Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วิภงฺค-มูลฎีกา • Vibhaṅga-mūlaṭīkā

    ๑๐. โพชฺฌงฺควิภโงฺค

    10. Bojjhaṅgavibhaṅgo

    ๑. สุตฺตนฺตภาชนียํ

    1. Suttantabhājanīyaṃ

    ปฐมนยวณฺณนา

    Paṭhamanayavaṇṇanā

    ๔๖๖. ปติฎฺฐานายูหนา โอฆตรณสุตฺตวณฺณนายํ (สํ. นิ. อฎฺฐ. ๑.๑.๑) –

    466. Patiṭṭhānāyūhanā oghataraṇasuttavaṇṇanāyaṃ (saṃ. ni. aṭṭha. 1.1.1) –

    ‘‘กิเลสวเสน ปติฎฺฐานํ, อภิสงฺขารวเสน อายูหนาฯ ตถา ตณฺหาทิฎฺฐีหิ ปติฎฺฐานํ, อวเสสกิเลสาภิสงฺขาเรหิ อายูหนาฯ ตณฺหาวเสน ปติฎฺฐานํ, ทิฎฺฐิวเสน อายูหนาฯ สสฺสตทิฎฺฐิยา ปติฎฺฐานํ, อุเจฺฉททิฎฺฐิยา อายูหนาฯ ลีนวเสน ปติฎฺฐานํ, อุทฺธจฺจวเสน อายูหนาฯ กามสุขานุโยควเสน ปติฎฺฐานํ, อตฺตกิลมถานุโยควเสน อายูหนาฯ สพฺพากุสลาภิสงฺขารวเสน ปติฎฺฐานํ, สพฺพโลกิยกุสลาภิสงฺขารวเสน อายูหนา’’ติ –

    ‘‘Kilesavasena patiṭṭhānaṃ, abhisaṅkhāravasena āyūhanā. Tathā taṇhādiṭṭhīhi patiṭṭhānaṃ, avasesakilesābhisaṅkhārehi āyūhanā. Taṇhāvasena patiṭṭhānaṃ, diṭṭhivasena āyūhanā. Sassatadiṭṭhiyā patiṭṭhānaṃ, ucchedadiṭṭhiyā āyūhanā. Līnavasena patiṭṭhānaṃ, uddhaccavasena āyūhanā. Kāmasukhānuyogavasena patiṭṭhānaṃ, attakilamathānuyogavasena āyūhanā. Sabbākusalābhisaṅkhāravasena patiṭṭhānaṃ, sabbalokiyakusalābhisaṅkhāravasena āyūhanā’’ti –

    วุเตฺตสุ ปกาเรสุ อิธ อวุตฺตานํ วเสน เวทิตพฺพาฯ

    Vuttesu pakāresu idha avuttānaṃ vasena veditabbā.

    สมฺมปฺปวเตฺต ธเมฺม ปฎิสญฺจิกฺขติ, อุปปตฺติโต อิกฺขติ, ตทากาโร หุตฺวา ปวตฺตตีติ ปฎิสงฺขานลกฺขโณ อุเปกฺขาสโมฺพชฺฌโงฺคฯ เอวญฺจ กตฺวา ‘‘ปฎิสงฺขา สนฺติฎฺฐนา คหเณ มชฺฌตฺตตา’’ติ อุเปกฺขากิจฺจาธิมตฺตตาย สงฺขารุเปกฺขา วุตฺตาฯ อนุกฺกมนิเกฺขเป ปโยชนํ ปุริมสฺส ปุริมสฺส ปจฺฉิมปจฺฉิมการณภาโวฯ

    Sammappavatte dhamme paṭisañcikkhati, upapattito ikkhati, tadākāro hutvā pavattatīti paṭisaṅkhānalakkhaṇo upekkhāsambojjhaṅgo. Evañca katvā ‘‘paṭisaṅkhā santiṭṭhanā gahaṇe majjhattatā’’ti upekkhākiccādhimattatāya saṅkhārupekkhā vuttā. Anukkamanikkhepe payojanaṃ purimassa purimassa pacchimapacchimakāraṇabhāvo.

    ๔๖๗. พลวตี เอว สติ สติสโมฺพชฺฌโงฺคติ กตฺวา พลวภาวทีปนตฺถํ ปญฺญา คหิตา, น ยสฺส กสฺสจิ สมฺปธารณสติ, กุสลุปฺปตฺติการณสฺส ปน สรณํ สตีติ ทเสฺสโนฺต ‘‘วตฺตํ วา’’ติอาทิมาหฯ วตฺตสีเส ฐตฺวาติ ‘‘อโห วต เม ธมฺมํ สุเณยฺยุํ, สุตฺวา จ ธมฺมํ ปสีเทยฺยุํ, ปสนฺนา จ เม ปสนฺนาการํ กเรยฺยุ’’นฺติ เอวํจิโตฺต อหุตฺวา ‘‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธโมฺม…เป.… วิญฺญูหิ, อโห วต เม ธมฺมํ สุเณยฺยุํ, สุตฺวา จ ธมฺมํ อาชาเนยฺยุํ, อาชานิตฺวา จ ปน ตถตฺถาย ปฎิปเชฺชยฺยุ’’นฺติ ธมฺมสุธมฺมตํ ปฎิจฺจ การุญฺญํ อนุทฺทยํ อนุกมฺปํ อุปาทาย มหากสฺสปเตฺถเรน วิย ภาสิตนฺติ อโตฺถฯ วิมุตฺตายตนสีเสติ ‘‘น เหว โข สตฺถา, อปิจ โข ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน ปเรสํ เทเสสฺสามี’’ติ เอวํ วิมุตฺติการณปธานภาเว ฐตฺวาฯ จิรกตวตฺตาทิวเสน ตํสมุฎฺฐาปโก อรูปโกฎฺฐาโส วุโตฺต, ภาวตฺถตฺตา เอว วา กตภาสิต-สทฺทา กิริยาภูตสฺส อรูปโกฎฺฐาสสฺส วาจกาติ กตฺวา อาห ‘‘กายวิญฺญตฺติํ…เป.… โกฎฺฐาส’’นฺติฯ

    467. Balavatī eva sati satisambojjhaṅgoti katvā balavabhāvadīpanatthaṃ paññā gahitā, na yassa kassaci sampadhāraṇasati, kusaluppattikāraṇassa pana saraṇaṃ satīti dassento ‘‘vattaṃ vā’’tiādimāha. Vattasīse ṭhatvāti ‘‘aho vata me dhammaṃ suṇeyyuṃ, sutvā ca dhammaṃ pasīdeyyuṃ, pasannā ca me pasannākāraṃ kareyyu’’nti evaṃcitto ahutvā ‘‘svākkhāto bhagavatā dhammo…pe… viññūhi, aho vata me dhammaṃ suṇeyyuṃ, sutvā ca dhammaṃ ājāneyyuṃ, ājānitvā ca pana tathatthāya paṭipajjeyyu’’nti dhammasudhammataṃ paṭicca kāruññaṃ anuddayaṃ anukampaṃ upādāya mahākassapattherena viya bhāsitanti attho. Vimuttāyatanasīseti ‘‘na heva kho satthā, apica kho yathāsutaṃ yathāpariyattaṃ dhammaṃ vitthārena paresaṃ desessāmī’’ti evaṃ vimuttikāraṇapadhānabhāve ṭhatvā. Cirakatavattādivasena taṃsamuṭṭhāpako arūpakoṭṭhāso vutto, bhāvatthattā eva vā katabhāsita-saddā kiriyābhūtassa arūpakoṭṭhāsassa vācakāti katvā āha ‘‘kāyaviññattiṃ…pe… koṭṭhāsa’’nti.

    โพชฺฌงฺคสมุฎฺฐาปกตา ปุริมานํ ฉนฺนํ อตฺตโน อตฺตโน อนนฺตริกสฺส, ปเรสํ สเพฺพสํ วา ตํตํปริยาเยน สมุฎฺฐาปนวเสน โยเชตพฺพาฯ กามโลกวฎฺฎามิสาติ ตณฺหา ตทารมฺมณา ขนฺธาติ วทนฺติ, ปญฺจกามคุณิโก จ ราโค ตทารมฺมณญฺจ กามามิสํ, ‘‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จา’’ติอาทินา โลกคฺคหณวเสน ปวโตฺต สสฺสตุเจฺฉทสหคโต ราโค ตทารมฺมณญฺจ โลกามิสํ, โลกธมฺมา วา, วฎฺฎสฺสาทวเสน อุปฺปโนฺน สํสารชนโก ราโค ตทารมฺมณญฺจ วฎฺฎามิสํฯ มคฺคสฺส ปุพฺพภาคตฺตา ปุพฺพภาคา

    Bojjhaṅgasamuṭṭhāpakatā purimānaṃ channaṃ attano attano anantarikassa, paresaṃ sabbesaṃ vā taṃtaṃpariyāyena samuṭṭhāpanavasena yojetabbā. Kāmalokavaṭṭāmisāti taṇhā tadārammaṇā khandhāti vadanti, pañcakāmaguṇiko ca rāgo tadārammaṇañca kāmāmisaṃ, ‘‘sassato attā ca loko cā’’tiādinā lokaggahaṇavasena pavatto sassatucchedasahagato rāgo tadārammaṇañca lokāmisaṃ, lokadhammā vā, vaṭṭassādavasena uppanno saṃsārajanako rāgo tadārammaṇañca vaṭṭāmisaṃ. Maggassa pubbabhāgattā pubbabhāgā.

    ปฐมนยวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Paṭhamanayavaṇṇanā niṭṭhitā.

    ทุติยนยวณฺณนา

    Dutiyanayavaṇṇanā

    ๔๖๘-๔๖๙. อภิเญฺญยฺยา ธมฺมา นาม ‘‘สเพฺพ สตฺตา อาหารฎฺฐิติกา, เทฺว ธาตุโย, ติโสฺส ธาตุโย, จตฺตาริ อริยสจฺจานิ, ปญฺจ วิมุตฺตายตนานิ, ฉ อนุตฺตริยานิ, สตฺต นิทฺทสวตฺถูนิ, อฎฺฐาภิภายตนานิ, นวานุปุพฺพวิหารา, ทส นิชฺชรวตฺถูนี’’ติ เอวํปเภทา ธมฺมา , ‘‘สพฺพํ, ภิกฺขเว, อภิเญฺญยฺย’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๔๖) ทสฺสิตา ขนฺธาทโย จฯ วานนฺติ วินนฺธนํ ภวาทีนํ, คมนํ วา ปิยรูปสาตรูเปสุฯ

    468-469. Abhiññeyyā dhammā nāma ‘‘sabbe sattā āhāraṭṭhitikā, dve dhātuyo, tisso dhātuyo, cattāri ariyasaccāni, pañca vimuttāyatanāni, cha anuttariyāni, satta niddasavatthūni, aṭṭhābhibhāyatanāni, navānupubbavihārā, dasa nijjaravatthūnī’’ti evaṃpabhedā dhammā , ‘‘sabbaṃ, bhikkhave, abhiññeyya’’nti (saṃ. ni. 4.46) dassitā khandhādayo ca. Vānanti vinandhanaṃ bhavādīnaṃ, gamanaṃ vā piyarūpasātarūpesu.

    จงฺกมํ อธิฎฺฐหนฺตสฺส อุปฺปนฺนวีริยํ วิปสฺสนาสหคตนฺติ เวทิตพฺพํฯ เอตฺตเกนาติ ‘‘โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา กถิตา’’ติ เอตฺตาวตาฯ โลกิยนฺติ วทโนฺต น กิลมตีติ กายวิญฺญตฺติสมุฎฺฐาปกสฺส โลกิยตฺตา อโจทนีโยติ อโตฺถฯ อลพฺภ…เป.… ปฎิกฺขิตฺตาติ รูปาวจเร อลพฺภมานกํ ปีติสโมฺพชฺฌงฺคํ อุปาทาย ลพฺภมานาปิ อวิตกฺกอวิจารา ปีติ ปฎิกฺขิตฺตา, ‘‘ปีติสโมฺพชฺฌโงฺค’’ติ น วุโตฺตติ อโตฺถฯ กามาวจเร วา อลพฺภมานกํ อวิตกฺกอวิจารํ ปีติํ อุปาทาย ลพฺภมานกาว ปีติโพชฺฌงฺคภูตา ปฎิกฺขิตฺตา, อวิตกฺกอวิจาโร ปีติสโมฺพชฺฌโงฺค น วุโตฺตติ อโตฺถฯ

    Caṅkamaṃ adhiṭṭhahantassa uppannavīriyaṃ vipassanāsahagatanti veditabbaṃ. Ettakenāti ‘‘lokiyalokuttaramissakā kathitā’’ti ettāvatā. Lokiyanti vadanto na kilamatīti kāyaviññattisamuṭṭhāpakassa lokiyattā acodanīyoti attho. Alabbha…pe… paṭikkhittāti rūpāvacare alabbhamānakaṃ pītisambojjhaṅgaṃ upādāya labbhamānāpi avitakkaavicārā pīti paṭikkhittā, ‘‘pītisambojjhaṅgo’’ti na vuttoti attho. Kāmāvacare vā alabbhamānakaṃ avitakkaavicāraṃ pītiṃ upādāya labbhamānakāva pītibojjhaṅgabhūtā paṭikkhittā, avitakkaavicāro pītisambojjhaṅgo na vuttoti attho.

    อชฺฌตฺตวิโมกฺขนฺติ อชฺฌตฺตธเมฺม อภินิวิสิตฺวา ตโต วุฎฺฐิตมโคฺค ‘‘อชฺฌตฺตวิโมโกฺข’’ติ อิธ วุโตฺตติ อธิปฺปาโยฯ น วาเรตโพฺพติ วิปสฺสนาปาทเกสุ กสิณาทิฌาเนสุ สติอาทีนํ นิเพฺพธภาคิยตฺตา น ปฎิกฺขิปิตโพฺพติ อโตฺถฯ อนุทฺธรนฺตา ปน วิปสฺสนา วิย โพธิยา มคฺคสฺส อาสนฺนการณํ ฌานํ น โหติ, น จ ตถา เอกนฺติกํ การณํ, น จ วิปสฺสนากิจฺจสฺส วิย ฌานกิจฺจสฺส นิฎฺฐานํ มโคฺคติ กตฺวา น อุทฺธรนฺติฯ ตตฺถ กสิณชฺฌานคฺคหเณน ตทายตฺตานิ อารุปฺปานิปิ คหิตานีติ ทฎฺฐพฺพานิฯ อสุภชฺฌานานํ อวจนํ อวิตกฺกาวิจารสฺส อธิเปฺปตตฺตาฯ

    Ajjhattavimokkhanti ajjhattadhamme abhinivisitvā tato vuṭṭhitamaggo ‘‘ajjhattavimokkho’’ti idha vuttoti adhippāyo. Na vāretabboti vipassanāpādakesu kasiṇādijhānesu satiādīnaṃ nibbedhabhāgiyattā na paṭikkhipitabboti attho. Anuddharantā pana vipassanā viya bodhiyā maggassa āsannakāraṇaṃ jhānaṃ na hoti, na ca tathā ekantikaṃ kāraṇaṃ, na ca vipassanākiccassa viya jhānakiccassa niṭṭhānaṃ maggoti katvā na uddharanti. Tattha kasiṇajjhānaggahaṇena tadāyattāni āruppānipi gahitānīti daṭṭhabbāni. Asubhajjhānānaṃ avacanaṃ avitakkāvicārassa adhippetattā.

    ทุติยนยวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Dutiyanayavaṇṇanā niṭṭhitā.

    ตติยนยวณฺณนา

    Tatiyanayavaṇṇanā

    ๔๗๐-๔๗๑. ตทงฺคสมุเจฺฉทนิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตตํ วตฺวา ปฎิปฺปสฺสทฺธิวิเวกนิสฺสิตตฺตสฺส อวจนํ ‘‘สติสโมฺพชฺฌงฺคํ ภาเวตี’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๕.๑๘๒; วิภ. ๔๗๑) อิธ ภาเวตพฺพานํ โพชฺฌงฺคานํ วุตฺตตฺตาฯ ภาวิตโพชฺฌงฺคสฺส หิ สจฺฉิกาตพฺพา ผลโพชฺฌงฺคา อภิธมฺมภาชนีเย วุตฺตาติฯ โวสฺสคฺค-สโทฺท ปริจฺจาคโตฺถ ปกฺขนฺทนโตฺถ จาติ โวสฺสคฺคสฺส ทุวิธตา วุตฺตาฯ ยถาวุเตฺตนาติ ตทงฺคสมุเจฺฉทปฺปกาเรน ตนฺนินฺนภาวารมฺมณกรณปฺปกาเรน จฯ ปริณาเมนฺตํ วิปสฺสนากฺขเณ, ปริณตํ มคฺคกฺขเณฯ

    470-471. Tadaṅgasamucchedanissaraṇavivekanissitataṃ vatvā paṭippassaddhivivekanissitattassa avacanaṃ ‘‘satisambojjhaṅgaṃ bhāvetī’’tiādinā (saṃ. ni. 5.182; vibha. 471) idha bhāvetabbānaṃ bojjhaṅgānaṃ vuttattā. Bhāvitabojjhaṅgassa hi sacchikātabbā phalabojjhaṅgā abhidhammabhājanīye vuttāti. Vossagga-saddo pariccāgattho pakkhandanattho cāti vossaggassa duvidhatā vuttā. Yathāvuttenāti tadaṅgasamucchedappakārena tanninnabhāvārammaṇakaraṇappakārena ca. Pariṇāmentaṃ vipassanākkhaṇe, pariṇataṃ maggakkhaṇe.

    ตติยนยวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Tatiyanayavaṇṇanā niṭṭhitā.

    สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Suttantabhājanīyavaṇṇanā niṭṭhitā.

    ๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา

    2. Abhidhammabhājanīyavaṇṇanā

    ๔๗๒. อุเปกฺขนวเสนาติ สภาวนิเทฺทสตํ ทเสฺสติ, หาปนวฑฺฒเนสุ พฺยาปารํ อกตฺวา อุปปตฺติโต อิกฺขนวเสนาติ อโตฺถฯ โลกิยอุเปกฺขนาย อธิกา อุเปกฺขนา อชฺฌุเปกฺขนาติ อยมโตฺถ อิธ โลกุตฺตรา เอว อธิเปฺปตาติ ยุโตฺตติฯ

    472. Upekkhanavasenāti sabhāvaniddesataṃ dasseti, hāpanavaḍḍhanesu byāpāraṃ akatvā upapattito ikkhanavasenāti attho. Lokiyaupekkhanāya adhikā upekkhanā ajjhupekkhanāti ayamattho idha lokuttarā eva adhippetāti yuttoti.

    อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Abhidhammabhājanīyavaṇṇanā niṭṭhitā.

    โพชฺฌงฺควิภงฺควณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Bojjhaṅgavibhaṅgavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / วิภงฺคปาฬิ • Vibhaṅgapāḷi / ๑๐. โพชฺฌงฺควิภโงฺค • 10. Bojjhaṅgavibhaṅgo

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / อภิธมฺมปิฎก (อฎฺฐกถา) • Abhidhammapiṭaka (aṭṭhakathā) / สโมฺมหวิโนทนี-อฎฺฐกถา • Sammohavinodanī-aṭṭhakathā
    ๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา • 1. Suttantabhājanīyavaṇṇanā
    ๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา • 2. Abhidhammabhājanīyavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / วิภงฺค-อนุฎีกา • Vibhaṅga-anuṭīkā / ๑๐. โพชฺฌงฺควิภโงฺค • 10. Bojjhaṅgavibhaṅgo


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact