Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / กงฺขาวิตรณี-อภินว-ฎีกา • Kaṅkhāvitaraṇī-abhinava-ṭīkā

    ๘. ภูตาโรจนสิกฺขาปทวณฺณนา

    8. Bhūtārocanasikkhāpadavaṇṇanā

    นิปฺปริยาเยนาติ ‘‘ปฐมํ ฌานํ สมาปชฺชิ’’นฺติอาทินา (ปาจิ. ๗๑) อุชุกเมวฯ ปริยาเยน อาโรจิตนฺติ ‘‘โย เต วิหาเร วสิ, โส ภิกฺขุ ปฐมํ ฌานํ สมาปชฺชิ, สมาปชฺชติ, สมาปโนฺน’’ติอาทินา (ปาจิ. ๗๕) อญฺญาปเทเสน ภณิตํฯ ปรินิพฺพานกาเล (ปาจิ. อฎฺฐ. ๗๗), ปน อนฺตรา วา อติกฑฺฒิยมาเนน อุปสมฺปนฺนสฺส ภูตํ อาโรเจตุํ วฎฺฎติฯ อนติกฑฺฒิยมาเนนาปิ (สารตฺถ. ฎี. ปาจิตฺติย ๓.๗๗) ตถารูเป การเณ สติ อาโรเจตุํ วฎฺฎติเยวฯ เตเนว อญฺญตเรน ทหรภิกฺขุนา อุปวทิโต อญฺญตโร เถโร ‘‘อาวุโส, อุปริมคฺคตฺถาย วายามํ มา อกาสิ, ขีณาสโว ตยา อุปวทิโต’’ติ อาหฯ เถเรน จ ‘‘อตฺถิ เต, อาวุโส, อิมสฺมิํ สาสเน ปติฎฺฐา’’ติ ปุโฎฺฐ ทหรภิกฺขุ ‘‘อาม, ภเนฺต, โสตาปโนฺน อาห’’นฺติ อโวจฯ ‘‘การโก อย’’นฺติ ญตฺวาปิ ปฎิปตฺติยา อโมฆภาวทสฺสเนน สมุเตฺตชนาย, สมฺปหํสนาย จ อริยา อตฺตานํ ปกาเสนฺติเยวฯ เตนาห ‘‘ตถารูเป การเณ สติ อุปสมฺปนฺนสฺส อาโรจยโต’’ติฯ สุตปริยตฺติสีลคุณํ ปน อนุปสมฺปนฺนสฺสปิ อาโรเจตุํ วฎฺฎติฯ กสฺมา น อิธ อุมฺมตฺตกาทโย คหิตาติ อาห ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทิฯ อาทิสเทฺทน ขิตฺตจิตฺตเวทนาฎฺฎานํ คหณํฯ ตสฺมิํ สตีติ อุมฺมตฺตกาทิภาเว สติฯ อิธ น คหิตาติ อิมสฺมิํ สิกฺขาปเท ปทภาชนิยํ น คหิตาฯ อจิตฺตกนฺติ ปณฺณตฺติชานนจิตฺตาภาเวน อจิตฺตกํฯ กุสลาพฺยากตจิเตฺตหิ ทฺวิจิตฺต’’นฺติ อิทํ อุกฺกฎฺฐปริเจฺฉเทน อริยปุคฺคเลเยว สนฺธาย วุตฺตํฯ น หิ ปณฺณตฺติํ อชานนฺตา ฌานลาภิโน ปุถุชฺชนา วตฺถุมฺหิ โลภวเสน อกุสลจิเตฺตนาปิ น อาโรเจนฺตีติฯ ทุกฺขเวทนาย วา อภาวโต ‘‘ทฺวิเวทน’’นฺติ อิมสฺส อนุรูปํ กตฺวา เอวํ วุตฺตนฺติ ทฎฺฐพฺพํฯ

    Nippariyāyenāti ‘‘paṭhamaṃ jhānaṃ samāpajji’’ntiādinā (pāci. 71) ujukameva. Pariyāyena ārocitanti ‘‘yo te vihāre vasi, so bhikkhu paṭhamaṃ jhānaṃ samāpajji, samāpajjati, samāpanno’’tiādinā (pāci. 75) aññāpadesena bhaṇitaṃ. Parinibbānakāle (pāci. aṭṭha. 77), pana antarā vā atikaḍḍhiyamānena upasampannassa bhūtaṃ ārocetuṃ vaṭṭati. Anatikaḍḍhiyamānenāpi (sārattha. ṭī. pācittiya 3.77) tathārūpe kāraṇe sati ārocetuṃ vaṭṭatiyeva. Teneva aññatarena daharabhikkhunā upavadito aññataro thero ‘‘āvuso, uparimaggatthāya vāyāmaṃ mā akāsi, khīṇāsavo tayā upavadito’’ti āha. Therena ca ‘‘atthi te, āvuso, imasmiṃ sāsane patiṭṭhā’’ti puṭṭho daharabhikkhu ‘‘āma, bhante, sotāpanno āha’’nti avoca. ‘‘Kārako aya’’nti ñatvāpi paṭipattiyā amoghabhāvadassanena samuttejanāya, sampahaṃsanāya ca ariyā attānaṃ pakāsentiyeva. Tenāha ‘‘tathārūpe kāraṇe sati upasampannassa ārocayato’’ti. Sutapariyattisīlaguṇaṃ pana anupasampannassapi ārocetuṃ vaṭṭati. Kasmā na idha ummattakādayo gahitāti āha ‘‘yasmā panā’’tiādi. Ādisaddena khittacittavedanāṭṭānaṃ gahaṇaṃ. Tasmiṃ satīti ummattakādibhāve sati. Idha na gahitāti imasmiṃ sikkhāpade padabhājaniyaṃ na gahitā. Acittakanti paṇṇattijānanacittābhāvena acittakaṃ. Kusalābyākatacittehi dvicitta’’nti idaṃ ukkaṭṭhaparicchedena ariyapuggaleyeva sandhāya vuttaṃ. Na hi paṇṇattiṃ ajānantā jhānalābhino puthujjanā vatthumhi lobhavasena akusalacittenāpi na ārocentīti. Dukkhavedanāya vā abhāvato ‘‘dvivedana’’nti imassa anurūpaṃ katvā evaṃ vuttanti daṭṭhabbaṃ.

    ภูตาโรจนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Bhūtārocanasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.





    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact