Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) |
๓. พฺรหฺมเทวสุตฺตวณฺณนา
3. Brahmadevasuttavaṇṇanā
๑๗๔. ตติเย เอโกติ ฐานาทีสุ อิริยาปเถสุ เอกโก, เอกวิหารีติ อโตฺถฯ วูปกโฎฺฐติ กาเยน วูปกโฎฺฐ นิสฺสโฎฯ อปฺปมโตฺตติ สติยา อวิปฺปวาเส ฐิโตฯ อาตาปีติ วีริยาตาเปน สมนฺนาคโตฯ ปหิตโตฺตติ เปสิตโตฺตฯ กุลปุตฺตาติ อาจารกุลปุตฺตาฯ สมฺมเทวาติ น อิณฎฺฎา น ภยฎฺฎา น ชีวิตปกตา หุตฺวา, ยถา วา ตถา วา ปพฺพชิตาปิ เย อนุโลมปฎิปทํ ปูเรนฺติ, เต สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ นามฯ พฺรหฺมจริยปริโยสานนฺติ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส ปริโยสานภูตํ อริยผลํฯ ทิเฎฺฐว ธเมฺมติ อิมสฺมิํเยว อตฺตภาเวฯ สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวาติ สามํ ชานิตฺวา ปจฺจกฺขํ กตฺวาฯ อุปสมฺปชฺชาติ ปฎิลภิตฺวา สมฺปาเทตฺวา วิหาสิฯ เอวํ วิหรโนฺต จ ขีณา ชาติ…เป.… อพฺภญฺญาสีติฯ เอเตนสฺส ปจฺจเวกฺขณภูมิ ทสฺสิตาฯ
174. Tatiye ekoti ṭhānādīsu iriyāpathesu ekako, ekavihārīti attho. Vūpakaṭṭhoti kāyena vūpakaṭṭho nissaṭo. Appamattoti satiyā avippavāse ṭhito. Ātāpīti vīriyātāpena samannāgato. Pahitattoti pesitatto. Kulaputtāti ācārakulaputtā. Sammadevāti na iṇaṭṭā na bhayaṭṭā na jīvitapakatā hutvā, yathā vā tathā vā pabbajitāpi ye anulomapaṭipadaṃ pūrenti, te sammadeva agārasmā anagāriyaṃ pabbajanti nāma. Brahmacariyapariyosānanti maggabrahmacariyassa pariyosānabhūtaṃ ariyaphalaṃ. Diṭṭheva dhammeti imasmiṃyeva attabhāve. Sayaṃ abhiññā sacchikatvāti sāmaṃ jānitvā paccakkhaṃ katvā. Upasampajjāti paṭilabhitvā sampādetvā vihāsi. Evaṃ viharanto ca khīṇā jāti…pe… abbhaññāsīti. Etenassa paccavekkhaṇabhūmi dassitā.
กตมา ปนสฺส ชาติ ขีณา, กถญฺจ นํ อพฺภญฺญาสีติ? วุจฺจเต, น ตาวสฺส อตีตา ชาติ ขีณา ปุเพฺพว ขีณตฺตา, น อนาคตา ตตฺถ วายามาภาวโต, น ปจฺจุปฺปนฺนา วิชฺชมานตฺตาฯ มคฺคสฺส ปน อภาวิตตฺตา ยา อุปฺปเชฺชยฺย เอกจตุปญฺจโวการภเวสุ เอกจตุปญฺจกฺขนฺธปฺปเภทา ชาติฯ สา มคฺคสฺส ภาวิตตฺตา อนุปฺปาทธมฺมตํ อาปชฺชเนน ขีณาฯ ตํ โส มคฺคภาวนาย ปหีนกิเลเส ปจฺจเวกฺขิตฺวา – ‘‘กิเลสาภาเว วิชฺชมานมฺปิ กมฺมํ อายติํ อปฺปฎิสนฺธิกํ โหตี’’ติ ชานโนฺต ชานาติฯ
Katamā panassa jāti khīṇā, kathañca naṃ abbhaññāsīti? Vuccate, na tāvassa atītā jāti khīṇā pubbeva khīṇattā, na anāgatā tattha vāyāmābhāvato, na paccuppannā vijjamānattā. Maggassa pana abhāvitattā yā uppajjeyya ekacatupañcavokārabhavesu ekacatupañcakkhandhappabhedā jāti. Sā maggassa bhāvitattā anuppādadhammataṃ āpajjanena khīṇā. Taṃ so maggabhāvanāya pahīnakilese paccavekkhitvā – ‘‘kilesābhāve vijjamānampi kammaṃ āyatiṃ appaṭisandhikaṃ hotī’’ti jānanto jānāti.
วุสิตนฺติ วุตฺถํ ปริวุตฺถํ, กตํ จริตํ นิฎฺฐาปิตนฺติ อโตฺถฯ พฺรหฺมจริยนฺติ มคฺคพฺรหฺมจริยํ ฯ กตํ กรณียนฺติ จตูสุ สเจฺจสุ จตูหิ มเคฺคหิ ปริญฺญาปหานสจฺฉิกิริยภาวนาวเสน โสฬสวิธมฺปิ กิจฺจํ นิฎฺฐาปิตนฺติ อโตฺถฯ นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ อิทานิ ปุน อิตฺถภาวาย, เอวํ โสฬสกิจฺจภาวาย, กิเลสกฺขยาย วา กตมคฺคภาวนา นตฺถีติฯ อถ วา อิตฺถตฺตายาติ อิตฺถตฺตภาวโต, อิมสฺมา เอวํปการา อิทานิ วตฺตมานกฺขนฺธสนฺตานา อปรํ ขนฺธสนฺตานํ นตฺถิ, อิเม ปน ปญฺจกฺขนฺธา ปริญฺญาตา ติฎฺฐนฺติ ฉินฺนมูลโก รุโกฺข วิยาติ อพฺภญฺญาสิฯ อญฺญตโรติ เอโกฯ อรหตนฺติ อรหนฺตานํ, ภควโต สาวกานํ อรหตํ อพฺภนฺตโร อโหสิฯ
Vusitanti vutthaṃ parivutthaṃ, kataṃ caritaṃ niṭṭhāpitanti attho. Brahmacariyanti maggabrahmacariyaṃ . Kataṃ karaṇīyanti catūsu saccesu catūhi maggehi pariññāpahānasacchikiriyabhāvanāvasena soḷasavidhampi kiccaṃ niṭṭhāpitanti attho. Nāparaṃ itthattāyāti idāni puna itthabhāvāya, evaṃ soḷasakiccabhāvāya, kilesakkhayāya vā katamaggabhāvanā natthīti. Atha vā itthattāyāti itthattabhāvato, imasmā evaṃpakārā idāni vattamānakkhandhasantānā aparaṃ khandhasantānaṃ natthi, ime pana pañcakkhandhā pariññātā tiṭṭhanti chinnamūlako rukkho viyāti abbhaññāsi. Aññataroti eko. Arahatanti arahantānaṃ, bhagavato sāvakānaṃ arahataṃ abbhantaro ahosi.
สปทานนฺติ สปทานจารํ, สมฺปตฺตฆรํ อนุกฺกมฺม ปฎิปาฎิยา จรโนฺตฯ อุปสงฺกมีติ อุปสงฺกมโนฺตฯ มาตา ปนสฺส ปุตฺตํ ทิสฺวาว ฆรา นิกฺขมฺม ปตฺตํ คเหตฺวา อโนฺตนิเวสนํ ปเวเสตฺวา ปญฺญตฺตาสเน นิสีทาเปสิฯ
Sapadānanti sapadānacāraṃ, sampattagharaṃ anukkamma paṭipāṭiyā caranto. Upasaṅkamīti upasaṅkamanto. Mātā panassa puttaṃ disvāva gharā nikkhamma pattaṃ gahetvā antonivesanaṃ pavesetvā paññattāsane nisīdāpesi.
อาหุติํ นิจฺจํ ปคฺคณฺหาตีติ นิจฺจกาเล อาหุติปิณฺฑํ ปคฺคณฺหาติฯ ตํ ทิวสํ ปน ตสฺมิํ ฆเร ภูตพลิกมฺมํ โหติฯ สพฺพเคหํ หริตุปลิตฺตํ วิปฺปกิณฺณลาชํ วนมาลปริกฺขิตฺตํ อุสฺสิตทฺธชปฎากํ ตตฺถ ตตฺถ ปุณฺณฆเร ฐเปตฺวา ทณฺฑทีปิกา ชาเลตฺวา คนฺธจุณฺณมาลาทีหิ อลงฺกตํ, สมนฺตโต สญฺฉาทิยมานา ธูมกฎจฺฉุ อโหสิฯ สาปิ พฺราหฺมณี กาลเสฺสว วุฎฺฐาย โสฬสหิ คโนฺธทกฆเฎหิ นฺหายิตฺวา สพฺพาลงฺกาเรน อตฺตภาวํ อลงฺกริฯ สา ตสฺมิํ สมเย มหาขีณาสวํ นิสีทาเปตฺวา, ยาคุอุฬุงฺกมตฺตมฺปิ อทตฺวา, ‘‘มหาพฺรหฺมํ โภเชสฺสามี’’ติ สุวณฺณปาติยํ ปายาสํ ปูเรตฺวา สปฺปิมธุสกฺขราทีหิ โยเชตฺวา นิเวสนสฺส ปจฺฉาภาเค หริตุปลิตฺตภาวาทีหิ อลงฺกตา ภูตปีฐิกา อตฺถิฯ สา ตํ ปาติํ อาทาย, ตตฺถ คนฺตฺวา, จตูสุ โกเณสุ มเชฺฌ จ เอเกกํ ปายาสปิณฺฑํ ฐเปตฺวา, เอกํ ปิณฺฑํ หเตฺถน คเหตฺวา, ยาว กปฺปรา สปฺปินา ปคฺฆรเนฺตน ปถวิยํ ชาณุมณฺฑลํ ปติฎฺฐาเปตฺวา ‘‘ภุญฺชตุ ภวํ มหาพฺรหฺมา, สายตุ ภวํ มหาพฺรหฺมา, ตเปฺปตุ ภวํ มหาพฺรหฺมา’’ติ วทมานา พฺรหฺมานํ โภเชติฯ
Āhutiṃ niccaṃ paggaṇhātīti niccakāle āhutipiṇḍaṃ paggaṇhāti. Taṃ divasaṃ pana tasmiṃ ghare bhūtabalikammaṃ hoti. Sabbagehaṃ haritupalittaṃ vippakiṇṇalājaṃ vanamālaparikkhittaṃ ussitaddhajapaṭākaṃ tattha tattha puṇṇaghare ṭhapetvā daṇḍadīpikā jāletvā gandhacuṇṇamālādīhi alaṅkataṃ, samantato sañchādiyamānā dhūmakaṭacchu ahosi. Sāpi brāhmaṇī kālasseva vuṭṭhāya soḷasahi gandhodakaghaṭehi nhāyitvā sabbālaṅkārena attabhāvaṃ alaṅkari. Sā tasmiṃ samaye mahākhīṇāsavaṃ nisīdāpetvā, yāguuḷuṅkamattampi adatvā, ‘‘mahābrahmaṃ bhojessāmī’’ti suvaṇṇapātiyaṃ pāyāsaṃ pūretvā sappimadhusakkharādīhi yojetvā nivesanassa pacchābhāge haritupalittabhāvādīhi alaṅkatā bhūtapīṭhikā atthi. Sā taṃ pātiṃ ādāya, tattha gantvā, catūsu koṇesu majjhe ca ekekaṃ pāyāsapiṇḍaṃ ṭhapetvā, ekaṃ piṇḍaṃ hatthena gahetvā, yāva kapparā sappinā paggharantena pathaviyaṃ jāṇumaṇḍalaṃ patiṭṭhāpetvā ‘‘bhuñjatu bhavaṃ mahābrahmā, sāyatu bhavaṃ mahābrahmā, tappetu bhavaṃ mahābrahmā’’ti vadamānā brahmānaṃ bhojeti.
เอตทโหสีติ มหาขีณาสวสฺส สีลคนฺธํ ฉเทวโลเก อโชฺฌตฺถริตฺวา พฺรหฺมโลกํ อุปคตํ ฆายมานสฺส เอตํ อโหสิฯ สํเวเชยฺยนฺติ โจเทยฺยํ, สมฺมาปฎิปตฺติยํ โยเชยฺยํฯ ‘อยํ หิ เอวรูปํ อคฺคทกฺขิเณยฺยํ มหาขีณาสวํ นิสีทาเปตฺวา ยาคุอุฬุงฺกมตฺตมฺปิ อทตฺวา, ‘‘มหาพฺรหฺมํ โภเชสฺสามี’’ติ ตุลํ ปหาย หเตฺถน ตุลยนฺตี วิย, เภริํ ปหาย กุจฺฉิํ วาเทนฺตี วิย, อคฺคิํ ปหาย ขโชฺชปนกํ ธมมานา วิย ภูตพลิํ กุรุมานา อาหิณฺฑติฯ คจฺฉามิสฺสา มิจฺฉาทสฺสนํ ภินฺทิตฺวา อปายมคฺคโต อุทฺธริตฺวา ยถา อสีติโกฎิธนํ พุทฺธสาสเน วิปฺปกิริตฺวา สคฺคมคฺคํ อาโรหติ, ตถา กโรมีติ วุตฺตํ โหติฯ
Etadahosīti mahākhīṇāsavassa sīlagandhaṃ chadevaloke ajjhottharitvā brahmalokaṃ upagataṃ ghāyamānassa etaṃ ahosi. Saṃvejeyyanti codeyyaṃ, sammāpaṭipattiyaṃ yojeyyaṃ. ‘Ayaṃ hi evarūpaṃ aggadakkhiṇeyyaṃ mahākhīṇāsavaṃ nisīdāpetvā yāguuḷuṅkamattampi adatvā, ‘‘mahābrahmaṃ bhojessāmī’’ti tulaṃ pahāya hatthena tulayantī viya, bheriṃ pahāya kucchiṃ vādentī viya, aggiṃ pahāya khajjopanakaṃ dhamamānā viya bhūtabaliṃ kurumānā āhiṇḍati. Gacchāmissā micchādassanaṃ bhinditvā apāyamaggato uddharitvā yathā asītikoṭidhanaṃ buddhasāsane vippakiritvā saggamaggaṃ ārohati, tathā karomīti vuttaṃ hoti.
ทูเร อิโตติ อิมมฺหา ฐานา ทูเร พฺรหฺมโลโกฯ ตโต หิ กูฎาคารมตฺตา สิลา ปาติตา เอเกน อโหรเตฺตน อฎฺฐจตฺตาลีสโยชนสหสฺสานิ เขปยมานา จตูหิ มาเสหิ ปถวิยํ ปติฎฺฐเหยฺย, สพฺพเหฎฺฐิโมปิ พฺรหฺมโลโก เอวํ ทูเรฯ ยสฺสาหุตินฺติ ยสฺส พฺรหฺมุโน อาหุติํ ปคฺคณฺหาสิ, ตสฺส พฺรหฺมโลโก ทูเรติ อโตฺถฯ พฺรหฺมปถนฺติ เอตฺถ พฺรหฺมปโถ นาม จตฺตาริ กุสลชฺฌานานิ, วิปากชฺฌานานิ ปน เนสํ ชีวิตปโถ นาม, ตํ พฺรหฺมปถํ อชานนฺตี ตฺวํ กิํ ชปฺปสิ วิปฺปลปสิ? พฺรหฺมาโน หิ สปฺปีติกชฺฌาเนน ยาเปนฺติ, น เอตํ ติณพีชานิ ปกฺขิปิตฺวา รนฺธํ โคยูสํ ขาทนฺติ, มา อการณา กิลมสีติฯ
Dūre itoti imamhā ṭhānā dūre brahmaloko. Tato hi kūṭāgāramattā silā pātitā ekena ahorattena aṭṭhacattālīsayojanasahassāni khepayamānā catūhi māsehi pathaviyaṃ patiṭṭhaheyya, sabbaheṭṭhimopi brahmaloko evaṃ dūre. Yassāhutinti yassa brahmuno āhutiṃ paggaṇhāsi, tassa brahmaloko dūreti attho. Brahmapathanti ettha brahmapatho nāma cattāri kusalajjhānāni, vipākajjhānāni pana nesaṃ jīvitapatho nāma, taṃ brahmapathaṃ ajānantī tvaṃ kiṃ jappasi vippalapasi? Brahmāno hi sappītikajjhānena yāpenti, na etaṃ tiṇabījāni pakkhipitvā randhaṃ goyūsaṃ khādanti, mā akāraṇā kilamasīti.
เอวํ วตฺวา ปุน โส มหาพฺรหฺมา อญฺชลิํ ปคฺคยฺห อวกุโชฺช หุตฺวา เถรํ อุปทิสโนฺต เอโส หิ เต พฺราหฺมณิ พฺรหฺมเทโวติอาทิมาหฯ ตตฺถ นิรูปธิโกติ กิเลสาภิสงฺขารกามคุโณปธีหิ วิรหิโตฯ อติเทวปโตฺตติ เทวานํ อติเทวภาวํ พฺรหฺมานํ อติพฺรหฺมภาวํ ปโตฺตฯ อนญฺญโปสีติ ฐเปตฺวา อิมํ อตฺตภาวํ อญฺญสฺส อตฺตภาวสฺส วา ปุตฺตทารสฺส วา อโปสนตาย อนญฺญโปสีฯ
Evaṃ vatvā puna so mahābrahmā añjaliṃ paggayha avakujjo hutvā theraṃ upadisanto eso hi te brāhmaṇi brahmadevotiādimāha. Tattha nirūpadhikoti kilesābhisaṅkhārakāmaguṇopadhīhi virahito. Atidevapattoti devānaṃ atidevabhāvaṃ brahmānaṃ atibrahmabhāvaṃ patto. Anaññaposīti ṭhapetvā imaṃ attabhāvaṃ aññassa attabhāvassa vā puttadārassa vā aposanatāya anaññaposī.
อาหุเนโยฺยติ อาหุนปิณฺฑํ ปฎิคฺคเหตุํ ยุโตฺตฯ เวทคูติ จตุมคฺคสงฺขาเตหิ เวเทหิ ทุกฺขสฺสนฺตํ คโตฯ ภาวิตโตฺตติ อตฺตานํ ภาเวตฺวา วเฑฺฒตฺวา ฐิโตฯ อนูปลิโตฺตติ ตณฺหาทีหิ เลเปหิ อาลิโตฺตฯ ฆาเสสนํ อิริยตีติ อาหารปริเยสนํ จรติฯ
Āhuneyyoti āhunapiṇḍaṃ paṭiggahetuṃ yutto. Vedagūti catumaggasaṅkhātehi vedehi dukkhassantaṃ gato. Bhāvitattoti attānaṃ bhāvetvā vaḍḍhetvā ṭhito. Anūpalittoti taṇhādīhi lepehi ālitto. Ghāsesanaṃ iriyatīti āhārapariyesanaṃ carati.
น ตสฺส ปจฺฉา น ปุรตฺถมตฺถีติ ปจฺฉา วุจฺจติ อตีตํ, ปุรตฺถํ วุจฺจติ อนาคตํ, อตีตานาคเตสุ ขเนฺธสุ ฉนฺทราควิรหิตสฺส ปจฺฉา วา ปุรตฺถํ วา นตฺถีติ วทติฯ สโนฺตติอาทีสุ ราคาทิสนฺตตาย สโนฺตฯ โกธธูมวิคมา วิธูโม, ทุกฺขาภาวา อนีโฆ, กตฺตรทณฺฑาทีนิ คเหตฺวา วิจรโนฺตปิ วธกเจตนาย อภาวา นิกฺขิตฺตทโณฺฑฯ ตสถาวเรสูติ เอตฺถ ปน ปุถุชฺชนา ตสา นาม, ขีณาสวา ถาวรา นามฯ สตฺต ปน เสขา ตสาติ วตฺตุํ น สกฺกา, ถาวรา น โหนฺติ, ภชมานา ปน ถาวรปกฺขเมว ภชนฺติฯ โส ตฺยาหุตินฺติ โส เต อาหุติํฯ
Na tassa pacchā na puratthamatthīti pacchā vuccati atītaṃ, puratthaṃ vuccati anāgataṃ, atītānāgatesu khandhesu chandarāgavirahitassa pacchā vā puratthaṃ vā natthīti vadati. Santotiādīsu rāgādisantatāya santo. Kodhadhūmavigamā vidhūmo, dukkhābhāvā anīgho, kattaradaṇḍādīni gahetvā vicarantopi vadhakacetanāya abhāvā nikkhittadaṇḍo. Tasathāvaresūti ettha pana puthujjanā tasā nāma, khīṇāsavā thāvarā nāma. Satta pana sekhā tasāti vattuṃ na sakkā, thāvarā na honti, bhajamānā pana thāvarapakkhameva bhajanti. So tyāhutinti so te āhutiṃ.
วิเสนิภูโตติ กิเลสเสนาย วิเสโน ชาโตฯ อเนโชติ นิตฺตโณฺหฯ สุสีโลติ ขีณาสวสีเลน สุสีโลฯ สุวิมุตฺตจิโตฺตติ ผลวิมุตฺติยา สุฎฺฐุ วิมุตฺตจิโตฺตฯ โอฆติณฺณนฺติ จตฺตาโร โอเฆ ติณฺณํฯ เอตฺตเกน กถามเคฺคน พฺรหฺมา เถรสฺส วณฺณํ กเถโนฺต อายตเน พฺราหฺมณิํ นิโยเชสิฯ อวสานคาถา ปน สงฺคีติกาเรหิ ฐปิตาฯ ปติฎฺฐเปสิ ทกฺขิณนฺติ จตุปจฺจยทกฺขิณํ ปติฎฺฐเปสิฯ สุขมายติกนฺติ สุขายติกํ อายติํ สุขวิปากํ, สุขาวหนฺติ อโตฺถฯ ตติยํฯ
Visenibhūtoti kilesasenāya viseno jāto. Anejoti nittaṇho. Susīloti khīṇāsavasīlena susīlo. Suvimuttacittoti phalavimuttiyā suṭṭhu vimuttacitto. Oghatiṇṇanti cattāro oghe tiṇṇaṃ. Ettakena kathāmaggena brahmā therassa vaṇṇaṃ kathento āyatane brāhmaṇiṃ niyojesi. Avasānagāthā pana saṅgītikārehi ṭhapitā. Patiṭṭhapesi dakkhiṇanti catupaccayadakkhiṇaṃ patiṭṭhapesi. Sukhamāyatikanti sukhāyatikaṃ āyatiṃ sukhavipākaṃ, sukhāvahanti attho. Tatiyaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๓. พฺรหฺมเทวสุตฺตํ • 3. Brahmadevasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๓. พฺรหฺมเทวสุตฺตวณฺณนา • 3. Brahmadevasuttavaṇṇanā