Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā

    ๙. นวกนิปาโต

    9. Navakanipāto

    ๑. ภูตเตฺถรคาถาวณฺณนา

    1. Bhūtattheragāthāvaṇṇanā

    นวกนิปาเต ยทา ทุกฺขนฺติอาทิกา อายสฺมโต ภูตเตฺถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฎฺฎูปนิสฺสยํ ปุญฺญํ อุปจินโนฺต สิทฺธตฺถสฺส ภควโต กาเล พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา เสโนติ ลทฺธนาโม วิญฺญุตํ ปโตฺต เอกทิวสํ สตฺถารํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส ‘‘อุสภํ ปวร’’นฺติอาทินา จตูหิ คาถาหิ อภิตฺถวิฯ

    Navakanipāte yadā dukkhantiādikā āyasmato bhūtattherassa gāthā. Kā uppatti? Ayampi purimabuddhesu katādhikāro tattha tattha bhave vivaṭṭūpanissayaṃ puññaṃ upacinanto siddhatthassa bhagavato kāle brāhmaṇakule nibbattitvā senoti laddhanāmo viññutaṃ patto ekadivasaṃ satthāraṃ disvā pasannamānaso ‘‘usabhaṃ pavara’’ntiādinā catūhi gāthāhi abhitthavi.

    โส เตน ปุญฺญกเมฺมน เทวมนุเสฺสสุ สํสรโนฺต อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท สาเกตนครสฺส ทฺวารคาเม มหาวิภวสฺส เสฎฺฐิสฺส ปุโตฺต หุตฺวา นิพฺพตฺติฯ ตสฺส กิร เสฎฺฐิโน ชาตา ชาตา ทารกา พทฺธาฆาเตน เอเกน ยเกฺขน ขาทิตา, อิมสฺส ปน ปจฺฉิมภวิกตฺตา ภูตา อารกฺขํ คณฺหิํสุฯ ยโกฺข ปน เวสฺสวณสฺส อุปฎฺฐานํ คโต, ปุน นาคมาสิฯ นามกรณทิวเส จสฺส ‘‘เอวํ กเต อมนุสฺสา อนุกมฺปนฺตา ปริหเรยฺยุ’’นฺติ ภูโตติ นามํ อกํสุฯ โส ปน อตฺตโน ปุญฺญพเลน อนนฺตราโย วฑฺฒิ, ตสฺส ‘‘ตโย ปาสาทา อเหสุ’’นฺติอาทิ สพฺพํ ยสสฺส กุลปุตฺตสฺส วิภวกิตฺตเน วิย เวทิตพฺพํฯ โส วิญฺญุตํ ปโตฺต สตฺถริ สาเกเต วสเนฺต อุปาสเกหิ สทฺธิํ วิหารํ คโตฯ สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฎิลทฺธสโทฺธ ปพฺพชิตฺวา อชกรณิยา นาม นทิยา ตีเร เลเณ วสโนฺต วิปสฺสนํ ปฎฺฐเปตฺวา นจิรเสฺสว อรหตฺตํ ปาปุณิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๗.๒๐-๒๘) –

    So tena puññakammena devamanussesu saṃsaranto imasmiṃ buddhuppāde sāketanagarassa dvāragāme mahāvibhavassa seṭṭhissa putto hutvā nibbatti. Tassa kira seṭṭhino jātā jātā dārakā baddhāghātena ekena yakkhena khāditā, imassa pana pacchimabhavikattā bhūtā ārakkhaṃ gaṇhiṃsu. Yakkho pana vessavaṇassa upaṭṭhānaṃ gato, puna nāgamāsi. Nāmakaraṇadivase cassa ‘‘evaṃ kate amanussā anukampantā parihareyyu’’nti bhūtoti nāmaṃ akaṃsu. So pana attano puññabalena anantarāyo vaḍḍhi, tassa ‘‘tayo pāsādā ahesu’’ntiādi sabbaṃ yasassa kulaputtassa vibhavakittane viya veditabbaṃ. So viññutaṃ patto satthari sākete vasante upāsakehi saddhiṃ vihāraṃ gato. Satthu santike dhammaṃ sutvā paṭiladdhasaddho pabbajitvā ajakaraṇiyā nāma nadiyā tīre leṇe vasanto vipassanaṃ paṭṭhapetvā nacirasseva arahattaṃ pāpuṇi. Tena vuttaṃ apadāne (apa. thera 1.7.20-28) –

    ‘‘อุสภํ ปวรํ วีรํ, มเหสิํ วิชิตาวินํ;

    ‘‘Usabhaṃ pavaraṃ vīraṃ, mahesiṃ vijitāvinaṃ;

    สุวณฺณวณฺณํ สมฺพุทฺธํ, โก ทิสฺวา นปฺปสีทติฯ

    Suvaṇṇavaṇṇaṃ sambuddhaṃ, ko disvā nappasīdati.

    ‘‘หิมวา วาปริเมโยฺย, สาคโรว ทุรุตฺตโร;

    ‘‘Himavā vāparimeyyo, sāgarova duruttaro;

    ตเถว ฌานํ พุทฺธสฺส, โก ทิสฺวา นปฺปสีทติฯ

    Tatheva jhānaṃ buddhassa, ko disvā nappasīdati.

    ‘‘วสุธา ยถาปฺปเมยฺยา, จิตฺตา วนวฎํสกา;

    ‘‘Vasudhā yathāppameyyā, cittā vanavaṭaṃsakā;

    ตเถว สีลํ พุทฺธสฺส, โก ทิสฺวา นปฺปสีทติฯ

    Tatheva sīlaṃ buddhassa, ko disvā nappasīdati.

    ‘‘อนิลญฺชสาสงฺขุโพฺภ , ยถากาโส อสงฺขิโย;

    ‘‘Anilañjasāsaṅkhubbho , yathākāso asaṅkhiyo;

    ตเถว ญาณํ พุทฺธสฺส, โก ทิสฺวา นปฺปสีทติฯ

    Tatheva ñāṇaṃ buddhassa, ko disvā nappasīdati.

    ‘‘อิมาหิ จตุคาถาหิ, พฺราหฺมโณ เสนสวฺหโย;

    ‘‘Imāhi catugāthāhi, brāhmaṇo senasavhayo;

    พุทฺธเสฎฺฐํ ถวิตฺวาน, สิทฺธตฺถํ อปราชิตํฯ

    Buddhaseṭṭhaṃ thavitvāna, siddhatthaṃ aparājitaṃ.

    ‘‘จตุนฺนวุติกปฺปานิ, ทุคฺคติํ นุปปชฺชถ;

    ‘‘Catunnavutikappāni, duggatiṃ nupapajjatha;

    สุคติํ สุขสมฺปตฺติํ, อนุโภสิมนปฺปกํฯ

    Sugatiṃ sukhasampattiṃ, anubhosimanappakaṃ.

    ‘‘จตุนฺนวุติโต กเปฺป, ถวิตฺวา โลกนายกํ;

    ‘‘Catunnavutito kappe, thavitvā lokanāyakaṃ;

    ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, โถมนาย อิทํ ผลํฯ

    Duggatiṃ nābhijānāmi, thomanāya idaṃ phalaṃ.

    ‘‘จาตุทฺทสมฺหิ กปฺปมฺหิ, จตุโร อาสุมุคฺคตา;

    ‘‘Cātuddasamhi kappamhi, caturo āsumuggatā;

    สตฺตรตนสมฺปนฺนา, จกฺกวตฺตี มหพฺพลาฯ

    Sattaratanasampannā, cakkavattī mahabbalā.

    ‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ

    ‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… kataṃ buddhassa sāsana’’nti.

    อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อปเรน สมเยน ญาตีนํ อนุกมฺปาย สาเกตํ คนฺตฺวา กติปาหํ เตหิ อุปฎฺฐิยมาโน อญฺชนวเน วสิตฺวา ปุน อตฺตนา วสิตฎฺฐานเมว คนฺตุกาโม คมนาการํ ทเสฺสสิฯ ญาตกา ‘‘อิเธว, ภเนฺต, วสถ, ตุเมฺหปิ น กิลมิสฺสถ, มยมฺปิ ปุเญฺญน วฑฺฒิสฺสามา’’ติ เถรํ ยาจิํสุฯ เถโร อตฺตโน วิเวกาภิรติํ ตตฺถ จ ผาสุวิหารํ ปกาเสโนฺต –

    Arahattaṃ pana patvā aparena samayena ñātīnaṃ anukampāya sāketaṃ gantvā katipāhaṃ tehi upaṭṭhiyamāno añjanavane vasitvā puna attanā vasitaṭṭhānameva gantukāmo gamanākāraṃ dassesi. Ñātakā ‘‘idheva, bhante, vasatha, tumhepi na kilamissatha, mayampi puññena vaḍḍhissāmā’’ti theraṃ yāciṃsu. Thero attano vivekābhiratiṃ tattha ca phāsuvihāraṃ pakāsento –

    ๕๑๘.

    518.

    ‘‘ยทา ทุกฺขํ ชรามรณนฺติ ปณฺฑิโต, อวิทฺทสู ยตฺถ สิตา ปุถุชฺชนา;

    ‘‘Yadā dukkhaṃ jarāmaraṇanti paṇḍito, aviddasū yattha sitā puthujjanā;

    ทุกฺขํ ปริญฺญาย สโตว ฌายติ, ตโต รติํ ปรมตรํ น วินฺทติฯ

    Dukkhaṃ pariññāya satova jhāyati, tato ratiṃ paramataraṃ na vindati.

    ๕๑๙.

    519.

    ‘‘ยทา ทุกฺขสฺสาวหนิํ วิสตฺติกํ, ปปญฺจสงฺฆาตทุขาธิวาหินิํ;

    ‘‘Yadā dukkhassāvahaniṃ visattikaṃ, papañcasaṅghātadukhādhivāhiniṃ;

    ตณฺหํ ปหนฺตฺวาน สโตว ฌายติ, ตโต รติํ ปรมตรํ น วินฺทติฯ

    Taṇhaṃ pahantvāna satova jhāyati, tato ratiṃ paramataraṃ na vindati.

    ๕๒๐.

    520.

    ‘‘ยทา สิวํ เทฺวจตุรงฺคคามินํ, มคฺคุตฺตมํ สพฺพกิเลสโสธนํ;

    ‘‘Yadā sivaṃ dvecaturaṅgagāminaṃ, magguttamaṃ sabbakilesasodhanaṃ;

    ปญฺญาย ปสฺสิตฺว สโตว ฌายติ, ตโต รติํ ปรมตรํ น วินฺทติฯ

    Paññāya passitva satova jhāyati, tato ratiṃ paramataraṃ na vindati.

    ๕๒๑.

    521.

    ‘‘ยทา อโสกํ วิรชํ อสงฺขตํ, สนฺตํ ปทํ สพฺพกิเลสโสธนํ;

    ‘‘Yadā asokaṃ virajaṃ asaṅkhataṃ, santaṃ padaṃ sabbakilesasodhanaṃ;

    ภาเวติ สโญฺญชนพนฺธนจฺฉิทํ, ตโต รติํ ปรมตรํ น วินฺทติฯ

    Bhāveti saññojanabandhanacchidaṃ, tato ratiṃ paramataraṃ na vindati.

    ๕๒๒.

    522.

    ‘‘ยทา นเภ คชฺชติ เมฆทุนฺทุภิ, ธารากุลา วิหคปเถ สมนฺตโต;

    ‘‘Yadā nabhe gajjati meghadundubhi, dhārākulā vihagapathe samantato;

    ภิกฺขู จ ปพฺภารคโตว ฌายติ, ตโต รติํ ปรมตรํ น วินฺทติฯ

    Bhikkhū ca pabbhāragatova jhāyati, tato ratiṃ paramataraṃ na vindati.

    ๕๒๓.

    523.

    ‘‘ยทา นทีนํ กุสุมากุลานํ, วิจิตฺต-วาเนยฺย-วฎํสกานํ;

    ‘‘Yadā nadīnaṃ kusumākulānaṃ, vicitta-vāneyya-vaṭaṃsakānaṃ;

    ตีเร นิสิโนฺน สุมโนว ฌายติ, ตโต รติํ ปรมตรํ น วินฺทติฯ

    Tīre nisinno sumanova jhāyati, tato ratiṃ paramataraṃ na vindati.

    ๕๒๔.

    524.

    ‘‘ยทา นิสีเถ รหิตมฺหิ กานเน, เทเว คฬนฺตมฺหิ นทนฺติ ทาฐิโน;

    ‘‘Yadā nisīthe rahitamhi kānane, deve gaḷantamhi nadanti dāṭhino;

    ภิกฺขู จ ปพฺภารคโตว ฌายติ, ตโต รติํ ปรมตรํ น วินฺทติฯ

    Bhikkhū ca pabbhāragatova jhāyati, tato ratiṃ paramataraṃ na vindati.

    ๕๒๕.

    525.

    ‘‘ยทา วิตเกฺก อุปรุนฺธิยตฺตโน, นคนฺตเร นควิวรํ สมสฺสิโต;

    ‘‘Yadā vitakke uparundhiyattano, nagantare nagavivaraṃ samassito;

    วีตทฺทโร วีตขิโลว ฌายติ, ตโต รติํ ปรมตรํ น วินฺทติฯ

    Vītaddaro vītakhilova jhāyati, tato ratiṃ paramataraṃ na vindati.

    ๕๒๖.

    526.

    ‘‘ยทา สุขี มลขิลโสกนาสโน,

    ‘‘Yadā sukhī malakhilasokanāsano,

    นิรคฺคโฬ นิพฺพนโถ วิสโลฺล;

    Niraggaḷo nibbanatho visallo;

    สพฺพาสเว พฺยนฺติกโตว ฌายติ,

    Sabbāsave byantikatova jhāyati,

    ตโต รติํ ปรมตรํ น วินฺทตี’’ติฯ – อิมา คาถา อภาสิ;

    Tato ratiṃ paramataraṃ na vindatī’’ti. – imā gāthā abhāsi;

    ตตฺถายํ ปทโยชนามุเขน ปฐมคาถาย อตฺถวณฺณนา – ขนฺธานํ ปริปาโก ชราฯ เภโท มรณํฯ ชรามรณสีเสน เจตฺถ ชรามรณวโนฺต ธมฺมา คหิตาฯ ‘‘ตยิทํ ชรามรณํ ทุกฺข’’นฺติ อวิทฺทสู ยถาภูตํ อชานนฺตา ปุถุชฺชนา ยตฺถ ยสฺมิํ อุปาทานกฺขนฺธปญฺจเก สิตา ปฎิพนฺธา อลฺลีนา, ตํ ‘‘อิทํ ทุกฺขํ, เอตฺตกํ ทุกฺขํ, น อิโต ภิโยฺย’’ติ วิปสฺสนาปญฺญาสหิตาย มคฺคปญฺญาย ปริชานิตฺวา, อิธ อิมสฺมิํ สาสเน สโต สมฺปชาโน, ปณฺฑิโต ภิกฺขุ, ยทา ยสฺมิํ กาเล ลกฺขณูปนิชฺฌาเนน ฌายติฯ ตโต วิปสฺสนารติโต มคฺคผลรติโต จ ปรมตรํ อุตฺตมตรํ รติํ น วินฺทติ นปฺปฎิลภติฯ เตนาห ภควา –

    Tatthāyaṃ padayojanāmukhena paṭhamagāthāya atthavaṇṇanā – khandhānaṃ paripāko jarā. Bhedo maraṇaṃ. Jarāmaraṇasīsena cettha jarāmaraṇavanto dhammā gahitā. ‘‘Tayidaṃ jarāmaraṇaṃ dukkha’’nti aviddasū yathābhūtaṃ ajānantā puthujjanā yattha yasmiṃ upādānakkhandhapañcake sitā paṭibandhā allīnā, taṃ ‘‘idaṃ dukkhaṃ, ettakaṃ dukkhaṃ, na ito bhiyyo’’ti vipassanāpaññāsahitāya maggapaññāya parijānitvā, idha imasmiṃ sāsane sato sampajāno, paṇḍito bhikkhu, yadā yasmiṃ kāle lakkhaṇūpanijjhānena jhāyati. Tato vipassanāratito maggaphalaratito ca paramataraṃ uttamataraṃ ratiṃ na vindati nappaṭilabhati. Tenāha bhagavā –

    ‘‘ยโต ยโต สมฺมสติ, ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ;

    ‘‘Yato yato sammasati, khandhānaṃ udayabbayaṃ;

    ลภตี ปีติปาโมชฺชํ, อมตํ ตํ วิชานตํฯ

    Labhatī pītipāmojjaṃ, amataṃ taṃ vijānataṃ.

    ‘‘ปฐพฺยา เอกรเชฺชน, สคฺคสฺส คมเนน วา;

    ‘‘Paṭhabyā ekarajjena, saggassa gamanena vā;

    สพฺพโลกาธิปเจฺจน, โสตาปตฺติผลํ วร’’นฺติฯ (ธ. ป. ๓๗๔, ๑๗๘);

    Sabbalokādhipaccena, sotāpattiphalaṃ vara’’nti. (dha. pa. 374, 178);

    เอวํ ปริญฺญาภิสมยมุเขน วิเวกรติํ ทเสฺสตฺวา อิทานิ ปหานาภิสมยาทิมุเขนปิ ตํ ทเสฺสตุํ ทุติยาทิกา ติโสฺส คาถา อภาสิฯ ตตฺถ ทุกฺขสฺสาวหนินฺติ ทุกฺขสฺส อายติํ ปวตฺติํ, ทุกฺขสฺส นิปฺผตฺติกนฺติ อโตฺถฯ วิสตฺติกนฺติ ตณฺหํฯ สา หิ วิสตาติ วิสตฺติกา, วิสาลาติ วิสตฺติกา, วิสฎาติ วิสตฺติกา, วิสกฺกตีติ วิสตฺติกา, วิสํ หรตีติ วิสตฺติกา, วิสํวาทิกาติ วิสตฺติกา, วิสมูลาติ วิสตฺติกา, วิสผลาติ วิสตฺติกา, วิสปริโภคาติ วิสตฺติกา, วิสาลา วา ปน สา ตณฺหา รูเป สเทฺท คเนฺธ รเส โผฎฺฐเพฺพ ธเมฺม กุเล คเณ วิตฺถฎาติ วิสตฺติกาติ วุจฺจติฯ ปปญฺจสงฺฆาตทุขาธิวาหินินฺติ สตฺตสนฺตานํ สํสาเร ปปเญฺจนฺติ วิตฺถาเรนฺตีติ ปปญฺจา, ราคาทโย มานาทโย จฯ เต เอว ปวตฺติทุกฺขสฺส สงฺฆาตเฎฺฐน สงฺฆาตา, สทรถปริฬาหสภาวตฺตา ทุกฺขญฺจาติ ปปญฺจสงฺฆาตทุขํ, ตสฺส อธิวาหโต นิพฺพตฺตนโต ปปญฺจสงฺฆาตทุขาธิวาหินีฯ ตํ ตณฺหํ ปหนฺตฺวานาติ อริยมเคฺคน สมุจฺฉินฺทิตฺวาฯ

    Evaṃ pariññābhisamayamukhena vivekaratiṃ dassetvā idāni pahānābhisamayādimukhenapi taṃ dassetuṃ dutiyādikā tisso gāthā abhāsi. Tattha dukkhassāvahaninti dukkhassa āyatiṃ pavattiṃ, dukkhassa nipphattikanti attho. Visattikanti taṇhaṃ. Sā hi visatāti visattikā, visālāti visattikā, visaṭāti visattikā, visakkatīti visattikā, visaṃ haratīti visattikā, visaṃvādikāti visattikā, visamūlāti visattikā, visaphalāti visattikā, visaparibhogāti visattikā, visālā vā pana sā taṇhā rūpe sadde gandhe rase phoṭṭhabbe dhamme kule gaṇe vitthaṭāti visattikāti vuccati. Papañcasaṅghātadukhādhivāhininti sattasantānaṃ saṃsāre papañcenti vitthārentīti papañcā, rāgādayo mānādayo ca. Te eva pavattidukkhassa saṅghātaṭṭhena saṅghātā, sadarathapariḷāhasabhāvattā dukkhañcāti papañcasaṅghātadukhaṃ, tassa adhivāhato nibbattanato papañcasaṅghātadukhādhivāhinī. Taṃ taṇhaṃ pahantvānāti ariyamaggena samucchinditvā.

    สิวนฺติ เขมํ, อเขมกรานํ กิเลสานํ สมุจฺฉินฺทเนน เตหิ อนุปทฺทุตนฺติ อโตฺถฯ สมฺมาทิฎฺฐิอาทีนํ วเสน ทฺวิจตุรโงฺค หุตฺวา อริเย นิพฺพานํ คเมตีติ เทฺวจตุรงฺคคามินํ, คาถาสุขตฺถเญฺจตฺถ วิภตฺติอโลโป กโตติ ทฎฺฐพฺพํฯ รูปูปปตฺติมคฺคาทีสุ สเพฺพสุ มเคฺคสุ อุตฺตมตฺตา มคฺคุตฺตมํฯ เตนาห ภควา – ‘‘มคฺคานฎฺฐงฺคิโก เสโฎฺฐ’’ติอาทิ (ธ. ป. ๒๗๓)ฯ สเพฺพหิ กิเลสมเลหิ สตฺตานํ โสธนโต สพฺพกิเลสโสธนํฯ ปญฺญาย ปสฺสิตฺวาติ ปฎิเวธปญฺญาย ภาวนาภิสมยวเสน อภิสเมจฺจฯ

    Sivanti khemaṃ, akhemakarānaṃ kilesānaṃ samucchindanena tehi anupaddutanti attho. Sammādiṭṭhiādīnaṃ vasena dvicaturaṅgo hutvā ariye nibbānaṃ gametīti dvecaturaṅgagāminaṃ, gāthāsukhatthañcettha vibhattialopo katoti daṭṭhabbaṃ. Rūpūpapattimaggādīsu sabbesu maggesu uttamattā magguttamaṃ. Tenāha bhagavā – ‘‘maggānaṭṭhaṅgiko seṭṭho’’tiādi (dha. pa. 273). Sabbehi kilesamalehi sattānaṃ sodhanato sabbakilesasodhanaṃ. Paññāya passitvāti paṭivedhapaññāya bhāvanābhisamayavasena abhisamecca.

    โสกเหตูนํ อภาวโต ปุคฺคลสฺส จ โสกาภาวเหตุโต นตฺถิ เอตฺถ โสโกติ อโสกํฯ ตถา วิคตราคาทิรชตฺตา วิรชํฯ น เกนจิ ปจฺจเยน สงฺขตนฺติ อสงฺขตํฯ สเพฺพสํ กิเลสานํ สพฺพสฺส จ ทุกฺขสฺส วูปสมภาวโต, สํสารทุกฺขทฺทิเตหิ ปชฺชิตพฺพโต อธิคนฺตพฺพโต จ สนฺตํ ปทํฯ สเพฺพหิ กิเลสมเลหิ สตฺตสนฺตานสฺส โสธนนิมิตฺตโต สพฺพกิเลสโสธนํฯ ภาเวตีติ สจฺฉิกิริยาภิสมยวเสน อภิสเมติฯ พหุกฺขตฺตุญฺหิ นิพฺพานํ อารพฺภ สจฺฉิกิริยาภิสมยํ ปวเตฺตนฺตสฺส อาลมฺพเก ลพฺภมานวิเสสกํ อาลมฺพิตเพฺพ อาโรเปตฺวา เอวํ วุตฺตํฯ สํโยชนสงฺขาตานํ พนฺธนานํ เฉทนโต สํโยชนพนฺธนจฺฉิทํฯ นิมิตฺตเญฺหตฺถ กตฺตุภาเวน อุปจาริตํ, ยถา อริยภาวกรานิ สจฺจานิ อริยสจฺจานีติฯ ยถา ปุริมคาถาสุ ยทา ฌายติ, ตทา ตโต รติํ ปรมตรํ น วินฺทตีติ โยชนาฯ เอวํ อิธ ยทา ภาเวติ, ตทา ตโต รติํ ปรมตรํ น วินฺทตีติ โยชนาฯ

    Sokahetūnaṃ abhāvato puggalassa ca sokābhāvahetuto natthi ettha sokoti asokaṃ. Tathā vigatarāgādirajattā virajaṃ. Na kenaci paccayena saṅkhatanti asaṅkhataṃ. Sabbesaṃ kilesānaṃ sabbassa ca dukkhassa vūpasamabhāvato, saṃsāradukkhadditehi pajjitabbato adhigantabbato ca santaṃ padaṃ. Sabbehi kilesamalehi sattasantānassa sodhananimittato sabbakilesasodhanaṃ. Bhāvetīti sacchikiriyābhisamayavasena abhisameti. Bahukkhattuñhi nibbānaṃ ārabbha sacchikiriyābhisamayaṃ pavattentassa ālambake labbhamānavisesakaṃ ālambitabbe āropetvā evaṃ vuttaṃ. Saṃyojanasaṅkhātānaṃ bandhanānaṃ chedanato saṃyojanabandhanacchidaṃ. Nimittañhettha kattubhāvena upacāritaṃ, yathā ariyabhāvakarāni saccāni ariyasaccānīti. Yathā purimagāthāsu yadā jhāyati, tadā tato ratiṃ paramataraṃ na vindatīti yojanā. Evaṃ idha yadā bhāveti, tadā tato ratiṃ paramataraṃ na vindatīti yojanā.

    เอวํ เถโร จตูหิ คาถาหิ อตฺตานํ อนุปเนตฺวาว จตุสจฺจปฎิเวธกิตฺตเนน อญฺญํ พฺยากริตฺวา อิทานิ อตฺตนา วสิตฎฺฐานสฺส วิวิตฺตภาเวน ผาสุตํ ทเสฺสโนฺต ‘‘ยทา นเภ’’ติอาทิกา คาถา อภาสิฯ ตตฺถ นเภติ อากาเสฯ สินิทฺธคมฺภีรนิโคฺฆสตาย เมโฆเยว ทุนฺทุภิ เมฆทุนฺทุภิฯ สมนฺตโต ปคฺฆรนฺตีหิ ธาราหิ อากุลาติ ธารากุลาฯ วิหคานํ ปกฺขีนํ คมนมคฺคตฺตา วิหคปเถ นเภติ โยชนาฯ ตโตติ ฌานรติโตฯ

    Evaṃ thero catūhi gāthāhi attānaṃ anupanetvāva catusaccapaṭivedhakittanena aññaṃ byākaritvā idāni attanā vasitaṭṭhānassa vivittabhāvena phāsutaṃ dassento ‘‘yadā nabhe’’tiādikā gāthā abhāsi. Tattha nabheti ākāse. Siniddhagambhīranigghosatāya meghoyeva dundubhi meghadundubhi. Samantato paggharantīhi dhārāhi ākulāti dhārākulā. Vihagānaṃ pakkhīnaṃ gamanamaggattā vihagapathe nabheti yojanā. Tatoti jhānaratito.

    กุสุมากุลานนฺติ ตรูหิ คฬิตกุสุเมหิ สโมหิตานํฯ วิจิตฺตวาเนยฺยวฎํสกานนฺติ วเน ชาตตฺตา วาเนยฺยานิ วนปุปฺผานิ, วิจิตฺตานิ วาเนยฺยานิ วฎํสกานิ เอตาสนฺติ วิจิตฺตวาเนยฺยวฎํสกา นทิโย, ตาสํ นานาวิธวนปุปฺผวฎํสกานนฺติ อโตฺถฯ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมวเสน สุนฺทโร มโน เอตสฺสาติ สุมโน ฌายติฯ

    Kusumākulānanti tarūhi gaḷitakusumehi samohitānaṃ. Vicittavāneyyavaṭaṃsakānanti vane jātattā vāneyyāni vanapupphāni, vicittāni vāneyyāni vaṭaṃsakāni etāsanti vicittavāneyyavaṭaṃsakā nadiyo, tāsaṃ nānāvidhavanapupphavaṭaṃsakānanti attho. Uttarimanussadhammavasena sundaro mano etassāti sumano jhāyati.

    นิสีเถติ รตฺติยํฯ รหิตมฺหีติ, ชนสมฺพาธวิรหิเต วิวิเตฺตฯ เทเวติ เมเฆฯ คฬนฺตมฺหีติ วุฎฺฐิธาราโย ปคฺฆรเนฺต วสฺสเนฺตฯ ทาฐิโนติ สีหพฺยคฺฆาทโย ปฎิปกฺขสตฺตาฯ เต หิ ทาฐาวุธาติ ‘‘ทาฐิโน’’ติ วุจฺจนฺติ, นทนฺติ ทาฐิโนติ อิทมฺปิ ชนวิเวกทสฺสนตฺถเมว คหิตํฯ

    Nisītheti rattiyaṃ. Rahitamhīti, janasambādhavirahite vivitte. Deveti meghe. Gaḷantamhīti vuṭṭhidhārāyo paggharante vassante. Dāṭhinoti sīhabyagghādayo paṭipakkhasattā. Te hi dāṭhāvudhāti ‘‘dāṭhino’’ti vuccanti, nadanti dāṭhinoti idampi janavivekadassanatthameva gahitaṃ.

    วิตเกฺก อุปรุนฺธิยตฺตโนติ อตฺตสนฺตานปริยาปนฺนตาย อตฺตโน กามวิตกฺกาทิเก มิจฺฉาวิตเกฺก ปฎิปกฺขพเลน นิเสเธตฺวาฯ อตฺตโนติ วา อิทํ วินฺทตีติ อิมินา โยเชตพฺพํ ‘‘ตโต รติํ ปรมตรํ อตฺตนา น วินฺทตี’’ติฯ นคนฺตเรติ ปพฺพตนฺตเรฯ นควิวรนฺติ ปพฺพตคุหํ ปพฺภารํ วาฯ สมสฺสิโตติ นิสฺสิโต อุปคโตฯ วีตทฺทโรติ วิคตกิเลสทรโถฯ วีตขิโลติ ปหีนเจโตขิโลฯ

    Vitakke uparundhiyattanoti attasantānapariyāpannatāya attano kāmavitakkādike micchāvitakke paṭipakkhabalena nisedhetvā. Attanoti vā idaṃ vindatīti iminā yojetabbaṃ ‘‘tato ratiṃ paramataraṃ attanā na vindatī’’ti. Nagantareti pabbatantare. Nagavivaranti pabbataguhaṃ pabbhāraṃ vā. Samassitoti nissito upagato. Vītaddaroti vigatakilesadaratho. Vītakhiloti pahīnacetokhilo.

    สุขีติ ฌานาทิสุเขน สุขิโตฯ มลขิลโสกนาสโนติ ราคาทีนํ มลานํ ปญฺจนฺนญฺจ เจโตขิลานํ ญาติวิโยคาทิเหตุกสฺส โสกสฺส จ ปหายโกฯ นิรคฺคโฬติ, อคฺคฬํ วุจฺจติ อวิชฺชา นิพฺพานปุรปเวสนิวารณโต, ตทภาวโต นิรคฺคโฬฯ นิพฺพนโถติ นิตโณฺหฯ วิสโลฺลติ, วิคตราคาทิสโลฺลฯ สพฺพาสเวติ, กามาสวาทิเก สเพฺพปิ อาสเวฯ พฺยนฺติกโตติ พฺยนฺติกตาวี อริยมเคฺคน วิคตเนฺต กตฺวา ฐิโต ทิฎฺฐธมฺมสุขวิหารตฺถํ ยทา ฌายติ, ตโต ฌานรติโต ปรมตรํ รติํ น วินฺทตีติ โยชนาฯ เอวํ ปน วตฺวา เถโร อชกรณีตีรเมว คโตฯ

    Sukhīti jhānādisukhena sukhito. Malakhilasokanāsanoti rāgādīnaṃ malānaṃ pañcannañca cetokhilānaṃ ñātiviyogādihetukassa sokassa ca pahāyako. Niraggaḷoti, aggaḷaṃ vuccati avijjā nibbānapurapavesanivāraṇato, tadabhāvato niraggaḷo. Nibbanathoti nitaṇho. Visalloti, vigatarāgādisallo. Sabbāsaveti, kāmāsavādike sabbepi āsave. Byantikatoti byantikatāvī ariyamaggena vigatante katvā ṭhito diṭṭhadhammasukhavihāratthaṃ yadā jhāyati, tato jhānaratito paramataraṃ ratiṃ na vindatīti yojanā. Evaṃ pana vatvā thero ajakaraṇītīrameva gato.

    ภูตเตฺถรคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Bhūtattheragāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.

    นวกนิปาตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Navakanipātavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi / ๑. ภูตเตฺถรคาถา • 1. Bhūtattheragāthā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact