Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā

    [๑๒๘] ๘. พิฬารวตชาตกวณฺณนา

    [128] 8. Biḷāravatajātakavaṇṇanā

    โย เว ธมฺมํ ธชํ กตฺวาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต เอกํ กุหกภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิฯ ตทา หิ สตฺถา ตสฺส กุหกภาเว อาโรจิเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุเพฺพเปส กุหโกเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริฯ

    Yove dhammaṃ dhajaṃ katvāti idaṃ satthā jetavane viharanto ekaṃ kuhakabhikkhuṃ ārabbha kathesi. Tadā hi satthā tassa kuhakabhāve ārocite ‘‘na, bhikkhave, idāneva, pubbepesa kuhakoyevā’’ti vatvā atītaṃ āhari.

    อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต มูสิกโยนิยํ ปฎิสนฺธิํ คเหตฺวา วุฑฺฒิมนฺวาย มหาสรีโร สูกรจฺฉาปกสทิโส หุตฺวา อเนกสตมูสิกาหิ ปริวุโต อรเญฺญ วิหรติฯ อเถโก สิงฺคาโล อิโต จิโต จ วิจรโนฺต ตํ มูสิกยูถํ ทิสฺวา ‘‘อิมา มูสิกา วเญฺจตฺวา ขาทิสฺสามี’’ติ จิเนฺตตฺวา มูสิกานํ อาสยสฺส อวิทูเร สูริยาภิมุโข วาตํ ปิวโนฺต เอเกน ปาเทน อฎฺฐาสิฯ โพธิสโตฺต โคจราย จรมาโน ตํ ทิสฺวา ‘‘สีลวา เอโส ภวิสฺสตี’’ติ ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘ภเนฺต, ตฺวํ โก นาโม’’ติ ปุจฺฉิฯ ‘‘ธมฺมิโก นามา’’ติฯ ‘‘จตฺตาโร ปาเท ภูมิยํ อฐเปตฺวา กสฺมา เอเกเนว ฐิโตสี’’ติฯ ‘‘มยิ จตฺตาโร ปาเท ปถวิยํ ฐเปเนฺต ปถวี วหิตุํ น สโกฺกติ, ตสฺมา เอเกเนว ติฎฺฐามี’’ติฯ ‘‘มุขํ วิวริตฺวา กสฺมา ฐิโตสี’’ติ? ‘‘มยํ อญฺญํ น ภกฺขยาม, วาตเมว ภกฺขยามา’’ติฯ ‘‘อถ กสฺมา สูริยาภิมุโข ติฎฺฐสี’’ติ? ‘‘สูริยํ นมสฺสามี’’ติฯ โพธิสโตฺต ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘สีลวา เอโส ภวิสฺสตี’’ติ ตโต ปฎฺฐาย มูสิกคเณน สทฺธิํ สายํ ปาตํ ตสฺส อุปฎฺฐานํ คจฺฉติฯ

    Atīte bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bodhisatto mūsikayoniyaṃ paṭisandhiṃ gahetvā vuḍḍhimanvāya mahāsarīro sūkaracchāpakasadiso hutvā anekasatamūsikāhi parivuto araññe viharati. Atheko siṅgālo ito cito ca vicaranto taṃ mūsikayūthaṃ disvā ‘‘imā mūsikā vañcetvā khādissāmī’’ti cintetvā mūsikānaṃ āsayassa avidūre sūriyābhimukho vātaṃ pivanto ekena pādena aṭṭhāsi. Bodhisatto gocarāya caramāno taṃ disvā ‘‘sīlavā eso bhavissatī’’ti tassa santikaṃ gantvā ‘‘bhante, tvaṃ ko nāmo’’ti pucchi. ‘‘Dhammiko nāmā’’ti. ‘‘Cattāro pāde bhūmiyaṃ aṭhapetvā kasmā ekeneva ṭhitosī’’ti. ‘‘Mayi cattāro pāde pathaviyaṃ ṭhapente pathavī vahituṃ na sakkoti, tasmā ekeneva tiṭṭhāmī’’ti. ‘‘Mukhaṃ vivaritvā kasmā ṭhitosī’’ti? ‘‘Mayaṃ aññaṃ na bhakkhayāma, vātameva bhakkhayāmā’’ti. ‘‘Atha kasmā sūriyābhimukho tiṭṭhasī’’ti? ‘‘Sūriyaṃ namassāmī’’ti. Bodhisatto tassa vacanaṃ sutvā ‘‘sīlavā eso bhavissatī’’ti tato paṭṭhāya mūsikagaṇena saddhiṃ sāyaṃ pātaṃ tassa upaṭṭhānaṃ gacchati.

    อถสฺส อุปฎฺฐานํ กตฺวา คมนกาเล สิงฺคาโล สพฺพปจฺฉิมํ มูสิกํ คเหตฺวา มํสํ ขาทิตฺวา อโชฺฌหริตฺวา มุขํ ปุญฺฉิตฺวา ติฎฺฐติฯ อนุปุเพฺพน มูสิกคโณ ตนุโก ชาโตฯ มูสิกา ‘‘ปุเพฺพ อมฺหากํ อยํ อาสโย นปฺปโหติ, นิรนฺตรา ติฎฺฐามฯ อิทานิ สิถิลา, เอวมฺปิ อาสโย น ปูรเตว, กิํ นุ โข เอต’’นฺติ โพธิสตฺตสฺส ตํ ปวตฺติํ อาโรเจสุํฯ โพธิสโตฺต ‘‘เกน นุ โข การเณน มุสิกา ตนุตฺตํ คตา’’ติ จิเนฺตโนฺต สิงฺคาเล อาสงฺกํ ฐเปตฺวา ‘‘วีมํสิสฺสามิ น’’นฺติ อุปฎฺฐานกาเล เสสมูสิกา ปุรโต กตฺวา สยํ ปจฺฉโต อโหสิฯ สิงฺคาโล ตสฺส อุปริ ปกฺขนฺทิ, โพธิสโตฺต อตฺตโน คหณตฺถาย ตํ ปกฺขนฺทนฺตํ ทิสฺวา นิวตฺติตฺวา ‘‘โภ สิงฺคาล, อิทํ เต วตสมาทานํ น ธมฺมสุธมฺมตาย, ปเรสํ ปน วิหิํสนตฺถาย ธมฺมํ ธชํ กตฺวา จรสี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

