Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi |
๑๓. พิมฺพิสารสมาคมกถา
13. Bimbisārasamāgamakathā
๕๕. ลฎฺฐิสโทฺท ตรุณรุกฺขวาจโก ‘‘อมฺพลฎฺฐิกาย’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒), อิธาปิ ตรุณตาลรุโกฺข ลฎฺฐิ นามาติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘ตาลุยฺยาเน’’ติฯ วฎรุเกฺขติ นิโคฺรธรุเกฺขฯ เอตฺถ ‘‘วฎ’’อิติ อิมินา วฎรุโกฺข พหุมูลตฺตา สุฎฺฐุํ ปติฎฺฐาตีติ อเตฺถน สุปฺปติโฎฺฐ นามาติ ทเสฺสติฯ ‘‘รุเกฺข’’อิติ อิมินา เจติยสโทฺท เจติยรุเกฺข วตฺตตีติ ทเสฺสติ, เทวาลยญฺจ ถูปญฺจ นิวเตฺตติฯ ตสฺสาติ วฎรุกฺขสฺสฯ เอตนฺติ ‘‘สุปฺปติเฎฺฐ เจติเย’’ติ เอตํ นามํฯ โลกโวหารวเสน ทสสหสฺสสงฺขาเต สงฺขฺยาวิเสเส นีหริตฺวา ยุชฺชิตพฺพนฺติ นิยุตนฺติ วจนเตฺถน ทสสหสฺสํ นิยุตํ นามาติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘เอกนิยุตํ ทสสหสฺสานี’’ติฯ ‘‘นหุต’’นฺติปิ ปาโฐ, โส อยุโตฺต นหุตสงฺขาเตน สงฺขฺยาวิเสเสน มิสฺสีภาเวน ปสงฺคตฺตาฯ เตสนฺติ ทฺวาทสนิยุตานํ พฺราหฺมณคหปติกานํฯ
55.Laṭṭhisaddo taruṇarukkhavācako ‘‘ambalaṭṭhikāya’’ntiādīsu (dī. ni. 1.2), idhāpi taruṇatālarukkho laṭṭhi nāmāti dassento āha ‘‘tāluyyāne’’ti. Vaṭarukkheti nigrodharukkhe. Ettha ‘‘vaṭa’’iti iminā vaṭarukkho bahumūlattā suṭṭhuṃ patiṭṭhātīti atthena suppatiṭṭho nāmāti dasseti. ‘‘Rukkhe’’iti iminā cetiyasaddo cetiyarukkhe vattatīti dasseti, devālayañca thūpañca nivatteti. Tassāti vaṭarukkhassa. Etanti ‘‘suppatiṭṭhe cetiye’’ti etaṃ nāmaṃ. Lokavohāravasena dasasahassasaṅkhāte saṅkhyāvisese nīharitvā yujjitabbanti niyutanti vacanatthena dasasahassaṃ niyutaṃ nāmāti dassento āha ‘‘ekaniyutaṃ dasasahassānī’’ti. ‘‘Nahuta’’ntipi pāṭho, so ayutto nahutasaṅkhātena saṅkhyāvisesena missībhāvena pasaṅgattā. Tesanti dvādasaniyutānaṃ brāhmaṇagahapatikānaṃ.
‘‘กิสสรีรตฺตา’’ติ อิมินา กิโส โก อตฺตา เอเตสนฺติ กิสกาติ วจนตฺถํ ทเสฺสติฯ กกาโร เหตฺถ อตฺตวาจโกฯ ‘‘โอวาทโก’’ติ อิมินา โอวทาโนติ เอตฺถ ยุปจฺจโย กตฺตุโตฺถติ ทเสฺสติฯ คาถาพนฺธตฺตา อการสฺส ทีโฆฯ ‘‘อถ วา’’ติอาทินา กิสโก หุตฺวา อเญฺญ โอวทาโน กิสโกวทาโนติ วจนตฺถํ ทเสฺสติฯ อิทนฺติ อิทํ อตฺถชาตํ, อยมโตฺถ วาฯ ตฺวํ ปหาสีติ สมฺพโนฺธฯ ตนฺติ ตุวํฯ อิติ วุตฺตํ โหตีติ โยชนาฯ
‘‘Kisasarīrattā’’ti iminā kiso ko attā etesanti kisakāti vacanatthaṃ dasseti. Kakāro hettha attavācako. ‘‘Ovādako’’ti iminā ovadānoti ettha yupaccayo kattutthoti dasseti. Gāthābandhattā akārassa dīgho. ‘‘Atha vā’’tiādinā kisako hutvā aññe ovadāno kisakovadānoti vacanatthaṃ dasseti. Idanti idaṃ atthajātaṃ, ayamattho vā. Tvaṃ pahāsīti sambandho. Tanti tuvaṃ. Iti vuttaṃ hotīti yojanā.
กามิตฺถิโยติ เอการโลปวเสน สนฺธีติ อาห ‘‘กาเม อิตฺถิโย จา’’ติฯ อุปจีสูติ เอตฺถ กามขนฺธกิเลสอภิสงฺขารสงฺขาเตสุ จตูสุ อุปธีสุ ขนฺธุปธิ อธิเปฺปโตติ อาห ‘‘ขนฺธุปธีสู’’ติฯ
Kāmitthiyoti ekāralopavasena sandhīti āha ‘‘kāme itthiyo cā’’ti. Upacīsūti ettha kāmakhandhakilesaabhisaṅkhārasaṅkhātesu catūsu upadhīsu khandhupadhi adhippetoti āha ‘‘khandhupadhīsū’’ti.
โกจรหีติ เอตฺถ โกสโทฺท ‘‘โก เต พลํ มหาราชา’’ติอาทีสุ (ชา. ๒.๒๒.๑๘๘๐) วิย กฺวสทฺทโตฺถติ อาห ‘‘กฺวจรหี’’ติฯ นิปาโตเยเวสฯ
Kocarahīti ettha kosaddo ‘‘ko te balaṃ mahārājā’’tiādīsu (jā. 2.22.1880) viya kvasaddatthoti āha ‘‘kvacarahī’’ti. Nipātoyevesa.
ปทสทฺทสฺส จรณปทาทโย นิวเตฺตตุํ วุตฺตํ ‘‘นิพฺพานปท’’นฺติฯ ‘‘สนฺตสภาวตายา’’ติอาทินา สโนฺต สภาโว อิมสฺส ปทสฺสาติ สนฺตํฯ นตฺถิ อุปธโย เอตฺถาติ อนุปธิกํฯ นตฺถิ กิญฺจนเมตฺถาติ อกิญฺจนํฯ ตีสุ ภเวสุ น สญฺชตีติ อสตฺตํฯ อญฺญถา น ภวตีติ อนญฺญถาภาวิฯ อเญฺญน เกนจิ น เนตพฺพนฺติ อนญฺญเนยฺยนฺติ วจนตฺถํ ทเสฺสติฯ เตนาติ ‘‘สนฺต’’นฺติอาทิปเทนฯ เมติ มม, มโนติ สมฺพโนฺธฯ เอตฺถ เทวมนุสฺสโลเก เม มโน รโต นามาติ กิํ วกฺขามิฯ อิติ อิมมตฺถํ ทเสฺสตีติ โยชนาฯ
Padasaddassa caraṇapadādayo nivattetuṃ vuttaṃ ‘‘nibbānapada’’nti. ‘‘Santasabhāvatāyā’’tiādinā santo sabhāvo imassa padassāti santaṃ. Natthi upadhayo etthāti anupadhikaṃ. Natthi kiñcanametthāti akiñcanaṃ. Tīsu bhavesu na sañjatīti asattaṃ. Aññathā na bhavatīti anaññathābhāvi. Aññena kenaci na netabbanti anaññaneyyanti vacanatthaṃ dasseti. Tenāti ‘‘santa’’ntiādipadena. Meti mama, manoti sambandho. Ettha devamanussaloke me mano rato nāmāti kiṃ vakkhāmi. Iti imamatthaṃ dassetīti yojanā.
๕๖. ตญฺจาติ สาวกภาวญฺจฯ
56.Tañcāti sāvakabhāvañca.
๕๗. อสฺสาสกาติ เอตฺถ อาปุโพฺพ สาสธาตุ อาปุพฺพ สิสธาตุนา สทิโส, ‘‘เม’’ติ ฉฎฺฐีโยคตฺตา ณฺวุปจฺจโย จ ภาวโตฺถติ อาห ‘‘อาสิสนา’’ติฯ ‘‘ปตฺถนา’’ติ อิมินา อาปุพฺพสิสธาตุยา อตฺถํ ทเสฺสติฯ อสฺสาติ พิมฺพิสารรโญฺญฯ ตตฺถาติ รตนตฺตเยฯ นิจฺฉยคมนเมวาติ ‘‘สรณ’’อิตินิจฺฉเยน ชานนเมว คโตฯ อตฺตสนฺนิยฺยาตนนฺติ อตฺตโน อตฺตานํ รตนตฺตเย สนฺนิยฺยาตนํฯ อิมินา อตฺตสนฺนิยฺยาตน, ปณิปาต, ตปฺปรายน, สิสฺสภาวูปคมนสงฺขาเตสุ จตูสุ สรณคมเนสุ (ที. นิ. อฎฺฐ. ๑.๒๕๐; ม. นิ. อฎฺฐ. ๑.๕๖; ขุ. ปา. อฎฺฐ. ๑.สรณคมนคมกวิภาวนา) อตฺตสนฺนิยฺยาตนสรณคมนํ ทีเปติฯ อยนฺติ พิมฺพิสาโร ราชาฯ ตนฺติ นิยตสรณตํฯ ปณิปาตคมนญฺจาติ เอตฺถ ปณีติ กโรฯ ยถา หิ ปาทปทสทฺทา ทีฆรสฺสวเสน หุตฺวา จรณํ วทนฺติ, เอวํ ปาณิปณิสทฺทา กรํ วทนฺติฯ ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ปณีติ กโร’’ติฯ ปตนํ ปาโต, ปณิโน ปาโต ปณิปาโตฯ อตฺถโต อญฺชลิปณมนนฺติ วุตฺตํ โหติฯ ตสฺส คมนญฺจ คจฺฉโนฺตติ อโตฺถฯ อิมินา ปณิปาตสรณคมนํ ทีเปติฯ จสโทฺท ‘‘ปากฎ’’นฺติ เอตฺถาปิ โยเชตโพฺพฯ ปากฎญฺจ กโรโนฺตติ หิ อโตฺถฯ
57.Assāsakāti ettha āpubbo sāsadhātu āpubba sisadhātunā sadiso, ‘‘me’’ti chaṭṭhīyogattā ṇvupaccayo ca bhāvatthoti āha ‘‘āsisanā’’ti. ‘‘Patthanā’’ti iminā āpubbasisadhātuyā atthaṃ dasseti. Assāti bimbisārarañño. Tatthāti ratanattaye. Nicchayagamanamevāti ‘‘saraṇa’’itinicchayena jānanameva gato. Attasanniyyātananti attano attānaṃ ratanattaye sanniyyātanaṃ. Iminā attasanniyyātana, paṇipāta, tapparāyana, sissabhāvūpagamanasaṅkhātesu catūsu saraṇagamanesu (dī. ni. aṭṭha. 1.250; ma. ni. aṭṭha. 1.56; khu. pā. aṭṭha. 1.saraṇagamanagamakavibhāvanā) attasanniyyātanasaraṇagamanaṃ dīpeti. Ayanti bimbisāro rājā. Tanti niyatasaraṇataṃ. Paṇipātagamanañcāti ettha paṇīti karo. Yathā hi pādapadasaddā dīgharassavasena hutvā caraṇaṃ vadanti, evaṃ pāṇipaṇisaddā karaṃ vadanti. Tasmā vuttaṃ ‘‘paṇīti karo’’ti. Patanaṃ pāto, paṇino pāto paṇipāto. Atthato añjalipaṇamananti vuttaṃ hoti. Tassa gamanañca gacchantoti attho. Iminā paṇipātasaraṇagamanaṃ dīpeti. Casaddo ‘‘pākaṭa’’nti etthāpi yojetabbo. Pākaṭañca karontoti hi attho.
