Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) |
๕. โพธิราชกุมารสุตฺตวณฺณนา
5. Bodhirājakumārasuttavaṇṇanā
๓๒๔. โอโลกนกปทุมนฺติ ลีลาอรวินฺทํฯ ตสฺมาติ โกกนทสณฺฐานตฺตา โกกนโทติ สงฺขํ ลภิฯ
324.Olokanakapadumanti līlāaravindaṃ. Tasmāti kokanadasaṇṭhānattā kokanadoti saṅkhaṃ labhi.
๓๒๕. ยาว ปจฺฉิม…เป.… ผลกํ วุตฺตํ ตสฺส สพฺพปจฺฉา สนฺถตตฺตาฯ อุปริมผลคตญฺหิ โสปานมตฺถกํฯ โอโลกนตฺถํเยวาติ น เกวลํ ภควโต อาคมนเญฺญว โอโลกนตฺถํ, อถ โข อตฺตโน ปตฺถนาย สนฺถราปิตาย เจลปฎิกาย อกฺกมนสฺสปิฯ
325.Yāva pacchima…pe… phalakaṃ vuttaṃ tassa sabbapacchā santhatattā. Uparimaphalagatañhi sopānamatthakaṃ. Olokanatthaṃyevāti na kevalaṃ bhagavato āgamanaññeva olokanatthaṃ, atha kho attano patthanāya santharāpitāya celapaṭikāya akkamanassapi.
สกุณโปตเกติ กาทมฺพฎิฎฺฎิภปุตฺตเกฯ อโญฺญว ภเวยฺยาติ ตสฺมิํ อตฺตภาเว มาตุคามโต อโญฺญ อิทานิ ภริยาภูโต มาตุคาโม ภเวยฺยฯ ปุตฺตํ ลเภยฺยาติ อตฺตโน กมฺมวเสน ปุตฺตํ, โน ตสฺสฯ อุโภหีติ อิเมหิ เอว อุโภหิฯ อิเมหิ การเณหีติ ตสฺส ราชกุมารสฺส พุทฺธํ ปฎิจฺจ มิจฺฉาคหณํ, ติตฺถิยานํ อุชฺฌายนํ, อนาคเต มนุสฺสานํ ภิกฺขูนํ อุทฺทิสฺส วิปฺปฎิสาโรติ อิเมหิ ตีหิ การเณหิฯ ปญฺญตฺตนฺติ สนฺถตํ เจลปฎิกํฯ มงฺคลํ อิจฺฉนฺตีติ มงฺคลิกาฯ
Sakuṇapotaketi kādambaṭiṭṭibhaputtake. Aññova bhaveyyāti tasmiṃ attabhāve mātugāmato añño idāni bhariyābhūto mātugāmo bhaveyya. Puttaṃ labheyyāti attano kammavasena puttaṃ, no tassa. Ubhohīti imehi eva ubhohi. Imehi kāraṇehīti tassa rājakumārassa buddhaṃ paṭicca micchāgahaṇaṃ, titthiyānaṃ ujjhāyanaṃ, anāgate manussānaṃ bhikkhūnaṃ uddissa vippaṭisāroti imehi tīhi kāraṇehi. Paññattanti santhataṃ celapaṭikaṃ. Maṅgalaṃ icchantīti maṅgalikā.
๓๒๖. ตติยํ การณนฺติ อิมินา ภิกฺขูสุ วิปฺปฎิสารานุปฺปาทนมาหฯ ยํ กิญฺจิ ปริภุญฺชน-สุขํ กามสุขลฺลิกานุโยโคติ อธิปฺปาเยน กามสุขลฺลิกานุโยคสญฺญี หุตฺวา…เป.… มญฺญมาโน เอวมาหฯ
326.Tatiyaṃkāraṇanti iminā bhikkhūsu vippaṭisārānuppādanamāha. Yaṃ kiñci paribhuñjana-sukhaṃ kāmasukhallikānuyogoti adhippāyena kāmasukhallikānuyogasaññī hutvā…pe… maññamāno evamāha.
๓๒๗. อถ นํ ภควา ตโต มิจฺฉาภินิเวสโต วิเวเจตุกาโม ‘‘โส โข อห’’นฺติอาทินา อตฺตโน ทุกฺกรจริยํ ทเสฺสตุํ อารภิฯ มหาสจฺจเก(ม. นิ. ๑.๓๖๔ อาทโย) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ ‘‘โส โข อห’’นฺติอาทิปาฐสฺส ตตฺถ อาคตนิยาเมเนว อาคตตฺตาฯ ปาสราสิสุเตฺต (ม. นิ. ๑.๒๗๒ อาทโย) วุตฺตนเยนาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโยฯ
327. Atha naṃ bhagavā tato micchābhinivesato vivecetukāmo ‘‘so kho aha’’ntiādinā attano dukkaracariyaṃ dassetuṃ ārabhi. Mahāsaccake(ma. ni. 1.364 ādayo) vuttanayeneva veditabbaṃ ‘‘so kho aha’’ntiādipāṭhassa tattha āgataniyāmeneva āgatattā. Pāsarāsisutte (ma. ni. 1.272 ādayo) vuttanayenāti etthāpi eseva nayo.
๓๔๓. องฺกุสํ คณฺหนฺติ เอเตน ตสฺส คหเณ เฉโก โหตีติ องฺกุสคหณสิปฺปํฯ เมฆอุตุนฺติ เมฆํ ปฎิจฺจ อุปฺปนฺนสีตอุตุํฯ ปพฺพตอุตุนฺติ ปพฺพตํ ปฎิจฺจ อุณฺหอุตุํฯ อุภยวเสน จ ตสฺส ตถา สีตุณฺหอุตุโต เอโน อาคโตติ ต-การสฺส ท-การํ กตฺวา อุเทโนติ นามํ อกาสิฯ
343. Aṅkusaṃ gaṇhanti etena tassa gahaṇe cheko hotīti aṅkusagahaṇasippaṃ. Meghautunti meghaṃ paṭicca uppannasītautuṃ. Pabbatautunti pabbataṃ paṭicca uṇhautuṃ. Ubhayavasena ca tassa tathā sītuṇhaututo eno āgatoti ta-kārassa da-kāraṃ katvā udenoti nāmaṃ akāsi.
ตาปโส โอคาฬฺหญาณวเสน รโญฺญ มตภาวํ ญตฺวาฯ อาทิโต ปฎฺฐายาติ โกสมฺพินคเร ปรนฺตปรโญฺญ อคฺคมเหสิภาวโต ปฎฺฐายฯ ปุเพฺพติ สีลวนฺตกาเลฯ หตฺถิคนฺถนฺติ หตฺถีนํ อตฺตโน วเส วตฺตาปนสตฺถํฯ เตเนวสฺส ตํ สิกฺขาเปติ, กิจฺจญฺจ อิชฺฌติฯ
Tāpaso ogāḷhañāṇavasena rañño matabhāvaṃ ñatvā. Ādito paṭṭhāyāti kosambinagare parantaparañño aggamahesibhāvato paṭṭhāya. Pubbeti sīlavantakāle. Hatthiganthanti hatthīnaṃ attano vase vattāpanasatthaṃ. Tenevassa taṃ sikkhāpeti, kiccañca ijjhati.
๓๔๔. ปทหนภาโวติ ภาวนานุโยโคฯ ปธาเน วา นิยุโตฺต ปธานิโย, ปธานิยสฺส ภิกฺขุโน, ตเสฺสว ปธานิยภาวสฺส องฺคานิ การณานิ ปธานิยงฺคานิฯ สทฺธา เอตสฺส อตฺถีติ สโทฺธฯ กิญฺจาปิ ปเจฺจกโพธิสตฺตานมฺปิ อภินีหารโต ปฎฺฐาย อาคตา อาคมนสทฺธา เอว, มหาโพธิสตฺตานํ ปน สทฺธา ครุตราติ สา เอว คหิตาฯ อจลภาเวน โอกปฺปนํ ‘‘สมฺมาสมฺพุโทฺธ ภควา, สฺวาขฺยาโต ธโมฺม, สุปฺปฎิปโนฺน สโงฺฆ’’ติ เกนจิ อกมฺปิยภาเวน รตนตฺตยคุเณ โอคาหิตฺวา กปฺปนํฯ ปสาทุปฺปตฺติ รตนตฺตเย ปสีทนเมวฯ โพธินฺติ จตุมคฺคญาณนฺติ วุตฺตํ ตํนิมิตฺตตฺตา สพฺพญฺญุตญฺญาณสฺส, โพธีติ วา สมฺมาสโมฺพธิฯ สพฺพญฺญุตญฺญาณปทฎฺฐานญฺหิ มคฺคญาณํ, มคฺคญาณปทฎฺฐานญฺจ สพฺพญฺญุตญฺญาณํ ‘‘สมฺมาสโมฺพธี’’ติ วุจฺจติฯ นิจฺฉิตสุพุทฺธตาย ธมฺมสฺส สุธมฺมตา สงฺฆสฺส สุปฺปฎิปตฺติ วินิจฺฉิตา เอว โหตีติ อาห ‘‘เทสนาสีสเมว เจต’’นฺติอาทิฯ ตสฺส ปธานํ วีริยํ อิชฺฌติ รตนตฺตยสทฺธาย ‘‘อิมาย ปฎิปทาย ชรามรณโต มุจฺจิสฺสามี’’ติ ปธานานุโยเค อวํมุขสมฺภวโตฯ
344.Padahanabhāvoti bhāvanānuyogo. Padhāne vā niyutto padhāniyo, padhāniyassa bhikkhuno, tasseva padhāniyabhāvassa aṅgāni kāraṇāni padhāniyaṅgāni. Saddhā etassa atthīti saddho. Kiñcāpi paccekabodhisattānampi abhinīhārato paṭṭhāya āgatā āgamanasaddhā eva, mahābodhisattānaṃ pana saddhā garutarāti sā eva gahitā. Acalabhāvena okappanaṃ ‘‘sammāsambuddho bhagavā, svākhyāto dhammo, suppaṭipanno saṅgho’’ti kenaci akampiyabhāvena ratanattayaguṇe ogāhitvā kappanaṃ. Pasāduppatti ratanattaye pasīdanameva. Bodhinti catumaggañāṇanti vuttaṃ taṃnimittattā sabbaññutaññāṇassa, bodhīti vā sammāsambodhi. Sabbaññutaññāṇapadaṭṭhānañhi maggañāṇaṃ, maggañāṇapadaṭṭhānañca sabbaññutaññāṇaṃ ‘‘sammāsambodhī’’ti vuccati. Nicchitasubuddhatāya dhammassa sudhammatā saṅghassa suppaṭipatti vinicchitā eva hotīti āha ‘‘desanāsīsameva ceta’’ntiādi. Tassa padhānaṃ vīriyaṃ ijjhati ratanattayasaddhāya ‘‘imāya paṭipadāya jarāmaraṇato muccissāmī’’ti padhānānuyoge avaṃmukhasambhavato.
อปฺปาพาโธติอาทิ เหฎฺฐา วุตฺตเมวฯ อคุณํ ปกาเสตา อายติํ สํวรํ อาปชฺชิตา สมฺมาปฎิปตฺติยา วิโสธนตฺถํฯ อุทยญฺจ อตฺถญฺจ คนฺตุนฺติ ‘‘อวิชฺชาสมุทยา’’ติอาทินา ปญฺจนฺนํ อุปาทานกฺขนฺธานํ อุทยญฺจ วยญฺจ ชานิตุํฯ เตนาห ‘‘เอเตนา’’ติอาทิฯ ปริสุทฺธาย อุปกฺกิเลสวินิมุตฺตายฯ นิพฺพิชฺฌิตุนฺติ ตทงฺควเสน ปชหิตุํ สมุเจฺฉทปฺปหานสฺส ปจฺจโย ภวิตุํฯ ยํ ทุกฺขํ ขียตีติ กิเลเสสุ อปฺปหีเนสุ เตน ตทุปนิสฺสยกมฺมํ ปฎิจฺจ ยํ ทุกฺขํ อุปฺปเชฺชยฺย, ตํ สนฺธาย วุตฺตํฯ
Appābādhotiādi heṭṭhā vuttameva. Aguṇaṃ pakāsetā āyatiṃ saṃvaraṃ āpajjitā sammāpaṭipattiyā visodhanatthaṃ. Udayañca atthañca gantunti ‘‘avijjāsamudayā’’tiādinā pañcannaṃ upādānakkhandhānaṃ udayañca vayañca jānituṃ. Tenāha ‘‘etenā’’tiādi. Parisuddhāya upakkilesavinimuttāya. Nibbijjhitunti tadaṅgavasena pajahituṃ samucchedappahānassa paccayo bhavituṃ. Yaṃ dukkhaṃ khīyatīti kilesesu appahīnesu tena tadupanissayakammaṃ paṭicca yaṃ dukkhaṃ uppajjeyya, taṃ sandhāya vuttaṃ.
๓๔๕. เสสทิวเสติ สตฺตทิวสโต ปฎฺฐาย ยาว เทฺว รตฺตินฺทิวาฯ
345.Sesadivaseti sattadivasato paṭṭhāya yāva dve rattindivā.
๓๔๖. กุจฺฉิสนฺนิสฺสิโต คโพฺภ นิสฺสยโวหาเรน ‘‘กุจฺฉี’’ติ วุจฺจติ, โส เอติสฺสา อตฺถีติ กุจฺฉิมตีฯ เตนาห ‘‘อาปนฺนสตฺตา’’ติฯ อารโกฺข ปนสฺส ปจฺจุปฎฺฐิโต โหตีติ มาตรา คหิตสรณํ คพฺภวุฎฺฐิตสฺส ตสฺส สรณคมนํ ปเวทยิตสฺส กุสลํ สรณํ นาม, มาตุ กตรโกฺข ปุตฺตสฺสปิ ปจฺจุปฎฺฐิโตติฯ มหลฺลกกาเลติ วจนตฺถํ ชานนกาเลฯ สาเรนฺตีติ ยถาทิฎฺฐํ ยถาพลํ รตนตฺตยคุณปติฎฺฐาปนวเสน อสฺส สาเรนฺติฯ สลฺลเกฺขตฺวาติ วุตฺตมตฺถํ อุปธาเรตฺวาฯ สรณํ คหิตํ นาม โหติ รตนตฺตยสฺส สรณภาวสลฺลกฺขณปุพฺพกตนฺนินฺนจิตฺตภาวโตวฯ เสสํ สุวิเญฺญยฺยเมวฯ
346. Kucchisannissito gabbho nissayavohārena ‘‘kucchī’’ti vuccati, so etissā atthīti kucchimatī. Tenāha ‘‘āpannasattā’’ti. Ārakkho panassa paccupaṭṭhito hotīti mātarā gahitasaraṇaṃ gabbhavuṭṭhitassa tassa saraṇagamanaṃ pavedayitassa kusalaṃ saraṇaṃ nāma, mātu katarakkho puttassapi paccupaṭṭhitoti. Mahallakakāleti vacanatthaṃ jānanakāle. Sārentīti yathādiṭṭhaṃ yathābalaṃ ratanattayaguṇapatiṭṭhāpanavasena assa sārenti. Sallakkhetvāti vuttamatthaṃ upadhāretvā. Saraṇaṃ gahitaṃ nāma hoti ratanattayassa saraṇabhāvasallakkhaṇapubbakatanninnacittabhāvatova. Sesaṃ suviññeyyameva.
โพธิราชกุมารสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตาฯ
Bodhirājakumārasuttavaṇṇanāya līnatthappakāsanā samattā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya / ๕. โพธิราชกุมารสุตฺตํ • 5. Bodhirājakumārasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) / ๕. โพธิราชกุมารสุตฺตวณฺณนา • 5. Bodhirājakumārasuttavaṇṇanā