    Athassa upaṭṭhānaṃ katvā gamanakāle siṅgālo sabbapacchimaṃ mūsikaṃ gahetvā maṃsaṃ khāditvā ajjhoharitvā mukhaṃ puñchitvā tiṭṭhati. Anupubbena mūsikagaṇo tanuko jāto. Mūsikā ‘‘pubbe amhākaṃ ayaṃ āsayo nappahoti, nirantarā tiṭṭhāma. Idāni sithilā, evampi āsayo na pūrateva, kiṃ nu kho eta’’nti bodhisattassa taṃ pavattiṃ ārocesuṃ. Bodhisatto ‘‘kena nu kho kāraṇena musikā tanuttaṃ gatā’’ti cintento siṅgāle āsaṅkaṃ ṭhapetvā ‘‘vīmaṃsissāmi na’’nti upaṭṭhānakāle sesamūsikā purato katvā sayaṃ pacchato ahosi. Siṅgālo tassa upari pakkhandi, bodhisatto attano gahaṇatthāya taṃ pakkhandantaṃ disvā nivattitvā ‘‘bho siṅgāla, idaṃ te vatasamādānaṃ na dhammasudhammatāya, paresaṃ pana vihiṃsanatthāya dhammaṃ dhajaṃ katvā carasī’’ti vatvā imaṃ gāthamāha –

    ๑๒๘.

    128.

    ‘‘โย เว ธมฺมํ ธชํ กตฺวา, นิคูโฬฺห ปาปมาจเร;

    ‘‘Yo ve dhammaṃ dhajaṃ katvā, nigūḷho pāpamācare;

    วิสฺสาสยิตฺวา ภูตานิ, พิฬารํ นาม ตํ วต’’นฺติฯ

    Vissāsayitvā bhūtāni, biḷāraṃ nāma taṃ vata’’nti.

    ตตฺถ โย เวติ ขตฺติยาทีสุ โย โกจิเทวฯ ธมฺมํ ธชํ กตฺวาติ ทสกุสลกมฺมปถธมฺมํ ธชํ กริตฺวา, กูฎํ กโรโนฺต วิย อุสฺสาเปตฺวา ทเสฺสโนฺตติ อโตฺถฯ วิสฺสาสยิตฺวาติ ‘‘สีลวา อย’’นฺติ สญฺญาย สญฺชาตวิสฺสาสานิ กตฺวาฯ พิฬารํ นาม ตํ วตนฺติ ตํ เอวํ ธมฺมํ ธชํ กตฺวา รโห ปาปานิ กโรนฺตสฺส วตํ เกราฎิกวตํ นาม โหตีติ อโตฺถฯ

    Tattha yo veti khattiyādīsu yo kocideva. Dhammaṃ dhajaṃ katvāti dasakusalakammapathadhammaṃ dhajaṃ karitvā, kūṭaṃ karonto viya ussāpetvā dassentoti attho. Vissāsayitvāti ‘‘sīlavā aya’’nti saññāya sañjātavissāsāni katvā. Biḷāraṃ nāma taṃ vatanti taṃ evaṃ dhammaṃ dhajaṃ katvā raho pāpāni karontassa vataṃ kerāṭikavataṃ nāma hotīti attho.

    มูสิกราชา กเถโนฺตว อุปฺปติตฺวา ตสฺส คีวายํ ปติตฺวา หนุกสฺส เหฎฺฐา อโนฺตคลนาฬิยํ ฑํสิตฺวา คลนาฬิํ ผาเลตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปสิฯ มูสิกคโณ นิวตฺติตฺวา สิงฺคาลํ ‘‘มุรุ มุรู’’ติ ขาทิตฺวา อคมาสิฯ ปฐมาคตาว กิรสฺส มํสํ ลภิํสุ, ปจฺฉา อาคตา น ลภิํสุฯ ตโต ปฎฺฐาย มูสิกคโณ นิพฺภโย ชาโตฯ

    Mūsikarājā kathentova uppatitvā tassa gīvāyaṃ patitvā hanukassa heṭṭhā antogalanāḷiyaṃ ḍaṃsitvā galanāḷiṃ phāletvā jīvitakkhayaṃ pāpesi. Mūsikagaṇo nivattitvā siṅgālaṃ ‘‘muru murū’’ti khāditvā agamāsi. Paṭhamāgatāva kirassa maṃsaṃ labhiṃsu, pacchā āgatā na labhiṃsu. Tato paṭṭhāya mūsikagaṇo nibbhayo jāto.

    สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา สิงฺคาโล กุหกภิกฺขุ อโหสิ, มูสิกราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ

    Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā jātakaṃ samodhānesi – ‘‘tadā siṅgālo kuhakabhikkhu ahosi, mūsikarājā pana ahameva ahosi’’nti.

    พิฬารวตชาตกวณฺณนา อฎฺฐมาฯ

    Biḷāravatajātakavaṇṇanā aṭṭhamā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๑๒๘. พิฬารวตชาตกํ • 128. Biḷāravatajātakaṃ


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact