigarahitvā dubbharatāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –
๙๘. ‘‘อญฺญวาทเก วิเหสเก ปาจิตฺติย’’นฺติฯ
98.‘‘Aññavādake vihesake pācittiya’’nti.
๙๙. อญฺญวาทโก นาม สงฺฆมเชฺฌ วตฺถุสฺมิํ วา อาปตฺติยา วา อนุยุญฺชียมาโน ตํ น กเถตุกาโม ตํ น อุคฺฆาเฎตุกาโม อเญฺญนญฺญํ ปฎิจรติ – ‘‘โก อาปโนฺน, กิํ อาปโนฺน, กิสฺมิํ อาปโนฺน, กถํ อาปโนฺน, กํ ภณถ, กิํ ภณถา’’ติฯ เอโส อญฺญวาทโก นามฯ
99.Aññavādako nāma saṅghamajjhe vatthusmiṃ vā āpattiyā vā anuyuñjīyamāno taṃ na kathetukāmo taṃ na ugghāṭetukāmo aññenaññaṃ paṭicarati – ‘‘ko āpanno, kiṃ āpanno, kismiṃ āpanno, kathaṃ āpanno, kaṃ bhaṇatha, kiṃ bhaṇathā’’ti. Eso aññavādako nāma.
วิเหสโก นาม สงฺฆมเชฺฌ วตฺถุสฺมิํ วา อาปตฺติยา วา อนุยุญฺชียมาโน ตํ น กเถตุกาโม ตํ น อุคฺฆาเฎตุกาโม ตุณฺหีภูโต สงฺฆํ วิเหเสติฯ เอโส วิเหสโก นามฯ
Vihesako nāma saṅghamajjhe vatthusmiṃ vā āpattiyā vā anuyuñjīyamāno taṃ na kathetukāmo taṃ na ugghāṭetukāmo tuṇhībhūto saṅghaṃ viheseti. Eso vihesako nāma.
๑๐๐. อาโรปิเต อญฺญวาทเก สงฺฆมเชฺฌ วตฺถุสฺมิํ วา อาปตฺติยา วา อนุยุญฺชียมาโน ตํ น กเถตุกาโม ตํ น อุคฺฆาเฎตุกาโม อเญฺญนญฺญํ ปฎิจรติ – ‘‘โก อาปโนฺน, กิํ อาปโนฺน, กิสฺมิํ อาปโนฺน, กถํ อาปโนฺน, กํ ภณถ, กิํ ภณถา’’ติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อาโรปิเต วิเหสเก สงฺฆมเชฺฌ วตฺถุสฺมิํ วา อาปตฺติยา วา อนุยุญฺชียมาโน ตํ น กเถตุกาโม ตํ น อุคฺฆาเฎตุกาโม ตุณฺหีภูโต สงฺฆํ วิเหเสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ โรปิเต อญฺญวาทเก สงฺฆมเชฺฌ วตฺถุสฺมิํ วา อาปตฺติยา วา อนุยุญฺชียมาโน ตํ น กเถตุกาโม ตํ น อุคฺฆาเฎตุกาโม อเญฺญนญฺญํ ปฎิจรติ – ‘‘โก อาปโนฺน, กิํ อาปโนฺน, กิสฺมิํ อาปโนฺน, กถํ อาปโนฺน, กํ ภณถ, กิํ ภณถา’’ติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส ฯ โรปิเต วิเหสเก สงฺฆมเชฺฌ วตฺถุสฺมิํ วา อาปตฺติยา วา อนุยุญฺชียมาโน ตํ น กเถตุกาโม ตํ น อุคฺฆาเฎตุกาโม ตุณฺหีภูโต สงฺฆํ วิเหเสติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ
100. Āropite aññavādake saṅghamajjhe vatthusmiṃ vā āpattiyā vā anuyuñjīyamāno taṃ na kathetukāmo taṃ na ugghāṭetukāmo aññenaññaṃ paṭicarati – ‘‘ko āpanno, kiṃ āpanno, kismiṃ āpanno, kathaṃ āpanno, kaṃ bhaṇatha, kiṃ bhaṇathā’’ti, āpatti dukkaṭassa. Āropite vihesake saṅghamajjhe vatthusmiṃ vā āpattiyā vā anuyuñjīyamāno taṃ na kathetukāmo taṃ na ugghāṭetukāmo tuṇhībhūto saṅghaṃ viheseti, āpatti dukkaṭassa. Ropite aññavādake saṅghamajjhe vatthusmiṃ vā āpattiyā vā anuyuñjīyamāno taṃ na kathetukāmo taṃ na ugghāṭetukāmo aññenaññaṃ paṭicarati – ‘‘ko āpanno, kiṃ āpanno, kismiṃ āpanno, kathaṃ āpanno, kaṃ bhaṇatha, kiṃ bhaṇathā’’ti, āpatti pācittiyassa . Ropite vihesake saṅghamajjhe vatthusmiṃ vā āpattiyā vā anuyuñjīyamāno taṃ na kathetukāmo taṃ na ugghāṭetukāmo tuṇhībhūto saṅghaṃ viheseti, āpatti pācittiyassa.
๑๐๑. ธมฺมกเมฺม ธมฺมกมฺมสญฺญี อญฺญวาทเก วิเหสเก, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ ธมฺมกเมฺม เวมติโก อญฺญวาทเก วิเหสเก, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ ธมฺมกเมฺม อธมฺมกมฺมสญฺญี อญฺญวาทเก วิเหสเก, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อธมฺมกเมฺม ธมฺมกมฺมสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อธมฺมกเมฺม เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อธมฺมกเมฺม อธมฺมกมฺมสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ
101. Dhammakamme dhammakammasaññī aññavādake vihesake, āpatti pācittiyassa. Dhammakamme vematiko aññavādake vihesake, āpatti pācittiyassa. Dhammakamme adhammakammasaññī aññavādake vihesake, āpatti pācittiyassa. Adhammakamme dhammakammasaññī, āpatti dukkaṭassa. Adhammakamme vematiko, āpatti dukkaṭassa. Adhammakamme adhammakammasaññī, āpatti dukkaṭassa.
๑๐๒. อนาปตฺติ อชานโนฺต ปุจฺฉติ, คิลาโน วา น กเถติ; ‘‘สงฺฆสฺส ภณฺฑนํ วา กลโห วา วิคฺคโห วา วิวาโท วา ภวิสฺสตี’’ติ น กเถติ; ‘‘สงฺฆเภโท วา สงฺฆราชิ วา ภวิสฺสตี’’ติ น กเถติ; ‘‘อธเมฺมน วา วเคฺคน วา นกมฺมารหสฺส วา กมฺมํ กริสฺสตี’’ติ น กเถติ; อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ
102. Anāpatti ajānanto pucchati, gilāno vā na katheti; ‘‘saṅghassa bhaṇḍanaṃ vā kalaho vā viggaho vā vivādo vā bhavissatī’’ti na katheti; ‘‘saṅghabhedo vā saṅgharāji vā bhavissatī’’ti na katheti; ‘‘adhammena vā vaggena vā nakammārahassa vā kammaṃ karissatī’’ti na katheti; ummattakassa, ādikammikassāti.
อญฺญวาทกสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ ทุติยํฯ
Aññavādakasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ dutiyaṃ.
๓. อุชฺฌาปนกสิกฺขาปทํ
3. Ujjhāpanakasikkhāpadaṃ
๑๐๓. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา ทโพฺพ มลฺลปุโตฺต สงฺฆสฺส เสนาสนญฺจ ปญฺญเปติ ภตฺตานิ จ อุทฺทิสติฯ เตน โข ปน สมเยน เมตฺติยภูมชกา 3 ภิกฺขู นวกา เจว โหนฺติ อปฺปปุญฺญา จ ฯ ยานิ สงฺฆสฺส ลามกานิ เสนาสนานิ ตานิ เตสํ ปาปุณนฺติ ลามกานิ จ ภตฺตานิฯ เต อายสฺมนฺตํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ ภิกฺขู อุชฺฌาเปนฺติ – ‘‘ฉนฺทาย ทโพฺพ มลฺลปุโตฺต เสนาสนํ ปญฺญเปติ, ฉนฺทาย จ ภตฺตานิ อุทฺทิสตี’’ติฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม เมตฺติยภูมชกา ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ ภิกฺขู อุชฺฌาเปสฺสนฺตี’’ติ…เป.… ‘‘สจฺจํ กิร ตุเมฺห, ภิกฺขเว, ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ ภิกฺขู อุชฺฌาเปถา’’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตุเมฺห, โมฆปุริสา, ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ ภิกฺขู อุชฺฌาเปสฺสถ! เนตํ, โมฆปุริสา, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –
103. Tena samayena buddho bhagavā rājagahe viharati veḷuvane kalandakanivāpe. Tena kho pana samayena āyasmā dabbo mallaputto saṅghassa senāsanañca paññapeti bhattāni ca uddisati. Tena kho pana samayena mettiyabhūmajakā 4 bhikkhū navakā ceva honti appapuññā ca . Yāni saṅghassa lāmakāni senāsanāni tāni tesaṃ pāpuṇanti lāmakāni ca bhattāni. Te āyasmantaṃ dabbaṃ mallaputtaṃ bhikkhū ujjhāpenti – ‘‘chandāya dabbo mallaputto senāsanaṃ paññapeti, chandāya ca bhattāni uddisatī’’ti. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma mettiyabhūmajakā bhikkhū āyasmantaṃ dabbaṃ mallaputtaṃ bhikkhū ujjhāpessantī’’ti…pe… ‘‘saccaṃ kira tumhe, bhikkhave, dabbaṃ mallaputtaṃ bhikkhū ujjhāpethā’’ti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tumhe, moghapurisā, dabbaṃ mallaputtaṃ bhikkhū ujjhāpessatha! Netaṃ, moghapurisā, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –
‘‘อุชฺฌาปนเก ปาจิตฺติย’’นฺติฯ
‘‘Ujjhāpanake pācittiya’’nti.
เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ
Evañcidaṃ bhagavatā bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ hoti.
๑๐๔. เตน โข ปน สมเยน เมตฺติยภูมชกา ภิกฺขู – ‘‘ภควตา อุชฺฌาปนกํ ปฎิกฺขิตฺต’’นฺติ, ‘‘เอตฺตาวตา ภิกฺขู โสสฺสนฺตี’’ติ 5 ภิกฺขูนํ สามนฺตา อายสฺมนฺตํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ ขิยฺยนฺติ – ‘‘ฉนฺทาย ทโพฺพ มลฺลปุโตฺต เสนาสนํ ปญฺญเปติ, ฉนฺทาย จ ภตฺตานิ อุทฺทิสตี’’ติฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม เมตฺติยภูมชกา ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ ขิยฺยิสฺสนฺตี’’ติ…เป.… ‘‘สจฺจํ กิร ตุเมฺห, ภิกฺขเว, ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ ขิยฺยถา’’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตุเมฺห, โมฆปุริสา, ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ ขิยฺยิสฺสถ! เนตํ, โมฆปุริสา, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –
104. Tena kho pana samayena mettiyabhūmajakā bhikkhū – ‘‘bhagavatā ujjhāpanakaṃ paṭikkhitta’’nti, ‘‘ettāvatā bhikkhū sossantī’’ti 6 bhikkhūnaṃ sāmantā āyasmantaṃ dabbaṃ mallaputtaṃ khiyyanti – ‘‘chandāya dabbo mallaputto senāsanaṃ paññapeti, chandāya ca bhattāni uddisatī’’ti. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma mettiyabhūmajakā bhikkhū āyasmantaṃ dabbaṃ mallaputtaṃ khiyyissantī’’ti…pe… ‘‘saccaṃ kira tumhe, bhikkhave, dabbaṃ mallaputtaṃ khiyyathā’’ti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tumhe, moghapurisā, dabbaṃ mallaputtaṃ khiyyissatha! Netaṃ, moghapurisā, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –
๑๐๕. ‘‘อุชฺฌาปนเก ขิยฺยนเก ปาจิตฺติย’’นฺติฯ
105.‘‘Ujjhāpanake khiyyanake pācittiya’’nti.
๑๐๖. อุชฺฌาปนกํ นาม อุปสมฺปนฺนํ สเงฺฆน สมฺมตํ เสนาสนปญฺญาปกํ วา ภตฺตุเทฺทสกํ วา ยาคุภาชกํ วา ผลภาชกํ วา ขชฺชภาชกํ วา อปฺปมตฺตกวิสฺสชฺชกํ วา อวณฺณํ กตฺตุกาโม, อยสํ กตฺตุกาโม, มงฺกุกตฺตุกาโม, อุปสมฺปนฺนํ อุชฺฌาเปติ วา ขิยฺยติ วา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ ธมฺมกเมฺม ธมฺมกมฺมสญฺญี อุชฺฌาปนเก ขิยฺยนเก อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ ธมฺมกเมฺม เวมติโก อุชฺฌาปนเก ขิยฺยนเก อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ ธมฺมกเมฺม อธมฺมกมฺมสญฺญี อุชฺฌาปนเก ขิยฺยนเก อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ
106.Ujjhāpanakaṃ nāma upasampannaṃ saṅghena sammataṃ senāsanapaññāpakaṃ vā bhattuddesakaṃ vā yāgubhājakaṃ vā phalabhājakaṃ vā khajjabhājakaṃ vā appamattakavissajjakaṃ vā avaṇṇaṃ kattukāmo, ayasaṃ kattukāmo, maṅkukattukāmo, upasampannaṃ ujjhāpeti vā khiyyati vā, āpatti pācittiyassa. Dhammakamme dhammakammasaññī ujjhāpanake khiyyanake āpatti pācittiyassa. Dhammakamme vematiko ujjhāpanake khiyyanake āpatti pācittiyassa. Dhammakamme adhammakammasaññī ujjhāpanake khiyyanake āpatti pācittiyassa.
อนุปสมฺปนฺนํ อุชฺฌาเปติ วา ขิยฺยติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อุปสมฺปนฺนํ สเงฺฆน อสมฺมตํ เสนาสนปญฺญาปกํ วา ภตฺตุเทฺทสกํ วา ยาคุภาชกํ วา ผลภาชกํ วา ขชฺชภาชกํ วา อปฺปมตฺตกวิสฺสชฺชกํ วา อวณฺณํ กตฺตุกาโม, อยสํ กตฺตุกาโม, มงฺกุกตฺตุกาโม, อุปสมฺปนฺนํ วา อนุปสมฺปนฺนํ วา อุชฺฌาเปติ วา ขิยฺยติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุปสมฺปนฺนํ สเงฺฆน สมฺมตํ วา อสมฺมตํ วา เสนาสนปญฺญาปกํ วา ภตฺตุเทฺทสกํ วา ยาคุภาชกํ วา ผลภาชกํ วา ขชฺชภาชกํ วา อปฺปมตฺตกวิสฺสชฺชกํ วา อวณฺณํ กตฺตุกาโม, อยสํ กตฺตุกาโม, มงฺกุกตฺตุกาโม, อุปสมฺปนฺนํ วา อนุปสมฺปนฺนํ วา อุชฺฌาเปติ วา ขิยฺยติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อธมฺมกเมฺม ธมฺมกมฺมสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อธมฺมกเมฺม เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อธมฺมกเมฺม อธมฺมกมฺมสญฺญี อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ
Anupasampannaṃ ujjhāpeti vā khiyyati vā, āpatti dukkaṭassa. Upasampannaṃ saṅghena asammataṃ senāsanapaññāpakaṃ vā bhattuddesakaṃ vā yāgubhājakaṃ vā phalabhājakaṃ vā khajjabhājakaṃ vā appamattakavissajjakaṃ vā avaṇṇaṃ kattukāmo, ayasaṃ kattukāmo, maṅkukattukāmo, upasampannaṃ vā anupasampannaṃ vā ujjhāpeti vā khiyyati vā, āpatti dukkaṭassa. Anupasampannaṃ saṅghena sammataṃ vā asammataṃ vā senāsanapaññāpakaṃ vā bhattuddesakaṃ vā yāgubhājakaṃ vā phalabhājakaṃ vā khajjabhājakaṃ vā appamattakavissajjakaṃ vā avaṇṇaṃ kattukāmo, ayasaṃ kattukāmo, maṅkukattukāmo, upasampannaṃ vā anupasampannaṃ vā ujjhāpeti vā khiyyati vā, āpatti dukkaṭassa. Adhammakamme dhammakammasaññī, āpatti dukkaṭassa. Adhammakamme vematiko, āpatti dukkaṭassa. Adhammakamme adhammakammasaññī āpatti dukkaṭassa.
๑๐๗. อนาปตฺติ ปกติยา ฉนฺทา โทสา โมหา ภยา กโรนฺตํ อุชฺฌาเปติ วา ขิยฺยติ วา, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ
107. Anāpatti pakatiyā chandā dosā mohā bhayā karontaṃ ujjhāpeti vā khiyyati vā, ummattakassa, ādikammikassāti.
อุชฺฌาปนกสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ ตติยํฯ
Ujjhāpanakasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ tatiyaṃ.
๔. ปฐมเสนาสนสิกฺขาปทํ
4. Paṭhamasenāsanasikkhāpadaṃ
๑๐๘. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู เหมนฺติเก กาเล อโชฺฌกาเส เสนาสนํ ปญฺญเปตฺวา กายํ โอตาเปนฺตา กาเล อาโรจิเต ตํ ปกฺกมนฺตา เนว อุทฺธริํสุ น อุทฺธราเปสุํ, อนาปุจฺฉา ปกฺกมิํสุฯ เสนาสนํ โอวฎฺฐํ โหติฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถํ หิ นาม ภิกฺขู อโชฺฌกาเส เสนาสนํ ปญฺญเปตฺวา ตํ ปกฺกมนฺตา เนว อุทฺธริสฺสนฺติ น อุทฺธราเปสฺสนฺติ, อนาปุจฺฉา ปกฺกมิสฺสนฺติ, เสนาสนํ โอวฎฺฐ’’นฺติ! อถ โข เต ภิกฺขู เต อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… สจฺจํ กิร, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อโชฺฌกาเส…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –
108. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena bhikkhū hemantike kāle ajjhokāse senāsanaṃ paññapetvā kāyaṃ otāpentā kāle ārocite taṃ pakkamantā neva uddhariṃsu na uddharāpesuṃ, anāpucchā pakkamiṃsu. Senāsanaṃ ovaṭṭhaṃ hoti. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathaṃ hi nāma bhikkhū ajjhokāse senāsanaṃ paññapetvā taṃ pakkamantā neva uddharissanti na uddharāpessanti, anāpucchā pakkamissanti, senāsanaṃ ovaṭṭha’’nti! Atha kho te bhikkhū te anekapariyāyena vigarahitvā bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… saccaṃ kira, bhikkhave, bhikkhū ajjhokāse…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –
๑๐๙. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ สงฺฆิกํ มญฺจํ วา ปีฐํ วา ภิสิํ วา โกจฺฉํ วา อโชฺฌกาเส สนฺถริตฺวา วา สนฺถราเปตฺวา วา ตํ ปกฺกมโนฺต เนว อุทฺธเรยฺย น อุทฺธราเปยฺย, อนาปุจฺฉํ วา คเจฺฉยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ
109.‘‘Yo pana bhikkhu saṅghikaṃ mañcaṃ vā pīṭhaṃ vā bhisiṃ vā kocchaṃ vā ajjhokāse santharitvā vā santharāpetvā vā taṃ pakkamanto neva uddhareyya na uddharāpeyya, anāpucchaṃ vā gaccheyya, pācittiya’’nti.
เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ
Evañcidaṃ bhagavatā bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ hoti.
๑๑๐. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู อโชฺฌกาเส วสิตฺวา กาลเสฺสว เสนาสนํ อภิหรนฺติฯ อทฺทสา โข ภควา เต ภิกฺขู กาลเสฺสว เสนาสนํ อภิหรเนฺตฯ ทิสฺวาน เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อฎฺฐ มาเส อวสฺสิกสเงฺกเต 7 มณฺฑเป วา รุกฺขมูเล วา ยตฺถ กากา วา กุลลา วา น อูหทนฺติ ตตฺถ เสนาสนํ นิกฺขิปิตุ’’นฺติฯ
110. Tena kho pana samayena bhikkhū ajjhokāse vasitvā kālasseva senāsanaṃ abhiharanti. Addasā kho bhagavā te bhikkhū kālasseva senāsanaṃ abhiharante. Disvāna etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, aṭṭha māse avassikasaṅkete 8 maṇḍape vā rukkhamūle vā yattha kākā vā kulalā vā na ūhadanti tattha senāsanaṃ nikkhipitu’’nti.
๑๑๑. โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ
111.Yo panāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.
สงฺฆิกํ นาม สงฺฆสฺส ทินฺนํ โหติ ปริจฺจตฺตํฯ
Saṅghikaṃ nāma saṅghassa dinnaṃ hoti pariccattaṃ.
มโญฺจ นาม จตฺตาโร มญฺจา – มสารโก, พุนฺทิกาพโทฺธ, กุฬีรปาทโก, อาหจฺจปาทโกฯ
Mañco nāma cattāro mañcā – masārako, bundikābaddho, kuḷīrapādako, āhaccapādako.
ปีฐํ นาม จตฺตาริ ปีฐานิ – มสารกํ, พุนฺทิกาพทฺธํ, กุฬีรปาทกํ, อาหจฺจปาทกํฯ
Pīṭhaṃ nāma cattāri pīṭhāni – masārakaṃ, bundikābaddhaṃ, kuḷīrapādakaṃ, āhaccapādakaṃ.
ภิสิ นาม ปญฺจ ภิสิโย – อุณฺณภิสิ, โจฬภิติ, วากภิสิ, ติณภิสิ, ปณฺณภิสิฯ
Bhisi nāma pañca bhisiyo – uṇṇabhisi, coḷabhiti, vākabhisi, tiṇabhisi, paṇṇabhisi.
โกจฺฉํ นาม – วากมยํ วา อุสีรมยํ วา มุญฺชมยํ วา ปพฺพชมยํ 9 วา อโนฺต สํเวเฐตฺวา พทฺธํ โหติฯ
Kocchaṃ nāma – vākamayaṃ vā usīramayaṃ vā muñjamayaṃ vā pabbajamayaṃ 10 vā anto saṃveṭhetvā baddhaṃ hoti.
สนฺถริตฺวาติ สยํ สนฺถริตฺวาฯ
Santharitvāti sayaṃ santharitvā.
สนฺถราเปตฺวาติ อญฺญํ สนฺถราเปตฺวาฯ อนุปสมฺปนฺนํ สนฺถราเปติ, ตสฺส ปลิโพโธฯ อุปสมฺปนฺนํ สนฺถราเปติ, สนฺถารกสฺส 11 ปลิโพโธฯ
Santharāpetvāti aññaṃ santharāpetvā. Anupasampannaṃ santharāpeti, tassa palibodho. Upasampannaṃ santharāpeti, santhārakassa 12 palibodho.
ตํ ปกฺกมโนฺต เนว อุทฺธเรยฺยาติ น สยํ อุทฺธเรยฺยฯ
Taṃ pakkamanto neva uddhareyyāti na sayaṃ uddhareyya.
น อุทฺธราเปยฺยาติ น อญฺญํ อุทฺธราเปยฺยฯ
Na uddharāpeyyāti na aññaṃ uddharāpeyya.
อนาปุจฺฉํ วา คเจฺฉยฺยาติ ภิกฺขุํ วา สามเณรํ วา อารามิกํ วา อนาปุจฺฉา มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส เลฑฺฑุปาตํ อติกฺกมนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ
Anāpucchaṃ vā gaccheyyāti bhikkhuṃ vā sāmaṇeraṃ vā ārāmikaṃ vā anāpucchā majjhimassa purisassa leḍḍupātaṃ atikkamantassa āpatti pācittiyassa.
๑๑๒. สงฺฆิเก สงฺฆิกสญฺญี อโชฺฌกาเส สนฺถริตฺวา วา สนฺถราเปตฺวา วา ตํ ปกฺกมโนฺต เนว อุทฺธเรยฺย น อุทฺธราเปยฺย อนาปุจฺฉํ วา คเจฺฉยฺย, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ สงฺฆิเก เวมติโก…เป.… สงฺฆิเก ปุคฺคลิกสญฺญี อโชฺฌกาเส สนฺถริตฺวา วา สนฺถราเปตฺวา วา ตํ ปกฺกมโนฺต เนว อุทฺธเรยฺย น อุทฺธราเปยฺย, อนาปุจฺฉํ วา คเจฺฉยฺย, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ
112. Saṅghike saṅghikasaññī ajjhokāse santharitvā vā santharāpetvā vā taṃ pakkamanto neva uddhareyya na uddharāpeyya anāpucchaṃ vā gaccheyya, āpatti pācittiyassa. Saṅghike vematiko…pe… saṅghike puggalikasaññī ajjhokāse santharitvā vā santharāpetvā vā taṃ pakkamanto neva uddhareyya na uddharāpeyya, anāpucchaṃ vā gaccheyya, āpatti pācittiyassa.
จิมิลิกํ วา อุตฺตรตฺถรณํ วา ภูมตฺถรณํ วา ตฎฺฎิกํ วา จมฺมขณฺฑํ วา ปาทปุญฺฉนิํ วา ผลกปีฐํ วา อโชฺฌกาเส สนฺถริตฺวา วา สนฺถราเปตฺวา วา ตํ ปกฺกมโนฺต เนว อุทฺธเรยฺย น อุทฺธราเปยฺย, อนาปุจฺฉํ วา คเจฺฉยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ปุคฺคลิเก สงฺฆิกสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ปุคฺคลิเก เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ปุคฺคลิเก ปุคฺคลิกสญฺญี อญฺญสฺส ปุคฺคลิเก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อตฺตโน ปุคฺคลิเก อนาปตฺติฯ
Cimilikaṃ vā uttarattharaṇaṃ vā bhūmattharaṇaṃ vā taṭṭikaṃ vā cammakhaṇḍaṃ vā pādapuñchaniṃ vā phalakapīṭhaṃ vā ajjhokāse santharitvā vā santharāpetvā vā taṃ pakkamanto neva uddhareyya na uddharāpeyya, anāpucchaṃ vā gaccheyya, āpatti dukkaṭassa. Puggalike saṅghikasaññī, āpatti dukkaṭassa. Puggalike vematiko, āpatti dukkaṭassa. Puggalike puggalikasaññī aññassa puggalike, āpatti dukkaṭassa. Attano puggalike anāpatti.
๑๑๓. อนาปตฺติ อุทฺธริตฺวา คจฺฉติ, อุทฺธราเปตฺวา คจฺฉติ, อาปุจฺฉํ คจฺฉติ, โอตาเปโนฺต คจฺฉติ, เกนจิ ปลิพุทฺธํ โหติ, อาปทาสุ, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ
113. Anāpatti uddharitvā gacchati, uddharāpetvā gacchati, āpucchaṃ gacchati, otāpento gacchati, kenaci palibuddhaṃ hoti, āpadāsu, ummattakassa, ādikammikassāti.
ปฐมเสนาสนสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ จตุตฺถํฯ
Paṭhamasenāsanasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ catutthaṃ.
๕. ทุติยเสนาสนสิกฺขาปทํ
5. Dutiyasenāsanasikkhāpadaṃ
๑๑๔. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน สตฺตรสวคฺคิยา ภิกฺขู สหายกา โหนฺติฯ เต วสนฺตาปิ เอกโตว วสนฺติ, ปกฺกมนฺตาปิ เอกโตว ปกฺกมนฺติฯ เต อญฺญตรสฺมิํ สงฺฆิเก วิหาเร เสยฺยํ สนฺถริตฺวา ตํ ปกฺกมนฺตา เนว อุทฺธริํสุ น อุทฺธราเปสุํ, อนาปุจฺฉา ปกฺกมิํสุฯ เสนาสนํ อุปจิกาหิ ขายิตํ โหติฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม สตฺตรสวคฺคิยา ภิกฺขู สงฺฆิเก วิหาเร เสยฺยํ สนฺถริตฺวา ตํ ปกฺกมนฺตา เนว อุทฺธริสฺสนฺติ น อุทฺธราเปสฺสนฺติ, อนาปุจฺฉา ปกฺกมิสฺสนฺติ, เสนาสนํ อุปจิกาหิ ขายิต’’นฺติ! อถ โข เต ภิกฺขู สตฺตรสวคฺคิเย ภิกฺขู อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… ‘‘สจฺจํ กิร, ภิกฺขเว, สตฺตรสวคฺคิยา ภิกฺขู สงฺฆิเก วิหาเร เสยฺยํ สนฺถริตฺวา ตํ ปกฺกมนฺตา เนว อุทฺธริํสุ น อุทฺธราเปสุํ, อนาปุจฺฉา ปกฺกมิํสุ, เสนาสนํ อุปจิกาหิ ขายิต’’นฺติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม เต, ภิกฺขเว, โมฆปุริสา สงฺฆิเก วิหาเร เสยฺยํ สนฺถริตฺวา ตํ ปกฺกมนฺตา เนว อุทฺธริสฺสนฺติ น อุทฺธราเปสฺสนฺติ, อนาปุจฺฉา ปกฺกมิสฺสนฺติ, เสนาสนํ อุปจิกาหิ ขายิตํ! เนตํ, ภิกฺขเว, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน , ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –
114. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena sattarasavaggiyā bhikkhū sahāyakā honti. Te vasantāpi ekatova vasanti, pakkamantāpi ekatova pakkamanti. Te aññatarasmiṃ saṅghike vihāre seyyaṃ santharitvā taṃ pakkamantā neva uddhariṃsu na uddharāpesuṃ, anāpucchā pakkamiṃsu. Senāsanaṃ upacikāhi khāyitaṃ hoti. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma sattarasavaggiyā bhikkhū saṅghike vihāre seyyaṃ santharitvā taṃ pakkamantā neva uddharissanti na uddharāpessanti, anāpucchā pakkamissanti, senāsanaṃ upacikāhi khāyita’’nti! Atha kho te bhikkhū sattarasavaggiye bhikkhū anekapariyāyena vigarahitvā bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… ‘‘saccaṃ kira, bhikkhave, sattarasavaggiyā bhikkhū saṅghike vihāre seyyaṃ santharitvā taṃ pakkamantā neva uddhariṃsu na uddharāpesuṃ, anāpucchā pakkamiṃsu, senāsanaṃ upacikāhi khāyita’’nti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma te, bhikkhave, moghapurisā saṅghike vihāre seyyaṃ santharitvā taṃ pakkamantā neva uddharissanti na uddharāpessanti, anāpucchā pakkamissanti, senāsanaṃ upacikāhi khāyitaṃ! Netaṃ, bhikkhave, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana , bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –
๑๑๕. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ สงฺฆิเก วิหาเร เสยฺยํ สนฺถริตฺวา วา สนฺถราเปตฺวา วา ตํ ปกฺกมโนฺต เนว อุทฺธเรยฺย น อุทฺธราเปยฺย, อนาปุจฺฉํ วา คเจฺฉยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ
115.‘‘Yo pana bhikkhu saṅghike vihāre seyyaṃ santharitvā vā santharāpetvā vā taṃ pakkamanto neva uddhareyya na uddharāpeyya, anāpucchaṃ vā gaccheyya, pācittiya’’nti.
๑๑๖. โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ
116.Yo panāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.
สงฺฆิโก นาม วิหาโร สงฺฆสฺส ทิโนฺน โหติ ปริจฺจโตฺตฯ
Saṅghiko nāma vihāro saṅghassa dinno hoti pariccatto.
เสยฺยํ นาม ภิสิ, จิมิลิกา อุตฺตรตฺถรณํ, ภูมตฺถรณํ, ตฎฺฎิกา, จมฺมขโณฺฑ, นิสีทนํ, ปจฺจตฺถรณํ, ติณสนฺถาโร, ปณฺณสนฺถาโรฯ
Seyyaṃ nāma bhisi, cimilikā uttarattharaṇaṃ, bhūmattharaṇaṃ, taṭṭikā, cammakhaṇḍo, nisīdanaṃ, paccattharaṇaṃ, tiṇasanthāro, paṇṇasanthāro.
สนฺถริตฺวาติ สยํ สนฺถริตฺวาฯ
Santharitvāti sayaṃ santharitvā.
สนฺถราเปตฺวาติ อญฺญํ สนฺถราเปตฺวาฯ
Santharāpetvāti aññaṃ santharāpetvā.
ตํ ปกฺกมโนฺต เนว อุทฺธเรยฺยาติ น สยํ อุทฺธเรยฺยฯ
Taṃ pakkamanto neva uddhareyyāti na sayaṃ uddhareyya.
น อุทฺธราเปยฺยาติ น อญฺญํ อุทฺธราเปยฺยฯ
Na uddharāpeyyāti na aññaṃ uddharāpeyya.
