Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā)

    ๔. กฬารขตฺติยวโคฺค

    4. Kaḷārakhattiyavaggo

    ๑. ภูตสุตฺตวณฺณนา

    1. Bhūtasuttavaṇṇanā

    ๓๑. กฬารขตฺติยวคฺคสฺส ปฐเม อชิตปเญฺหติ อชิตมาณเวน ปุจฺฉิตปเญฺหฯ สงฺขาตธมฺมาเสติ สงฺขาตธมฺมา วุจฺจนฺติ ญาตธมฺมา ตุลิตธมฺมา ตีริตธมฺมาฯ เสกฺขาติ สตฺต เสกฺขาฯ ปุถูติ เตเยว สตฺต ชเน สนฺธาย ปุถูติ วุตฺตํฯ อิธาติ อิมสฺมิํ สาสเนฯ นิปโกติ เนปกฺกํ วุจฺจติ ปญฺญา, ตาย สมนฺนาคตตฺตา นิปโก, ตฺวํ ปณฺฑิโต ปพฺรูหีติ ยาจติฯ อิริยนฺติ วุตฺติํ อาจารํ โคจรํ วิหารํ ปฎิปตฺติํฯ มาริสาติ ภควนฺตํ อาลปติฯ เสกฺขานญฺจ สงฺขาตธมฺมานญฺจ ขีณาสวานญฺจ ปฎิปตฺติํ มยา ปุจฺฉิโต ปณฺฑิต, มาริส, มยฺหํ กเถหีติ อยเมตฺถ สเงฺขปโตฺถฯ

    31. Kaḷārakhattiyavaggassa paṭhame ajitapañheti ajitamāṇavena pucchitapañhe. Saṅkhātadhammāseti saṅkhātadhammā vuccanti ñātadhammā tulitadhammā tīritadhammā. Sekkhāti satta sekkhā. Puthūti teyeva satta jane sandhāya puthūti vuttaṃ. Idhāti imasmiṃ sāsane. Nipakoti nepakkaṃ vuccati paññā, tāya samannāgatattā nipako, tvaṃ paṇḍito pabrūhīti yācati. Iriyanti vuttiṃ ācāraṃ gocaraṃ vihāraṃ paṭipattiṃ. Mārisāti bhagavantaṃ ālapati. Sekkhānañca saṅkhātadhammānañca khīṇāsavānañca paṭipattiṃ mayā pucchito paṇḍita, mārisa, mayhaṃ kathehīti ayamettha saṅkhepattho.

    ตุณฺหี อโหสีติ กสฺมา ยาว ตติยํ ปุโฎฺฐ ตุณฺหี อโหสิ? กิํ ปเญฺห กงฺขติ, อุทาหุ อชฺฌาสเยติ? อชฺฌาสเย กงฺขติ, โน ปเญฺหฯ เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘สตฺถา มํ เสกฺขาเสกฺขานํ อาคมนียปฎิปทํ กถาเปตุกาโม; สา จ ขนฺธวเสน ธาตุวเสน อายตนวเสน ปจฺจยาการวเสนาติ พหูหิ การเณหิ สกฺกา กเถตุํฯ กถํ กเถโนฺต นุ โข สตฺถุ อชฺฌาสยํ คเหตฺวา กเถตุํ สกฺขิสฺสามี’’ติ? อถ สตฺถา จิเนฺตสิ – ‘‘ฐเปตฺวา มํ อโญฺญ ปตฺตํ อาทาย จรโนฺต สาวโก นาม ปญฺญาย สาริปุตฺตสโม นตฺถิฯ อยมฺปิ มยา ปญฺหํ ปุโฎฺฐ ยาว ตติยํ ตุณฺหี เอวฯ ปเญฺห นุ โข กงฺขติ, อุทาหุ อชฺฌาสเย’’ติฯ อถ ‘‘อชฺฌาสเย’’ติ ญตฺวา ปญฺหกถนตฺถาย นยํ ททมาโน ภูตมิทนฺติ, สาริปุตฺต, ปสฺสสีติ อาหฯ

    Tuṇhī ahosīti kasmā yāva tatiyaṃ puṭṭho tuṇhī ahosi? Kiṃ pañhe kaṅkhati, udāhu ajjhāsayeti? Ajjhāsaye kaṅkhati, no pañhe. Evaṃ kirassa ahosi – ‘‘satthā maṃ sekkhāsekkhānaṃ āgamanīyapaṭipadaṃ kathāpetukāmo; sā ca khandhavasena dhātuvasena āyatanavasena paccayākāravasenāti bahūhi kāraṇehi sakkā kathetuṃ. Kathaṃ kathento nu kho satthu ajjhāsayaṃ gahetvā kathetuṃ sakkhissāmī’’ti? Atha satthā cintesi – ‘‘ṭhapetvā maṃ añño pattaṃ ādāya caranto sāvako nāma paññāya sāriputtasamo natthi. Ayampi mayā pañhaṃ puṭṭho yāva tatiyaṃ tuṇhī eva. Pañhe nu kho kaṅkhati, udāhu ajjhāsaye’’ti. Atha ‘‘ajjhāsaye’’ti ñatvā pañhakathanatthāya nayaṃ dadamāno bhūtamidanti, sāriputta, passasīti āha.