๕๘. สิงฺคีนิกฺขสวโณฺณติ เอตฺถ สิงฺคีสงฺขาโต นิโกฺข สิงฺคีนิโกฺข, เตน สมาโน วโณฺณ เอตสฺสาติ สิงฺคีนิกฺขสวโณฺณติ วจนตฺถํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘สิงฺคีสุวณฺณนิเกฺขน สมานวโณฺณ’’ติฯ ตตฺถ ‘‘สุวณฺณ’’อิติปเทน นิกฺขสทฺทสฺส สุวณฺณตฺถํ ทเสฺสติ, ปญฺจสุวณฺณาทโย อเตฺถ นิวเตฺตติฯ ‘‘สมาน’’อิติปเทน สวโณฺณติ เอตฺถ สกาโร สมานสทฺทเสฺสว การิโยติ ทเสฺสติฯ สเพฺพสูติ อขิเลสุ จกฺขาทิอินฺทฺริเยสุฯ ทโนฺตติ ทมิโตฯ อินฺทฺริยสํวโรติ วุตฺตํ โหติฯ ตเมวตฺถํ ปากฎํ กโรโนฺต อาห ‘‘ภควโต หี’’ติอาทิฯ
58.Siṅgīnikkhasavaṇṇoti ettha siṅgīsaṅkhāto nikkho siṅgīnikkho, tena samāno vaṇṇo etassāti siṅgīnikkhasavaṇṇoti vacanatthaṃ dassento āha ‘‘siṅgīsuvaṇṇanikkhena samānavaṇṇo’’ti. Tattha ‘‘suvaṇṇa’’itipadena nikkhasaddassa suvaṇṇatthaṃ dasseti, pañcasuvaṇṇādayo atthe nivatteti. ‘‘Samāna’’itipadena savaṇṇoti ettha sakāro samānasaddasseva kāriyoti dasseti. Sabbesūti akhilesu cakkhādiindriyesu. Dantoti damito. Indriyasaṃvaroti vuttaṃ hoti. Tamevatthaṃ pākaṭaṃ karonto āha ‘‘bhagavato hī’’tiādi.
๕๙. โอณีโต ปตฺตโต ปาณิ เยนาติ โอณีตปตฺตปาณีติ วจนตฺถํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘ปตฺตโต จา’’ติอาทิฯ ‘‘อปนีตปาณิ’’นฺติ อิมินา โอณีตสโทฺท อปนีตโตฺถ, ปาณิสเทฺทน จ สมฺพนฺธิตโพฺพติ ทเสฺสติฯ ‘‘สลฺลเกฺขตฺวา’’ติ อิมินา ‘‘ภควนฺต’’นฺติ อิมํ กมฺมํ ‘‘สลฺลเกฺขตฺวา’’ติ ปาฐเสเสน โยเชตพฺพนฺติ ทเสฺสติฯ เอกมนฺตนฺติ เอตฺถ อนฺตสโทฺท สมีปเทสโตฺถ, โกฎิเทสโตฺถ วา โหติ , อุปโยควจนญฺจ ภุมฺมเตฺถ โหตีติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘เอกสฺมิํ ปเทเส’’ติฯ อตฺถิกปโยเค กรณสฺส สมฺภวโต อาห ‘‘พุทฺธาภิวาทนคมเนน วา ธมฺมสฺสวนคมเนน วา’’ติฯ อปฺปากิณฺณนฺติ เอตฺถ อปฺปสโทฺท ปฎิเสธโตฺถติ อาห ‘‘อนากิณฺณ’’นฺติฯ ‘‘อโพฺพกิณฺณ’’นฺติปิ ปาโฐฯ อปฺปนิโคฺฆสนฺติ เอตฺถ ‘‘อปฺปสทฺท’’นฺติปเทน วจนสทฺทสฺส คหิตตฺตา อิมินา ปาริเสสนเยน นครนิโคฺฆสสโทฺทเยว คเหตโพฺพติ อาห ‘‘นครนิโคฺฆสสเทฺทน อปฺปนิโคฺฆส’’นฺติฯ ตีสุ ปาเฐสุ ปฐเมน ปาเฐน ชนสฺส วาโต ชนวาโต, เตน วิรหิตํ วิชนวาตนฺติ วิกปฺปํ ทเสฺสติฯ ทุติเยน ชนสฺส วาโท ชนวาโท, เตน วิรหิตํ วิชนวาทนฺติ วิกปฺปํ ทเสฺสติฯ ตติเยน ชนสฺส ปาโต สญฺจรณํ ชนปาโต, เตน วิรหิตํ วิชนปาตนฺติ วิกปฺปํ ทเสฺสติฯ รหสฺสํ กรียติ เอตฺถาติ ราหเสฺสยฺยกํฯ มนุสฺสานํ ราหเสฺสยฺยกํ มนุสฺสราหเสฺสยฺยกนฺติ วจนตฺถํ ทเสฺสติ ‘‘มนุสฺสาน’’นฺติอาทินาฯ
59. Oṇīto pattato pāṇi yenāti oṇītapattapāṇīti vacanatthaṃ dassento āha ‘‘pattato cā’’tiādi. ‘‘Apanītapāṇi’’nti iminā oṇītasaddo apanītattho, pāṇisaddena ca sambandhitabboti dasseti. ‘‘Sallakkhetvā’’ti iminā ‘‘bhagavanta’’nti imaṃ kammaṃ ‘‘sallakkhetvā’’ti pāṭhasesena yojetabbanti dasseti. Ekamantanti ettha antasaddo samīpadesattho, koṭidesattho vā hoti , upayogavacanañca bhummatthe hotīti dassento āha ‘‘ekasmiṃ padese’’ti. Atthikapayoge karaṇassa sambhavato āha ‘‘buddhābhivādanagamanena vā dhammassavanagamanena vā’’ti. Appākiṇṇanti ettha appasaddo paṭisedhatthoti āha ‘‘anākiṇṇa’’nti. ‘‘Abbokiṇṇa’’ntipi pāṭho. Appanigghosanti ettha ‘‘appasadda’’ntipadena vacanasaddassa gahitattā iminā pārisesanayena nagaranigghosasaddoyeva gahetabboti āha ‘‘nagaranigghosasaddena appanigghosa’’nti. Tīsu pāṭhesu paṭhamena pāṭhena janassa vāto janavāto, tena virahitaṃ vijanavātanti vikappaṃ dasseti. Dutiyena janassa vādo janavādo, tena virahitaṃ vijanavādanti vikappaṃ dasseti. Tatiyena janassa pāto sañcaraṇaṃ janapāto, tena virahitaṃ vijanapātanti vikappaṃ dasseti. Rahassaṃ karīyati etthāti rāhasseyyakaṃ. Manussānaṃ rāhasseyyakaṃ manussarāhasseyyakanti vacanatthaṃ dasseti ‘‘manussāna’’ntiādinā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi / ๑๓. พิมฺพิสารสมาคมกถา • 13. Bimbisārasamāgamakathā
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā / พิมฺพิสารสมาคมกถา • Bimbisārasamāgamakathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / พิมฺพิสารสมาคมกถาวณฺณนา • Bimbisārasamāgamakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / พิมฺพิสารสมาคมกถาวณฺณนา • Bimbisārasamāgamakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / พิมฺพิสารสมาคมกถาวณฺณนา • Bimbisārasamāgamakathāvaṇṇanā