อนาปุจฺฉํ วา คเจฺฉยฺยาติ ภิกฺขุํ วา สามเณรํ วา อารามิกํ วา อนาปุจฺฉา ปริกฺขิตฺตสฺส อารามสฺส ปริเกฺขปํ อติกฺกมนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อปริกฺขิตฺตสฺส อารามสฺส อุปจารํ อติกฺกมนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ สงฺฆิเก สงฺฆิกสญฺญี เสยฺยํ สนฺถริตฺวา วา สนฺถราเปตฺวา วา ตํ ปกฺกมโนฺต เนว อุทฺธเรยฺย น อุทฺธราเปยฺย, อนาปุจฺฉํ วา คเจฺฉยฺย, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ สงฺฆิเก เวมติโก เสยฺยํ สนฺถริตฺวา วา สนฺถราเปตฺวา วา ตํ ปกฺกมโนฺต เนว อุทฺธเรยฺย น อุทฺธราเปยฺย, อนาปุจฺฉํ วา คเจฺฉยฺย, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ สงฺฆิเก ปุคฺคลิกสญฺญี เสยฺยํ สนฺถริตฺวา วา สนฺถราเปตฺวา วา ตํ ปกฺกมโนฺต เนว อุทฺธเรยฺย น อุทฺธราเปยฺย, อนาปุจฺฉํ วา คเจฺฉยฺย, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ
Anāpucchaṃ vā gaccheyyāti bhikkhuṃ vā sāmaṇeraṃ vā ārāmikaṃ vā anāpucchā parikkhittassa ārāmassa parikkhepaṃ atikkamantassa āpatti pācittiyassa. Aparikkhittassa ārāmassa upacāraṃ atikkamantassa āpatti pācittiyassa. Saṅghike saṅghikasaññī seyyaṃ santharitvā vā santharāpetvā vā taṃ pakkamanto neva uddhareyya na uddharāpeyya, anāpucchaṃ vā gaccheyya, āpatti pācittiyassa. Saṅghike vematiko seyyaṃ santharitvā vā santharāpetvā vā taṃ pakkamanto neva uddhareyya na uddharāpeyya, anāpucchaṃ vā gaccheyya, āpatti pācittiyassa. Saṅghike puggalikasaññī seyyaṃ santharitvā vā santharāpetvā vā taṃ pakkamanto neva uddhareyya na uddharāpeyya, anāpucchaṃ vā gaccheyya, āpatti pācittiyassa.
๑๑๗. วิหารสฺส อุปจาเร วา อุปฎฺฐานสาลายํ วา มณฺฑเป วา รุกฺขมูเล วา เสยฺยํ สนฺถริตฺวา วา สนฺถราเปตฺวา วา ตํ ปกฺกมโนฺต เนว อุทฺธเรยฺย น อุทฺธราเปยฺย, อนาปุจฺฉํ วา คเจฺฉยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ มญฺจํ วา ปีฐํ วา วิหาเร วา วิหารสฺสูปจาเร วา อุปฎฺฐานสาลายํ วา มณฺฑเป วา รุกฺขมูเล วา สนฺถริตฺวา วา สนฺถราเปตฺวา วา ตํ ปกฺกมโนฺต เนว อุทฺธเรยฺย น อุทฺธราเปยฺย, อนาปุจฺฉํ วา คเจฺฉยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ
117. Vihārassa upacāre vā upaṭṭhānasālāyaṃ vā maṇḍape vā rukkhamūle vā seyyaṃ santharitvā vā santharāpetvā vā taṃ pakkamanto neva uddhareyya na uddharāpeyya, anāpucchaṃ vā gaccheyya, āpatti dukkaṭassa. Mañcaṃ vā pīṭhaṃ vā vihāre vā vihārassūpacāre vā upaṭṭhānasālāyaṃ vā maṇḍape vā rukkhamūle vā santharitvā vā santharāpetvā vā taṃ pakkamanto neva uddhareyya na uddharāpeyya, anāpucchaṃ vā gaccheyya, āpatti dukkaṭassa.
ปุคฺคลิเก สงฺฆิกสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ปุคฺคลิเก เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ปุคฺคลิเก ปุคฺคลิกสญฺญี อญฺญสฺส ปุคฺคลิเก อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อตฺตโน ปุคฺคลิเก อนาปตฺติฯ
Puggalike saṅghikasaññī, āpatti dukkaṭassa. Puggalike vematiko, āpatti dukkaṭassa. Puggalike puggalikasaññī aññassa puggalike āpatti dukkaṭassa. Attano puggalike anāpatti.
๑๑๘. อนาปตฺติ อุทฺธริตฺวา คจฺฉติ, อุทฺธราเปตฺวา คจฺฉติ, อาปุจฺฉํ คจฺฉติ, เกนจิ ปลิพุทฺธํ โหติ, สาเปโกฺข คนฺตฺวา ตตฺถ ฐิโต อาปุจฺฉติ, เกนจิ ปลิพุโทฺธ โหติ, อาปทาสุ, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ
118. Anāpatti uddharitvā gacchati, uddharāpetvā gacchati, āpucchaṃ gacchati, kenaci palibuddhaṃ hoti, sāpekkho gantvā tattha ṭhito āpucchati, kenaci palibuddho hoti, āpadāsu, ummattakassa, ādikammikassāti.
ทุติยเสนาสนสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ ปญฺจมํฯ
Dutiyasenāsanasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ pañcamaṃ.
๖. อนุปขชฺชสิกฺขาปทํ
6. Anupakhajjasikkhāpadaṃ
๑๑๙. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู วรเสยฺยาโย ปลิพุเนฺธนฺติ, เถรา ภิกฺขู วุฎฺฐาเปนฺติ 13ฯ อถ โข ฉพฺพคฺคิยานํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘เกน นุ โข มยํ อุปาเยน อิเธว วสฺสํ วเสยฺยามา’’ติ? อถ โข ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู เถเร ภิกฺขู อนุปขชฺช เสยฺยํ กเปฺปนฺติ – ยสฺส สมฺพาโธ ภวิสฺสติ โส ปกฺกมิสฺสตีติฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู เถเร ภิกฺขู อนุปขชฺช เสยฺยํ กเปฺปสฺสนฺตี’’ติ! อถ โข เต ภิกฺขู ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ …เป.… ‘‘สจฺจํ กิร ตุเมฺห, ภิกฺขเว, เถเร ภิกฺขู อนุปขชฺช เสยฺยํ กเปฺปถา’’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตุเมฺห, โมฆปุริสา, เถเร ภิกฺขู อนุปขชฺช เสยฺยํ กเปฺปสฺสถ! เนตํ, โมฆปุริสา, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –
119. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū varaseyyāyo palibundhenti, therā bhikkhū vuṭṭhāpenti 14. Atha kho chabbaggiyānaṃ bhikkhūnaṃ etadahosi – ‘‘kena nu kho mayaṃ upāyena idheva vassaṃ vaseyyāmā’’ti? Atha kho chabbaggiyā bhikkhū there bhikkhū anupakhajja seyyaṃ kappenti – yassa sambādho bhavissati so pakkamissatīti. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma chabbaggiyā bhikkhū there bhikkhū anupakhajja seyyaṃ kappessantī’’ti! Atha kho te bhikkhū chabbaggiye bhikkhū anekapariyāyena vigarahitvā bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ …pe… ‘‘saccaṃ kira tumhe, bhikkhave, there bhikkhū anupakhajja seyyaṃ kappethā’’ti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tumhe, moghapurisā, there bhikkhū anupakhajja seyyaṃ kappessatha! Netaṃ, moghapurisā, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –
๑๒๐. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ สงฺฆิเก วิหาเร ชานํ ปุพฺพุปคตํ ภิกฺขุํ อนุปขชฺช เสยฺยํ กเปฺปยฺย – ยสฺส สมฺพาโธ ภวิสฺสติ โส ปกฺกมิสฺสตี’ติ, เอตเทว ปจฺจยํ กริตฺวา อนญฺญํ, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ
120.‘‘Yo pana bhikkhu saṅghike vihāre jānaṃ pubbupagataṃ bhikkhuṃ anupakhajja seyyaṃ kappeyya – yassa sambādho bhavissati so pakkamissatī’ti, etadeva paccayaṃ karitvā anaññaṃ, pācittiya’’nti.
๑๒๑. โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ ๒.๐๒๕๑ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ
121.Yo panāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ 2.0251 atthe adhippeto bhikkhūti.
สงฺฆิโก นาม วิหาโร สงฺฆสฺส ทิโนฺน โหติ ปริจฺจโตฺตฯ
Saṅghiko nāma vihāro saṅghassa dinno hoti pariccatto.
ชานาติ นาม วุโฑฺฒติ ชานาติ, คิลาโนติ ชานาติ, สเงฺฆน ทิโนฺนติ ชานาติฯ
Jānāti nāma vuḍḍhoti jānāti, gilānoti jānāti, saṅghena dinnoti jānāti.
อนุปขชฺชาติ อนุปวิสิตฺวาฯ
Anupakhajjāti anupavisitvā.
เสยฺยํ กเปฺปยฺยาติ มญฺจสฺส วา ปีฐสฺส วา ปวิสนฺตสฺส วา นิกฺขมนฺตสฺส วา อุปจาเร เสยฺยํ สนฺถรติ วา สนฺถราเปติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อภินิสีทติ วา อภินิปชฺชติ วา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ
Seyyaṃ kappeyyāti mañcassa vā pīṭhassa vā pavisantassa vā nikkhamantassa vā upacāre seyyaṃ santharati vā santharāpeti vā, āpatti dukkaṭassa. Abhinisīdati vā abhinipajjati vā, āpatti pācittiyassa.
เอตเทว ปจฺจยํ กริตฺวา อนญฺญนฺติ น อโญฺญ โกจิ ปจฺจโย โหติ อนุปขชฺช เสยฺยํ กเปฺปตุํฯ
Etadeva paccayaṃ karitvā anaññanti na añño koci paccayo hoti anupakhajja seyyaṃ kappetuṃ.
๑๒๒. สงฺฆิเก สงฺฆิกสญฺญี อนุปขชฺช เสยฺยํ กเปฺปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ สงฺฆิเก เวมติโก อนุปขชฺช เสยฺยํ กเปฺปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ สงฺฆิเก ปุคฺคลิกสญฺญี อนุปขชฺช เสยฺยํ กเปฺปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ
122. Saṅghike saṅghikasaññī anupakhajja seyyaṃ kappeti, āpatti pācittiyassa. Saṅghike vematiko anupakhajja seyyaṃ kappeti, āpatti pācittiyassa. Saṅghike puggalikasaññī anupakhajja seyyaṃ kappeti, āpatti pācittiyassa.
มญฺจสฺส วา ปีฐสฺส วา ปวิสนฺตสฺส วา นิกฺขมนฺตสฺส วา อุปจารํ ฐเปตฺวา เสยฺยํ สนฺถรติ วา สนฺถราเปติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อภินิสีทติ วา อภินิปชฺชติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ วิหารสฺส อุปจาเร วา อุปฎฺฐานสาลายํ วา มณฺฑเป วา รุกฺขมูเล วา อโชฺฌกาเส วา เสยฺยํ สนฺถรติ วา สนฺถราเปติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อภินิสีทติ วา อภินิปฺปชฺชติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ปุคฺคลิเก สงฺฆิกสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ปุคฺคลิเก เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ปุคฺคลิเก ปุคฺคลิกสญฺญี อญฺญสฺส ปุคฺคลิเก อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺส ฯ อตฺตโน ปุคฺคลิเก อนาปตฺติฯ
Mañcassa vā pīṭhassa vā pavisantassa vā nikkhamantassa vā upacāraṃ ṭhapetvā seyyaṃ santharati vā santharāpeti vā, āpatti dukkaṭassa. Abhinisīdati vā abhinipajjati vā, āpatti dukkaṭassa. Vihārassa upacāre vā upaṭṭhānasālāyaṃ vā maṇḍape vā rukkhamūle vā ajjhokāse vā seyyaṃ santharati vā santharāpeti vā, āpatti dukkaṭassa. Abhinisīdati vā abhinippajjati vā, āpatti dukkaṭassa. Puggalike saṅghikasaññī, āpatti dukkaṭassa. Puggalike vematiko, āpatti dukkaṭassa. Puggalike puggalikasaññī aññassa puggalike āpatti dukkaṭassa . Attano puggalike anāpatti.
๑๒๓. อนาปตฺติ คิลาโน ปวิสติ, สีเตน วา อุเณฺหน วา ปีฬิโต ปวิสติ, อาปทาสุ, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ
123. Anāpatti gilāno pavisati, sītena vā uṇhena vā pīḷito pavisati, āpadāsu, ummattakassa, ādikammikassāti.
อนุปขชฺชสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ ฉฎฺฐํฯ
Anupakhajjasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ chaṭṭhaṃ.
๗. นิกฺกฑฺฒนสิกฺขาปทํ
7. Nikkaḍḍhanasikkhāpadaṃ
๑๒๔. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน สตฺตรสวคฺคิยา ภิกฺขู อญฺญตรํ ปจฺจนฺติมํ มหาวิหารํ ปฎิสงฺขโรนฺติ – ‘‘อิธ มยํ วสฺสํ วสิสฺสามา’’ติ ฯ อทฺทสํสุ โข ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู สตฺตรสวคฺคิเย ภิกฺขู วิหารํ ปฎิสงฺขโรเนฺตฯ ทิสฺวาน เอวมาหํสุ – ‘‘อิเม, อาวุโส, สตฺตรสวคฺคิยา ภิกฺขู วิหารํ ปฎิสงฺขโรนฺติฯ หนฺท เน วุฎฺฐาเปสฺสามา’’ติ! เอกเจฺจ เอวมาหํสุ – ‘‘อาคเมถาวุโส, ยาว ปฎิสงฺขโรนฺติ; ปฎิสงฺขเต วุฎฺฐาเปสฺสามา’’ติฯ
124. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena sattarasavaggiyā bhikkhū aññataraṃ paccantimaṃ mahāvihāraṃ paṭisaṅkharonti – ‘‘idha mayaṃ vassaṃ vasissāmā’’ti . Addasaṃsu kho chabbaggiyā bhikkhū sattarasavaggiye bhikkhū vihāraṃ paṭisaṅkharonte. Disvāna evamāhaṃsu – ‘‘ime, āvuso, sattarasavaggiyā bhikkhū vihāraṃ paṭisaṅkharonti. Handa ne vuṭṭhāpessāmā’’ti! Ekacce evamāhaṃsu – ‘‘āgamethāvuso, yāva paṭisaṅkharonti; paṭisaṅkhate vuṭṭhāpessāmā’’ti.
อถ โข ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู สตฺตรสวคฺคิเย ภิกฺขู เอตทโวจุํ – ‘‘อุเฎฺฐถาวุโส, อมฺหากํ วิหาโร ปาปุณาตี’’ติฯ ‘‘นนุ, อาวุโส, ปฎิกเจฺจว 15 อาจิกฺขิตพฺพํ, มยญฺจญฺญํ ปฎิสงฺขเรยฺยามา’’ติฯ ‘‘นนุ, อาวุโส, สงฺฆิโก วิหาโร’’ติ? ‘‘อามาวุโส, สงฺฆิโก วิหาโร’’ติฯ ‘‘อุเฎฺฐถาวุโส, อมฺหากํ วิหาโร ปาปุณาตี’’ติฯ ‘‘มหลฺลโก, อาวุโส, วิหาโรฯ ตุเมฺหปิ วสถ, มยมฺปิ วสิสฺสามา’’ติฯ ‘‘อุเฎฺฐถาวุโส, อมฺหากํ วิหาโร ปาปุณาตี’’ติ กุปิตา อนตฺตมนา คีวายํ คเหตฺวา นิกฺกฑฺฒนฺติฯ เต นิกฺกฑฺฒียมานา โรทนฺติฯ ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘กิสฺส ตุเมฺห, อาวุโส, โรทถา’’ติ? ‘‘อิเม, อาวุโส, ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู กุปิตา อนตฺตมนา อเมฺห สงฺฆิกา วิหารา นิกฺกฑฺฒนฺตี’’ติฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู กุปิตา อนตฺตมนา ภิกฺขู สงฺฆิกา วิหารา นิกฺกฑฺฒิสฺสนฺตี’’ติ! อถ โข เต ภิกฺขู ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… ‘‘สจฺจํ กิร ตุเมฺห, ภิกฺขเว, กุปิตา อนตฺตมนา ภิกฺขู สงฺฆิกา วิหารา นิกฺกฑฺฒถา’’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตุเมฺห, โมฆปุริสา, กุปิตา อนตฺตมนา ภิกฺขู สงฺฆิกา วิหารา นิกฺกฑฺฒิสฺสถ? เนตํ, โมฆปุริสา, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –
Atha kho chabbaggiyā bhikkhū sattarasavaggiye bhikkhū etadavocuṃ – ‘‘uṭṭhethāvuso, amhākaṃ vihāro pāpuṇātī’’ti. ‘‘Nanu, āvuso, paṭikacceva 16 ācikkhitabbaṃ, mayañcaññaṃ paṭisaṅkhareyyāmā’’ti. ‘‘Nanu, āvuso, saṅghiko vihāro’’ti? ‘‘Āmāvuso, saṅghiko vihāro’’ti. ‘‘Uṭṭhethāvuso, amhākaṃ vihāro pāpuṇātī’’ti. ‘‘Mahallako, āvuso, vihāro. Tumhepi vasatha, mayampi vasissāmā’’ti. ‘‘Uṭṭhethāvuso, amhākaṃ vihāro pāpuṇātī’’ti kupitā anattamanā gīvāyaṃ gahetvā nikkaḍḍhanti. Te nikkaḍḍhīyamānā rodanti. Bhikkhū evamāhaṃsu – ‘‘kissa tumhe, āvuso, rodathā’’ti? ‘‘Ime, āvuso, chabbaggiyā bhikkhū kupitā anattamanā amhe saṅghikā vihārā nikkaḍḍhantī’’ti. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma chabbaggiyā bhikkhū kupitā anattamanā bhikkhū saṅghikā vihārā nikkaḍḍhissantī’’ti! Atha kho te bhikkhū chabbaggiye bhikkhū anekapariyāyena vigarahitvā bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… ‘‘saccaṃ kira tumhe, bhikkhave, kupitā anattamanā bhikkhū saṅghikā vihārā nikkaḍḍhathā’’ti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tumhe, moghapurisā, kupitā anattamanā bhikkhū saṅghikā vihārā nikkaḍḍhissatha? Netaṃ, moghapurisā, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –
๑๒๕. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ภิกฺขุํ กุปิโต อนตฺตมโน สงฺฆิกา วิหารา นิกฺกเฑฺฒยฺย วา นิกฺกฑฺฒาเปยฺย วา, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ
125.‘‘Yo pana bhikkhu bhikkhuṃ kupito anattamano saṅghikā vihārā nikkaḍḍheyya vā nikkaḍḍhāpeyya vā, pācittiya’’nti.
๑๒๖. โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ
126.Yo panāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.
ภิกฺขุนฺติ อญฺญํ ภิกฺขุํฯ
Bhikkhunti aññaṃ bhikkhuṃ.
กุปิโต อนตฺตมโนติ อนภิรโทฺธ อาหตจิโตฺต ขิลชาโตฯ
Kupito anattamanoti anabhiraddho āhatacitto khilajāto.
สงฺฆิโก นาม วิหาโร สงฺฆสฺส ทิโนฺน โหติ ปริจฺจโตฺตฯ
Saṅghiko nāma vihāro saṅghassa dinno hoti pariccatto.
นิกฺกเฑฺฒยฺยาติ คเพฺภ คเหตฺวา ปมุขํ นิกฺกฑฺฒติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ ปมุเข คเหตฺวา พหิ นิกฺกฑฺฒติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ เอเกน ปโยเคน พหุเกปิ ทฺวาเร อติกฺกาเมติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ
Nikkaḍḍheyyāti gabbhe gahetvā pamukhaṃ nikkaḍḍhati, āpatti pācittiyassa. Pamukhe gahetvā bahi nikkaḍḍhati, āpatti pācittiyassa. Ekena payogena bahukepi dvāre atikkāmeti, āpatti pācittiyassa.
นิกฺกฑฺฒาเปยฺยาติ อญฺญํ อาณาเปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส 17ฯ สกิํ อาณโตฺต พหุเกปิ ทฺวาเร อติกฺกาเมติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ
Nikkaḍḍhāpeyyāti aññaṃ āṇāpeti, āpatti pācittiyassa 18. Sakiṃ āṇatto bahukepi dvāre atikkāmeti, āpatti pācittiyassa.
๑๒๗. สงฺฆิเก สงฺฆิกสญฺญี กุปิโต อนตฺตมโน นิกฺกฑฺฒติ วา นิกฺกฑฺฒาเปติ วา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ สงฺฆิเก เวมติโก กุปิโต อนตฺตมโน นิกฺกฑฺฒติ วา นิกฺกฑฺฒาเปติ วา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ สงฺฆิเก ปุคฺคลิกสญฺญี กุปิโต อนตฺตมโน นิกฺกฑฺฒติ วา นิกฺกฑฺฒาเปติ วา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ
127. Saṅghike saṅghikasaññī kupito anattamano nikkaḍḍhati vā nikkaḍḍhāpeti vā, āpatti pācittiyassa. Saṅghike vematiko kupito anattamano nikkaḍḍhati vā nikkaḍḍhāpeti vā, āpatti pācittiyassa. Saṅghike puggalikasaññī kupito anattamano nikkaḍḍhati vā nikkaḍḍhāpeti vā, āpatti pācittiyassa.
ตสฺส ปริกฺขารํ นิกฺกฑฺฒติ วา นิกฺกฑฺฒาเปติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ วิหารสฺส อุปจารา วา อุปฎฺฐานสาลาย วา มณฺฑปา วา รุกฺขมูลา วา อโชฺฌกาสา วา นิกฺกฑฺฒติ วา นิกฺกฑฺฒาเปติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ตสฺส ปริกฺขารํ นิกฺกฑฺฒติ วา นิกฺกฑฺฒาเปติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุปสมฺปนฺนํ วิหารา วา วิหารสฺส อุปจารา วา อุปฎฺฐานสาลาย วา มณฺฑปา วา รุกฺขมูลา วา อโชฺฌกาสา วา นิกฺกฑฺฒติ วา นิกฺกฑฺฒาเปติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ตสฺส ปริกฺขารํ นิกฺกฑฺฒติ วา นิกฺกฑฺฒาเปติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ
Tassa parikkhāraṃ nikkaḍḍhati vā nikkaḍḍhāpeti vā, āpatti dukkaṭassa. Vihārassa upacārā vā upaṭṭhānasālāya vā maṇḍapā vā rukkhamūlā vā ajjhokāsā vā nikkaḍḍhati vā nikkaḍḍhāpeti vā, āpatti dukkaṭassa. Tassa parikkhāraṃ nikkaḍḍhati vā nikkaḍḍhāpeti vā, āpatti dukkaṭassa. Anupasampannaṃ vihārā vā vihārassa upacārā vā upaṭṭhānasālāya vā maṇḍapā vā rukkhamūlā vā ajjhokāsā vā nikkaḍḍhati vā nikkaḍḍhāpeti vā, āpatti dukkaṭassa. Tassa parikkhāraṃ nikkaḍḍhati vā nikkaḍḍhāpeti vā, āpatti dukkaṭassa.
ปุคฺคลิเก สงฺฆิกสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ปุคฺคลิเก เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ปุคฺคลิเก ปุคฺคลิกสญฺญี อญฺญสฺส ปุคฺคลิเก อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อตฺตโน ปุคฺคลิเก อนาปตฺติฯ
Puggalike saṅghikasaññī, āpatti dukkaṭassa. Puggalike vematiko, āpatti dukkaṭassa. Puggalike puggalikasaññī aññassa puggalike āpatti dukkaṭassa. Attano puggalike anāpatti.
๑๒๘. อนาปตฺติ อลชฺชิํ นิกฺกฑฺฒติ วา นิกฺกฑฺฒาเปติ วา, ตสฺส ปริกฺขารํ นิกฺกฑฺฒติ วา นิกฺกฑฺฒาเปติ วา, อุมฺมตฺตกํ นิกฺกฑฺฒติ วา นิกฺกฑฺฒาเปติ วา, ตสฺส ปริกฺขารํ นิกฺกฑฺฒติ วา นิกฺกฑฺฒาเปติ วา, ภณฺฑนการกํ กลหการกํ วิวาทการกํ ภสฺสการกํ สเงฺฆ อธิกรณการกํ นิกฺกฑฺฒติ วา นิกฺกฑฺฒาเปติ วา, ตสฺส ปริกฺขารํ นิกฺกฑฺฒติ วา นิกฺกฑฺฒาเปติ วา, อเนฺตวาสิกํ วา สทฺธิวิหาริกํ วา น สมฺมา วตฺตนฺตํ นิกฺกฑฺฒติ วา นิกฺกฑฺฒาเปติ วา, ตสฺส ปริกฺขารํ นิกฺกฑฺฒติ วา นิกฺกฑฺฒาเปติ วา, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ
128. Anāpatti alajjiṃ nikkaḍḍhati vā nikkaḍḍhāpeti vā, tassa parikkhāraṃ nikkaḍḍhati vā nikkaḍḍhāpeti vā, ummattakaṃ nikkaḍḍhati vā nikkaḍḍhāpeti vā, tassa parikkhāraṃ nikkaḍḍhati vā nikkaḍḍhāpeti vā, bhaṇḍanakārakaṃ kalahakārakaṃ vivādakārakaṃ bhassakārakaṃ saṅghe adhikaraṇakārakaṃ nikkaḍḍhati vā nikkaḍḍhāpeti vā, tassa parikkhāraṃ nikkaḍḍhati vā nikkaḍḍhāpeti vā, antevāsikaṃ vā saddhivihārikaṃ vā na sammā vattantaṃ nikkaḍḍhati vā nikkaḍḍhāpeti vā, tassa parikkhāraṃ nikkaḍḍhati vā nikkaḍḍhāpeti vā, ummattakassa, ādikammikassāti.
นิกฺกฑฺฒนสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ สตฺตมํฯ
Nikkaḍḍhanasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ sattamaṃ.
๘. เวหาสกุฎิสิกฺขาปทํ
8. Vehāsakuṭisikkhāpadaṃ
๑๒๙. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน เทฺว ภิกฺขู สงฺฆิเก วิหาเร อุปริเวหาสกุฎิยา วิหรนฺติ?ฯ เอโก เหฎฺฐา วิหรติ 19, เอโก อุปริฯ อุปริโม ภิกฺขุ อาหจฺจปาทกํ มญฺจํ สหสา อภินิสีทิฯ มญฺจปาโท นิปฺปติตฺวา 20 เหฎฺฐิมสฺส ภิกฺขุโน มตฺถเก อวตฺถาสิฯ โส ภิกฺขุ วิสฺสรมกาสิฯ ภิกฺขู อุปธาวิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจุํ – ‘‘กิสฺส ตฺวํ, อาวุโส, วิสฺสรมกาสี’’ติ? อถ โข โส ภิกฺขุ ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ภิกฺขุ สงฺฆิเก วิหาเร อุปริเวหาสกุฎิยา อาหจฺจปาทกํ มญฺจํ สหสา อภินิสีทิสฺสตี’’ติ! อถ โข เต ภิกฺขู ตํ ภิกฺขุํ อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, ภิกฺขุ, สงฺฆิเก วิหาเร อุปริเวหาสกุฎิยา อาหจฺจปาทกํ มญฺจํ สหสา อภินิสีทสี’’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส, สงฺฆิเก วิหาเร อุปริเวหาสกุฎิยา อาหจฺจปาทกํ มญฺจํ สหสา อภินิสีทิสฺสสิ! เนตํ, โมฆปุริส, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –
129. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena dve bhikkhū saṅghike vihāre uparivehāsakuṭiyā viharanti?. Eko heṭṭhā viharati 21, eko upari. Uparimo bhikkhu āhaccapādakaṃ mañcaṃ sahasā abhinisīdi. Mañcapādo nippatitvā 22 heṭṭhimassa bhikkhuno matthake avatthāsi. So bhikkhu vissaramakāsi. Bhikkhū upadhāvitvā taṃ bhikkhuṃ etadavocuṃ – ‘‘kissa tvaṃ, āvuso, vissaramakāsī’’ti? Atha kho so bhikkhu bhikkhūnaṃ etamatthaṃ ārocesi. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma bhikkhu saṅghike vihāre uparivehāsakuṭiyā āhaccapādakaṃ mañcaṃ sahasā abhinisīdissatī’’ti! Atha kho te bhikkhū taṃ bhikkhuṃ anekapariyāyena vigarahitvā bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… ‘‘saccaṃ kira tvaṃ, bhikkhu, saṅghike vihāre uparivehāsakuṭiyā āhaccapādakaṃ mañcaṃ sahasā abhinisīdasī’’ti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tvaṃ, moghapurisa, saṅghike vihāre uparivehāsakuṭiyā āhaccapādakaṃ mañcaṃ sahasā abhinisīdissasi! Netaṃ, moghapurisa, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –
๑๓๐. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ สงฺฆิเก วิหาเร อุปริเวหาสกุฎิยา อาหจฺจปาทกํ มญฺจํ วา ปีฐํ วา อภินิสีเทยฺย วา อภินิปเชฺชยฺย วา, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ
130.‘‘Yo pana bhikkhu saṅghike vihāre uparivehāsakuṭiyā āhaccapādakaṃ mañcaṃ vā pīṭhaṃvā abhinisīdeyya vā abhinipajjeyya vā, pācittiya’’nti.
๑๓๑. โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ
131.Yo panāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.
สงฺฆิโก นาม วิหาโร สงฺฆสฺส ทิโนฺน โหติ ปริจฺจโตฺตฯ
Saṅghiko nāma vihāro saṅghassa dinno hoti pariccatto.
เวหาสกุฎิ นาม มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส อสีสฆฎฺฎาฯ
Vehāsakuṭi nāma majjhimassa purisassa asīsaghaṭṭā.
อาหจฺจปาทโก นาม มโญฺจ อเงฺค วิชฺฌิตฺวา ฐิโต โหติฯ อาหจฺจปาทกํ นาม ปีฐํ อเงฺค วิชฺฌิตฺวา ฐิตํ โหติฯ
Āhaccapādako nāma mañco aṅge vijjhitvā ṭhito hoti. Āhaccapādakaṃ nāma pīṭhaṃ aṅge vijjhitvā ṭhitaṃ hoti.
อภินิสีเทยฺยาติ ตสฺมิํ อภินิสีทติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ
Abhinisīdeyyāti tasmiṃ abhinisīdati, āpatti pācittiyassa.
อภินิปเชฺชยฺยาติ ตสฺมิํ อภินิปชฺชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ
Abhinipajjeyyāti tasmiṃ abhinipajjati, āpatti pācittiyassa.
๑๓๒. สงฺฆิเก สงฺฆิกสญฺญี อุปริเวหาสกุฎิยา อาหจฺจปาทกํ มญฺจํ วา ปีฐํ วา อภินิสีทติ วา อภินิปชฺชติ วา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ สงฺฆิเก เวมติโก…เป.… สงฺฆิเก ปุคฺคลิกสญฺญี อุปริเวหาสกุฎิยา อาหจฺจปาทกํ มญฺจํ วา ปีฐํ วา อภินิสีทติ วา อภินิปชฺชติ วา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ
132. Saṅghike saṅghikasaññī uparivehāsakuṭiyā āhaccapādakaṃ mañcaṃ vā pīṭhaṃ vā abhinisīdati vā abhinipajjati vā, āpatti pācittiyassa. Saṅghike vematiko…pe… saṅghike puggalikasaññī uparivehāsakuṭiyā āhaccapādakaṃ mañcaṃ vā pīṭhaṃ vā abhinisīdati vā abhinipajjati vā, āpatti pācittiyassa.
ปุคฺคลิเก สงฺฆิกสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ปุคฺคลิเก เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ปุคฺคลิเก ปุคฺคลิกสญฺญี อญฺญสฺส ปุคฺคลิเก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อตฺตโน ปุคฺคลิเก, อนาปตฺติฯ
Puggalike saṅghikasaññī, āpatti dukkaṭassa. Puggalike vematiko, āpatti dukkaṭassa. Puggalike puggalikasaññī aññassa puggalike, āpatti dukkaṭassa. Attano puggalike, anāpatti.
๑๓๓. อนาปตฺติ – อเวหาสกุฎิยา สีสฆฎฺฎาย เหฎฺฐา อปริโภคํ โหติ, ปทรสญฺจิตํ โหติ, ปฎาณิ ทินฺนา โหติ, ตสฺมิํ ฐิโต คณฺหติ วา ลเคฺคติ วา, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ
133. Anāpatti – avehāsakuṭiyā sīsaghaṭṭāya heṭṭhā aparibhogaṃ hoti, padarasañcitaṃ hoti, paṭāṇi dinnā hoti, tasmiṃ ṭhito gaṇhati vā laggeti vā, ummattakassa, ādikammikassāti.
เวหาสกุฎิสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ อฎฺฐมํฯ
Vehāsakuṭisikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ aṭṭhamaṃ.
๙. มหลฺลกวิหารสิกฺขาปทํ
9. Mahallakavihārasikkhāpadaṃ
๑๓๔. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา โกสมฺพิยํ วิหรติ โฆสิตาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต ฉนฺนสฺส อุปฎฺฐาโก มหามโตฺต อายสฺมโต ฉนฺนสฺส วิหารํ การาเปติฯ อถ โข อายสฺมา ฉโนฺน กตปริโยสิตํ วิหารํ ปุนปฺปุนํ ฉาทาเปติ, ปุนปฺปุนํ เลปาเปติฯ อติภาริโต วิหาโร ปริปติฯ อถ โข อายสฺมา ฉโนฺน ติณญฺจ กฎฺฐญฺจ สํกฑฺฒโนฺต อญฺญตรสฺส พฺราหฺมณสฺส ยวเขตฺตํ ทูเสสิฯ อถ โข โส พฺราหฺมโณ อุชฺฌายติ ขิยฺยติ วิปาเจติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ภทนฺตา อมฺหากํ ยวเขตฺตํ ทูเสสฺสนฺตี’’ติ! อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู ตสฺส พฺราหฺมณสฺส อุชฺฌายนฺตสฺส ขิยฺยนฺตสฺส วิปาเจนฺตสฺสฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม อายสฺมา ฉโนฺน กตปริโยสิตํ วิหารํ ปุนปฺปุนํ ฉาทาเปสฺสติ, ปุนปฺปุนํ เลปาเปสฺสติ, อติภาริโต วิหาโร ปริปตี’’ติ! อถ โข เต ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ ฉนฺนํ อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, ฉนฺน, กตปริโยสิตํ วิหารํ ปุนปฺปุนํ ฉาทาเปสิ, ปุนปฺปุนํ เลปาเปสิ, อติภาริโต วิหาโร ปริปตี’’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส, กตปริโยสิตํ วิหารํ ปุนปฺปุนํ ฉาทาเปสฺสสิ, ปุนปฺปุนํ เลปาเปสฺสสิ , อติภาริโต วิหาโร ปริปติ! เนตํ, โมฆปุริส, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –
134. Tena samayena buddho bhagavā kosambiyaṃ viharati ghositārāme. Tena kho pana samayena āyasmato channassa upaṭṭhāko mahāmatto āyasmato channassa vihāraṃ kārāpeti. Atha kho āyasmā channo katapariyositaṃ vihāraṃ punappunaṃ chādāpeti, punappunaṃ lepāpeti. Atibhārito vihāro paripati. Atha kho āyasmā channo tiṇañca kaṭṭhañca saṃkaḍḍhanto aññatarassa brāhmaṇassa yavakhettaṃ dūsesi. Atha kho so brāhmaṇo ujjhāyati khiyyati vipāceti – ‘‘kathañhi nāma bhadantā amhākaṃ yavakhettaṃ dūsessantī’’ti! Assosuṃ kho bhikkhū tassa brāhmaṇassa ujjhāyantassa khiyyantassa vipācentassa. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma āyasmā channo katapariyositaṃ vihāraṃ punappunaṃ chādāpessati, punappunaṃ lepāpessati, atibhārito vihāro paripatī’’ti! Atha kho te bhikkhū āyasmantaṃ channaṃ anekapariyāyena vigarahitvā bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… ‘‘saccaṃ kira tvaṃ, channa, katapariyositaṃ vihāraṃ punappunaṃ chādāpesi, punappunaṃ lepāpesi, atibhārito vihāro paripatī’’ti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tvaṃ, moghapurisa, katapariyositaṃ vihāraṃ punappunaṃ chādāpessasi, punappunaṃ lepāpessasi , atibhārito vihāro paripati! Netaṃ, moghapurisa, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –
๑๓๕. ‘‘มหลฺลกํ ปน ภิกฺขุนา วิหารํ การยมาเนน ยาวทฺวารโกสา อคฺคฬฎฺฐปนาย อาโลกสนฺธิปริกมฺมาย ทฺวตฺติจฺฉทนสฺส ปริยาย อปฺปหริเต ฐิเตน อธิฎฺฐาตพฺพํฯ ตโต เจ อุตฺตริํ อปฺปหริเตปิ ฐิโต อธิฎฺฐเหยฺย ปาจิตฺติย’’นฺติฯ
135.‘‘Mahallakaṃ pana bhikkhunā vihāraṃ kārayamānena yāvadvārakosā aggaḷaṭṭhapanāya ālokasandhiparikammāya dvatticchadanassa pariyāya appaharite ṭhitena adhiṭṭhātabbaṃ. Tato ce uttariṃ appaharitepi ṭhito adhiṭṭhaheyya pācittiya’’nti.
๑๓๖. มหลฺลโก นาม วิหาโร สสฺสามิโก วุจฺจติฯ
136.Mahallako nāma vihāro sassāmiko vuccati.
วิหาโร นาม อุลฺลิโตฺต วา โหติ อวลิโตฺต วา อุลฺลิตฺตาวลิโตฺต วาฯ
Vihāro nāma ullitto vā hoti avalitto vā ullittāvalitto vā.
การยมาเนนาติ กโรโนฺต วา การาเปโนฺต วาฯ
Kārayamānenāti karonto vā kārāpento vā.
ยาว ทฺวารโกสาติ ปิฎฺฐสงฺฆาฎสฺส 23 สมนฺตา หตฺถปาสาฯ
Yāva dvārakosāti piṭṭhasaṅghāṭassa 24 samantā hatthapāsā.
อคฺคฬฎฺฐปนายาติ ทฺวารฎฺฐปนายฯ
Aggaḷaṭṭhapanāyāti dvāraṭṭhapanāya.
อาโลกสนฺธิปริกมฺมายาติ วาตปานปริกมฺมาย เสตวณฺณํ กาฬวณฺณํ เครุกปริกมฺมํ มาลากมฺมํ ลตากมฺมํ มกรทนฺตกํ ปญฺจปฎิกํฯ
Ālokasandhiparikammāyāti vātapānaparikammāya setavaṇṇaṃ kāḷavaṇṇaṃ gerukaparikammaṃ mālākammaṃ latākammaṃ makaradantakaṃ pañcapaṭikaṃ.
ทฺวตฺติจฺฉทนสฺส ปริยายํ อปฺปหริเต ฐิเตน อธิฎฺฐาตพฺพนฺติ – หริตํ นาม ปุพฺพณฺณํ อปรณฺณํฯ สเจ หริเต ฐิโต อธิฎฺฐาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ มเคฺคน ฉาเทนฺตสฺส เทฺว มเคฺค อธิฎฺฐหิตฺวา ตติยํ มคฺคํ อาณาเปตฺวา ปกฺกมิตพฺพํฯ ปริยาเยน ฉาเทนฺตสฺส เทฺว ปริยาเย อธิฎฺฐหิตฺวา ตติยํ ปริยายํ อาณาเปตฺวา ปกฺกมิตพฺพํฯ
Dvatticchadanassa pariyāyaṃ appaharite ṭhitena adhiṭṭhātabbanti – haritaṃ nāma pubbaṇṇaṃ aparaṇṇaṃ. Sace harite ṭhito adhiṭṭhāti, āpatti dukkaṭassa. Maggena chādentassa dve magge adhiṭṭhahitvā tatiyaṃ maggaṃ āṇāpetvā pakkamitabbaṃ. Pariyāyena chādentassa dve pariyāye adhiṭṭhahitvā tatiyaṃ pariyāyaṃ āṇāpetvā pakkamitabbaṃ.
๑๓๗. ตโต เจ อุตฺตริ อปฺปหริเตปิ ฐิโต อธิฎฺฐเหยฺยาติ อิฎฺฐกาย ๒.๐๒๖๒ ฉาเทนฺตสฺส อิฎฺฐกิฎฺฐกาย อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ สิลาย ฉาเทนฺตสฺส สิลาย สิลาย อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ สุธาย ฉาเทนฺตสฺส ปิเณฺฑ ปิเณฺฑ อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ ติเณน ฉาเทนฺตสฺส กรเฬ กรเฬ อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ ปเณฺณน ฉาเทนฺตสฺส ปเณฺณ ปเณฺณ อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ
137.Tato ce uttari appaharitepi ṭhito adhiṭṭhaheyyāti iṭṭhakāya 2.0262 chādentassa iṭṭhakiṭṭhakāya āpatti pācittiyassa. Silāya chādentassa silāya silāya āpatti pācittiyassa. Sudhāya chādentassa piṇḍe piṇḍe āpatti pācittiyassa. Tiṇena chādentassa karaḷe karaḷe āpatti pācittiyassa. Paṇṇena chādentassa paṇṇe paṇṇe āpatti pācittiyassa.
อติเรกทฺวตฺติปริยาเย อติเรกสญฺญี อธิฎฺฐาติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อติเรกทฺวตฺติปริยาเย เวมติโก อธิฎฺฐาติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อติเรกทฺวตฺติปริยาเย อูนกสญฺญี อธิฎฺฐาติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ
Atirekadvattipariyāye atirekasaññī adhiṭṭhāti, āpatti pācittiyassa. Atirekadvattipariyāye vematiko adhiṭṭhāti, āpatti pācittiyassa. Atirekadvattipariyāye ūnakasaññī adhiṭṭhāti, āpatti pācittiyassa.
อูนกทฺวตฺติปริยาเย อติเรกสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อูนกทฺวตฺติปริยาเย เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อูนกทฺวตฺติปริยาเย อูนกสญฺญี, อนาปตฺติฯ
Ūnakadvattipariyāye atirekasaññī, āpatti dukkaṭassa. Ūnakadvattipariyāye vematiko, āpatti dukkaṭassa. Ūnakadvattipariyāye ūnakasaññī, anāpatti.
๑๓๘. อนาปตฺติ ทฺวตฺติปริยาเย, อูนกทฺวตฺติปริยาเย, เลเณ, คุหาย, ติณกุฎิกาย, อญฺญสฺสตฺถาย, อตฺตโน ธเนน, วาสาคารํ ฐเปตฺวา สพฺพตฺถ อนาปตฺติ, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ
138. Anāpatti dvattipariyāye, ūnakadvattipariyāye, leṇe, guhāya, tiṇakuṭikāya, aññassatthāya, attano dhanena, vāsāgāraṃ ṭhapetvā sabbattha anāpatti, ummattakassa, ādikammikassāti.
มหลฺลกวิหารสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ นวมํฯ
Mahallakavihārasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ navamaṃ.
๑๐. สปฺปาณกสิกฺขาปทํ
10. Sappāṇakasikkhāpadaṃ
๑๓๙. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา อาฬวิยํ วิหรติ อคฺคาฬเว เจติเยฯ เตน โข ปน สมเยน อาฬวกา ภิกฺขู นวกมฺมํ กโรนฺตา ชานํ สปฺปาณกํ อุทกํ ติณมฺปิ มตฺติกมฺปิ สิญฺจนฺติปิ สิญฺจาเปนฺติปิฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม อาฬวกา ภิกฺขู ชานํ สปฺปาณกํ อุทกํ ติณมฺปิ มตฺติกมฺปิ สิญฺจิสฺสนฺติปิ สิญฺจาเปสฺสนฺติปี’’ติ! อถ โข เต ภิกฺขู อาฬวเก ภิกฺขู อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… ‘‘สจฺจํ กิร ตุเมฺห, ภิกฺขเว, ชานํ สปฺปาณกํ อุทกํ ติณมฺปิ มตฺติกมฺปิ สิญฺจถปิ สิญฺจาเปถปี’’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตุเมฺห, โมฆปุริสา, ชานํ สปฺปาณกํ อุทกํ ติณมฺปิ มตฺติกมฺปิ สิญฺจิสฺสถปิ สิญฺจาเปสฺสถปิ! เนตํ, โมฆปุริสา, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –
139. Tena samayena buddho bhagavā āḷaviyaṃ viharati aggāḷave cetiye. Tena kho pana samayena āḷavakā bhikkhū navakammaṃ karontā jānaṃ sappāṇakaṃ udakaṃ tiṇampi mattikampi siñcantipi siñcāpentipi. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma āḷavakā bhikkhū jānaṃ sappāṇakaṃ udakaṃ tiṇampi mattikampi siñcissantipi siñcāpessantipī’’ti! Atha kho te bhikkhū āḷavake bhikkhū anekapariyāyena vigarahitvā bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… ‘‘saccaṃ kira tumhe, bhikkhave, jānaṃ sappāṇakaṃ udakaṃ tiṇampi mattikampi siñcathapi siñcāpethapī’’ti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tumhe, moghapurisā, jānaṃ sappāṇakaṃ udakaṃ tiṇampi mattikampi siñcissathapi siñcāpessathapi! Netaṃ, moghapurisā, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –
๑๔๐. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ชานํ สปฺปาณกํ อุทกํ ติณํ วา มตฺติกํ วา สิเญฺจยฺย วา สิญฺจาเปยฺย วา, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ
140.‘‘Yo pana bhikkhu jānaṃ sappāṇakaṃ udakaṃ tiṇaṃ vā mattikaṃ vā siñceyya vā siñcāpeyya vā, pācittiya’’nti.
๑๔๑. โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ
141.Yo panāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.
ชานาติ นาม 25 สามํ วา ชานาติ อเญฺญ วา ตสฺส อาโรเจนฺติฯ
Jānāti nāma 26 sāmaṃ vā jānāti aññe vā tassa ārocenti.
สิเญฺจยฺยาติ สยํ สิญฺจติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ
Siñceyyāti sayaṃ siñcati, āpatti pācittiyassa.
สิญฺจาเปยฺยาติ อญฺญํ อาณาเปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส 27ฯ สกิํ อาณโตฺต พหุกมฺปิ สิญฺจติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ
Siñcāpeyyāti aññaṃ āṇāpeti, āpatti pācittiyassa 28. Sakiṃ āṇatto bahukampi siñcati, āpatti pācittiyassa.
๑๔๒. สปฺปาณเก สปฺปาณกสญฺญี ติณํ วา มตฺติกํ วา สิญฺจติ วา สิญฺจาเปติ วา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ สปฺปาณเก เวมติโก ติณํ วา มตฺติกํ วา สิญฺจติ วา สิญฺจาเปติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ สปฺปาณเก อปฺปาณกสญฺญี ติณํ วา มตฺติกํ วา สิญฺจติ วา สิญฺจาเปติ วา, อนาปตฺติฯ อปฺปาณเก สปฺปาณกสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อปฺปาณเก เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อปฺปาณเก อปฺปาณกสญฺญี, อนาปตฺติฯ
142. Sappāṇake sappāṇakasaññī tiṇaṃ vā mattikaṃ vā siñcati vā siñcāpeti vā, āpatti pācittiyassa. Sappāṇake vematiko tiṇaṃ vā mattikaṃ vā siñcati vā siñcāpeti vā, āpatti dukkaṭassa. Sappāṇake appāṇakasaññī tiṇaṃ vā mattikaṃ vā siñcati vā siñcāpeti vā, anāpatti. Appāṇake sappāṇakasaññī, āpatti dukkaṭassa. Appāṇake vematiko, āpatti dukkaṭassa. Appāṇake appāṇakasaññī, anāpatti.
๑๔๓. อนาปตฺติ อสญฺจิจฺจ, อสฺสติยา, อชานนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ
143. Anāpatti asañcicca, assatiyā, ajānantassa, ummattakassa, ādikammikassāti.
สปฺปาณกสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ ทสมํฯ
Sappāṇakasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ dasamaṃ.
ภูตคามวโคฺค ทุติโยฯ
Bhūtagāmavaggo dutiyo.
ตสฺสุทฺทานํ –
Tassuddānaṃ –
ภูตํ อญฺญาย อุชฺฌายํ, ปกฺกมเนฺตน เต ทุเว;
Bhūtaṃ aññāya ujjhāyaṃ, pakkamantena te duve;
ปุเพฺพ นิกฺกฑฺฒนาหจฺจ, ทฺวารํ สปฺปาณเกน จาติฯ
Pubbe nikkaḍḍhanāhacca, dvāraṃ sappāṇakena cāti.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā
๑. ภูตคามสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Bhūtagāmasikkhāpadavaṇṇanā
๒. อญฺญวาทกสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Aññavādakasikkhāpadavaṇṇanā
๓. อุชฺฌาปนกสิกฺขาปทวณฺณนา • 3. Ujjhāpanakasikkhāpadavaṇṇanā
๔. ปฐมเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา • 4. Paṭhamasenāsanasikkhāpadavaṇṇanā
๕. ทุติยเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา • 5. Dutiyasenāsanasikkhāpadavaṇṇanā
๖. อนุปขชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา • 6. Anupakhajjasikkhāpadavaṇṇanā
๗. นิกฺกฑฺฒนสิกฺขาปทวณฺณนา • 7. Nikkaḍḍhanasikkhāpadavaṇṇanā
๘. เวหาสกุฎิสิกฺขาปทวณฺณนา • 8. Vehāsakuṭisikkhāpadavaṇṇanā
๙. มหลฺลกวิหารสิกฺขาปทวณฺณนา • 9. Mahallakavihārasikkhāpadavaṇṇanā
๑๐. สปฺปาณกสิกฺขาปทวณฺณนา • 10. Sappāṇakasikkhāpadavaṇṇanā
๑. โอวาทสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Ovādasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā
๑. ภูตคามสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Bhūtagāmasikkhāpadavaṇṇanā
๒. อญฺญวาทกสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Aññavādakasikkhāpadavaṇṇanā
๓. อุชฺฌาปนกสิกฺขาปทวณฺณนา • 3. Ujjhāpanakasikkhāpadavaṇṇanā
๔. ปฐมเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา • 4. Paṭhamasenāsanasikkhāpadavaṇṇanā
๕. ทุติยเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา • 5. Dutiyasenāsanasikkhāpadavaṇṇanā
๖. อนุปขชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา • 6. Anupakhajjasikkhāpadavaṇṇanā
๗. นิกฺกฑฺฒนสิกฺขาปทวณฺณนา • 7. Nikkaḍḍhanasikkhāpadavaṇṇanā
๘. เวหาสกุฎิสิกฺขาปทวณฺณนา • 8. Vehāsakuṭisikkhāpadavaṇṇanā
๙. มหลฺลกวิหารสิกฺขาปทวณฺณนา • 9. Mahallakavihārasikkhāpadavaṇṇanā
๑๐. สปฺปาณกสิกฺขาปทวณฺณนา • 10. Sappāṇakasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā
๑. ภูตคามสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Bhūtagāmasikkhāpadavaṇṇanā
๒. อญฺญวาทกสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Aññavādakasikkhāpadavaṇṇanā
๓. อุชฺฌาปนกสิกฺขาปทวณฺณนา • 3. Ujjhāpanakasikkhāpadavaṇṇanā
๔. ปฐมเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา • 4. Paṭhamasenāsanasikkhāpadavaṇṇanā
๕. ทุติยเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา • 5. Dutiyasenāsanasikkhāpadavaṇṇanā
๖. อนุปขชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา • 6. Anupakhajjasikkhāpadavaṇṇanā
๗. นิกฺกฑฺฒนสิกฺขาปทวณฺณนา • 7. Nikkaḍḍhanasikkhāpadavaṇṇanā
๘. เวหาสกุฎิสิกฺขาปทวณฺณนา • 8. Vehāsakuṭisikkhāpadavaṇṇanā
๙. มหลฺลกวิหารสิกฺขาปทวณฺณนา • 9. Mahallakavihārasikkhāpadavaṇṇanā
๑๐. สปฺปาณกสิกฺขาปทวณฺณนา • 10. Sappāṇakasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā
๑. ภูตคามสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Bhūtagāmasikkhāpadavaṇṇanā
๒. อญฺญวาทกสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Aññavādakasikkhāpadavaṇṇanā
๓. อุชฺฌาปนกสิกฺขาปทวณฺณนา • 3. Ujjhāpanakasikkhāpadavaṇṇanā
๔. ปฐมเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา • 4. Paṭhamasenāsanasikkhāpadavaṇṇanā
๕. ทุติยเสนาสนสิกฺขาปทวณฺณนา • 5. Dutiyasenāsanasikkhāpadavaṇṇanā
๖. อนุปขชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา • 6. Anupakhajjasikkhāpadavaṇṇanā
๗. นิกฺกฑฺฒนสิกฺขาปทวณฺณนา • 7. Nikkaḍḍhanasikkhāpadavaṇṇanā
๘. เวหาสกุฎิสิกฺขาปทวณฺณนา • 8. Vehāsakuṭisikkhāpadavaṇṇanā
๙. มหลฺลกวิหารสิกฺขาปทวณฺณนา • 9. Mahallakavihārasikkhāpadavaṇṇanā
๑๐. สปฺปาณกสิกฺขาปทวณฺณนา • 10. Sappāṇakasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi
๑. ภูตคามสิกฺขาปท-อตฺถโยชนา • 1. Bhūtagāmasikkhāpada-atthayojanā
๒. อญฺญวาทกสิกฺขาปทํ • 2. Aññavādakasikkhāpadaṃ
๓. อุชฺฌาปนกสิกฺขาปทํ • 3. Ujjhāpanakasikkhāpadaṃ
๔. ปฐมเสนาสนสิกฺขาปทํ • 4. Paṭhamasenāsanasikkhāpadaṃ
๕. ทุติยเสนาสนสิกฺขาปทํ • 5. Dutiyasenāsanasikkhāpadaṃ
๖. อนุปขชฺชสิกฺขาปทํ • 6. Anupakhajjasikkhāpadaṃ
๗. นิกฺกฑฺฒนสิกฺขาปทํ • 7. Nikkaḍḍhanasikkhāpadaṃ
๘. เวหาสกุฎิสิกฺขาปทํ • 8. Vehāsakuṭisikkhāpadaṃ
๙. มหลฺลกวิหารสิกฺขาปทํ • 9. Mahallakavihārasikkhāpadaṃ
๑๐. สปฺปาณกสิกฺขาปทํ • 10. Sappāṇakasikkhāpadaṃ