    ตตฺถ ภูตนฺติ ชาตํ นิพฺพตฺตํ, ขนฺธปญฺจกเสฺสตํ นามํฯ อิติ สตฺถา ‘‘ปญฺจกฺขนฺธวเสน, สาริปุตฺต, อิมํ ปญฺหํ กเถหี’’ติ เถรสฺส นยํ เทติฯ สหนยทาเนน ปน เถรสฺส ตีเร ฐิตปุริสสฺส วิวโฎ เอกงฺคโณ มหาสมุโทฺท วิย นยสเตน นยสหเสฺสน ปญฺหพฺยากรณํ อุปฎฺฐาสิฯ อถ นํ พฺยากโรโนฺต ภูตมิทนฺติ, ภเนฺตติอาทิมาหฯ ตตฺถ ภูตมิทนฺติ อิทํ นิพฺพตฺตํ ขนฺธปญฺจกํฯ สมฺมปฺปญฺญาย ปสฺสตีติ สห วิปสฺสนาย มคฺคปญฺญาย สมฺมา ปสฺสติฯ ปฎิปโนฺน โหตีติ สีลโต ปฎฺฐาย ยาว อรหตฺตมคฺคา นิพฺพิทาทีนํ อตฺถาย ปฎิปโนฺน โหติฯ ตทาหารสมฺภวนฺติ อิทํ กสฺมา อารภิ? เอตํ ขนฺธปญฺจกํ อาหารํ ปฎิจฺจ ฐิตํ, ตสฺมา ตํ อาหารสมฺภวํ นาม กตฺวา ทเสฺสตุํ อิทํ อารภิฯ อิติ อิมินาปิ ปริยาเยน เสกฺขปฎิปทา กถิตา โหติฯ ตทาหารนิโรธาติ เตสํ อาหารานํ นิโรเธนฯ อิทํ กสฺมา อารภิ? ตญฺหิ ขนฺธปญฺจกํ อาหารนิโรธา นิรุชฺฌติ, ตสฺมา ตํ อาหารนิโรธสมฺภวํ นาม กตฺวา ทเสฺสตุํ อิทํ อารภิฯ อิติ อิมินาปิ ปริยาเยน เสกฺขเสฺสว ปฎิปทา กถิตาฯ นิพฺพิทาติ อาทีนิ สพฺพานิ การณวจนานีติ เวทิตพฺพานิฯ อนุปาทา วิมุโตฺตติ จตูหิ อุปาทาเนหิ กญฺจิ ธมฺมํ อคเหตฺวา วิมุโตฺตฯ สาธุ สาธูติ อิมินา เถรสฺส พฺยากรณํ สมฺปหํเสตฺวา สยมฺปิ ตเถว พฺยากโรโนฺต ปุน ‘‘ภูตมิท’’นฺติอาทิมาหาติฯ ปฐมํฯ

    Tattha bhūtanti jātaṃ nibbattaṃ, khandhapañcakassetaṃ nāmaṃ. Iti satthā ‘‘pañcakkhandhavasena, sāriputta, imaṃ pañhaṃ kathehī’’ti therassa nayaṃ deti. Sahanayadānena pana therassa tīre ṭhitapurisassa vivaṭo ekaṅgaṇo mahāsamuddo viya nayasatena nayasahassena pañhabyākaraṇaṃ upaṭṭhāsi. Atha naṃ byākaronto bhūtamidanti, bhantetiādimāha. Tattha bhūtamidanti idaṃ nibbattaṃ khandhapañcakaṃ. Sammappaññāya passatīti saha vipassanāya maggapaññāya sammā passati. Paṭipanno hotīti sīlato paṭṭhāya yāva arahattamaggā nibbidādīnaṃ atthāya paṭipanno hoti. Tadāhārasambhavanti idaṃ kasmā ārabhi? Etaṃ khandhapañcakaṃ āhāraṃ paṭicca ṭhitaṃ, tasmā taṃ āhārasambhavaṃ nāma katvā dassetuṃ idaṃ ārabhi. Iti imināpi pariyāyena sekkhapaṭipadā kathitā hoti. Tadāhāranirodhāti tesaṃ āhārānaṃ nirodhena. Idaṃ kasmā ārabhi? Tañhi khandhapañcakaṃ āhāranirodhā nirujjhati, tasmā taṃ āhāranirodhasambhavaṃ nāma katvā dassetuṃ idaṃ ārabhi. Iti imināpi pariyāyena sekkhasseva paṭipadā kathitā. Nibbidāti ādīni sabbāni kāraṇavacanānīti veditabbāni. Anupādā vimuttoti catūhi upādānehi kañci dhammaṃ agahetvā vimutto. Sādhu sādhūti iminā therassa byākaraṇaṃ sampahaṃsetvā sayampi tatheva byākaronto puna ‘‘bhūtamida’’ntiādimāhāti. Paṭhamaṃ.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๑. ภูตสุตฺตํ • 1. Bhūtasuttaṃ

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๑. ภูตสุตฺตวณฺณนา • 1. Bhūtasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact