Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā |
๘. ภูตาโรจนสิกฺขาปทวณฺณนา
8. Bhūtārocanasikkhāpadavaṇṇanā
๖๗. อฎฺฐมสิกฺขาปเท – วตฺถุกถาย ตาว ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ สพฺพํ จตุตฺถปาราชิกวณฺณนายํ วุตฺตนยเมวฯ อยเมว หิ วิเสโส – ตตฺถ อภูตํ อาโรเจสุํ, อิธ ภูตํฯ ภูตมฺปิ ปุถุชฺชนา อาโรเจสุํ, น อริยาฯ อริยานญฺหิ ปยุตฺตวาจา นาม นตฺถิ, อตฺตโน คุเณ อาโรจยมาเน ปน อเญฺญ น ปฎิเสเธสุํ, ตถาอุปฺปเนฺน จ ปจฺจเย สาทิยิํสุ, ตถาอุปฺปนฺนภาวํ อชานนฺตาฯ
67. Aṭṭhamasikkhāpade – vatthukathāya tāva yaṃ vattabbaṃ siyā, taṃ sabbaṃ catutthapārājikavaṇṇanāyaṃ vuttanayameva. Ayameva hi viseso – tattha abhūtaṃ ārocesuṃ, idha bhūtaṃ. Bhūtampi puthujjanā ārocesuṃ, na ariyā. Ariyānañhi payuttavācā nāma natthi, attano guṇe ārocayamāne pana aññe na paṭisedhesuṃ, tathāuppanne ca paccaye sādiyiṃsu, tathāuppannabhāvaṃ ajānantā.
‘‘อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุ’’นฺติอาทิมฺหิ ปน เย อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส วณฺณํ ภาสิํสุ, เต อาโรเจสุนฺติ เวทิตพฺพํฯ ‘‘กจฺจิ ปน โว ภิกฺขเว ภูต’’นฺติ ปุจฺฉิเต ปน สเพฺพปิ ‘‘ภูตํ ภควา’’ติ ปฎิชานิํสุฯ อริยานมฺปิ หิ อพฺภนฺตเร ภูโต อุตฺตริมนุสฺสธโมฺมติฯ อถ ภควา อริยมิสฺสกตฺตา ‘‘โมฆปุริสา’’ติ อวตฺวา ‘‘กถญฺหิ นาม ตุเมฺห ภิกฺขเว’’ติ วตฺวา ‘‘อุทรสฺส การณา’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ ยสฺมา อริยา อเญฺญสํ สุตฺวา ‘‘อโยฺย กิร, ภเนฺต, โสตาปโนฺน’’ติอาทินา นเยน ปสเนฺนหิ มนุเสฺสหิ ปุจฺฉิยมานา อปญฺญเตฺต สิกฺขาปเท อนาทีนวทสฺสิโน สุทฺธจิตฺตตาย อตฺตโน จ ปเรสญฺจ วิเสสาธิคมํ ปฎิชานิํสุฯ เอวํ ปฎิชานเนฺตหิ จ เตหิ ยํ อเญฺญ อุทรสฺส การณา อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส วณฺณํ ภาสิตฺวา ปิณฺฑปาตํ อุปฺปาเทสุํ, ตํ สุทฺธจิตฺตตาย สาทิยเนฺตหิปิ อุทรสฺส การณา อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส วโณฺณ ภาสิโต วิย โหติฯ ตสฺมา สพฺพสงฺคาหิเกเนว นเยน ‘‘กถญฺหิ นาม ตุเมฺห, ภิกฺขเว, อุทรสฺส การณา คิหีนํ อญฺญมญฺญํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส วณฺณํ ภาสิสฺสถา’’ติ อาหฯ เสสํ จตุตฺถปาราชิกวตฺถุสทิสเมวฯ สิกฺขาปทวิภเงฺคปิ เกวลํ ตตฺถ ปาราชิกเญฺจว ถุลฺลจฺจยญฺจ อิธ ภูตตฺตา ปาจิตฺติยเญฺจว ทุกฺกฎญฺจ อยํ วิเสโสฯ เสสํ วุตฺตนยเมวฯ
‘‘Atha kho te bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesu’’ntiādimhi pana ye uttarimanussadhammassa vaṇṇaṃ bhāsiṃsu, te ārocesunti veditabbaṃ. ‘‘Kacci pana vo bhikkhave bhūta’’nti pucchite pana sabbepi ‘‘bhūtaṃ bhagavā’’ti paṭijāniṃsu. Ariyānampi hi abbhantare bhūto uttarimanussadhammoti. Atha bhagavā ariyamissakattā ‘‘moghapurisā’’ti avatvā ‘‘kathañhi nāma tumhe bhikkhave’’ti vatvā ‘‘udarassa kāraṇā’’tiādimāha. Tattha yasmā ariyā aññesaṃ sutvā ‘‘ayyo kira, bhante, sotāpanno’’tiādinā nayena pasannehi manussehi pucchiyamānā apaññatte sikkhāpade anādīnavadassino suddhacittatāya attano ca paresañca visesādhigamaṃ paṭijāniṃsu. Evaṃ paṭijānantehi ca tehi yaṃ aññe udarassa kāraṇā uttarimanussadhammassa vaṇṇaṃ bhāsitvā piṇḍapātaṃ uppādesuṃ, taṃ suddhacittatāya sādiyantehipi udarassa kāraṇā uttarimanussadhammassa vaṇṇo bhāsito viya hoti. Tasmā sabbasaṅgāhikeneva nayena ‘‘kathañhi nāma tumhe, bhikkhave, udarassa kāraṇā gihīnaṃ aññamaññaṃ uttarimanussadhammassa vaṇṇaṃ bhāsissathā’’ti āha. Sesaṃ catutthapārājikavatthusadisameva. Sikkhāpadavibhaṅgepi kevalaṃ tattha pārājikañceva thullaccayañca idha bhūtattā pācittiyañceva dukkaṭañca ayaṃ viseso. Sesaṃ vuttanayameva.
๗๗. ‘‘อุปสมฺปนฺนสฺส ภูตํ อาโรเจตี’’ติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมเมว สนฺธาย วุตฺตํฯ ปรินิพฺพานกาเล หิ อนฺตรา วา อติกฑฺฒิยมาเนน อุปสมฺปนฺนสฺส ภูตํ อาโรเจตุํ วฎฺฎติฯ สุตปริยตฺติสีลคุณํ ปน อนุปสมฺปนฺนสฺสาปิ อาโรเจตุํ วฎฺฎติฯ อาทิกมฺมิกสฺส อนาปตฺติฯ ‘‘อุมฺมตฺตกสฺสา’’ติ อิทํ ปน อิธ น วุตฺตํฯ กสฺมา? ทิฎฺฐิสมฺปนฺนานํ อุมฺมาทสฺส วา จิตฺตเกฺขปสฺส วา อภาวาติฯ มหาปจฺจริยมฺปิ หิ วิจาริตํ ‘‘ฌานลาภี ปน ปริหีเน ฌาเน อุมฺมตฺตโก ภเวยฺย, ตสฺสปิ ภูตาโรจนปจฺจยา อนาปตฺติ น วตฺตพฺพา, ภูตเสฺสว อภาวโต’’ติฯ เสสํ อุตฺตานเมวฯ
77.‘‘Upasampannassa bhūtaṃ ārocetī’’ti uttarimanussadhammameva sandhāya vuttaṃ. Parinibbānakāle hi antarā vā atikaḍḍhiyamānena upasampannassa bhūtaṃ ārocetuṃ vaṭṭati. Sutapariyattisīlaguṇaṃ pana anupasampannassāpi ārocetuṃ vaṭṭati. Ādikammikassa anāpatti. ‘‘Ummattakassā’’ti idaṃ pana idha na vuttaṃ. Kasmā? Diṭṭhisampannānaṃ ummādassa vā cittakkhepassa vā abhāvāti. Mahāpaccariyampi hi vicāritaṃ ‘‘jhānalābhī pana parihīne jhāne ummattako bhaveyya, tassapi bhūtārocanapaccayā anāpatti na vattabbā, bhūtasseva abhāvato’’ti. Sesaṃ uttānameva.
ภูตาโรจนํ นาเมตํ ปุเพฺพ อวุเตฺตหิ ตีหิ สมุฎฺฐาเนหิ สมุฎฺฐาติ – กายโต วาจโต กายวาจโต จาติฯ กิริยํ , โนสญฺญาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, กุสลาพฺยากตจิเตฺตหิ ทฺวิจิตฺตํ, สุขมชฺฌตฺตเวทนาหิ ทฺวิเวทนนฺติฯ
Bhūtārocanaṃ nāmetaṃ pubbe avuttehi tīhi samuṭṭhānehi samuṭṭhāti – kāyato vācato kāyavācato cāti. Kiriyaṃ , nosaññāvimokkhaṃ, acittakaṃ, paṇṇattivajjaṃ, kāyakammaṃ, vacīkammaṃ, kusalābyākatacittehi dvicittaṃ, sukhamajjhattavedanāhi dvivedananti.
ภูตาโรจนสิกฺขาปทํ อฎฺฐมํฯ
Bhūtārocanasikkhāpadaṃ aṭṭhamaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๑. มุสาวาทวโคฺค • 1. Musāvādavaggo
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๘. ภูตาโรจนสิกฺขาปทวณฺณนา • 8. Bhūtārocanasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๘. ภูตาโรจนสิกฺขาปทวณฺณนา • 8. Bhūtārocanasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๘. ภูตาโรจนสิกฺขาปทวณฺณนา • 8. Bhūtārocanasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๘. ภูตาโรจนสิกฺขาปทํ • 8. Bhūtārocanasikkhāpadaṃ